ปราสาทสัจธรรม หรือชื่อในภาษาอังกฤษว่า "The Sanctuary of Truth" ถือเป็นหนึ่งในสามผลงานสิ่งก่อสร้างสุดอลังการของคุณเล็ก วิริยะพันธุ์ (ผู้สร้างเมืองโบราณและพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ) เป็นสถาปัตยกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนาและความเชื่อ ซึ่งซ่อนตัวอยู่ริมชายทะเลอันเงียบสงบ ท่ามกลางเมืองท่องเที่ยวที่คึกคักอย่างเมืองพัทยา ปราสาทแห่งนี้นับว่าเป็นปราสาทไม้แกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดำเนินการก่อสร้างมาร่วม 30 ปีแล้ว นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 จนถึงปัจจุบันนี้ ก็ยังไม่แล้วเสร็จดี และอาจจะเป็นงานที่ไม่มีคำว่าสิ้นสุดก็เป็นได้ .....+++ ภาพแรกของปราสาทสัจธรรมที่เราได้เห็นจากบนจุดชมวิว ตระการตามากๆ +++ ถึงแม้ผมจะเคยมาเที่ยวเมืองพัทยาอยู่บ่อยๆ จนแทบนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ยังไม่เคยได้แวะเข้าไปเยี่ยมชม "ปราสาทสัจธรรม" แห่งนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว สาเหตุหลักอาจเป็นเพราะค่าเข้าชมซึ่งตั้งราคาไว้ค่อนข้างสูงมาก หากเทียบกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในละแวกใกล้เคียงกัน แต่เมื่อผมได้อ่านบทความเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้โดยละเอียดแล้ว ก็พบว่าการก่อสร้างปราสาทไม้แห่งนี้ ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาจำนวนมหาศาล ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมค่าเข้าชมถึงได้สูงแบบนี้ ไปพัทยาครั้งล่าสุดนี้ ผมจึงตัดสินใจแวะเข้าไปชมปราสาทสัจธรรม เพื่อให้เห็นกับตาตัวเองว่าจะอลังการงานสร้างคุ้มกับค่าเข้าชมหรือไม่ .....+++ ปราสาทไม้แกะสลักแห่งนี้ ใช้เวลาก่อสร้างมานานกว่า 30 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ++++++ กว่าจะมาเป็นปราสาทสัจธรรมทุกวันนี้ ผู้สร้างต้องลงทุนลงแรงไปมากมาย ++++++ ลองเข้าไปพิสูจน์กันดูดีกว่าครับ ว่าที่นี่จะคุ้มราคาค่าเข้าชมหรือไม่ +++ "ปราสาทสัจธรรม" ตั้งอยู่บริเวณแหลมราชเวช ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ในเนื้อที่ประมาณ 80 ไร่ หากมาด้วยรถส่วนตัวจากกรุงเทพฯ ขับมาตามถนนสุขุมวิท ถึงแยกทางเข้าพัทยาเหนือแล้วให้เลี้ยวขวา เมื่อถึงวงเวียนปลาโลมา ก็เลี้ยวขวาอีกครั้งไปตามถนนนาเกลือ เมื่อถึงซอยนาเกลือ 12 ให้เลี้ยวเข้าซอย ขับตรงไปเรื่อยๆ จนเกือบสุดซอย ใช้เวลาไม่นานก็ถึง เราต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 500 บาทสำหรับผู้ใหญ่ ส่วนสองเด็กดื้อไม่เสียค่าเข้าชม .....+++ ปราสาทสัจธรรมตั้งอยู่ริมทะเล บนหาดทรายบริเวณแหลมราชเวช พัทยาเหนือ ++++++ ตัวปราสาทใหญ่โตอลังการมากๆ ลองเทียบขนาดกับช้างที่เดินอยู่ตรงมุมซ้ายของภาพดูก็ได้ +++ หลังจากซื้อบัตรเข้าชมที่สำนักงานบริเวณประตูทางเข้าแล้ว จะมีรถม้าพาเราไปส่งที่บริเวณทางเดินลงไปชมตัวปราสาท วันที่เราไปมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชม "ปราสาทสัจธรรม" กันมากพอสมควร ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มีคนไทยมาเที่ยวกันไม่มากนัก เราต้องเดินลงเนินเขาไปตามบันไดทางเดินที่ทำจากไม้ เพื่อลงไปยังหาดทรายด้านล่างซึ่งเป็นที่ตั้งของตัวปราสาท ไปถึงแล้วทางเจ้าหน้าที่ก็พาเราไปนั่งรอชมการแสดง ซึ่งจะจัดแสดงเป็นรอบๆ เป็นการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย เช่น การร่ายรำพื้นบ้าน การฟันดาบ ซึ่งดูจะเป็นที่ถูกอกถูกใจนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่มากเลยทีเดียว .....