อาญาปรารถนา ตอน 4 เอาอกเอาใจ 100 %
อร่อยไหมคะอาหารที่นี่
อร่อยมากไดยะ เขาตอบให้เธอได้ทราบ
หลังจากที่กินอาหารอิ่มแล้วเพชรไพลินก็พาเขาเดินดูของขายตามร้านค้า ครั้นเห็นร้านไอศกรีมเบื้องหน้าจึงหันไปถามเขาเหมือนทุกครา
กินไอติมไหมคะคุณอิจิโร่ กินของคาวแล้วก็ต้องตามด้วยของหวานค่ะ ชายหนุ่มสิ่งที่อยู่ในตู้โดยเรียกชื่อออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่น
ไอสุคุรีมุ ตกลง ทั้งสองจึงเลือกไอศกรีมในร้าน โดยเธอกินไอติมรสราสเบอรี่ ส่วนเขากินไอติมชาเขียว ทั้งคู่ไปหาที่นั่งพักกินไอติมโดยทรุดกายยังขอนไม้เบื้องหลังมีกังหันหมุนวนกับลมที่พัดมาอย่างเย็นสบาย ก่อนจะพากันวิวธรรมชาติโดยทั้งสองผลัดกันเป็นตากล้อง และมีช่างภาพจำเป็นถ่ายรูปให้กับทั้งคู่ด้วย เพชรไพลินพาเขากินอาหารไทยหลายอย่าง ทั้งลอดช่องใบเตย และกุ้ยช่ายชาววัง ดูเหมือนหญิงสาวจะเพลิดเพลินกับการหาของกินเสียเหลือเกิน
คุณมาที่นี่บ่อยเหรอไดยะ
ใช่ค่ะ ฉันชอบมากับเพื่อนของกินเยอะดีค่ะ เธอบอกในขณะที่เดินดูของไปเรื่อยๆ อย่างเพลิดเพลินแต่พอหันกลับมาก็ไม่เห็นร่างของอีกฝ่าย เธอจึงกวาดตามองหาด้วยความประหลาดใจ คุณอิจิโร่หายไปไหนกัน โดยในช่วงที่มองหานั้นก็พบกับหน้ากากผี เพชรไพลินจึงตะโกนออกมาเสียงดัง
ว้าย ก่อนจะรับรู้ว่าผู้ที่สวมหน้ากากผีเป็นใคร
ผมเองไดยะ
ฉันตกใจแทบแย่เลยค่ะ ไม่เพียงพูดแต่ยังทำท่าถอนหายใจอย่างหอบเหนื่อยด้วย พร้อมกับเสียงหัวใจที่เต้นแรง
ขอโทษทีผมไม่คิดว่าคุณจะขวัญอ่อนอย่างนี้นี่ เห็นหน้าตาของเธอแล้วชินอิจิจึงบอกอย่างขออภัย
ฉันไม่ชอบผีค่ะ
ทำไมคิดไม่เหมือนผมเลยผมว่าผีน่ะน่ากลัวน้อยกว่าคนอีกนะ เขาแสดงความคิดเห็นออกมา
ใช่ค่ะคนก็ชอบหลอกคนเหมือนกัน เธอพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
ใช่คนบางคนหลอกได้น่ากลัวยิ่งกว่าผีเยอะ ขณะเอ่ยน้ำเสียงของเขาดูเหมือนโกรธใครมากอย่างเหลือเกิน
เย็นแล้วฉันว่าไปดูที่พักกันก่อนดีไหมคะ เพชรไพลินเปลี่ยนเป็นประเด็นเป็นอย่างอื่นไปเธอไม่ชอบพูดถึงเรื่องนี้เท่าใดนัก มันไม่น่าพิสมัยแม้สักนิด หญิงสาวซื้อขนมและของกินกลับไปฝากคนที่บ้านด้วย ซึ่งชินอิจิก็ซื้อไปฝากไทเลอร์เช่นเดียวกัน เพชรไพลินขับรถพาเขาไปยังบ้านพักที่ตนเองได้โทรมาสั่งจองไว้เมื่อวานนี้สองห้องเป็นบ้านพักที่เธอกับเพื่อนเคยมานอน เป็นห้องพักที่น่านอนอย่างมาก เธอจองไว้สองห้องของตนเองหนึ่งและของเขาอีกหนึ่งห้อง โดยอยู่ติดกันเลย
หนึ่งทุ่มเจอกันนะคะเราจะไปหาข้าวกินกันก่อนแล้วค่อยไปชมหิ่งห้อยค่ะ
