แกงหมูเทโพ
แกงเทโพถือเป็นแกงโบราณที่หาทานยากในปัจจุบัน นานๆ ทีถึงจะเห็นมีแกงขายในร้านข้าวแกง พอเจอก็จะเป็นแกงแบบใสๆ ไม่เข้มข้นเหมือนเมื่อก่อน สมัยก่อนเค้าจะใช้ปลาเทโพมาแกงเลยเรียกว่าแกงเทโพ แต่สมัยนี้ดัดแปลงมาใช้หมูสามชั้นแทนอาจเพราะกลัวเหม็นคาว
:: เครื่องปรุง ::
1. เครื่องแกงเผ็ด 2. หัวกะทิและหางกะทิ 3. ผักบุ้ง 4. หมูสามชั้น (จะนุ่มแต่เหนียวกว่าเนื้อหมูส่วนอื่น) 5. น้ำปลา 6. น้ำตาลปี๊บ 7. น้ำมะขามเปียก 8. เกลือป่น 9. มะกรูด 1 ลูกย่อมๆ 10. ใบมะกรูด 4-5 ใบ 11. น้ำมะขามเปียก
ต้องขอโทษที่ไม่ได้ระบุปริมาณส่วนผสมที่แน่นอน เวลาทำใช้ความจำเดิมๆ กับการชิมตามความคุ้นเคยและชอบค่ะ
เคล็ดลับและประโยชน์ การนำผักบุ้งมาแกงกับกะทิ ไขมันในกะทิก็จะละลายวิตามินเอออกมา จะช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินเอได้ดีขึ้น
> > > ผักบุ้ง...นางเอกของแกงเทโพ โบราณเค้าจะบีบผักบุ้งให้แตกเบาๆ ประมาณว่าเพื่อให้น้ำแกงกับผักบุ้งเข้ากันมากขึ้น แต่ตัวเองชอบแบบกรอบๆ มากกว่าเลยไม่บีบค่ะ
ใบมะกรูดกับลูกมะกรูดขาดไม่ได้เลยค่ะ
น้ำมะขามเปียกก็ห้ามขาดโดยเด็ดขาด
วิธีทำ
บางสูตรให้เคี่ยวกะทิจนแตกมันแล้วใส่พริกแกง แต่ที่บ้านจะเคี่ยวพริกแกงกับหัวกะทิเล็กน้อย ใส่กะทิลงไปซัก 2 ช้อนโต๊ะแล้วใส่พริกแกงเคี่ยวจนแตกมันนิดหน่อย จากนั้นค่อยๆ เติมหัวกะทิลงไปเรื่อยๆ เคี่ยวจนแตกมัน จนเนื้อพริกแกงใสขึ้นและกลิ่นหอม
> > > ใส่หมูลงผัดกับเครื่องแกงแค่พอสุก ให้เครื่องแกงซึมเข้าไปในเนื้อหมูไว้ ที่เห็นเป็นหมู 3 ชั้นที่เลาะมันกับหนังออกไปค่ะ
. ตักลงใส่ในหม้อที่มีหางกะทิรอไว้ แล้วต้มให้เดือดเบาๆ ระหว่างนี้ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก เกลือ ลูกมะกรูดผ่าซีก แต่ควรปรุงรสให้เข้มนิดนึง เพราะผักบุ้งสุกจะออกน้ำ ทำให้รสชาดของแกงอ่อนลง
. ใส่ลูกมะกรูดผ่าครึ่งลงไปตอนนี้ ส่วนตัวบีบน้ำมะกรูดออกทิ้งไปก่อนค่ะ
พอน้ำแกงเดือดใส่ผักบุ้ง กดให้จม ใส่ใบมะกรูดที่ฉีกเป็นชิ้นๆ ลงไป ปิดเตาได้เลย แล้วปิดฝาหม้อตั้งไว้ให้เย็น ผักจะสุกพอดี (ถ้าใส่ตอนที่น้ำแกงไม่เดือด สีผักบุ้งจะไม่สวย)
แกงเทโพของแท้น้ำแกงต้องไม่มาก ไม่ใช่น้ำแกงท่วมผักอย่างที่เค้าขายกัน
ใครชอบแกงโบราณหน่อย แถมชอบผักบุ้งด้วย แนะนำให้ลองทำทานดูค่ะ
Create Date : 22 พฤศจิกายน 2555 |
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2555 9:41:03 น. |
|
17 comments
|
Counter : 5143 Pageviews. |
|
|
อืม..พูดแล้วก็หิว..