The Borgia(1981): AMBITION PASSION POWER

เรื่องที่จะพูดถึง คือ เรื่องของ ตะกูล บอร์เจีย

เรื่องเดิมๆๆ เขียนเรื่องนี้ท้าทาย อาจโดนสรรเสริญ ได้ ความเห็นส่วนตัวค่ะ ขอโทษด้วยค่ะ

ambition [N] ความทะเยอทะยาน, See also: ความปรารถนาอันแรงกล้า, ความมักใหญ่ใฝ่สูง, Syn. aspiration
ambition [N] จุดมุ่งหมาย, See also: เป้าหมาย, Syn. gold, end (อันนี้เป็นสิ่งที่ดีอะ ฝรั่งชอบฝังหัวให้ใช้คำนี้บ่อยๆๆ ในหัวใจอะ)

passion (แพช'เชิน) n. กิเลส,ตันหา,อารมณ์,โทสะ, S. . passional adj.

power [N] อำนาจ, See also: อานุภาพ, อิทธิพล, Syn. authority, jurisdiction, Ant. powerlessness; subservience

source: //www.dcine.org/blog/imgpost/borgia.jpg

ถ้าเอ่ยถึง ศตวรรษที่ 15 ยุคเรเนซองส์ ยุคฟุ้มเฟือยที่สุด ยุคหรูหราที่สุด กามรมณ์ที่สุด แถม เว่อร์สุดสุด แหละกาน ทางศาสนากะเรียกว่า ยุคมืดอะ


IMPACT : ผลกระทบ คุณความดีที่ทิ้งไว้ ที่เห็นอะ ทำให้เกิดศิลปิน ยุคเรเนซองส์ชื่อดังมากมาย ดาร์วินชี ไมเคิลแองเจลโล etc..... และเป็นงานศิลปะที่หาค่าไม่ได้มาถึงทุกวันนี้
Machiavellian: การเมืองและนโยบายปีศาจของสหรัฐฯ (2)
Machiavellian Realism and U.S. Foreign Policy: Means and Ends
by Howard Zinn, ประมาณ แรงบันดาลใจในการเขียน เอาเรื่องของเซเซร่ามาเขียนเปรียบเปรยกะ อเมริกา


ถึงกะมีสารคดี เกี่ยวกะยุคนี้ว่า Saint or Sinner นักบุณหรือคนบาป หรือของBBCกะออกมาเหมือนกัน The Borgias หนังกะออกมา ปี 1981



ศตวรรษที่ 15 พระสันตปาปา อเล็กซานเดอร์ที่ 6Pope Alexander VI[1] (1 January 1431 – 18 August 1503), มีลูกนอกสมรสชื่อ เซเซร่าเบอร์เจีย และลูกสาว ลูเครเซีย ถูกพี่ชายและบิดา ใช้เป็ฯเครื่องมือทางการเมือง กะคือแต่งงานกับเจ้าเมือง ถึง 3 ครั้ง


และหนังสือ The Prince เขียนโดย Niccolo Machivelli เขียนให้กับ ลอเรนโซ่ เดอเมดิซี เจ้าครองแคว้น ฟีเรนเซ่ (ฟลอเรนซ์) กล่าวว่า
บรรดาผู้ครองรัฐที่ ที่โดดเด่น ได้รับการยกย่องเป็นแบบอย่างของการปกครอง ที่สามารถกระทำการ นอกบัญญัติศีลธรรมจรรยาได้ทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของ 3 ชาติ มากที่สุด คือ เซซาเร่ เบอร์เจีย ดยุค วาเนติโน


Source://www.blogdecine.com/images/3borgia.jpg
หลังจากที่ พระสันตปาปาสิ้นพระชมน์ ลูกสาวท่านกะไปหาผู้นำเมืองต่างๆๆกะไม่มีใครร่วมด้วย ในการกู้อำนาจกลับคืน เซเซร่าพี่ชายกะถูกฆ่าตายในสนามรบ

ในศตวรรษที่ 15 ยุคมืด เป็นความ ผิดพลาด ความอ่อนแอของพระศาสนจักร เป็นบทเรียน และนำไปสู่ความเข้มแข็งเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก

ทำให้เกิด สังคยานาวาติกัน
สังคายนาเมืองเตรนท์ (ปี 1545 - 1563) ปฎิรูปพระศาสนจักรเกิดขึ้น

ครั้งที่ 1 สังคายนาวาติกัน 1 ปี 1870 ปิดการประชุมอย่างรวดเร็ว เพราะเกิดสงครามฝรั่งเศสกะ ปรัสเซีย และชาตินิยมอิตาลี ยึดโรม

