--[ทำไมรู้สึกเหมือนมีเขางอกอยู่บนหัววะ!!]-- สวัสดีเพื่อน ๆ ที่รักชาว bloggang ทุกท่านครับ วันนี้ผมกลับมาอีกแล้วตามคำเรียกร้อง (ใครเค้าเรียกร้องเมิงวะ) หลังจากที่หายหัว หายหน้าหายตาจาก bloggang ไปเกือบเดือน วันนี้ผมกลับมาอีกแล้วครับ!!! เรื่องของเรื่องก้คือ เมื่อประมาณ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา กระผมมีอาการไฮโซลิซึ่มครับ อาการไฮโซลิซึ่มสำหรับผม ก็คือ เบื่อข้าวบ้าน เบื่อข้าวมันไก่ เบื่อก๋วยเตี๋ยวริมถนน อยากกินแต่อาหารที่อยู่ในห้าง!!! อาการนี้น่ากลัวครับ เพราะมันเปลือง T_T ต้องรีบไปหาหมอให้หมอจ่ายยาที่มีตัวยาชื่อ "โลโซเซตาม่อน" โดยด่วน ไม่งั้น เงินในกระเป๋าของท่านอาจจะมีอายุไม่ยืนถึงสิ้นเดือนได้ แต่ถ้าเพื่อน ๆ ท่านใดที่บ้านรวยอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องครับแค่นี้ถือว่าเบ ๆ ชิว ๆ ขนหน้าแข้งไม่ร่วง แต่สำหรับผมแล้ว ขืนยัง เบ ๆ ชิว ๆ มีหวังขนร่วงหมดทั้งตัวแน่ ๆ T_T ก็มัวแต่เกริ่นซะเป็นวรรคเป็นเวร เรื่องของเรื่องก็จะมาเล่าให้ฟังนั่นแหล่ะครับ เมื่อเกิดอาการดังกล่าว ผมก็ต้องสนองมันซะหน่อย สนองไป 1 อาทิตย์ถ้วนครับ แล้วร้านที่ผมเข้าไปสนองอาการนั้น ก็คือ ร้านที่ชื่อว่า สกายล้าคส์ (เขียนอย่างนี้หรือเปล่าฟระ) ร้านอาหารที่ขายอาหารสไตล์ญี่ปุ่น คล้าย ๆ กับฟูจิ แต่ข้อดีของสกายล้าคส์ก็คือ "ราคาถูกครับ" ก็แม้ว่า อาการของผมจะหนักหนาสาหัสขนาดไหน แต่ก็ยังต้องดูงบประมาณในกระเป๋าอยู่บ้าง ขืนแวะเข้าฟูจิทุกวัน ก็คงต้องกินแกลบแทนข้าวช่วงสิ้นเดือนแหล่ะครับ เออ ก่อนจะแวะไปสกายล้าคส์ วันแรกผมแวะร้านที่ชื่อว่า yayoi ครับ อ่านว่า ยา-โย-อิ นะครับ ไม่ใช่ อาโออิ ขืนอ่านว่า อาโออิ ก็มีหวัง ผมเข้าไปกินทุกวันแน่ ๆ เพราะคนขายต้องนมตู้มแหง ๆ T_T (ออกแนวบ้ากามแหะตรู) ครับ ยาโยอิ ก็เป็นอีกร้านนึงที่ขายอาหารสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งราคาถูกกว่าฟูจิ 7 ชั่วโคตร เข้าไปกินเพราะร้านมันแต่งสวยดี สดใสน่านั่ง และที่สำคัญ มันไม่ค่อยมีคน!!!! "เหมือนกินอยู่ในป่าช้าที่มีเพลงอะไรก็ไม่รู้ เปิดโหยหวนนนนนนน ชวนอ้วกจริงๆ" ก็ไม่ได้จะมาว่าอะไรร้านนี้หรอกครับ ที่ผมกำลังจะเล่าก็คือ ผมจะมาเล่าให้ฟังถึง ความกระบือของตัวเองที่ทำไมมันถึงได้ ใช้สมองในการเลือกเมนูน้อยขนาดนี้ เข้าไปร้านอาหารญี่ปุ่น ก็แน่นอน ต้องอยากกินอาหารญี่ปุ่น (มั้งนะ) พนักงานเอาเมนูมาให้ดู พร้อมเปิดโอกาสด้วยการยืนกดดันมันว่าเมื่อไหร่จะเลือก ผมเหลือบมองหน้า ส่งกระแสจิตบอกไปว่า กุยังไม่ได้เปิดเมนูดูเลย ขอเวลาแป๊บได้ไหม พนักงานคนนั้นถึงได้เดินตูดปัด ตุ๊บปัด ตุ๊บป่องเข้าไปในครัว ด้วยความอินเตอร์เนชั่นแนวในสมองของตัวเองทำให้ผมเลือกเมนูที่สุดแสนจะญี่ปุ่น เมนูนั้นคือ ชุดสเต็กเบอร์เกอร์เนื้อ (จริง ๆ มันมีชื่อชุดอะไรซักอย่างนี่แหล่ะครับ แต่ผมจำไม่ได้ จำได้แต่ว่ามันมีคำว่าเบอร์เกอร์เนื้อ) ที่สั่งชุดนี้เพราะว่าตัวผมเองชอบกินเนื้อครับ ชอบมาก ๆ ไม่รุ้เป็นอะไร ชอบกินจริง ๆ เปิดเมนูเห็นมันเป็นเนื้อก็สั่งเลย ชุดสเต็กเบอร์เกอร์เนื้อ จากรูปที่เห็น มีซุปสาหร่าย มีสลัด มีกิมจิ (มั้ง) มีข้าว (อุปมาว่าข้าวญี่ปุ่นก็แล้วกัน ทั้งที่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่) และก็แน่นอน ต้องมีชุดเบอร์เกอร์เนื้อ พร้อม ไข่ดาว 1 ฟองมาด้วย สั่งโดยไม่คิด ดูเห็นมันมีเป็นชุด ๆ ก็คิดว่ามันช่างญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น ถ้าตรูกินเข้าไป หน้าตาตรูคงจะต้องญี่ปุ่นขึ้นอีก 10 เปอร์เซนต์ชัวร์ป๊าด!!!! สั่งไปแล้วก็นั่งรอ อาหารมาเร็วมากครับ น่าชมเชยจริง ๆ ควันกรุ่นมาเชียว กัดเข้าไปคำแรก เจ๊ดโด้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววว ถ้ากุรู้ว่า ไอ้เบอร์เกอร์เนื้อในร้านนี้มันเป็นอย่างนี้ กุเดินเข้าเซเว่นอีเลฟเว่น แล้วสั่งเบอร์เกอร์อันละ 25 บาทกินก็ได้ ไม่ต้องถ่อมากินถึงนี่หรอก ถ้าใครไม่เคยกินแล้วอยากรู้ว่ามันมีลักษณะเป็นอย่างไร ไม่ต้องไปกินถึง ยาโยอิครับ เดินเข้าเซเว่น แล้วสั่งเบอร์เกอร์เนื้อ หรือ หมู ก็ได้ นั่นแหล่ะครับเหมือนกันเลย "ไฮโซ๊ ไฮโซ นะเมิงนะ แดรกเบอร์เกอร์" นี่คือความกระบือครั้งแรกของผมที่อยากกินอาหารหรู ๆ (มั้ง) ที่ไม่ใช่กับข้าวบ้าน และหลังจากนั้นผมก็เดินผ่านร้าน ยาโยอิ ไปแบบไม่เหลียวแล เพราะเมนูเบอร์เกอร์เนื้อของเค้าเนี่ยแหล่ะ ก็ไม่ได้โทษเค้านะครับ โทษตัวเองนี่แหล่ะ ที่สั่งเมนูอะไรไม่ดูให้ดีก่อน!!! ส่วนเรื่องต่อไป ก็คงต้องกลับมาที่สกายล้าคส์ที่ผมเกริ่นไว้ตั้งแต่แรกล่ะครับ อย่างที่ทราบกันว่า หลังจากวันนั้นมา