จุดประสงค์ของการเปิดกรุ๊ปบล็อกนี้ ก็เพื่่อแนะนำร้านอาหารอร่อย ๆในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ที่จขบ.มีโอกาสได้ไปชิม และรู้สึกชอบ ให้เพื่อน ๆได้รู้จัก
เผื่อว่าเพื่อนๆ คนใดมีโอกาสได้มาเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ ก็อาจจะมีโอกาสได้แวะชิม
ซึ่งร้านแรกที่จขบ.ภูมิใจนำเสนอก็คือร้าน
ในอ่าวซีฟู๊ด อ.กาญจนดิษฐ์
ร้านอาหารประเภทซีฟู๊ด สดจากทะเลในสุราษฎร์นั้นมีด้วยกันหลายแห่ง
ซึ่งส่วนมากจะตั้งอยู่บริเวณริมทะเล หรือที่ปากน้ำบ้านดอน
สถานที่ ที่รู้จักกันและเป็นที่นิยมกันโดยทั่วไป ก็มีอยู่ 2 -3 แห่ง คือ
ที่บ้านพุมเรียง อำเภอไชยา ที่นี่ก็จะมีอยู่ด้วยกันหลายร้าน
ที่ปากน้ำบ้านดอน อำเภอเมือง หรือคนที่นี่เรียกกันสั้นๆว่า ปากน้ำ
ก็มีร้านอาหารที่มีชื่อเสียงอยู่หลายร้าน
ส่วนอีกแห่งหนึ่ง เป็นที่ ๆ มีกรุ๊ปทัวร์ไปลงบ่อย ๆ
และมีบุคคลที่มีขื่อเสียงเคยพากันไปชิมอาหารทะเลกันมาก ก็คือที่อำเภอกาญจนดิษฐ์
ซึ่งคนที่นี่จะเรียกกันติดปากว่า
เคียงเล อันที่จริงแล้ว เคียงเล เป็นชื่อของร้านอาหารหนึ่งในจำนวนสามร้านที่ตั้งอยู่ในบริเวณนั้น
สามร้านที่ว่า ได้แก่ ร้านเคียงเล ร้านกลางเลซีฟู๊ด และร้านในอ่าวซีฟู๊ด
สำหรับร้านที่จขบ.จะพาไปชิมในวันนี้คือร้านไนอ่าวซีฟู๊ด
ซึ่งการเดินทางก็จะใช้หมุดหมายที่ เคียงเลซีฟู้ด นี่แหละค่ะ
ร้านเคียงเลตั้งอยู่บริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4177
ต. กะแดะ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี
แผนที่ของร้านอาหารเคียงเล คร่าว ๆ ร้านจะอยู่ริมทะเล
ซึ่งบริเวณนั้นเป็นป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ ของอำเภอกาญจนดิษฐ์
ตามไปดูภาพกันดีกว่าค่ะ
ลานจอดรดกว้างขวางดี ในวันเสาร์ - อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ คนจะเยอะมาก
จอดรถแล้วจะเจอร้านเคียงเลเป็นร้านแรก
อีกร้านที่อยู่บริเวณเดียวกัน แต่ร้านนี้ต้องเดินไปตามสะพานที่ทอดลงไปในป่าชายเลน
ไกลกว่าร้านอื่นนิดนึงชื่อร้าน กลางเลซีฟู๊ดค่ะ
แต่เราจะกินกันที่ร้านนี้
ด้านหน้าตรงก่อนจะถึงปากทางเข้าไปยังแต่ละร้าน จะมีชาวบ้านนำของมาขาย
จำพวกอาหารทะเล สด เช่น หอยนางรม แมงดาทะเล
และของที่ซื้อเป็นของฝากเช่นปลาหมึกแห้ง กุ้งแห้ง กะปิ ปลาเค็ม สนนราคาไม่แพง
แต่เนื่องจากวันนั้นน้องชายและน้องสะใภ้หิวกันมาก
เลย ขอแวะร้านขายขนมทองม้วน สั่งขนมทองม้วนอ่อนไปนั่งกินระหว่างรออาหาร
นี่ค่ะหน้าตาจะประมาณนี้ ขนมทองม้วนอ่อน และแบบกรอบที่นี่
รสชาดจะหวาน หอม และ มัน มาทีไรซื้อทองม้วนอ่อนไปนั่งกินในร้านกันทุกครั้ง
ขากลับก็จะหอบทองม้วนกรอบมากินที่บ้านต่ออีก
ขอถ่ายรูปแป้งทองม้วนของแม่ค้ามาด้วย มีสี่รส คือใบเตย เผือก ฟักทอง และ กะทิ
ถ้าจะกินให้อร่อยทำเมิน ๆ เตาและแป้งที่หยดย้อยไปนะคะ
เห็นคุณยายขายข้าวตู ท่าทางน่ากิน เลยสอยมาด้วยสองถุง
ได้ขนมแล้วเดินไปที่ร้านกันเลยค่ะ
บรรยากาศในร้านค่ะ วันที่ไปก็มีลูกค้าอยู่ประมาณนึง ถือว่ายังไม่มาก ลูกค้ามากต้องที่ร้านเคียงเล
ด้วยเหตุผลดังว่าเราจึงเลือกร้านนี้เพื่อจะได้ไม่ต้องรออาหารนาน
อีกอย่างหนึ่งรสชาดแกงส้มที่นี่อร่อยมากกกกกก
อีกภาพหนึ่งค่ะ ร้านไม่ได้หรูหราอะไร ตกแต่งง่าย ๆ
แต่เน้นรสชาดและความสดของอาหารมากกว่า
เจ้าตัวโตนั่นน้องต้นข้าว ส่วนเจ้าตัวเล็กน้องต้นอ้อ หลานสาวของจขบ.ค่ะ
เห็นอยู่ไกล ๆโน่น ร้านกลางเล ซีฟู๊ดค่ะ เดี๋ยวกินข้าวอิ่มแล้วจขบ.จะพาเดินไปชม
ระหว่างรออาหารที่สั่งจัดการขนมทองม้วนไปพลาง ๆ
ข้าวตูนี่ก็ด้วย จัดการซะ อร่อยใช้ได้เลยค่ะ วันหลังมาต้องมีซ้ำ
วันนี้รอไม่นานเลยจานแรกมาแล้ว
เมนูพื้น ๆ แต่ก็ต้องสั่ง ยำปลาหมึกค่ะ น้องสำใภ้เขาชอบกินมาก
โดยส่วนตัวจขบ.ว่าเปรี้ยวไปนิด แต่คนอื่นบอกว่าโอเค ที่แน่ ๆ สดมากกกก
จานที่ 2 ข้าวผัดปู มาก่อนเพราะเด็ก ๆ หิวกันมาก รสชาดธรรมดาค่ะ แต่ปูสดดี
จานนี้อร่อยอยู่ค่ะ ปูนิ่มผัดผงกะหรี่
จานนี้มาเป็นอันดับที่สี่ ทอดมันกุ้งของเด็ก ๆ กรอบนอก นุ่มใน กินกับน้ำจิ้ม บ้วย เนื้อกุ้งหวานดีค่ะ
อร่อยที่สุดของวันนี้ ต้องนี่ค่ะ แกงส้มยอดมะพร้าวอ่อนกับปลาดุกทะเล
น้องชายที่ไม่ค่อยจะชอบแกงส้มยังชมเลย รสชาดกลมกล่อมอร่อยจริง ๆ ค่ะ
ให้ดูเนื้อปลากันใกล้ ๆว่าสดแค่ไหน
น้องสะใภ้บอกอยากขอน้ำแกงที่เหลือกลับบ้านด้วย ไปหาผักกับปลามาใส่เอา
กุ้งชุบแป้งทอดของน้องต้นข้าว ไม่รู้ทำไงถึงได้ออกมาอ้วนน่ากินแบบนี้
เด็ก ๆ เรียกปลาโลมาชุบแป้งทอด จขบ.ไม่ได้ชิมค่ะ
ปลาสำลีเผา ตัวโตมาก เนื้อไม่เละ หวาน เพราะมันสด( อีกแล้ว )
กินกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสจัดอร่อยถึงใจค่ะ
จานสุดท้ายปูเผา เป็นปูเนื้อขนาดสองตัวโล เนื้อแน่นและสดมาก ๆ แต่ต้องเกี่ยงให้ช่วยกันกิน