ครั้งที่ 2 สังคยานาวาติกัน 2 ปี 1960 ลายละเอียด ง่ายๆๆเดี๊ยวโพสไว้ข้างล่างอะ

และที่ญี่ปุ่น นำมาทำเป็นหนังสือการ์ตูน แปลเป็นไทยและ คุณหญงมงกุฎดอกไม้(Kakan no madonna) ผลงานชิ้นโบแดงต้น ศตวรรษที่ 19 ของ อ ไซโต จิโฮ และอีกเรื่องหนึ่งคือ คันตาเรลลา (Cantarella) ขอ อ.ยู ฮิกุริ


source : //auction.sanook.com/uploaded/MCATID246/CATID248/rad38306331724269777418980.jpg

การ์ตูน คุณหญิงมงกุฏดอกไม้ ให้ เซซร่า เบอร์เจียเป็นตัวร้าย แย่ง เลดี้เลโอโน่ หญิงสาวในภาพที่ ดาวินชี่ วาดไว้ จากแคว้นปาดัว และร่วมมือกะดาร์วินชี่ผลิตยาพิษจากผลึกมรกตดใช้บอลูนไปปล่อย เพื่อโจมตีนครที่กระด้างกระเดื่องต่อกองทัพศาสนจักร ดีที่พระสันตปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 6 สวรรณคตก่อน ที่เซเซร่าจะควมแคว้นได้



Source : //www.comtoon.com/database/jkl//vb000205/vb000205_vol_09.jpg
การ์ตูน คันตาเรลล่า ให้ภาพของ เซซร่า เบอร์เจีย ในฐานะโดนกระทำ เพราะเป็นลูกนอกสมรสของพระสันตปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 6 ถูกพี่ชายรังแก เกิมาถูกคาร์ดินัลโรคริโก สังเวยวิญญาณแลกกับมารขึ้นเป็นพระสันตปาปา เค้าต่อสู้กะตัวเอง ทะเยอทะยาน และด้านมืดในจิตใจเค้าด้วย

เวอร์ชั่นการ์ตูน เค้าเขียลายละเอียดการ์ตูน เค้ามาแหละกาน

ขู้อมูลจากที่นี้Source : //www.geocities.com/higuri_shrine/cantarela_sec/can_cast.htm
Characters in Cantarella



Borgia Family & Main Characters Side Characters



คำเตือน: รายละเอียดต่างๆที่ปรากฏในหน้า Characters นี้ เป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับทั้งในประวัติศาสตร์จริง และตัวเนื้อเรื่องของอ.ฮิงุริ ซึ่งล้วนมีเนื้อหาที่เป็น Spoiler อย่างมากของเรื่องคันตาเรลา


Cesare Borgia
(1475 - 1507)
- Archbishop of Valencia -
- Cardinal -
- Duke of Valentinois -
- Duke of Romagna -
เซซาเร บอร์เจีย

บุตรชายคนโตของสันตะปาปาอเ์ล็กซานเดอร์ี่ที่ 6 หรือเดิมคือคา์ืร์ดินัลโรดริโก บอร์เจีย ที่เกิดกับวานอซซา คัตตาเน เซซาเรได้รับการเลี้ยงดูและการศึกษาอบรมในโรมจนกระทั่งอายุ 12 ปี โรดริโกผู้เป็นบิดาจึงส่งไปเรียนที่วิทยาลัยในเมืองเปรูจา ที่ซึ่งเซซาเรได้รับการศึกษาเกี่ยวกับด้านเทววิทยา กฎหมาย และ มนุษยศาสตร์ เพื่่อจะได้เตรียมพร้อมกับการก้าวขึ้นสู่์อำนาจในวงการศาสนาต่อจากบิดา เมื่อคาร์ดินัลโรดริโกได้รับเลือกให้เป็นพระสันตะปาปา ก็ได้ผลักดันให้เซซาเรได้รับตำแหน่งอาร์คบิชอปแห่ง Valencia และต่อมาก็ได้เลื่อนขั้นเป็นคาร์ดินัลเมื่ออายุเพียง 18 ปี แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเพียงแค่ 5 ปีเซซาเรได้ลาจากสมณะเพศ และได้ดำรงตำแหน่งเป็นดุ๊ค ผู้ปกครองแคว้นวาเลนติโนและโรมานา และเป็นถึงผู้บัญชาการกองทัพแห่งศาสนจักร (Papacy)

