Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
28 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 

เธอ...เขา...และรักเรา ตอนที่ 22




พวกน้องๆ ของฮยอนจุงรวมถึงพี่ผู้จัดการของเขากำลังเดินไปที่ห้องพักผู้ป่วยของฮวางโบที่อยู่ในโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมอาการของเธอ และระหว่างทางพวกน้องๆ ของเขาก็เจอเขาโบรัมโดยบังเอิญ....

“นี่พวกนาย...เมื่อคืน...ฮยอนจุงมันไม่ได้กลับบ้านเลยใช่มั้ย?” พี่ผู้จัดการถามขณะเดินไปห้องพักผู้ป่วย

“ฮะ...ผมคิดว่าเขาคงไม่ได้กลับบ้านหรอก เพราะเมื่อวานตอนเย็นผมโทรหาเขา...เขายังอยู่ที่นี่อยู่เลย” ยองแซงตอบ

“ผมไม่อยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นเลยจริงๆ เพราะมันคงเป็นเรื่องยากสำหรับพี่สะใภ้ที่จะทำใจได้น่ะฮะ” คยูจงพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง

และเมื่อพวกเขาไปถึงหน้าห้องพักผู้ป่วยของฮวางโบ พวกเขาก็ได้ยินเสียงเธอกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พวกเขาทั้งหมดจึงรีบวิ่งไปที่ห้องพักของเธอ....

“ออกไปนะ...ออกไป!!! ฉันไม่อยากเห็นเธอ...ได้ยินมั้ยฮยอนจุง” ฮวางโบร้องตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด

“ฮเยจุงฮะ...ได้โปรดใจเย็นๆ ก่อนได้มั้ยฮะ คุณกำลังไม่สบายอยู่นะ” ฮยอนจุงพยายามพูดกับเธออย่างใจเย็น

“ได้โปรดเถอะ...ฮยอนจุง...ขอร้องล่ะขอให้ฉันได้อยู่คนเดียวจะได้มั้ยฮ้าห์!!” ฮวางโบยังคงไม่ยอมรับฟังเขาและไม่อยากเห็นหน้าเขาอยู่ดี

“พี่ฮะ...ผมว่าตอนนี้พี่ออกไปก่อนดีกว่าฮะ แล้วเมื่อพี่สะใภ้ใจเย็นลงเมื่อไหร่พี่ค่อยมาใหม่” จองมินแนะนำเขาอย่างเห็นใจ

“งั้นเดี๋ยวฉันจะไปตามหมอมาให้นะ” ยองแซงพูดอาสาขึ้นมา

หลังจากนั้น...ฮยอนจุงก็ถูกพวกน้องๆ ของเขาลากตัวออกมาจากห้องนั้น และทิ้งให้โบรัมอยู่เป็นเพื่อนฮวางโบแทน

“เขาไปแล้ว...ฮเยจุง...เขาไปแล้ว....ชู่วววว์....ใจเย็นๆ ก่อนนะ” โบรัมพยายามพูดปลอบใจฮวางโบหลังจากที่ฮยอนจุงกับพวกน้องๆ ออกจากห้องไปแล้ว

“โบรัม...ฉัน...ฉันไม่อยากเห็นหน้าเขาแล้วจริงๆ นะ” ฮวางโบพูดพร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างเจ็บปวด

“ได้ๆ ถ้าเธอไม่อยากเห็นเขา ฉันจะบอกกับเขาไม่ให้มาให้เธอหน้าอีกดีมั้ยจ๊ะ” โบรัมพยายามพูดปลอบเธอทุกวิถีทางที่ทำได้

หลังจากนั้น...ฮยอนจุงก็คว้าตัวคุณหมอเอาไว้ หลังจากที่เขาเข้าไปตรวจอาการของฮวางโบเรียบร้อยแล้ว

“คุณหมอฮะ...เธอเป็นยังไงบ้างฮะ?” ฮยอนจุงถามคุณหมอด้วยความเป็นห่วง

“ตอนนี้อารมณ์ของเธอค่อนข้างจะแปรปรวน พยายามอย่าเพิ่งไปรบกวนหรือกวนใจเธอตอนนี้เลยนะครับ” คุณหมออธิบายกับเขา

“ฉันจะเข้าไปหาเธอ” ฮยอนจุงพูดอย่างร้อนใจ

“อย่าเพิ่งเลยฮยอนจุง ตอนนี้ให้พี่โบรัมอยู่เป็นเพื่อนพี่เขาก่อนนะดีแล้ว” ยองแซงพูดห้ามเขาไว้

“อ้าห์~~ให้ตายซิ...ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้แต่อยู่ข้างๆ เธอเพื่อทำให้เธอสบายใจ ฉัน...ฉันนี่มันเป็นสามีที่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ” ฮยอนจุงพูดออกมาอย่างแค้นใจตัวเอง