ได้เลยไดยะ หลังจากนั้นทั้งสองก็ต่างเดินเข้าห้องไป เพชรไพลินวางกระเป๋าของตนเองลงและเปิดแอร์ให้ทำงานก่อนจะทิ้งกายไปยังเตียงกว้างด้วยความสบายใจ เวลาที่เธอเครียดๆ มักจะเลือกมาพักผ่อนด้วยการท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ เพียงไม่นานหญิงสาวก็หลับไปไม่ต่างกันกับชินอิจิที่นอนหลับพักผ่อนเช่นกัน
หนึ่งทุ่มตรงเพชรไพลินตื่นก่อนจึงเดินไปเตรียมเคาะบานประตูทางด้านนอก แต่ระหว่างนั้นประตูที่ปิดสนิทก็ถูกเปิดออกมาจากคนด้านในทำให้กระแทกกับศีรษะของเธอเข้าอย่างจัง โป๊ก
โอ๊ย ชินอิจิได้ยินเสียงร้องจึงรีบออกมาดูพอเห็นเธอยืนอยู่จึงถามด้วยความห่วงใย
ไดยะ เป็นยังไงบ้าง ผมขอโทษ พร้อมกับที่เขาใช้มือจับไปยังศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมนุ่มสลวย มือเรียวจับไปยังหน้าผากของตนเองก่อนจะบอกให้เขาได้รับรู้
มึนค่ะ
ไหนผมดูสิว่าเป็นยังไง เขาขยับเข้ามาใกล้พร้อมกับมองไปยังหน้าผากเล็กของเธอก็พบว่าเป็นรอยเขียวช้ำ ปากหยักได้รูปสัมผัสอย่างแผ่วเบากับผิวละมุน ผมเสียใจไดยะที่ผมทำให้คุณต้องเจ็บตัว ถ้าผมรู้ว่าคุณยืนอยู่จะไม่เปิดออกมาเด็ดขาด ความรู้สึกเมื่อถูกสัมผัสจากวงหน้าคมทำให้เพชรไพลินเกิดความรู้สึกหวิวไหวกับการแตะต้องที่ว่า ครั้นได้ยินคำขอโทษจากเขา หญิงสาวกลับยิ้มและบอกอย่างไม่รู้สึกขุ่นเคือง
ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ
ที่ไหนมียาทาขายบ้างผมจะไปซื้อให้ ดูสิช้ำไปหมดเลยผมไม่ตั้งใจจริงๆ ไดยะ เขาบอกด้วยความรู้สึกแย่อย่างมาก
ฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไม่ได้เป็นอะไรมาก ยังคงยืนกรานให้เขาคลายความกังวล
ไม่ได้หรอกเราออกไปซื้อยามาทากันดีกว่า เพียงเขาพูดเสร็จก็ฉุดมือเรียวเดินออกไปด้านนอกพร้อมกับถามพนักงานซึ่งดูแลห้องพักเป็นภาษาอังกฤษ
ไม่ทราบว่าร้านขายยาอยู่ตรงไหนครับ
มีอะไรเหรอรึเปล่าคะ พนักงานสาวถามด้วยความอยากรู้
คือพอดีผมเปิดประตูกระแทกโดนหน้าผากของ...คนรักน่ะครับ ชายหนุ่มมั่วนิ่มไปเลย
ฉันมียาค่ะเดี๋ยวจะไปหยิบให้นะคะ อีกฝ่ายได้ยินถึงความต้องการของเขาก็เสนอให้อย่างมีน้ำใจ
ขอบคุณครับ หลังจากนั้นพนักงานสาวก็เดินออกไป เพชรไพลินหันไปทางอีกฝ่ายพลางต่อว่าอย่างไม่ชอบใจ
ทำไมคุณบอกอย่างนั้นคะคุณอิจิโร่ คุณไปบอกว่าฉันเป็นคนรักคุณได้ยังไงกัน
ก็ผมไม่รู้จะบอกว่ายังไงนี่ จะบอกว่าเพื่อนก็ไม่ได้อีกคุณอายุน้อยกว่าผมน่ะ เขาบอกให้เธอรับรู้
ก็บอกว่าเป็นน้องสาวก็ได้นี่คะ เธอแย้งออกไป
แต่ผมไม่อยากให้คุณเป็นน้องสาวนี่ไดยะ คำพูดชัดเจนอย่างไม่ออมคำ เพชรไพลินคิดในใจ เป็นเพื่อนก็ไม่ได้ เป็นน้องสาวก็ไม่ได้ แล้วอยากให้เธอเป็นอะไรกัน เกิดความอยากทราบอย่างครามครัน เพียงครู่พนักงานสาวก็กลับมาพร้อมกับยาในมือ โดยยื่นให้กับชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นพร้อมกับรอยยิ้ม
ยาแก้ฟกช้ำค่ะ
ขอบคุณครับ เขารับมาจากอีกฝ่ายก่อนจะหันไปยังกายระหงที่ยืนอยู่ไม่ไกล
ผมทายาให้ไดยะ
ไม่เป็นไรหรอกค่ะเดี๋ยวฉันทาเองก็ได้ค่ะ แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมทำตามที่บอก
ผมทาให้น่ะดีละเพราะว่าผมเป็นคนทำให้คุณเจ็บ เพียงบอกเสร็จปลายนิ้วของเขาก็ป้ายยามายังหน้าผากนวลอย่างแผ่วเบาอย่างไม่สนใจรับรู้ว่าหญิงสาวจะไม่พอใจตนเองแค่ไหน เพชรไพลินเลยจำต้องยืนให้เขาป้ายยาให้โดยหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขอบคุณนะคะ
ไม่เป็นไรไดยะ แล้วเขาก็หยิบยาไปคืนให้กับหญิงสาวเจ้าของห้องพักพลางมอบรอยยิ้มมีเสน่ห์ให้ด้วย ขอบคุณนะครับสำหรับยาแก้ฟกช้ำ
ไม่เป็นไรค่ะ
โดยทั้งสองก็พากันออกไปยังตลาดอัมพวาเพื่อกินอาหารค่ำก่อนจะเตรียมตัวไปชมหิ่งห้อยในยามค่ำคืน ผู้คนยังคงมาเที่ยวในช่วงกลางคืนอย่างไม่ขาดสาย พร้อมกับไฟที่เปิดอย่างมากมาย
ที่นี่เขาปิดกี่โมงน่ะไดยะ
น่าจะเที่ยงคืนนะคะ ถามทำไมเหรอคะอย่าบอกนะคะว่าพอดูหิ่งห้อยเสร็จแล้วคุณจะมาเดินเล่นต่อ เพชรไพลินเอ่ยอย่างคาดเดา
ใช่ ชายหนุ่มพยักหน้าตอบรับ ผมจะมาเดินหาของกิน
นี่คุณติดนิสัยชอบกินเหมือนฉันอีกคนแล้วเหรอคะ หญิงสาวพูดอย่างสัพพยอกใส่อีกฝ่าย
ก็ของที่นี่อร่อยมากนี่ ทำผมติดใจเชียว ถ้ามีโอกาสผมจะมาเที่ยวอีก คุณมากับผมอีกนะไดยะ
ได้ค่ะ ตอบด้วยความเต็มใจอะไรที่ทำให้หุ้นส่วนหนุ่มพึงพอใจ เพชรไพลินยอมทำทุกอย่าง ทั้งสองไปตามนัดของเรือที่ได้นัดไว้ในช่วงที่มาเดินยังตลาดน้ำอัมพวา ในช่วงเวลาหกโมงครึ่งครั้นไปถึงทั้งคู่ก็ก้าวลงไปในเรือพาย โดยเรือก็เคลื่อนออกไปจากบริเวณที่จอดอยู่เมื่อทั้งสองขึ้นไปนั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จวบกระทั่งมองเห็นแสงสว่างเป็นประกายในความมืดบริเวณข้างทางเธอจึงชี้ให้เขาได้ดู
นั่นไงคะหิ่งห้อยเกาะอยู่บนต้นลำพูเต็มไปหมดเลยค่ะ ชินอิจิมองตามก่อนจะเอ่ยด้วยความชื่นชม
สวยจัง เพชรไพลินหยิบกล้องมาบันทึกเป็นวีดีโอไว้อย่างชื่นชอบ พลางซูมเข้าไปให้เห็นภาพใกล้ๆ ชายหนุ่มก็เตือนด้วยความหวังดี
ระวังนะไดยะอย่ายื่นตัวออกไปมาก
