|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
บะหมี่เย็นทรงเครื่อง ( ฮิยาชิ จูกะ - Hiyashi chuuka )
วันนี้...นำเมนูอาหารเส้น..(ก๋วยเตี๋ยว) แต่เป็นก๋วยเตี๋ยวแบบเย็น เหมาะสำหรับทานในช่วงอากาศร้อน เวลาทานซู๊ดเส้น ((ต้องส่งเสียงหน่อย..อย่าเพิ่งคิดว่าไม่สุภาพนะค่ะ เพราะคนญี่ปุ่นเค้าบอกว่าถ้าไม่มีเสียงแล้วมันไม่อาหร่อย...อิอิ)) อืมม..เย็นชื่นใจทีเดียวค่ะ
อาหารจานนี้มีชื่อเรียกว่า " ฮิยาชิ จูกะ - Hiyashi chuuka - 冷やし中華 " ..."บะหมี่เย็นทรงเครื่อง" ค่ะ
อาหารญี่ปุ่นประเภทก๋วยเตี๋ยวนั้น....มีหลากหลายชนิด ถ้าเป็นอาหารญี่ปุ่นแท้ ๆ ก็จะเป็นพวก.... โซบะ , โซเมน , อุด้ง ฯลฯ แต่ถ้าได้รับอิทธิพลมาจากจีน...มักจะใช้เส้นบะหมี่เหลือง เช่น...ราเม็ง , ยากิโซบะ ฯลฯ
"ฮิยาชิ จูกะ". .. เป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากจีนเช่นกัน แต่คนญี่ปุ่นก็เอามาประยุกต์ปรับเปลี่ยนรสชาดให้ถูกปาก ทำให้ได้รับความนิยมชื่นชอบสำหรับคนทั่วไป เหมาะสำหรับทานในวันที่มีอากาศร้อน
ความหมายของคำ
ฮิยาชิ - Hiyashi - 冷やし......หมายถึง......เย็น จูกะ - chuuka - 中華....หมายถึง....จีน
แปลรวมกันแล้วก็กลายเป็น..."บะหมี่เย็นทรงเครื่อง"....ที่นำมาฝากเนี่ยละค่ะ
" ฮิยาชิ จูกะ - Hiyashi chuuka - 冷やし中華 "
เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา...ผูกผ้ากันเปื้อนเข้าครัวกันดีกว่าค่ะ
เครื่องปรุง..... ( สำหรับ 4 คน )
บะหมี่เหลือง (บะหมี่ไข่)...... 4 ก้อน ( น้ำหนักก้อนละ 120 กรัม ) แตงกวาญี่ปุ่น....... 1 ลูก มะเขือเทศ (ขนาดกลาง)..... 1 ลูก หรือมะเขือเทศสีดา .....8 -10 ลูก
ผักอื่น ๆ ตามชอบ แต่ที่นิยมนำมาทานประกอบก็มี คัยวาเระ (ต้นมัสตาร์ดอ่อน) หรือ ผักอื่น ๆ ที่สามารถทานดิบได้ , สาหร่ายวากะเมะ ที่นำมาลวกแล้ว หรือผักชนิดอื่นที่นำมาลวกให้สุกเสียก่อน (ตามชอบ)
ไข่ที่ทอดเป็นแผ่นบาง ๆ แล้วหั่นเป็นเส้นฝอย (จะเสนอวิธีทอดไข่ด้านล่าง) หรือจะใช้ไข่ไก่ , ไข่นกกระทาที่ต้มสุก
ส่วนประกอบของเนื้อ...(ตามชอบ) แต่ต้องเป็นเนื้อที่สุกแล้วเท่านั้น เช่น...หมูแฮม , เนื้ออกไก่ต้มสุกฉีกฝอยเป็นเส้น , กุ้งต้มสุก , ปูอัด , ลูกชิ้นปลาญี่ปุ่น ( Kamaboko ) ฯลฯ น้ำมันงา นิดหน่อย
วิธีทำ
1). เตรียมเครื่องที่จะใส่หน้าของบะหมี่ - แตงกวาญี่ปุ่น ล้างสะอาด หั่นแฉลบเฉียงลูก หั่นซอยเป็นเส้น - มะเขือเทศ ล้างสะอาด ถ้าเป็นมะเขือเทศลูกใหญ่ ก็ให้หั่นขวางลูก แล้วหั่นขนาดเดียวกับแตงกวา ถ้าเป็นมะเขือเทศสีดา ให้ดูขนาดของลูก (ผ่าครึ่งลูก หรือผ่า 4 แล้วแต่ขนาด) - ไข่ทอดบาง ๆ หั่นเป็นเส้นฝอย
ของทุกอย่างที่จะใส่หน้าบะหมี่ ควรหั่นให้ได้ขนาดเดียวกันค่ะ
เครื่องที่เตรียมไว้...
