--[ยอดหญิง ผู้หญิงที่น่านับถือในหัวใจ]--
สวัสดีครับ หลังจากที่ได้หยุดพักผ่อนกับวันหยุดยาวกันมาแล้ว
หลาย ๆ ท่านที่ทำงานราชการ ก็คงจะยังอยู่ในช่วงวันหยุดกันต่อไป
ระหว่าง 5 วันที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้คุยกับน้องสาวคนหนึ่งที่รู้จักกันมาหลายเดือนมากแล้ว
ผมเคยเจอน้องคนนี้ 3 ครั้ง เธอเป็นผู้หญิงที่ดูมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างสูง
ในสายตาผม เธอเป็นผู้หญิงที่แปลก มีความคิดที่ไม่เหมือนใคร และ
เป็นตัวของตัวเองสูงมาก!!!
เธอดูมั่นใจซะจนผมคิดเอาเองว่า ผู้หญิงอย่างเธอ จะมีผุ้ชายมาทำอะไรได้
จะมีก็แต่เธอนั่นแหล่ะ ที่ถ้าคิดจะปั่นหัวผู้ชายเล่นก็คงทำได้อย่างสบาย ๆ
แต่หลังจากที่ได้คุยกัน เธอก็เริ่มเปิดเผยเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผมฟังแล้วก็ได้แต่
อ้าปากค้างให้กับผู้หญิงคนนี้ อ้าปากให้ความทึ่งในการสู้ชีวิตของลูกผู้หญิงไทยคนหนึ่ง
อ้าปากให้กับความหลัง ให้กับผู้ชายทั้งไทยและเทศ ที่สวมวิญญาณแมงดา
เธอทำให้ผมได้รู้ว่า แมงดา ไม่ได้สงวนไว้แต่ชายสัญชาติไทยอย่างเดียว แต่ชายสัญชาติอื่น ก็มีสิทธิ์เป็นแมงดาได้เหมือนกัน!!!
เธอทำให้ผมได้รู้ว่า ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ (หรือเปล่าหว่า) คนหนึ่ง สามารถทำในสิ่งที่ผู้ชายตัวใหญ่ ๆ อย่างผม
คิดว่ามันทำไม่ได้แน่นอน นั่นคือ ทำงาน 4 อย่างในวันเดียวกัน เพื่อหาเงินไปเรียนต่อต่างประเทศ
ไอ้เรื่องหาเงินไปเรียนต่อต่างประเทศ อันนี้ผมไม่แปลกใจ แต่ที่นับถือเธอก็ตรงที่ เธอทำงาน 4 อย่างในวันเดียวกัน
ต่างเวลา ต่างสถานที่กันได้ ในวันเดียว เธอทำได้ ในขณะที่ถ้าเป็นผม ผมคงเบือนหน้าหนี ไม่ทำเป็นแน่แท้!!!
เธอทำให้ผมต้องทึ่งอีกครั้ง กับการไปอยู่เมืองนอกของเธอ ที่ไปเพราะได้รับทุนจากเมืองไทย
เธอต้องไปอาศัยอยู่กับ Host นรกแตกที่ให้เธอเลี้ยงลูก 3 คน แถมตัวเมียยังดูถูกคนเอเชียอีกต่างหาก!!!
ทั้งที่ตัวเมียเองก็เป็นเอเชียหัวดำเหมือนกันด้วยซ้ำ แถวบ้านเรียก "ลืมกำพืด"
น่าจะจับมาตบล้างน้ำ แล้วขุดหลุมฝัง ฝังแล้วขุดขึ้นมาตบซ้ำอีกรอบ ให้จำกำพืดของตัวเองได้
ผมต้องทึ่ง เมื่อเธอเล่าเรื่องการขับรถคันโต ที่มีแต่ผู้ชายที่ชอบขับกันให้ฟัง
เพราะเธอต้องมีหน้าที่ขับรถไปส่งลูกของ Host ที่เธอไปอาศัยอยู่ ส่งโรงเรียนทุกวัน
เธอเล่าให้ฟังว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เธอหลงทาง เพราะเธอไม่รู้จักว่ามันอยู่ตรงไหน
อีตัวเมียก็ด่าซะเสียผู้เสียคน
ในใจผมคิดว่า ถ้าผมมีโอกาสเจออีตัวเมียในไทย ผมจะให้มันไปแถว ๆ ฝั่งธนเองคนเดียวซะให้เข็ด
ให้มันหาทางไปของมันเอง ไม่บอกทาง หรือไม่ก็บอกแค่ชื่อถนน ให้มันขับรถไปเอง
อยากจะรู้นักว่า มันจะไปถูกหรือเปล่า!!!
