แบร์แนแด็ท....น่ารัก....น่ารัก ขี้ลืม.....ขี้ลืม ...... หนังปายหนายหว่า buy แล้ววbuyอีก......... faith, hope and charity เฟศบุ๊ค http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3
Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
18 มกราคม 2551
 
All Blogs
 

Nanking (2007):Even in the darkest of times there is light

เข้าชิง หนังสารคดี of the Documentary Editing Award at the 2007 Sundance Film Festival. หนังสารคดีชนะเลิศได้แก่ Manda Bala (Send a Bullet) (2007)


Source://img1.mtime.com/mg/2007/42/2aa56d9c-752b-4176-9d8c-0bdadf4754b0.jpg


Source://www.hnsc.com.cn/news/updata/pic/2007/07/03/18716873145228.jpg


อันนี้เรื่องประวัติศาสตร์ ผ่านมาแล้วอะ ตอนนี้ที่แข่งขันกัน จีนกะญี่ปุ่นกะคือ เรื่องการค้าเศรษฐกิจ ประวัติศาสตร์มีไว้เป็นบทเรียนมะให้เกิดขึ้นอีกอ่า

หนังสารคดีสื่อถึง ทหารญี่ปุ่นบุกจีน สงครามโลกครั้งที่ 2 กองกำลังปลดอาวุธWesterner who established a Safety Zone where over 200,000 Chinese found refuge จัดตั้งเขตปลอดภัย ช่วยผู้อพยพชาวจีน กว่า 200,000 คน


สารคดีสื่อสัมภาษณ์ผู้ที่รอดจากสงครามครั้งนี้ สัมภาษณ์ไปน้ำตาไป ดูไปร้องไห้ไปอะ และจากบันทึกของ Woody Harrelson, Mariel Hemingway, Jurgen Prochnow, and Stephen Dorff, among others.


Chinese man rounded up throughout Nanking

John Geiz reads the words of missionary George Fitch, head of the YMCA in Nanking

Nanking survivior Nicui Ping

Safety Zone Committe meeting members including Mills, Rabe, Smythe and Fitch

Women marched through Nanking to the safety of Ginling college

Survivor Wu Zheng Xi

Woody Harreison reads the words of Bob Wilson, the only sugeon who remained in Nanking

Stephen Dorff read the words of Lewis Smythe, a sociology professor
who reported 'cases of disorder' to the Japanese authorities in Nanking

Jorgen Prochnow reads the words of John Rabe, a German Nazi
businessman who headed the safety zone Committee

Li Su Fen a Nanking survivior

Japanese Photographers took 'propaganda' sot within the Safety Zone

Mariel Hemingway reads the words of educator Minnie Vautrin,
called the American Goddess of Nanking

Before the ground invasion, air raids took many lives

A bombing victim at Nanking University Hospital

Source://nankingthefilm.com/about.aspx











 

Create Date : 18 มกราคม 2551
11 comments
Last Update : 25 มกราคม 2551 20:48:02 น.
Counter : 2103 Pageviews.

 

ต่อ ท่านประธานเหมา Mao Zedong
เหมาเจ๋อตุง จักรพรรดิแดง


เป็นเวลา 25 ปีที่เหมาเจ๋อตุงปกครองประชากร 1 ใน 4 ของโลก เค้าเปลี่ยน จีนจากระบบศักดินาที่ล้าหลังให้เป็นประเทศที่ทรงอำนาจมากที่สุด แต่เบื้องหลังความเงียบของเค้า เรารู้ว่า เค้าอยู่เบื้องหลังการประหาร ประชากร ร่วมชาติกว่า 10 ล้านคน เขาปรกครองเหมือนจักรพรรดิ แต่ยังเป็นคนที่เรียบง่าย นี้คือเรื่องราวของชายที่ได้รับการเทิดทูนเหมือนพระเจ้ามาตลอดชีวิต แต่อาจถูกตัดสินในวันข้างหน้าว่าเป็นเผด็จการกระหายเลือดในศตวรรษที่ 20


Source://www.repubblica.it/2006/09/sezioni/esteri
/testi-scolastici-cina/testi-scolastici-cina/stor_8743271_19590.jpg

