แบร์แนแด็ท....น่ารัก....น่ารัก ขี้ลืม.....ขี้ลืม ...... หนังปายหนายหว่า buy แล้ววbuyอีก......... faith, hope and charity เฟศบุ๊ค http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3
Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
30 มกราคม 2551
 
All Blogs
 

The White Knight (2006):Tirant lo Blanc Spanish film based on the 1490 Catalan language epic

The White Knight (2006) เป็น หนังสเปนหรือชื่อTirant lo Blanc สร้างจาก บทประพันธ์ ของ อัศวิน วาเลนเซีย Valencian knight Joanot Martorell ตีพิมพ์ใน วาเลนเซีย ปี 1490 ใช้ภาษา คาตารัน Catalan


Source://www.pisosmarbella.com/spanish-coast/images/spain-map.gif

แคว้นบาเลนเซีย (Valencian Community) มีชื่อทางการเป็นภาษาบาเลนเซีย[1] คือ โกมูนีตัต วาเลนเซียนา (Comunitat Valenciana) ซึ่งในภาษาสเปนเรียกว่า โกมูนีดัด บาเลนเซียนา (Comunidad Valenciana) เป็นแคว้นปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ทางตอนกลาง-ตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศสเปน ประกอบด้วย 3 จังหวัด เรียงจากทิศใต้ไปทางทิศเหนือ ได้แก่ จังหวัดอาลีกันเต/อาลากันต์ จังหวัดบาเลนเซีย/วาแลนเซีย และจังหวัดกัสเตยอง/กัสเตโย (ชื่อในภาษาสเปน/ภาษาบาเลนเซีย) [2]

แคว้นบาเลนเซียมีชายฝั่งติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนยาว 518 กิโลเมตร มีเนื้อที่ในปกครอง 23,255 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรประมาณ 4.8 ล้านคน (พ.ศ. 2548) ตามกฎหมายปกครองตนเองของแคว้น บาเลนเซียได้รับการจัดให้เป็นสัญชาติ (nationality) มีภาษาราชการ 2 ภาษา คือภาษาคาสตีลและภาษาบาเลนเซีย (ชื่อเรียกของภาษาคาตาลันในแคว้นนี้) ส่วนเมืองหลักของแคว้นคือ เมืองบาเลนเซีย


Tirant lo Blanch ในชื่อภาษาอังกฤษคือ The White Knight or Tirant the White,

Source://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/5/56/Tirant_lo_blanc.jpg/482px-Tirant_lo_blanc.jpg

Part of the dedication, and part of the last page of the 1490 edition.

นวนิยาย Tirant lo Blanch มีอิทธิพลต่องานเขียนของ Miguel de Cervantes' book, Don Quixote de la Mancha

ขออนุญาตินำบทความของ คุณแพร bookofpear เรื่องThe White Knight (2006) มาปะค่ะ
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=bookofpear


The White Knight

ไทแรนท์จากบริททานีสู่คอนสแตนติโนเปิล


ไทแรนท์ เลอ บลองค์ อัศวินหนุ่มแห่ง Brittany ได้เดินทางไปยังอาณาจักรไบซันเทียม ซึ่งมีศูนย์กลางที่คอนสแตนติโนเปิล เพื่อช่วยองค์จักรพรรดิ รบกับกองทัพมุสลิม หลังจากที่จักรพรรดิต้องสูญเสียพระโอรสไปเนื่องจากการรบ



องค์หญิงมอบเบาะทองให้ไทแรนท์ใช้รองเข่าในพิธีมิสซา


เมื่อไทแรนท์มาถึง องค์จักรพรรดิได้ออกมาต้อนรับเขาด้วยพระองค์เอง แต่นั่นไม่เท่ากับการที่เขาได้พบองค์หญิงคาเมซิน่า พระธิดาองค์เดียวของจักรพรรดิ ผู้มีสิริโฉมงดงามเป็นเลิศ