ผมก็เข้าสกายล้าคส์ มาตลอด ถามว่า ร้านอื่นไม่มีเข้าหรือ ก็ต้องบอกว่ามีครับ เพียงแต่ว่า ผมไม่กล้าเข้าไปกิน เพราะมันดูหรูเกิ๊น เกินกว่าที่ชายหนุ่มหน้าเหี่ยกๆ อย่างผมจะเข้าไปกินได้ (จริง ๆ ก็ไม่มีใครเค้าห้ามหรอกนะ แต่อนุสติของตัวเองบอกอยู่เสมอ ๆ ว่า อย่าเข้าไปนะเมิง อย่าเข้าไป) นั่นจึงทำให้ผมเลี้ยวเข้าแต่สกายล้าคส์ ร้านเดียวเลย ปัจจัยหนึ่งที่ผมเข้าร้านนี้ก็คือ โต๊ะมันมีเยอะดี และลูกค้าก็ไม่เคยเต็มร้านถึงขนาดต้องรอคิวกินกัน ก็เพราะว่าผมเป็นจำพวกนั่งแช่ครับ กินข้าวไปอ่านหนังสือไป อ่านหนังสือจนจบเล่มนั่นแหล่ะถึงจะออกจากร้าน พนักงานท่าทางจะเกลียดผมนะ นั่งนานจัง แล้วข้าวบ้านเมิงไม่มีกินหรือไง มาจังเลย ร้านกุเนี่ย T_T อาหารที่ผมกินติด ๆ กัน 4 วันก็คือ "ชุดสเต็กเนื้อ" ครับ!!! บอกแล้วว่าชอบกินเนื้อ สั่งแมร่งอยู่ชุดเดียว กินตลอด 4 วัน ชุดนึงก็ไม่ใช่ถูก ๆ 100 กว่าบาทแหน่ะ คิดดู กินข้าวมื้อเดียวเป็นร้อย อิ่มก็ไม่อิ่ม เพื่อความไฮโซ T_T 4 วันผ่านไป ด้วยความพึงพอใจในรสชาดอาหาร ก็มาถึงวันที่ 5 4 วันกินอยู่อย่างเดียว มันจะดูสิ้นคิดเกินไปหน่อย ทำให้วันที่ 5 ผมเริ่มหาเมนูใหม่ ๆ กินบ้าง "สเต็กเนื้อชุดเดิมหรือเปล่าคะ" พนักงานที่อายุรุ่นแม่ผมเอ่ยถาม "เอ่อวันนี้ขอเปลี่ยนครับ" ผมตอบไปแบบยิ้ม ๆ "รับชุดไหนดีคะ" "อืมมมมมมมม" ผมรีบเปิด ๆ เมนูดูไปเรื่อย ๆ ไปสะดุดอยู่กับชุดนึง ชื่อมันแบบว่า ญี่ปุ่นสุดฤทธิ์ โครตจะญี่ปุ่นเลย มันคือชุด "วะเซนหมูโกเบ" เจ๊ดโด้ววววววววววววววววววววว นี่แหล่ะที่เราต้องการ มันต้องญี่ปุ่นโคตร ๆ "เอาชุดนี้ครับวะเซนหมูโกเบ" ผมเอานิ้วจิ้มในเมนูเพื่อสั่งอาหาร "ค่ะ รับน้ำอะไรดีคะ" "เอาแป๊ปซี่แก้วนึงครับ" หลังจากนั้นก็นั่งรออาหารด้วยใจจดใจจ่อ วะเซนหมูโกเบ โอว หมูที่เราจะกินมันต้องเป็นหมูต่างประเทศแหง ๆ มันต้องมาจากญี่ปุ่น และมันจะต้องมีรสชาดที่เราไม่เคยกิน ดูในรูปแล้ว โอว มันช่างน่าลิ้มลองเสียเหลือเกิน หมูโกเบ รูปร่างหน้าตามันจะเป็นเช่นไรน๊อ มันจะเหมือนหมูนครปฐมหรือเปล่า มันคงละลายไปในปากแบบไม่ทันกัดเหมือนในการ์ตูนที่เราอ่านแน่ ๆ นั่งบ้าบออยู่ประมาณ 5 นาที อาหารที่สั่งก็มา "วะเซนหมูโกเบค่ะ" ไอ้วะเซนที่ผมสั่งมาตั้งอยู่ตรงหน้า ผมเพ่งพิจารณาแล้ว มันก็ไม่ต่างจากหมูนครปฐม