เพราะกว่าจะมาถึงจานนี้ ก็อิ่มจนอืดแล้วค่ะ
อิ่มแล้วเชคบิลจะกลับกันแล้ว เพิ่งเห็นรายการอาหารแนะนำ เลยแชะมาฝากค่ะ
อ้อ ..วันนั้นคิดค่าเสียหายแล้ว 1,800 บาท ผู้ใหญ่ 5 คนเด็กอีกสอง จขบ.คิดว่าคุ้มมาก
อิ่มมากจขบ.พาไปเดินเล่นก่อนกลับหน่อยดีกว่านะคะ
ออกมาจากร้านที่เราไปนั่งกินกันเมื่อกี้ เดินไปตามสะพานปูนที่เขาทำไว้ จะไปถึงร้านกลางเล
แล้วก็มีทางแยกให้เดินยาวไปได้อีก เพื่อรับลมทะเล และชมป่าชายเลนค่ะ
ภาพนี้ถ่ายย้อนแสงตอนพระอาิตย์กำลังจะตกดิน
คุณน้าของจขบ. น้องสะใภ้ และหลาน ๆ
มองออกไปไกล ๆในทะเล เป็น บ้านคล้าย ๆ ขนำนั้น
เขาปลูกไว้อาศัย เวลาเลี้ยงหอยแครง หรือหอยนางรมค่ะ
ดอกลำพู
นี่ก็ดอกลำพูค่ะ จขบสงสัยว่าที่นี่่ตอนกลางคืนน่าจะมีหิ่งห้อยนะเนี่ย
ก่อนกลับแวะดูของฝากกันหน่อย อันนี้เป็นปลาหมึกแห้ง ราคาไม่แพงค่ะ
กุ้งแห้ง สีสวยแบบธรรมชาติ นอกจากนี้ก็มีพวกปลาเล็กปลาน้อยตากแห้ง
ปลาอิทรีย์เค็มก็มี ตัวโตมาก แต่ราคาไม่แพงเลยค่ะ
กะปิ จขบ.ซื้อมาหนึ่งกิโล เอามาลองทำกินดูแล้ว
แต่จขบ.ว่าไม่ค่อยอร่อยค่ะ ที่สุราษฎร์ กะปิอร่อยต้องของอำเภอท่าฉาง
แมงดาทะเล
หอยนางรมสด 20 - 15 นั่นไม่ใช่โลละนะคะ ตัวละค่ะ 555
ปลาหมึกไซด์ใหญ่หน่อย ประมาณ 0.5 กิโลกรัม ราคา 180 บาท
เป็นไงคะได้อะไรติดไม้ติดมือกันบ้าง
กินอิ่มแล้ว เดินเที่ยวแล้ว ของฝากก็ได้แล้ว ถึงเวลากลับบ้าน
ถือว่าเป็นลาภปากไป
เพราะวันนั้นน้องชายโทรมาบอกว่าจะพาไปเลี้ยงข้าว
อีตอนกลับกลับบ้านเลยยิ้มร่า เพราะอิ่มจังแต่ตังค์อยู่ครบ
อ้อ ..ไม่สิ ซื้อกะปิกับขนมไปนิดหน่อยแต่ก็ถือว่าไม่เสียหาย
ก็หวังว่า ถ้าเพื่อน ๆได้มาเที่ยวสุราษฎร์ก็แวะไปชิมอาหารทะเลสด ๆ กันนะคะ
อยากกินร้านอร่อยเชิญที่เคียงเล แต่ถ้าไม่อยากเจอคนเยอะ ๆ ต้องรออาหารนานก็ร้า่นในอ่าวค่ะ
ส่วนกลางเลนั้นยังไม่เคยลอง วันหลังถ้าไปลองจะมารีวิวให้อีกที
เอาล่ะค่ะ มาถึงตอนนี้คงต้องลากันไปก่อนไว้พบกันใหม่บล้อกหน้านะคะ
เรามีเพื่อนชาวสุราษฯหลายคน เรียนมาด้วยกัน พอเรียนจบ แยกย้ายกันกลับไปทำงานที่บ้านเกิด
เราไปเกาะสมุยเกือบทุกปี ยกเว้นช่วงหลังที่ย้ายมาเมืองนอกนี่ ก้เลยไม่ได้ไปอีก
ชอบอาหารใต้ที่สุด ชอบใบเหลียงผัดไข่ ยำผักกูด แกงเลียงใบเหลียงกุ้งสด คั่วกลิ้งและ สุดยอดเลยคือ แกงส้มยอดมะพร้าวปลากระบอก
พูดแล้วคิดถึง อยากิกนขนมจีนป้าไมตรีที่เกาะสมัย แงงงงง