องค์หญิงจักรพรรดิและจักรพรรดินีเสด็จไปส่งกองทัพของไทแรนท์


องค์หญิงรู้สึกหนักใจยิ่ง เพราะแม้นางจะพึงพอใจไทแรนท์ แต่เขาก็เป็นเพียงอัศวิน หาได้คู่ควรกับนางผู้มีชาติตระกูลไม่ อีกทั้งนางยังได้รับคำบอกเล่าว่ามหาอุปราชของพวกเติร์กรูปงาม (ตรงไหนวะ ฉันพิศแล้วพิศอีก ไม่เห็นหล่อเลย) อีกทั้งยังจะได้เป็นใหญ่ในภายภาคหน้า แต่อุปสรรคที่สำคัญก็คือ เขาเป็นพวกมุสลิม ผู้ซึ่งหวังทำลายล้างชาวคริสต์



มหาอุปราชแห่งอาณาจักรออสโตมันและกองทัพของไทแรนท์


การศึกครั้งแรก เป็นไปอย่างที่คาดหมาย ไทแรนท์ได้ชัยชนะกลับมา สิ่งหนึ่งที่เขาคิดหลังจากพิชิตศึกก็คือการพิชิตพรหมจารีขององค์หญิงคาเมซิน่า ความพยายามของเขาด้วยความช่วยเหลือของเพลสเชอร์ ออฟ มายไลฟ์ (Pleasure of my life) นางกำนัลขององค์หญิงเกือบจะสำเร็จถ้าองค์หญิงไม่กรีดร้องลั่นปราสาท ทำให้เขาต้องโดดลงทางหน้าต่างและบาดเจ็บที่ขา



ไทแรนท์บุกเข้าไปหาองค์หญิง : จักรพรรดินีปลอบองค์หญิงที่ตกใจเสียขวัญ


หลังจากนั้นกองทัพเติร์กได้บุกเข้ามารุกรานและตีเอาเมืองเซนต์จอร์จได้ องค์จักรพรรดิเสียใจจนล้มป่วย ส่วนจักรพรรดินีก็ลุ่มหลงในกามตัณหากับฮิพโพลิตัสเด็กรับใช้อายุคราวลูก เพลสเชอร์จึงเสนอให้องค์หญิงยอมเป็นของไทแรนท์ เพราะมีเพียงเขาที่จะปกป้องนางจากพวกเติร์กได้ แต่ครั้งนี้ไทแรนท์กลับปฏิเสธ เพราะต้องการให้องค์หญิงเต็มใจ สร้างความซาบซึ้งให้แก่องค์หญิงยิ่งนัก



ไทแรนท์ออกศึกทั้งที่ยังขาหัก : ราชฑูตแห่งเติร์กมาสู่ขอองค์หญิง


สุลต่านแห่งบาบิโลเนียได้เสนอให้องค์หญิงคาเมซิน่าอภิเษกและหากมีโอรสจะต้องถูกเลี้ยงดูตามความเชื่อของอิสลาม หากองค์จักรพรรดิยินยอม สุลต่านก็จะยกเมืองที่ยึดไปคืนเพื่อตอบแทนการอภิเษก องค์จักรพรรดิได้ตัดสินใจยกองค์หญิงให้ในที่สุด แต่มีข้อแม้ว่าหากเด็กเป็นหญิง จะต้องถูกส่งกลับมาและถูกเลี้ยงดูอย่างชาวคาทอลิก ทันใดนั้น องค์หญิงคาเมซิน่าก็เดินเข้ามา พร้อมกับประกาศว่านางมีสัมพันธ์กับไทแรนท์แล้วต่อหน้าราชทูต ซึ่งนั่นคือการประกาศสงคราม!!!



องค์หญิงประกาศต่อหน้าราชฑูต : ไทแรนท์ต่อสู้กับมหาอุปราชเติร์ก


ในการศึกไทแรนท์ซึ่งขายังไม่หายเจ็บถูกฟันจนตกม้า แต่คนสนิทของเขาได้เดินเข้ามาเพื่อฟันขาของอุปราชชาวเติร์กจนไม่อาจยืนได้เช่นกัน ทั้งสองสู้กันอย่างสมศักดิ์ศรีและอุปราชก็ถูกไทแรนท์ฆ่าตายในที่สุด แต่อาการบาดเจ็บของไทแรนท์หนักหนามาก ในที่สุดเขาก็สิ้นใจ และทิ้งจดหมายไว้ให้กับองค์หญิงคาเมซิน่า