ที่ผมกินอยู่ทุกวันแต่อย่างใดหน้าตามันก็เหมือนกัน (กุอยากจะรู้นัก ว่าเมิงดูหมูออกด้วยเหรอฟระ ว่าหมูไหน หมูนครปฐม หมูไหนหมูเชียงใหม่ แสรดดดดดดดดดด พูดจังเลย) กระนั้นเลย อย่ามัวเสียเวลา หมูโกเบมาอยู่ตรงหน้าแล้ว จะมัวรอส้งตีนอะไรอีก หิวจนจะกินคนทั้งสกายล้าคส์ได้อยู่แล้ว (ยกเว้ณพนักงานเสริฟ เพราะดูท่าจะหนังเหนียว) เอาตะเกียบ คีบ ไอ้หมูที่อ้างว่าเป็น หมูโกเบ มาใส่ในถ้วนข้าวที่มาเป็นชุด แล้วเอาช้อนตักทั้งข้าว ทั้งหมูโกเบนั้นใส่ปาก เคี้ยว "กรุ๊บ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ" คำที่ 1 ผ่านไป คำที่ 2 ผ่านไป คำที่ 3 ผ่านไป สรุปได้ว่า ไอ้วะเซนหมูโกเบที่เค้าบอกไว้เนี่ย จริงๆแล้ว มันน่าจะมีคำแปลเป็นภาษาไทยติดไว้ด้วยนะ ผมไม่รู้ว่า คำว่า "วะเซน" เนี่ยมันแปลว่าอะไร แต่อารมณ์นั้น อารมณ์หลังจากยัดไอ้หมูโกเบโกบ๊วยนี่เข้าไปในปากซะเกือบหมด ผมรู้แล้วว่ามันแปลว่าอะไร!!! วะเซน = ผัดขิง!!! วะเซนหมูโกเบ ก็เท่ากับ "หมูโกเบผัดขิง!!!" หมูมาจากโกเบหรือไม่ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่ไอ้วะเซนเนี่ย ผัดขิงแน่ ๆ ชัวร์ป้าด ร้อยเปอร์เซนต์ ไม่เชื่อลองไปกินดู "วะเซน หมูโกเบ" แหม ชื่อเมิงไฮโซไซตี้มากเลยนะ ตั้งซะกุอยากกินเลย ที่ไหนได้ หมูผัดขิงชัด ๆ พูดตรง ๆ ครับ ว่า ถ้าผมอยากกินหมูผัดขิง ผมให้แม่ผมทำให้กินก็ได้ อร่อยกว่านี้เยอะ ไม่น่าเลย หมูโกเบ หมูผัดขิง ที่มาบ่นนี่ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่เข้าไปกินที่นี่อีกแล้วนะครับ ผมก็ยังคงยืนยันที่จะกินร้านเดิมนี่แหล่ะ ถึงแม้ว่า พนักงานเสริฟจะไม่น่ารักเหมือนพิซซ่า หรือ เซเวนเซ่น ออกจะอายุรุ่นราวคราวแม่ผมซะด้วยซ้ำ และวะเซนหมูโกเบที่ผมหวัง มันจะกลายเป็นหมูผัดขิงไปต่อหน้าต่อตา แต่ย่างน้อย ชุดสเต็กเนื้อเค้าก็อร่อยดี และ ราคาก็ถูก และที่สำคัญ เค้ายอมให้ผมนั่งนาน ๆ โดยไม่มีการมากดดันกันข้างโต๊ะว่า "กินเสร็จแล้วก็รีบ ๆ ไสหัวออกไปซะ คนอื่นจะได้เข้ามากินบ้าง" แค่นี้แหล่ะครับ สวัสดี ปล.ระวังไว้ให้ดี วะเซนหมูโกเบ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ สมันน้อย เบอร์ 14 เหอเหอ ย่องเข้ามาแอบยิ้ม คริคริ
โดย: นู๋กิ๊ก (Gigg_Pat ) วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:15:46:13 น.