เธอบอกว่า เธอขับรถที่อเมริกาจนเก่ง เพราะ เธอต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองตลอด
หรือพูดง่าย ๆ ว่า เรียนหลงนั่นแหล่ะ เพราะ host ที่เธอไปอยู่ด้วยไม่เคยบอกอะไรเลย
ขนาดไปลงทะเบียนเรียน เธอยังต้องไปเอง ทั้งที่รู้จักแค่ชื่อมหาวิทยาลัย แต่ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน
ตัว Host เองก็ไม่ยอมบอก ไม่ยอมพาไปไม่รู้มันเป็นบ้าอะไร ทั้งที่ความเป็นจริง ตัว Host เองควรจะแนะนำเธอบ้าง
ซึ่งเธอบอกว่า ที่ host บ้านนี้รับเธอมาเป็นผู้อาศัยในฐานะนักเรียน เพราะ host เองก็ได้ประโยชน์จากนักเรียนแลกเปลี่ยนอย่างเธอ
ได้รับการลดหย่อนภาษี ลูก ๆ ได้เรียนฟรี ได้ออกไปเที่ยวโดยไม่ต้องเอาลูก ๆ ไปด้วย
(เพราะกฎหมายของอเมริกา กำหนดไว้ว่าห้ามปล่อยเด็กน้อยอยู่ตามลำพัง)
เธอจึงรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลเด็ก ๆ ไปโดยปริยาย จะไปไหนก็ไม่ได้
แถมไอ้บ้านนี้ยังดูถูกคนเอเชียอีกต่างหาก
ผมฟังแล้ว รู้สึกคิดถูกที่ตัวเองไม่ค่อยถูกกับพวกฝรั่งเท่าไหร่นัก!!!
เธอบอกว่า เธอถึงขนาดนับวันที่จะได้เอาชีวิตออกมาให้ห่างจาก Host นรกครอบครัวนี้เลยทีเดียว
สิ่งเดียวที่ดีสำหรับ Host ครอบครัวนี้ก็คือ เหล่าเด็ก ๆ ที่คอยปลอบใจเธออยู่เสมอ ๆ
ยามเมื่อเธอท้อ และ สิ้นหวัง จนเกือบจะทนไม่ไหว หลายครั้งหลายหนที่เธอร้องไห้
และได้เด็ก ๆ เหล่านั้นคอยปลอบใจ ทั้งที่เด็ก ๆ ที่ว่าก็ไม่รู้ว่า เธอร้องไห้เรื่องอะไรก็ตาม!!!
............................................................
เธอเจอเรื่องราวต่าง ๆ มาแบบที่ว่า ผมฟังแล้วได้แต่นับถือน้ำใจของเธอคนนี้!!
บางเรื่องผมถึงกับทนไม่ได้ ในขณะที่เธอเล่าแบบสนุกสนาน เหมือนมันเป็นเพียงสิวเม็ดเล็ก ๆ ที่จะบีบมันเสียเมื่อไหร่ก็ได้
เธอคนนี้ มีวิธีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ มีจังหวะการพูด การเล่าที่ไม่เหมือนใคร
แม้มันจะดูประหลาด แต่มันก็ชวนฟังดีเหมือนกัน!!!
ที่ผมเขียนถึงเธอในวันนี้ก็แค่อยากจะบอกว่า
ผมนับถือน้ำใจ นับถือความสู้ชีวิตของเธอ
เพราะผมเคยเจอตัวจริงของเธอ และ มีความรู้สึกที่ว่า คนอย่างผู้หญิงคนนี้เนี่ยนะ
ที่เคยเจอปัญหาอย่างนี้มาแล้ว ผู้หญิงอย่างเธอคนนี้น่ะเหรอ เคยร้องไห้ให้กับปัญหา
(เธอบอกว่าเธอร้องไห้เมื่อเจอปัญหาหนึ่งที่บีบคั้นหัวใจเธอ ซึ่งผมคิด ถ้าเป็นผมเจอปัญหาอย่างเดียวกับเธอ ผมคงฆ่าตัวตายไปแล้ว)
หลัง ๆ มา ผมมักเรียกเธอว่า น้องสู้ชีวิต ซึ่งเธอก็หัวเราะ
และเรียกผมกลับว่า พี่หมันคนแก่!!!
ขอบใจที่พูดความจริง T_T
สุดยอดหญิงจริง ๆ
สมันน้อย เบอร์ 14
และเมือผ่านมันได้มันก็จะทำให้เราแกร่งขึ้น มีความคิดความอ่านมากขึ้น
นึ้แหละข้อดีของมัน