อาญาปรารถนา ตอน 12 ความเชื่อใจที่ถูกทำลาย
จากเมื่อครู่ริมฝีปากนุ่มปิดแน่นก็พลันเผยอเรียวปากขึ้นนั่นจึงเป็นโอกาสทำให้อสรพิษร้ายเช่นเขาไม่ยอมปล่อยโอกาสที่ว่าให้พลาดไป เขาสอดแทรกความพลิ้วไหวเข้าไปดื่มลิ้มความหวานภายใน กว่าจะรู้ว่าเสียรู้อีกฝ่ายเพชรไพลินก็หมดหนทางแก้ไขเธอได้แต่ร้องโอดครวญกับเขาด้วยน้ำเสียงต่อต้านที่อู้อี้ฟังไม่ได้ศัพท์ อื้อ อ่อยอั้น ชินอิจิดูดกลืนลมหายใจผะผ่าวจากปากนุ่มไว้ในปากของตนเอง ขณะที่บดเบียดกายกำยำกับร่างนวล พลางคิดอีกคราหนึ่งถ้าหากว่าหญิงสาวยินยอมพร้อมใจไปกับตนเอง เขาก็จะทำรุนแรงกับอีกฝ่ายไม่ต่างกัน ลูกสาวมันไม่มีทางที่เขาจะทนุถนอมอย่างเด็ดขาด เขาจะเหยียบย่ำหัวใจของไอ้ก้องภพให้เป็นดังพรมเช็ดเท้าทีเดียว แม้ขณะนึกถึงคนที่ฆ่าพ่อของตนเอง ความเกลียดชังก็ถูกระบายไปยังร่างนุ่มที่อยู่ใต้กายแกร่งของตน เกลียดมันมากแค่ไหนลูกสาวมันก็ต้องเจ็บปวดทรมานมากเท่านั้นเหมือนกัน ฝ่ามือใหญ่ฟอนเฟ้นร่างนวลอย่างไม่ออมแรงขณะที่เพชรไพลินเจ็บปวดไปทั่วร่าง ไม่นึกเลยว่าความหวังดีของตนเองจะกลายเป็นหอกที่ย้อนกลับมาทิ่มแทงตนเองให้ต้องมาพบกับเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ แต่ในความเกลียดชังกลับมีความต้องการที่จะครอบครองกายนุ่มอย่างมากมายจนไม่อยากที่จะรอช้า ให้ตายอีกฝ่ายวางยาเสน่ห์ตนเองหรือไงกัน เขาควรจะรังเกียจและไม่แตะต้องอีกฝ่ายสิ แต่มันกลับทำได้อย่างยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน เมื่อกายนุ่มช่วยปลุกเร้าความเร่าร้อนให้กับเขาอย่างมากยิ่งนัก เพชรไพลินกำมือแน่นจนปลายเล็บจิกเข้าไปยังผิวเนื้อใจกลางฝ่ามือแต่เจ็บกายก็ไม่เท่ากับเจ็บใจในยามนี้ที่เคยมองว่าเขาเป็นคนดี แต่ความจริงแล้วเขาเป็นดังปิศาจชั่วที่ฉุดเธอให้ตกลงไปในนรก ชินอิจิเป็นคนอ่อนไหวกับหยาดน้ำตา แต่สำหรับในยามนี้มันไม่สามารถทำให้ใจของเขาอ่อนลงได้เลย ปากของเขาเป็นดังกาวชั้นดีเมื่อประกบกับเรียวปากละมุนก็ยากที่จะผละออกมา เพราะติดใจกับรสหวานนุ่มที่ตนเองได้สัมผัสจากเรียวปากหวานที่เกี่ยวพันอย่างรุกเร้าจนเธอแทบจะหายใจหายคอไม่ทัน ราวกับยามนี้ร่างของเพชรไพลินกำลังจะจมน้ำลงในพลัน เพื่อเรียกร้องหาอากาศ ปอดคล้ายถูกกดดันจนเริ่มหายใจไม่ออก ทรวงนุ่มสะท้านขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ ชินอิจิผละวงหน้าคมออกมาเมื่อคล้ายรับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังแย่ นั่นจึงทำให้นัยน์ตาของเธอมองเขาด้วยความเกลียดชัง เขาถามอย่างหยอกยั่วใส่ อะไรกันแค่จูบคุณถึงกับจะตายเลยเหรอไดยะ คุณทำอย่างนี้ทำไมกันคุณอิจิโร่ ฉันไปทำอะไรให้คุณ ขณะที่เอ่ยเธอก็ร้องไห้ออกมาไม่หยุด ก็สนองความต้องการให้คุณไงล่ะไดยะ คุณต้องการอย่างนี้ไม่ใช่เหรอถึงได้ตามผมขึ้นมาน่ะ ทำเป็นเล่นตัวไม่ชอบให้หอมแก้ม ไม่อยากให้จูบ แต่อยากนอนกับผมแทนล่ะสิ เพียงได้ยินเพชรไพลินก็ส่ายหน้าปฏิเสธ ฉันไม่เคยต้องการนอนกับคุณ ที่ฉันขึ้นมาบนห้องพักกับคุณเพราะฉันหวังดีที่จะช่วยคุณเก็บของจริงๆ คุณพ่อของฉันบอกว่าคุณเป็นผู้มีพระคุณกับครอบครัวของฉัน ควรจะทำให้คุณพอใจมากที่สุด เพียงเธอพูดถึงประโยคนี้เขาก็บอกต่อจากนั้น ก็นี่ไงล่ะคือสิ่งที่จะทำให้ผมพอใจ คุณก้องภพนี่ฉลาดนะที่รู้ว่าทำยังไงผมถึงจะพอใจมาก คุณพ่อฉันไม่เคยคิดทำอย่างนั้นนะ ท่านบอกให้คอยดูแลคุณดีๆ ต่างหากล่ะ เธออธิบายให้เขาฟังอย่างชัดเจนแต่ดูเหมือนว่าชินอิจิจะเข้าใจเป็นอย่างอื่นแทน อย่างนั้นคุณก็ทำตามที่พ่อคุณบอกสิ ทำให้ผมพอใจ ด้วยการให้ความสุขกับผมบนเตียงมากๆ เพียงเขาพูดจบเพชรไพลินก็ยกมือตบไปยังวงหน้าคมโดยแรง เพียะ! ซึ่งชินอิจิไม่ทันตั้งตัว หญิงสาวตอกใส่หน้าเขาอย่างเหลืออด ฉันไม่ใช่อีตัวนะที่คุณจะมาดูถูกยังไงก็ได้น่ะ เพียงบอกเสร็จก็เตรียมที่จะก้าวลงไปจากเตียงแต่ชายหนุ่มหันกลับมาคว้าแขนเรียวไว้และบอกด้วยความโกรธ ตบหน้ากันแล้วจะจะออกไปเฉยๆ เนี่ยนะมันไมไปหน่อยเหรอไดยะ มันก็สมกับสิ่ง ที่คุณทำกับฉันแล้วนี่ ฉันจะบอกคุณพ่อว่าคุณทำยังไงกับฉันบ้าง ท่านจะได้รู้ถึงนิสัยของคุณว่ามันเลวและชั่วขนาดไหน ขณะที่ประณามด้วยคำหยาบ นัยน์ตาของเพชรไพลินก็มองเขาด้วยความเกลียดชังอย่างมาก ชินอิจิจึงคว้าแขนเล็กและบีบโดยแรงดวงตาเป็นประกายกร้าวโต้ตอบกลับไป ก็เอาสิอยากบอกก็บอกเลย แต่ไหนๆ จะบอกแล้วก็ทำมันจริงๆ เลยละกัน เพียงชายหนุ่มบอกเสร็จก็กดร่างนุ่มให้ลงไปยังที่นอนเพชรไพลินก็กรีดร้องพร้อมกับใช้มือทุบตีเขาอย่างไม่หยุด ปล่อยฉันนะคนเลว เธอทุบไปยังร่างแกร่งอย่างไม่ยอม โดยวงหน้าคมก็ซบไซ้กับผิวนุ่มยังลาดลำคอระหงทั้งซ้ายและขวา เธอพยายามทุบเขาแต่ก็เหมือนเช่นเดิมกระต่ายตัวน้อยหรือจะสู้กับสิงห์ที่กำลังโกรธเกรี้ยวได้ เพชรไพลินมองเห็นบ่ากว้างจึงกัดไปยังบริเวณดังกล่าวโดยแรง นั่นจึงทำให้ชินอิจิร้องออกมาเสียงดัง โอ๊ย เธอผลักเขาออกไปโดยแรง ก่อนจะมองเห็นแจกันที่ใส่ดอกไม้ มือเรียวหยิบขึ้นมาและฟาดไปยังหน้าผากของเขานั่นจึงทำให้เธอฉวยโอกาสที่เขาใช้มือจับไปยังศีรษะวิ่งออกไปจากห้องทันทีโดยไม่สนใจกับกระเป๋าที่ตกอยู่ในห้องเลย เธอรีบขับรถกลับบ้านทันทีเพื่อจะไปบอกให้บิดาได้ทราบว่าผู้ชายที่ผู้เป็นพ่อบอกว่ามีพระคุณต่อครอบครัวของตนเองนั้นแท้ที่จริงเป็นคนเลวมากเพียงใด วงหน้านวลร้องไห้ออกมาอย่างมากมาย ชินอิจิที่หัวแตกก็เรียกสติของตนเองกลับคืนมาเมื่อกี้เขาแค่แกล้งอีกฝ่ายเท่านั้นเอง ที่ไหนได้เธอเล่นเอาแจกันมาฟาดโดนหัว รับรู้ว่ามีเลือดไหลออกมาจากศีรษะที่ถูกตีชายหนุ่มจึงก้าวออกมายังด้านนอกของโรงแรม พนักงานโรงแรมเห็นเขาบาดเจ็บจึงเดินเข้ามาถาม เกิดอะไรขึ้นครับ ผมลื่นในห้องน้ำน่ะก็เลยหัวแตก เขาไม่กล้าบอกความจริงให้รู้ว่าโดนคนเอาแจกันมาฟาด จะไปโรงพยาบาลไหมครับเดี๋ยวผมเรียกรถให้ ก็ดีเหมือนกัน เขาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย พนักงานหนุ่มจึงพยุงร่างเขาลงไปยังชั้นล่างก่อนที่จะบอกให้คนขับแท็กซี่ได้ทราบ พาแขกไปโรงพยาบาลด้วยนะ ชินอิจิก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ เพียงไม่นานรถแท็กซี่ก็เคลื่อนออกไป เพชรไพลินขับรถเข้ามาถึงบ้านก็ดับเครื่องยนต์โดยก้าวลงมาจากรถและตรงเข้าไปบนตึกเพื่อที่จะบอกให้บิดาได้ทราบว่าตนเองเจอกับเหตุการณ์อะไรมาเมื่อครู่นี้ เพียงแม่บ้านเนียมเห็นหญิงสาวเดินเข้ามาก็รีบวิ่งหน้าตาตื่นมาหา คุณเพชรคะเกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ มีอะไรเหรอคะป้าเนียม เธอย้อนถามกลับไป คุณผู้ชายค่ะ เพียงได้ยินเพชรไพลินก็เปลี่ยนเป็นสีหน้ากังวลในทันที คุณพ่อเป็นอะไรคะป้าเนียม เมื่อกี้ประเวชโทรมาบอกว่าตอนนี้คุณผู้ชายอยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ โดยประเวชนั้นเป็นสามีของแม่บ้านเนียมน่ะเอง คุณพ่ออยู่ที่โรงพยาบาลไหนคะ พลางคาดคั้นอีกฝ่ายอย่างเร็วด้วยน้ำเสียงเร่งร้อน คุณแม่บ้านก็บอกให้ได้ทราบ โรงพยาบาลศิริราชค่ะ เพชรจะไปหาคุณพ่อที่โรงพยาบาลค่ะ ป้าไปด้วยค่ะคุณเพชร พลางหันไปสั่งกับเด็กรับใช้อีกคนหนึ่งที่อยู่ในบ้านเดียวกัน แจ่มดูแลบ้านให้ดีล่ะรู้ไหม ค่ะคุณแม่บ้าน อีกฝ่ายรับคำอย่างดี เพชรไพลินจึงขับรถไปยังโรงพยาบาลที่ได้รับรู้เมื่อครู่นี้ เธอกับแม่บ้านสูงวัยตรงไปยังห้องไอซียูซึ่งที่นั่นก็เห็นคุณจิตสุดายืนอยู่จึงรีบเดินเข้าไปหาพร้อมกับถามอย่างซักไซ้ด้วยความอยากรู้ คุณแม่คะทำไมคุณพ่อถึงปวดหัวได้ล่ะคะ แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ อยู่ๆ คุณพ่อก็บ่นว่าปวดหัวขึ้นมาตอนที่นั่งรถกลับ อีกฝ่ายรีบบอกให้เธอได้ทราบ แล้วคุณพ่อจะเป็นอะไรมากไหมคะคุณแม่ สีหน้าของเธอดูวิตกกังวลอยู่มาก ทั้งสองยืนอยู่ทางด้านนอกประมาณไม่ถึงครึ่งชั่วโมงร่างของบิดาก็ถูกเข็นออกมา เพชรไพลินรีบก้าวไปหาคุณหมอในทันทีเพื่อสอบถามอาการ คุณพ่อเพชรเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ เธอเรียกนายแพทย์ประจำตัวของผู้เป็นพ่อ ที่อาการทรุดคงเป็นเพราะว่าคุณพ่อของคุณเพชรคงจะเครียดเรื่องงานน่ะครับ คุณหมอบอกให้เธอได้ทราบ แล้วเพชรควรทำยังไงคะคุณหมอ คุณพ่อถึงจะไม่เป็นอย่างนี้อีก ก็อย่าให้เครียดมากน่ะครับ ผมว่าคุณก้องภพควรจะหยุดทำงานได้แล้วนะครับ เพราะถ้าทำงานต่อไปก็ไม่พ้นว่าจะต้องเครียดอีกครับ หญิงสาวคงต้องยอมใจแข็งกับอีกฝ่ายแล้ว เพชรเคยตามใจคุณพ่อให้ทำงาน แต่ว่าตอนนี้เพชรจะไม่ยอมอีกแล้วค่ะ ดีมากเลยครับคุณเพชร ตอนนี้คงต้องให้คุณก้องภพพักมากๆ ครับ อาการปวดหัวจะได้ไม่กำเริบอีก ค่ะ คุณหมอ แล้วนี่เพชรเข้าไปดูคุณพ่อได้ไหมคะ อีกฝ่ายพยักหน้าตอบรับ ได้ครับ วงหน้านวลรู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่ได้ยินจากคุณหมอเมื่อครู่นี้เธอตั้งใจจะบอกให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความเลวของหุ้นส่วนหนุ่ม แต่จะบอกได้ยังไงกันถ้าเกิดว่าคุณพ่อเครียดเป็นอะไรไปจะกลายเป็นว่าเธอทำร้ายคุณพ่อแทน เพชรไพลินจึงต้องเก็บงำเรื่องที่เกิดขึ้นไว้ภายในก่อนจะก้าวเข้าไปดูบิดาในห้องพิเศษพร้อมกับมารดา คุณพ่อคะ เธอซบวงหน้ากับร่างของผู้เป็นพ่อพร้อมกับร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจที่อีกฝ่ายไม่ได้เป็นอะไรมาก อะไรกันยายเพชรพ่อไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อยร้องไห้ทำไมกัน ก้องภพใช้มือจับไปยังศีรษะของลูกสาวด้วยความรัก ก็เพชรกลัวคุณพ่อเป็นอะไรไปนี่คะตอนที่ป้าเนียมบอกว่าคุณพ่ออยู่ที่โรงพยาบาลเพชรตกใจมากเลยค่ะ พ่อก็แค่ปวดหัวนิดหน่อยน่ะ ก้องภพพูดอย่างปลอบขวัญลูกสาว เพชรไม่ยอมให้คุณพ่อทำงานแล้วนะคะ เธอบอกกับอีกฝ่ายให้ได้รับรู้ ไม่ให้พ่อทำงานแล้วเพชรจะให้พ่อทำอะไรล่ะ งานเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพ่อนะ คุณหมอบอกว่าที่คุณพ่อปวดหัวขึ้นมาอีกก็เพราะว่าคุณพ่อเครียดเรื่องงาน เพชรจะไม่ยอมตามใจคุณพ่ออีกแล้วค่ะ ยังไงเพชรก็ไม่ให้คุณพ่อทำงานค่ะ เพชรไพลินเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดื้อดึง