น้าหมัน นู๋เข้ามาคอนเฟริมว่า ยาโออิ หมาไม่แหลก จิงๆอ่ะแหละ
แล้วไอ้ชุดเนื้อที่น้าสั่งนู๋ก็กินมาแล้ว และลาขาดจากยาโยอิเพราะมันนั่นแหละ.... ส่วนสกายลาร์คนู๋ก็ชอบนั่งเหมือนกัน แต่ไปแล้วชอบสั่งหลายอย่างอ่ะ...ทาโกยากิ เกี๊ยวซ่า สลัดแซลมอน โอ๊ยสารพัดเมนูอ่ะน้า นู๋ว่าร้านนี้อร่อยหลายอย่าง ....ถูกและดี...ฟันธง!!! โดย: สาวคลอง 4 IP: 202.57.178.134 วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:15:54:01 น.
เข้ามาอ่านแบบว่า จดจ้องทุกตัวอักษรเลย ขำค่ะ
เบื่อ คะน้าหมูกรอบไข่ดาวแล้ว อยากเป็น ไฮโซลิซึ่ม มั้ง แต่สงายต้องรอสิ้นเดือน เงินเดือนออก อิอิอิ โดย: ayopolie วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:16:46:17 น.
แนวๆ นั้นเหมือนกัน สิ้นเดือนทีนี่จะสิ้นใจเล้ยเรา
> โดย: Summer Flower วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:17:23:17 น.
พูดถึงอาการญี่ปุงแล้วอยากกิงๆๆแต่ตอนนี้หมดสิทธิเพราะกะลังป่วยเปงโรคทรัพย์จางอยู่อ่ะ...
รอ เงินออกก่องจะเปงโรคไฮโซลิซึ่มซะให้เข็ด (แล้วค่อยมาซึมที่หลังตอนตังหมดเป๋า). โดย: ม๊ามี๊@มะหมี่ (ม๊ามี๊@มะหมี่ ) วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:17:30:34 น.
ยาโยอิ ม่เวิร์คเจงๆ
แต่ตรงTops นิปปอนราเมงเปิดใหม่ ก็ถูกนะค้าบ แต่ไม่รู้ว่ามีเนื้อแบบที่พี่อยากกินป่าว แต่ทงคัตสึอร่อยๆ โดย: The_airz IP: 125.25.190.38 วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:18:41:15 น.
กลางเดือนเองนะเฮีย เดี๋ยวได้ซดม่าม่าก่อนเงินเดือนออกเเน่ๆ หึหึ
โดย: ปลายธันวา IP: 222.123.168.117 วันที่: 19 เมษายน 2551 เวลา:9:38:06 น.
มู๋ โกเบ เนี่ย ในการ์ตูนมันคือเนื้อหมูเกรดเอเลยใช่ป่าว แล้วตกลงมันละลายได้ใช่ป่าวชินจัง
โดย: ทองร้องเลยตรู IP: 118.174.127.190 วันที่: 20 เมษายน 2551 เวลา:5:11:56 น.
นี่ถ้าบ้านอยู่ใกล้ๆกัน น้องคงแบกขนมไปให้คุณพี่กิน อิ่มหนำสำราญไปแล้วเน่ๆ 555
โดย: Ab Psy ReinDEAR++ วันที่: 20 เมษายน 2551 เวลา:13:50:01 น.
มาเยี่ยม หาอะไรขำๆอ่านนะ มีเรื่องกินๆๆๆๆให้อ่านเสมอ ขำดี อยากให้มีอะไรที่หื่นปนอยู่นิดๆด้วยจะทำให้ขำๆสนุกๆขึ้นอีก
โดย: รักแห่งสยอง IP: 203.157.16.245 วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:47:01 น.
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน
ขอ555555555นิดนึงนะคะ ^__^ โดย: bubblebaba วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:16:17:20 น.
ชอบกินเนื้อ เอาเนื้อมาฝาก
//steelmaker.multiply.com/photos/album/32/32#11 พุทราเห็นแล้วน้ำลายเลอะปกเสื้อเลย แต่กินเนื้อไม่ได้ T_T โดย: แค่ก้อนหินที่อยากบินได้ วันที่: 20 สิงหาคม 2551 เวลา:10:17:21 น.
|
สมันน้อย เบอร์ 14
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?] สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำ ภาพถ่าย,รูปภาพ, บทความ,งานเขียน รวมถึงข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ ไปใช้เผยแพร่ .ไม่ว่าส่วนตัวหรือเชิงพาณิชย์ โดยไม่ได้ รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
Custom Search
Group Blog All Blog
Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |