ในวันอาทิตย์ก่อนพ่อเขาจะมารับกลับบ้านในตอนบ่าย
จขบ.กำลังจนด้วยเกล้า ไม่รู้ว่าจะทำอะไรให้หลานกินเป็นมื้อกลางวันดี
ในตอนเช้านั้น พวกเราทำอาหารง่าย ๆ กินกัน
ของป้า ๆ ก็มีกาแฟ ไข่ดาว ไส้กรอกทอด
และจขบ.ยังทำแซนด์วิซปลาทูน่าให้คนละ 1 ชิ้นด้วย
สาย ๆ รื้อ ๆ ดูในตู้เย็น มันมีปลาทูน่าเหลือจากทำแซนด์วิซเมื่อเช้าอยู่ครึ่งกระป๋อง
มีหมูบดนิดหน่อย กะหล่ำปลีอีกครึ่งหัว แครอท ไข่ และหอมหัวใหญ่
สุดท้ายตัดสินใจว่าจะทำข้าวผัดปลาทูน่า
ซึ่งมันก็จะขาดเม็ดถั่วลันเตา แต่คิดว่าไม่เป็นไร ใช้ของที่มีแล้วกัน
อาหารที่จะนำมาโชว์ในวันนี้ เลยเป็นอาหารขัดตาทัพของวันนั้น อาหารจานเดียวง่ายๆ
"ข้าวผัดปลาทูน่า"
พร้อมแล้วไปค่ะเข้าครัวเตรียมของกันเลย
ปลาทูน่าในน้ำเกลือค่ะ ของจขบ.วันนั้นเหลืออยู่ครึ่งกระป๋องก็เอาทั้งหมดเลย
เพราะกินกัน 4 คน จัดการเทเอาน้ำทิ้งไปนะคะ
หมูบด 200 -300 กรัม(เหลืออยู่แค่นั้น อิอิ) ปกติครั้งก่อน ๆ ที่เคยผัดข้าวผัดปลาทูน่า
จะไม่ใส่หมูนะคะ ใส่แต่ปลาทูน่ากับไข่เท่านั้น
แต่วันนั้นต้องใส่หมูเพิ่มไปด้วยเพราะกลัวไม่พอกินกันค่ะ
ไข่ไก่สองฟองค่ะ
ผักที่ใช้ก็มี กะหล่ำปลี (ใช้แทนเม็ดถั่วลันเตาค่ะ) ล้างแล้วนำมาหั่นฝอย ๆ
เพราะเด็กกิน หั่นชิ้นใหญ่เดี๋ยวตกใจไม่กินอีกค่ะ
แครอท นำมาหั่นเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ
หอมหัวใหญ่นำมาหั่นเป็นเต๋าเล็ก ๆ เช่นกันค่ะ
ข้าวสวยตามจำนวนคนที่กิน 4 คนก็สี่ถ้วย ตวงหลวม ๆไม่อัดนะคะ
ในรูปนี่ประมาณถ้วยน้ำซุปค่ะ มองจากภาพอาจจะเข้าใจว่าเป็นถ้วยน้ำจิ้มได้
เครื่องปรุงรส
ก็มีไม่กี่อย่างเลยไม่ถ่ายภาพนะคะ ได้แก่ น้ำตาล ซีอิ๊วขาว
ซอสหอยนางรม (ถ้าใครชอบก็ใส่นะคะ)
แล้วก็ผงปรุงรสนิดหน่อย
พร้อมแล้วลงมือผัดกันค่ะ
กระทะตั้งไฟให้ร้อนใส่น้ำมันลงไปประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ
แล้วใส่กระเทียมลงไปเจียวให้หอมค่ะ
ตอกไข่ใส่ลงไป อย่าเพิ่งคนนะคะเพราะมันจะทำให้ไข่เละ
รอจนมันสุกสักนิดหนึ่งแล้วค่อยคน
พอไข่แดงเริ่มสุกถึงคนได้ค่ะ แต่อย่าให้มันเละมากนะคะ
การใส่ไข่ลงไปก่อนจะทำให้เราได้ไข่ที่ยังเป็นชิ้น ๆ
และที่สำคัญข้าวผัดของเราจะไม่แฉะด้วยค่ะ
จากนั้นใส่หมูบดค่ะ เห็นไข่ไหมคะ ยังเป็นชิ้นดีอยู่เลย
ผัดไปจนหมูเริ่มสุก ถึงจะใส่ปลาทูน่าลงไป
อยากให้ชิ้นเล็ก ก็บี้ ๆมันหน่อยนึงให้มันแตกออกค่ะ
เอาล่ะที่นี้ปรุงรสกันค่ะ ใส่ซีอิ็วขาวลงไป สัก 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
และผงปรุงรสตามแต่ชอบค่ะ
ผัดจนมันเข้ากันดี
จากนั้นเราก็ใส่ข้าวลงไป ตอนนี้เร่งไฟแรงนิดหนึ่งนะคะ
ผัดข้าวให้อร่อยต้องใช้ไฟแรง และข้าวผัดของเราต้องแห้งถ้าแฉะล่ะจบเลยค่ะ
เมื่อดูว่าข้าวคลุกเคล้ากับเครื่องดีแล้ว ให้ชิมรสดู ถ้าขาดอะไรก็เติมลงไปค่ะ
จากนั้นก็ใส่ผัก ผัดต่อไปจนข้าวแห้งดีและผักสลบ แล้วปิดไฟได้เลย
แล้วเรามาทำน้ำปลาพริกกัน
ปอกเปลือกหัวหอม และเด็ดก้านพริกสด ล้างน้ำให้สะอาด
แล้วนำมาซอยใส่ถ้วยเล็ก ๆ บีบน้ำมะนาวใส่ลงไป ใส่น้ำตาลนิดนึงถ้าชอบนะคะ
รอสักพักให้น้ำมะนาวทำให้หอมแดงนิ่ม แล้วจึงใส่น้ำปลาดีลงไปค่ะ
ข้าวผัดเสร็จแล้วตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
เก็บใบกะหล่ำปลีแก่ที่ไม่ต้องการใช้ เอาไว้
เพื่อมาทำใบ แต่งจานด้วย
เอาส้มมาใส่ไว้สองชิ้นเพราะมันไม่มีสีเหลือง ๆ เลย
กินข้าวผัดเสร็จ ก็กินส้มสองชิ้นนั่นละ ล้างปากไปเลย อิอิ
ปลาทูน่าดีต่อสุขภาพ ช่วยบำรุงสมอง เพราะมีโอเมก้าสามค่ะ
สรุปแล้ววันนั้นพาหลานรอดไปได้อีกมื้อหนึ่งอย่างหวุดหวิดค่ะ 555
เสียดายที่ของไม่ครบ อาจจะได้ภาพออกมาสวยกว่านี้
ตัวข้าวผัดไม่ค่อยน่ากินเท่าไหร่ เพราะไม่มีสีเขียว เนื่องจากไม่มีถั่วลันเตา
จบแล้วนะคะสำหรับการรีวิวอาหารขัดตาทัพ ในวันนี้
เพื่อนอาจจะลองไปทำกินดูเวลาที่เบื่อข้าวผัดหมู ข้าวผัดกุ้ง ข้าวผัดรวมมิตร
รสชาดเป็นอย่างไรก็บอกเล่า เก้า สิบ กันบ้างนะคะ
พบกันใหม่ในบล็อกหน้าค่ะ บาย