เป็นภาพยนต์ที่ดูเพื่อรอเวลาที่เซ็นทรัลแอร์พอร์ตก่อนขึ้นเครื่องกลับจากเชียงใหม่หลังจากไปตลุยมหกรรมลอยโคมยี่เป็งมาทั้งคืน...ผมถาม ปี้สาวขายตั๋วว่ามีเรื่องไหนที่รอบฉายไวสุดครับ.. รักแห่งสยามเจ้า ..(เสียงหวานหวานตอบมา หนังคงหวานเหมือนเสียงปี้ป่าวเน้อ)จากใบปิดผมเดาแนวทางว่าคงออกแนวใสใสโรแมนติคเหมือนกับซีซั่นเชนจ์ แต่ยังจำภาพโหดโหดจากฝีมือ มะเดี่ยว ผู้กำกับจากหนังเรื่อง 13 ก่อนหน้านั้น...แต่ผมถูกหลอกครับหนังเรื่องนี้เป็น drama ที่มีพล๊อตเรื่องเข้มข้นพอสมควรประเด็นความรักแห่งสยามนั้นหลากหลายนั้นมีทั้งรักเพื่อนรักครอบครัว พี่น้องความรักแบบหญิง และ ชายแต่ความรักที่ทำให้คนทั้งโรงฮือฮานั้นก็เป็นความรักแบบ ชายและชาย(ที่คาดไม่ถึง)...เมื่อเอาอคติเรื่องความรักออกไปแล้วหนังผูกปมร้อยเรื่องราวของเด็กหนุ่มสองคนจากสองครอบครัวที่เติบโตในวัยเด็กมาด้วยกันมิว เป็นเด็กเงียบเงียบคิดมาก เติบโดมากับอาม่า และเสียงเปียนโนโต้ง เป็นเด็กร่าเริง เติบโตในครอบครัวที่อบอุ่นมีพี่สาวชื่อแตง พ่อชื่อกรณ์ แม่ชื่อ สุนีย์...เหตุการณ์ที่สำคัญเกิดขึ้นจากแตง พี่สาวที่หายตัวไประหว่างไปเที่ยวเชียงใหม่(คนดู ก็จะรู้เรื่องทุกอย่างไปพร้อมกับตัวละครคือไม่รู้ว่า แตงเสียชีวิต หรือ หายไปเพราะหนีออกจากบ้าน)ทำให้ครอบครัวที่อบอุ่น มีปมมืดเกิดขึ้นทุกคนเปลี่ยนไป อยู่ในความเศร้าความทรงจำมักจะทิ่มแทงให้คนในครอบครัวเจ็บปวดเสมอเมื่อนึกถึงจนต้องย้ายบ้านออกไปเพราะรับกับสภาพที่ขาดคนที่รักไปไม่ได้...ซึ่งต่างจากบ้านของมิวซึ่งอาม่า ยังคงรอ อากง ที่เสียชีวิตในบ้านเสมอเพราะเพี่ยงคิดถึงว่า ถ้าวันใดอากงกลับบ้านมาแล้วไม่เจอใคร อากงจะเหงาบ้านของมิวจะมีความทรงจำซุกซ่อนอยู่มากมายถึงแม้คนคนนั้นจะอยู่หรือไม่ก็ตามแต่ก็มีความสุขทุกครั้งที่ได้ระลึกถึง...เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปมิวยังคงอยู่บ้านหลังเดิม คนเดียวอาม่าเสียชีวิตไปนานแล้ว บ้านของโต้งมีคนย้ายเข้ามาอยู่แทน เป็นสาวหมวยน่ารัก ชื่อ หญิงซึ่งแอบชอบมิวอยู่มิวตอนนี้ เป็นนักร้องนำ ที่มีผลงานเพลงที่จะนำออกสู่ตลาด...โต้ง ยังอยู่ในครอบครัวที่มีพ่อกรณ์ ติดเหล้าอย่างหนักโทษตัวเองเรื่องอดีตที่ลูกสาวหายไปแม่สุนีย์ ที่เข้มงวด เข้มแข็ง ดูแลแบกภาระให้ครอบครัวให้ดีขึ้นแต่ยิ่งแข็งมากเท่าไหร่ สิ่งที่คอยประคับประคองกลับดูแตกง่ายได้ทุกเมื่อโต้ง ดูเหมือนเด็กคิดมากซ่อนความไม่เข้าใจไว้ในดวงตาโต้งมีแฟน สาวสวยเลือกได้ ชื่อ โดนัท...