--[ประสบการณ์ ถ่ายรูปรับปริญญา มหาโหด!!]-- กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องชาวนอกเรื่องทุกท่านครับ!! ก็ห่างหาย ไม่เห็นหน้าค่าตากันไปนาน (หลาย ๆ คนคงนึกอยู่ในใจว่า กุรู้สึกดีมาก ๆ T_T) หลาย ๆ คนคิดว่าผมตายแล้ว!! ยังครับ ยังไม่ตาย แม้จะใกล้แล้วก็ตามที 5555 ก็ติดงานแหล่ะครับ เวล่ำเวลาแทบจะไม่มี ขณะที่พิมพ์กระทู้อยู่นี่ก็ยังนั่งทำงานอยู่ T_T ดูเหมือนจะขยันนะครับ 5 ทุ่ม เที่ยงคืนแล้ว ยังทำงาน ไม่ยอมกลับบ้าน แต่เปล่าครับ ที่ยังอยู่เพราะดองงานของเมื่อวานนี้ไว้ (วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2552) เมื่อวานนี้ โดดงานไป 1 วันเพื่อไปถ่ายรูปแฟนของลูกทีมสมันน้อยบาสเกตบอล (อ่านแล้วอย่างงนะ แฟนของลูกทีม ไม่ใช่แฟนของลูกผม T_T) ก็เนื่องจากว่า เพื่อน ๆ หลายคนในห้องนี้คงเคยเห็นผมใช่ไหมครับ เจอผมทีไร ก็จะเห็นผมสะพายกล้องกิ๊กก๊อก 1 ตัว ติดไปด้วยตลอด หลาย ๆ คนก็คงจะนินทาผมอยู่ในใจว่า เมิงจะถ่ายอะไรกันนักหนา แต่ความจริงแล้ว ที่เห็นผมพกกล้องติดไปด้วยนั้น เพราะตัวผมเองคุยไม่เก่งครับ เลยเอากล้องมาบังหน้า เผื่อจะทำความรู้จักกับคนอื่นเค้าได้บ้าง ประมาณว่า ยกกล้องขึ้นถ่าย ๆ ไป อ๊ะ หวัดดีครับ ชื่อไรครับ (ประมาณนี้) นั่นแหล่ะครับ ขนาดมีกล้องติดตัวเพื่อเป็นใบเบิกทางขนาดนี้แล้วก็ตาม ทุกวันนี้ก็ยังมนุษยสัมพันธ์แย่เหมือนเดิม T_T เอ่อ เอาล่ะครับ เข้าเรื่องกันต่อ นั่นแหล่ะ พอไปไหนมาไหน ผมก็พกกล้องไปถ่ายพวกเด็ก ๆ ในทีมมาด้วย ไปเที่ยว ไปแข่ง งานวันเกิด งานศพ งานแต่ง ผมไปถ่ายหมด แม้เค้าจะไม่ได้ขอร้องก็ตามที T_T เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้ว ทีนี้งานก็เลยเข้าสิครับ หลัง ๆ มาพอพวกมันมีงานอะไร ก็จะให้ผมไปถ่ายให้ตลอดเลย เพราะข้อดีของการใช้งานผมก็คือ 1. ผมไม่คิดตังค์ (แม้จะพยายามยัดเยียดให้ก็ตามที) 2. รูปออกมาพอจะดูได้ ไม่น่าเกลียด (สำหรับข้อนี้ อย่าลืมอ่านในหัวข้อต่อไป "ข้อเสีย") 3. ไม่ต้องกลัวหนี เพราะไม่รู้จะหนีไปไหนได้ T_T แต่ใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีนะครับ ข้อเสียของการใช้งานผมก็มีเหมือนกันคือ 1. แม้จะไม่คิดตังค์ แต่เมิงต้องเลี้ยงข้าวกุด้วยนะ!! 2. รูปที่ได้มาอยู่ในขั้นพอดูได้เท่านั้น ไม่ได้เลิศหรูอลังการงานสร้างเหมือนช่างภาพมืออาชีพแต่อย่างใด เพราะฉะนั้น อย่าหวังว่ามันจะสวยเลิศ และเตรียมใจรับรูปเบลอ ๆ ติดไปด้วย และที่สำคัญ แม้มันจะไม่สวย ก็ห้ามด่ากุเด็ดขาด ขืนด่า เมิงตายยยยยยย!! 