เค้าเป็นอัจฉริยะ ไม่ว่าคนที่ไม่ชอบเค้า สาบแช่งเค้ากะพูดเหมือนกัน
เหมาเหมือกะสตาริน มากกว่าฮิตเลอร์ แต่เค้าต้องรับผิดชอบการตายของประชากรมากกว่าทั้งคู่

เรารู้ว่าเค้าไม่ชอบอาบน้ำ เค้าชอบเช็ดตัวด้วยผ้า เรารู้ว่าเค้าไม่เคยแปรงฟัน


จีนปราการด่านสุดท้ายลัทธิคอมมิวนิตย์ในโลก กว่า 50 ปีที่ประวัติศาสตร์ถูกคลอบงำของชายคนหนึ่ง

เค้าได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาของการก่อตั้งจีนใหม่ ผู้เปลี่ยนจากลัทธิมาร์ก มาเป็นลัทธิเหมา และทำให้ประชากรชาวจีน เกิดความภาคภูมิและเกิดการเคารพตนเอง

ที่ใดกะตามมีพรรคคอมมิวนิตย์จีนอยู่ที่นั้นมีความเสมอภาคให้ประชาชน เหมามาจากครอบครัวชาวนา พ่อและปู่ของเค้ามีที่ดินขนาดเกือบ 9 ไร่ ในหมู่บ้านเซ้าชานฉาง เป็นหมู่บ้าน เล็กๆๆในมณทล หูนาน ทางตอนใต้ของจีน ปัจจุบันกลายเป็ฯพิพิธภัณฐ์ เหมาเกิดวันที่ 28 ธันวาคม ปี 1893


เจียงไคเช็ค เหมาเจอตุง

จีนเป็นสังคมศักดินาซึ่งคนจำนวนน้อยอยู่อย่างสุขสะบาย แต่คนอีกหลายล้านแทบเอาชีวิตไม่รอด ในชนบท คนรวยจะทำตัวเป็นจักรพรรดิ รีดไถ คนจน อย่างทารุน มีกบฎชาวนาเกิดขึ้นบ่อยครั้งและถูกปราบปรามอย่างนองเลือด

เหมาเจินเฉิน พ่อของเค้า เป็นผู้ที่สร้างครอบครัวอย่างแข็งขัน เค้าเชื่อในคุณค่าของการทำงานหนัก และทุบตีลูกชายบ่อยๆๆ เหมาและน้องชายอีก 2 คนมีความสุข เมื่ออยู่กะแม่มากกว่า หวนฉีเม่ย เป็ฯคนไม่รู้หนังสือ พยายามปกป้องลูกลูก

เหมาได้รับการศึกษาเพียงเล็กน้อย เค้าเติบโตขึ้นมาพร้อมความไม่เข้าใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆๆ เค้ามีความมักใหญ่ใฝ่สูงมาก เป็นความขัดแย้งกะตัวเอง เค้าชอบการผจญภัยรุนแรงของพวกฝ่ายซ้าย เค้าแต่งงานอายุ 14 ปี เค้าต้องการหนีชีวิตไปจากหมู่บ้าน เค้าไม่เคยยอมรับ อยู่กินกะเธอ

เค้าอายุ 17 ปี เดินทางไปฉางซา เค้าวางแผนเข้าเรียนในโรงเรียน และเค้าเข้าร่วมกะขบวนการปฎิวัติ

นานหลายปี ที่จีนถูกปกครองโดยราชวงค์ที่ทุจริตและอ่อนแอ ประเทศถูกแบ่งออกเป็นส่วนส่วน แต่ตอนนี้ราชวงค์ถูกล้มล้างโดยขบวนการสาธารณะรัฐใหม่ ซึ่งนำโดยพรรคก๊กมินตั้ง หรือจีนคณะชาติ

