อาญาปรารถนา ตอน 15 แก้ปัญหา
ครั้งนี้ผมจะยกให้แต่พรุ่งนี้ถ้ามีอะไรมาขัดขวางอีก ผมจะไม่ใจเย็นแล้วจะถือว่าคุณจงใจผิดสัญญาผม บอกด้วยน้ำเสียงอาฆาตและแววตาเป็นประกายกร้าว ค่ะ ฉันจะถือว่าชาติก่อนฉันคงทำกรรมไว้กับคุณ ชาตินี้ถึงต้องชดใช้ให้คุณ เพียงบอกเสร็จก็เตรียมที่จะหมุนกายเดินกลับเข้าบ้านแต่เขารั้งกายนุ่มไว้ เดี๋ยวสิไดยะ ปล่อยฉันเดี๋ยวใครจะมาเห็น เพชรไพลินสั่งเขาแต่ก็ไม่กล้าพูดดังมากนั่นเพราะกลัวว่าคนอื่นจะมาได้ยิน ทั้งยังพยายามแกะมือเขาออกแต่อีกฝ่ายก็ทำเป็นไม่สนใจ ถ้าไม่อยากให้ใครเห็นก็จูบผมเดี๋ยวนี้ ครั้นได้ยินที่เขาพูดนัยน์ตาทั้งสองของเธอก็เบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ เธอเกลียดเขาเหมือนกิ้งกือไส้เดือน แล้วจะให้เธอไปจูบเขาเนี่ยนะ บ้าไปแล้ว ให้ฉันทำอย่างอื่นแทนได้ไหม หญิงสาวบอกอย่างต่อรอง ไม่ได้เลือกเอาละกันจะจูบดีๆ หรือให้ผมเปลี่ยนใจจูบคุณแทนแต่ไม่รับรองหรอกนะว่าจะแค่จูบรึเปล่า เฮงซวยเอ๊ย ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วยกัน เธอได้แต่มองหน้าเขาอย่างเจ็บแค้น ฟันขบเม้มไปยังเรียวปากนุ่มโดยแรงอย่างไม่อาจที่จะทำอะไรอีกฝ่ายได้เลย ครั้นเห็นเธอเงียบงันไปเขาก็ย้อนถามกลับมาซ้ำ อย่าหวังเลยเพชรไพลินว่าฉันจะยอมใจอ่อนให้ โทษที่ตัวเองเป็นลูกไอ้คนเลวก้องภพละกัน ฉันจะมองเหมือนเธอเป็นผู้หญิงที่ไร้ค่าจะทำยังไงก็ได้ทั้งนั้นคล้ายดังลูกไก่ในกำมือถ้าบีบแรงก็ตายคามือถ้าเขาคลายออกถึงจะรอด ว่าไงล่ะจะจูบเองหรือว่าจะให้ผมจูบ ยังไม่มีคำตอบอะไรให้ ผู้หญิงคนอื่นลองถ้าเขาบอกให้จูบล่ะก็ คงรีบมอบให้ในทันที ไม่ลังเลรีรอให้เขาคอยนานอย่างนี้หรอก ฉันไม่ทำเด็ดขาด แล้วขอบอกให้รู้ว่าต่อให้คุณพูดก็ไม่มีคนเชื่อหรอก ถ้าฉันตะโกนให้คนอื่นได้ยินล่ะก็ เพียงบอกเสร็จเพชรไพลินก็เตรียมเดินเข้าไปในบ้านแต่ถูกเขารั้งกายระหงเข้ามาอย่างใกล้ชิดพร้อมกับก้มใบหน้าหล่อลงไปหาพลางบอกอย่างท้าทาย อย่างนั้นก็ตะโกนเลย ทุกคนจะได้มาเห็นฉากจูบที่เร่าร้อนของเรา เพชรไพลินพลางนึกถ้าเป็นเช่นนั้นเธอคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเป็นแน่ เมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งงันไปเขาก็บอกอย่างท้าทายซ้ำ ไหนบอกว่าจะตะโกนไงล่ะทำไมไม่ตะโกน ทำให้เขารับรู้แล้วว่าอีกฝ่ายไม่กล้าอย่างที่ปากว่า ฉันขอเวลาหน่อยได้ไหมคะคุณอิจิโร่ หญิงสาวพยายามใจเย็นพูดกับเขาเพื่อเป็นการถ่วงเวลา ชินอิจิก็บอกอย่างดูถูกในตัวอีกฝ่ายพร้อมกับดวงตากวาดไปตามร่างนวลด้วย