วิธีการทอดไข่
นำไข่ไก่ 3-4 ฟอง ตอกใส่ภาชนะ ใส่น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา + เกลือป่นเล็กน้อย + น้ำสะอาด 1 ช้อนชา ตีให้เข้ากัน จนไข่ขึ้นฟู
1). นำกะทะตั้งไฟ ให้ร้อน (ถ้าใช้กะทะเทฟลอนก็จะทอดได้ง่าย) วิธีสังเกตุว่ากะทะร้อนได้ที่แล้วหรือยัง? ให้หยดน้ำลงไป ถ้าน้ำที่หยดลงไปเดือดพล่าน แสดงอันว่าความร้อนของกะทะได้ที่แล้ว ให้เอาผ้าสะอาดเช็ดกะทะให้แห้งสนิท
2). นำผ้า หรือกระดาษชุบน้ำมันพืชเพียงเล็กน้อย ทาให้ทั่วกะทะ (รวมทั้งขอบของกะทะด้วย)
3). นำไข่ที่เตรียมเอาไว้ เทลงไปในกะทะ ให้แบ่งเท 2-3 ครั้ง ทำให้ไข่บางที่สุด โดยการยกกะทะวนไปมาให้ไข่แผ่ทั่วกะทะ (วนเร็ว ๆ ) เสร็จแล้วให้หรี่ไฟให้อ่อนที่สุด
4). สังเกตุที่ขอบกะทะว่าไข่สุกหรือยัง ใช้เวลาในการทอดไข่ประมาณ 1 นาที
5). พอไข่สุกแล้ว ให้ปิดไฟเตาแก๊สทันที ค่อย ๆ แซะไข่อีกด้านพลิกกลับลงทอด ระวังอย่าให้ขาด
6). หลังจากกลับอีกด้านลงทอดแล้ว ให้เปิดไฟเตาใหม่อีกครั้ง ใช้ไฟอ่อนที่สุด ทอดต่ออีก 20 วินาที เทไข่ที่ทอดเสร็จแล้วลงบนกระดาษซับน้ำมัน ทิ้งไว้ให้ไข่เย็น
7). นำไข่ที่ทิ้งให้เย็นแล้ว มาหั่นเป็นเส้นฝอย ๆ
ไข่ที่ทอดบาง ๆ แล้วหั่นฝอยแล้ว ใช้นำไปโรยประกอบอาหารญี่ปุ่นได้หลายชนิดค่ะ
เตรียมน้ำซอสสำหรับราด.....ควรทำแล้วแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ก่อน เวลานำมาราดบะหมี่ทานจะได้เย็นชื่นใจค่ะ
แบบที่ 1....น้ำซอสรสซีอิ้ว (โชหยุ ดะเระ - Shoyu dare )....(สำหรับ 4 คน)
ส่วนผสม
น้ำสะอาด....... 1 ถ้วยตวง ซุปไก่ก้อน.......1 ก้อน (ประมาณ 5 กรัม) โชหยุ (ซีอิ้วญี่ปุ่น)...... 4 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย...... 2 ½ ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชู...... 3 ช้อนโต๊ะ (ถ้าใช้น้ำส้มสายชูที่หมักจากผลไม้จะหอมหวานอร่อยขึ้น) น้ำที่คั้นจากการฝนขิง....... 2 ช้อนชา (ขิงแก่ 1 แง่งปอกเปลือกแล้ว น้ำหนักประมาณ 10 กรัม ให้นำมาฝนแล้วคั้นเอาแต่น้ำขิงตามปริมาณที่ต้องการ) น้ำมันงา..... ½ ช้อนโต๊ะ คาราชิ (มัสตาร์ดญี่ปุ่น)..... ½ ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
นำส่วนผสมทุกอย่าง ใส่หม้อตั้งไฟ ใช้ไฟอ่อน ต้มพอเดือด คนส่วนผสมทุกอย่างให้ละลายเข้ากันดี ชิมรสตามชอบ ให้ออกเปรี้ยว เค็ม หวาน (ถ้าจะให้เด็กรับประทานด้วย คาราชิ ยังไม่ต้องใส่ในตอนนี้ ให้ไปบีบใส่ข้าง ๆ จานตอนเสริฟ์ได้ค่ะ) เวลาจัดเสริฟ์ ก็นำไปราดบนเส้นบะหมี่ที่เตรียมไว้
ขวดด้านซ้าย....ริงโกะซุ ( Ringo su - リンコ酢 ) ...เป็นน้ำส้มสายชูที่หมักและสกัดมาจากแอ๊ปเปิ้ล น้ำส้มสายชูแบบนี้...จะมีความหวานมากกว่าน้ำส้มสายชูที่ได้จากการหมักอย่างอื่น แต่ถ้าไม่มี ก็ใช้น้ำส้มสายชูที่มี แบบไหนก็ได้ แต่ควรเพิ่มส่วนของน้ำตาลทรายอีกเล็กน้อย
