Bloggang.com : : Bernadette : Modigliani (2005): The story of Amedeo Modigliani's bitter rivalry with Pablo Picasso

Modigliani (2005): The story of Amedeo Modigliani's bitter rivalry with Pablo Picasso

เป็นหนังในดวงใจของคนหลายๆๆล้านคน ประมาณว่าโมดิกดังมากอะ จนกระทั่งเสียชีวิตลง จึงได้รับการยกย่อง เป็นศิลปินสมัยใหม่คนสำคัญ ซึ่งผลงานแต่ละชิ้นของเขา มีราคานับพันล้านบาท

คู่แข่งในงานสร้างสรร ของปิกาสโซ่ กัดๆๆเหน็บเหน๊บกัน

ก่อนขนาดก่อนตายปิกาสโซยังเอ่ยชื่อของ โมดิกลิอานี่

เค้าแหละศิลปิน ขี้เมา ไส้แห้ง ความรักระหว่างจิตกร ชาวยิว และเมียสาวแสนสวย คาทอลิกที่ครอบครัวกีดกันทางจารีต ที่มีลูกนอกสมรสออกมา จนขนาดต้องส่งลูกไปอยู่กะแม่ชี และ โมดิกได้นำลูกมาสู่อ้อมอกของครอบครัว

ภาพที่เค้าประสบความสำเร็จจุดเริ่มต้นความดังของเค้าที่หนังสื่อ คือ "Jeanne Hebuterne" ภาพวาดภารยาของเค้านั้นเอง

การตายของโมดิก ทำให้ภารยาของเค้าเสียใจม๊ากถึงกับฆ่าตัวตายพร้อมลูกในท้องกระโดดตามหน้าต่างไปด้วย คำพูดในบทหนัง ภารยาของโมดิก

"คุณเคยรักใครสักคนอย่างลึกซึ้ง ถึงขนาดยอมลงนรกไปกับเขามั้ย?”

Modiglianiศิลปินที่เคยได้ชื่อว่า เป็นศิลปินชั้นเลว แต่บัดนี้เขากลายเป็น ศิลปินสมัยใหม่คนสำคัญของอิตาลี

หนังเปิดฉาก ปี 1919 สงครามโลก สิ้นสุดลง In the café Rotonde,ศิลปินอพยพ Picasso, Rivera, Stein, Cocteau, Soutine, Utrilloand Modigliani ประมาณว่าสนธนากัน ในคาเฟ่ห์อะ

ดูงานศิลปินที่ในหนังกล่าวถึงอะ

Picasso,

Rivera

Cocteau คนนี้งานแรงเจงเจง มะกล้าโพสอะ หาดูเองแหละกานน

Soutine

ประวัติของ Utrilloand Modigliani

อเมดีโอ โมดิลยานิ (Amedeo Modigliani) ศิลปินชาวอิตาเลียน เสียชีวิต เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2463 ซึ่งกลายเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก เมื่อภรรยาของเขา ฆ่าตัวตายตามสามีไปด้วย อีกทั้งตอนยังมีชีวิตอยู่ ผลงานของเขากลับไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน จนกระทั่งเสียชีวิตลง จึงได้รับการยกย่อง เป็นศิลปินสมัยใหม่คนสำคัญ ซึ่งผลงานแต่ละชิ้นของเขา มีราคานับพันล้านบาท

ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ของอิตาลี ส่วนใหญ่จะเป็นศิลปินรุ่นฟื้นฟูศิลปวิทยา หรือ เรเนส์ซองค์ (Renaissance) โดยเฉพาะในศตวรรษที่ 19 ศิลปินอิตาเลียนแทบจะไม่มีชื่อเสียงเลย เนื่องจากศูนย์กลางของศิลปะยุโรป ได้เปลี่ยนไปอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสแทน แต่ อเมดีโอ โมดิเกลิยนิ (Amedeo Modigliani) กลับเป็นศิลปินสมัยใหม่ของอิตาลี ที่ได้รับการยอมรับ ว่าผลงานของเขา มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ชัดเจน โดยไม่ติดอยู่กับหลักเกณฑ์ ทางศิลปะลัทธิใดลัทธิหนึ่ง

