เปิดครัวบรรณภรณ์ครั้งแรกด้วย...แกงคั่วปูหน่อไม้ดอง
หยุดอัพบล็อกไป 3 ปี เปิดใหม่รอบนี้ มีสิ่งที่อยากนำเสนอหลายต่อหลายอย่าง ห้องชวนชม ...ชวนชิม นี่ก็เป็นอีกความตั้งใจหนึ่งของจขบ. จุดประสงค์ก็คืออยากจะให้เป็นห้องที่เพื่อนๆ สามารถเข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้ เกี่ยวกับสูตรการทำอาหาร ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ท้องถิ่นที่ทำกันมาแต่ดั้งเดิม อาหารที่ดัดแปลงจากต้นตำหรับเดิม หรือ อาหาร +ไอเดีย หรือแม้แต่ฟิวชั่นฟู๊ด ซึ่งหมายถึงอาหารประเภทลูกผสมตั้งแต่ 2 สัญชาติขึ้นไปประมาณนั้น
เปิดประเดิมความอร่อยกันด้วยเมนูแรกที่จขบ. ตั้งใจนำเสนอคือ
เมนู แกงคั่วปูหน่อไม้ดอง
แกงคั่วปูหน่อไม่ดอง ของจขบ. จะหน้าตาประมาณนี้ค่ะ เสียดายถ่ายภาพ ย่อแล้วใส่กรอบออกมาเล็กไปหน่อย เอาน่าหยวน ๆบล็อกแรก ผิดพลั้งอย่างไรขออภัยไว้ก่อน ... แกงคั่วหน่อไม้เป็นอาหารที่คนใต้ส่วนใหญ่ชอบรับประทาน เพราะมีรสเผ็ดร้อน แต่ละที่ก็จะแกงคั่วหน่อไม้โดยใส่เนื้อสัตว์ที่แตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่ที่เห็นนิยมกันก็จะเป็นเนื้อหมู หรือไก่ ทั้งไก่บ้านและไก่เนื้อ แต่ถ้าเป็นไก่บ้านอาจจะใส่เลือดไก่และเครื่องในลงไปด้วย ส่วนถ้าเป็นแกงคั่วเนื้อกับหน่อไม่ก็จะเป็นหน่อไม้สับ ไม่ใช่เป็นแผ่นเช่นที่เห็นกันบ่อย ๆ เริ่มต้นกันที่ส่วนประกอบของแกงปูหน่อไม้ดอง แน่นอนนางเอกของเรื่องก็ต้องเป็นน้องปู ในที่นี้คือปูทะเลนะคะ ไม่ใช่ปูนายก อิอิ
จขบ.มีเคล็ดลับในการเลือกปู มาฝาก คือเวลาที่เราเลือกซื้อปู หลายคนเห็นปูตัวใหญ่ ก็รีบตะครุบเลยโดยหารู้ไม่ว่า อาจจะทำให้ปูหนีบมือได้ อ้อ..ม่ายช่าย 555 เแต่จะทำให้เราได้ปูที่ไม่แก่จัด การที่จะดูว่าปูนั้นแก่จัดหรือไม่ ให้ลองบีบตรงนิ้วกรรเชียงปูข้อบนสุด แต่ไม่ใช่บีบที่ข้อของมันตรง ๆเลยนะ ให้บีบตรงปล้องที่อยู่ระหว่างข้อแรกกับข้อที่สองอ่ะค่ะ ถ้ามันแน่นจนบีบแทบไม่ลงแสดงว่าปูตัวนั้นเนื้อแน่น ถ้ายังไม่แน่ใจก็ให้ลองจับปูขึ้นแล้วกะ น้ำหนักดู ถ้าถือแล้วรู้สึกหนัก แสดงว่าปูเนื้อแน่น แต่สวนมากจขบ.ใช้วิธีแรก รับประกัน ตัวไหนตัวนั้นแทบไม่พลาด
ได้ปูมาแล้วก็จัดการทำให้มันตายก่อนแล้วล้างทำความสะอาด จากนั้นหั่นศพมันให้เป็นชิ้น ๆ เหมือน อย่างในภาพข้างบนนะคะ @_@
เมื่อมีนางเอก เราจะขาดพระเอกได้อย่างไร พระเอกของเราคือหน่อไม้ดอง เวลาเลือกก็ให้เลือกดูที่สีไม่คล้ำ เพราะถ้าคล้ำ อาจจะเป็นไปได้ว่าดองไว้นานแล้ว อาจจะเปื่อยหรือเละเวลาแกง เมื่อได้หน่อไม้แล้ว ก็จัดการเอามาล้าง โดยควรล้างสักสอง - สามน้ำ ถ้าชิ้นใหญ่เกินไป เกือบเท่าฝาบ้าน ก็หั่นให้เล็กลงสํกนิดนะคะ แต่ถ้าหากลองชิมแล้ว มันมีรสขมหรือขื่น ๆ ก็ให้ต้มแล้วเทน้ำทิ้งเสียสักครั้งนึงก่อน เพราะถ้าขมมันก็จะทำให้แกงเสียรสค่ะ