พ่อจะหยุดทำงานก็ต่อเมื่อพ่อมีคนที่ไว้ใจจะดูแลบริษัทของพ่อได้ เพชรไงคะที่จะเป็นคนดูแลบริษัทของคุณพ่อ หญิงสาวรีบตอบกลับไปทันทีด้วยความมั่นใจ เพชรคนเดียวจะดูแลบริษัทไหวเหรอ ถ้าคุณกลัวลูกบริหารบริษัทไม่ไหว สุดามาช่วยยายเพชรก็ได้นะคะ จิตสุดาขันรับอาสาอย่างรอโอกาส ไม่เป็นหรอกค่ะ คุณแม่ดูแลคุณพ่อเถอะนะคะ เพชรคิดว่าเพชรสามารถทำงานแทนคุณพ่อได้ค่ะ เพชรไพลินอยากให้มารดาดูแลบิดามากกว่าเพราะคิดว่าคุณพ่อคงอยากให้คุณแม่อยู่ใกล้ๆ ก็ดูสิขนาดไปคุยงานกับลูกค้าข้างนอกหรือไปงานสังสรรค์ที่ไหนคุณพ่อก็จะต้องพาคุณแม่ไปด้วยตลอด ไม่เป็นไรหรอกจ้ะแม่ก็ดูแลคุณพ่อด้วยแล้วก็ช่วยเพชรดูแลบริษัทด้วยไงจ๊ะ เพชรจะได้ไม่ต้องเหนื่อยคนเดียวไงจ๊ะ ผู้เป็นแม่เลี้ยงแย้งกลับมา อย่าเลยค่ะคุณแม่ เดี๋ยวคุณแม่จะเหนื่อยซะเปล่าๆ อยู่เป็นกำลังใจให้คุณพ่อดีกว่านะคะ หญิงสาวบอกด้วยความหวังดี แต่ในใจของจิตสุดากลับด่าอยางเกรี้ยวกราดด้วยความโมโห นังเพชร แกคิดจะงาบคุณอิจิโร่คนเดียวรึไงกัน ฉันไม่ได้อยากอยู่กับพ่อขี้โรคของแกเลยนะ เมื่อไรจะตายๆ สักทีก็ไม่รู้น่าเบื่อจะตายชัก ก็ได้พ่อจะเลิกทำงานอย่างที่เพชรต้องการ ก้องภพยอมทำตามที่ลูกสาวบอกเพชรไพลินยิ้มด้วยสีหน้ายินดี ดีแล้วค่ะคุณพ่อ ต่อไปนี้นะคะเพชรจะเป็นคนดูแล บริษัท ก้องภพ อินเตอร์ กรุ๊ป เองค่ะ เธอบอกเสร็จก็กอดร่างของบิดาด้วยความรักอย่างมากมาย จิตสุดาเกิดความอยากรู้เมื่อโทรหาลูกสาวไม่ติดในช่วงที่อยู่โรงพยาบาลจึงถามด้วยความสงสัย ตอนที่คุณพ่ออยู่ที่โรงพยาบาลแม่โทรหาเพชรตั้งหลายรอบนะ ทำไมไม่ยอมรับสายล่ะ เพียงได้ยินที่อีกฝ่ายถามหญิงสาวก็นิ่งงันไปนั่นเพราะนึกได้ว่าตนเองลืมกระเป๋าสะพายไว้ที่ห้องพักของหุ้นส่วนหนุ่ม เอ่อ เพชรอยู่ในห้องน้ำน่ะค่ะก็เลยไม่ได้ยิน ขอโทษด้วยนะคะคุณแม่ เธออ้อมแอ้มตอบกลับไปพร้อมกับหลบตา แล้วนี่ตกลงคุณอิจิโร่ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านที่เช่าไว้รึยังล่ะยายเพชร ก้องภพพลันนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ยังเลยค่ะคุณพ่อ อ้าวทำไมล่ะ อีกฝ่ายทำสีหน้าสงสัย คือเพชรรู้สึกไม่ค่อยสบายน่ะค่ะก็เลยขอตัวกลับมาก่อนค่ะ หญิงสาวโกหกบิดาอย่างไม่เต็มคำนัก พ่อไม่เป็นอะไรแล้วล่ะไปจัดการเรื่องคุณอิจิโร่เถอะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะเพชรโทรไปบอกคุณอิจิโร่แล้วค่ะว่าคุณพ่อไม่สบายขอให้ย้ายเข้าวันอื่นแทนละกันค่ะ คุณอิจิโร่ก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ เพชรไพลินปั้นเรื่องโกหกขึ้นมาซ้ำ พ่อไม่เป็นอะไรแล้วล่ะเรากลับบ้านกันดีกว่านะ เพชรอยากให้คุณพ่ออยู่เช็คร่างกายอีกสักวันสองวันนะคะให้แน่ใจว่าไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ ค่อยกลับละกันนะคะคุณพ่อเธอยังไม่นิ่งนอนใจกับอาการของอีกฝ่ายเท่าใดนัก จริงด้วยค่ะคุณภพอยู่ตรวจให้แน่ใจก่อนดีกว่านะคะ จิตสุดาเห็นดีเห็นงามกับลูกสาวด้วยกลับไปเธอก็ต้องไปนั่งดูแลอีก แค่ครั้งก่อนป่วยก็เซ็งจะแย่อยู่ละ เดี๋ยวเพชรกลับไปอาบน้ำแล้วจะมานอนกับคุณคุณพ่อแล้วก็คุณแม่นะคะ เพชรจะเอาเสื้อผ้ามาให้คุณแม่ด้วยค่ะ จิตสุดายิ้มให้กับลูกสาวแต่ในใจรู้สึกเบื่อหน่ายเป็นที่สุด ขอบใจมากเลยจ้ะเพชร แส่จริงๆ แกอยากนอนเฝ้าก็นอนไปคนเดียวสิมาเดือดร้อนฉันทำไมนักนะ พลางบริพาธอย่างไม่ชื่นชอบเท่าใดนัก เพชรไพลินกลับมาที่บ้านพร้อมกับแม่บ้านเนียม โดยเธอขึ้นไปอาบน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวไปนอนกับบิดาที่โรงพยาบาล พร้อมทั้งจัดชุดเสื้อผ้า แจ่มที่เป็นห่วงอาการของเจ้านายใหญ่จึงถามด้วยความอยากรู้ คุณผู้ชายอาการเป็นยังไงบ้างคะคุณแม่บ้านเนียม ปลอดภัยแล้วล่ะเดี๋ยวรอตรวจอาการอีกสักสองวันก็กลับบ้านได้แล้ว แม่บ้านสูงวัยหยิบน้ำมาจัดการเทใส่แก้วแก้กระหายเมื่อก้าวเข้ามาในบ้าน โชคดีนะคะที่ไม่เป็นอะไรมาก ขณะที่เอ่ยแจ่มก็จัดการเก็บล้างจานในครัวไปด้วย ใช่อีกฝ่ายพยักหน้าตอบรับ หลังจากที่เพชรไพลินเปลี่ยนเป็นชุดใหม่พร้อมกับจัดเสื้อผ้าใส่ไปในกระเป๋าทั้งของตนเองและของมารดาด้วยเธอก็เตรียมตัวขับรถไปยังโรงพยาบาล ฝากดูบ้านด้วยนะคะป้าเนียม ช่วงนี้เพชรกับคุณแม่คงอยู่ที่โรงพยาบาลคอยดูแลคุณพ่อค่ะ วงหน้านวลเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนหวานซึ่งเป็นความประทับใจที่คนมักจะมองเห็นก่อนเป็นลำดับแรก ค่ะคุณเพชรไม่ต้องห่วงค่ะ แม่บ้านสูงวัยรับปากซึ่งเธอก็ขับรถออกไปหลังจากนั้น +++++++++++++ เอาตอนต่อไปมาแปะให้อ่านต่อค่ะ คุณ vivi ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เล่นเฟซ ก็ไม่มีปัญหา อย่าลืมส่งที่อยู่กะชื่อมาให้ข้าวด้วยนะคะ จะส่งนิยายไปให้อ่านค่ะ คุณ sakeena ถ้าเจอแบบนี้คงรู้สึกแย่นะคะแบบว่าเราเชื่อว่าเป็นคนดี แต่ที่จริงเลวมากเลย แล้วเจอกันตอนต่อไปนะคะ บ้ายบายค่ะ จุ๊บๆ
Create Date : 17 กันยายน 2556 |
Last Update : 17 กันยายน 2556 10:20:30 น. |
|
2 comments
|
Counter : 824 Pageviews. |
|
|