“พี่สะใภ้...เธอแค่ต้องการเวลามากกว่านี้อีกซักหน่อยนะฮะ เพราะฉะนั้นพี่อย่าโทษตัวเองเลยฮะ” จองมินพยายามพูดปลอบใจฮยอนจุงอย่างเห็นใจ

แล้วหลังจากวันนั้น....ฮยอนจุงก็ไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลอีก แต่ก็ต้องล้มเหลวกลับมาทุกครั้ง เพราะทุกครั้งที่เขาไปเยี่ยมฮวางโบ...เธอก็จะไม่ยอมให้เขาเข้าไปเยี่ยมและพบหน้าเลยซักครั้ง เขาแทบจะไม่เป็นอันทำอะไร ไม่กินไม่นอน จนแก้มบนใบหน้าของเขาตอบลงอย่างเห็นได้ชัด และก็ปล่อยตัวเองให้ผมเผ้ายุ่งเหยิง จนคนที่รู้จักเขาแทบจะจำเขาตอนนี้ไม่ได้เลยว่าเขาเป็นนักร้องไอดอลรูปหล่อระดับต้นๆ ของเกาหลี ที่ชื่อ ‘คิมฮยอนจุง’ เลยทีเดียว

แล้ววันหนึ่ง...เมื่อเขากลับไปที่โรงพยาบาลเขาก็พบว่าเธอไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว เพราะเธอกลับบ้านไปแล้วแต่เขาไม่รู้ เขาจึงรีบโทรหาแม่ของฮวางโบทันทีเมื่อเขาไม่พบเธออยู่ที่ห้องพักผู้ป่วย

“เอ่อ...คุณแม่หรือครับ...ฮเยจุงเธอไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว คุณแม่พาเธอกลับบ้านแล้วหรือครับ?” ฮยอนจุงถามแม่ของเธออย่างร้อนใจ

“เอ่อ...แม่ขอโทษนะจ๊ะที่ไม่ได้บอกเธอก่อน แต่ฮเยจุงเขาไม่ต้องการให้แม่บอกเธอเรื่องนี้ แต่ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ ตอนนี้เขาสบายดี และเขาเริ่มจะกินอะไรขึ้นมาได้นิดหน่อยแล้วล่ะจ๊ะ อ้อ...แล้วก็อารมณ์ของเขาก็เริ่มคงที่และดีขึ้นแล้วนะจ๊ะ” แม่ของเธอพยายามพูดให้เขาสบายใจ

“งั้นผมจะไปหาตอนนี้เลยนะฮะ” ฮยอนจุงพูดอย่างดีใจและมีความหวัง

“ไม่...อย่านะ...ฮยอนจุง...เธออย่าเพิ่งมาตอนนี้เลยนะจ๊ะ ขอเวลาให้ฮเยจุงอีกซักหน่อยเถอะนะ ถือว่าแม่ขอร้องเธอล่ะ” แม่ของฮวางโบรีบพูดห้ามเขาทันที

“ก็ได้ฮะ...แต่อย่างน้อยขอให้ผมได้พูดกับเธอหน่อยเถอะนะฮะ” ฮยอนจุงพูดอย่างยอมรับและรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยที่จะไม่ได้ไปพบหน้าเธอ

“เอ่อ...แม่ขอโทษนะจ๊ะ แต่...ฮเยจุงเขายังไม่ต้องการพูดกับเธอตอนนี้ แม่เสียใจจริงๆ นะจ๊ะ” แม่ของฮวางโบพูดกับเขาด้วยความลำบากใจ

“อ้อ...ผมเข้าใจแล้วฮะ งั้น..คุณแม่ครับ...ผมคงต้องฝากคุณแม่ดูแลฮเยจุงด้วยนะครับในช่วงนี้ และผมก็ต้องขอโทษจริงๆ สำหรับเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมา ผมเสียใจจริงๆ นะครับที่เป็นต้นเหตุทำให้คุณแม่ต้องเสียหลานไปตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้าแกเลยแบบนี้ ผมเสียใจจริงๆ นะครับ” ฮยอนจุงพูดระบายความรู้สึกของตัวเองออกมาให้แม่เธอฟัง

“อย่างพูดแบบนั้นซิจ๊ะ ฮเยจุงเองก็เป็นลูกสาวสุดที่รักของแม่เหมือนกันนะ เพราะฉะนั้นแม่จะดูแลเขาอย่างดีที่สุด เธอไม่ต้องเป็นห่วงนะจ๊ะ และก็...ฮยอนจุงจ๊ะ...สำหรับเธอ...เธอก็เป็นลูกเขยที่แม่รักมากเสมอ และไม่มีวันเปลี่ยนแปลงตลอดไปเหมือนกันนะจ๊ะ” แม่ของเธอพยายามพูดปลอบใจฮยอนจุง

“ขอบคุณครับคุณแม่ ผมต้องขอขอบคุณคุณแม่มากจริงๆ” ฮยอนจุงพูดกับแม่ของเธอด้วยความตื้นตันใจ

---------------------------------------------------------

และเพราะตารางของวง SS501 ที่ถูกสะสมมานาน พี่ผู้จัดการของเขาจึงไม่ทางเลือกนอกจากขอร้องฮยอนจุงในระหว่างที่พวกเขาทั้งหมดนั่งพูดคุยกันในบ้านพักของพวกเขานั่นเอง

“ฉันขอโทษจริงๆ นะฮยอนจุงที่ต้องพูดเรื่องนี้ในเวลาแบบนี้นะ แต่...พวกเราคงต้องเริ่มกลับไปทำงานตามตารางงานของพวกเราให้เร็วที่สุดแล้วล่ะ เพราะตอนนี้ตารางงานพวกนั้นมันกำลังซุ้มหัวฉันเต็มไปหมดแล้ว” พี่ผู้จัดการของพูดอย่างลำบากใจ

“ผมเข้าใจแล้วฮะ พี่ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะเริ่มกลับไปทำงานตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เพราะฉะนั้นพี่กลับไปเตรียมงานตามตารางงานต่างๆ ได้เลยฮะ” ฮยอนจุงพูดกับพี่ผู้จัดการของเขาอย่างเข้าใจ

แต่...ในสมองและหัวใจของเขาตอนนี้กลับมีแต่เรื่องของฮวางโบเท่านั้น เขาไม่มีแรงและกำลังใจที่จะทำอะไรต่อไปอีกแล้วเมื่อคิดถึงเธอ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังเป็นหัวหน้าวงของ SS501 อีกด้วย เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องก้าวต่อไปเพื่อน้องๆ ของเขาด้วย เพราะพวกเขาไม่สามารถหยุดทุกอย่างอยู่ที่เขาเพียงคนเดียวในตอนนี้ได้....

และในทุกๆ กิจกรรมส่วนใหญ่ที่ SS501 เข้าร่วม ฮยอนจุงก็มักจะถูกตั้งถามเกี่ยวกับฮวางโบและช่วงเวลาที่ยากลำบากในการแต่งงานของพวกเขาเสมอ แต่โชคยังดีที่เขายังมีพี่ผู้จัดการและพวกน้องๆ ของเขาคอยช่วยให้เขาสามารถเอาผ่านปัญหาและเอาชนะคำถามเหล่านี้ได้ทุกครั้ง

---------------------------------------------------------

ในรถตู้ของ DSP

“พี่ฮะ...เฮ้อออ!!~ ผมเกลียดที่จะถามคำถามนี้กับพี่จริงๆ แต่ว่า...เมื่อไหร่พี่สะใภ้ของพวกเราจะกลับมาซะทีล่ะฮะ?” เบบี้ถามฮยอนจุงด้วยความหนักใจและเป็นห่วง

“ก็จากที่แม่ของเธอบอกฉัน...พวกเขาก็น่าจะกลับกันมาในอาทิตย์นี้แล้วล่ะมั่ง” ฮยอนจุงตอบอย่างคนหมดอะไรตายอยาก

“นี่...จนปานนี้แล้วพี่ยังไม่ได้พูดกับพี่สะใภ้อีกหรือฮะ?” จองมินถามด้วยความสงสัยและเป็นห่วงเขาเช่นกัน

“ก็ตั้งแต่ที่เธอไปพักผ่อนที่นิวซีแลนด์กับแม่ของเธอนั่นแหละ และฉันเอง....ก็ไม่อยากโทรไปกวนใจเธอด้วย เพราะเธอจำเป็นต้องได้รับการผ่อนคลาย...หลังจากที่เจอเรื่องร้ายๆ มามากมายแล้ว...” ฮยอนจุงพูดด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยและหดหู่อย่างที่สุด

“แต่พี่ฮะ...นี่มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นสำหรับพวกพี่ทั้งสองคนหรอกนะฮะถ้าขืนพวกพี่ยังเป็นแบบนี้อยู่ล่ะก็ นี่พี่ไม่ได้พูดกับพี่สะใภ้มา 3 อาทิตย์แล้วนะฮะ และพี่ก็น่าจะรู้ดีว่าพวกนักข่าวนะร้ายกาจแค่ไหน พวกเขากำลังคาดเดาเรื่องการหย่าร้างของพวกพี่สองคนอยู่นะฮะ” คยูจงพูดเตือนเขาด้วยความเป็นห่วง

“นี่...อย่าเพิ่งไปกังวลกับเรื่องนั้นให้มากนักเลย เพราะสิ่งที่นายควรทำตอนนี้ก็คือ...หันหน้ามาพูดคุยกันดีๆ เมื่อพี่เขากับมาเกาหลีแล้วต่างหาก แล้วเรื่องทุกอย่างมันจะดีขึ้นเอง และนายอย่าลืมนะ...ว่านายยังมีพวกเราคอยเป็นสนับสนุนและยืนอยู่ข้างนายเสมอ” ยองแซงพูดพร้อมกับตบที่บ่าของเขาเบาๆ เป็นการให้กำลังใจ

“ไม่ใช่แค่นั้นนะ...เพราะนายยังมีฉัน แล้วก็...ท่านประธานลีที่คอยให้กำลังใจนายอยู่ด้วยเช่นกัน” พี่ผู้จัดการของเขาพูดเสริมเพื่อเป็นกำลังใจให้เขาอีกคน

---------------------------------------------------------

สัปดาห์ต่อมา...ฮยอนจุงก็ได้รับโทรศัพท์จากใครคนหนึ่งขณะที่เขากำลังพักเบรคจากการถ่ายโฆษณาอยู่นั่นเอง....