เอาละ คราวนี้ก็มาถึงส่วนประกอบของพริกแกง จขบ.ไม่ตวงนะคะ ใส่ไปแบบกะ ๆ เอา ก็ดูจำนวนคนที่ทานก็แล้วกันนะคะ หรือบางคนเอาสะดวกซื้อพริกแกงสำเร็จมาเลยก็ได้เช่นกัน
แต่ต้องเลือกเอาที่ใหม่ ๆ หน่อยนะคะ กลิ่นจะได้หอม ไม่เหม็นอับ
1. ข่า 2. ตะไคร้ 3. ผิวมะกรูด 4. ขมิ้น 5. เกลือ 6. พริกแห้ง 7. หอมแดง 8. กระเทียม 9. พริกไทย 10. กะปิ
**ถ้าคนไม่ชอบเผ็ดร้อนให้งดพริกไทยเลยนะคะ เพราะหน่อไม้ดองนี่ก็ร้อนอยู่แล้วค่ะ เอาทุกอย่างที่ว่าใส่ครก ยกเว้นกะปิ แล้วโขลกให้หัวโยกหัวคลอน จนกระทั่งพริกแกงละเอียดดี ก็ใส่กะปิ ตามลงไป โขลกพอให้พริกแกงกับกะปิผสมเข้ากันดี หน้าตาก็จะออกมาดังภาพที่เห็นค่ะ
ส่วนเครื่องปรุงรสก็มีดังนี้
1. น้ำปลาดี 2. น้ำตาล 3. ผงรสดี นิดหน่อย ถ้าชอบนะคะ 4. ใบโหระพา
* บางบ้านอาจจะใส่มะขามเปียกเล็กน้อย แต่ถ้าหน่อไม้ดองมีรสเปรี้ยวอยู่แล้วจะไม่ใส่ก็ได้ค่ะ
เอ๊า จขบ.เกือบจะลืมน้ำกะทิ คั้นสักสองน้ำ ไม่ต้องแยกหัว แยกหางนะคะ
เมื่อได้ทุกอย่างแล้ว ก็จัดการเอาน้ำกะทิใส่หม้อตั้งไฟ
ใส่พริกแกงลงไป คนให้ละลาย จากนั้นรอให้เดือดจึงใส่หน่อไม้ดอง สาเหตุที่จขบ.ใส่หน่อไม้ดองก่อนเพราะอาหารทะเลเป็นอาหารที่สุกง่าย ถ้าต้มหรือโดนความร้อนนานเกินไปรับรองได้กินแต่เปลือกปูค่ะ 555
เมื่อเดือดแล้วก็ปรุงรสกันนะคะ โดยให้ชิมสักนิดก่อนเพราะตอนตำพริกแกงนั้น เราใส่เกลือลงไปแล้วเล็กน้อย แถมยังมีกะปิ และความเค็มจากหน่อไม้ดองอีกด้วย ถ้าชิมแล้วยังไม่ออกรสเค็มเติมน้ำปลาดีลงไปได้อีก ใครอยากใส่มะขามเปียกให้ใส่ตอนนี้ไม่ต้องคั้นน้ำนะคะ ใส่งลงไปได้เลย ก้อนสักประมาณเท่าเหรียญ 5 บาท น่าจะพอค่ะ (ไม่รู้จะเปรียบเทียบกะอะไรค่ะ อิอิ) จากนั้นใส่น้ำตาล ชิมรสให้เค็มนำหวานตามและออกรสเปรี้ยวเล็กน้อยนะคะ
รอให้เดือดอีกทีคราวนี้ก็ใส่ปูค่ะ ใส่แล้วห้ามคน กันคาวนะคะ ปิดฝาหม้อขังลืมไปเลย เดือดอีกทีคราวนี้ปิดไฟ แล้วใส่โหระพา ถ้าจะใส่ผงรสดี รอให้แกงเย็นลงหน่อยแล้วค่อยใส่นะคะ
มีเคล็ดอีกละค่ะ ทำไมใส่รสดีทีหลัง เพราะมีผลวิจัยมาแล้วว่า เราสามารถกินผงชูรสได้ถ้ากินในปริมาณไม่มากเกินไป คือกินแค่ในปริมาณที่ร่างกายสามารถกำจัดออกไปได้ในแต่ละวัน แต่ต้องไม่ใส่ลงในแกงตอนที่น้ำกำลังเดือดจัด เพราะความร้อนที่สูงมาก ๆ จะทำให้เกิดปฎิกิริยาเคมีบางอย่าง ซึ่งจะทำให้เกิดสารพิษและเมื่อเรากินเข้าไปจะก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ค่ะ
Create Date : 25 กันยายน 2555 |
Last Update : 25 กันยายน 2555 10:36:45 น. |
|
52 comments
|
Counter : 4892 Pageviews. |
|
|
เดี๋ยวพรุ่งนี้แวะมาอ่านอีกรอบนะคะ
โดย: LoveParadise 25 กันยายน 2555 0:16:42 น.
...........................................................................
ขออนุญาตคุณนกนะคะ ขอก๊อบคอมเมนท์ของคุณนกมาวางไว้บล็อกใหม่ เพราะบล็อกเดิมมันไม่ขึ้นหน้าแรกค่ะ สงสัยกะเวลาพลาดไปนิด ขอบคุณที่เจิมให้นะคะ