ฉันจับขอบเรือไว้ค่ะ
แม้จะตอบเช่นนั้นแต่เธอก็ยังยื่นตัวกับแขนออกไปเช่นเดิมนั่นเพราะว่าเรือที่พายไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้มากเนื่องจากมีเรือลำอื่นอยู่ด้านใน จึงพยายามที่จะซูมให้เห็นภาพใกล้ที่สุด โดยชินอิจิก็คอยนั่งมองเธออยู่ตลอดเวลาอย่างระแวงระวังคล้ายไม่เชื่อคำพูดของอีกฝ่าย เป็นช่วงเดียวกับที่เธอนั่งเอียงไปด้านหนึ่งโดยมือท้าวกับขอบเรือ แต่เพราะหวังจะถ่ายภาพใกล้ๆ จึงทำให้มือที่ท้าวขอบเรือไว้ลื่น ร่างระหงเซไปด้านนอกจวนจะตก เธอร้องออกมาด้วยความตกใจ
อุ๊ย ชินอิจิที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็คว้ากายนุ่มไว้ในทันทีด้วยการกอดรัดเอวเล็กไว้อย่างแนบแน่นโดยทำเสียงดุใส่เหมือนผู้ใหญ่ที่ปรามเด็กดื้อซึ่งไม่เชื่อฟัง
เห็นไหมบอกแล้วว่าให้ระวังน่ะ ขณะที่พูดใบหน้าคมก็อยู่ไม่ไกลตนเอง เพชรไพลินบอกกลับไปเบาๆ อย่างเขินอาย
ขอบคุณค่ะที่ช่วยฉันไว้ ไม่อย่างนั้นฉันคงตกน้ำไปแล้ว
ไหนจะถ่ายอะไรเดี๋ยวผมถ่ายให้เอง คุณจะได้ไม่ต้องยื่นตัวออกไปด้านนอก เพียงพูดเสร็จมือใหญ่ก็ดึงกล้องไปจากมือของเธอและจัดการบันทึกภาพให้เองเพราะว่าแขนของเขายาวกว่า โดยถ่ายไปเรื่อยๆ ระหว่างที่เรือแล่นผ่านต้นลำพู กระทั่งเรือเตรียมแล่นกลับเขาจึงส่งกล้องให้กับเธอ
ได้ละไดยะ หญิงสาวก็เปิดดูก่อนจะบอกอย่างชื่นชม
ขอบคุณอีกครั้งนะคะคุณอิจิโร่ รอยยิ้มกับนัยน์ตาเป็นประกายของของหญิงสาวประทับอยู่ในความรู้สึกของชินอิจิอย่างไม่รู้ตัว เขาก็ยิ้มตอบรับกลับไป
ไม่เป็นไรหรอกไดยะ ++++++++++ หวานไหมคะเรื่องนี้ เรื่องนี้้ข้าวชอบมากได้ทรมานตัวละครสะใจจริงๆ คนเขียนโรคจิต เมื่อวานเจอน้องที่อ่านนิยายบอกว่าหนูชอบพี่เขียนปมเยอะดี เลยบอก แสดงว่าน้องชอบเป็นคนคิดซับซ้อนเหมือนพี่ ถึงได้อ่านงานพี่ได้ ถ้าคนที่ไม่ชอบอะไรซับซ้อนจะไม่ชอบอ่าน
คุณ sakeena ใช่ค่ะเปิดเรื่องมาก็เศร้าเลย แต่ถ้าถามเรื่องจริงถ้าพ่อนางเอกทำ ข้าวเป็นนางเอกคงทำใจรักผู้ชายคนนี้ไม่ลง ทำร้ายฉันกับครอบครัวเยอะมาก ตายซะเถอะ ย๊าก
คุณ vivi ขอบคุณที่ติดตามนิยายข้าวค่ะ สัญญาค่ะจะเขียนนิยายสนุกๆ มาแปะให้อ่านเยอะๆ ค่ะ
คุณ lagata ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมกันค่ะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะคะบ้ายบาย จุ๊บๆ ค่ะ
Create Date : 30 สิงหาคม 2556 |
Last Update : 30 สิงหาคม 2556 9:14:15 น. |
|
1 comments
|
Counter : 724 Pageviews. |
|
|