ไทแรนท์สั่งเสียกับคนสนิท : เพลสเชอร์อ่านจดหมายของไทแรนท์ต่อหน้าองค์หญิง


องค์หญิงคาเมซิน่าตรอมใจตายในอีก 2 เดือนต่อมา ส่วนจักรพรรดิก็พ่ายแพ้ต่อความชรา จักรพรรดินีอภิเษกกับฮิพโพลีตัสชู้รัก เขาได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิแห่งไบแซนเทียม และพวกเติร์กไม่ได้บุกคอนสแตนติโนเปิลอีกเลยในเวลานั้น



จูบอำลา : จักรพรรดิพระองค์ใหม่แห่งไบแซนเทียม


สำหรับหนังเรื่องนี้ อยากบอกว่าภาพสวย ฉากอลังการมากๆ เครื่องแต่งกายก็สวย แต่เท่าที่เคยอ่านเจอมา หลายท่านบอกว่ามันค่อนข้างจะหมิ่นเหม่ในศีลธรรมไปนิดหน่อย แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่ได้มากมายอะไร แม้เรื่องนี้จะได้ชื่อว่าเป็นหนังอีโรติค แต่ฉากอย่างว่าก็ไม่ได้มากมายนัก (เอ่อ...แอบผิดหวังง่ะ อะจ๊าย ล้อเล่น) หนังเกาหลีที่เราๆ ท่านๆ ดูกันยังเห็นกันจะๆ มากกว่านี้แยะเลย

สำหรับฉันมองว่าฉากอีโรติคเหล่านี้สื่อถึงจิตใจของตัวละครมากกว่า ว่ายังคงมีตัณหาราคะอยู่ อย่างจักรพรรดินีที่กระหายรัก จึงหาทางออกกับชายหนุ่มวัยคราวลูก กับแม่ม่ายผู้สงบเสงี่ยม (Peaceful widow) พระพี่เลี้ยงขององค์หญิง ที่แม้ว่าสามีจะตาย แต่เธอก็ยังต้องการใครสักคน แต่บังเอิญวิธีการที่เธอเลือกใช้มันออกจะไม่ถูกต้อง และก็บังเอิญอีกนั่นแหละ ที่ไดฟีบัสคนสนิทของไทแรนท์กับเพลชเชอร์นางกำนัลขององค์หญิงจับไต๋เธอได้ ไทแรนท์ก็เลยรอดมือมารมาอย่างหวุดหวิด และแม่ม่ายผู้สงบเสงี่ยมก็เกือบตายอย่างหวุดหวิดเช่นกัน ซึ่งฉันว่าสิ่งเหล่านั้นสื่อถึงจารีตของหญิงในยุคกลาง ที่เบื้องหน้าต้องสงบเสงี่ยม อาจทำให้พวกเธอเกิดความอัดอั้นตันใจ และพยายามหาทางระบายออกมา


แม่ม่ายผู้สงบเสงี่ยมยั่วยวนไทแรนท์ : จักรพรรดินีกับเด็กรับใช้


เรื่องนี้ความที่เป็นหนังโบราณ แน่นอนจะต้องมีคำพูดที่รจนาขึ้นอย่างหวานซึ้งให้เราได้ประทับใจกันหลายต่อหลายบท แต่ที่ฉันประทับใจมากที่สุดคือบทข้างล่างนี้

คำพูดดังกล่าวเป็นตอนที่ไทแรนท์พูดกับไดฟีบัสคนสนิทของเขา หลังจากพิธีมิสซาที่องค์หญิงมอบเบาะไหมทองให้ไทแรนท์ใช้คุกเข่า แต่ไทแรนท์ก็รู้ดีว่าการสมหวังกับองค์หญิงนั้นแสนยาก คำพูดนี้ช่างลึกซึ้งและกินใจผู้ฟังเหลือเกิน