“ฮัลโหล...สวัสดีครับ” ฮยอนจุงทักทายปลายสานตามมารยาท

“เอ่อ...ฮยอนจุง...นี่ฉันเองนะ...” คนจากปลายสายพูดตอบเขา

“ฮเยจุง!!~ นั่นคุณกลับมาแล้วหรือฮะ?” ฮยอนจุงพูดตอบกลับไปด้วยความดีใจ

“ใช่จ๊ะ...ฉันเพิ่งกลับมาถึงเมื่อวานนี้เอง แล้วเอ่อ...ตอนนี้ฉันโทรมารบกวนเธอรึเปล่าจ๊ะ?” ฮวางโบถามเขาอย่างเกรงใจ

“ไม่ฮะ...ไม่รบกวนเลย...ฮเยจุง...แล้วตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนฮะ? เพราะผมอยากไปเห็นหน้าคุณใจจะขาดแล้วฮะ” ฮยอนจุงพูดกับเธอด้วยความคิดถึง

“ฉันเองก็อยากจะเจอเธอเหมือนกัน และตอนนี้ฉันก็อยู่ที่อพาร์ทเมนท์ของพวกเราแล้วด้วย” ฮวางโบตอบเขา

“เข้าใจแล้วฮะ...คุณรอผมก่อนนะฮะ เพราะตอนนี้ผมกำลังจะกลับบ้านของเราแล้ว” ฮยอนจุงพูดออกมาด้วยความดีใจ ขณะที่กำลังคิดว่าอีกไม่นานเขาจะได้เจอหน้าคนที่เขารักและคิดถึงมาตลอดเวลาแล้ว...

และเสียงจากโทรศัพท์สายนี้ก็มีผลต่อความรู้สึกของเขาอย่างมากมาย เพราะเขากำลังคิดถึงภรรยาของเขาจนใจแทบขาดและนึกถึงเธอตลอดเวลา 3 อาทิตย์ที่พวกเขาไม่ได้พบหน้ากัน และเมื่อเขาได้ยินเสียงของเธออีกครั้งมันก็ทำให้ฮยอนจุงรู้ตัวว่าเขาจะไม่มีทางยอมปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์อีกต่อไปแล้ว....

---------------------------------------------------------

ที่อพาร์ทเมนท์ของพวกเขา

ฮวางโบกำลังยืนอยู่ที่ระเบียงด้านนอกห้องเมื่อตอนที่ฮยอนจุงมาถึงที่บ้านของพวกเขา และเมื่อเขาเห็นเธอ...ฮยอนจุงก็รีบเดินตรงเข้าไปกอดเธอเอาไว้แน่นด้วยความรักและคิดถึงทันที...

“ฮเยจุง...ผมทรมานแทบตายเพราะคิดถึงคุณมากรู้มั้ยฮะ” ฮยอนจุงพูดเสียงอ่อนเสียงหวานกับเธอด้วยความดีใจ

แต่...ฮวางโบกลับไม่มีการตอบสนองใดๆ กลับไปให้เขา เธอค่อยๆ แกะมือของฮยอนจุงออกอย่างช้าๆ และนั่นก็ทำให้ฮยอนจุงรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที....

“การเดินทางของคุณเป็นยังไงบ้างฮะ?” เขาถามเธอโดยไม่พยายามใส่ใจท่าทีของเธอ

“ก็ดีจ๊ะ...และ...ฉันก็รู้สึกดีขึ้นมากๆ แล้วตอนนี้” ฮวางโบตอบด้วยน้ำเสียงที่ดูราบเรียบ

“ฮเยจุง...ผม...” ฮยอนจุงพยายามจะพูดอะไรบางอย่างกับเธอ แต่..ถูกฮวางโบพูดขัดจังหวะขึ้นมาซะก่อน

“ฮยอนจุง...ตอนที่ฉันอยู่ที่นิวซีแลนท์...ฉันลองมานั่งคิดทบทวนเกี่ยวกับเรื่องมากมายที่เกิดขึ้นกับเราแล้วนะ” ฮวางโบพูดขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง

“แล้วยังไงฮะ?” ฮยอนจุงถามเธอด้วยความสงสัย

“ฮยอนจุงจ๊ะ..ฉันต้องการหย่ากับเธอ” ฮวางโบพูดมันออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวด

“อะไรนะ...เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรน่ะฮะ?” ฮยอนจุงถามเธอด้วยความตกใจ และไม่อยากเชื่อหูตัวเองที่ได้ยินอะไรแบบนั้นเลย

“มันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเราตอนนี้...อย่างน้องที่สุดก็สำหรับฉัน....” ฮวางโบพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ และกำลังสะกดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาเพราะความเจ็บปวด

“ไม่...ผมไม่มีทางยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นหรอก...ผมไม่ยอม...คุณไม่สิทธิ์มาตัดสินใจเรื่องนี้คนเดียวนะ...คุณไม่มีสิทธิ์มาเห็นแก่ตัวแบบนี้...ผมไม่ยอม....ได้ยินมั้ย...ฮเยจุง...ผมไม่ยอม...” ฮยอนจุงพูดมันออกมาราวกับคนเสียสติ เขารู้สึกสับสน เสียใจ ตกใจ และผิดหวังที่สุดที่ได้ยินคำพูดนั้นหลุดออกมาจากปากเธอ..จากปากของคนที่เขารักสุดหัวใจ

“เห็นแก่ตัวงั้นหรือฮยอนจุง? แล้วมันไม่ใช่เพราะความเห็นแก่ตัวของเรารึไง ที่ทำให้เราสองคนตกลงแต่งงานกันในตอนแรก....มันไม่ใช่เพราะความเห็นแก่ตัวของเรางั้นหรือที่ทำให้เราทั้งคู่ต้อมาเจ็บปวดมากมายขนาดนี้ และยังคนอื่นๆ รอบๆ ตัวเราอีกที่ต้องมาทุกข์ใจและเดือนร้อนเพราะเราด้วยแบบนี้ ทั้งยองบิน อึนมิน บอมซัน และภรรยาของเขา...แล้วก็....ลูกที่ยังไม่ทันจะได้ลืมตาดูโลก...ของเรา พวกเขาทุกคนล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ต้องมาเจ็บปวดเพราะพวกเรานะ...ฮยอนจุง...และตอนนี้พวกเราเองก็กำลังเจ็บปวดเพราะมันอยู่ไม่ใช่หรือ?” ฮวางโบพูดระบายความรู้สึกของเธอออกมาด้วยความเจ็บปวดและเสียใจที่ต้องตัดสินใจทำอะไรแบบนี้...แต่...เธอจำเป็นต้องทำเพราะมันเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเธอและเขาในตอนนี้จริงๆ

“ไม่นะ...ฮเยจุง...ได้โปรด...อย่าทำแบบนี้กับผมได้มั้ยฮะ...ผมรักคุณมากนะ” ฮยอนจุงอ้อนวอนเธอด้วยความรู้สึกเจ็บปวดไม่แพ้กัน

ฮวางโบยืนนิ่งราวกับน้ำแข็งขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนี้หลุดออกมาจากปากของเขาคำพูดว่า <ผมรักคุณ...เธอรู้มั้ยคำสามคำนี้เป็นคำพูดที่ฉันอยากได้ยินมันออกจากปากเธอมานาน แต่...เธอไม่เคยที่จะพูดมันเลยซักครั้ง แม้แต่ตอนนี้ที่เรากอดกัน...จูบกัน...หรือแม้กระทั่งแต่ตอนที่เรามีอะไรกันเธอก็ไม่เคยพูดมันเลยซักครั้ง แล้วทำไมมีแต่ตอนนี้เท่านั้น...ที่เธอพูดมันออกมาต่อหน้าฉัน...ทำไมกันฮยอนจุง...ทำไม...ทั้งๆ ที่ฉันได้ตัดสินใจเรื่องของเราไปแล้วแบบนี้> ฮวางโบได้แต่พูดกับตัวเองด้วยความเจ็บปวด

“มันสายไปแล้วล่ะ...ฮยอนจุง...เพราะเธอได้สูญเสียฉันไปเรียบร้อยแล้ว...ตั้งแต่ที่เธอปล่อยมือฉันที่สนามบิน” ฮวางโบพูดมันออกมาอย่างเจ็บปวด

“ผมขอโทษฮะ...ผมเสียใจจริงๆ...ผมควรจะเชื่อมั่นในตัวคุณให้มากกว่านี้และไม่ปล่อยให้คุณต่อสู้อยู่คนเดียว...ผม...” ฮยอนจุงพูดมันออกมาด้วยความเจ็บปวดและเสียใจไม่แพ้กัน

“และที่สำคัญที่สุดก็คือ...เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันเห็นหน้าเธอ ฉันไม่สามารถห้ามตัวเองได้เลยจริงๆ ที่จะคิดว่าเธอต้นเหตุที่ฆ่าลูกของเราทางอ้อม!!!” ฮวางโบพูดมันออกมาอย่างเจ็บปวด แต่เธอทำใจไม่ได้จริงๆ เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น

“อะไรนะ? นี่คุณคิดแบบนั้นจริงๆ หรือฮะ?” ฮยอนจุงตัดพ้อเธอด้วยความผิดหวังและเสียใจ

“ใช่...ฮยอนจุง..ฉันเสียใจนะ แต่...เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันเห็นหน้าเธอ ฉันรู้สึกเกลียดเธอขึ้นมาทันทีอย่างช่วยไม่ได้ แล้วอย่างนี้เธอจะให้ฉันมีชีวิตอยู่ร่วมกับคนที่ฉันเกลียดได้หรือ...ฮยอนจุง” เธอพูดกับเขาอย่างเจ็บปวดอีกครั้ง และความเจ็บปวดที่เธอกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้มันก็เหมือนกับมีคนกำลังเอามีดมาแทงลงไปที่หัวใจของเธอไม่ผิด...มันเจ็บปวดจริงๆ...แต่เธอต้องทำและพูดมันออกไป...