เซซาเร บอร์เจีย คือหนึ่งในตัวอย่างของเจ้าผู้ปกครองที่มีความสามารถ ที่ Nicolo Machiavelli บันทึกเอาไว้ในหนังสือทฤษฎีแนวคิดทางการเมืองเรื่อง "เจ้าผู้ปกครอง" หรือ "The Prince" นั่นเอง ชีวิตและแนวทางแห่งความเป็นเจ้าผู้ปกครองของเซซาเรนั้น เต็มไปด้วยความเหี้ยมโหด เล่ห์เพทุบาย การใช้อิทธิพลมืด และการกระทำต่างๆเพื่อที่จะได้มาซึ่งอำนาจโดยที่ไม่สนวิธีการ ทั้งที่ตระกูลบอร์เจียยังอยู่ในฐานะของตระกูลสันตะปาปา ที่ควรจะมีความบริสุทธิ์และเป็นธรรม ซึ่งคุณลักษณะดังกล่าวของเขาได้ถูกบันทึกไว้ในผลงานชิ้นนี้ของมาเคียเวลลี ในฐานะหนึ่งในต้นแบบของเจ้าผู้ครองแคว้นตามหลักสัจจนิยม ความเหี้ยมโหดของเซซาเร ถูกบันทึกไว้ในรูปแบบของการทำสงครามต่อเนื่องทั่วคาบสมุทรอิตาลี และการทรมานเชลยศึกอย่างโหดเหี้ยม, การใช้เครือญาติ รวมถึงน้องสาวของตนเป็นเครื่องมือในการได้มาซึ่งอำนาจปกครองแคว้นต่างๆ, การกำจัดศัตรูทางการเมืองด้วยยาพิษและการลอบสังหาร ฯลฯ ความเก่งกาจในด้านการทำสงครามรวมทั้งเล่ห์ในด้านการฑูตของเขา ทำให้กองทัพศาสนจักรภายใต้อำนาจของตระกูลบอร์เจียได้รับชัยชนะท่วมท้น และได้สิทธิ์อำนาจเหนือดินแดนต่างๆจำนวนมาก แต่หลังจากที่โป๊บสิ้นพระชนม์อย่างปัจจุบันทันด่วนในปี 1503 และเซซาเรเกิดล้มเจ็บหนักในเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้การศึกชงัก รวมทั้งดินแดนที่เคยยึดครองไดูุ้ต้องสูญเสียไป และเมื่อคาร์ิดินัลโรเวเล ศัตรูของตระกูลบอร์เจียได้รับเลือกเป็นสันตะปาปาองค์ใหม่ ยุคสมัยความรุ่งโรจน์ของตระกูลบอร์เจีียก็สิ้นสุดลง เซซาเรถูกสันตะปาปาองค์ใหม่จับตัวไปคุมขังพร้อมทั้งสูญเสียอำนาจที่เคยมี และสุดท้ายก็เสียชีวิตในสนามรบในปี 1507

เซซาเรในเนื้อเรื่องของคันตาเรลา เดิมทีมีความแตกต่างไปจากบุคลิกของดุ๊คที่เหี้ยมโหด และเจ้าเล่ห์ตามที่ถูกบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์้ เซซาเรในวัยเด็กเป็นเด็กที่อ่อนโยน และค่อนข้างอ่อนไหวเนื่องจากไม่ได้รับความรักจากบิดา และในเรื่องเซซาเรก็ไม่ใช่บุตรของวานอซซา แต่เป็นลูกของชู้รักอีกคนของโรดริโกที่ชื่อนาคีเน่ คาร์ดินัลโรดริโกได้ทำสัญญาแลกเปลี่ยนสังเวยเซซาเรให้กับปิศาจ เพื่อให้ตนเองได้ตำแหน่งโป๊ป จึงทำให้เซซาเรเกิดมาพร้อมมีภูติพรายรายล้อมตัว เดิมทีเซซาเรยังไม่ถูกครอบงำจากอำนาจของปีศาจ แต่เมื่อเขาเคยเกือบจะเสียชีวิตครั้งหนึ่งตอนเด็ก ปิศาจได้ใช้พลังช่วยเหลือพร้อมสิงสู่ ผลจากการสิงของปิศาจทำให้เลือดของเซซาเรมีคุณสมบัติกลายเป็นยาพิษร้ายแรงที่ชื่อว่า "คันตาเรลา" รวมทั้งมีอำนาจในการสะกดจิตผู้อื่นและสังหารศัตรูด้วยพลังปิศาจ นอกจากนี้ยังทำให้บุคลิกของเซซาเรเปลี่ยนไป เป็นบุคลิกของเจ้าผู้ปกครองที่เจ้าเล่ห์ เหี้ยมโหดเหมือนที่ปรากฎในบันทึกประวัติศาสตร์ แต่อย่างไรก็ตามอ.ฮิงุริยังคงวางคาแร็กเตอร์ ์ให้เซซาเรยังไม่ถูกปิศาจเข้าครอบงำโดยสมบูรณ ์และยังคงมีด้านที่อ่อนโยนหลงเหลืออยู่