3. ได้งานช้ามาก เพราะงานฟรี และ ผมเองก็เป็นพี่พวกมัน พวกมันทั้งหลายจึงค่อนข้างจะเกรงใจไม่กล้าเร่ง!! บางที ถ่ายตั้งแต่ต้นเดือน กว่าจะได้รูปก็สิ้นเดือน จนบางครั้ง พวกมันลืมกันไปแล้วว่ามีถ่ายรูปด้วย T_T 4. อย่าหวังว่าจะเอาช่างภาพคนนี้ไปอวดคนอื่นที่เค้ามีช่างภาพมาถ่ายให้ด้วย เพราะว่า ผมมีแต่เลนส์ที่ติดมากับกล้อง และ แฟลตเท่านั้น ไม่มีเลนส์นอก ไม่มีตังบังแฟลต พูดง่าย ๆ คือ ไม่มีออปชั่นอะไรไปอวดเค้าได้เลย แถมยังถ่ายแบบ AUTO อีกต่างหาก T_T 5. อาจจะต้องพูดอยู่คนเดียว เพราะตากล้องคนนี้ ไม่ค่อยจะพูด 6. อาจจะต้องตกอกตกใจบ้าง เพราะตกใจหน้าตากล้อง ในบางครั้ง ผมอาจจะโผล่ไปต่อหน้าในระยะประชิด 7. ตากล้อง แก่กว่าตากล้องคนอื่นเค้า (เห็นมีแต่หนุ่ม ๆ T_T) 8. กินจุ กินบ่อย กินเยอะ!!! ครับ นั่นคือข้อดีและข้อเสีย (ทำไมข้อเสียมันเยอะจังวะ T_T) ในการใช้งานช่างภาพโคตรจะสมัครเล่นที่ชื่อว่า "สมันน้อย เบอร์ 14" ซึ่ง สิ่งที่ผมกำลังจะบอกต่อไปนี้ก็คือว่า "ที่เล่ามาทั้งหมดด้านบนนั้น ก็ยังไม่ได้เข้าเรื่องเลย T_T" แบบว่า ติดลมน่ะครับ มือมันไปไวกว่าความคิดซะแล้ว!!! เอาล่ะครับ เข้าเรื่องจริง ๆ ซะที ก็เมื่อวานนี้ ได้ไปถ่ายรูปรับปริญญาให้แฟนของเด็กในทีม ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ครับ ถือว่าเป็น ปีที่ 2 ติดต่อกันแล้ว ที่ผมได้มีโอกาสไปถ่ายงานรับปริญญา ณ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ปีที่แล้วก็ไปครับ ไปแบบโดนบังคับ ไปถ่ายคนไม่รู้จัก โดนขอร้องให้ไป พอถ่ายเสร็จ ก็สาบานกับตัวเองไว้เลยว่า กุจะไม่มาอีกแล้วที่นี่ เพราะที่อย่างแคบ คนอย่างเยอะ แถมที่ร่มยังมีน้อยซะอีก เบียดกันแบบสุด ๆ กลับบ้านเป็นสมันตากแห้ง ไข้ขึ้นไป 2 วันติดเมื่อปีที่แล้ว ก็ได้แต่สาบานกับตัวเองไว้อย่างนั้น เพราะปีนี้มาอีกแล้ว T_T และปีนี้เองทำให้ผมรู้สึกถึงสัจธรรมของความทรมานร่างกายแบบเข้าถึงจริง ๆ เพราะไอ้รุ่นน้องผม มารับผมตั้งแต่ตี 5 ไปเตรียมตัวที่บ้านของบัณฑิต