“ฮเยจุง...ผมยินดีทำทุกอย่างเพื่อรักษาการแต่งงานของเราเอาไว้ แต่...ได้โปรด...อย่าตัดโอกาสนั้นของผมเลยฮะ” ฮยอนจุงพยายามขอร้องเธอสุดชีวิตเพื่อให้เธอยอมใจอ่อนกับเขา

“ฮยอนจุง...เธอทิ้งฉันไปทุกครั้งตอนที่ฉันต้องการเธอมากที่สุด แต่เวลานี้...ฉันขอร้องเธอล่ะนะ...ได้โปรด...ทิ้งฉันไปอีกครั้ง เพราะมันเป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่ฉันต้องการจากเธอในตอนนี้....” ฮวางโบพูดออกมาทั้งน้ำตา เพราะรู้สึกเจ็บปวดจริงๆ ที่เธอต้องพูดอะไรแบบนี้กับเขา...กับผู้ชายที่เธอรักมากที่สุดในชีวิต และเธอคิดว่าเธอคงไม่สามารถรักใครได้เท่านี้อีกแล้ว แต่...นี่เป็นสิ่งเดียวที่เธอต้องการที่สุดในเวลานี้

“ฮเยจุง...นี่คุณต้องการไปจากผมมากขนาดนั้นเลยหรือฮะ?” ฮยอนจุงถามเธอด้วยเสียงที่สั่นเครือ ขณะที่พยายามกลั้นน้ำตาของตัวเองเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา

“ฮยอนจุง...การแต่งงานของเรามันเพราะโชคชะตา...ที่ต้องการทำให้เราสองคนได้มาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่มันก็...เป็นเพราะโชคชะตาอีกนั่นแหละที่นำพาแต่เรื่องร้ายๆ ทั้งหมดนี้มาให้กับเรา และมันก็ยังเป็นเพราะความผิดพลาดของพวกเราอีกด้วย...ในตอนที่เรายอมรับเรื่องการแต่งงานในครั้งนี้...เพราะฉะนั้น...ปล่อยให้ความผิดพลาดมันจบลงที่นี่เถอะนะ...” ฮวางโบพูดระบายความรู้สึกทั้งหมดของเธอออกมาด้วยความเสียใจ

“ผม...ผมไม่รู้ตัวเลยจริงๆ ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่ผมเริ่มอยากให้การแต่งงานของเรามันดำเนินต่อไปจริงๆ ถึงแม้ว่าข้อตกลงในสัญญานั้นมันจะสิ้นสุดลง ผมไม่รู้ตัวเลยจริงๆ ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่ผมกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้ และต้องการเก็บคุณไว้ให้อยู่ข้างตัวผมตลอดไป แต่ผมรู้...ว่าผมไม่เคยทำให้คุณมีความสุขเลยหลังจากที่เราแต่งงานกันนอกจากความเจ็บปวดเท่านั้น และผมรู้...ผมรู้ว่าตอนนี้สิ่งเดียวที่ผมจะทำให้กับคุณได้คือการยอมปล่อยให้จากผมไป มันคงเป็นทางเดียวที่จะทำให้คุณมีความสุขได้ และนี่คงเป็นสิ่งสุดท้าย...ที่...ที่ผมจะสามารถทำให้กับคุณได้...ฮเยจุง...ผมยอม...ผมยอมหย่าให้คุณแล้วฮะ” ฮยอนจุงพูดออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับคนจะขาดใจ นี่คงเป็นสิ่งสุดท้ายที่ดีที่สุดที่เขาสามารถจะทำให้กับผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดในชีวิตได้แล้วล่ะมั่ง...