์Note: ในตำราภาษาไทยบางเล่มชื่อของเซซาเรจะถูกอ่านว่าซีซ่าร์ และสามารถดูรูปเหมือนของตัวละครตัวนี้ได้ >> ที่นี่




Rodrigo Borgia salito al soglio
Rodrigo Borgia
(1431 -1503)
- Cardinal -
- Pope Alexander VI -
คาร์ดินัลโรดริโก บอร์เจีย (สันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 6)

สันตะปาปาผู้อื้อฉาว ที่ทำให้ศาสนจักรและคาบสมุีทรอิตาลีในยุคเรเนซองส์วุ่นวาย และเต็มไปด้วยปัญหาทางด้านการเืมืองและเรื่องอื้อฉาวทางกามารมณ์ โรดริโก บอร์เจีย สืบเชื้อสายจากตระกูลชั้นสูงของเสปน (ในอดีตเรียกว่าตระกูล de Borja) เขาติดตาม Alfonso de Borja ผู้เป็นลุงมายังกรุงโรม ซึ่งภายหลังอัลฟองโซ เดอ บอร์จาได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสันตะปาปาโดยมีนามว่า Calixtus ที่ 3 โรดริโกขึ้นสู่ตำแหน่งระดับสูงในศาสนจักรอย่างรวดเร็วเนื่องจากบารมีของผู้เป็นลุง และกลายเป็นคาร์ดินัล (พระราชาคณะ) และภายหลังได้เป็นหนึ่งในผู้ที่มีสิทธิ์จะสืบทอดตำแหน่งต่อจากสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 8 ซึ่งในขณะนั้นมีคาร์ดินัลโรเวเล่ที่ได้รับการสนับสนุนจากอินโนเซนท์ที่ 8 โดยตรงเป็นคู่แข่ง แต่หลังจากอินโนเซนท์ที่ 8 สิ้นพระชนม์ โรดริโกได้ใช้เงินจำนวนมหาศาล และข้อตกลงพิเศษต่างๆ ในการติดสินบนสมาชิกของสภาศาสนาจนตัวเองได้รับเลือกแทน และได้้นามเรียกขานว่า "สันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 6"

โป๊ปองค์นี้เป็นผู้ที่มีความทะเยอทะยานในอำนาจอย่างมาก และมักจะใช้อำนาจในฐานะพระสันตะปาปา ซึ่งในยุคนั้นมีบทบาทในทางการเมืองด้วยเพื่อผลประโยชน์ของวงศ์ตระกูล โดยพยายามที่จะขยายอิทธิพลทั้งทางด้านศาสนาและการเมือง ด้วยการผลักดันเชื้อสายตัวเองเข้าสู่อำนาจ โดยให้เซซาเรบุตรคนโตดำรงตำแหน่งคาร์ดินัล, ให้ฮวนดำรงตำแหน่งดุ๊คที่มีสิทธิ์ในบังลังก์ของเสปน, และให้บุตรคนอื่นๆสมรสกับเชื้อสายของผู้มีอิทธิพลของแคว้นต่างๆ โป๊ปและเซซาเรบุตรชาย ซึ่งภายหลังลาสมณะเพศและดำรงตำแหน่งดุ๊คถึง 2 แคว้น ร่วมมือกันเพื่อขยายอำนาจของวาติกันภายใต้ตระกูลบอร์เจีย ให้ครอบคลุมไปทั่วคาบสมุทรอิตาลี และยุโรปตอนใต้ ทั้งด้วยวิธีทางการฑูต และการทำสงคราม แต่ก็ล้มเหลวเมื่อโป๊บสิ้นพระชนม์อย่างปัจจุบันทันด่วนในปี 1503

