ต่อไปนี้ ผู้เขียนใคร่ขอกล่าวถึง ความสุข ทั้งในทางโลก และความสุขในทางธรรม ตามหลักของพุทธศาสนา ความสุขในทางโลกนั้น ส่วนใหญ่เรามักจะมองความสุขในด้านวัตถุ เพราะมองเห็นตัวอย่างได้ชัดแจ้ง เช่น เห็นตัวอย่างบุคคล ทรัพย์สมบัติ เงิน ทอง ยศศักดิ์ บริวาร เครื่องใช้สอย พาหนะ หรือเครื่องประดับต่างๆ มนุษย์ส่วนใหญ่มักหลงติดอยู่กับสิ่งเหล่านั้น เมื่อหลงติดแล้วก็จะเกิดกิเลสตัณหา คือ ความอยากได้ ความโลภ ความไม่รู้จักพอ เพราะเกิดการเปรียบเทียบ ที่สุดก็อาจจะสร้างปัญหาบานปลายให้ต้องเกิดการกินโกงฟ้องร้อง ขึ้นโรงขึ้นศาล ดังเห็นกันอยู่บ่อยๆ ในที่สุดความโลภนั่นเอง ก็จะนำความทุกข์อย่างมหันต์มาให้แก่ตัวนั่นเอง สรุปแล้ว ความสุขของมนุษย์ที่แท้จริงไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งเหล่านี้ มันเป็นเพียงเครื่องฉาบพรางความสุขอย่างแท้จริงเท่านั้นเอง ตรงกับคำกล่าวว่า ของแท้ของจริงนั้น พบยากหาได้ไม่ง่ายนัก
ตอนต่อไปนี้ จะได้กล่าวถึงเรื่องของความสุขในแง่ของธรรมะทางพุทธศาสนาบ้าง สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สอนว่า ”นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ” แปลว่า "สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี” สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านสั่งสอนให้รู้จักแยกกาย และใจออกเป็นคนละส่วน ท่านสอนให้สงบกาย และวาจาด้วยศีล ซึ่งหมายถึงให้ขัดเกลากิเลสอย่างหยาบในตัวเอง เป็นเหตุให้เกิดสันติสุขทางกาย วาจา เป็นประการต้น
ท่านสอนให้ฝึกหัดให้เกิดสันติสุขทางใจด้วย สมาธิภาวนา หัดใจไม่คิดถึงเรื่องความกำหนัดอันได้แก่ ความรัก ความโกรธ ความโลภ ความหลง ความกลัว และความฟุ้งซ่าน และขั้นต่อไป ท่านสอนให้ฝึกหัดให้เกิดสันติสุขทางทิฏฐิ ฝึกให้คิดให้เห็นด้วยปัญญา พิจารณาให้เห็นสรรพสิ่งทั้งหลายไม่แน่นอนเป็นอนิจจัง ไม่เที่ยง ต้องเสื่อมสิ้นไปและแตกดับไป เรียกว่า เป็นทุกข์”
เมื่อเรารู้ความจริงเช่นนี้แล้ว ก็จะทำให้จิตใจของเราเข้มแข็งมั่นคงเด็ดเดี่ยว ไม่หวั่นไหวไปตามเหตุการณ์เหล่านั้น เป็นเหตุให้ใจตั้งอยู่ในสันติสุข เป็นอิสระเกิดอำนาจทางจิตที่จะได้ทำกิจกรณีหน้าที่ของตนให้สำเร็จสมประสงค์ และนั่นแหละความสุขก็จะเกิดขึ้นแก่ตนเอง สิ่งนี้แหละเรียกว่า เป็นสุขที่แท้จริงในทัศนะของผู้เขียน ท่านผู้อ่านจะเห็นด้วยหรือไม่
Create Date : 23 มกราคม 2565 |
|
0 comments |
Last Update : 24 มกราคม 2565 7:58:06 น. |
Counter : 412 Pageviews. |
|
|
|