๒๖ มีนาคม ๒๕๖๑ // 2018年3月26日 // March 26, 2018
เคยอ่านเรื่องทำหมันแมวมาเยอะมาก วันนี้ก็อยากจะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องทำหมันแมว จากประสบการณ์ของตัวเอง
ประสบการณ์ที่เคยพาแมวไปทำหมันมาทั้งหมด แมวตัวผู้ 3 ตัว แมวตัวเมีย 3 ตัว
ฉันเคยอ่านมา แล้วเขียนไปในทิศทางเดียวกันว่า ... "แมวที่ฉี่สเปรย์ไปทั่วบ้านแล้ว ถึงแม้จะพาไปทำหมัน พฤติกรรมนี้ก็จะไม่หายไป"
แต่แมวของฉัน เมื่อพาไปทำหมันแล้ว ก็ไม่มีการฉี่สเปรย์อีกเลย หายเลย หายเป็นปลิดทิ้ง
ขาวกับบุตะ(แมวตัวผู้) ฉี่สเปรย์มาประมาณครึ่งปี ก่อนพาไปทำหมัน ฉันก็กังวลว่า ... "อาการฉี่สเปรย์ ฉี่ใส่ข้าวของ คงจะไม่หายแล้วมั้ง" แต่ว่า พอพาไปทำหมันกลับมา ก็ยังคงฉี่ใส่ข้าวของอยู่บ้างเล็กน้อย ผ่านไปประมาณหนึ่งสัปดาห์ ไม่มีการฉี่สเปรย์อีกเลย
ก่อนหน้านี้ นุ้ง(แมวตัวเมีย) ฉี่สเปรย์มาประมาณ 6 ปี หลังจากพาไปทำหมัน กลับบ้านมา ไม่มีการฉี่ใส่ข้าวของอะไรอีกเลย
เพราะฉะนั้นจึงทำให้ฉันคิดว่า ... การที่เราจะเชื่ออะไรสักอย่าง นอกจากต้องอ่านแล้ว ยังต้องคิดและพิสูจน์ด้วยตัวของเราเองด้วย
นอกจากนี้ ก่อนพาแมวไปทำหมัน ฉันก็กังวลไปต่าง ๆ นานา ตอนนี้ก็ยังมีความกังวลอยู่นะ เพราะยังเหลือแมวที่ฉันต้องพาไปทำหมันอีก ตัวผู้ 3 ตัว ตัวเมีย 1 ตัว แต่ความกังวลใจก็ลดน้อยลงไป เนื่องจากมีประสบการณ์แล้ว
ก่อนพาไปทำหมัน ก็อ่านมาเยอะ มีคนเขียนไว้เยอะว่าอย่างโน้นอย่างนี้ ยิ่งอ่าน ก็ทำให้ยิ่งคิดมาก ยิ่งเครียด แต่เราก็ต้องอ่านเพื่อศึกษาข้อมูล เพราะเราก็รักแมวของเรา เราก็อยากทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขา เพื่อให้เขาปลอดภัยและมีชีวิตอยู่กับเราไปนาน ๆ
ก่อนหน้านี้ ฉันเลี้ยงแค่นุ้ง(แมวตัวเมีย)เพียงตัวเดียว เลี้ยงมา 7 ปี ระบบปิด ไม่พาไปทำหมันเพราะฉันกังวล กลัวมันจะเป็นอะไรไป เพราะฉะนั้น เวลาที่มันฮีทคือถึงช่วงฤดูผสมพันธุ์ มันก็จะร้องหาตัวผู้ตลอดเวลา ช่วง 2-3 ปีแรก ก็จะร้องเฉพาะเวลากลางคืน ฉันนี่แทบไม่ได้หลับ ไม่ได้นอน แต่ไม่เกรงใจใครนะ เพราะว่าตอนแรกบ้านฉันเป็นบ้านที่อยู่โดด ๆ ไม่มีเพื่อนบ้าน
