space
space
space
<<
สิงหาคม 2564
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
space
space
23 สิงหาคม 2564
space
space
space

ขุนช้าง ขุนแผน ตอนที่ 17/4 ขุนแผนขึ้นเรือนขุนช้าง ได้นางแก้วกิริยา
ขุนช้าง ขุนแผน
เรียบเรียงจากเสภา เรื่อง ขุนช้าง ขุนแผน โดย ทักษภณ
ตอนที่   17/4  ขุนแผนขึ้นเรือนขุนช้าง ได้นางแก้วกิริยา



    ว่าพลางเป่าพระเวทย์ ให้หลับสนิทกับหมอน จากนั้นลุกขึ้นมาด้วยใจอาวรณ์ หยุดยืนดูด้วยใจระทึก ด้วยกลัวว่าเมื่อนางพลิกตัวจะคว้าหา จึงกลับมากอดน้องนอนอีกครา กอดแล้ว กอดเล่าเคล้าคลึง

จนเห็นว่าหลับไหลสนิทดี จึงได้วางน้องย่องลงมาจากเตียง พลิกหมอนข้างให้แนบชิดน้อง ย่องออกมาจากห้อง อย่างเบาๆ ด้วยความโล่งใจ

    เดินถือดาบฟ้าฟื้นขึ้นไปยังหอกลางที่ขุนช้างสร้างขึ้นมาใหม่ แลดูเห็นที่นั่งพับไว้ นกขุนทองอยู่ในกรงสะอาดตา กรอบกระจกบานใหญ่ใส่รูปฝรั่งนั่ง นัยน์ตาดูคมค้อน ชมพลางเพลิดตามทางที่เดินมา  ได้สติรีบเร่งเดินเร็วขึ้นไปหาห้องของวันทอง ผ่านทาสหญิงนอนหลับกลิ้งที่หอกลาง

    พอเห็นห้องวันทองก็สะเดาะกลอนเข้าไปในห้อง เครื่องแก้วสีสรรแพรวพราย ละลานตา  ฉากกั้นสองชั้น มีม่านมูลี่

    “ม่านนี้เป็นฝีมือวันทองเป็นแน่ นัยน์ตาพี่จำได้ไม่ผิด เส้นไหมเขียนแนบเนียน ฝีมือเยี่ยงนี้มีเพียงนางนางเท่านั้น

    เจ้าปักเป็นป่าเขาชอุ่มเขียว ใบเรียวพริ้วไหว ปักเป็นนกยูงรำแพน อยู่บนยอดภูเขาหลวง แผ่หางกางกางปีก ชะนีเหนี่ยวกิ่งไม้ชม้ายตา

เทือกเขาตระหง่านงาม สายน้ำเป็นแนวยาว ฝูงกินนร คนธรรพ์ ลงเล่นน้ำใสสะอาดเยือกเย็นในสระอโนดาด มังกรล่อแก้วดูสะดุดตา ดูแล้วให้ยิ่งคิดถึงวันทอง”

    ฉันพลันฟันม่านขาดลง ย่างเข้าไปในชั้นที่สอง

    “ช่างน่ารักนัก น้องเอย เจ้าช่างฉลาดล้ำ ปักเป็นพระลอติลกโลก ถึงกาหลงทรงโศกกำสรวลถึงน้องนาง ทรงเสี่ยงสายสมุทร แสนคะนึง เมื่อเห็นน้ำแดงดังแสงฝาง คะนึงถึงนางพี่น้องทัั้งสององค์ ปู่เจ้าใช้ใก่แก้ว มาล่อให้พระลอหลงเตลิด”

    มาถึงสวนพระยิ่งแสนเศร้า

    “ออเจ้าปักเป็นพระเพื่อน พระแพง สีทอง ในสวนน่าตรึงใจ พระลอเสพสุข มีพี่เลี้่ยงนางรื่น นางโรย คอยรับใช้”

    “มิเสียแรงเจ้าวันทองเอย กระไรเลยเจ้าไปหลงขุนช้างเสียได้”

    เกิดกลัดกลุ้มใจสะบัดดาบตัดม่านขาดสะบั้น ฉีกซ้ำแล้วเหวี่ยงทิ้งไป พอถึงม่านชั้นที่ 3 งามจับตายิ่งนักยืนเพ่งพิศ