ออกจากบ้านตอน 6 โมง จากรังสิต - ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ 3 ชั่วโมงครึ่ง!!! โอว แม่เจ้าโว้ย รถติดสนั่นจริง ๆ ปีที่แล้วว่าติด ปีนี้ติดยิ่งกว่า ขนาดมารถส่วนตัวตั้งแต่เช้านะเนี่ย!! ยัง เท่านั้นยังไม่พอ ผมยังปวดเยี่ยวระหว่างทางอีก แล้วรถติด ปั๊มก็ไม่มี โอว นรกชัด ๆ T_T ก็ได้แต่อั้นไว้ อั้นไว้ จนไม่รู้ว่าตอนนี้ผมเป็นนิ่วไปหรือยัง พอไปถึงก็เริ่มตะเวณถ่ายรูปกันเลยทีเดียว ยกไปกันทั้งครอบครัว ถ่ายกันเป็นที่สนุกสนาน ไอ้ผมก็ยิ้มยินดีไปด้วย เพราะน้องคนที่รับปริญญา (ซึ่งเป็นแฟนรุ่นน้องในทีมของผม) ก็เป็นเด็กที่รู้จักกันมาตั้งแต่น้องเค้ายังเรียนมัธยม ตอนนั้น ผมยังสอนบาสให้น้องคนนี้อยู่เลย เผลอแผล๊บเดียว เสร็จรุ่นน้องเราซะแล้ว อย่างว่าแหล่ะครับ เรือล่มในหนอง ทองมันจะไปไหน T_T เวลาผ่านไป ๆ เริ่มเมื่อยครับ เมื่อยตั้งแต่ยังไม่เที่ยง ผมเพิ่งรู้ว่า ตอนที่ผมมาปีที่แล้วน่ะ ถือเป็นการเมื่อยแบบ เด็ก ๆ ไปเลย เพราะปีที่แล้วผมไปถ่ายน้องผู้ชายคนนึง เป็นนักบาสของธรรมศาสตร์นั่นแหล่ะ ผมไม่รู้จักเค้าหรอก แต่มีคนมาขอให้ผมไปถ่ายแทนมันหน่อย มันไม่ว่างอะไรประมาณนี้ น้องผู้ชายคนนั้น เหมือน ๆ ผมนี่แหล่ะครับ คือ เป็นคนกลัวกล้อง โพสต์ท่าไม่เก่ง (พอ ๆ กับตากล้องเลย คือ ไม่รู้จะให้โพสต์ท่าไหนเหมือนกัน T_T) ถ่ายทั้งวัน ได้ไม่ถึง 200 รูป แถมรูปที่ได้ยังเป็นรูปด้านข้างมั่ง คือผมถ่ายตอนมันเผลอ ไอ้น้องคนนี้แปลก เห็นกล้องจ่อหน้าเมื่อไหร่ มันจะหันหน้าหนีทันที T_T กว่าจะถ่ายมันได้ ก็ทุลักทุเล จนต้องบังคับกัน ไอ้น้องคนนั้นบอก "พอแล้วพี่" ผมบอกกลับไป "ไหน ๆ ก็มาแล้ว ยังไม่ถึง 150 รูปเลย เมิงจะบ้าเร๊อะ" ก็ต้องขืนใจกันล่ะครับ เดินไปบอกเพื่อน ๆ เค้าให้มาช่วยกันขืนใจมันถ่ายรูปหน่อย แต่ทั้งอย่างนั้นก็ยังได้มาไม่ถึง 200 รูป T_T งานนั้นผมได้ตังค์นะ เพราะเค้าจ้างผมไป (จริง ๆ จ้างเพื่อนผม แต่มันไม่ว่าง เลยโยนมาให้ผมแทน) รู้สึกว่าไม่คุ้มเป็นอย่างยิ่งกับค่าจ้างที่ได้มา (แต่ก็หน้าด้านเอามาทั้งหมด T_T) แต่ไอ้น้องผู้ชายคนนั้น เหมือนจะโล่งอกที่ผมแยกจากมันมาได้ ไม่มีกล้องจ่อหน้าอีกต่อไป T_T ตอนนั้นผมก็บ่นว่า ถ่ายได้น้อยจัง ไม่คุ้มเลย พระเจ้าเลยจัดให้ผมแก้ตัวในปีนี้ครับ เมม 2 Gig ไม่พออ่ะ (ถ่ายแบบ JPEG Fine 400 รูป / 1 Gig) คิดดูก็แล้วกัน ถ่ายทุกช็อต เก็บทุกเม็ด เดิน วิ่ง เขียน นอน กินข้าวก็ยังถ่าย เรื่องโพสต์ท่าไม่ต้อง เพราะน้องเค้าเป็นผู้หญิง แถมเพื่อนเยอะอีกต่างหาก 180 แอคชั่นไม่ซ้ำใคร แอคจนบางแอคผมต้องบอกว่า "น้องเอ๋ย เพลา ๆ หน่อยก็ได้ มันจะแหวกแนวเกินไปหน่อยแล้ว T_T" โผล่หน้าออกไปที่ริมน้ำ เบียดกันจนตัวบัณฑิตหัวจะทิ่มลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา กับแอคชั่นแนวลำเค็ญ T_T กว่าน้องเค้าจะเข้าแถวก็บ่าย 2 กว่า ๆ เพราะเมื่อวานนี้รอบเช้ากว่าจะได้มอบก็ปาเข้าไปบ่าย 2 เข้าไปแล้ว ผมก็ต้องนั่งรอตอนออกมาอีก กว่าจะออกมาก็เกือบ 6 โมงเย็น ที่พูดนี้ไม่ได้บ่นนะครับ กำลังจะบอกว่า ช่วงเวลาที่รอนี่แหล่ะ ที่ถือเป็นสิ่งชโลมใจผมกับรุ่นน้องที่นั่งรออยู่ได้ ขาว ๆ หมวย ๆ สวย ๆ เอ็กซ์ ๆ เต็มไปหมดเลยครับ เดินกันขวั่กไขว่ เยอะแยะมากมาย อะไรจะเยอะขนาดนี้ เยอะจนผมเริ่มแปลกใจว่า มหาวิทยาลัยนี้ ไม่มีแบบ เตี้ย ล่ำ ดำ สิว เลยเหรอ เพราะนั่งอยู่ตรงนี้ (หน้าลิฟท์โรงอาหาร) 3 ชั่วโมง ยังไม่เห็นมีผู้หญิงคนไหนเป็นอย่างที่ผมว่าเลย มีแต่นางฟ้า นางฟ้า และ นางฟ้า เดินมา 10 สวยไป 8 อีก 2 จัดเข้าขั้นเทพธิดา ผิวงี้ เนียน ขาว ใส โดนแดดกันแก้มแดงแป๊ด!!! รุ่นน้องผมตอบกลับมาว่า "ที่นี่เค้ามีกฎหมายห้าม เตี้ย ล่ำ ดำ สิว เข้าเรียนครับพี่ ถือว่าผิดกฎมหาลัย T_T" มิน่าล่ะ ถึงไม่เห็นเลยซักกะคนเดียว!! ถือเป็นการรอคอยที่มีความสุขที่สุดในชีวิต แม้จะเมื่อยก็ยอม ให้รอจนตายก็ยอมเหมือนกัน ขอแค่มีนางฟ้า มีเทพธิดาเหล่านี้เดินผ่าน ก็พอแล้ว (ออกแนวมีความสุขแบบลำเค็ญแหะ T_T) เมื่อเวลาแห่งความสุขผ่านไป เวลาแห่งการแอคชั่นก็ย้อนมาอีกรอบ ในรอบเย็น ถ่ายกลางสนามฟุตบอลครับ ใครเคยไปก็คงจะนึกภาพออกว่า เมื่อเย็นย่ำ สถานที่ตรงนั้นจะเป็นบริเวณที่คราคร่ำไปด้วยนิสิตที่เพิ่งออกมาจากห้องประชุม ประมาณ ล้านกว่าคน แออัดกันถ่ายรูปอยู่ตรงนั้น ข้อดีข้อเดียวที่ผมนึกออกก็คือ ผมไม่ต้องคิดแอคชั่นให้น้องเค้าเอง แค่หันซ้ายไปดูกลุ่มข้าง ๆ ก็ได้มาแล้ว 1 แอคชั่น หันขวาก็ได้มาอีก 1 แอคชั่น แต่ขอโทษครับ ผมถ่ายไม่ได้เลยซักแอคชั่น T_T เนื่องจาก แอคชั่นเหล่านั้น