เค้าเข้าฝึกอบรมอาชีพครูในวิทยาลัยเค้าได้ตัดหางเปีย แสดงการตอบโต้ เค้าเดินทางไปปักกิ่งหางานทำ แต่ะค้าได้เป็ฯผู้ช่วยห้องสมุดในปักกิ่ง และได้อ่านหนังสือ มากมายในห้องสมุด เค้าเข้าร่วมกะกลุ่มนักศึกษา และใฝ่ฝันถึงจีนยุคใหม่ เค้าได้ยินการปฎิวัติในรัสเซีย เค้าชื่นชม เค้าเข้าร่วมกลุ่มก่อตั้งคอมมิวนิตย์จีน เค้าเป็นกลุ่มตัวแทนชาวนาบ้านนอก ไม่มีใครสนใจเค้านัก เค้าเผยแพร่ลัทธิในบ้านเกิดของเค้า และแต่งงานใหม่กะลูกของครูที่เคยสอนเค้า ชีวิตครอบครัวสั้นมาก

มีการปราบปรามคอมมิวนิตย์อย่างรุนแรง นำโดยนายพล เจียงไคเชค 1927มีการ กวาดล้างคอมมิวนิตย์
เหมาหลบหนีพร้อมครอบครัวกระจายกลุ่มออกไปตามที่ต่างๆๆ เทือกเขาจางสือ แหล่งของคอมมิวนิตย์ เมื่ออายุ 30 ปลายๆๆเค้าถูกหมายหัว ค่าตัว 250,000 เหรียญเงิน เค้าเป็นผู้สำคัญที่สุดในการปฎิวัติของจีน

เหมาและสหายกลายเป็นคนนอกกฎหมาย เค้าสร้างกองทหาร ปี 1920 เหมารวมกำลัง อีกไม่นานรัฐบาลเจียงไคเช็ค จะเข้าโจมตี การสร้างกองทัพแบบกองโจรยากม๊ากก จนกระทั้งเป็นกองทัพใหญ่ เป็นภัยของรัฐบาล ปี 1930 เจียงไคเช็คเข้าโจมตี พรรคคอมมิวนิตย์สู้ไม่ได้
วิธีการรบใหม่ของเหมาแบบกองโจร อย่าให้ศตูร ได้ทันตั้งตัว จงถอยเมื่อเค้ารุก จงโจมตีเมื่อเค้าหยุดพัก

ภารยาของเหมาถูกฆ่าพร้อมเพื่อนของเหมา เหมาแต่งงานอีกครั้ง ภารยาใหม่คือนักรบกองโจร โฮวซีเฉิน ปี 1934 กองทัพทหารเกือบล้านคนปิดล้อมพวกคอมมิวนติย์ การรบแบบกองโจรกะยังมะได้ผล เหมาเกือบจะโดดเดี่ยว เหมากลายเป็นผู้นำโดยไม่มีใครกังขา เค้าใช้โอกาสรวบรวมคนทั้งหมด การเดินทางช่วยให้พรรคคอมมิวนิตย์รอดจากการสูญสลาย

1 ปีต่อมา ปี 1936 พรรคคอมมิวนิตย์ เข้าสู่เยียนนาน เมื่องอิสระตอนเหนือ ห่างไกลกว่าที่กองทัพเข้าถึงได้ มีผู้คนเข้ามาสมทบ ผู้คนชื่นชอบในกิติศัพย์ของเค้า
กลายเป็นเขตเสรีของคอมมิวนิตย์ เค้าเขียนบทกวี ทบทวนปฎิวัติทางการเมือง

ศตรูเก่าของจีนคือญึ่ปุ่นได้บุกเข้ามา และทำการโหดร้ายต่างๆๆกะประชากรชาวจีนเหมาฉวยโอกาสทำข้อตกลงที่เหลือเชื่อเป็นพันธมิตรกะเจียงไคเช็ค โดยอ้างว่า เพื่อขับไล่ผู้บุกรุกกะชาวต่างชาติ เค้าลงมือได้ถูกจังหวะ

3 ปีต่อมา จีนและญุ่ปุ่นเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 เมกา สนับสนุนเหมา เมื่อสงครามยุติลง พรรคคอมมิวนิตย์เข้มแข็งขึ้น และมียุทโธปกรณ์เพียบพร้อม

