Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
25 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 

เธอ...เขา...และรักเรา ตอนที่ 20




ฮวางโบได้จ้างนักสืบเอกชนรายหนึ่งเพื่อมาสืบเรื่องของยองบินอย่างจริงจัง และหลังจากใช้ความพยายามทั้งหมดที่มีนักสืบเอกชนรายนั้นก็สามารถรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับยองบินได้มากพอสมควรและได้นัดฮวางโบออกมาพบในวันนี้

ฮวางโบได้ขับรถของฮยอนจุงออกไปพบกับนักสืบ และในระหว่างที่เธอกำลังขับรถอยู่นั้นเธอก็พูดบางอย่างกับลูกในท้องของเธอ....

“เจ้าตัวเล็กของแม่ ถ้าวันนี้ไม่เรื่องอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น แม่จะบอกกับพ่อของลูกเกี่ยวกับเรื่องของลูกนะ แล้วเราจะไปญี่ปุ่นกับพ่อด้วยกันนะจ๊ะ” ฮวางโบพูดอย่างมีความสุข ก่อนจะเอามือลูบที่ท้องของตัวเองอย่างอ่อนโยน

ใช่...ความจริงแล้วฮวางโบได้ตัดสินใจว่าเธอจะไปญี่ปุ่นกับฮยอนจุง และหยุดสืบหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องของยองบิน หลังจากที่เธอได้ไปพบกับท่านประธานลีเป็นครั้งที่สองนั่นเอง...

------------------------------------------------------------------------

ย้อนกลับไปในวันที่เธอไปพบกับท่านประธานลี เมื่อ 4 วันก่อน

“ทำไมวันนี้คุณถึงอยากพบฉันอีกล่ะค่ะ?” ฮวางโบถามประธานลีอย่างสงสัย

“แล้วคุณตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนั้นยังไงครับ?” ประธานลีถามเธอกลับ

“ฉันจะเก็บลูกของเราไว้ค่ะและสำหรับเรื่องค่าเสียหาย ฉันอาจจะจ่ายคืนไม่ได้หมดในครั้งเดียว แต่ฉันหวังว่าฉันจะสามารถค่อยๆ จ่ายคืนค่าเสียหายทั้งหมดให้กับทาง DSP ได้” ฮวางโบพูดอย่างจริงจัง

“แล้วยังไงอีกครับ?” ประธานลีถามต่อ

“ฉันยินดีจะทำทุกอย่าง ขอแค่ให้ได้อยู่กับฮยอนจุงและลูกของเราก็พอ” ฮวางโบตอบอย่างจริงจังอีกครั้ง

“นี่คุณคงรักเขามากซินะครับ?” ประธานลีถามเธอต่อ

“ใช่ค่ะ และฉันก็คิดว่าฉันคงรักเขามานานแล้วด้วย ฉันหลงรักเขาตั้งแต่ตอนที่เราถ่ายทำรายการ WGM ด้วยกัน และในช่วงเวลานั้นมันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าฉันเป็นคนตาบอดที่มองไม่เห็นใครเลยนอกจากเขาเท่านั้นเลยล่ะค่ะ” ฮวางโบระบายความรู้สึกที่มีต่อฮยนจุงให้ประธานลีฟังอย่างมีความสุข

“คุณแน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วใช่มั้ยครับ? งั้นก็ดูนี่ก่อน...” ประธานลีพูดกับเธอก่อนยื่นของบางอย่างให้เธอดู

“นี่มันอะไรค่ะ? โอ๊ะ!!...นี่มันสัญญาที่ฉันเซ็นไว้ตอนที่ฉันยอมรับข้อเสนอเรื่องการแต่งงานในตอนแรกนี่ค่ะ?” ฮวางโบถามเขาด้วยความแปลกใจ

“ใช่ครับ มันเป็นสัญญาที่คุณเซ็นเอาไว้ และผมก็อยากให้คุณดูตรงประโยคที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องการชดเชยค่าเสียหายให้ละเอียดอีกทีครับ” ประธานลีพูดกับเธอ

“โอ๊ะ!! ไม่นะ...มันไม่ได้เป็นแบบนี้นี่ค่ะตอนที่ฉันเซ็นชื่อลงไปในสัญญาตอนแรก”

