อาญาปรารถนา ตอน 11 คนหลอกลวง
หลังจากที่เตรียมเก็บของเพื่อจะกลับบ้านนั้นเสียงโทรศัพท์ของเพชรไพลินก็พลันดังขึ้นมา เธอจึงรีบกดรับสายในทันที ว่าไงนุช หญิงสาวทักทายเพื่อนของตนเองเมื่อเห็นชื่อที่โชว์ขึ้นมาอย่างชัดเจน วันนี้ตอนเย็นว่างรึเปล่าเพชร คือพอดีฉันจะชวนไปซื้อของน่ะ อตินุชเพื่อนสาวที่เป็นคุณครูอยู่โรงเรียนชั้นมัธยมแห่งหนึ่งในกรุงเทพถามกลับมา วันนี้เหรอ คงไม่ว่างน่ะนุช มีนัดกับหนุ่มที่ไหนรึไงกันหรือว่าพี่ดิษฐ์น่ะ อีกฝ่ายถามอย่างคาดเดา พี่ดิษฐ์ไปดูงานกับเจ้านายยังไม่กลับเลย อ้าว อย่างนั้นมีนัดกับใครล่ะ เพื่อนสาวทำน้ำเสียงสงสัยอยากรู้ เป็นหุ้นส่วนบริษัทคนใหม่น่ะ ต้องพาเขาไปดูบ้านพัก เป็นพรุ่งนี้ได้ไหมล่ะนุชจะไปเดินเป็นเพื่อนด้วย อตินุชก็ไม่เรื่องมากอะไร พรุ่งนี้ก็ได้ งั้นฉันไปสอนพิเศษเด็กต่อก่อนนะ จ้ะ หลังจากนั้นเพชรไพลินก็วางโทรศัพท์ลง เธอสะพายกระเป๋าขึ้นมายังบ่าก่อนจะเตรียมเปิดประตูออกไปก็พลันพบกับร่างสูงของเขายืนอยู่ หญิงสาวจึงบอกให้เขาฟัง ฉันกำลังจะเดินไปที่ห้องของคุณพอดีเลยค่ะ ผมจะถามว่าคุณจะให้ผมไปดูบ้านเองคนเดียวใช่ไหม ฉันจะให้คนขับรถบริษัทขับตามรถฉันไปที่บ้านพักของคุณค่ะ นั่นเพราะเธอยังไม่ได้บอกให้คนขับรู้ว่าจะให้ไปส่งอีกฝ่ายที่ไหน ผมคงต้องกลับไปเก็บของที่โรงแรมก่อน ขณะที่เอ่ยมือของเขาก็หยิบเสื้อสูทสีดำมาพาดกับบ่ากว้างซึ่งอยู่ในชุดเสื้อสูทสีขาวกับกางเกงแสลคสีเข้มอันเป็นชุดทำงานที่อีกฝ่ายใส่อยู่ประจำ สีดำดูเหมาะกับชินอิจิซึ่งดูลึกลับและน่าค้นหานอกจากนิสัยจะเป็นเช่นนั้น ตอนนี้ใจของเขาก็กลายเป็นสีดำเช่นกันเมื่อความคุมแค้นปกคลุมไปทั่วหัวใจ ต้องการเข่นฆ่าครอบครัวฆาตกรให้ตายดับลงไปเช่นกัน ไม่เป็นไรค่ะฉันรอได้ ไปกันเลยดีกว่าค่ะ หญิงสาวก้าวออกไปพร้อมกับชายหนุ่ม โดยเข้าลิฟท์ไปด้วยกัน หวังว่าคงไม่เกิดเหตุการณ์อะไรแบบวันนั้นหรอกนะ ดูเหมือนว่าเธอจะลืมเลือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยามเมื่ออยู่กับอีกฝ่ายไม่ได้เลย ระหว่างที่อยู่ในลิฟท์เธอก็บอกให้เขาได้ทราบอีกเรื่องหนึ่งด้วย ฉันหาแม่บ้านไว้คอยดูแลบ้านให้คุณด้วยนะคะ ผมกำลังจะพูดถึงเรื่องนี้อยู่พอดีเหมือนกัน เดี๋ยวเย็นนี้คุณก็คงจะได้เจอค่ะ เป็นญาติของป้าเนียมแม่บ้านของฉันเองค่ะ เพชรไพลินเดินตรงไปยังรถของเธอ ซึ่งพอดีกับที่มีรถขับออกมาจากลานจอดรถบริษัทของเธอ ชินอิจิที่มองเห็นก็รีบกุมมือแล้วดึงกายนุ่มเข้ามาโดยเร็ว ระวัง! ทำให้ร่างของเพชรไพลินที่ไม่ทันตั้งตัวถอยหลังกลับมาพร้อมกับที่มือประคองร่างนวลไว้ด้วยแผ่นหลังเล็กแนบกับแผงอกกว้าง หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาบอกเขาอย่างประทับใจ ขอบคุณนะคะคุณอิจิโร่ ถ้าไม่ได้คุณฉันคงโดนรถชนไปแล้ว คราวหลังระวังหน่อยสิไดยะไม่ใช่เอาแต่พูดไม่หยุดแล้วก็ไม่มองทางน่ะ นี่คุณกำลังว่าฉันพูดมากอยู่ใช่ไหมคะ เธอหันไปย้อนถามเขาอย่างไม่ชื่นชอบกับประโยคดังกล่าว เขาก็พยักหน้าตอบรับกลับมาพร้อมกับรอยยิ้ม ใช่ คุณนี่ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยว่าฉันพูดมากได้ยังไงกัน ทั้งที่ฉันกำลังอธิบายให้คุณฟังเรื่องแม่บ้านของคุณน่ะ วงหน้านวลเปลี่ยนเป็นมุ่ยอย่างแสนงอน อยากรู้นักถ้าทราบว่าชินอิจิเป็นใครและมีเป้าหมายที่คิดอะไรกับครอบครัวของตนเองหญิงสาวจะยังคงพูดดีกับอีกฝ่ายเช่นนี้หรือไม่ โอเคผมไม่ว่าคุณพูดมากก็ได้ แค่พูดไม่น้อยเท่านั้น พูดไม่น้อย เธอนิ่งไปครู่หนึ่งเหมือนทำความเข้าใจกับประโยคที่เขาเอ่ย แล้วพลันก็รับรู้ว่ามันหมายถึงอะไรก็แปลว่าพูดมากเหมือนเดิมนี่คะ หึ หึ ชายหนุ่มหัวเราะออกมาอย่างชอบใจที่อีกฝ่ายรู้ความหมายแล้ว เธอเดินตรงไปยังรถเก๋งที่จอดรออยู่เพื่อรับหุ้นส่วนคนใหม่ไปส่งที่โรงแรม เดี๋ยวขับรถไปส่งคุณอิจิโร่ที่โรงแรมก่อนนะแล้วค่อยขับรถตามฉันไปที่บ้านพักหลังใหม่ ได้ครับคุณเพชร คนขับรับคำอย่างดีก่อนจะทำหน้าที่เปิดประตูให้ชายหนุ่มก้าวขึ้นไปนั่ง เพชรไพลินจึงเดินไปยังรถของตนเองเพื่อจะขับไปโรงแรมก่อนล่วงหน้า ครั้นขับรถวนออกมายังบริเวณที่รถบริษัทจอดอยู่เมื่อครู่ ก็เห็นคนขับกำลังเปิดกระโปรงรถทางด้านหน้าพร้อมกับก้มลงไปดู หญิงสาวจึงจอดรถโดยลดกระจกลงก่อนจะถามออกไป รถไม่ติดเหรอ ใช่ครับคุณเพชร ไม่รู้ว่าทำไม ผมพยายามสตาร์ทแล้วก็ไม่ติด เมื่อกี้ยังไม่เป็นเลยนะครับ อีกฝ่ายแจ้งให้เธอได้ทราบและเดินกลับมาพยายามสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่อีกคราวหนึ่งหลังจากที่ใช้มือจับไปยังเครื่องยนต์ของรถอยู่ครู่หนึ่ง