ปี 1949 กองโจรคอมมิวนิตย์เข้าสู่ปักกิ่ง ด้วยชัยชนะ เมกาให้ความช่วยเหลือเหมาโดยไม่ตั้งใจ ต่อชายคอมมิวนิตย์ผู้มีอำนาจมากที่สุดในโลก เหมามีอายุ 55 ปี เป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ในศตวรรษที่ 20

วันที่ 1 ตุลาคม ปี 1949 จัตุรัสเทียนอันเหมิน เหมา ถือกำเนิดสาธรณะประชาชนจีน

ชนชั้นหัวกะทิรู้สึกไม่พอใจที่คนมีความรู้ชั้นประถมปกครองประเทศ ปี 1956 เหมาทดลองใช้ระบบประชาธิปไตยครั้งแรก ให้ปัญญาชนแสดงทัศนะ เหมาให้ความเห็นว่า นี้คือ หนึ่งร้อยบุปผาได้เบ่งบาน หนึ่งร้อยบุปผาได้ชัยชนะ
เค้าคาดการผิด ป้ายโปสเตอร์ขนาดใหญ่ถ้อยคำที่รุนแรง เหมาถูกสั่งคลอน เหมารู้สึกถูกคุกคาม โปสเตอร์ ออกมามากขึ้น เป็นครั้งสุดท้ายที่เหมารับฟังความคิดเห็น และเหมากะจับพวกที่แสดงความคิดเห็น คนหลายแสนคน โดนว่าเป็นคนฝ่ายขวา เข้าเรือนจำ ถูกส่งไปใช้แรงงานชนบท

จากผู้นำยอดนิยมเค้ากลายเป็ฯฆาตกรและเผด็จการ ที่วิตกจริต

เหมาไปรัสเซียครั้งแรก ไม่ได้รับความสนใจจากรัสเซีย ลัทธมาร์ก เหมาเลยตั้งลัทธเหมาขึ้นมาซะเอง


A meeting between Mao and Joseph Stalin after the CPC's 1949 victory over the KMT in the Chinese Civil War.

เหมาไม่สนใจอีกต่อไป เค้ามีอิสระที่ดำเนินการทางความคิด ปี1958 เหมาไปเยือนชนบท เค้าหมดความอดทนที่ล้าช้า เปลี่ยนแปลงประเทศ

ฤดูร้อน การก้าวกระโดดครั้งยิ่งใหญ่ เค้าได้ยินครุทช๊อบ กล่าวว่า เค้าจะไล่ทันเมกาภายใน สิบห้าปี เหมากะไล่ทันอังกฤษภายใน สิบห้าปี พูดไปนี้น

ในชนบท ชาวนา 9 ร้อยล้านคน ช่วยทำนาที่นารวมขนาดใหญ่ เพื่อผลิตข้าวให้ได้ สี่เท่า

ประเทศต้องผลิตเหล็กหล้ามากขี้น บ้านแต่ละบ้านมีเตาหลอมเหล็ก หาวัตถุมาเพื่อให้ได้มาหลอมเหล็ก แต่ เหล็กใช้ไม่ได้ ข้าวกะไม่ได้เกี่ยว มา 2 ปีแล้ว เหมาได้รับแต่ข่าวสร้างภาพ เค้ารู้วิธีปฎิวัติ แต่ไม่รู้วิธีปกครองประเทศ

ประชากร อดหยากกินเนื้อคนที่ตายไป เกิด ทุกภิกขภัย ลัทธิการกินเนื้อมนุษย์ เกิดขึ้นได้อย่างไร ประชากร ปี 1949-1951 สี่สิบล้านคน เสียชีวิต จากทุกภิขภัยน้ำมือมนุษย์ ทางการปิดบังเอาไว้ หลิวซาวซี รับช่วงบริหารประเทศ ครั้งแรก 25 ปี เหมาถูกบังคับให้อยู่หลังเก้าอี้

อีก 5 ปีต่อมา 1966 เหมาอายุ 73 ปี ประชาสัมพันธ์ตัวเอง เค้ากลับสู่เกมส์การเมือง สำหรับเด็กๆๆเหมาเป็นวีระบุรุษ ลืมเรื่องทุกภิขภัยไปแล้ว