+++ ด้านหน้าของปราสาทสัจธรรม ในวันที่ฟ้าสดใส ++++++ นั่งรอชมการแสดง ก่อนจะเข้าไปชมภายในของปราสาทสัจธรรม ++++++ การแสดงร่ายรำพื้นบ้านแบบไทยๆ นักท่องเที่ยวฝรั่งสนใจกันมาก ++++++ ระหว่างรอเวลาเข้าชมปราสาท ผมก็เก็บภาพฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ ++++++ ผลงานไม้แกะสลักแต่ละชิ้น ทำออกมาได้สวยงามละเอียดละออจริงๆ ++++++ ด้านนี้มีรูปแกะสลักพระพักตร์ของเทพขนาดใหญ่ เห็นแล้วนึกไปถึงปราสาทบายนที่เขมรอยู่เหมือนกัน ++++++ บนยอดจั่วจะไม่มีช่อฟ้า แต่จะมีไม้แกะสลักเป็นรูปเทวดาแทน +++ หลังจากชมการแสดงเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาเข้าไปชมภายในปราสาทสัจธรรมกันเสียที ก่อนเข้าชมเจ้าหน้าที่จะแจก "หมวกนิรภัย" ซึ่งเป็นหมวกพลาสติกป้องกันของตกใส่ศรีษะให้ใส่กันทุกคน เพราะอย่างที่ทราบกันว่าที่นี่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จดี อาจเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้นได้ เลยต้องมีการป้องกันไว้ก่อน ..... การเข้าชมในแต่ละรอบจะมีมัคคุเทศน์คอยนำชมและให้ความรู้เกี่ยวกับปราสาทสัจธรรมแห่งนี้ด้วย หากใครตั้งใจฟังก็จะได้ข้อมูลติดตัวกลับบ้านไปมากมาย แต่สำหรับผม ไม่ค่อยได้ตามฟังข้อมูลเท่าไหร่นัก เพราะมัวแต่ห่วงถ่ายภาพมากกว่า ดีที่ผมทำการบ้านมาก่อนล่วงหน้าโดยอ่านรายละเอียดจาก internet มาบ้างแล้ว ก็เลยพอจะทราบข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับปราสาทแห่งนี้อยู่บ้าง .....+++ ใส่หมวกนิรภัยเรียบร้อยแล้ว ก็ขอเชิญเข้าไปชมภายในปราสาทกันเลยดีกว่าครับ ++++++ แม้ภายนอกแดดจะร้อน แต่เข้ามาภายในแล้วจะเย็นสบายด้วยลมทะเลที่พัดผ่านเข้ามาตลอดเวลา ++++++ รอยชอล์กที่เห็นบนเสา ไม่ใช่เด็กมาเขียนเล่นนะครับ แต่เป็นการร่างลวดลายสำหรับแกะสลักไม้ ++++++ แม้แต่ด้านบนเพดาน ก็ยังมีการตกแต่งด้วยไม้แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจง ++++++ ดูลวดลายแกะสลักบนเพดานแบบใกล้ๆ ทำได้ละเอียดยิบเลยทีเดียว ++++++ รูปสลักเทพเจ้าแห่งลมที่อยู่ภายในห้องแรก สื่อความหมายถึงการกำเนิดของจักรวาลและสรรพชีวิต +++ "ปราสาทสัจธรรม" หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าวังโบราณ เป็นสถาปัตยกรรมแบบจัตุรมุข หลังคาทรงท้องสำเภาเรือ ทำด้วยไม้แกะสลักทั้งหลัง โดยไม่ใช้ตะปูตอกแม้แต่ตัวเดียว แต่ใช้ระบบเข้าเดือยไม้แบบไทยหรือใส่สลักไม้ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ นับเป็นงานสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมแห่งศตวรรษ ด้วยความตั้งใจของผู้สร้างที่ต้องการสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของศาสนาและปรัชญา และให้ตระหนักถึงสัจธรรมที่แท้จริงของชีวิต โดยผ่านความงดงามของสถาปัตยกรรมไทยและศิลปงานแกะสลักงานไม้ .....