และข่าวการหย่าร้างของพวกเราก็ถูกตีพิมพ์และถูกพูดถึงไปทั่วทั้งเกาหลี และแฟนคลับมากมายที่มีอยู่ทั่วโลกของพวกเขาต่างพากันเขียนจดหมายมาขอร้องให้พวกเขาคิดทบทวนเรื่องการหย่าใหม่อีกครั้ง และก็มีจำนวนไม่น้องที่ถึงกับร้องไห้ออกมาเมื่อได้ยินว่าพวกเขาสองคนจะแยกทางกัน พ่อแม่ของพวกเขาทั้งคู่ รวมถึงน้องๆ ในวง SS501 และพี่ผู้จัดการของเขา อ้อ...แล้วยังมีท่านประธานลี และพนักงานในบริษัท DSP อีก ต่างก็ปฏิเสธที่จะยอมรับเรื่องการหย่าร้างของพวกเขาในครั้งนี้ แต่...พวกเขาทุกคนก็เคารพการตัดสินใจของทั้งฮยอนจุงและฮวางโบ เพราะไม่ว่ายังไงก็ตามก็คงมีแต่พวกเขาสองคนเท่านั้นที่รู้...ว่าทำไมพวกเขาสองคนถึงตัดสินใจแบบนี้....

---------------------------------------------------------

ที่สำนักงานทนายความ

หลังจากที่พวกเขาสองคนลงชื่อในใบหย่าเรียบร้อยแล้ว ฮยอนจุงรู้ดีว่านี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้เห็นหน้าเธอ...ฮวางโบฮเยจุง...ภรรยาที่อยู่ด้วยกันมา 8 เดือนของเขาเป็นครั้งสุดท้าย...

“คุณกำลังจะไปที่ไหนต่อฮะ? แล้วคุณต้องการให้ผมไปส่งคุณมั้ยฮะ?” เขาถามเธอด้วยน้ำเสียงที่ดูเศร้าสร้อยและอาวัยอาวรณ์เป็นที่สุด

“ไม่เป็นไรจ๊ะ...เพราะวันนี้ฉันขับรถมาเอง” ฮวางโบตอบด้วยน้ำเสียงที่เศร้าไม่แพ้กัน

“ต่อไป...คุณต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ รู้มั้ยฮะ?” ฮยอนจุงพูดพร้อมกับกลั้นน้ำตาของตัวเองเอาไว้

“จ๊ะ...ฉันจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด เธอเองก็...เหมือนกันนะ...ลาก่อนจ๊ะ...ฮยอนจุง (ของฉัน)...” ฮวางโบพูดพร้อมกับมีน้ำตาคลอเบ้าออกมาเช่นกัน

“ลาก่อนฮะ...ฮเยจุง (ของผม)” ฮยอนจุงพูดกับเธอด้วยเสียงที่สั่นเครือ

และทันทีที่พวกเขาสองคนหันหลังให้แก่กัน น้ำตาของพวกเขาทั้งคู่เริ่มไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ด้วยความเสียใจและเจ็บปวด ฮวางโบจดจำคำพูดที่เธอพูดกับแม่ของเธอเมื่อเย็นวานได้ดี...

“แม่ค่ะ...ทำไมหนูถึงได้รู้สึกเจ็บปวดมากมายขนาดนี้เมื่อรู้ตัวว่าจะต้องไปจากเขาจริงๆ ทั้งๆ ที่ตอนนี้หนูรู้สึกเกลียดเขามากที่สุด ทำไมค่ะแม่...ทำไมกัน?” ฮวางโบถามแม่ของเธอทั้งน้ำตา ขณะที่กอดแม่ของเธอไว้แน่น

“เด็กโง่...เพราะการที่ลูกจะเกลียดใครคนนึงได้มากมายขนาดนั้นได้ ก็ต่อเมื่อลูกเองก็ต้องรักเขามากมายขนาดนั้นเหมือนกันยังไงล่ะจ๊ะ?” แม่ของเธอพูดกับเธออย่างอ่อนใจ และกำลังสงสารเธอที่สุด...ที่เธอไม่เคยรู้ตัวเลยซักนิดว่าเธอนะรักฮยอนจุงมากมายแค่ไหน

ในขณะที่...พวกเขาสองคนต่างก็ต้องเดินไปในทิศทางที่เป็นเส้นคู่ขนานที่ไม่มีวันกลับมาบรรจบกันได้อีก...พวกเขาสองคนก็รู้ดีว่าโชคชะตาของพวกเขาทั้งคู่มันได้สิ้นสุดลงแล้ว...และพวกเขาก็เกลียดโชคชะตาที่เป็นแบบนี้จริงๆ เพราะมันได้ชักพาพวกเขาทั้งคู่มาพบกันและอยู่ด้วยกันแบบนี้ แต่...ก็เป็นเพราะโชคชะตาของพวกเขาอีกนั่นแหละที่ไม่สามารถทำให้พวกเขาได้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของกันและกัน และอยู่ด้วยกันได้ตลอดไป....

อวสาน....ภาคแรก (โปรดติดตาม เธอ...เขา...และรักเรา ภาค 2)

---------------------------------------------------------

ปล. ผู้แปลขอลาพักร้อนไม่ลงฟิคหนึ่งอาทิตย์นะค่ะ ขอไปซับน้ำตาก่อน ไม่ว่ากันนะค่ะ แล้วเจอกันใหม่ในเธอ...เขา...และรักเรา ภาค 2 วันเสาร์หน้ารับรองจบแบบแฮบปี้มีความสุขแน่นอนค่ะ (แป๋วขอพักช่วงไปเคลียร์งานของตัวเองหน่อยนะ...)