ผมไม่เชื่อหรอกนะว่าผู้หญิงอย่างคุณจะรักษาความบริสุทธิ์ไว้จนถึงป่านนี้ ไม่ต้องมาทำเป็นอินโนเซ้นส์ว่าไม่เคยหรอก เพชรไพลินอยากจะเอารองเท้าตบปากผู้ชายคนนี้เสียจริง ทำไมถึงได้ดูถูกตนเองมากเช่นนี้กัน ด้วยความโมโหเธอจึงบอกให้เขาได้รับรู้ว่าตนองไม่เคยกับเรื่องอย่างว่าจริงๆ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายอย่างที่คุณเคยเจอนะ ครั้นรับรู้ว่าอีกฝ่ายยังไม่เคยขึ้นเตียงกับผู้ชายคนไหนก็ทำให้ชินอิจิรู้สึกยินดีมากขึ้นถ้าหากว่าตนเองได้เป็นผู้ชายคนแรก ก็ได้ผมจะให้เวลาคุณ แต่คืนนี้ขอจูบคุณก่อนละกัน เพียงบอกเสร็จชินอิจิก็กอดรัดร่างระหงพร้อมกับที่มือใหญ่กดรั้งไปยังท้ายทอยของเธอทางเบื้องหลังพร้อมกับบดจุมพิตเร่าร้อนยังปากนุ่มด้วยความรุนแรงซึ่งเต็มไปด้วยความปรารถนา หลังจากได้จูบจนพอใจแล้วเขาก็ปล่อยกายระหงขณะที่เพชรไพลินมองตามเขาด้วยความเคียดแค้น เธอย้อนถามเขากลับไปด้วยน้ำเสียงประชด ทีนี้ฉันเข้าบ้านได้แล้วใช่ไหม ได้แล้วล่ะ ฝันดีนะไดยะ คราวนี้กลับพูดอวยพรภาษาไทยแทนภายในใจของเธอนึกอย่างเกลียดชัง ฉันจะฝันดีได้ยังไงกันในเมื่อฉันฝันร้ายในชีวิตจริงทั้งที่ยังตื่นอยู่เช่นนี้ เธอยกมือขึ้นมาถูปากของตนเองทำเช่นเดียวกับที่โรงพยาบาลเมื่อหญิงสาวกลับไปล้างหน้าในห้องน้ำเพื่อกลบเกลื่อนรอยน้ำตากลัวว่าบิดาจะสงสัยว่าตนเองเป็นอะไร พยายามขจัดความรู้สึกแย่ๆ ออกไปจากใจ แต่ยิ่งถูมันก็ยิ่งชัดเจนในความรู้สึกซึ่งทำยังไงก็ไม่หายสักที เมื่ออตินุชเห็นเพชรไพลินก้าวเข้ามาในบ้านเธอจึงเอ่ยปากขออนุญาตกับบิดาและมารดาของเพื่อนในทันที หนูขอตัวขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะคะคุณอาทั้งสอง ไปเถอะ เพชรไพลินจึงก้าวขึ้นไปบนห้อง ตอนนี้หญิงสาวรู้สึกแย่ไปหมดทีเดียว คุณเพชรกินข้าวเย็นรึยังคะ ตอนนี้เธอกินอะไรไม่ลงหรอก แต่ถ้าบอกออกไปคงถูกซักไซ้จึงปดเป็นเรื่องอื่น กินมาเรียบร้อยแล้วค่ะระหว่างทาง หลังจากนั้นเธอก็ก้าวตามเพื่อนสาวขึ้นไปบนห้อง ขณะที่เพื่อนนั่งดูหนังอย่างสนุกสนานนั้นเพชรไพลินกลับไม่มีความสนุกอยู่ในความรู้สึกแม้สักนิดเดียวโดยระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ก็พลันดังขึ้นมา อตินุชจึงกดรับสาย สวัสดีค่ะพี่ดิษฐ์เหรอคะ เพชรอยู่ค่ะ รอสักครู่นะคะ แล้วเธอก็ส่งโทรศัพท์ให้เพื่อน เพชรพี่ดิษฐ์โทรมาน่ะ แต่ทำไมโทรเข้าเครื่องฉันล่ะแปลกจัง หากทว่าดูเหมือนเพื่อนสาวจะไม่รู้สึกอะไรเลยจึงต้องเรียกซ้ำ เพชร พี่ดิษฐ์โทรมาน่ะ เพชร อ้าว มีอะไรเหรอนุชเรียกซะเสียงดังเชียว พี่ดิษฐ์โทรมาน่ะ อตินุชบอกให้ทราบ ขอบใจจ้ะ มือเรียวรับโทรศัพท์ของเพื่อนมาก่อนจะเอ่ยคำพูดทักทายออกไป ค่ะพี่ดิษฐ์ เพชรยังไม่ได้ไปเอาโทรศัพท์กลับมาอีกเหรอ เพียงได้ยินที่เขาเอ่ยคิ้วเรียวของหญิงสาวก็ขมวดเข้ามาชนกันมุ่นด้วยสีหน้าที่งุนงง เอ๊ะ ว่ายังไงนะคะ พี่ถามว่าเพชรยังไม่ได้ไปเอาโทรศัพท์คืนอีกเหรอ เมื่อวานพี่โทรไปหาเพชรแล้วมีผู้ชายรับสายพี่ตกใจมาก ผู้ชายคนนั้นบอกว่าเพชรทำโทรศัพท์ตกไว้แต่เขาเก็บได้ เขาบอกว่าจะเอาโทรศัพท์มาคืนให้เพชร เมื่อกี้พี่โทรหาเพชรผู้ชายคนนั้นก็ยังรับสายอยู่ เขาบอกว่าพอดีเขาอยู่ต่างจังหวัดก็เลยยังไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปคืนเพชร ใบหน้าของเพชรไพลินเปลี่ยนเป็นรู้สึกแย่อย่างมาก ผู้ชายคนนี้โกหกเป็นไฟทีเดียว ค่ะพี่ดิษฐ์เพชรยังไม่ได้ไปเอาคืน ว่าแต่เขาตัวเองก็ไม่ต่างกันที่ต้องมาโกหกคนรักเช่นนี้ จากที่หญิงสาวไม่เคยพูดปดกับอีกฝ่ายเลย แต่ตอนนี้เพชรไพลินต้องกลายเป็นคนที่มีความลับปิดบัง ถ้าบอกให้พี่ดิษฐ์รู้เรื่องที่ตนเองเจอมาพ่อของเธอก็ต้องรู้เรื่องนี้ด้วย แล้วถ้าคุณพ่อรู้เกิดเครียดขึ้นมาจะพลอยอาการป่วยทรุดไปได้อีก ขณะที่นึกน้ำตาก็ซึมออกมายังดวงตาทั้งสอง ทำไมนะความสุขที่เธอเคยมีมาต้องอันตรธานหายไปเพียงแค่ผู้ชายอีกคนก้าวเข้ามาในชีวิตของตนเอง อาทิตย์หน้าพี่จะกลับแล้วนะดีใจไหม ดีใจค่ะพี่ดิษฐ์ เธอตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเบา ถ้าวันนี้นุชไม่ได้มานอนที่บ้านของเพชรพี่ก็คงไม่ได้โทรหาเพชร... ตลอดเวลาที่ได้คุยกับคนรักมันคือความสุขของเพชรไพลิน แต่ตอนนี้มันคือความทุกข์ของหญิงสาวที่ต้องอยู่ใต้อำนาจของผู้ชายอีกคนหนึ่ง จนเขาวางสายเพชรไพลินก็ยังไม่หายเศร้า น้ำตาไหลลงมายังแก้มนวลทั้งสองด้าน อตินุชที่หันมาเห็นก็มองด้วยความตกใจ เพชรร้องไห้ทำไมน่ะ มีอะไรเข้าตาน่ะแสบตาไปหมดเดี๋ยวขอไปล้างตาก่อนนะ เพียงบอกเสร็จเพชรไพลินก็ลุกขึ้นไปในทันที มือเรียวเปิดน้ำให้ไหลเสียงดังเพื่อกลบเกลื่อนเสียงร้องไห้ของตนเองภายในนั้น เพราะนอนไม่หลับจึงทำให้เพชรไพลินตื่นขึ้นมาในยามเช้าตรู่ก่อนจะลุกขึ้นจัดการล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็เปลี่ยนเป็นชุดเสื้อกล้ามสีขาวลายการ์ตูนน่ารักกับกางเกงผ้าสีน้ำเงินกรมท่าแบบพอดีตัว จากนั้นจึงมัดเส้นผมทางเบื้องหลังเป็นพวงหางม้าบนศีรษะสูง สวมเสื้อคลุมแบบมีฮู้ดสีเดียวกัน เมื่อมองไปยังเตียงนอนก็พบว่าเพื่อนสาวยังนอนหลับอยู่ เธอจึงปล่อยให้อีกฝ่ายนอนไปส่วนตนเองก็เปิดประตูออกไปด้านนอก