ขวดด้านขวา.....โกะมะ อะบุระ (Goma abura - ごま油) .....น้ำมันงาใช้เป็นส่วนประกอบในการทำอาหารหลายชนิด...เพิ่มความหอมให้อาหาร
ขั้นตอนการลวกบะหมี่
ให้นำหม้อใบใหญ่ใส่น้ำ (ประมาณ 1 ลิตรขึ้นไป) ตั้งไฟให้น้ำเดือดพล่าน
1). บะหมี่เหลือง...ของญี่ปุ่นเค้าขายกันก้อนโตมาก น้ำหนักก้อนละ 120 กรัม ก้อนเดียวก็อิ่มแล้วค่ะ
2). หลังจากน้ำเดือดพล่านแล้ว นำเส้นบะหมี่โรยใส่ลงไปต้ม
3). หลังจากที่ใส่เส้นบะหมี่ลงไปแล้ว ให้เอาตะเกียบหรือไม้ยาว ๆ คนเส้นบะหมี่ทันที ให้กระจายออกจากกัน จะได้ไม่จับกันเป็นก้อน (เส้นบะหมี่ของญี่ปุ่น ใช้เวลาต้มประมาณ 3 นาทีครึ่งค่ะ)
*เวลาในการต้มเส้นบะหมี่นั้น...ให้ดูที่ขนาดของเส้นบะหมี่ หรือดูที่เค้าเขียนกำกับไว้ว่าใช้เวลาเท่าไหร่ เพราะแต่ละยี่ห้อเวลาไม่เท่ากัน แต่ไม่ควรต้มนานเพราะเส้นจะเละ
4). หลังจากเส้นบะหมี่...ต้มสุกแล้ว ให้เทใส่กระชอน ล้างด้วยน้ำเย็นจัด ๆ ให้หมดเมือก ส่วนใหญ่ที่บ้านจะใช้วิธีเปิดก๊อกน้ำให้ไหลผ่านแล้ว (ซัก) ล้างค่ะ เส้นบะหมี่ที่ล้างน้ำเสร็จแล้ว...ให้นำไปแช่ในน้ำที่ใส่น้ำแข็งประมาณ 30 วินาที
นำเส้นบะหมี่ที่แช่ในน้ำที่ใส่น้ำแข็งแล้ว เทใส่กระชอน เขย่าให้น้ำสะเด็ดออกจนหมด เทน้ำมันงาเพียงเล็กน้อย โรยใส่ไปบนเส้น คลุกเคล้าให้เข้ากันทั่ว
ซ้าย...จัดเตรียมเสริฟ์ โดยนำเส้นบะหมี่ที่ลวกไว้แล้ว แบ่งใส่จาน เอาเครื่องที่เตรียมไว้ทั้งหมดวางเรียงบนหน้าบะหมี่ จัดสลับสีสรรของเครื่องหน่อย เพื่อความสวยงามเป็นอาหารตาอีกอย่างค่ะ
ขวา...แบ่งน้ำซอส (1 ใน 4 ) ที่ผสมเตรียมไว้ เทราดลงไป
ตอนที่ทำน้ำซอสนั้น....ก็ยังไม่ได้ใส่ คาราชิ ( มัสตาร์ดญี่ปุ่น ) ผสมลงไปเหมือนกันค่ะ...เพราะลูกชายทานด้วย
สำหรับจานของตัวเอง...ก็นำคาราชิ มาบีบใส่ข้างจานแทน เวลาทานก็ค่อยคลุกทีหลัง แต่บางคน..ถึงผสมคาราชิใส่ลงไปแล้วก็ตาม ก็ยังใส่เพิ่มอีกได้
เครื่องเคียง....ที่นิยมนำมาทานคู่กับ "ฮิยาชิ จูกะ" ก็มี คาราชิ (มัสตาร์ดญี่ปุ่น) กับ ขิงดองสีแดง (เบนนิโชกะ)
*ดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่ ส่วนประกอบต่าง ๆ ของอาหารญี่ปุ่น....2
ผักที่นิยมนำมาทานดิบ...นอกจากแตงกวา ก็มี "คัยวาเระ (ต้นมัสตาร์ดอ่อน)" นำมาตัดรากล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
ฮิยาชิ จูกะ น้ำซอสรสซีอิ้ว....( Hiyashi Chuuka Shoyu dare)
แบบที่ 2....น้ำซอสรสงา (โกมะ ดะเระ - Goma dare )....(สำหรับ 4 คน)
สูตรจากเวปนี้
งาบดละเอียด.....3 ช้อนโต๊ะ โชหยุ (ซีอิ้วญี่ปุ่น)......3 ช้อนโต๊ะ น้ำสะอาด......... 2 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชู....... 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย......2/3 ช้อนโต๊ะ น้ำมันงา............2/3 ช้อนโต๊ะ โทบันจัง (น้ำพริกเผาของจีน)... 1 ช้อนชา (ถ้าไม่มีไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ) ขิงสดฝนหรือสับละเอียด...... 2 ช้อนชา (ขิงแก่ 1 แง่งปอกเปลือกแล้ว น้ำหนักประมาณ 10 กรัม) กระเทียมสดฝนหรือสับละเอียด...... 2 ช้อนชา (กระเทียมน้ำหนักประมาณ 10 กรัม) นำมาฝน)