แต่มันก็เป็นเหมือนเดิมไม่มีวี่แววว่าเครื่องยนต์จะติด เธอจึงตัดสินใจในทันที ไม่เป็นไรเดี๋ยววันนี้ฉันขับรถไปส่งคุณอิจิโร่ที่โรงแรมเองก็ได้ ครับคุณเพชร เธอเปิดประตูให้เขาขึ้นไปนั่งทางหน้ารถข้างตนเอง เชิญค่ะคุณอิจิโร่ พูดตรงๆ ตอนแรกชินอิจิก็หงุดหงิดที่รถต้องมาเสียแต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกชอบมากที่ทำให้ได้นั่งรถไปกับอีกฝ่าย หลังจากที่ชายหนุ่มขึ้นไปนั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วเธอก็จัดการปิดประตู ชินอิจิก็ดึงเข็มขัดมาคาดร่างแกร่ง เพชรไพลินก็เปิดเพลงฟังไปด้วย ฉันลืมอัดรูปใส่แผ่นให้คุณ ขอโทษทีนะคะฉันลืมจริงๆ ไม่เป็นไรหรอก ไว้คุณว่างค่อยทำก็ได้ เขาบอกอย่างไม่ใส่ใจ ได้ค่ะ แล้วว่าแต่คุณอิจิโร่อยากไปเที่ยวไหนอีกรึเปล่าคะ ถ้าอยากไปฉันจะได้พาคุณไปค่ะ เพชรไพลินชวนเขาคุยด้วยเพราะเป็นคนที่นิสัยร่าเริง อยู่ใกล้ใครก็อยากทำให้อีกฝ่ายร่าเริงไปกับตนด้วย คุณแนะนำหน่อยสิว่ามีที่ไหนน่าสนใจบ้าง ก็มีหลายแห่งนะคะ ที่ปายก็สวยค่ะ ที่แม่ฮ่องสอนก็น่าไปค่ะ ที่เชียงใหม่ด้วยค่ะ ซึ่งระหว่างที่ขับรถไปนั้นเพชรไพลินก็พลันนึกอะไรขึ้นมาได้จึงอุทานออกมา อุ๊ย ครั้นได้ยินเธอร้องเหมือนบาดเจ็บชินอิจิก็ทำสีหน้าตกใจถามด้วยความห่วงใยอย่างมากมาย เป็นอะไรไปไดยะ เขาชอบลืมตัวอยู่เป็นประจำเลยว่าอีกฝ่ายน่ะเป็นลูกของศัตรู ทั้งที่อุตส่าห์ท่องไว้ตลอดเวลาแต่ก็ลืมเหมือนเช่นเดิม ไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะแค่ฉันลืมไป เมื่อกี้คุณว่าฉันพูดมาก แล้วนี่ฉันก็ดันพูดในรถไม่หยุดอีก ได้ยินแล้วเขาก็ทำท่าถอนหายใจออกมาโดยแรง แค่นี้เองเหรอคุณถึงต้องร้องซะเสียงดังเชียว ก็ฉันลืมตัวนี่คะ ไม่เอาล่ะคะฉันจะไม่พูดอีกแล้วเดี๋ยวคุณจะว่าฉันปากมากอีก เพียงพูดเสร็จก็ตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อไปอย่างไม่สนใจอะไร อยากพูดก็พูดไปเถอะผมไม่ว่าแล้วล่ะ ชอบฟังด้วยซ้ำ ชินอิจิรับรู้ว่าเธองอนตนเองจึงยอมงอนง้อให้หายงอน คุณชอบให้ฉันพูดไม่หยุดเหรอคะ ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะได้ผล เพชรไพลินที่นั่งนิ่งเงียบก็ถามในขณะที่ขับรถไปด้วย เหมือนมีนกแก้วมาอยู่ข้างๆ น่ะ ฟังแล้วก็เพลินดีเหมือนกัน ถ้าคุณหยุดพูดผมคงเหงาหูมากเลยไดยะ ฉันจะถือว่าเป็นคำชมก็แล้วกันนะคะว่าคุณชอบฟังฉันพูด บอกอย่างเข้าข้างตัวเองพร้อมกับยิ้มอย่างแก้มป่อง ชินอิจิก็มองอีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลากับความเป็นธรรมชาติของหญิงสาวเบื้องหน้า เพียงครู่เพชรไพลินก็จอดรถยังลานจอดรถของโรงแรม ทั้งสองก้าวลงมาจากรถและเดินเข้าไปยังด้านในด้วยกัน หญิงสาวบอกให้เขาได้รับรู้ ฉันรอคุณข้างล่างนะคะ ของผมเยอะน่ะ เพชรไพลินได้ยินดังนั้นจึงจำได้ว่าอีกฝ่ายซื้อของมาจากที่อัมพวาหลายอย่างทีเดียว อาจจะมีกระเป๋าหลายใบต้องหิ้วลงมา จึงขันรับอาสาอย่างมีน้ำใจโดยลืมไปว่าที่นี่ก็มีพนักงานโรงแรม ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันขึ้นไปช่วยคุณเองค่ะ ชินอิจิพยักหน้าตอบรับด้วยความยินดี ก็ดีเหมือนกันถ้ามีคุณช่วยเก็บของน่าจะเสร็จเร็ว ชายหนุ่มเดินนำไปยังลิฟท์ที่อยู่ไม่ไกลพลางมองไปยังหญิงสาวข้างกายด้วยแววตาที่เป็นประกายร้ายกาจ โดยเขาก้าวเข้าไปยังด้านในพร้อมกับเธอ ก่อนจะกดหมายเลขเพื่อขึ้นไปยังห้องพักของตนเอง เพชรไพลินจะต้องบริการเขาให้ดีสุดในฐานะที่ช่วยให้พ่อของเธอแก้ปัญหาที่เครียดมานานได้ ชินอิจิเปิดประตูให้เธอเดินเข้าไป ส่วนเขาก็ตรงไปหยิบกระเป๋ามาวางลงบนเตียงนอน ก่อนจะหยิบเสื้อผ้าในตู้ออกมาตามลำดับ ความจริงเขาแค่ลองใจอีกฝ่ายเท่านั้นล่ะว่าคิดอะไรกับตนเองหรือไม่นั่นเพราะส่วนใหญ่ผู้หญิงที่เข้ามาในห้องของเขาก็มักจะขันอาสาช่วยจัดของ แต่ความจริงแล้วหมายถึงพร้อมจะขึ้นเตียงกับชายหนุ่มน่ะเอง แล้วที่ผ่านมามันก็เป็นเช่นที่ว่าเสียด้วย ถ้าหากว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการขึ้นเตียงกับเขาก็คงจะไม่ขันรับอาสาอย่างนี้หรอก ชินอิจิกวาดมองไปยังร่างระหงที่อยู่ไม่ไกลด้วยความปรารถนา ขณะที่เพชรไพลินก็หยิบเสื้อผ้าที่วางอยู่เป็นกองยื่นให้กับเขา ชินอิจิรับมันมาจากมือเรียวพร้อมกับรั้งกายนุ่มเข้ามาปะทะกับแผงอกกว้างด้วย จนรับรู้ได้ถึงความอวบอิ่มของทรวงสล้าง ภายใต้เสื้อชีฟองแสนนุ่ม แต่ชินอิจิเชื่อว่าข้างในต้องนุ่มกว่านี้แน่นอน เพชรไพลินมองหน้าเขาด้วยความตกใจนัยน์ตาตื่นตระหนกที่อีกฝ่ายดึงตนเองเข้าไปกอด คุณอิจิโร่ นี่คุณจะทำอะไรน่ะ ทำอะไรอย่ามาทำอินโนเซ้นส์ไปหน่อยเลยไดยะ ที่คุณยอมตามผมขึ้นมาบนห้องน่ะไม่ใช่เพราะอยากขึ้นเตียงกับผมรึไงกัน เขาก้มวงหน้าลงไปหาจนเกือบชิดใบหน้านวล พลางยอกย้อนด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย เพชรไพลินยกมือขึ้นมาผลักแผ่นอกกว้างแต่ก็เหมือนผลักก้อนหินที่ทั้งหนาและหนักอย่างมาก บ้าแล้ว ฉันไม่เคยคิดอยากขึ้นเตียงกับคุณเลยนะ กรุณาปล่อยฉันด้วย หญิงสาวปฏิเสธเสียงขรมพร้อมออกคำสั่งกับเขา แค่เดินตามผู้ชายขึ้นมาบนห้องมันก็บอกให้รู้แล้วว่าคุณคุ้นเคยกับเรื่องอย่างว่ามากแค่ไหน คุณเข้าใจผิดแล้วนะที่ฉันขึ้นมาที่ห้องคุณก็เพราะว่าฉันต้องการที่จะช่วยคุณจัดเสื้อผ้าต่างหากก็คุณบอกฉันนี่คะว่าของคุณเยอะน่ะ เธอพยายามอธิบายให้เขาได้ฟัง แต่ใบหน้าคมกลับคล้ายฟังเรื่องขำขัน ผมไม่ได้ชวนคุณเลย คุณเสนอตัวเองต่างหาก แล้วผมก็เป็นคนที่ไม่ชอบทำให้ผู้หญิงผิดหวังเสียด้วยสิ ถ้าผมไม่สนองให้เดี๋ยวคุณจะหาว่าโง่ มาอ่อยถึงที่ยังไม่เอาน่ะ แล้วเพียงเขาพูดจบประโยคที่ว่า ปากร้อนก็ประกบลงไปยังเรียวปากนุ่ม โดยมือที่ว่างก็ประคองไปยังคางเรียวเพื่อบดเคล้ากับพื้นที่เล็กนั้นด้วยความเร่าร้อน เธอพยายามจะดิ้นหนีแต่ก็จนปัญญาที่จะทำได้ ซึ่งเขาก็รุกไล่ไม่หยุดกับกลีบปากนุ่ม มือข้างหนึ่งประคองคางเรียวให้เงยขึ้นเพื่อยอมรับจุมพิตอันเร่าร้อนของตนเอง เพชรไพลินพยายามที่จะเบี่ยงวงหน้าหลบไม่ยินดียอมรับจูบของอีกฝ่าย แต่ก็ไม่สามารถทำได้อย่างที่ใจคิดเพราะมือใหญ่บังคับใบหน้าของเธอไว้ เธอรู้สึกปวดร้าวไปทั่วหน้าเมื่อต้องยอมรับกับจูบที่เรียกร้องจากอีกฝ่ายอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ปากร้อนขบเม้มกับเรียวปากละมุนเพื่อดูดดื่มความอ่อนหวานตามที่เคยคาดคะเนไว้ว่าถ้าได้จูบจะให้รสชาติเช่นใดกัน ยามนี้เมื่อได้พิสูจน์แล้วก็พบว่าช่างให้รสชาติดีเยี่ยมอย่างมาก จนแทบไม่อยากจะละวงหน้าคมออกมาเลย อยากจะจูบไปอย่างนี้อีกนานๆ เขาจู่โจมปากนุ่มอย่างไม่คราดครา โดยเพชรไพลินที่ดิ้นรนขัดขืนเมื่อครู่ยามนี้เป็นดังกระต่ายตัวน้อยที่ตกอยู่ในกรงเล็บของสิงโตจอมวายร้ายที่จ้องจะขย้ำร่างเล็กเป็นอาหาร เมื่อเหยื่อเข้ามาติดแล้วอย่าหวังว่าจะหลุดออกไปอย่างง่ายดาย ถ้าหากว่าเขาไม่ยินยอมที่จะปล่อยมันจากอุ้งเล็บทั้งสอง