นอกจากนี้อเล็กซานเดอร์ที่ 6 หรือโรดริโกยังมีชื่อเสียงในเรื่องความเจ้าชู้อย่างมาก โดยเขามีชู้รักและบุตรจำนวนมากมาย ซึ่งขัดกับข้อห้ามที่มิให้นักบวชระดับสูงมีครอบครัว ชู้รักที่เป็นที่โปรดปรานที่สุดของโรดริโกคือ วานอซซา คัตตาเน ซึ่งบุตรที่เกิดจากเธอก็ล้วนเป็นบุตรคนโปรดของโรดริโก และได้รับอำนาจอิทธิพลต่างๆมากที่สุดในตระกูลเมื่อโรดริโกได้เป็นสันตะปาปา แต่อย่างไรก็ตามเพื่อปกปิดเรื่องที่ตนครองสมณะเพศ แต่กลับไปมีครอบครัวอยู่เป็นจำนวนมาก โรดริโกกล่าวอ้างว่าบุตรทั้งหลายที่เกิดกับวานอซซานั้นเป็นหลานของตนมิใช่ลูก และแม้จะหลังจากที่ได้รับตำแหน่งสันตะปาปาแล้วก็ตาม อเล็กซานเดอร์ที่ 6 ก็ยังคงมีข่าวในทางชู้สาวกับสตรีอีกจำนวนไม่น้อย


ตามเนื้อเรื่องของคันตาเรลา โรดริโกได้ทำสัญญาแลกเปลี่ยนเซซาเรกับปิศาจเพื่อให้ตนเองได้ตำแหน่งโป๊ป และรู้สึกเกรงกลัวในบาปที่ตัวเองทำลงไป จึงหวาดกลัว และรังเกียจเซซาเรอย่างเห็นได้ชัด และพยายามขับไล่ไสส่งให้ไปอยู่ห่างไกล แต่ภายหลังจำต้องอาศัยเล่ห์เหลี่ยม และพลังปิศาจของเซซาเรในการขยายอิทธิพลของตนเอง จึงให้เซซาเรได้ใกล้ชิดในลักษณะเป็นที่ปรึกษา





Vannozza Cattanei
(1442 - 1518)
วานอซซา คัตตาเน

ชู้รักคนโปรดของคาร์ดินัลโรดริโก และเป็นมารดาของเหล่าทายาทตระกูลบอร์เจีย กลุ่มที่มีอิทธิพลที่สุดในคาบสมุทรอิตาลีช่วงศตวรรษที่ 16 วานอซซามีบุตร 4 คนกับโรดริโกได้แก่ เซซาเร, ฮวน, ลูเครเซีย และโฮเฟร แต่ก็ถูกพรากจากกันตั้งแต่ลูกๆของเธอยังเด็กอยู่ โดยที่โรดริโกบีบให้เธอไปแต่งงานกับชายอื่น เพื่อลบคำครหาเรื่องความสัมพันธ์์ของทั้งคู่ เนื่องจากในระหว่างนั้นโรดริโกกำลังอยู่ในระหว่าง การแย่งชิงฐานเสียงเพื่อก้าวสู่ตำแหน่งสันตะปาปา (ตามกฏของวาติกันนักบวชในระดับราชาคณะไม่สามารถมีครอบครัวได้ เนื่องจากถือเป็นการดูหมิ่นพระเจ้า) ถึงจะไม่ได้มีบทบาทสำคัญใดๆทางการเมืองก็ตาม แต่วานอซซาเป็นที่เคารพรักของลูกๆโดยเฉพาะเซซาเร โดยเคยมีคำกล่าวอ้างที่ว่า "ผู้ที่ดุ๊คแห่งวาเลนติโนที่เหี้ยมโหดคนนี้มีความอ่อนโยนให้นั้น มีเพียงวานอซซาผู้เป็นมารดา และลูเครเซียน้องสาวเท่านั้น" วานอซซามีชีวิตที่ยืนยาว จนกระทั่งได้เห็นความตายของโป๊ปและบุตรชายทั้ง 2 คน ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตด้วยโรคชรา

ตามเนื้อเรื่องของคันตาเรลา บุตรของวานอซซากับคาร์ดินัลโรดริโกมีเพียงแค่ 3 คน และเธอกลายเป็นแม่บุญธรรมของเซซาเรแทน วานอซซ่ามีบุคลิกที่อ่อนโยน และยุติธรรม โดยที่เธอให้ความรักกับเซซาเรอย่างเท่าเทียมกับลูกๆของเธอ นอกจากนี้เธอยังมีแสงรัศมีที่สามารถขับไล่ภูติพราย ที่คอยหลอกหลอนเซซาเรในวัยเด็กได้ วานอซซาเป็นที่พึ่งทางใจของเซซาเร ที่ถูกบิดารังเกียจจนกระทั่งเธอถูกบีบให้ต้องแต่งงานและจากไป