Amedeo Clemente Modigliani
โมดิลยานิเ เกิดที่เมือง Leghorn ประเทศอิตาลี โดยเขาเป็นลูกครึ่งยิว-อิตาเลียน วัยเด็กเขามักจะมีอาการเจ็บป่วยตลอดเวลา และแม้ว่าฐานะทางบ้าน จะไม่สู้ดีนัก แต่แม่ของเขา พยายามส่งเสริมให้เรียนศิลปะ ที่สถาบันวิจิตรศิลป์ แห่งนครฟลอเรนซ์ (Academy of Fine Art in Florence) โดยฝึกฝนเกี่ยวกับงานประติมากรรม แต่ไม่นาน ก็ต้องย้ายมาเรียนที่ สถาบันวิจิตรศิลป์แห่งนครเวนิช และศึกษาที่ "Academie Colorossi" ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

Jeanne Hébuterne in Red Shawl

ในปารีส เขาใช้ชีวิตเสรี อยู่ที่ย่านมองมาร์ต (Montmartre) เช่นเดียวกับศิลปินทั่วไป ทำให้เขาได้พบกับ คอนสแตนติน บรานคูช (Constantin Brancusi) ประติมากรเชื้อสายโรมาเนียน ซึ่งแนะนำให้เขาได้รู้จักกับงานศิลปะ ทั้งวาด การวาดเส้นจิตรกรรม และประติมากรรมที่แตกต่าง จากแนวทางศิลปะแบบคริโฟวิสต์และคิวบิสม์ (Fanuvism & Cubism) ที่นิยมแพร่หลายในหมู่ศิลปินในขณะนั้น

"Jeanne Hebuterne II"
โดยโมดิลยานิพยายามศึกษางาน ของศิลปินรุ่นเก่าหลายคน เช่น โครงสร้างของสี จากผลงานของ พอล เซซาน (Paul Cezanne) เขาได้นำความรู้และประสบการณ์ มาประยุกต์ในผลงานของตัวเอง ด้วยการผนวกกับผลงานประติมากรรมดั้งเดิม (primitive) ของแอฟริกัน เอเชีย และเขมร มาเป็นผลงานวาดเส้น ซึ่งส่วนใหญ่จะออกมา ในลักษณะของการสเก็ตช์ โดยภาพบุคคลของเขา มักจะมีใบหน้ายาว ที่ได้รับอิทธิพลมาจาก ร่องรอยประติมากรรมดั้งเดิมของแอฟริกา หรือบางชิ้น ก็มีการวางท่าคล้ายกับประติมากรรมขอม

ในปีพ.ศ.2450 โมดิลยานิได้พบกับจิตแพทย์ชื่อ ดร.พอล อเล็กซานเดอร์ (Paul Alexandre) ที่รักงานศิลปะ และเป็นนักสะสมที่คอยสนับสนุน และซื้อผลงานวาดเส้น และผลงานจิตรกรรมของเขาเสมอ ซึ่งช่วยให้โมดิลยานิ มีเงินทำงานศิลปะต่อไป

ต่อมาในปี พ.ศ.2457 เขาเริ่มมีผลงานจิตกรรมและวาดเส้น ที่เป็นภาพเหมือนและภาพเปลือย โดยไม่ยึดกฎเกณฑ์ของลัทธิศิลปะใดเป็นหลัก แต่ยังติดอยู่กับรูปแบบประติมากรรมของตนเอง ทำให้ภาพวาดของเขา มักจะมีใบหน้ายาวหรือคอยาว และเขียนส่วนอื่น ๆ ด้วยเส้นที่สัมพันธ์กันอย่างง่าย เช่น ภาพเหมือนสีน้ำมัน "Antonia", "Jean Cocteau", "Chaim Soutine Seated at a Table", "The Sculptor Jacques Lipchiz and His Wife Berthe Lipchiz" และผลงานที่มีลักษณะเฉพาะ อย่างชัดเจนคือ "Portrait of a Girl (Victoria)" โดยผลงานชิ้นนี้ ให้อารมณ์ที่เศร้าซึม ของหญิงสาวได้เป็นอย่างดี

ต่อมาในปี พ.ศ.2460 เขาเริ่มสนใจ การวาดภาพเปลือยมากขึ้น เช่น "Reclining Nude with Blue Cushion" , "Reclining Nude" และ "Nude Looking over her Right Shoulder" แม้ว่าเขาจะวาดภาพเปลือยไว้หลายชิ้น แต่ไม่เป็นที่ยอมรับ ของประชาชนในสมัยนั้น อีกทั้งยังถูกต่อต้าน และจัดให้เป็นจิตรกร และประติมากรชั้นเลว (Ies peintres maudits)

หลังจากที่โมดิลยานิได้พบกับ จีนน์ แฮบเบอเทิร์น (Jeanne Hebuterne) และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน จนมีลูกสาวหนึ่งคน เขาจึงวาดภาพเหมือนภรรยา เป็นจิตรกรรมสีน้ำมันบนผ้าใบขนาด 92 x 60 เซนติเมตร ชื่อ "Jeanne Hebuterne" ขึ้นมา

ด้วยสภาพความยากจน เพราะผลงานของเขา ขายได้เพียงชิ้นละไม่กี่ฟรังก์ ทำให้เขาหันไปดื่มสุราจัด เพื่อคลายความทุกข์ จนสุขภาพเสื่อมโทรมลง และกลายเป็นคนเจ้าอารมณ์ เขามักกล่าวว่า "I am going to drink myself death" ในที่สุดเขาก็ป่วยหนักขึ้น และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นสองวันต่อมา โมดิลยานิจึงเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 35 ปี เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2463

ต่อมาเมื่อภรรยาทราบข่าว การเสียชีวิตของสามี จึงตัดสินใจกระโดดหน้าต่างลงมา และเสียชีวิตพร้อมกับลูกที่อยู่ในครรภ์ ร่างของคนทั้งสอง ถูกฝังไว้ที่ สุสาน Pere-Lachaise ในฝรั่งเศส ซึ่งโนเอล อเล็กซานเดอร์ ลูกชายของ ดร.พอล อเล็กซานเดอร์ ได้รวบรวมผลงานวาดเส้น จำนวนกว่า 450 ชิ้น มาพิมพ์ไว้ในหนังสือชื่อ "The Unknown Modigliani" รวมทั้งมีการสร้างสถาบันอเมดิโอ โมดิลยานิ (Amedeo Modigliani Institute) เพื่อรวบรวมผลงานศิลปะของเขามาจัดแสดง ให้แก่ศิลปินที่เคยได้ชื่อว่า เป็นศิลปินชั้นเลว แต่บัดนี้เขากลายเป็น ศิลปินสมัยใหม่คนสำคัญของอิตาลี

Source : //movies.yahoo.com/movie/1808649669/info
//www.pakxe.com/home/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=724

//www.magicbox.cz/dvd/modigliani

Create Date : 23 ตุลาคม 2550

Last Update : 10 มกราคม 2551 18:35:41 น.

22 comments

Counter : 7298 Pageviews.

โดย: Michiru

วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:8:46:53 น.

ว้าว.....ชอบอ่านเรื่องกวี+นักศิลป์ เพราะพวกนี้มีจิตใจที่เห็นความสวยงาม จึงรังสรรค์สิ่งสวยๆงามๆออกมาได้

ชอบๆ นี่เลยต้องไปค้นเรื่องนายคนนี้เพิ่มเลย........

เดี๋ยววันนี้เขียนเรื่องหนังสวยๆงามๆดี

Beauty is in the eye of the beholder!!!!

โดย: Michiru วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:8:46:53 น.

ตอบ เย๊เย๊ๆๆ ดีจายย ดีจายย รออ่าน

โมดิก เป็นคนรักครอบครัวและเป็นศิลปินเจงเจง

การที่โมดิกตาย และภารยาเค้าตาย มานกะกลายเป็นตำนานอ่า

ทำให้ dealer painter ปั่น ภาพเค้ากะมีราคาขึ้นมา

ปิกาสโซ่อายุยืนอะ ที่นี้ ปิกาสโซ่กะpanic กะตัวเอง
เพระปิกาสโซ่ดังม๊ากกกก ทำให้ก่อนตายปิกาสโซ่ถึงกะเอ่ย ชื่อ โมดิกก่อนตายอ่า

อันนี้ฟามเห็นส่วนตัวเราเจงเจง ออกฟามเห็นนี้ อาจเจอ Footnote ส้น_Teen ได้อะ

เรื่องเกี่ยวกะชีวิต dealer painter เราเขียนแว๊วว เรื่องMAX(2000) เป็นนักปั่น ปั้น จิตกรชาวยิว กำลังจะปั้นฮิตเลอร์ ดันถูกเก็บซะก่อน ฮิตเลอร์เลยกลายเป็น ผู้นำนาซีอ่า

dealer painter นี้กะแสบเหมือนกานอะ ลูกค้าอยากได้ภาพของจิตกรดังๆๆ มีครับมี แฮะแฮะ ไปจ้าง ศิลปินโนเนมาเขียอ่า

โดย: Bernadette

วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:9:46:48 น.

เจ๋งไปเลยอะหนังเรื่องนี้
แต่ก็ยังไม่ได้ดูอีกน่ะเเหละครับ ไม่เคยเห็นแม้แต่ปก
อายเน้อ... เห้นเกริน บอกว่า เป็นหนังในดวงใจของคนหลายๆๆล้านคน
เฮ้อ.. ไม่รุ้จัก ซะงั้นง่ะ แต่ก็มารู้จักตอนนี้ก็คงยังไม่สายเน้อ
มีบล็อกดีๆ หนังดีๆ เราก็ไม่ตกเทรนแล้วล่ะ
*ภาพสวยอีกแล้วอะครับ

โดย: haro_haro

วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:9:49:33 น.

อีกอย่างที่อยากดูเรื่องนี้เพราะแอนดี้ การ์เซียนี่แหละจ้า......

โดย: Michiru

วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:10:21:20 น.

เจ๋งไปเลยอะหนังเรื่องนี้
แต่ก็ยังไม่ได้ดูอีกน่ะเเหละครับ ไม่เคยเห็นแม้แต่ปก
อายเน้อ... เห้นเกริน บอกว่า เป็นหนังในดวงใจของคนหลายๆๆล้านคน
เฮ้อ.. ไม่รุ้จัก ซะงั้นง่ะ แต่ก็มารู้จักตอนนี้ก็คงยังไม่สายเน้อ
มีบล็อกดีๆ หนังดีๆ เราก็ไม่ตกเทรนแล้วล่ะ
*ภาพสวยอีกแล้วอะครับ

โดย: haro_haro วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:9:49:33 น.

ตอบ คืองี้ โมดิก ดังม๊ากกกในสายตา ของคนต่างประเทศอะ ลองsearch ดู จาเห็นเรื่องของเค้าอะ มีคนเอามาทำบล๊อคกะเยอะ ส่วนม๊ากเป็นนักศิลปะ และหนังได้รับรางวัลเยอะ ที่ให้นี้ ชีวิตของโมดิกอะปะมะยู้

และได้รับคำวิจารณ์จากนิตยสาร หรือหนังสือดังๆๆเยอะอะ
นิวยอร์กไทม์กะหนึ่งแหละ หนังสือแวดวงศิลปะเยอะอะ

หนังเคยฉายในเมืองไทย ปี 2005 งานบางกอกฟิมส์เฟรสติเวิลลล

และที่สำคัญคือ เค้าทำให้ปิกาสโซ่ panic ได้ ในหนังสื่อ ปิกาสโซ่ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่ตอนมีชีวิต ใช้ชีวิตหรูหรา
แต่โมดิกนี้ เมาหยำเปอะ

และ ศตวรรษที่ 19 นี้ ศิลปิน อิตาลี ประมาณว่า ไม่ดัง
อ่ากะต้องขุนให้ดังม้างงจิ๊ หน้าตาแวดวงศิลปะนิ๊ อิตาลีเค้าดังม๊ากกยุค เรเนซองส์อะ

โดย: Bernadette

วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:10:24:39 น.

อีกอย่างที่อยากดูเรื่องนี้เพราะแอนดี้ การ์เซียนี่แหละจ้า......

โดย: Michiru วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:10:21:20 น.