+++ ขอเก็บภาพเป็นที่ระลึกภายในปราสาทสัจธรรมกันหน่อยครับ ++++++ สองเ้ด็กดื้อดูจะตื่นตาตื่นใจกับบรรดารูปสลักไม้ต่างๆ เป็นอย่างมาก ++++++ ศิลปะการแกะสลักไม้บริเวณริมหน้าต่าง เป็นภาพสลักแบบนูนสูง สวยและอ่อนช้อยมาก ++++++ ริมหน้าต่างแต่ละบาน ก็จะแกะสลักเป็นภาพแตกต่างกันออกไป ++++++ ยิ่งได้ดูกันใกล้ๆ แบบนี้ ยิ่งเห็นได้ชัดถึงความงามของงานไม้แกะสลัก +++ ภายใน "ปราสาทสัจธรรม" ไม้แกะสลักทุกชิ้นจะแฝงไปด้วยคติธรรม หลักธรรม และปรัชญา โดยยึดเอา 7 สิ่งที่มนุษย์ถือกำเนิดและต้องดำรงอยู่อย่างขาดไม่ได้ อันได้แก่ ฟ้า ดิน พ่อ แม่ พระอาทิตย์ พระจันทร์ และดวงดาว มาเป็นแกนหลักในการสร้างงานแต่ละชิ้น และยังสื่อให้เห็นถึงความดีงาม คุณธรรม จริยธรรมอีกด้วย แต่รายละเอียดว่ารูปสลักอันไหนสื่อถึงอะไรบ้าง ตรงนี้ผมเองก็ดูไม่ออกเหมือนกัน ถ้าใครเข้าไปชมแล้วสงสัยก็ลองถามมัคคุเทศน์ที่นำชมก็แล้วกันนะครับ .....+++ ภายในปราสาท จะมีป้ายแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับปราสาทสัจธรรมให้อ่านกันอยู่เป็นระยะ ++++++ มีงานไม้แกะสลักสวยๆ แบบนี้ให้ชมอยู่ทั่วทุกมุมของปราสาท ++++++ ไม้แกะสลักทุกชิ้นภายในปราสาทจะแฝงไปด้วยคติธรรม หลักธรรม และปรัชญา ++++++ แสงเงาที่ทาบทาอยู่บนงานไม้แกะสลัก ช่วยขับให้รูปทรงดูเด่นชัด และน่าสนใจยิ่งขึ้น ++++++ ใครที่ชอบการถ่ายภาพ มาที่นี่น่าจะถูกใจ เพราะมีมุมมองที่แสงสวยๆ น่าเก็บภาพอยู่เต็มไปหมด +++ นอกจากที่นี่จะมีงานไม้แกะสลักสวยๆ ให้ชมกันแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้เลือกทำอีกด้วย เช่นการนั่งรถม้าหรือนั่งช้างชมรอบปราสาท การนั่งเรือออกไปชมวิวปราสาทในมุมมองจากท้องทะเล มีแม้กระทั่งการขับรถ ATV หรือนวดฝ่าเท้า แต่ละกิจกรรมก็ต้องเสียเงินซื้อเป็น package เพิ่มขึ้นจากค่าเข้าชมปกติ ..... แต่มีกิจกรรมอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม คือการชม "การแกะสลักไม้" ซึ่งช่างฝีมือจะทำงานอยู่ในโรงแกะสลัก เราสามารถเข้าไปชมขั้นตอนการแกะสลักได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ก่อนกลับบ้านก็ยังมีร้านขายของที่ระลึก ซึ่งมีผลงานไม้แกะสลักให้เลือกซื้อกลับไปตกแต่งบ้านกันอีกด้วย .....+++ ช่างฝีมือกำลังทำงานแกะสลักไม้อยู่ภายในโรงแกะสลัก ++++++ ไม้แกะสลักขนาดเล็ก ที่มีจำหน่ายในร้านขายของที่ระลึก +++ หลังจากที่ผมได้มาชมความอลังการของงานไม้แกะสลักอันวิจิตรตระการตาของปราสาทสัจธรรมด้วยตนเองในวันนี้ ส่วนตัวแล้วสำหรับผม คิดว่าราคาค่าเข้าชมที่ตั้งไว้นั้น นับว่าไม่แพงจนเกินไป เมื่อเทียบกับความตั้งใจจริงและความยากลำบากในการก่อสร้างและบูรณะปราสาทแห่งนี้ หากใครชอบดูผลงานศิลปะแบบไทยๆ โดยเฉพาะงานแกะสลักไม้ มาพัทยาคราวหน้า ลองแวะเข้าไปเที่ยวปราสาทสัจธรรมดูซักครั้ง ผมคิดว่าไม่น่าจะผิดหวังนะครับ สำหรับทริปนี้ก็คงต้องขอจบเพียงเท่านี้ ไว้พบกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีครับ .....
สถานที่ตั้ง : "ปราสาทสัจธรรม" ตั้งอยู่บริเวณแหลมราชเวช ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี 20150 โทร. 038-367229-30 เวลาเปิดบริการ : เปิดเวลา 8.00-18.00 น. ทุกวันค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ 500 บาท, เด็ก (สูงตั้งแต่ 110-140 เซ็นติเมตร) 250 บาท