“ถ้าคุณยอมรับมัน สัญญาฉบับนี้ก็จะมีผลทันทีครับ” ประธานลีพูดกับเธออย่างอ่อนโยน

“ท่านประธานค่ะ...คุณทำแบบนี้ทำไมกันค่ะ?” ฮวางโบถามเขาด้วยความซาบซึ้ง

“ถึงแม้ว่าผมจะเป็นท่านประธานของบริษัท DSP แต่ผมยังมีหน้าที่ต้องตอบคำถามต่างๆ ต่อบอร์ดผู้บริหารอยู่นะครับ และผมก็ยังต้องรับผิดชอบความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย เพราะฉะนั้นคุณอย่าทำให้ผมผิดหวังนะครับ” ประธานลีพูดยิ้มๆ ให้กับเธอ

และข้อความใหม่ในสัญญา....

“ถ้าดิฉัน ฮวางโบฮเยจุง เกิดตกหลุมรักกับ คิมฮยอนจุง หรือ ยกเลิกการแต่งงานก่อนกำหนดระยะเวลา 2 ปี ทางบริษัท DSP จะเป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับค่าชดเชยทั้งหมดจากดิฉัน

ข้อกำหนดที่ 1 : ฮวางโบฮเยจุงจะต้องเป็นศิลปินในสังกัดของบริษัท DSP โดยอัตโนมัติเป็นเวลาอีก 5 ปี หลังจากผิดสัญญา”

“เอ่อ..แต่นี่มันมากเกินไปที่ฉันจะรับนะค่ะ...” ฮวางโบพูดอย่างเกรงใจ

“มันไม่ยุ่งยากเกินไปหรอกครับ? ฮ่าฮ่า...ผมเองก็คิดมากเรื่องนี้อยู่เหมือนกันนะครับ แต่...ผมก็ไม่คิดจะลงโทษอะไรกับคุณอย่างจริงจังนักหรอก เพราะสำหรับผมแล้วพวกเด็กๆ ในวง SS501 ก็เปรียบเสมือนลูกชายของผมเหมือนกัน เพราะฉะนั้นก็เท่ากับว่าคุณ...ก็เป็นลูกสะใภ้ของผมด้วย และอีกไม่นานคุณก็จะมีหลานชายน่ารักๆ มาให้ผมอุ้มด้วย...ฮ่าฮ่า...ผมไม่เคยตัดสินใจอะไรผิดพลาดนะครับ และอีกอย่างคุณเองก็เป็นนักร้องที่มีพรสวรรค์คนนึง ผมแน่ใจครับว่าคุณจะสามารถทำรายได้ให้กับทางบริษัท DSP ของเราได้เป็นอย่างดี และรายได้ที่เราจะได้รับจากคุณสุดท้ายมันก็จะกลายมาเป็นค่าชดเชยที่ระบุไว้ในสัญญานั้นไงครับ” ประธานพูดกับเธออย่างอ่อนโยนและจริงใจ

“ฮ่าๆๆ....ที่คุณพูดมาทั้งหมดสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องเงินอีกแล้วนะค่ะ....ท่านประธานลี” ฮวางโบพูดไปหัวเราะไปอย่างโล่งอก

นั่นคือตอนจบของเรื่องราวที่ย้อนกลับไปในวันนั้น

------------------------------------------------------------------------

ฮวางโบเดินทางไปถึงสถานที่ที่นัดพบกับนักสืบคนนั้นเรียบร้อยแล้ว

“คุณฮวางโบครับ นี่คือข้อมูลทั้งหมดที่คุณต้องการให้ผมเช็คดูเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงที่ชื่อยองบินคนนั้นนะครับ ผมลองสืบดูแล้ว...เด็กผู้หญิบคนนี้เธอเคยถูกตรวจพบว่ามีอาการซึมเซาจากการสะเทือนใจอย่างรุนแรงเมื่อ 4 ปีก่อน และก็ต้องเข้าๆ ออกๆ ที่โรงพยาบาจิตเวชอยู่นานหลายปี และเมื่อประมาณต้นปีนี่เองเธอก็ยอมรับเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนั้นอย่างจริงจัง เธออยู่ที่นั่นเป็นเวลาประมาณครึ่งปี....กว่าที่จะได้รับอนุญาตให้ออกมาใช้ชีวิตอย่างคนปกติเมื่อเดือนมิถุนายนนี่เองครับ....” นักสืบคนนั้นได่เล่ารายละเอียดให้ฮวางโบฟัง