วิธีทำ
นำส่วนผสมทุกอย่าง ใส่ภาชนะคนทุกอย่างให้เข้ากันดี ชิมรสตามชอบ ให้ออกเปรี้ยว เค็ม หวาน นำไปราดบนเส้นบะหมี่ที่เตรียมไว้
น้ำซอสรสงา...ถ้าทำแล้วทานทันที จะได้กลิ่นหอมของงา แต่ถ้าต้องการเก็บไว้ นำส่วนผสมทั้งหมดที่คนเข้ากันดีแล้ว ใส่หม้อนำไปต้มด้วยไฟอ่อน ๆ แค่พอเดือด แล้วเก็บเข้าตู้เย็นไว้ได้ค่ะ
ฮิยาชิ จูกะ น้ำซอสรสงา (Hiyashi Chuuka Goma dare)
แบบที่ 3....น้ำซอสรสอุเม๊ะ (รสบ๊วย)....(สำหรับ 4 คน)
ส่วนผสม
โชหยุ (ซีอิ้วญี่ปุ่น)..... 4 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย...... 2 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชู...... 2 ช้อนโต๊ะ เนื้อลูกบ๊วย (อุเมะโมะชิ) โดยการแกะเอาแต่เนื้อบ๊วยมายีให้ละเอียด..... ½ ลูก ( ประมาณ 1 ช้อนชา ) มิโซะ ( เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น )..... ½ ช้อนโต๊ะ กระเทียมฝนละเอียด..... 2 ช้อนชา ขิงฝนละเอียด..... 1 ช้อนชา น้ำซุปไก่....... 1/3 ถ้วยตวง คาราชิ (มัสตาร์ดญี่ปุ่น)...... นิดหน่อย
วิธีทำ
นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ภาชนะ คนให้ส่วนผสมทุกอย่างละลายเข้ากันดี (ถ้าจะให้เด็กรับประทานด้วย คาราชิ ยังไม่ต้องใส่ในตอนนี้ ในนำไปใส่ข้าง ๆ จานตอนเสริฟ์ ) นำไปราดบนเส้นบะหมี่ที่เตรียมเอาไว้
น้ำซอสรสอุเมะโมะชิ ....ถ้าผสมแล้วทานทันที จะได้กลิ่นหอมของบ๊วย แต่ถ้าต้องการเก็บเอาไว้ ก็ให้นำส่วนผสมทั้งหมดที่คนเข้ากันดีแล้ว ไปต้มไฟอ่อน ๆ เช่นกัน
ถ้าเพื่อน ๆ ไม่สามารถหาลูกบ๊วยของญี่ปุ่นได้ อาจจะลองใช้น้ำมะขามเปียกแทนก็น่าจะได้นะคะ
รูปของอุเมะโมะชิ ..... ((แค่เห็นรูปก็น้ำลายสอ...เข็ดฟันแล้วค่ะ
ฮิยาชิ จูกะ... น้ำซอสรสบ๊วย (Hiyashi Chuuka Umemoshi dare)
ในช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่น.... Hiyashi Chuuka จะได้รับความนิยมจากผู้บริโภค....ตามซุปเปอร์ทั่วไป จะเห็นมีแบบที่เค้าทำขายเป็นชุด..ซึ่งจะมีเส้นบะหมี่ (สด) และน้ำซอส รสโชหยุ (ซีอิ้ว) หรือ รสโกะมะ (งา) ไว้ให้ลูกค้าเลือกซื้อตามชอบ และจำนวนชุด (แบบ 1 คน - 3 คนทาน) เป็นการประหยัดเวลาในการทำซอส ราคาก็ไม่แพง เพียงแค่นำเส้นบะหมี่มาต้ม...ตามวิธีที่นำเสนอไปแล้วข้างต้น (เวลาในการต้มบะหมี่...เค้าจะเขียนกำกับไว้ให้ว่าต้องต้มกี่นาที) เราแค่เตรียมเครื่องที่จะใส่...พอจัดใส่จานเสร็จก็ตัดถุงน้ำซอส (ที่อยู่ในห่อ) ราดลงไปก็เป็นอันเสร็จ พร้อมทานได้ทันทีค่ะ
ตัวอย่างของห่อ.....