แต่ 2-3 ปีหลัง จากที่เคยเป็นบ้านเดี่ยวอยู่โดด ๆ ก็กลายเป็นว่ามีเพื่อนบ้าน มีแหล่งชุมชน ผู้คนมาอาศัยอยู่ค่อนข้างเยอะ เยอะกว่าเดิมมาก ฉันก็เลยมีความรู้สึกเกรงใจเพื่อนบ้าน เวลาที่แมวของฉันมันหง่าว อีกอย่างฉันก็สงสารมันด้วย เพราะอาการมันก็แย่มากคือหง่าวไม่หยุดเลย อีกทั้งฉันก็รับเลี้ยงแมวเพิ่มขึ้น มีภาระเพิ่มขึ้น ก็ไม่ไหวที่จะต้องมาฝืนนั่งฟังเสียงแมวร้องฮีททุกวัน ทุกคืนอีกต่อไป ฉันก็เลยตัดสินใจว่าจะต้องพามันไปทำหมันแล้วล่ะ
ก่อนพาไป ฉันกังวลมากเพราะอ่านมาเยอะ อีกทั้งนุ้ง(แมวตัวเมีย)ก็ค่อนข้างอายุเยอะแล้ว ไม่ใช่แมวเด็ก อายุ 7 ปี ถ้าเป็นคนก็เปรียบได้กับวัยกลางคนแล้วนะ น่าจะ 40-50 แล้ว เพราะฉะนั้น ฉันจึงเป็นกังวลมาก แล้วมันอาการหนัก หง่าวทั้งกลางวัน กลางคืน น้ำหนักแค่เกือบสองกิโลเท่านั้น แมวที่จะทำหมันได้คือต้องน้ำหนัก 2 กิโลกรัมขึ้นไป แต่นุ้ง(แมวตัวเมีย)แค่เกือบ ๆ ยังไม่ถึง 2 กิโลกรัม คือผอมมาก อีกทั้งในบางครั้ง มันก็จะมีน้ำไหลออกมาจากช่องคลอดด้วย
ตอนนั้น ฉันคิดว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้ ก็คงไม่ดีแน่ หากพาไปทำหมัน ก็ยังพอมองเห็นแสงสว่าง ยังดีกว่าปล่อยไว้แบบนี้ให้ทรมานทั้งแมวและคนเลี้ยง ฉันจึงตัดสินใจพาไปทำหมัน แล้วฉันจึงรู้ว่า"ฉันตัดสินใจไม่ผิด"
แมวของฉันผ่าตัดทำหมัน รอดปลอดภัยดี ถึงแม้จะเป็นแมวแก่อายุ 7 ปี น้ำหนักแค่เกือบ 2 กิโลกรัม ก็สามารถวางยาสลบและก็ฟื้นได้ ปกติดี อีกทั้งในขณะที่พาไปทำหมัน ก็ยังคงมีอาการฮีทไม่เลิก ตลอดเวลา คือทำหมันในขณะที่มันยังฮีทอยู่ ฉันอ่านมาหลายที่มากว่า ... ไม่ควรพาแมวที่กำลังฮีทไปทำหมันเพราะมันอันตราย แต่นุ้ง(แมวตัวเมีย)ก็รอด ปลอดภัยดี ไม่มีอันตรายใด ๆ
และปัจจุบันนี้ ก็ไม่มีอาการร้องฮีท ร้องหง่าวหาตัวผู้อีกเลย วัน ๆ คือกินและนอนอย่างเดียว 555555555555555555 ไม่มีฉี่สเปรย์ใส่ข้าวของ ไม่มีน้ำไหลออกจากช่องคลอด น้ำหนักจากเดิมที่แค่เกือบ ๆ 2 กิโลกรัม ตอนนี้พุ่งขึ้นเป็นเกือบ 4 กิโลกรัม อ้วนมาก ตัวตัน ๆ กลายเป็นแมวยักษ์ 55555555555555
ฉันพาแมวตัวเมียของฉันไปทำหมัน หนึ่งตัวคือทำตอนไม่ฮีท สองตัวคือทำตอนฮีท ตอนกำลังหง่าว แล้วก็รอด ปลอดภัย ไม่มีอันตรายใด ๆ
ไม่ใช่ว่าเพราะฉันโชคดีอะไรหรอกนะ แต่ต้องบอกว่าเป็นเพราะความรู้ความสามารถของคุณหมอ แมวของฉันจึงผ่าตัดทำหมัน รอดและปลอดภัย