แต่....ฮวางโบยกมือขึ้นห้ามเข้าพูดต่อซะก่อน

“ขอบคุณมากนะค่ะ แต่...ฉันไม่อยากรู้เรื่องนี้อีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ และที่ฉันมาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อจะมาจ่ายเงินค่าจ้างให้คุณตามที่เราได้ตกลงกันไว้ก็เท่านั้นเองค่ะ” ฮวางโบพูดกับนักสืบคนนั้น

“อ้าว...ทำไมล่ะครับ?” นักสืบคนนั้นถามเธอด้วยความสงสัย

“ก็ไม่มีเหตุผลอะไรพิเศษทั้งนั้นแหละค่ะ เพียงแต่ว่า...ฉันเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของฉันนะค่ะ” ฮวางโบพูดยิ้มๆ เมื่อนึกถึงใบหน้าของฮยอนจุงคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ

หลังจากนั้น...ฮวางโบก็เดินกลับไปที่ที่เธอจอดรถเอาไว้ซึ่งมันอยู่บริเวณชั้นใต้ดินนั่นเอง เธอเดินผ่านถังขยะใบหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ แถวนั้น และโยนซองเอกสารที่มีข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับยองบินที่นักสิบคนนั้นได้รวบรวมเอาไว้ให้ทิ้งลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเล ก่อนที่จะดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือของเธอ...

“โอ๊ะ...ไม่นะ ฉันกำลังจะไปที่สนามบินสายแล้ว ทำไงดี” เธอพูดกับตัวเองอย่างร้อนรนก่อนที่จะรีบเดินจ้ำอ้าวไปที่รถของตัวเอง

“พี่สาว...พี่น่าจะถามฉันนะค่ะ” เสียงของใครคนหนึ่งตะโกนมาจากข้างหลังเธอ...มันช่างแฝงไปด้วยความเยือกเย็นจนทำให้ฮวางโบถึงกับผวาเมื่อได้ยินเสียงนั้น และเมื่อเธอหันกลับไปดูตามเสียงนั้น...เธอก็พบว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอคือ...ยองบิน...นั่นเอง

“โอ๊ะ...นี่เธอ...ยองบิน” ฮวางโบอุทานออกมาด้วยความตกใจ

“ทำไมต้องเสียเงินเสียเวลาไปจ้างนักสืบให้วุ่นวายด้วยล่ะค่ะ แค่พี่มาถามฉันตรงๆ ฉันก็จะบอกพี่หมดทุกเรื่องเลยล่ะค่ะ” ยองบินยังคงพูดสุภาพกับเธอเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้...มันช่างแตกต่าง...เพราะน้ำเสียงที่ยองบินใช้พูดกับเธอมันช่างเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งจนทำให้ฮวางโบรู้สึกขนลุกอย่างช่วยไม่ได้

“นี่เธอเองหรือ...ที่เป็นคนคอยตามพี่ตลอดเวลานะ?” ฮวางโบถามปากคอสั่นด้วยความโกรธและความหวาดระแวง

“ใช่ค่ะ และทุกครั้งที่ฉันเห็นหน้าพี่ ฉันแทบอยากจะให้พี่หายไปจากโลกใบนี้ซะไม่ว่าจะใช้วิธีอะไรก็ตาม” ยองบินพูดอย่างเยือกเย็นและเกลียดชังเพิ่มขึ้นไปอีก

“งั้นก็แสดงว่าเธอเป็นคนอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดขึ้นกับฉันทั้งหมดเลยซินะ! แต่...ทำไมเธอถึงต้องฆ่าภรรยาของบอมซันด้วยล่ะ? เขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลยนะ...” ฮวางโบพูดอย่างโกรธๆ เมื่อรู้ความจริงทั้งหมด

“ฉันแค่ตั้งใจจะเตือนยัยนั่นเท่านั้นเอง ไม่นึกเลย...ว่ามันจะอ่อนแอถึงกับตายไปแบบนั้น แต่มันก็สมควรแล้วนี่ มันอยากปากมากทำไมกันล่ะ” ตอนนี้ยองบินเริ่มพูดอย่างคนเสียสติเขาไปทุกที และเริ่มดูน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ ไม่เหมือนกับยองบินที่ฮวางโบเคยเห็นและรู้จักก่อนหน้านี้เลยด้วยซ้ำ

“นี่เธอพูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง!!! เธอเป็นบ้าไปแล้วหรือฮ้าห์!!~” ฮวางโบตะโกนออกมาด้วยความโกรธ และแทบไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองด้วยซ้ำที่ได้ยินอะไรแบบนี้ออกมาจากปากของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอเคยคิดว่าเป็นเด็กน่ารักและจิตใจดี...