เหมาเชื่อว่าคณะผู้นำที่เป็นกลางจะเข้ากลับสู่ระบบทุนนิยม เค้าสร้างดุลอำนาจ ของเค้าขึ้นใหม่ได้ พวกปัญญาชนคือศตรูของเค้า

เป็นการฟื้นคืนพรรคคอมมิวนิตย์ ปี 1969 เปิดประเทศจีนสู่ประชาคมโลก เค้าหันหน้าสู่ศตรูคือ เมกา ปี 1962 เหมาเชิญประธานาธิบดี ริชาร์ต นิกสัน มาปักกิ่งการประชุม ในช่วงเวลาเกือบ สามทศวรรษ



18 กันยายน ปี 1976 เค้าเสียชีวิต ด้วยอายุ 83 ปี

 

โดย: Bernadette 18 มกราคม 2551 22:03:20 น.  

 

ขออนุญาติเอาบทหความหนังสือน่าอ่านของคุณแพรมาแปะค่ะ
Source: https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=bookofpear&group=5



หลั่งเลือดที่นานกิง : Iris Chang

หลั่งเลือดที่นานกิง : Iris Chang





วันนี้เปลี่ยนแนวมาอ่านสารคดีบ้าง หลังจากที่ไร้สาระมานาน คราวนี้เป็นสารคดีสุดสลด (ขอบอกว่าอ่านแล้วหดหู่มาก) เป็นเรื่องราวที่น้อยคนที่จะรู้ เกี่ยวกับการสังหารโหดที่นานกิงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นบุกจีนในปลายปี 1937 จากหนังสือ The Rape of Nanking-The Forgotten Holocaust of World War ll ของ Iris Chang หรือหลั่งเลือดที่นานกิง โดยผลงานการแปลของ ฉัตรนคร องคสิงห์

นานกิง เป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของจีน เมื่อกองทัพญี่ปุ่นบุกในปี 1937 ได้ฆ่าชาวจีนไปกว่า 300,000 คน ด้วยวิธีการอันโหดร้ายผิดมนุษย์!!! ซึ่งว่ากันว่าจำนวนคนที่เสียชีวิตไปที่นานกิงภายในระยะเวลา 6 สัปดาห์ มากกว่าระเบิดปรมาณูที่ถล่มเมืองฮิโรชิม่าและนางาซากิของญี่ปุ่นซะอีก

และยิ่งเลวร้ายไปกว่านั้น ก็คือเยอรมันยังต้องจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามให้กับผู้เสียหาย ในขณะที่ญี่ปุ่นเลือกที่จะบิดเบือนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ที่ไอริสจางบอกว่า “การละเลยเรื่องการสังหารหมู่คือฆาตกรรมซ้ำสอง”

ไอริส จาง (ผู้แต่ง) ได้รับการบอกเล่าจากครอบครัวของเธอที่อพยพจากจีนไปยังไต้หวันและสหรัฐฯ ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เกี่ยวกับการสังหารโหดที่นานกิง ว่าทหารญี่ปุ่นใช้มีดผ่าทารกออกเป็น 3-4 ท่อน เอาผู้ชายมาซ้อมฟันดาบ จับผู้หญิงท้องมาฆ่าแหวกท้อง ลำน้ำในเมืองนานกิงกลายเป็นสีเลือด แต่เมื่อไปค้นคว้า กลับไม่ค่อยมีนักประวัติศาสตร์คนไหนพูดถึง นี่จึงเป็นแรงบันดาลใจ ให้เธอเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา จากคำบอกเล่าและหลักฐานต่างๆ ที่ยังพอมีหลงเหลืออยู่