ปกติเพชรไพลินชอบวิ่งในตอนเช้าช่วงหกโมงก่อนจะไปทำงานเพราะทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าแต่ตอนนี้มันรู้สึกแย่อย่างมาก อยู่ในบ้านก็พลอยจะร้องไห้ตลอดจึงต้องออกมายังด้านนอก ซึ่งขณะที่วิ่งไปนั้นก็พลันรับรู้ว่ามีคนวิ่งเข้ามาเทียบข้างของตนเอง พร้อมเอ่ยคำพูดทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่น โอฮาโย่ โกะไซมะสุ เธอแสดงสีหน้าตกใจเมื่อเห็นว่าเป็นเขา จึงย้อนถามกลับไป ฉันไม่รู้ว่าคุณจะตื่นมาวิ่งตอนเช้าแบบนี้ด้วย ผมชอบออกกำลังตอนเช้าน่ะ แต่น้อยกว่าตอนกลางคืนนิดหนึ่ง เพชรไพลินรับรู้ว่าเขาหมายถึงสิ่งใดช่างเป็นคนที่น่ารังเกียจเสียจริงโดยเธอพูดให้เขาได้รับรู้ ถ้าฉันรู้ว่าคุณจะออกมาวิ่งฉันจะไม่ออกมา ก็ดีแล้วที่คุณไม่รู้ทำให้ผมได้เจอคุณ เขาไม่ได้รู้สึกรู้สมอะไรเลยว่าหญิงสาวเกลียดมากเพียงใด ในเมื่อคุณยอมให้เวลาฉันแล้วอย่างนั้นคุณก็คืนกระเป๋าให้ฉันได้แล้วใช่ไหมคะ หญิงสาวทวงถามของตนเองออกไปในทันที อยากได้คืนก็ไปเอาคืนที่บ้านสิ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนหน่อยนะ เพียงเขาพูดเสร็จก็ใช้สายตากวาดไปตามเรือนกายระหงเบื้องหน้าด้วยความหยาบคาย มือเรียวกำแน่นก่อนจะตอบกลับไป ถ้าคุณอยากได้ก็เอาไปเลย ฉันไม่เอาแล้ว ผมไม่อยากได้หรอกผมอยากคืนคุณจะตาย แต่ถ้าคุณไม่อยากได้อย่างนั้น ผมจะเอาไปคืนให้แฟนคุณละกันพร้อมกับกระเป๋าสะพายแล้วจะบอกว่าคุณลืมไว้ที่โรงแรมในห้องพักผม ไม่สิบอกว่าในห้องนอนที่บ้านพักผมดีกว่า ได้ยินดังนั้นเพชรไพลินก็ออกคำสั่งกร้าว อย่ายุ่งกับพี่ดิษฐ์นะ ถ้าคุณไม่อยากให้รู้ก็พูดกับผมดีๆ ทำตัวให้น่ารัก หญิงสาวยืนโมโหอีกฝ่ายอย่างมากแต่เพียงครู่เธอก็คิดออกว่าจะแก้ปัญหาที่ว่านี้ยังไงจากที่หวาดกลัวจึงเปลี่ยนเป็นความกล้า ก็เอาสิอยากบอกพี่ดิษฐ์ก็บอกไปเลย หญิงสาวพูดอย่างท้าทาย นั่นเพราะคิดว่าถ้ามัวแต่กลัวอีกฝ่ายก็จะเอาเรื่องนี้มาขู่ตนเองอย่างไม่เลิกราจึงเลิกทำเป็นกลัวผู้ชายเบื้องหน้า คุณพูดเหมือนมีทางออกแล้วสินะว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ยังไง เพชรไพลินก็ตอบกลับไปด้วยความมั่นใจกลบเกลื่อนความหวาดหวั่นภายใน ใช่ ฉันมีทางออกแล้วและฉันก็ไม่จำเป็นต้องนอนกับคุณด้วย ถ้าคุณอยากบอกคุณพ่อก็ตามสบาย ตอบด้วยใบหน้าที่เชิดขึ้นอย่างท้าทาย ก่อนจะวิ่งกลับไปที่บ้านอย่างไม่สนใจอะไรอีก เห็นท่าทางของหญิงสาวแล้วมันทำให้เขารับรู้ว่าถ้าเขาใช้แผนเดิมบางทีมันอาจจะไม่ได้ผล เพชรไพลินเธอคิดว่าฉันจะทำอะไรเธอไม่ได้รึไงกัน ฝันไปเถอะ ลูกไก่อย่างเธออย่าได้คิดมาต่อกรกับเขา หลังจากที่หญิงสาววิ่งกลับมาก็นึกไปด้วยตลอดทางถ้าเขาเอาโทรศัพท์ไปคืนพี่ดิษฐ์แล้วพูดเรื่องบ้าๆ นั่น พี่ดิษฐ์คงจะรู้สึกไม่ดีกับเธออย่างแน่นอน แม้จะมั่นใจในความรักของอีกฝ่าย แต่จู่ๆ มีผู้ชายเอาของไปคืนแล้วบอกว่าลืมไว้ที่ห้องนอนในบ้านพัก มันคงไม่มีใครคิดในแง่ดีหรอก จะโทษใครกันล่ะถ้าไม่ใช่เพราะตัวเองที่หวังดีและอยากทำให้เขาพอใจจนลืมคิดไปว่าอาจจะเกิดอันตรายกับตัวเองได้ เพราะคิดว่าเขาเป็นคนดีตลอดเวลาที่เธอได้รู้จักเขามาหลายวัน และไปเที่ยวด้วยกันไม่เคยมีท่าทีว่าเขาจะเป็นคนเลวสักนิด หวังว่าการที่เธอพูดท้าทายออกไปจะทำให้เขาหยุดยั้งความคิดที่จะพูดเรื่องบ้าๆ นั่นนะ เพราะถ้าไม่พูดอย่างนี้เธอก็ไม่รู้จะหาทางออกได้ยังไง ตอนนี้ร่างกายของบิดายังไม่แข็งแรงถ้ามีเรื่องให้เครียดอาจจะทรุดลงไปได้ถึงจะไม่ใช่เรื่องจริงก็เถอะ แต่มีเรื่องให้คิดมันก็เสี่ยงอยู่ดี ถ้าพ่อของเธอไม่ป่วย เพชรไพลินก็ไม่แคร์หรอกถ้าเขาจะบอกเรื่องนี้ให้ทราบ เพราะพ่อของเธอคงไม่เป็นอะไรมากและก็จะได้รู้ถึงธาตุแท้ของอีกฝ่ายด้วย ส่วนเรื่องถอนหุ้นออกจากบริษัทก็เหมือนกันสัญญาห้าปียังไงเขาก็ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้ติดปัญหาก็ตรงที่กระเป๋ากับโทรศัพท์อยู่ที่เขา ถ้ายอมให้อีกฝ่ายเอาไปคืนพี่ดิษฐ์ ก็ต้องพูดเรื่องบ้าๆ นั่นให้พี่ดิษฐ์ฟังเหมือนกัน เพียงครู่หนึ่งเธอก็คิดออกว่าจะทำยังไง จริงสิถ้าเราแอบเข้าไปเอากระเป๋ากับโทรศัพท์ตอนที่เขาไม่อยู่ล่ะ มือเรียวดีดนิ้วดังเปาะด้วยความยินดีแต่แล้ววงหน้านวลก็เปลี่ยนเป็นแย่ลงเมื่อรับรู้ว่าวันนี้อีกฝ่ายไม่ได้ไปทำงาน เนื่องจากเขาหยุดเสาร์อาทิตย์ เพชรไพลินจึงต้องรอให้เป็นวันจันทร์ เธอจะได้แอบเข้าไปหากระเป๋าของตนเองได้ เมื่อชินอิจินั่งรถไปทำงานเขาก็ไม่วายนำคำพูดของเธอมาครุ่นคิด เมื่อหลายวันก่อนดูจะหวาดกลัวเขา แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคนละคนทีเดียว ซึ่งทำให้ชายหนุ่มไม่มั่นใจว่าแผนที่ตนเองคิดว่าจะข่มขู่เธอเพื่อเป็นลูกไล่จะใช้ได้ผลอีก จึงทำให้เขาคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะหาทางออกที่ว่าได้ โดยหญิงสาวที่ชายหนุ่มนึกถึงนั้นเวลานี้ก็ยืนอยู่ไม่ไกลจากบ้านเขาเท่าใดนัก ครั้นเห็นรถเขาแล่นออกไปทำงานแล้ว เธอก็รีบเดินตรงไปยังหน้าบ้านของเขาทันที วันนี้เพชรไพลินไปทำงานสายกว่าปกติ นัยน์ตามองไปยังประตูเล็กพบว่ามันไม่ได้ล็อก ก็แสดงว่าป้ามะลิคงมาทำงานแล้วเป็นแน่ โชคดีนะที่ป้ามะลิมาทำงานแต่เช้า