“ช่ายยยย~ ฉันเป็นบ้าไปแล้ว!!! และที่ฉันต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะพี่ฮยอนจุงนั่นแหละ ตอนที่ฉันได้ยินว่าพวกพี่สองคนจะแต่งงานกัน ฉันก็เริ่มกินยาเป็นประจำไม่เคยขาด...ทุกวัน....ทุกๆ วันตอนที่ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลบ้านั่น ฉันพยายามทำตัวดีๆ..และดีที่สุดจนฉันสามารถออกจากที่นั่นมาได้ และทันทีที่ฉันออกมา...ฉันก็ค่อยๆ วางแผนการณ์ทั้งหมดทีละนิดๆ จนในที่สุดฉันก็ลงมือทำมันจริงๆ...” ยองบินเล่าแผนการณ์ทั้งหมดที่เธอวางแผนไว้อย่างเยือกเย็นราวกับคนเสียสติให้ฮวางโบฟังอย่างไม่สะทกสะท้าน

“เธอ..เธอนี่มัน...น่ากลัวจริงๆ!!” ฮวางโบพูดอย่างขนลุกเมื่อฟังแผนการณ์ทั้งหมดของยองบินจบ

“ยังไง...พี่ก็ฉลาดมากนะค่ะ แต่...ถึงพี่จะรู้มันก็สายไปแล้วล่ะค่ะ อ้อ...และฉันจะบอกพี่ให้รู้อีกอย่างว่า...ไอ้เรื่องรถเข็นในซุปเปอร์มาร์เก็ตนั่นนะ ฉันตั้งใจจะให้มันชนพี่ให้ตายเลยนะค่ะ!! แต่...พี่ก็โชคดีทุกครั้งที่รอดพ้นความตายมาได้! แต่..คงไม่ใช่วันนี้หรอกค่ะ ฉันอยากให้พี่ตายๆ ไปซะ ให้พ้นจากชีวิตพี่ฮยอนจุง จากชีวิตของฉัน และก็เพื่ออีนมินที่ยอมเสียสละกลับไปอยู่ที่โรงพยาบาลบ้านั่นเพื่อฉันอีกครั้งด้วย!!” ยองบินพูดออกมาอยางคนเสียสติไปแล้วจริงๆ

“ยองบิน...นี่เธอจะทำอะไรนะ?” ฮวางโบพูดออกมาด้วยความกลัวและหวาดระแวง

ยองบินไม่ตอบ แต่เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อและหยิบเข็มฉีดยาเล็มหนึ่งขึ้นมาแทน....

“พี่กลัวหรือค่ะ? แต่อย่าห่วงไปเลย เพราะคนพวกนั้นมักฉีดของพวกนี้ให้กับฉันอยู่บ่อยๆ ตอนที่ฉันอยู่โรงพยาบาลนั่นนะค่ะ พวกเขามักจะพูดเสมอๆ ว่ามันจะทำให้ฉันใจเย็นลงได้ถ้าฉันได้รับมัน แต่ฉันก็ไม่แน่ใจหรอกนะค่ะว่าถ้ายาระงับประสาทพวกนี้เข้าไปอยู่ในตัวพี่ มันจะเกิดอะไรขึ้น?” ยองบินพูดพร้อมกับแสยะยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว

“ไม่นะ...เธอจะทำอะไร...ออกไปให้พ้นนะ!!!” ฮวางโบพูดด้วยความกลัว ขณะที่พยายามก้าวถอยหลังหนียองบิน

“เฮ้!!!! นั่นคุณจะทำอะไรนะ!!!” นักสืบคนนั้นที่ตามฮวางโบมาตะโกนถามยองบิน

ยองบินได้แต่มองหน้าฮวางโบอีกครั้งก่อนจะวิ่งหนีไป และสายตาของยองบินมันก็เต็มไปด้วยความเครียดแค้นชิงชัง และถ้าหากว่าสายตาคู่นั้นของยองบินมันสามารถฆ่าคนได้จริงๆ ปานนี้ฮวางโบคงจะตายไปแล้วแน่ๆ