ในหนังสือ จะประกอบไปด้วยมุมมองของคนสามกลุ่ม คือ ทหารญี่ปุ่น ชาวจีน และชาวตะวันตกที่ไม่ยอมทิ้งเมือง โดยชาวญี่ปุ่นก็จะเล่าถึงทัศนคติต่อชาวจีน และการบุกเข้าเมือง ส่วนชาวจีนก็จะเล่าในฐานะเหยื่อ ผู้ถูกกระทำราวกับไม่ใช่มนุษย์ และมุมมองของชาวตะวันตก ที่เป็นเสมือนฮีโร่ในระยะเวลาอันสั้น ที่ช่วยเหลือชาวจีนไม่ให้ถูกญี่ปุ่นย่ำยี และตีแผ่เรื่องราวอันอัปยศนี้ให้โลกได้รับรู้

อ่านแล้วบอกได้เลยว่า สลดหดหู่ และยิ่งดูภาพประกอบแล้วก็ยิ่งชวนให้เศร้า ภาพประกอบพวกนี้ บางส่วนได้มาจากการที่ทหารญี่ปุ่นส่งไปให้ร้านถ่ายรูปล้างอัด แต่เจ้าของร้านแอบอัดเก็บไว้แล้วส่งไปให้หนังสือพิมพ์ ชาวโลกจึงมีโอกาสได้เห็น ภาพเหล่านั้นเป็นภาพเชลยถูกตัดหัว หัวที่ถูกวางประจาน ผู้หญิงที่ถูกบังคับให้ทำท่าลามกหลังถูกข่มขืน ร่างไร้วิญญาณกองทับถมกัน ฯลฯ

แต่สิ่งนึงที่ฉันสลดใจยิ่งกว่าคือชะตากรรมของจอห์น ราเบ้ พ่อพระของชาวนานกิง ยามที่อยู่นานกิง ราเบ้ใช้ความเป็นนาซีทำให้พวกญี่ปุ่นเกรงใจ เขาให้ความช่วยเหลือชาวจีนทั้งหญิงชายไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของญี่ปุ่น แต่เมื่อเขากลับไปยังบ้านเกิด ชีวิตของเขากลับต้องอยู่อย่างยากลำบาก หิวโหย แต่เขาก็ได้เขียนบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับนานกิงไว้ให้ชาวโลกได้รับรู้

อ่านแล้วก็สลดใจ มิน่าล่ะ เหล่าซือถึงไม่ค่อยชอบคนญี่ปุ่น ที่แท้มีที่มาที่ไปแบบนี้นี่เอง...




แด่ดวงวิญญาณของไอริส จาง ดอกไม้งามของชาวจีน...


ขอบคุณกรอบสวยๆ จากคุณ lozocat ค่ะ



Last Update : 14 มกราคม 2551 22:57:09 น. 6 comments
Counter : 61 Pageviews.

 

โดย: Bernadette 18 มกราคม 2551 22:08:40 น.  

 

ว้าว มีของเขาด้วย อิอิ Thanks นะจ๊ะ

ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเหมาเท่าไหร่ค่ะ ยิ่งตอนดู Farewell นี่ไม่ชอบเลยกับยุคปฏิวัติวัฒนธรรม ส่วนตัวชอบท่าน ดร.ซุนยัดเซ็นมากกว่าค่ะ ท่านพยายามที่จะให้จีนเป็นประชาธิปไตย แต่น่าเสียดาย ท่านสิ้นไปซะก่อน

 

โดย: แพร (bookofpear ) 18 มกราคม 2551 22:27:40 น.  

 

ว้าว มีของเขาด้วย อิอิ Thanks นะจ๊ะ

ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเหมาเท่าไหร่ค่ะ ยิ่งตอนดู Farewell นี่ไม่ชอบเลยกับยุคปฏิวัติวัฒนธรรม ส่วนตัวชอบท่าน ดร.ซุนยัดเซ็นมากกว่าค่ะ ท่านพยายามที่จะให้จีนเป็นประชาธิปไตย แต่น่าเสียดาย ท่านสิ้นไปซะก่อน



โดย: แพร (bookofpear ) วันที่: 18 มกราคม 2551 เวลา:22:27:40 น.

ตอบ ถูกต้องก๊าบบบบบ

 

โดย: Bernadette 19 มกราคม 2551 8:22:36 น.  