อย่าเชื่อสิ่งที่คุณอ่านมากนัก ให้อ่านเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเลือกหมอ เลือกโรงพยาบาลหรือคลีนิค และที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือ"การมองโลกในแง่ดี มองด้านบวก"
ถามว่าตอนนี้ ฉันยังเป็นกังวลอยู่มั้ย ฉันก็เป็นกังวลอยู่ แต่เบาบางลงไปมาก เพราะฉันมีประสบการณ์แล้ว ไม่เหมือนตอนนั้นที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการพาแมวไปทำหมันเลย ฉันจึงมีความเครียด วิตกกังวลค่อนข้างสูง อ่านเยอะ ก็ทำให้วิตกกังวลไปต่าง ๆ นานา เครียดและกลัวไปเลย แต่พอได้ตัดสินใจและลงมือทำแล้ว ก็ทำให้ค้นพบว่า ทุกสิ่งทุกอย่างก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ตรงกันข้าม กลับกลายเป็นสิ่งที่ดี เพราะฉันได้ช่วยเหลือแมวเหล่านี้ ไม่ต้องมีลูกเต็มบ้านเต็มเมือง จนกลายเป็นภาระของสังคม
พวกมันก็ไม่ต้องร้องฮีท หง่าว ทรมานให้วุ่นวายใจ คือแมวไม่เหมือนคน แมวทนไม่ได้หรอก ถ้าถึงวัยที่ต้องผสมพันธุ์หาคู่ แล้วถูกขังหรือปิดกั้นไว้ไม่ให้ทำ แมวจะทรมานมาก ทรมานทั้งตัวผู้ ตัวเมีย ตัวเมียจะทรมานมากที่สุด ร้องฮีท โก่งก้น ข้าวปลาแทบไม่กิน ส่วนตัวผู้คือจะทรมานคนเลี้ยงมาก ๆ คือต้องตามเช็ดฉี่ เหม็นไปหมด เพราะฉะนั้น การพาแมวไปทำหมันคือเป็นเรื่องที่ดี ไม่มีบาปหรือบุญ เพราะฉันไม่เชื่อเรื่องบาปบุญ เพราะมันเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ จึงไม่ทำให้ฉันรู้ว่ามันมีจริงหรือไม่จริง ฉันรู้แค่ว่า... ถ้าทำแล้วเกิดผลดี ถ้าทำแล้วเกิดประโยชน์ ก็ต้องทำ ฉันคิดแค่นี้
ฉันไม่เชื่อเรื่องนรกหรือสวรรค์ ฉันไม่เชื่อเรื่องทำความดีหรือความชั่ว เพราะไม่เห็นว่ามันจะมีผลอะไร ฉันเชื่อแค่ว่า ... เมื่อเกิดมา อยู่ในสังคมนี้ อยู่ในโลกใบนี้ ถ้าทำสิ่งใดแล้วมันเกิดผลดี เกิดประโยชน์ ก็ควรทำ ถ้าทำแล้วไม่เกิดผลดี มิหนำซ้ำยังเกิดผลเสียกับสังคมโดยรวม ฉันก็จะไม่ทำ
คำว่า"ทำแล้วเกิดผลดี"กับ"ทำความดี" มันคนละอย่างกัน คนละความหมาย หากทำความดีนั่นคือการหวังผลบุญจากสิ่งที่ไม่รู้ว่ามีอยู่จริงหรือเปล่า ตรงกันข้ามกับทำแล้วเกิดผลดี เพราะทำแล้วเห็นผลทันที ไม่ต้องไปรอบุญ รอสวรรค์ รอสิ่งที่เหนือความคาดเดาอะไรนั่น
อืม... วันนี้เขียนเยอะแล้ว งั้นก็ ตัดจบเลยแล้วกันนะ 5555555555555555 วันหลังจะมาเขียนใหม่
Facebook Twitter |