“เอ่อ...คุณโอเคนะครับ?” นักสืบคนนั้นรีบวิ่งมาถามฮวางโบด้วยความเป็นห่วง

“ฉัน...ฉันไม่เป็นไรค่ะ แล้วคุณทำไมถึง....” ฮวางโบพยายามถามนักสืบคนนั้นด้วยความสงสัย

“ก็ผมรู้เรื่องเด็กผู้หญิงคนนั้นมากเกินไปนะซิครับ เลยมีบางอย่างทำให้ผมเป็นกังวล และตัดสินใจตามหลังคุณมาเพื่อจะมาเตือนคุณ และผมว่าตอนนี้เราควรจะไปแจ้งความกับตำรวจไว้ดีกว่านะครับ” นักสืบคนนั้นพูดกับเธอ

“เอ่อ...คุณช่วยโทรแจ้งความกับตำรวจแทนฉันทีนะค่ะ เพราะตอนนี้ฉันต้องรีบไปทีสนามบินแล้วจริงๆ ขอตัวนะค่ะ” ฮวางโบพูดกับนักสืบคนนั้น ก่อนจะสตาร์รถและขับรถมุ่งหน้าไปยังสนามบินอย่างรวดเร็ว

‘ฮยอนจุง...ได้โปรดรอฉันหน่อยนะ ฉันกำลังจะไปหาเธอแล้ว’ ฮวางโบพูดกับตัวเองขณะที่ขับรถมุ่งหน้าไปยังสนามบิน

------------------------------------------------------------------------

ภายในรถตู้ของบริษัท DSP ที่หนุ่มๆ นั่งไปสนามบิน

“ทำไมฮะพี่? ยังหัวเสียเรื่องที่พี่สะใภ้ไม่ยอมไปญี่ปุ่นกับพี่อยู่หรือฮะ?” จองมินถามพี่ชายของเขาที่กำลังนั่งหน้างอไม่พูดไม่จากับใครอย่างเซ็งๆ

“ไม่...ไม่ใช่ยังงั้นซะหน่อย” ฮยอนจุงรีบตอบปฏิเสธทันที

“แล้วนี่พี่สะใภ้ก็จะไม่มาส่งพี่สนามบินด้วยเหมือนกันใช่ไหมฮะ?” จองมินยังจุ้นจ้านถามเขาไม่เลิก

“ใครบอกนาย...เธอบอกฉันว่าเธอจะมาส่งฉันโว๊ย!! เพราะฉะนั้นนายหุบปากไปได้แล้วถ้ายังไม่อยากเจ็บตัว” ฮยอนจุงพูดอย่างหัวเสียหลังจากถูกจองมินจอมจุ้นจ้านถามไม่ยอมหยุด

“นี่พวกนายรอฉันอยู่ที่นี่นะ เดี๋ยวฉันจะไปเช็คอินเรื่องตั๋วเครื่องบินก่อน” พี่ผู้จัดการของเขาพูดขัดขึ้นได้จังหวะห้ามศึกพอดิบพอดี

และเมื่อพวกเขาออกเดินออกจากรถตู้ ก็เห็นเหล่าบรรดาแฟนคลับมากมายมายืนรอส่งพวกเขาอยู่ที่พื้นที่ฝั่งขาออกอย่างล้นหลาม พวกหนุ่มๆ จึงยุ่งวุ่นวายอยู่กับการจับมือทักทายกับแฟนๆ และรับของขวัญมากมายจากบรรดาแฟนคลับเหล่านั้น จนดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะผ่านเข้าไปในประตูทางเข้าได้ แต่ในที่สุดพวกเขาก็สามารถผ่านมันเข้าไปเช็คอินอยู่ในพื้นที่ด้านในได้สำเร็จซึ่งมันเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยเพราะมีหน่วยรปภ.คอยคุมกันอย่างแน่นหนาอยู่นั่นเอง และก็ยังมีโซ่คอยกั้นกลางระหว่างพวกเขากับเหล่าบรรดาแฟนคลับเอาไว้อีกชั้นหนึ่งด้วย และทันใดนั่นเอง...พวกหนุ่มๆ ก็ได้ยินเสียงเหล่าบรรดาแฟนคลับต่างตะโกนร้องเรียกชื่อ ‘ฮวางโบ’ อยู่!

