space
space
space
<<
กรกฏาคม 2563
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
space
space
29 กรกฏาคม 2563
space
space
space

ขุนช้าง ขุนแผน ตอนที่ 6/2 พลายแก้วเข้าห้องนางสายทอง


ขุนช้าง ขุนแผน
เรียบเรียงจากเสภา เรื่อง ขุนช้าง ขุนแผน
ตอนที่ ๖/๒ พลายแก้วเข้าห้องนางสายทอง

    เณรแก้วฟังคำเจ้าคุณคงจบ ก็กราบลงสามที จากนั้นก็ลาสึก กลั้นความเศร้าเดินเข้ากุฎีทันที แต่งตัวผูกลูกสะกด พร้อมกับเครื่องรางปรอท

นุ่งยกกระหนกเป็นแนว รูปสุบรรณบินเหยียบวาสุกรี เพลาะดำร่ำหอมห่มกระหวัด พู่ตัดติดห้อยข้างชายคลี่ คาดปั้นเหน่งแน่น เหน็บกริชมีหัวกา จัดเครื่องบัตรพลีชั้นเลิศ ข้าวสารเสก มือถือเทียนชัยแล้วเริ่มออกเดินทาง

    ทางเดินมีแสงจันทร์ส่องสว่าง ท้องฟ้าดาดาษด้วยดวงดาว แสงระยิบระยับยามส่องสว่าง พระจันทร์ทรงกลด อยู่ในกลางหาวเด่นกว่าทุกดวงดาว

    พลายแก้ว หลังจากรีบเร่งเดินทางไม่นานก็ถึงป่าช้า ปลูกศาลเพียงตาคาดผ้าขาวจากนั้นจุดเทียนให้แสงสว่าง ทิ้งสายสิญจน์ก้าวสะกดลง

เข้านั่งพับเพียบเชิงชุมนุมฤทธิ์ เกิดการสั่นสะเทือนทั่วทั้งป่า พายุพัดไม้ไล่ลู่โอนเอน บ้างก็หักสะบั้น เสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงปร้าง  

พื้นดินสั่นสะเทือนไหวเหมือนมีคนมาแกว่งไกว จนแทบจะแยกจากกัน ฝูงผีโขมดพราย ลุก ต่างพากันแปลงกายโจนทะยานวิ่งมา

ครั้นเข้าใกล้ไม่อาจจะทำร้าย ด้วยกลัวมนต์ของเจ้าพลายเป็นหนักหนา ต่างพากันก้มกราบถาม

    “เจ้าข้าท่านเรียกพวกข้าประสงค์อันใด”
    อ้ายผีตัวนายมาทีหลังกำลังโกรธ โลดแล่นตะโกนร้องว่า
    “นี่ใคร ถ้าไม่ลุกกูจะตีให้ป่นปี้เป็นผุยผง”

    พลายแก้วตวาดแล้วซัดข้าวสาร เสียงดังสะท้านก้องไปทั่วบริเวณ ถูกตัวผีพรายมิอาจยืนตรงได้ ก็ยอบตัวเล็กเท่าเหล็กใน พลายแก้วถามมันว่า

    “เฮ้ยเอ็งฤาเป็นใหญ่ในป่าช้านี้ ฤาว่าไม่มีแล้วที่เป็นนายมึง”
    ผีได้ฟังเสียงถาม ครั่นคร้ามแทบจะดำด้นแผ่นดินหายตัวไป

    “ข้าเป็นพรายเจ้าป่าช้า เป็นตัวนายผีภูติทโมนมาร ท้าวเวสวัณประทานแผ่นดินให้ เป็นข้ารับใช้องค์เทวราช อยู่ที่นี่มาช้านาน ตัวท่านมีธุระอันใดฤา”