เมื่อโต้งกับมิวมาเจอกันอีกครั้งโดยบังเอิญพร้อมกับจูน ซึ่งเป็นผู้จัดการวงของมิวจูน นั้น บังเอิญที่หน้าตา ท่าทางไปเหมือน แตง พี่สาวโต้งที่หายไปแล้วเรื่องทั้งหมดก็นำตัวละครทั้งหมดมาเผชิญหน้าอีกครั้งโดยสุนีย์ แม่ผู้มีเกราะเข้มแข็ง จ้างจูน ให้ปลอมตัวเป็นแตง เพื่อปลอบกรณ์ให้ดีขึ้นกรณ์ พ่อผู้อ่อนแอทั้งกายและใจ อาการดีขึ้น แต่ยังคงแอบกินเหล้าเหมือนเดิมโดนัท สาวสวยเลือกได้ ไม่เข้าใจทำไมโต้งไม่เอาใจใส่ตนเลยและยังแข็งแกร่ง เมื่อถูกชายคนรักปฏิเสธหญิง สาวแบ๊วสุดยอดมากน้อง ที่ รักมิวมากทำทุกวิถีทางให้มิวมารักตนบ้าง(พึ่งไสยศาสตร์ด้วยนั่น) เมื่อไม่ได้ซึ่งความรักจากทั้งโต้งและมิว ก็หวังที่จะเห็นคนที่เรารักนั้นมีความสุขแม่พระ มากครับจูน สิ่งที่จูนบอกคือ พ่อแม่จูนตายหมดแล้วเมื่อจูนหนีออกจากบ้านที่เชียงใหม่เพื่อหวังว่าจะทำให้ชีวิตพ่อแม่ให้ดีขึ้น กำลังทำงานเก็บเงินไปอเมริกา เป็นตัวแสดงทั้งทั้งที่ไม่เหลือใครแล้วในชีวิต แต่ก็ยังเข้มแข็งอยู่ได้ และเป็นความหวังให้กับคนรอบข้าง(ทั้งคนดูลุ้น และตัวแสดง ก็ยังไม่รู้ว่าจูน ใช่แตง หรือไม่ เป็นตัวแสดงที่มีมิติน่าสนใจมากครับ)โต้ง เป็นคนที่หาตนเองไม่เจอ ในดวงตามีแต่เรื่องราวที่มีคำถามและความลังเล ไม่เข้าใจมีความสุขที่ได้เจอมิวอีกครั้ง ได้ดูแลและเอาใจใส่มิว ตามใจตนเอง(ไม่ใช่ทำอะไรตามใจแม่ หรือ ตามใจโดนัท)มิว มีความสุขที่ได้เจอโต้ง เหมือนความทรงจำดีดีในอดีตกลับมาหาอีกครั้งเหมือนเพลงเปียนโนจีน ที่อากง เคยเล่นให้อาม่าฟังเปิดรับเอาความหวังที่ส่องเข้ามาในชีวิตและเขียนเพลงรัก เพื่อบอกรักโต้ง(เหมือนอากง บอกกับอาม่า)...บทหนังมีอะไรดีดี ชวนติดตาม พร้อมกับแทรกสัญญลักษณ์รวมถึงอัตลักษณ์เข้าไปด้วยคำพูดและจังหวะของหนังทำให้คนดูตื้นตันร้องไห้เอาง่ายง่าย...ความเหงาที่ไม่มีคัวตน หาที่มาไม่ได้มากเท่าไหร่ความเหงาก็ยิ่งทำร้ายเรามากขึ้นเท่านั้น จนบางครั้งไม่อยากทำอะไรเลย เหมือนไม่มีอะไรหลงเหลือในชีวิตสักอย่าง ...