“พี่ฮะ...นั่นพี่สะใภ้นี่!!!” เบบี้ตะโกนออกมาด้วยความดีใจ

ขณะที่ฮวางโบถูกเชิญเข้าในพื้นที่ที่พวกเขาทั้งหมดรอขึ้นเครื่องอยู่ด้วยความช่วยหลือจากเจ้าหน้าที่ของทาง DSP และพนักงานรักษาความปลอดภัยของสนามบินนั่นเอง

“ฮเยจุง!! สุดท้ายคุณก็มาที่นี่จริงๆ!!” ฮยอนจุงพูดกับเธอด้วยความดีใจ

“ฮยอนจุง....ยองบิน...เธอเป็นบ้าไปแล้ว...เธอต้องการจะฆ่าฉันจริงๆ นะ ฮยอนจุง” ฮวางโบพูดกับฮยอนจุงอย่างหวาดผวาทันทีที่เจอหน้าเขา

“น้องสะใภ้!!!~ เอ่อ..เมื่อกี้พี่พูดว่าอะไรนะฮะ?” ยองแซงถามเธอด้วยความตกใจ

“ฮยอนจุง...ตอนนี้เธอต้องเชื่อฉันนะ” ฮวางโบยังคงพูดอย่างหวาดผวาไม่หาย

“ฮเยจุง...นี่คือเรื่องที่ต้องการจะบอกผมงั้นหรือฮะ? นั่นคือข่าวดีที่คุณต้องการจะบอกผมงั้นหรือ? ผมอุตส่าห์รอคุณตั้งแต่เช้า แต่คุณกลับมาที่นี่แค่ต้องจะบอกผมเรื่องนี้อีกครั้งแค่นั้นเองหรือฮะ?” ฮยอนจุงถามเธออย่างผิดหวัง

และในตอนนั่นเอง...สิ่งกีดขวางอันหนึ่งที่กั้นระหว่างพวกเขากับแฟนคลับไว้จู่ๆ ก็ล้มลงและแฟนคลับบางคนก็วิ่งเข้ามาตรงพื้นที่ที่ฮยอนจุง ฮวางโบ และพวกน้องๆ ของเขายืนอยู่ พนักงานรักษาความปลอดภัยในสนามบินจึงพยายามใช้ร่างกายของตัวเองเป็นกำแพงเพื่อป้องกันความวุ่นวายที่กำลังจะเกิดขึ้น

“โอ๊ย!!~ นี่มันกำลังจะเอาไม่อยู่แล้ว พวกเราต้องรีบไปที่ประตูทางออกเพื่อไปขึ้นเครื่องให้เร็วที่สุดแล้ว” พี่ผู้จัดการของเขาพูดขึ้นหลังจากเห็นสถานการณ์กำลังเลวร้ายลง

แต่...ฮวางโบยังคงคว้าข้อมือของฮยอนจุงไว้แน่น...

“ฮเยจุงฮะ ผมต้องไปแล้ว เดี๋ยวผมจะโทรหาคุณทันทีเมื่อผมถึงญี่ปุ่นแล้วนะฮะ” ฮยอนจุงพูดกับเธออย่างอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์อย่างที่สุด

หลังจากนั้น...ฮยอนจุงก็ค่อยๆ แกะมือของฮวางโบที่กำลังคว้าข้อมือของเขาไว้แน่นออก และเดินตรงไปที่ประตูทางออก

“ฮยอนจุง.........” ฮวางโบพยายามเรียกเขาอีกครั้ง

“เฮ้!!!!~~ นี่คุณ หยุดนะ!!!” รปภ.ของสนามบินตะโกนขึ้นสุดเสียง

แต่ก่อนที่ฮวางโบจะสามารถหันกลับไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังถูกผลักจากด้านหลังขึ้นซะก่อนและมันเลยทำให้เธอเสียการทรงตัวและหมุนกลิ้งตกลงมาจากบันได้เลื่อนที่อยู่ข้างหลังเธอ แต่ในตอนนั้นบันได้เลื่อนตัวนั้นไม่ได้ถูกเปิดใช้งานเนื่องจากการเดินทางของ SS501 นั่นเอง และพนักงานของสนามบินหนึ่งในนั้นก็มีปฏิกิริยาที่รวดเร็วพอ เขารีบวิ่งขึ้นไปที่บันได้เลื่อนตัวนั้นและคว้าตัวของฮวางโบไว้ได้ทันตรงกลางบันได และพนักงานอีกคนที่เห็นเหตุการณ์เช่นกันก็แทบไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นฮวางโบถ้าเธอกลิ้งตกลงมาจนสุดทางนั้นซะก่อน....