ต้องอาศัยอุปกรณ์ที่ค่อนข้างจะเทพนิดนึง แถมฝีมือยังต้องเลิศด้วย ถึงจะถ่ายแอคชั่นประมาณนั้น ในแสงที่มีอยู่น้อยนิดแค่นี้ได้ ก็เลยได้มาแบบ แอคชั่นในแนว เบลอ ๆ ออกแนวแอ๊บสแต็ก คือดูแล้วต้องคิดด้วยว่า ตกลงนี่รูปกุ หรือ วิญญาณใครแถวนั้นกันแน่วะเนี่ย เบล๊อ เบลอ ถ้าเป็นตากล้องจ้างมาก็คงโดนนินทาหรือด่าไปแล้วล่ะครับ แต่นี่ มาฟรี เลยด่าไม่ได้ 5555555555 และนี่คือข้อดีของการรับงานแบบฟรี ๆ รับแบบขำ ๆ สนุก ๆ กับเพื่อนฝูง คือ แม้มันจะดูไม่ออก แต่มันก็ด่าเราไม่ได้เหมือนกัน (มันก็คงด่าเราในใจแหล่ะ แต่เราไม่ได้ยินนี่เน๊อะ) ก็นั่นแหล่ะครับ กลับบ้านมาด้วยอาการแบบว่า เหมือนขาไม่ใช่ขาเรา ล้มตัวลงนอนได้ก็หลับป๊อกไปเลย สุดยอดแห่งความเมื่อย และ เหนื่อยอ่อน นี่ขนาดผมเป็นแค่ตากล้องนะยังบ่นขนาดนี้ แล้วตัวบัณฑิตเองจะเหนื่อยขนาดไหน เพราะนั่นต้องแอค ต้องรับปริญญาอีก โอว เห็นแล้วเหนื่อยแทน แต่ยังไง ก็แสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ของแม่โดมทุกท่านด้วยครับ พวกคุณทุกคน "สุดยอด" ปล.ถึงแม้ว่า ผมจะบ่นโน่นบ่นนี่ แต่ความรู้สึกจริง ๆ แล้ว ถ้าถามผม ผมชอบนะงานรับปริญญาเนี่ย มันเป็นงานที่รู้สึกมีความสุข และ เต็มไปด้วยคนสดใส รอยยิ้ม และ การปลดปล่อยดี ถ้าถามว่า จะไปอีกไหม ก็คงไม่ปฎิเสธล่ะครับ สนุกดี เพื่อน ๆ ท่านใดสนใจนะครับ ไม่คิดตังค์ครับ ถ่ายให้ฟรี ๆ แต่มีข้อแม้ว่า ต้องย้อนไปอ่านข้อเสียซะก่อนนะครับ 55555555 เขียนตก
ถ่ายรุปแล้วไม่ส่งเงินลงกล่อง แค่คิดถึงหน้าน้องเค้าก็เบลอทักละ โดย: aodbu วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:2:37:54 น.
สนุกดีตามมาอ่าน กะหาดูรูปด้วยครับ
โดย: วา IP: 58.137.45.81 วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:14:08:56 น.
โอ้ว หายไปนานนะคะ
แวะมาทักทาย เมื่อเดือนที่แล้วก็ไปเป็นตากล้องแบบน้าหมันมาเหมือนกันค่ะ ^^ แบบว่า ถ่ายเกินหน้าที่ 555 ลงทุนนอนกับพื้นถ่ายบัณฑิต เพื่อให้ได้มุมใหม่ๆ มีแต่คนหันมามองว่าจ้างมาเท่าไหร่วะเนี่ย หุหุ แบบว่าถ่ายฟรี จนบัณฑิตบอกว่า แกๆ พอก่อน 555 แต่รูปที่ถ่ายมาของน้าหมันสวยดีนะคะ ชื่นชม ^^ โดย: kiss_intheblue วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:19:57:47 น.