    “กูฤา ...คือมีธุระใหญ่ เอ็งจะไปฤาไม่ไปให้เร่งว่ามา”
    พลางตวาดฟาดด้วยตำแยยา ผีพรายรีบกราบรับว่าจะพาไป แล้วจึงสักยันต์ตรีนิสิงเห เรียกผี ให้เข้ามาใกล้ๆ 

จากนั้นเอายันต์ปิดที่ศีรษะทันที เข้าคล้องไหล่ผีให้น้อมลง โดดขึ้นบนบ่าผีพรายได้ มันก็พาไปอย่างรวดเร็วดังลมปลิว

ผ่านป่าข้ามทุ่งมุ่งลัดตัดพง หมายตรงเข้าเมืองสุพรรณ ผีพรายพาพุ่งทะยานมาถึงบ้านนางศรีประจัน

ข้ามรั้วสวนดอกไม้เข้าไปในทันที ลมพัดดอกไม้พัดพากลิ่นหอมโชยมา พลายแก้วลงจากบ่าผี แล้วกล่าวว่า

    “เอ็งอยู่นี่ คอยกูอยู่ในสวนจนกว่าจะกลับมา”

 

จากนั้นพลายแก้วรีบเดินไปที่บันได ส่วนพิมและสายทอง ทั้งสองหามีความสบายใจไม่

ครั้นถึงเพลาพระอาทิตย์ตกดิน เจ้าพิมน้อยนึกหวั่นใจด้วยรู้สึกว่าพลายแก้วจะหลอกลวง น้ำตาไหลคลอเบ้า รู้สึกกลัดกลุ้มอัดอั้นใจ ด้วยคิดไปว่า ได้ทำผิดคิดชั่ว เสียตัว เสียใจ ไปแล้วเป็นแน่

พิมรอพลายแก้วจนกระทั่งมืดค่ำ ก็ยังไม่เห็นมา เกิดความคิดว่าพลายแก้วคงจะลวงพิมเป็นแน่ จึงมิมาหา

แม้นค่ำวันนี้ยังมิมา คงต้องผูกคอตายเป็นแน่แท้
สายทองสงสารน้องเป็นหนักหนา คอยพูดจาเอาใจให้คลายความเศร้าโศก

“น่าแค้นจริงเจ้าเณรพลาย ดึกแล้วยังไม่เห็นมา ฤาเจ้ากูมาแล้วแต่อยู่นอกบ้าน  ซึ่งผู้คนก็พลุกพล่าน กลัวคนจะเห็นจึงยังมิเข้ามา ขอพี่ออกไปดูสักหน่อยเถิด”
ว่าพลางเปิดประตูออกไป เดินเที่ยวค้นหาพลายแก้วทันที พอเจอ

“เออ...ชะเจ้าคนรวย ไปยินเชเชือนอยู่อะไรนั่น แม่พิมคอยจนดึกดื่น อยู่ข้างบน  จนฉันนั้นต้องมาดู”
พลายแก้วยิ้มแล้วตอบสายทองว่า

“เอ็นดูน้องขอผัดผ่อนไปอีกหน่อยนะ พาให้พบเสียอีกคืนเถิดพี่ พรุ่งนี้เถิดฉันจะให้จริงจัง”

สายทองกางผ้าเพลาะคลุมเจ้าพลาย ผันกายขึ้นเรือนโดยหวังให้เจ้าพลายแอบบังร่างกาย

เจ้าพลายลองทำเป็นถูกนมสายทอง ครั้นเห็นนิ่งก็ขยำเอาเต็มที่ สายทองรู้สึกจักจี้ รำคาญ จึงผลักร้องว่า
“ไฮ้..ทำอันใดไม่น่าดู นมจู้แล้ว พอแค่นี้เถิด”
พลายแก้วเห็นสายทองโกรธ จึงทำเป็นพูดว่า

“ถูกนิดหนึ่งขอโทษเสียเถิดพี่ สำคัญคิดว่าพิม มันนิ่มดี ขอจูบทีเถอะ โอ๊ยฉันลืมไป”

“อือเออเก้อละเจ้าพลาย เชื่อฟังดีเคยมีที่ไหน ทำฉาวคราวนี้ก็เพราะคึกคะนองเกินไป เขานิ่งให้แล้วยังเละเล็มเข้ามา โน่นแน่ห้องย่องเข้าไปเองเถอะ ไม่อยากยุ่งแล้ว ไปนอนดีกว่า”

สายทองว่าพลางกระชากผ้ากลับมา สะบัดหน้าค้อนด้วยอาการงอน พลายแก้วครั้นสายทองไปแล้วไม่อาจอยู่นิ่งได้ รีบเยื้องย่องมาจนถึงห้องนอนใน เห็นบานประตูเปิดแง้มไว้ก็เข้าไป ค่อยๆ แหวกม่านมุ้งชม้ายมอง

เห็นพิมในท่ามกลางโคมแสงเทียน สว่างไสว ต้องผิวหน้าและผิวกาย ที่ขาวผ่องนวลเนียนเปล่ง นั่งก้มหน้าดูเศร้าสร้อย รู้สึกสงสารยิ่งนัก

แม้พิมในยามเศร้าก็ยังงาม ทั้งจริต และผิวกาย งามเกินกว่าจะห้ามใจได้ ปิ่มประหนึ่งจะเข้าไปประคองขวัญในบัดดล

พลายแก้วเกิดความคึกคะนอง คิดหยอกล้อ ให้พิมหายเศร้า จึงกระแอมเสียง พิมเงยหน้าลุกขึ้นเดินมา พอนัยน์ตาสบประสานกัน สิ่งหนึ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของผู้หนึ่งพุ่งมาหาเป้าหมายคือแก้มของพิม

อีกทั้งยังมีมือที่เหมือนมีเป้าหมายที่หน้าอก ด้วยความตกใจพิมพยายามหลบ ล้มลงร้องหวีดด้วยความตกใจ ครั้นชำเลืองเหลียวมองเห็นเจ้าพลายแก้วร้องว่า

“ชะ..มาแล้วดูฤาแอบนิ่งเสียได้ เมื่อตะกี้คิดว่าเป็นผี สิ่งใดดลใจให้ทำคะนองเยี่ยงนี้”

พลายแก้วฟังแล้วหัวร่อตัวงอ กอดคอประคับประคองพิมพาเข้าไปในห้อง ขึ้นเตียงนอนแอบเคียงข้าง
“เออนี่น้องคอยพี่นานแล้วฤา”

“อย่าพูดถึงเรื่องการคอยเลยคะ ที่ยิ่งกว่าคือความเศร้าโศกและความคิดถึง ถ้าแม้นว่าวันนี้พี่มิมา ฉันจะลาพี่สายทองผูกคอตาย”

“ชะ..กระไรใจคอพิมเอ๋ย จะทิ้งพี่เสียง่ายๆ เลยฤา จะให้พี่ต้องบวชไปจนตาย ด้วยน้องเจ้ามิหมายมีอื่น จะให้พี่ต้องบำเพ็ญภาวนา แผ่ส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ตลอดชีวิตเลยฤา

ใช่ว่าพี่จะไม่มา ที่ช้าไปเพราะต้องลาท่านอาจารย์ พี่ปดท่านสารพัดท่านก็รู้ทัน โดนห้ามปรามทัดทานอย่างจริงจังแข็งขัน เป็นให้มาดึกดื่นถึงเพียงนี้”

ว่าพลางเอามือลูบโลมเล้า บรรจงจูบแก้มซ้ายขวา อกอิงแอบแนบชิด แนบหน้ามือประคองให้นอน เกิดกำเริบราคะ วุ่นวายกายกระฉ่อน ลมพัดคลื่นบ้าคลั่ง

สะท้อนกระทบฝั่งสะเทือน จวบจนเรือแล่นล่องเข้าคลองน้อย ฟ้าลั่น ฝนปรอย ไต้ก๋งบ่ายเรือ เบือนเข้าติดตื้นกับตอ พลายแก้วลุกแล้วชวนพิมว่า

“ร้อนนักไปอาบน้ำบ้างเถิด”
พิมได้ยินดังนั้นรีบจูงมือเจ้าพลายเดินย่องมา เกิดเสียงดังเกรียบกรอบลั่น นางศรีประจันทักไปว่า
“ใครหวา”

พลายแก้วสะกิดพิมให้เจรจา
“ฉันเองเจ้าคะ จะออกมาอาบน้ำ”
ครั้นถึงอ่างที่อยู่นอกชาน ทั้งสองมีใจเบิกบานขึ้นนั่งบนเตียงต่ำ จากนั้นไขน้ำจากบัวที่ทำจากตะกั่ว น้ำก็พรั่งพรูออกมา พลายแก้ว ชักชายสไบห่มพิมออก เจ้าของสไบร้องว่า

“ฉันอายนม ไฮ้..อย่าเล่น  ฉันยังไม่เคยอาบน้ำตัวเปล่า เดี๋ยวคนจะเห็นเข้า อย่ากวนฉันหน่อยเลย”
“อนิจจาอยู่แต่เจ้ากับตัวพี่ มิมีผู้เห็นดอกเจ้า อาบทั้งผ้าไม่น่าจะเย็น”

เจ้าพลายกล่าวพลางยังคงดึงผ้าห่มจากหน้าอกของพิม พระจันทร์กระจ่างบนท้องฟ้า ส่องสอดสว่างต้องเต้าเต่งตึงขาวนวล  สายน้ำไหลกระทบผ่านทรวง

ดั่งเพชรร่วงหรุบต้องกระจายพราวพราย เจ้าพลายยิ้มพลาง กล่าวชม
“เจ้าพิมพี่ผุดผ่องยิ่งนัก ยามเมื่อต้องแสงจันทร์ พี่จะช่วยขัดสีขี้ไคลให้เจ้าสบาย โดยมิให้ระคายเนื้อน้องสักนิดเดียว”

พิมขยับกายเข้าใกล้พลายแก้ว ยิ้มแล้วเหยียดแขนยื่นให้ เจ้าพลายสวมกอดโลมลูบไล้  ละมุนมือ พิมตกใจร้องขึ้น

“ไฮ้..อะไร จะขัดสีขี้ไคลที่แขน กลับมาขยำอย่างนี้ฤา”
จากนั้นทำเป็นปัดป้อง ให้ดูเหมือนว่ารำคาญ พลายแก้วพูดแก้ว่า

“ขอโทษเถิดหลงไปดอกนะเจ้า ดูสิมีแต่เง้าให้พี่ง้อทุกสิ่ง เจ้าอย่างอนไปเลย หากหนาวจริงอาบเท่านี้เถิด”
แล้วลุกมาผลัดผ้าทาแป้ง พิมก็แบ่งรินน้ำกระแจะให้
“พี่ขอจูบนิดนั่นพิมประทินกลิ่นอันใด”

พิมเขินอายหลบไปไม่พูดจา พลายเว้าวอนไปอีกว่า
“ผินหน้ามาเถิดพี่จะทาให้ จะอายไปใย”
พิมยื่นแก้มหันมากล่าวว่า
“แก้มขวาจงทาให้ดี”

“พิมน้องก็เอาแต่ใจน้อย เฝ้าคอยจับผิดเรื่อยไป”

 
 

จากนั้นประคองจูงน้องขึ้นบนเตียงนอน ทั้งสองสับยอกเย้ากัน ครานั้นพลายแก้วนึกถึงสายทองที่คอยทวงสินบน ครั้นจะหาเงินมาให้ก็คิดว่าจะเสียชั้นเชิงชาติเจ้าชู้ไป