ฉากหลายฉากได้นักแสดงชั้นครู อย่างสินจัย(รับบทสุนีย์)ทรงสิทธิ์(รับบท กรณ์) รวมไปถึงพลอย (รับบท แตงและจูน)ทำให้ตัวหนังมีมิติขึ้นเยอะ การแสดงแบบMethod Actingทำให้คนดูเชื่อว่าดารานั้นเป็นตัวแสดงจริงจริงดาราเด็กหน้าใหม่แสดงได้ดีเป็นธรรมชาติมากครับทั้งโต้ง และ มิว รวมไปถึงหญิงด้วยส่วนโดนัท นั้น บทอาจไม่ส่งให้แสดงมากเท่าไหร่นัก...ฉากหลายฉากในหนังน่าประทับใจหลังจากฉากไคลแมกซ์ฮือฮา ที่มิวกับโต้งจูบแลกลิ้นกันกลางสนามจนสุนีย์เดินมาเห็นช๊อค ครุ่นคิดครุกรุ่นจนเก็บมาระเบิดในอีกวัน...ฉากปะทะกันระหว่างสุนีย์กับมิวสุดยอดนะครับสุนีย์ที่พยายามประคับประคองความหวังของครอบครัวให้ผ่านอุปสรรคไปให้ได้ทุกวิถีทาง พยายามทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับความหวังทั้งหลายในครอบครัวนั้น สุนีย์ระเบิดคำพูดหาเหตุผลต่างต่างนานามาให้เด็กอย่างมิวเข้าใจให้เลิกคบกับลูกชายตนเองเพราะความรักแบบชายรักชายมันไม่ใช่เรื่องปกติที่คนทั่วไปไม่ควรทำ...ในฐานะคนดูผมไม่รู้ว่ามิวจะเข้าใจหรือปล่าวเพราะมิวนั้นหลังจากอาม่าตายไปแล้ว โต้งเป็นความหวังเดียวที่ส่องแสงมาแทรกความเหงาในชีวิต แต่แค่ชั่วครู่ก็ดับไปไปเพราะความรักและความหวังดีของแม่ ซึ่งมีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้น...คำพูดเข้มข้นแหลมคมยาวนานของสุนีย์ถูกคำพูดของมิวตอบมาเรียบง่ายสั้นสั้นเป็นแค่เพื่อนครับ สองครั้งเหมือนสุนีย์เอามีดกรีดตวัดไปมาบนอากาศมืดมืดที่ว่างปล่าวเพราะแสงสว่างเล็กเล็กดับหายไปตั้งแต่คำพูดแรกแค่นี้ก็เอาอยู่แล้ว...คนสองคนคนที่เหน็ดเหนื่อยทุกข์ใจประคับประคองความหวังหลายต่อหลายความหวังไม่ให้ล่มสลายไปต่อหน้ากับคนที่โดนความเหงาเหี้ยเหี้ย ทำร้ายทุกคืนวันเจ็บปวดจนไม่มีความหวังใดใดเหลือให้หวังต่อไปอีกแล้ว...หนังเยี่ยมมากครับเป็นภาพยนต์ที่ดูเพื่อรอเวลาแต่คุ้มค่าเวลาเรื่องหนึ่งผู้กำกับ และ บทหนังทำได้สวยงามทำให้หนังยังเข้ามาวนเวียนในความคิดต่อแม้ออกจากโรงหนังมาแล้วเพลงประกอบเพราะเพราะยังคงกังวานอยู่...ถ้าใครตัดสินใจจะไปดูอย่าให้อคติ มาพลาดโอกาศดูหนังดีดีเรื่องหนึ่งครับ(หนังยังมีประเด็นดีดีน่าสนใจอีกหลายประเด็นแล้วจะมาขยายความคิดเขียนเพิ่มนะครับ)
Happy Father's day
รู้สึกดีกับหนังเรื่องนี้มากๆ
ผิดแม้ว่าจะผิดคาดก็ตามที
แต่หนังสื่อให้เราเห็นในหลายๆมุมมองอ่ะ
ดีใจที่มีคนเห็นว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดี
เพราะเท่าที่เห็นๆมา
มีแต่คนว่าอ่ะ