ตอบ เดี๊ยวส่งปายยยให้จ้า

โดย: Bernadette

วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:10:25:59 น.

ตอบ เดี๊ยวส่งปายยยให้จ้า

โดย: Bernadette วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:10:25:59 น.

แต๊ง ยู หลายๆเด้อ......

โดย: Michiru

วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:10:36:49 น.

ตอบ เดี๊ยวส่งปายยยให้จ้า

โดย: Bernadette วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:10:25:59 น.

แต๊ง ยู หลายๆเด้อ......

โดย: Michiru วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:10:36:49 น.

ตอบ My pleasure จ้า

โดย: Bernadette

วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:10:41:04 น.

วันนี้อัพแล้วน๊า.......

ยังไม่ได้เขียนเรื่อง Beauty is in the eye of the beholder!!!! เพราะไปอ่านเจอข่าวที่มีคนตกจากเครื่องบินซะก่อน

เดี๋ยวติดหนี้ไว้ ค่อยอัพวันหน้าเน้อ.....

โดย: Michiru

วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:14:24:17 น.

โดย: Bernadette

วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:15:53:34 น.

เข้ามาดูคนหัวใจศิลป์ เค้าคุยกันง่ะ อิอิ

โดย: haro_haro

วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:16:43:48 น.

เข้ามาดูคนหัวใจศิลป์ เค้าคุยกันง่ะ อิอิ

โดย: haro_haro วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:16:43:48 น.

ตอบ ฉานหัวจายยยย จับฉ่ายยยย๊ะ หน้าจาเป็นจับฉ่ายยแหละ

จาเขียนหนังสมุนฮิตเล่อร์ต่อ ดีอะปะเนี๊ยะให้เอียนกานไปเล๊ยย นูแรมเบิก อ่า อีตานี้ ฆ่าคนเยอะ รมแกสชาวยิวอ่า
ขึ้นศาลโลกตัดสินแก ประหาร หน้าตาแกไม่สะทกสะท้านเล๊ยย แกบอกว่า มานเป็นหน้าที่อะ

ใครจาเหมือนหลอนเล่า กุ๊กกิ๊กกุกกิ๊กกกกกก

โดย: Bernadette

วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:18:02:32 น.

โห ทำไมว่างอัพได้บ่อยๆขนาดนี้หนอ อยู่หน้าคอม 24/7 ป่าวเนี่ย...

เอะ ไม่ได้ดูเรื่องนี้อีกแล้ว ทำไมหนอ ศิลปินก้ออย่างนี้แหละเนอะ พอเสียชีวิตไป
บางภาพวาดมีราคามากกว่ากับที่คนๆนั้นหามาได้ทั้งชีวิตซะอีก

โดย: BloodyMonday

วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:20:48:28 น.

โห ทำไมว่างอัพได้บ่อยๆขนาดนี้หนอ อยู่หน้าคอม 24/7 ป่าวเนี่ย...

ตอบ บ้าเหรอหล่อน ฉานอัพหนังพื้น 30 นาทีกะเรียบร้อยแหละ หนังประวัติศาสตร์ กะขอเวลาหน่อย ปวดแขนงะพิมพ์ซ๊ะเมื่อย

ทำงานเด๊ะ แต่งานมานต้องใช้คอมด้วยยยงะ ไม่ทำงานเอาไรกินเล่า เง๊อออออออ

เอะ ไม่ได้ดูเรื่องนี้อีกแล้ว ทำไมหนอ ศิลปินก้ออย่างนี้แหละเนอะ พอเสียชีวิตไป
บางภาพวาดมีราคามากกว่ากับที่คนๆนั้นหามาได้ทั้งชีวิตซะอีก
โดย: BloodyMonday วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:20:48:28 น.

ตอบ ตามน้านนนน

โดย: Bernadette

วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:21:06:36 น.

น่าดูนะเนี่ย

โดย: joblovenuk

วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:1:28:11 น.

โดย: annie_martian

วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:8:42:00 น.

น่าดูนะเนี่ย

โดย: joblovenuk วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:1:28:11 น.

ตอบ ตามน้านนนก๊าบบบ

โดย: Bernadette

วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:9:42:46 น.