ส่วนฉากที่ชอบ ชอบตอนที่ องค์หญิงไปกล่าวคำอำลาไทแรนต์ที่กระโจมก่อนที่เขาจะไปศึกครั้งแรกกับพวกเติร์ก แล้วก็เอ่ยถามคำถามนี้ “...ใครคือสตรีผู้ทรมานตัวท่าน” จากนั้นไทแรนท์ ก็เดินไปหยิบกระจก ยื่นให้องค์หญิงพร้อมกับบอกว่า “องค์หญิง นางผู้อยู่ตรงหน้าพระองค์ กุมชีวิตและความตายของหม่อมฉัน” อู๊ย! อะไรมันจะหวานปานนั้น คนโบราณนี่เขาละเมียดละไมกันจริงๆ

“องค์หญิง นางผู้อยู่ตรงหน้าพระองค์ กุมชีวิตและความตายของหม่อมฉัน”


สุดท้าย เรื่องนี้ก็จบลงด้วยความตายของอัศวิน และการขึ้นครองบัลลังก์ของจักรพรรดิใหม่ ความไม่แน่นอนก็คือความแน่นอนจริงๆ ใดใดในโลกล้วนแล้วแต่อนิจจัง สุดท้ายก็เหลือเพียงธุลี เช่นเดียวกับที่ไดฟีบัสพูดกับภรรยาของเขา

Last Update : 21 มกราคม 2551 22:25:15 น. 8 comments
Counter : 115 Pageviews.
Source: //en.wikipedia.org/wiki/Tirant_lo_Blanch




 

Create Date : 30 มกราคม 2551
11 comments
Last Update : 30 มกราคม 2551 11:09:17 น.
Counter : 3096 Pageviews.

 

จักรวรรดิไบแซนไทน์หรือไบแซนทิอุม (อังกฤษ: Byzantine Empire หรือ Byzantium ,กรีก: Βασιλεία των Ρωμαίων)
คือคำที่ใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมาเพื่อเรียกจักรวรรดิโรมันแห่งยุคกลางที่ใช้ภาษากรีกในภาษาหลัก (ต่างจากจักรวรรดิโรมันในยุคคลาสสิกที่ใช้ภาษาละติน) โดยมีศูนย์กลางจักรวรรดิอยู่ที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล หรืออาจเรียกได้อีกนามหนึ่งว่าเป็นจักรวรรดิโรมันตะวันออกนั่นเอง โดยชื่อหลังนี้มักจะใช้กล่าวถึงไบแซนไทน์ในยุคก่อนที่จักรวรรดิโรมันตะวันตกจะล่มสลาย จากประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ของจักรวรรดิไบแซนไทน์ได้แสดงให้เห็นว่าจักรวรรดิไบแซนไทน์คือจักรวรรดิของชาวกรีก เมื่อคำนึงถึงอิทธิพลของภาษากรีก,วัฒนธรรมกรีกและประชากรเชื้อสายกรีก แต่ประชาชนของจักรวรรดิเองนั้น มองจักรวรรดิของตนว่าเป็นเพียงจักรวรรดิโรมันที่มีจักรพรรดิโรมันสืบทอดตำแหน่งอย่างต่อเนื่องกันเท่านั้น

