Group Blog All Blog
|
ผมไม่โง่ I not stupid วันนี้ย่ำต๊อกไปเรียนจีน อ.ก็เปิดให้ดูหนังเรื่อง "小孩不笨" หรือมีชื่อภาษาอังกฤษคือ "I not stupid" และชื่อไทยคือ "ผมไม่โง่" เป็นหนังภาษาจีนที่มีฉากอยู่ในสิงคโปร์ เรื่องนี้เป็นเรื่องสะท้อนสังคมของสิงคโปร์มากๆ ในหลายแง่หลายด้านจนให้พูดออกมาเป็นประเด็นๆก็คงใช้เวลาหลายชั่วโมงอยู่ ทั้งๆที่หนังมีแค่หนึ่งชั่วโมงครึ่งเท่านั้น เป็นเรื่องที่ว่าเด็กผู้ชายอ้วนๆคนหนึ่งในห้องระดับ 3 (คือห้องที่มีเด็กผลการเรียนเลวร้ายมารวมกัน ประมาณว่าทุกคนตัดสินว่าเด็กห้องนี้โง่ เข็ญไม่ขึ้น เกเร) ที่ไม่กล้าคิดไม่กล้าตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง มีแม่เป็นคนคิดตัดสินใจให้ แม่มักจะสอนตามคติของคนสิงคโปร์ว่า เด็กดีต้องว่านอนสอนง่าย เขาก็ทำก็เชื่อตามนั้น ทีนี้เรื่องมันไม่ได้ฉายแค่ตัวของเด็กคนนี้ ยังรวมไปถึงเด็กคนอื่นๆ ครูอาจารย์ พ่อแม่ผู้ปกครอง พูดง่ายๆคือไม่ใช่แค่ชีวิตของเด็กที่ต้องตั้งหน้าตั้งตาเรียนเพื่อเอาปริญญา แต่รวมไปถึงชีวิตผู้ใหญ่ซึ่งมีหน้าที่การงาน อุปสรรค และความสำเร็จในชีวิตอีกด้วย เนื้อเรื่องแสดงให้เห็นในหลายแง่มุม คือไม่ใช่แค่มุมมองของคนๆเดียว คือทุกคนในสังคมต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเอง เราจะเห็นว่าเวลาพ่อแม่และเด็กมีปัญหากัน เราก็เข้าใจในตัวเด็ก แต่ในขณะเดียวกันเราเองก็เข้าใจพ่อแม่ด้วยว่าเหตุผลของทั้งสองฝ่ายคืออะไร และยิ่งไปกว่านั้นเนื้อหาของเรื่องนี้ครอบคลุมบริบททางสังคมที่มีผลต่อเด็กและผู้ใหญ่เหล่านี้ สะท้อนภาพของชาวสิงคโปร์ออกมาได้เป็นอย่างดี ที่น่าชื่นชมสำหรับเรื่องนี้อีกข้อก็คือพล็อตที่โยงกันได้อย่างลงตัว และการเก็บรายละเอียดตัวละครแต่ละตั ทำให้โยงใยไปจนกระทั่งถึงไคลแมกซ์ และคลี่คลายปมได้เรียบร้อยสมบูรณ์ การผูกเรื่องก็ชวนให้ติดตามตั้งแต่วินาทีแรกที่ฉาย และไม่มีชอตเยิ่นเย้อยืดเวลา คนดูละสายตาไม่ได้เลย สัญลักษณ์และบทพูดก็เป็นเอกภาพดี สะท้อนถึงธีมของเรื่องได้ชัดเจน แต่ถึงแม้เนื้อหาจะดีมาก ทว่าทางด้านเทคนิคยังจัดว่าธรรมดา เทคนิคในที่นี่หมายถึงแสงและเสียง เพลงที่เปิดยังไม่บีบคั้นอารมณ์คนดูได้เท่าที่ควรจะเป็นทั้งๆที่ตัวภาพก็สิ่อได้มาก พูดง่ายๆคือยังเล่นได้อีกนั่นแหละแต่ก็ไม่ได้ทำแต่เรื่องการ dissolve ของ sound ทำได้ดีนะ คือจะล้อไปกับฉากที่เปลี่ยนแปลงอย่างกลมกลืน ส่วนด้านสีของภาพยังไม่เด่นชัด แต่จะใช้ความมืดของกลางวันกลางคืนเป็นสัญลักษณ์สื่อความหมาย (ข้อนี้จึงไม่รู้ว่าจะจัดอยู่ในทางด้านเทคนิคแสงดีหรือไม่) ถึงแสงและเสียงอาจจะจัดว่าธรรมดา แต่การตัดต่อทำได้ดีทีเดียว คือไม่เยิ่นเย้อ ตัดอารมณ์ ตัดความคิดต่อหนึ่งฉากจนเห็นได้ชัด จนบางฉากคนดูต้องผ่อนลมหายใจโดยไม่รู้ตัวซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จสำหรับหนังสะท้อนสังคมเช่นนี้ แต่ถึงจะตัดความคิดแต่อารมณ์ในการดูหนังก็ยังต่อเนื่องไปได้เพราะมี sound ช่วยเชื่อมต่อฉากได้ไม่ขัดเขิน เรื่องนี้จัดว่าเป็นหนังดีอีกเรื่องที่ควรไปหามาชม เพราะนอกจากจะบันเทิงด้วยความคิดน่ารักสดใสของเด็กๆแล้ว ตัวเนื้อเรื่องก็จับประเด็นได้ไม่ยาก เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ได้ดูเรื่องนี้แล้วไม่รู้สีกเสียดายเวลาเลยจริงๆฮับ โดย: zMee วันที่: 5 พฤศจิกายน 2548 เวลา:22:50:51 น.
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
โดย: หนิง IP: 202.44.135.34 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2548 เวลา:15:54:40 น.
|
peiNing
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?] เป็นเด็กกรุงเทพแท้ๆ แต่อยู่บ้านนอกของกรุงเทพน่ะนะ ไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษนอกจากแกล้งสัตว์เลี้ยงที่บ้าน นั่นคือนกฮู้ผู้มีอายุ 10 ปีได้ (นกแก่มีหนวด) (แต่ตอนนี้ในที่สุดนกฮู้ก็จากไปอย่างสงบ ไม่รู้อายุรวมเท่าไรแต่มาอยู่ที่บ้านได้ 11 ปี ขอไว้อาลัยปู่ฮู้ ขอให้ไปสู่สุขคตินะ T^T) ขอชี้แจงอีกอย่าง ชื่อ peiNing นี้ เป็นชื่อที่พี่กะน้องใช้ร่วมกันสองคน ดังนั้นอย่างงว่าเดี๋ยวก็แทนตัวว่ารุ้งบ้างหนิงบ้าง ก็มันคนละคนนิ (รุ้งน่ะคนพี่ หนิงน่ะคนน้อง)
FB สำหรับคนชอบงานเขียน peiNing ค่ะ
FB สำหรับคนชอบบทความสอนห้องเรียนนิยายค่ะ
|