ขณะที่กายนุ่มสั่นสะท้านพร้อมกับหัวใจเต้นแรงระรัวจนแทบจะโลดออกมายังนอกอกให้ได้ ก่อนที่ชายหนุ่มจะผ่อนร่างนวลลงไปยังเตียงกว้างและเขาก็ทิ้งกายตามลงไปกักร่างละมุนไว้ในวงแขนแกร่งทั้งสอง ปกติเขาไม่เคยเกิดความพิศวาสผู้หญิงก่อนเลยส่วนใหญ่มีแต่ผู้หญิงจะพิศวาสตนเองก่อนทั้งนั้น แต่คราวนี้เขากลับปรารถนาในตัวของลูกไอ้ก้องภพซึ่งเป็นฆาตกรใจบาป มือเรียวที่ยกขึ้นผลักไสเขาบัดนี้กลับคล้ายผลักกำแพงหินเบื้องหน้าแต่กลับไม่กระทบกระเทือนอะไรต่ออีกฝ่ายเลย แรงน้อยนิดหรือจะสู้กับกำแพงหินเบื้องหน้าได้ มือข้างซ้ายที่ว่างของชินอิจิก็รั้งกายนุ่มขึ้นแนบชิดกับแผงอกกว้างของตนเองมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้เขารับรู้ได้ถึงความอวบอิ่มในวัยสาวของกายละไม จนแทบไม่อยากให้มีสิ่งใดมาขวางกั้นระหว่างร่างแกร่งกับความนุ่มเนียนในอ้อมกอดเลย ปากร้อนจู่โจมปากนุ่มไม่ได้หยุด โดยบางคราก็ใช้ฟันขบเม้มกับพื้นที่เล็กนั้นเบาๆ แต่แล้วภาพของบิดาที่นอนอยู่กลางบ้านก็ผุดขึ้นมาให้เขาได้นึกถึง ซึ่งภาพที่ว่าเคยหายไปจากความทรงจำของตนเอง แต่ในยามนี้ถ้าจะให้หายคงต้องรอให้เขาตายก่อนเท่านั้น เมื่อความแค้นเกาะกุมอย่างมากมายทำให้จูบที่ควรจะนุ่มนวลสำหรับเธอก็แปลเปลี่ยนเป็นรุนแรง หนักหน่วง ขบเม้มอย่างไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเจ็บเพียงใด เขาพยายามจะสอดแทรกความพลิ้วไหวเข้าไปยังด้านใน แต่ดูเหมือนว่ากระต่ายน้อยจะไม่ยอมให้ความร่วมมือพยายามเม้มเรียวปากไว้อย่างแนบแน่นต่อต้านอย่างแข็งขืน ซึ่งเขาก็ไม่ได้บังคับอะไรอีกฝ่าย นั่นเพราะมีวิธีที่จะทำให้หญิงสาวโอนอ่อนผ่อนตามตนเองได้อยู่แล้ว
ผู้ชายที่เคยผ่านเกมรักมาอย่างโชกโชน ปัญหาแค่นี้ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอะไร มีวิธีแก้ไขอยู่แล้วโดยฝ่ามือใหญ่ที่โอบเอวนุ่มทางเบื้องหลังก็ลูบไล้ไปตามกายละมุนยังเนื้อผ้าด้านนอก ก่อนจะลากไล้ขึ้นมาตามกายด้านข้างพร้อมกับดึงเสื้อชีฟองสีหวานที่อยู่ภายในกระโปรงขึ้นมา พร้อมกับแทรกฝ่ามือใหญ่เข้าไปยังด้านในแล่นปราดไปกอบกุมกับทรวงละมุน เพชรไพลินรับรู้ว่ากายนุ่มถูกบุกรุกก็บิดกายเร่า ทุกสัมผัสที่เขาแตะต้องสร้างความรุมร้อนให้กับเธออย่างมากมาย ราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นพล่านไปทั่วร่าง