Group Blog
All Blog
|
พรุ่งนี้จะทำเลสิกแล้ว เย้เย (แชร์ประสบการ์ณก่อนการทำเลสิกค่า) เรานัดหมอไว้ตั้งแต่ปลายปีก่อนค่ะ แต่เพิ่งได้คิวตรวจวันที่ 11 ที่ผ่านมานี่เอง คนไปทำกันเยอะมากกก ไม่เหมือนปีก่อนที่น้องเราไปทำคนยังน้อยอยู่ ก็เลยได้ทำไว โดยปกติหมอจะตรวจตาสำหรับคนที่เพิ่งมาครั้งแรกตอนเช้า 4-5 คน และจะทำเลสิกให้กับคนไข้วันละ 2 คนค่ะ หมอบอกว่าเพื่อความแม่นยำ แค่ตรวจตาก็กินเวลาไปครึ่งวันแล้ว เราไปตรวจมาวันที่ 11 ที่ผ่านมา จริงๆแล้วเราได้วันที่ 25 นะ แต่เค้าโทรมาเลื่อนให้ พอดีแม่เราจะไปมาเลเซียไง แม่กลัวจะไม่มีคนดูแลเรา(ไม่ต้องดูแลก็อยู่ได้ค่ะ รักแม่จัง) แม่เลยขอเค้า ทีแรกเค้าไม่ให้ว่าคิวเต็ม แล้วไม่รู้ยังไงโทรมาเลื่อนวันให้ พยาบาลบอกว่าแม่เราจะได้ไปได้ ใจดีเหมือนกันแฮะ ตอนตรวจขั้นตอนอื่นๆก็ไม่เป็นปัญหาอะไรค่ะ ตรวจสายตาตามปกติ พยาบาลตรวจให้ มาถึงขั้นตอนที่ต้องหยอดน้ำยาขยายม่านต่อ่ะ หยอดเสร็จก็นั่งหลับไปเหอะ 1 ชั่วโมง แล้วก็ต้องหยอดยาชาต่อ ไอ้ที่ทรมาณคือ หลังจากม่านตาขยายแล้ว สู้แสงไม่ไหวจริงๆ จะมีขั้นตอนนึงหมอจะเอาไฟส่องตาแล้วให้เรามองแสงด้วย ฝืนแทบแย่แน่ะ แล้วก็ตอนขึ้นไปนอนบนเตียงเพื่อจะตรวจความหนาของกระจกตาเนี่ย พอนอนปุ๊บ โฮ้ยยย แสงส่องตา ขนาดปิดตาเรายังรู้สึกว่าแสงมันยังจ้าเลย จะให้พยาบาลปิดไฟก็กลัวเค้าจะมองไม่เห็นแล้วตรวจพลาด เลยแค่หรี่ไฟลงมาหน่อย เอาแค่เราพอทนได้ แล้วเค้าก็จะเอาเครื่องมือเข้าไปจิ้มลูกตาเราค่ะ ไม่เจ็บหรอก ไม่น่ากลัว เราก็บอกเค้าว่าใช้แสงเยอะกว่านี้ได้นะคะ เค้าก็หัวเราะกัน แล้วแซวว่าคนไข้กลัวตรวจพลาด(ก็กลัวจริงๆนี่นา) ตรวจเยอะแยะเลย โชคดีที่กระจกตาเราหนานะ เลยไม่ต้องใช้วิธีขูดตา ภาษาอังกฤษนี่เรียกว่าไรเราจำไม่ได้ คือเค้าจะมีสามแบบ แบบแรกก็คือเลสิกแบบทั่วไป แบบว่าตัดกระจกตา แล้วก็ยิงเลเซอร์เข้าไปแล้วก็ปิดกลับลงมา แบบที่สองสำหรับคนกระจกตาบาง จะมีเครื่องที่ขูดกระจกตาแล้วค่อยยิงเลสิกลงไป แบบที่สามไม่มีทำในไทยค่ะ หมอบอกว่าเคยมีการทำให้คนเอเชียแล้วมันไปควักเนื้อในตาออกมามากเกิน(บรึ๋ยยย) ไม่เหมาะกับคนเอเชีย ขออภัยที่เราจำไม่ได้ว่าเรียกว่าอะไร เห็นว่าถ้าค่ากระจกตาบนล่าง หลังจากทำรวมกันแล้วไม่ถึง 410 จะทำไม่ได้ มีคนนึงเค้าค่ารวมก่อนทำคือ 490 หมอว่าหลังจากทำแล้วจะค่าต่ำกว่า 410 ก็เลยต้องทำแบบขูดกระจกตาค่ะ (หมอเรียกเข้าไปฟัง 3 คนค่ะ) ซึ่งในแบบที่ต้องขูดกระจกตา ถ้าคนที่เป็นคีลอย(แผลเป็นนูน) อาจจะเกิดแผลเป็นบนกระจกตาได้หลังจากทำเสร็จ และจะทำให้มองไม่ชัด เห็นเป็นฝ้าๆค่ะ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาค่ะ คุณหมอว่ามียาหยอดตาช่วยได้อยู่ แบบเลสิกธรรมดาจะหายเร็วกว่าแบบขูดกระจกตาค่ะ เราเล่าแบบคร่าวๆนะคะ ถ้าเล่าละเอียดจะยาวๆๆ คือหมอจะอธิบายข้อดี ข้อเสีย และผลที่อาจจะเกิดหลังการทำค่ะ เราก็ทำใจยอมรับค่ะ ถ้าคิดจะทำแล้วก็ต้องยอมรับผลไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี ยกตัวอย่างเช่นถ้าทำแล้วลูกตานูนออกมามากก็จะต้องมีการใส่คอนแทคเลนส์เพื่อดันลูกตา อันนี้ไม่ค่อยเข้าใจ คือคุณหมอไม่ได้อธิบายมาก