ดังคำโบราณท่านว่าไว้ หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง อันเงินทองคงมิใช่สิ่งที่ต้องการเป็นแน่ คิดได้ดังนี้แล้วก็หันหน้ามายิ้มแย้มแกล้งลวงถามเป็นความนัย

“พี่รู้สึกหวั่นใจหนักหนา จะมาขอต่อแม่ของพิม ถ้าท่านไม่ให้พี่คงขาดใจตาย”
ครานั้นพิมไม่รู้ในกลอุบายของพลายแก้ว เบือนหน้ามาสัพยอกพลายแก้วว่า

“ฉันมิให้พี่ได้อายดอกอย่าได้ทุกใจไป มาตรแม้นปีเดือนมิได้กัน ตัวฉันคงจะหนีหาอยู่ไม่ ได้ชั่วทำผิดแล้ว คงต้องติดตามไป กลัวแต่ว่าพี่จะไม่มาขอฉันจริงต่างหาก”
“เออเป็นไรเจ้าจึงได้กล่าวเยี่ยงนี้ มีแต่คิดล่วงหน้าไปเองในทุกสิ่ง วานอย่าทำแสนงอนไป

แท้จริงแล้วแม่พิมเจ้าปีไร พี่จะได้บอกปีของพี่บ้าง ให้ต้องชะตานับนาคตัวเดียวกันได้ ถึงจะชั่วหรือดีเยี่ยงใด อย่าได้ถือเอาตำราเลย ที่เขาตามกันไปเป็นหนักหนา

ดูชะตาที่ไหนเล่าพิม เอากุศลหนหลังที่เคยทำมาเป็นเหตุต่างหาก ถ้าหากว่ามีกรรมแล้ว อย่าได้เอ่ยไปเลยพิม”
“ฉันฤา...ปีชวดนะพี่ สิบหกปีนี้”
“อ่อนกว่าพี่สองปีเจ้านะพิม พี่สายทองละปีไร”
พี่สายทองปีมะเมีย ได้ยี่สิบสองฉันจำได้ จะถามปีพี่สายทองไปทำไม ฤารักใคร่คิดสมสู่เป็นชู้กัน”

 

พลายแก้วรีบกอดกระชับพิมกล่าวว่า
“ดูสิพิมมีแต่พูด อุตริ บัดสี ค่อนขอด ข้อนั้นจงนิ่งเสีย วานอย่าได้ว่าเป็นชู้ผัวเมียเลย”

ว่าพลางพลายแก้วเริ่มกอดจูบ เล้าโลม ด้วยหมายให้พิมหลับใหล พลายแก้วครั้นมองว่าเห็นพิมหลับแล้ว ให้รู้สึกปั่นป่วนคิดถึงสายทองด้วยหมายใจไว้ ถึงแม้ว่าจะแก่วัยกว่าแต่ว่า การถูกเนื้อตัวเมื่อครู่นี้ ให้รู้สึกพอใจยิ่งนัก ด้วยคิดว่า

“แก่กว่าเพียงแค่ สี่ปีเท่านั้น ลอบออกไปหาดีกว่า ถึงไม่รักจะว่าเราข่มเหง ไหนจะกล้าร้อง ด้วยนางเป็นผู้ชักนำเราให้เข้ามาในเรือน”

คิดพลางค่อยๆลุกออกไปจากห้อง ค่อยๆ ย่อง ย่างเยื้องชำเลืองมอง เคลื่อนกายลงจากเตียง เกิดเสียงเดินสะเทือน พิมเหมือนรู้สึกตัวขยับก็รีบกลับเข้าหา ประคองสอดกอดแนบไว้กับอก พยุงยกแนบชิดให้พิมหลับในใจคิดว่า

“เฝ้าพลิกกายกลับมิใครหลับเจียวนะพิมเอย พี่เหงื่อไคลไหลย้อยแล้วเจ้ามิยอมหลับเลย”
พลางคลี่พัดจันทร์ออกมาพัดให้ พลางชมเชยลูบไล้