 

จีน - ญี่ปุ่นมองหน้ากันไม่ติดมาจนทุกวันนี้ก็กรณีนานกิงนี้เป็นหลักแหละครับ

ลัทธิคลั่งชาติอันตรายอย่างนี้ ดูอย่างเยอรมัน - ยิว เอาก็ได้

เหมาก็ดีนะ มาเสียตั้งแต่ได้ยัยเจียงชิงเป็นเมียนี่แหละ

 

โดย: mr.cozy 19 มกราคม 2551 14:29:45 น.  

 

จีน - ญี่ปุ่นมองหน้ากันไม่ติดมาจนทุกวันนี้ก็กรณีนานกิงนี้เป็นหลักแหละครับ

ลัทธิคลั่งชาติอันตรายอย่างนี้ ดูอย่างเยอรมัน - ยิว เอาก็ได้

เหมาก็ดีนะ มาเสียตั้งแต่ได้ยัยเจียงชิงเป็นเมียนี่แหละ



โดย: mr.cozy วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:14:29:45 น.

ตอบ ขอบพระคุณที่เสริมก๊าบๆๆๆ
Mr.cozy ขอต่อลายละเอียดด้วยอะ เพราะเราได้เสพหนังมาแค่นี้อะ

 

โดย: Bernadette 19 มกราคม 2551 15:16:43 น.  

 

zwani.com myspace graphic comments
Myspace Sorry Graphics

คิดถึงนะ..

 

โดย: เริงฤดีนะ 20 มกราคม 2551 7:27:05 น.  

 

คิดถึงนะ..



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:7:27:05

ตอบ จ๊ะ

 

โดย: Bernadette 20 มกราคม 2551 8:34:46 น.  

 

อย่าว่าแต่จีน-ณี่ปุ่น เลย ขนาดคนจีนที่สิงคโปร์ยังทำใจไม่ได้กะเหตุการณ์นี้ ขนาดที่ว่าถ้าเป็นสินค้าญี่ปุ่นจะไม่ยอมซื้อเลยทีเดียว

 

โดย: Michiru 20 มกราคม 2551 13:06:01 น.  

 

อย่าว่าแต่จีน-ณี่ปุ่น เลย ขนาดคนจีนที่สิงคโปร์ยังทำใจไม่ได้กะเหตุการณ์นี้ ขนาดที่ว่าถ้าเป็นสินค้าญี่ปุ่นจะไม่ยอมซื้อเลยทีเดียว



โดย: Michiru วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:13:06:01 น.

ตอบ แง๊ววววววววว

 

โดย: Bernadette 20 มกราคม 2551 15:33:14 น.  

 

ไม่เคยดู แต่เคยอ่าน "หลั่งเลือดที่นานกิง" อ่านแล้วรู้สึกหดหู่ คิดว่าพวกเราโชคดีขนาดไหนที่ไม่ได้เกิดในยุคของสงคราม

 

โดย: DKRY 22 มกราคม 2551 9:38:37 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Bernadette
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




In the name of the Father, and of the Son, and of the Holy Spirit

The Ave Maria asks Mary to "pray for us sinners."

Amen

PaPa for all Father W e pray year of priests.



Card Michael Michai Kitbunchu, Archbishop of Bangkok, is the first member of the College of Cardinals from Thailand.

source :http://www.asianews.it/news-en/Michai-Kitbunchu,-first-cardinal-from-Thailand-3038.html

พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คณะเชนต์ปอล part1

ฺBishop ฟรังซิส เซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พิธีรับPallium Metropolitans Bangkok Thailand >

สารคดี เทศกาลแห่ดาว สกลนคร Welcome
Sakonnakorn Christmas Thailand
Metropolitans Tarae Sakornakorn Thailand


Orchestra and four vocal Choir - *Latin* Recorded for the Anniversary of the Pope Benedict XVI April 19 This is the Anthem of the Vatican City. The Songs are called Inno e Marcia Pontificale ...

We are Catholic.

หน้าเฟส อัพรูป หาที่อัพรูปใหม่อยู่ http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3


MusicPlaylist
MySpace Music Playlist at MixPod.com

Friends' blogs
[Add Bernadette's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.