อ้อ....อาจ มีคำที่พิมพ์ผิดมากนะค่ะ สำหรับตอนนี้ เพราะคนแปลไม่กล้าทวนก่อนลง กลัวร้องไห้อีกรอบ ยังไงฝากเพื่อนที่อาจช่วยกันตรวจด้วยนะ แต่...ไม่รู้ว่าน้ำตามันจะทำให้เบลอจนมองไม่เห็นคำผิดรึเปล่า อิอิอิ




 

Create Date : 28 สิงหาคม 2553
6 comments
Last Update : 28 สิงหาคม 2553 21:30:19 น.
Counter : 554 Pageviews.

 

ขอบคุณนะคะ สำหรับคำแปลสนุกมากๆ เศร้าจัง...ทิชชู่หมดไปครึ่งม้วนเลย อินจัด...ยังไงก็อย่าให้ทั้งคู่เป็นเหมือนในเรื่องเลยนะคะ อยากให้รักกันจริงๆ และแต่งงานกันใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ยังไงก้อจะรอภาค2 นะและเป็นกำลังใจให้ต่อไปนะคะ Fighting...

 

โดย: fanjoongbo IP: 124.121.119.93 29 สิงหาคม 2553 0:37:37 น.  

 

คุณแป๋ว อย่างแรก ขอบคุณมากนะคะ สำหรับการแปลฟิคจุงโบให้เราได้อ่าน

เฮ้ออออ ขอถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะไม่คิดว่าจะอ่านจนจบ แต่ก้อมีแอบน้ำตาซึมนะคะ

ไม่มีถนนสายไหนที่โรยด้วยกลีบกุหลาบจริง ๆ ทั้งชีวิตจริงและแม้แต่ในฟิค

เช็คสเปียร์กล่าวไว้ว่า "เค้าอยากให้ทุกคู่รักก้าวเดินไปด้วยกันจนสุดปลายทาง"

หวังว่า ตอนนี้ "จุงกะโบ" เค้าทั้งคู่กำลังประคับประคองความรักของเค้าเื่พื่อให้เดินไปจนสุดปลายทางด้วยกันนะคะ

 

โดย: JOONG LUV BO IP: 110.168.115.70 29 สิงหาคม 2553 2:11:14 น.  

 

จบแบบเศร้า น้ำตาตกเลยละน้องแป๋ว

นั่นคือนิยาย แต่ชีวิตจริงของจุงโบเค้ากำลังฝ่าฟันอุปสรรคต่าง เพื่อที่จะก้าวไปด้วยกัน ตลอดไป เหมือนพวกเราเป็นกำลังใจให้เค้าอยู่ทุกวันนี้

ขอบคุณที่แปลฟิคดีๆ ให้อ่านคะ พักผ่อนให้หายเหนื่อย แล้วจะรอภาค 2 ค่ะ

 

โดย: noyhnasangchu2010 IP: 125.26.18.35 29 สิงหาคม 2553 16:09:02 น.  

 

ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะคุณแป๋ว สนุกดีค่ะ สงสารโบมากเลย อินค่ะ จบภาคแรกซะแล้ว จะคอยติดตามตอนต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณแป๋วและทีมงานด้วยค่ะ

 

โดย: nida_pinya (บุ๋ม) IP: 122.154.23.3 30 สิงหาคม 2553 9:07:08 น.  

 

สวัสดีค่ะ น้องแป๋ว ก่อนอื่นเลยต้องขอบคุณที่แปลฟิคดีๆให้พวกเราได้อ่านนะคะขอเป็นกำลังใจให้ในภาคต่อไปนะคะเป็นแค่คนอ่านยังบีบหัวใจขนาดนี้แล้วคนแปลจะขนาดไหนถึงจะบอกตัวเองว่าเป็นแค่ฟิคแต่ก็อดเจ็บปวดร่วมด้วยไม่ได้เพราะชีวิตคนจริงๆก็ไม่แตกต่างจากฟิคเท่าไหร่หรอกค่ะเพียงแต่เราไม่รู้ว่าใครจะเหมือนเรื่องไหนใช่ไหมค่ะ

 

โดย: มดแดง IP: 58.10.71.248 30 สิงหาคม 2553 11:20:10 น.  

 

ขอบคุณคุณแป๋วนะมากสำหรับฟิคภาคแรก ดร่ามามากๆๆๆๆค่ะ เห็นด้วยกับความเห็นแรก ว่าขอให้เป็นแค่ฟิค ในชีิวิตจริงนั้น ขอให้ทั้งคู่สมหวังในความสุข เพราะัทั้งคู่นั้นก็ผ่านเรื่องร้ายๆมามากพอแล้ว หากแต่งงานแล้วยังต้องเจอกับอุปสรรคอีก คงจะทรมานใจไม่น้อย...

 

โดย: luck IP: 58.136.48.58 2 กันยายน 2553 7:51:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.