Juan Borgia
(1476 - 1497)
- Duke of Gandia -
ฮวน บอร์เจีย (ฆวน)

บุตรชายคนรองของโป๊ปและวานอซซา ได้รับสืบทอดตำแหน่งดุ๊คแห่งกานเดียต่อจาก เปโดร หลุยส์ พี่ชายต่างมารดาที่เสียชีวิตไป ฮวนถือเป็นคู่แข่งในทางอำนาจของเซซาเร เนื่องจากได้รับตำแหน่งเป็นถึงดุ๊ค ที่มีอิทธิพลถึงที่อาจจะได้มีสิทธิ์ในบัลลังก์ของเสปน ซึ่งเดิมทีเป็นตำแหน่งที่เซซาเรเองก็ต้องการ และก็น่าจะได้ครอบครองตามสิทธิของบุตรคนโต แต่เนื่องจากโป๊ปต้องการให้มีเชื้อสายของตนเองมีอิทธิพลทางวงการศาสนา จึงจับให้เซซาเรดำรงสมณะเพศ และยกตำแหน่งนี้ให้ฮวนที่เป็นน้องชายแทน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้เซซาเรอย่างมาก จนมีข่าวลือกันว่าการที่ภายหลัง ดุ๊คแห่งกานเดียผู้นี้ ถูกลอบสังหารและศพถูกนำไปทิ้งในแม่นํ้าโดยที่จับตัวผู้ลงมือไม่ได้ น่าจะเป็นฝีมือของดอน มิเคล็อตโต ตามคำสั่งของเซซาเร

ฮวนในเนื้อเรื่องจะกลายเป็นบุตรคนโตของวานอซซาแทน เขามีนิสัยเกเร ยิ่งยะโส และคอยหาเรื่องกลั่นแกล้งเซซาเรเสมอตั้งแต่ทั้งคู่ยังเด็ก ทั้งนี้ด้วยความอิจฉาที่เซซาเรเป็นที่เอ็นดูของวานอซซา และเป็นที่รักของลูเครเซีย แต่อย่างไรก็ตามฮวนกลับเป็นที่รักและมักจะถูกตามใจโดยโป๊ปผู้เป็นพ่ออย่างมาก ภายหลังเมื่อฮวนล่วงรู้ถึงความลับเรื่องพลังปิศาจของเซซาเร ก็แสดงออกท่าทีรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด แต่ในขณะเดียวกันก็ริษยาที่คนสำคัญของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นคนที่นับถือ หรือคนรัก ถูกเซซาเรและมิเคล็อตโตดึงความสนใจไปหมด ฮวนจึงพยายามลอบสังหารเซซาเรแต่ไม่เป็นผลสำเร็จ และกลับถูกเซซาเรสังหารแทน




Lucrezia Borgia
(1480 -1519)
- Countess of Pesaro -
- Duchess of Bisceglie -
- Duchess of Ferrara -
ลูเครเซีย บอร์เจีย

บุตรสาวของโป๊ปอเ็้ล็กซานเดอร์ที่ 6 และวานอซซา คัตตาเน ลูเครเซียถูกบิดาและพี่ชายใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์ทางการเมือง ด้วยการให้แต่งงานไปกับผู้มีอำนาจของแคว้นต่างๆถึง 3 ครั้ง แต่ละครั้งเมื่อฝ่ายสามีหมดประโยชน์ทางการเมือง บิดาและพี่ชายของเธอจะวางแผนให้ลูเครเซียหย่าขาดจากสามี หรือส่งคนไปลอบสังหาร เธอได้รับตำแหน่งเป็นเคาท์เตสแห่ง Pesaro จากการแต่งงานครั้งแรก ตำแหน่งดัชเชสแห่ง Bisceglie จากการแต่งงานครั้งที่สอง และสุดท้ายคือตำแหน่งเคาท์เตสแห่ง Ferrara ซึ่งเธอได้ถือครองบรรดาศักดิ์สุดท้ายนี้ไปจนกระทั่งเสียชีวิต

ตามประวัติศาสตร์ได้บันทึกประเด็นน่าสนใจที่ว่าลูเครเซียและเซซาเร พี่ชายคนโตมีความผูกพันกันมาก ถึงขนาดที่ดุ๊คผู้คิดแต่เรื่องการขยายอำนาจคนนี้ ยอมพักการวางแผนเตรียมการรุกคืบหน้าในการโจมตีอณาจักรอื่น และเดินทางไปเฝ้าไข้ลูเครเซียที่อณาจักรของสามีของน้องสาว และนอกจากนี้ยังมีข่าวลือแพร่สะพัดว่าลูเครเซีย และเซซาเรมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวต่อกันอีกด้วย