Source://www.allaboutturkey.com/img/bizans.jpg

การเริ่มต้นของจักรวรรดิไบแซนไทน์นั้นไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด โดยส่วนใหญ่ถือว่าจักรวรรดิไบแซนไทน์เริ่มต้นขึ้นเมื่อจักรพรรดิคอนสแตนตินที่หนึ่ง (ครองราชย์ พ.ศ. 849-880) แห่งโรมได้สถานปนานครคอนสแตนติโนเปิลให้เป็น "โรมใหม่" ในปี พ.ศ. 873 (ค.ศ. 330) และย้ายเมืองหลวงจากโรมมาเป็นคอนสแตนติโนเปิลแทน ดังนั้น จึงถือว่าจักรพรรดิคอนสแตนตินเป็นจักรพรรดิองค์แรกของจักรวรรดิไบแซนไทน์ไปโดยปริยาย แต่ก็มีบางส่วนถือว่าจักรวรรดิไบแซนไทน์เริ่มต้นขึ้นในสมัยของจักรพรรดิธีโอโดเซียสที่หนึ่ง (ครองราชย์ พ.ศ. 922-938) ซึ่งคริสตศาสนาได้เข้ามาแทนที่ลัทธิเพเกินบูชาเทพเจ้าโรมันในฐานะศาสนาประจำชาติ หรือหลังจากธีโอโดเซียสสววรคตใน พ.ศ. 938 เมื่อจักรวรรดิโรมันได้แบ่งขั้วการปกครองเป็นฝั่งตะวันออกและตะวันตกอย่างเด็ดขาด ทั้งยังมีบ้างส่วนที่ถือว่าจักรวรรดิไบแซนไทน์เริ่มต้นขึ้น "อย่างแท้จริง" เมื่อจักรพรรดิโรมูลัส ออกัสตูลัส ซึ่งถือว่าเป็นจักรพรรดิโรมันตะวันตกองค์สุดท้ายถูกปราบดาภิเศก ซึ่งทำให้อำนาจในการปกครองจักรวรรดิตกอยู่ที่ชาวกรีกในฝั่งตะวันออกแต่เพียงฝ่ายเดียว และยังมีอีกบางส่วนที่ถือว่าจักรวรรดิโรมันได้แปลงสภาพเป็นจักรวรรดิไบแซนไทน์โดยสมบูรณ์เมื่อจักรพรรดิเฮราคลิอุสเปลี่ยนแปลงชื่อตำแหน่งในราชการจากเดิมที่เป็นภาษาละติน ให้กลายเป็นภาษากรีกแทน แต่อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงสถานะของจักรวรรดินั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงก่อนที่จักรพรรดิคอนสแตนตินจะสถาปนานครคอนสแตนติโนเปิลให้เป็นเมืองหลวงใหม่ของจักรวรรดิโรมันใน พ.ศ. 873 ก็ตาม ในตอนนั้นก็ได้มีการแปลงสภาพวัฒนธรรมจากโรมันเป็นกรีก รวมถึงการเปิดรับคริสตศาสนาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปแล้ว

การล่มสลายของจักรวรรดิไบแซนไทน์โดยทั่วไปแล้วเชื่อว่าเกิดขึ้นหลังจากที่กรุงคอนสแตนติโนเปิลถูกยึดโดยชาวออตโตมันเติร์กในปี พ.ศ. 1996 โดยกรุงคอนสแตนติโนเปิลได้ถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นอิสตันบูล (Istanbul) มาจนถึงปัจจุบัน และในทางประวัติศาสตร์ยังได้ถือว่าการสิ้นสุดของจักรวรรดิไบแซนไทน์เป็นจุดสิ้นสุดยุคกลางในยุโรปอีกด้วย

Source://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B9%84%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%8B%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C

 

โดย: Bernadette 30 มกราคม 2551 11:12:23 น.  

 

อลังการงานสร้างอีกแล้วแบร์...นักแสดงสวย หล่อ ทำให้ตัวหนังน่าดูขึ้นก่ายกอง

 

โดย: DKRY 30 มกราคม 2551 14:42:04 น.  

 

อลังการงานสร้างอีกแล้วแบร์...นักแสดงสวย หล่อ ทำให้ตัวหนังน่าดูขึ้นก่ายกอง



โดย: DKRY วันที่: 30 มกราคม 2551 เวลา:14:42:04 น.


ตอบ เห็นแพรเค้าดูอะตะเอง กะเลยดูบ้างงงงะ

 

โดย: Bernadette 30 มกราคม 2551 15:21:07 น.  

 

ยังมะได้ดูอีกแล้วแบร์

แต่เรื่องอัศวินของสเปน

ที่เก่งกาจที่สุดเขายกให้เอลซิดนะ

เคยดูอะเป่า

 

โดย: mr.cozy 30 มกราคม 2551 23:45:27 น.  

 

ยังมะได้ดูอีกแล้วแบร์

แต่เรื่องอัศวินของสเปน

ที่เก่งกาจที่สุดเขายกให้เอลซิดนะ

เคยดูอะเป่า



โดย: mr.cozy วันที่: 30 มกราคม 2551 เวลา:23:45:27 น.

ตอบ ยังมะเคยดูเลยอะ เดี๊ยวๆๆๆหามาดู เรื่องอัศวินน่าสนใจจริงๆๆด้วย

ขอบพระคุณที่แนะนำก๊าบบบ

 

โดย: Bernadette 31 มกราคม 2551 8:38:16 น.  