“สบายใจหลับบ้างเถิดพิม จนดึกดื่นป่านนี้มิหลับเลย”
ความพยายามของพลายแก้วในที่สุดก็ประสบผล เห็นพิมหลับสนิท พลายแก้วรีบออกจากห้องย่องมุ่งหน้าตรงไปห้องสายทอง

เมื่อถึงที่หมายก็เป่าคาถาสะเดาะกลอนเข้าห้องไปที่นอนใน นั่งใกล้ชมเชยนางจูบแก้ม นอนเอนเอียงสอดกอดนางเป่ามนต์พลางลูบหลังให้เบิกบานใจ

สายทองรู้สึกสุขสมใจในทันที เหลียวมองเห็นพลายแก้ว  ก็มีใจรัก ด้วยต้องมนต์เทพรัญจวน ให้รู้สึกปั่นป่วนเขินอาย ทำมารยาว่าไม่รัก แกล้งทักไปว่า

“นี่ใครมา”
พลายแก้วยิ้มแล้วตอบสายทองว่า
“วอนอย่าร้องไปเลย ฉันมาหาด้วยสุดกลั้นรักที่มีอยู่หนักอก ขอษมาเถิดอย่าถือว่าพี่เมีย

พี่ก็ไม่แก่วันกับฉันนัก ถึงร่วมครองรักกันก็ไม่เสียหาย บางคู่แก่กว่านี้ก็มีถมไป วอนอย่าห้ามให้ละเหี่ยใจไปเลย”

“แล้วพ่อแก้วมารังแก เป็นเด็กแต่กล้ามาเกี้ยวผู้ใหญ่ เคยได้มาง่ายๆ ก็เกิดความคึกคะนอง พ่อก็เป็นคนดีมีความคิด จะพาผิดถึงพี่เพลานี้แหละ

หากเรื่องรู้ถึงพิม จะไม่งาม กลับกลายเป็นว่านัดแนะให้เข้ามาหาสายทอง ก็จะชั่วไปทั้งตัวพ่อพลายแก้ว ที่มาคบกับสายทองให้มัวหมอง ลางทีอาจชวดเชยชมกระทิง ให้คิดดู ให้ดี ไปเสียจากห้องเถิดพ่อ”

“อนิจจาฉันคิดว่าพี่รัก จึงหาญหักเข้ามา กลับถูกต่อว่า ถึงพิมจะรู้อย่ากลัวไปเลย

จะไกล่เกลี่ยมิให้ผิดถึงพี่เลย ได้สงสารแล้วให้มีสิ่งนี้อยู่ตลอดกาลเถิดพี่ อย่าบ่นกล่าวอันใดเลย เพลานี้ก็ได้เข้ามาเชยชิดถึงเพียงนี้แล้ว”

“เออนี้จู้จี้จริงๆ จะให้ฉาวทั้งบ้านหรือพ่อแก้ว พูดดีๆ ก็ไม่ฟัง ฉันจะข่วนให้เป็นรอยบัดเดี๋ยวนี้ เออเคยหาว่าไม่ช่วย แต่ใครละเป็นข้าคอยรับใช้

เพลานี้มาหยิกหยอกหยาบช้าน่าบัดสี คิดว่าไม่ซุกซนเป็นคนดี ไม่คิดว่าจะมารังแกกัน ให้รีบไปเสียจากห้องถ้าขืนอยู่จะร้องให้ดัง ให้สาแก่ใจที่มาตอแย จะบอกให้แม่มาจับตัว”

ตอนที่ 6 ยังมีต่อ..




 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2563
0 comments
Last Update : 29 กรกฎาคม 2563 10:46:37 น.
Counter : 3350 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

0000
Location :
สุรินทร์ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
space
space
[Add 0000's blog to your web]
space
space
space
space
space