ในเรื่องคันตาเรลา ความสัมพันธ์ระหว่างลูเครเซียและเซซาเร จะเป็นในลักษณะพี่น้องที่มีความผูกพันกันมาก และก็มีการเล่นประเด็นความสัมพันธ์ัฉันท์ชู้สาวระหว่างทั้งคู่ เช่นเดียวกับที่มีปรากฏในผลงานเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของตระกูลนี้ (เช่น Kakan no Madonna ของไซโต จิโฮ) แต่จะออกมาในลักษณะที่เป็นความรู้สึกข้างเดียวของลูเครเซียเท่านั้น ซึ่งลุเครเซียจะมีความรู้สึกที่ทั้งเคารพ ทั้งหลงใหล และหวั่นไหวในเชิงหญิงชาย กับพี่ชายซึ่งในเรื่องคันตาเรลาจะเป็นพี่ชายต่างมารดา โดยที่เซซาเรจะมองลูเครเซียเป็นเพียงน้องสาวที่รักเท่านั้น และไม่ยอมตอบสนองความรู้สึกในเชิงชู้สาวของเธอ ซึ่งในภายหลังนอกจากเซซาเรแล้วลูเครเซียเองยังมีความรู้สึกพิเศษต่อมิเคล็อตโต ผู้ติดตามของพี่ชายอีกด้วย

Note: สามารถดูรูปเหมือนของตัวละครตัวนี้ได้ >> ที่นี่




Jofre Borgia
(1481 - 1552)
- Prince of Squillace -
โฮเฟร บอร์เจีย (โฆเฟร)

บุตรชายคนเ็้ล็กของโป๊ปอเล็กซานเดอร์ที่ 6 ที่เกิดกับวานอซซา คัตตาเน และมีศัิกดิ์เป็นเจ้าชายแห่งแคว้น Squillace โฮเฟรถูกจับให้แต่งงานทางการเมืองกับซานช่า ดาราโกน่าแห่งนาโปลีตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อผลประโยชน์ในการเชื่อมความสัมพันธ์ของนาโปลีกับศาสนจักร ในเรื่องโฮเฟรมีบุคลิกที่ขี้แยเหมือนกับเด็ก เช่นเดียวกับรูปร่างหน้าตาที่ดูอ่อนแอ จึงเป็นที่รำคาญของซานช่าผู้เป็นภรรยาอย่างมาก




Michele da Corella, Chiaro
(Don Michelotto)
มิเคเล ดา โคเรลลา

ผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์ของเซซาเ์ร บอร์เจีย และนักฆ่าที่เป็นที่หวาดกลัวที่สุดทั่วอณาจักรในคาบสมุทรอิตาลีภายใต้ฉายา "ดอน มิเคล็อตโต" เขามีบทบาทในการลอบสังหารผู้นำ และเชื้อพระวงศ์ของแคว้นต่างๆจำนวนมาก ตามคำสั่งของเซซาเรในยุคที่ตระกูลบอร์เจียเรืองอำนาจ

ในเนื้อเรื่องของคันตาเรลา มิเคล็อตโต มีชื่อที่ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "คิอาโร" และฉายา "ดอน มิเคล็อตโต" กลายเป็นชื่อของ ผู้ที่ดำรงตำแหน่งนักลอบสังหารประจำตระกูลของเขาแทน ซึ่งเดิมทีเป็นชื่อที่ใช้เรียกมิคาเอลบิดาของเขาที่ภายหลังเสียสติไม่สามารถทำงานได้ คิอาโรที่รับหน้าที่ต่อจากบิดาจึงถูกเรียกเช่นนั้นเหมือนกันในภายหลัง เดิมทีคิอาโรเป็นนักฆ่าในสังกัดลูกน้องของคาร์ดินัลโรเวเล่ ศัตรูของตระกูลบอร์เจีย และถูกส่งให้มาสังหารเซซาเร แต่ก็กลายมาเป็นผู้ติดตามและสหายของเซซาเรในภายหลัง คิอาโรเป็นคนที่มี "รัศมีของเทวดา" ที่สามารถขับไล่ความชั่วร้ายและภูติพรายที่รบกวนเซซาเรได้เช่นเดียวกับวานอซซา เซซาเรจึงให้เขาคอยติดตามตัวเองอยู่เสมอ โดยในขณะที่ทำหน้าที่ผู้ติดตาม คิอาโรจะถูกเรียกว่ามิเคล็อตโต และต้องสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าตัวเองตลอดเวลา