เพราะถ้าเขาอยู่ตามลำพังโดยไม่มีแม่บ้าน เพชรไพลินก็ไม่รู้ว่าจะเข้าไปยังไงเหมือนกัน มือเรียวจัดการเปิดประตูเข้าไปยังด้านในก่อนจะรีบหลบในสวนโดยเร็วแล้วค่อยๆ ย่องอย่างช้าๆ ประตูของบ้านด้านในเปิดไว้ ได้ยินเสียงน้ำในครัวดังพร้อมกับเสียงฮัมเพลงลูกทุ่งจากป้ามะลิ รับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังทำงานอยู่ จึงมองไปยังบันไดก่อนที่เธอจะรีบก้าวขึ้นไปโดยเร็ว ตรงไปยังห้องนอนของอีกฝ่ายพลางเปิดดูทุกห้องจนกระทั่งพบว่าเขาพักอยู่ห้องใด เพชรไพลินไม่เคยที่จะต้องมาทำตัวเป็นแมวขโมยเช่นนี้มาก่อนเลย แต่ถ้าไม่ทำอีกฝ่ายก็หาเรื่องมาข่มขู่เธอไม่เลิกรา หญิงสาวจัดการรื้อค้นสิ่งของที่ตนเองต้องการในทันที ทั้งตู้ใส่ของ และโต๊ะเครื่องแป้ง ที่อยู่ข้างเตียง แต่ก็ไม่พบ จึงลุกขึ้นไปเปิดดูยังตู้เสื้อผ้า ก่อนจะรื้อค้นเหมือนเช่นเดิม โดยเพียงไม่นานเธอก็พบถึงสิ่งที่ต้องการ วงหน้านวลยิ้มด้วยความยินดี เจอแล้ว เพชรไพลินรีบเปิดเช็คกระเป๋าของตนเองก็พบว่าโทรศัพท์มือถือของเธออยู่ด้านในจึงรีบเปิดเครื่องดูก็พบว่าแบตมันกำลังจะหมด จึงจัดการหยิบมันออกมาทันที ก่อนจะก้าวออกมาจากห้อง ได้ยินเสียงฮัมเพลงขึ้นมายังชั้นบนเธอก็ทำสีหน้าตกใจคล้ายหาที่หลบซ่อน ป้ามะลิหยิบเครื่องดูดฝุ่นเพื่อจะเข้าไปทำความสะอาดด้านใน เพชรไพลินถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ยามนี้เธอนั่งอยู่เบื้องหลังโซฟาข้างนอก ครั้นเห็นอีกฝ่ายเข้าไปในห้องแล้วเพชรไพลินก็รีบก้าวลงไปยังชั้นล่างทันทีก่อนจะเปิดประตูแล้ววิ่งออกมาโดยตรงไปยังรถที่จอดอยู่ในซอยไม่ไกลจากนั้น เพียงมาถึงรถก็วางกระเป๋าลงข้างกายพลางพูดอย่างสีหน้ายินดี ทีนี้คุณก็ขู่ฉันไม่ได้อีกแล้วคุณอิจิโร่ หญิงสาวขับรถไปทำงานด้วยความโล่งใจอย่างมาก ++++++++++ นางเอกแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้แล้ว อาเฮียอิจิโร่จะทำไงต่อนะ ไม่มีกระเป๋ากับโทรศัพท์ไว้ขู่แล้ว อิ อิ ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่แวะมาติดตามกันนะคะ ^ ^ คุณ nako เรื่องนี้พระเอกร้ายค่ะ แต่สนุกนะคะ คนเขียนชอบค่ะ ให้คนอ่านด่าพระเอก คุณ vee ดีใจที่ชอบนิยายข้าวค่ะ ^ ^ คุณ sakeena พระเอกเรื่องนี้ใจร้ายมาก แต่ยกให้ค่ะเพราะหล่อ ไม่ค่อยลำเอียงเลยยายคนเขียน 555
แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ บ้ายบายค่ะ จุ๊บๆ
Create Date : 23 กันยายน 2556 |
Last Update : 23 กันยายน 2556 10:48:53 น. |
|
3 comments
|
Counter : 772 Pageviews. |
|
|