เหมือนๆว่าไม่ค่อยจะเกิดขึ้น หรืออาจจะมีการติดเชื้อแล้วตาบอดได้ ซึ่งกรณีนี้มีโอกาสแค่ 1 % ค่ะ(กรณีนี้เราว่าขึ้นอยู่กับการดูแลของคนไข้ค่ะ) ขั้นตอนการตรวจอื่นๆเราไม่เล่านะคะ เพราะว่าคล้ายๆกับการตรวจเพื่อทำแว่นค่ะ มีการตรวจว่าน้ำในตาเรามากน้อยแค่ไหน ของเราตาไม่แห้งค่ะ ชุ่มฉ่ำมาก มีการทดสอบว่าเราถนัดตาข้างไหนด้วย ซึ่งของเราถนัดข้างซ้ายค่ะ มีอีกอันคือวัดความโค้งของลูกตา เค้าจะหยอดยา(หรือน้ำตาเทียมก็ไม่รู้ไม่ได้ถามด้วย-*-)แล้วให้เรารอสักพัก แล้วก็ใช้เครื่องมือที่เป็นแก้ว มีลักษณะเหมือนกับแก้วที่ใส่น้ำยาล้างตา แต่อันเล็กกว่า แล้วก็ให้เราลืมตา เค้าจะใช้นิ้วถ่างหนังตาเราไว้ค่ะ แล้ววางแปะลงไป ให้มองขึ้นด้านบน แล้วก็เทน้ำยา(เราเข้าใจว่าเป็นน้ำตาเทียมค่ะ)เข้าไป แล้วก็เอาเครื่องมือที่มีแสงสีแดง ให้เรามองตรงจุดสีแดงไว้ค่ะ โชคดีที่เราใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ เลยทำให้ขั้นตอนนี้ผ่านไปได้ง่าย (เค้าแซวว่าเพราะใส่คอนแทคประจำเลยไม่กลัวเวลาอะไรมายุ่งๆแถวตา) อืมมม เท่าที่จำได้ก็มีแค่นี้ล่ะมั้ง ถ้าขาดตกอะไรไป ใครที่เคยไปทำช่วยเสริมด้วยนะคะ เอาล่ะ คืนนี้เราจะกินยานอนหลับ รีบๆนอนตั้งแต่สามทุ่มเลย ตาจะได้ไม่เกร็งเวลาไปทำ ไว้หลังทำแล้วผลเป็นยังไงจะมารายงานนะคะ น่าจะเป็นหลังจากนี้อีกอาทิตย์นึง น้องบอกว่าหลังทำแล้ว ห้ามไอ(จะห้ามไงล่ะนั่น) ห้ามจาม ห้ามเบ่งอุจจาระ (เวรรรร) ไอ้ข้อห้ามพวกนี้จะทำได้ไงเล่า วู้ ไว้เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะถามข้อห้ามหมออีกทีค่ะ ข้อควรปฏิบัติในวันที่ไปทำเลสิกนะคะ งดใส่คอนแทคเลนส์ทุกชนิดก่อนการทำ 2-3 วัน เพื่อป้องกันการอักเสบของกระจกตา ไม่ควรใส่เสื้อที่ต้องสวมผ่านศรีษะ ใส่เสื้อที่เป็นกระดุมค่ะ เพราะจะมีการครอบตา เวลาถอดเสื้อจะได้ไม่ไปโดน ทำให้แรงดันในลูกตาเปลี่ยน และควรเป็นผ้าที่ไม่มีขนนะคะ ไม่ฉีดน้ำหอม ทาครีม ทาแป้ง หรือสระผม ในวันที่ไปทำ เพราะน้ำหอมจะทำให้แสงเลเซอร์ทำงานผิดปกติ งดใช้เครื่องสำอางที่ต้องทารอบบริเวณตา อย่างน้อย 1 วัน เราทำที่โรงพยาบาลกลางค่ะ ค่าตรวจตารอบแรก 700 บาท ค่าวัดสายตา 300 บาท ค่าทำเลสิก 30,000 บาท เห็นแม่บอกว่ายังต้องมีค่ายาอีก 1,000 บาท แต่ว่าไม่แน่ใจว่าจะขึ้นหรือเปล่าน่ะสิ เพราะว่าค่าตรวจตาของน้องเราที่ทำปีที่แล้ว รวมทั้งหมดแค่ 200 บาทเอง ส่วนค่ายาจำไม่ได้ แล้วไหง๋ผ่านไปแค่ปีเดียวค่าตรวจตาขึ้นมาเป็น 1,000 บาทล่ะเนี่ย เอาเหอะ น้องเราบอกว่าทำแล้วก็ดีค่ะ เห็นไฟแตกๆตอนกลางคืนแค่อาทิตย์เดียวเอง ขอบคุณที่อ่านเราบ่นจนจบนะค้า จุฟๆ เอ๋อ พิมพ์ผิด อายยย ละเอียด เหอๆๆ
ดูแลสายตานะจ๊ะ ห่างคอมๆๆ 55+ โดย: คอมี๋ย่างแซ๊บแซ่บ วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:17:09 น.
|
Rita_Bunny
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?] ในโลกที่สับสนวุ่นวาย ใครกันที่ถูกพิษรัก ในห้วงทะเลที่กว้างใหญ่ ใครกันดื่มยาแห่งความรักจนหมด ฟ้าไร้ขอบเขตและผืนดินไม่สิ้นสุดกลายเป็นความว่างเปล่า |
ห้ามเบ่งอุจจาระ 55+
มองเห็นไวๆนะคะ ซาบซ่านๆๆ