    “เจ้าฉลาดนักปักเป็น คาวี บุกป่าฝ่าดง ถึงกรุงจันตประเทศ สังหาร หมู่อินทรีเลือดแดงสาด ปักเป็นลงเล่นน้ำกับจันทร์สุดาเส้นผมพริ้วไปในสายน้ำ ปักเป็นเฒ่าทัศนประสาทใจกล้า มาลวงนางพรากไปจากห้องไปถวายท้าวเมืองอื่นให้ชื่นครอง”

    ฉับพลันเกิดเคืองใจขึ้นมา

    “อีเฒ่าศรีประจันผู้เป็นแม่ ช่างเป็นอีเฒ่าใจกล้านัก”

     ยิ่งคิด ยิ่งชัง ยิ่งคลั่งใจ
    “มันเป็นเศรษฐีเงินทองมากมาย หญิงอื่นมีมากมาย อ้ายขุนช้างยังมาชิงวันทองกู น่าแค้นใจนัก”

    ดูม่านไป ใจยิ่งพลุ่งพล่านดังไฟสุม คว้าอาบฟ้าฟื้นฟันขาดสะบั้น สับหั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แหลกละเอียด แล้วเข้าไปฟันมุ้งตลบขึ้นมา

เห็นขุนช้าง นอนอล่างฉ่าง เกิดความเดือดดาลเสียดายวันทอง เงื้อดาบใคร่จะฟาดให้ขาดกลาง  หัวกุดย่อยยับ

    กุมารทองเข้าขวางสกัดดาบ ก้มกราบขอให้หยุดละเว้น ยิ่งสร้างความโกรธให้กับขุนแผนถีบเตะกุมารทอง แต่กุมารยังคงเข้าขวางไม่วางมือ

    “ไม่กลัวอาญาเจ้าชีวิตแล้วฤา ขอให้งดไว้ก่อนเถิดพ่อ อย่างเพิ่งฆ่าเพลานี้”

    ขุนแผนกัดกรามแค้นจัด

    “เออกูไม่กลัวแล้วอาญา มันทำพ่อแค้นสุดจะทนแล้ว กูจะเอาดาบผ่าแล่งอกออกมา ถอยไปมิใช่การของเจ้า อย่านำพา ฆ่าในที่ลับจะไปจับใครได้”

    กุมารทองห้ามว่า
    “อย่าให้ได้ตายเลยหนา เอาแค่พอเจ็บ ได้อายก็พอ ฆ่าฟันเทวมักดลใจให้จับได้ จะเกิดเรื่องลามกระจายไป”

    ขุนแผนได้ฟังคำกุมารทองค่อยคลายแค้นกลับได้สติ แต่ยังคงยืนมองวันทอง แล้วรู้ใจวุ่นวายสับสน

    “วันทองเอย ช่างไม่คิดเสียดายกาย ใจละอายบ้างก็ไม่มีเท่าขี้เล็บ ลอยหน้าลอยตามาอยู่กับกับอ้ายชู้ขุนช้าง หางกระเบนฟาดที่หน้าผากยังไม่เจ็บเท่านี้

    หวนให้คิดถึงยามเจ้าเท้าแขนแอ่นเอวเย็บ ปักม่านซ่อนตะเข็บ ช่างน่าเอ็นดูนัก ทำเยี่ยงนี้เหมาะกับเจ้าแล้วฤา ช่างพัวพันได้ ไม่ดูหน้าดูตา ได้ของใหม่ ชอบใจแล้วลืมกู เคียงคู่กันจนสุดใจ

    ดูแก้มของนวลของเจ้าก็หมองไม่นวลใยดังเก่าก่อน เนื้อตัวก็ผอมบางกว่าเดิม หาที่ใดดูดีก็มิมีเลย

    ความงามลดลงไปกว่าเก่าก่อน สุดจะอดใจได้แล้ว วันทองเอย ถ้าเป็นคงใจอ่อน”

    จากนั้นขยับดาบเงื้อขึ้นอีกครา กุมารทองรีบเข้ามาขวาง ฮึดฮัดไม่พอใจ

    “อย่าปัดกู จะฆ่าให้ตาย”