แตะตรงไหนก็รู้สึกร้อนผ่าวไปหมด ซึ่งชินอิจิก็ทำการรุกเร้ากายนุ่มด้วยความรุนแรงอย่างไม่ปราณีเพียงคิดว่าอีกฝ่ายเป็นลูกของไอ้ฆาตกรที่เข่นฆ่าครอบครัวของตนเอง ฟอนเฟ้นด้วยน้ำหนักมือที่มากกว่าปกติ เขาจะไม่ให้เกียรติกับลูกสาวของมัน ทำให้เหมือนอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้หญิงไร้ค่าไม่ต่างจากโสเภณี ซึ่งมีหน้าที่เพียงสนองตัณหาให้เขาอย่างเดียวเท่านั้น ก่อนจะนึกได้ว่าไอ้ก้องภพป่วยมีโรคประจำตัว เขานี่ล่ะจะเป็นคนทำให้มันอายุสั้นเอง จะเป็นยังไงนะถ้ามันได้รู้ว่าลูกสาวที่รักดังแก้วตาดวงใจโดนย่ำยีอย่างไม่เหลือดี จากในตอนแรกเขาคิดว่าจะผละออกมาจากร่างนวล แต่ในยามนี้อย่าหวังเลยว่ามันจะเป็นเช่นนั้น เขาจะขยี้หัวใจของมันให้แหลกเละอย่างที่น้าซาโยกะต้องได้พบกับความทุกข์ทรมาน ซึ่งเขาก็จะทำให้มันรับรู้ถึงรสชาติที่ว่าด้วย เพชรไพลินร้องไห้ออกมาอย่างมากมายที่ไม่คิดว่าตนเองจะมาพบกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายได้ถึงเพียงนี้ น้ำตาเอ่อไหลรินลงมายังแก้มนวลทั้งสองด้าน เพียงชินอิจิเห็นน้ำตาของอีกฝ่ายเขาก็รู้สึกแย่นั่นเพราะไม่เคยคิดที่จะทำให้ผู้หญิงคนไหนต้องร้องไห้ส่วนใหญ่มักจะยินยอมพร้อมใจไปกับตนเอง ถ้าหากว่าผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนไม่ใช่ลูกของไอ้ฆาตกรใจโหดที่ส่งคนมาทำร้ายครอบครัว ชายหนุ่มก็ยินดีที่จะผละกายออกมา คนอย่างเขาไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ด้วยซ้ำ นั่นเพราะมีผู้หญิงที่พร้อมจะเล่นเกมรักกับเขาอย่างมากมาย ชินอิจิไม่สนใจกับเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะสิ่งที่เขาต้องการทำในยามนี้คือทำลายหัวใจของไอ้ก้องภพ มือใหญ่ปลดล็อกตัวเล็กทางแผ่นหลังนวลออกไปก็ทำให้เขาได้พบกับความอวบอิ่ม ฝ่ามือใหญ่คลึงเคล้าอย่างปรารถนา แตะต้องกับยอดทรวง เล่นเอาเพชรไพลินจะตายให้ได้ทีเดียว +++++++++ พระเอกเริ่มกินเหยื่อแล้วค่ะ เหยื่อเนื้อหวานด้วย ช่วยเป็นกำลังใจให้กันหน่อยนะคะ ใช่ค่ะ คุณ sakeena นางเอกไม่รู้เรื่องก็ต้องเจ็บแทนพ่อค่ะ
Create Date : 15 กันยายน 2556 |
Last Update : 15 กันยายน 2556 9:21:59 น. |
|
2 comments
|
Counter : 882 Pageviews. |
|
|