พี่แน่ใจนะว่าพูดไม่เก่ง 555
เข้ามาอ่านแล้วหายเครียดเลย ในเมื่อหายเครียดก้อขอไปอ่านหนังสือต่อละนะ ไว้จะเข้ามาใหม่คร๊า โดย: DataCom วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:0:01:10 น.
เก่งไม่สวย ถ่ายออกมาให้สวยได้เปล่าค่ะ อิอิ อ่านแล้วก็หายเครียดดีค่ะ สนุกดี ไว้จะแวะมาอ่านใหม่นะคะ ติดตามทุกตอนค่ะ
โดย: keng IP: 203.144.198.247 วันที่: 17 สิงหาคม 2552 เวลา:12:48:29 น.
สวยจริง ๆ ครับ
ยังไงจะรอดูรูปตอนไปแข่งบาสวันอาทิตย์นะครับ ผมเบอร์ 11 ทีม ไทรบาซาร์ อ่ะครับ ^^ โดย: Dome IP: 117.47.185.152 วันที่: 17 สิงหาคม 2552 เวลา:21:09:28 น.
สวัสดีครับแวะมาเยี่ยมบล็อกคุณครับ น่าสนใจ สวยดีครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ
แวะเยี่ยมเราบ้างนะครับ ในเรื่องของประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิตของชาวชนเผ่าอาข่าที่แฝงไว้ซึ่งความสวยงาม และเคารพในธรรมชาติ ผู้ประสานงาน somsakbannok@yahoo.com Tel 081-7655352 ;053-737373 www.hilltribeguide.com โดย: พรานไพร ณ.ดอยบ่อ (guide doi ) วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:10:44:13 น.
คุณพี่ไปงานนี้ ไม่เจอน้องมั่งเหรอเนี่ย
แหมๆๆๆ เค้าก็ไปรับนะ แต่รับภาคคนแก่อ่ะ รับหลังงาน ฮ่าๆๆ รู้งี๊ ชวนคุณพี่ไปเป็นตากล้องให้มั่งดีก่า งานหน้านะๆๆ จองตัวเลย เดี๋ยวไปลงทะเบียนเรียนอีก เรียนให้บ้าไปเลยช๊าน ก๊ากกกกกก โดย: Ab Psy ReinDEAR++ วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:22:36:22 น.
เอาmvมาขึ้นเพิ่ม มีความรักใหม่หรอค่ะ ใครเป็นผู้หญิงที่โชคดีคนนั้น อิอิ ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ
โดย: keng IP: 203.144.198.247 วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:10:07:18 น.
แหม่ ไอ้รูปสุดท้ายเนี้ย เจ้าของเค้ามาดูหรือยังหว่า
รูปนี้สวยแหะ ให้เจ้าตัวหรือยังเพ่ โดย: หมาน้อยหัวใจหยุงหยิง IP: 125.24.5.96 วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:15:02:01 น.
โอว ให้ไปหมดแล้วครับ ^_^
คุณหมาน้อย หัวใจหยุงหยิง โดย: สมันน้อย เบอร์ 14 วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:18:49:53 น.
|
สมันน้อย เบอร์ 14
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?] สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำ ภาพถ่าย,รูปภาพ, บทความ,งานเขียน รวมถึงข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ ไปใช้เผยแพร่ .ไม่ว่าส่วนตัวหรือเชิงพาณิชย์ โดยไม่ได้ รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
Custom Search
Group Blog All Blog
Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
เหมือนแกงจีด กินกี่ที่แม่ก็ทำเค็มเหมือนเดิม
ผมก็ไปนะพี่งานเนี้ย ถ่ายรูปที่เดียวกันเลย หน้าหอสมุด
แบบว่าน้องที่ทำคัตเอาท์ รูปที่ 4 น่ารักเหอๆ
เลยยืนนานหน่อย
ไม่หรอกยืนเป็นเพื่อนน้องเค้า ถ้าใครมาถ่ายรูปแล้วไม่ใส่จะไปตบให้
เฉพาะผู้หญิงนะ ตบจุบๆๆ
คืนนี้หลับฝันดีครับพี่ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปน้องคนนั้นมาด้วย