ขณะที่...ฮยอนจุงและพวกน้องๆ ของเขา รวมถึงทีมงานทุกคนที่อยู่ด้านในต้องหยุดชะงักทันทีเพื่อดูความวุ่นวายที่เกิดขึ้นอยู่ที่ด้านนอกประตูทางออกนั้น

“โอ๊ะ...ไม่...นั่นพี่สะใภ้นี่ฮะ......” จองมินถึงกับปิดปากและพูดออกมาด้วยความตกใจ

“ฮเยจุง!!!!~” ฮยอนจุงเองก็ได้แต่เรียกชื่อเธอด้วยความตกใจเช่นกัน ขณะที่วิ่งออกไปหาเธอ

หลังจากนั้น...ฮวางโบก็ถูกเจ้าหน้าที่ของสนามบินอุ้มไปนั่งในพื้นที่ที่ปลอดภัยที่ใกล้ที่สุด ฮยอนจุงและพวกน้องๆ ของเขาทั้ง 4 คนก็วิ่งเข้ามาสมทบกับเธอ และฮยอนจุงก็ตรงเข้าไปหาเธอและกอดเธอเอาไว้แน่นด้วยความเป็นห่วง

“ฮยอนจุง....ท้อง...ท้องของฉัน...มัน...มันปวดจังเลย...” ฮวางโบพูดกับเขาขณะที่ยกมือขึ้นกุมท้องของตัวเอง

“อดทนหน่อยนะฮะ...ฮเยจุง...รถพยาบาลกำลังมาแล้ว” ฮยอนจุงพูดปลอบเธอในขณะที่เขาเองก็กำลังขวัญหายเช่นกัน

และแล้วพื้นที่ทั้งหมดโดยรอบสนามบินก็เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย แฟนคลับของพวกเขาต่างพากันร้องไห้และกรีดร้องแล้วความตกใจและเป็นห่วงฮวางโบ ส่วนพนักงานรักษาความปลอดภัยของสนามบินก็จัดการจับตัวยองบินเอาไว้ ขณะที่ยองบินเองก็พยายามต่อสู้ดิ้นร้นกับอาการโรคประสาทที่กำลังกำเริบและกำลังกรีดร้องไม่ยอมหยุด.....

“ปล่อยฉันนะ...ไอ้พวกบ้า...ปล่อยฉัน!!~ ฉันจะฆ่ามัน!! ฉันจะฆ่ามันให้ตาย มันจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับพี่ฮยอนจุงของฉัน!!!!~~” ยองบินร้องตะโกนสุดเสียงขณะที่พยายามดิ้นร้นขัดขืนพวกรปภ.ที่กำลังจับตัวเธอเอาไว้

“ยองบิน!!! เป็นเธอจริงๆ ด้วย!!~” ฮยอนจุงพูดออกด้วยความตกใจ เจ็บใจ และเสียใจสุดที่เขาไม่ยอมเชื่อฮวางโบตั้งแต่ทีแรก....

------------------------------------------------------------------------

โปรดติดตามตอนต่อไป (ตอนที่ 21)

ตัวอย่างบางช่วงบางตอน
“คุณหมอครับ...ภรรยาของผมเป็นยังไงบ้างครับ?”
“เธอปลอดภัยแล้วครับ...แต่...”
“อะไรนะฮะ...เมื่อกี้คุณหมอว่าอะไรนะฮะ...”
“แล้ว...เอ่อ...ผมมีเรื่องที่ต้องการบอกคุณเป็นการส่วนตัวด้วยครับ ไม่ทราบว่าคุณจะช่วยมาที่ห้องของผมหน่อยได้มั้ยครับ?
“พี่ฮะ...พี่เป็นอะไรรึเปล่า? ทำไมหน้าพี่ถึงได้น่ากลัวจัง พี่อย่าทำให้พวกเราตกใจซิฮะ”
“ฮยอนจุง!!~ มันเกิดอะไรขึ้นฮ้าห์?~~”




 

Create Date : 25 สิงหาคม 2553
1 comments
Last Update : 25 สิงหาคม 2553 8:37:35 น.
Counter : 565 Pageviews.

 

สงสารโบคะ

 

โดย: prongpawin IP: 183.89.48.48 27 สิงหาคม 2553 0:03:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.