ไม่รู้จักศิลปินคนนี้มาก่อนเลย...ภาพของเค้าสวยดีนะคะ
แต่อาจเป็นเพราะสัดส่วนที่ผิดเพี้ยน(หน้ายาว คอยาว)ก้อเลยทำให้เป็นที่ยอมรับยากมั้ง

เศร้าจัง...

แวะมาอรุณสวัสดิ์ค่ะ

โดย: annie_martian วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:8:42:00 น.

ตอบ สถาปนิกสาวมาอธิบายให้เสร็จสรรพ ง่า ขอบพระคุงที่อธิบายเพิ่มก๊าบบบ งานของเค้าประมาณ 400 กว่าภาพ แต่ดังงงงงง

โดย: Bernadette

วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:9:45:56 น.

หนังน่าดูจัง แบร์

ชอบ แอนดี้ การ์เซีย อยู่แล้ว เล่นหนังเก่งดี เข้มส์ๆๆด้วย

เรารูปดาลีง่ะ ที่แบร์เคยเขียน

โดย: mr.cozy

วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:12:09:14 น.

หนังน่าดูจัง แบร์

ชอบ แอนดี้ การ์เซีย อยู่แล้ว เล่นหนังเก่งดี เข้มส์ๆๆด้วย

เรารูปดาลีง่ะ ที่แบร์เคยเขียน

โดย: mr.cozy วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:12:09:14 น.

ตอบ เรื่องของ อีตา ดาลี่ ซาลซาววาดอร์เหรอ ชอบรูป เซ้นจอร์น อ๊อฟ เดอะ ครอส เหรอ เคยเขียนแหละ แต่เขียนเรื่องรูป เดี๊ยวหาดูว่ามีหนังของอีตาคนนี้อะปะงะ
มีแต่สารคดีง่า

เราชอบที่ อีตาดาลี่ เอาภาพเปอร์สเป็กตีพ ใส่เข้าไป ทำให้เรามองภาพ เป็น un limited ไม่มีที่สิ้นสุด ก่อนแกเขียนภาพนี้ แก ใช้แบบ ลงทุนนายแบบจากฮอลลี่วู๊ตมาเลยแหละ

ดาลี่ วาดภาพธรรมดามะเกิด เขียนภาพเกี่ยวกะ ศาสนา เกิดเลย ....................เกิดถูกด่าอะจิ๊

Saint john of the cross

ได้รับคำวิจารณ์ แง่บวกแง่ลบอย่างมากมาย เลยดังอะ ดันฉีกแหวกแนว ออกมาขนาดนี้ อ่า

และDali กะเกิดจากการวาดภาพแนวศาสนา เพียบภาพแกอะ

ตอนนี้ภาพนี้อยู่ที่museam เมืองกลาสโกว์ประเทศอังกฤษอะ คนอังกฤษกะบอก งั้นๆๆแหละ ตอนที่อังกฤษ ซื้อไปในราคา 8000 ปอนด์ม้างง ในช่วงสงครามโลกอะ แต่ทั่วโลกให้การยอมรับอะ โอ๊ววิเศษที่สุด ภาพเปอร์สเปกตีพ กล้าที่จะเอามาใส่ ดาลี่แกเป็นจิตกรชาวสเปนอะ

ภาพที่คุ้นตามองแล้วรู้ว่าเป็นงานของ Dali

โดย: Bernadette

วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:12:39:58 น.

มาอีกแล้ว ขาประจำครับ ผมหาหนังมาได้แล้ว
ใหม่เอี่ยม..อิอิ..รูปจากหนังน่ะ ยังจำได้อะป่าว

.......picture in movie

โดย: haro_haro

วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:13:50:06 น.

มาอีกแล้ว ขาประจำครับ ผมหาหนังมาได้แล้ว
ใหม่เอี่ยม..อิอิ..รูปจากหนังน่ะ ยังจำได้อะป่าว

.......picture in movie

โดย: haro_haro วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:13:50:06 น.

ตอบ เรื่องสันธนาการ ใครจะเกินหล่อนเนี๊ยะ

โดย: Bernadette

วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:14:46:49 น.