หรือจะซื้อน้ำซอสสำเร็จรูป....ที่บรรจุในขวด....แบบนี้ก็สะดวกเช่นกัน เพราะมีขายตลอดทั้งปี... มี 2 รสให้เลือกคือ....รสโชหยุ (ซีอิ้ว) กับ รสโกมะ (งา)
ตัวอย่างของขวดน้ำซอส....
Hiyashi Chuuka ....หาทานได้ที่ร้านราเม็ง ,หรือแฟมิลี่เรสเตอรองส์ (แต่ต้องเป็นช่วงฤดูร้อน ก.ค.-ก.ย.) ในเมนูอาหารนั้น...บางทีเค้าก็จะเขียนว่า ....Hiyashi Ramen ( 冷やしラーメン )
พาชม...ร้านและดูเมนูก่อนสั่ง
ขอจบการนำเสนอ " บะหมี่เย็นทรงเครื่อง - Hiyashi Chuuka " ไว้แค่นี้ก่อนแล้วละค่ะ เพื่อน ๆ คงจะได้ไอเดีย (จากรูปหลาย ๆ จาน ที่นำมาฝาก) จับของที่มีอยู่ในตู้เย็นมาทำทานกัน และขอให้อิ่มอร่อยกันทั้งครอบครัวนะค๊า
ลากันที่ภาพนี้..... Hiyashi Chuuka - Shoyu dare
***ขอปิดการให้ Comment ในกระทู้นี้...
ถ้าเพื่อน ๆ ท่านใดมีความประสงค์ อยากเพิ่มเติม , ติ ชม หรือมีคำถามใด ๆ กรุณาแวะไปฝากข้อความไว้ได้ที่นี่ค่ะ
Guest Book
ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมและขออภัยในความไม่สะดวกด้วยนะคะ
Create Date : 07 ธันวาคม 2549 |
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2553 11:23:15 น. |
|
6 comments
|
Counter : 28617 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Plin, :-p วันที่: 7 ธันวาคม 2549 เวลา:8:17:25 น. |
|
|
|
โดย: oreocream วันที่: 7 ธันวาคม 2549 เวลา:9:57:33 น. |
|
|
|
โดย: kokophiz วันที่: 7 ธันวาคม 2549 เวลา:10:06:51 น. |
|
|
|
โดย: หลั่มหมั่นเหม่ง (หลั่มหมั่นเหม่ง ) วันที่: 7 ธันวาคม 2549 เวลา:23:00:24 น. |
|
|
|
|
|
|
ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมนะคะ จุดประสงค์หลักก็คือ... อยากเก็บประสพการณ์ต่าง ๆ ของชีวิตในต่างแดน (ญี่ปุ่น) ซึ่งได้อยู่มาเข้ารอบปีที่ 15 แล้ว เพื่อบันทึกความทรงจำ กันลืม เพราะแกร่แย้วววว ^o^
มีหลายเรื่องที่อยากเขียน....จนตัดใจเลือกไม่ถูกว่าจะเลือกเรื่องไหนเป็นหลัก......"รักพี่เสียดายน้อง" ไหน ๆ ก็ตัดใจเลือกไม่ได้ ก็เขียนมันเสียทุกเรื่องจะดีกว่าเนอะ.... บล๊อคนี้...ก็เลยกลายเป็น " บล๊อคจับฉ่าย " อย่างที่เพื่อน ๆ เห็นละนี้แระคร้า
|
|
|
|
|
|
|
อยากให้มีคนทำให้ทานจัง