 

แค่เห็นรูปปก วางตามร้านเข่า แทบ อยากหามาดูเลยแหละ อิอิ ก็เซ็กส์ซี่ ขนาดนั้นอะนะ ...แต่ไหงมานไม่ค่อยน่าดูเลยอะ ..

 

โดย: haro_haro 31 มกราคม 2551 14:10:51 น.  

 

แค่เห็นรูปปก วางตามร้านเข่า แทบ อยากหามาดูเลยแหละ อิอิ ก็เซ็กส์ซี่ ขนาดนั้นอะนะ ...แต่ไหงมานไม่ค่อยน่าดูเลยอะ ..



โดย: haro_haro วันที่: 31 มกราคม 2551 เวลา:14:10:51 น.


ตอบ เจ้าหญิง สวยย กะโอเคแล้นนนน

 

โดย: Bernadette 31 มกราคม 2551 15:48:21 น.  

 

เอล ซิดเป็นอัศวินของสเปนจ้า

ทำเป็นหนังใหญ่นานล่ะ ชาร์ตัน เฮสตัน เล่น

มีเวอร์ชั่นการ์ตูนด้วย

 

โดย: mr.cozy 1 กุมภาพันธ์ 2551 22:41:37 น.  

 

เอล ซิดเป็นอัศวินของสเปนจ้า

ทำเป็นหนังใหญ่นานล่ะ ชาร์ตัน เฮสตัน เล่น

มีเวอร์ชั่นการ์ตูนด้วย



โดย: mr.cozy วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:41:37 น.


ตอบ น่าสน น่าสนอ่า

 

โดย: Bernadette 1 กุมภาพันธ์ 2551 22:45:08 น.  

 

อืม ได้ความรู้เยอะเลยค่ะ ต้องขอบคุณแบร์นะจ๊ะ ที่ให้ความรู้มากมาย

แอบเห็นด้วยว่าแค่เจ้าหญิงสวยก็โอเคแล้ว แต่เสริมหน่อยว่าพระเอกก็เซ้กซี่ไม่แพ้กานนนน

 

โดย: แพร (bookofpear ) 7 กุมภาพันธ์ 2551 2:48:20 น.  

 

อืม ได้ความรู้เยอะเลยค่ะ ต้องขอบคุณแบร์นะจ๊ะ ที่ให้ความรู้มากมาย

แอบเห็นด้วยว่าแค่เจ้าหญิงสวยก็โอเคแล้ว แต่เสริมหน่อยว่าพระเอกก็เซ้กซี่ไม่แพ้กานนนน



โดย: แพร (bookofpear ) วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:2:48:20 น.

ตอบ ช่ายยยชอบเหมือนกาลล ขอบพระคุณค่ะ ที่แนะนำหนังเรื่องนี้ให้ดูค่ะ

 

โดย: Bernadette 7 กุมภาพันธ์ 2551 17:06:52 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Bernadette
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




In the name of the Father, and of the Son, and of the Holy Spirit

The Ave Maria asks Mary to "pray for us sinners."

Amen

PaPa for all Father W e pray year of priests.



Card Michael Michai Kitbunchu, Archbishop of Bangkok, is the first member of the College of Cardinals from Thailand.

source :http://www.asianews.it/news-en/Michai-Kitbunchu,-first-cardinal-from-Thailand-3038.html

พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คณะเชนต์ปอล part1

ฺBishop ฟรังซิส เซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พิธีรับPallium Metropolitans Bangkok Thailand >

สารคดี เทศกาลแห่ดาว สกลนคร Welcome
Sakonnakorn Christmas Thailand
Metropolitans Tarae Sakornakorn Thailand


Orchestra and four vocal Choir - *Latin* Recorded for the Anniversary of the Pope Benedict XVI April 19 This is the Anthem of the Vatican City. The Songs are called Inno e Marcia Pontificale ...

We are Catholic.

หน้าเฟส อัพรูป หาที่อัพรูปใหม่อยู่ http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3


MusicPlaylist
MySpace Music Playlist at MixPod.com

Friends' blogs
[Add Bernadette's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.