    แต่กุมารทองยังคงยึดดาบไว้ไม่ยอมปล่อย จำใจทิ้งดาบลง ทั้งที่ยังขัดเคือง

    “โอ้เจ้าวันทองของพี่เอย ไม่คิดเลยว่าเป็นเยี่ยงนี้ได้ ต้องหม่นหมองไปเพียงใด เหมือนดังดวงแก้ว ไปอยู่กับลิง ต้องกลิ้งคลุกฝุ่น ถูกเหวี่ยงฟัด คิดแล้วใคร่จะสับตัดให้เป็นสักร้อยท่อน ให้ทานกับแร้งกา ใคร่ฟันอ้ายขุนช้างสักร้อยท่อน

    ที่เป็นเยี่ยงนี้เพราะอีศรีประจัน ไม่เกรงดาบกู จึงได้ดูหมิ่น คิดใคร่จะเชือดเนื้ออีแม่ แล่ออกมา    คลุกพริกเกลือ”

    แล้วจับหัวขุนช้าง ขูดโกนผมที่หัว ทำให้เป็นควั่นหยอกหยอย เหมือนหอยขม ชโลมน้ำมันปั้นเป็นจำเปาะกลมๆ ดั่งร่มระย้าของพระยามอญ จากนั้นจับรวบเข้าเกล้าจุก

    “อ้ายขี้คุก เส้นผมตรงกลางออกล่อนจ้อน หวีไปปลิวเหมือนปีกงอน”

    แล้วก็เอาแหนบถอนไรเข้าอีกสองนิ้ว เอาไม้ม้วนสำลีเข้า กลับโล่งเปล่า

    “อ้ายตายโหง โล่งเปล่า”

    จากนั้นเอาดินหม้อทาเป็นรอยคล้ายปลาซิว เขียนรูปเต่าที่ต้นคอ ที่ต้นขาเขียนเป็นปลาเทโพผุดว่าย เขียนแล้วหยุดๆ ยืนหัวร่อ

    แล้วถีบขุนช้างตกจากเตียง นั่งลงใกล้วันทองทอดถอนใจเฮือกใหญ่

    “โอ้เจ้าวันทอง เจ้าดูหมองไปหนา”

    ลูบไล้นางอย่างเบามือ

    “มืออย่างพี่นี้ดอก ควรต้องกายเจ้า กับเนื้อนุ่มนิ่มเยี่ยงนี้ จึงควรจะให้ทนุถนอม ค่อยๆ ประทับดังทองคำเปลว
    นิจจาเจ้าเพลานี้ดูซีดเศร้า ทั้งผมเผ้า ผิวพรรณ คงได้รับการบีบคั้น ลำบากจากไอ้ห่าเหว เป็นแน่แท้”

    คิดได้ดังนี้เกิดโทสะ จึงเตะขุนช้างผางเข้าที่หว่างเอว

    “อ้ายลิง ดีแล้วที่โดนเตะ”

    จากนั้นฮึดฮัดใคร่จะตัดศีรษะอีกครา กุมารทองก็เข้ามาขวางอีก

    “อย่าเลยพ่อเจ้า ทำแต่พอหนำใจเราเถิด ฆ่าเขาความผิดจะติดตัว”

    ฟังคำกุมารความโกรธลดลง ได้สติอีกครั้ง ยืนมองวันทอง ยิ่งคิดชังขุนช้าง ไล่กุมารทองให้ห่างไป ร่ายมนต์ให้วันทองฟื้น

    “เจ้าตื่นมาดูผัวสักหน่อยรา”

ตอนที่ 17 ยังมีต่อ



Create Date : 23 สิงหาคม 2564
Last Update : 23 สิงหาคม 2564 5:18:04 น. 1 comments
Counter : 3520 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณnewyorknurse


 
สังคมสมัยก่อน ตัวเองมีเมียหลายคนได้
แต่พอผู้หญิงมีชายอื่นทำแค้นเตืองจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 23 สิงหาคม 2564 เวลา:7:55:09 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

0000
Location :
สุรินทร์ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
space
space
[Add 0000's blog to your web]
space
space
space
space
space