คิอาโร หรือมิเคล็อตโตของอ.ฮิงุริ มีความแตกต่างกับภาพลักษณ์นักฆ่าเหี้ยมโหด ที่จงรักภักดีกับผู้เป็นนายตามที่ถูกกล่าวขานอย่างมาก มิเคล็อตโตในเรื่องจะมีบุคลิกร่าเริงขี้เล่ี่น สุภาพอ่่อนโยน และไม่ชอบงานนักฆ่าของตัวเองอย่างมาก และความสัมพันธ์ที่มีต่อเซซาเร จะเป็นในลักษณะของเพื่อนมากกว่าเจ้านายและูุลูกน้อง นอกจากนี้คิอาโรเองยังมีความสัมพันธ์ที่พิเศษกับลูเครเซีย น้องสาวของเซซาเรอีกด้วย




Nicolo Machiavelli
(1496 - 1527)


นิโคโล มาเคียเวลลี

บิดาแห่งทฤษฏีรัฐศาสตร์ยุคใหม่ มาเคียเวลลีเป็นนักปรัชญาและนักการฑูตประจำแคว้นฟิเรนเซ่ ซึ่งเดิมทีเจริญรุ่งเรืองสูงสุดภายใต้การนำของตระกูลเมดิซี (Medici) ในยุคก่อนที่ตระกูลบอร์เจียจะเข้ามามีบทบาททางการเมืองในคาบสมุทรอิตาลี เขามีผลงานการประพันธ์หนังสือ ที่ีภายหลังกลายมาเป็นต้นแบบแนวคิดทางการเมืองสมัยใหม่จำนวนมาก ซึ่งที่โดดเด่นและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย ได้แก่ The Prince และ The Art of War ซึ่งนำเสนอกุศโลบายอันแยบยลต่างๆใน การได้มาซึ่งอำนาจ, การทำสงคราม, และการปกครองแคว้นให้แก่ผู้ปกครอง ซึ่งแนวคิดต่างๆ ที่ถูกนำเสนอในผลงานของเขาีนั้น ขัดแย้งกับแนวคิดผู้ปกครองในอุดมคติ ที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม เมตตาธรรม ของยุคสมัยดังกล่าวอย่างรุนแรง ยกตัวอย่างเช่น การแนะนำให้เจ้าผู้ปกครองมีทั้งลักษณะอันเหี้ยมหาญ และทักษะความเจ้าเล่ห์เพทุบายในตัว รวมทั้งกระทำการทุกอย่างได้เพื่อผลประโยชน์ของแคว้น จนถูกพระสันตะปาปาในยุคนั้นสั่งห้ามเผยแพร่ผลงาน

ภายหลังผลงานของมาเคียเวลลีโดยเฉพาะอย่างยิ่ง The Prince ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย ในฐานะตำราต้นแบบหลักการปกครองแนวสัจจนิยม (Realism) ซึ่งในผลงานชิ้นนี้ของเขา ได้มีการกล่าวถึงตัวอย่างของเจ้าผู้ปกครองหลายท่าน ที่มีคุณสมบัติ และคุณลักษณะของนักปกครองที่เก่งกาจ ซึ่งเซซาเร บอร์เจีย หรือดุ๊คแห่งวาเลนติโน ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างของเจ้าผู้ปกครองที่มีความสามารถ ตามทรรศนะิของมาเคียเวลลี

ในเนื้อเรื่องของคันตาเรลา มาเคียเวลลีกลายเป็นพ่อมดลึกลับ ที่มีอำนาจแปลงร่างเป็นผีเสื้อกลางคืนได้ เขามีความสนใจในตัวของเซซาเรที่มีพลังของภูติพรายอยู่กับตัว และคอยเฝ้าดูการใช้ชีวิตเพื่อบรรลุถึงความทะเยอทะยาน ที่จะได้มาซึ่งอำนาจสิทธิ์ขาดเหนือคาบสมุทรอิตาลีของเซซาเีร




Source : //en.wikipedia.org/wiki/Rodrigo_Borgia

Create Date : 27 ตุลาคม 2550		11 comments
Last Update : 10 มกราคม 2551 18:35:51 น.
Counter : 9002 Pageviews.
Share Tweet