Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
20 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
ตอนที่ 10 พาร์ท 1

***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย

ปล. เนื้อหาที่แปลอาจถูกปรับแต่งเพื่อความเหมาะสมและใส่อารมณ์ความรู้สึกของตัว ละครนั้นๆ ลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความบันเทิง หากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยด้วยนะค่ะ****



ความจริงแล้ว....เที่ยวบินของฮวางโบมีกำหนดการออกเดินทางช้ากว่าของพวกหนุ่มๆ SS501 ราวๆ 3 ชั่วโมง แต่...ถึงอย่างนั้นเธอยังมาที่สนามบินนั้นก่อนเวลาที่เธอตัวเองจะออกเดินทาง เพื่อมาแอบดูฮยอนจุงเดินทางไปญี่ปุ่นซะก่อน และที่เธอต้องทำแบบนี้เพราะเธอไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอเป็นห่วงและแคร์เขามากแค่ไหน.....

“ทำไมคุณถึงไม่ไปให้สามีของคุณเห็นหน้าซะหน่อยล่ะคะ? คุณมาที่นี่ก่อนเวลาออกเดินทาง...ก็เพื่อจะมาส่งสามีของคุณก่อนไม่ใช่หรือคะ?” ผู้ช่วยส่วนตัวของเธอ ที่ทางบริษัท DSP ส่งมาให้เพื่อช่วยดูแลตารางงานของเธอ และต้องเดินทางไปที่ฮ่องกงพร้อมกับเธอ...ถามเธอขึ้นมา เมื่อเห็นเธอกำลังยืนมองฮยอนจุงอยู่ตาไม่กระพริบ แต่ไม่ยอมเดินเข้าไปหาเขา...

“ไม่ล่ะ...ตรงนั้นมีแฟนคลับของเขาอยู่เต็มไปหมดเลย มันคงจะดูวุ่นวายน่าดูแน่ๆ ถ้าหากฉันไปปรากฏตัวอยู่ที่นั้นด้วย” ฮวางโบตอบผู้ช่วยของเธอเสียงเรียบๆ แต่ในใจเธอกลับถามตัวเองว่า < แล้วทำไมฉันต้องรู้สึกกังวลและเป็นห่วง ตอนที่ต้องมาส่งเขาแบบนี้นะ?>

เมื่อฮยอนจุงเดินทางมาถึงญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว ในใจเขาแทบอยากจะโทรหาเธอทันที แต่โชคไม่ดีเอาซะเลย...ที่บรรดาแฟนคลับของพวกเขาที่มารอต้อนรับพวกเขาอยู่ที่สนามบินเกิดคลุ่มคลั่งขึ้นมา เมื่อเห็นพวกเขาออกมาจากประตูทางออกของผู้โดยสาร จนเกิดจราจลและเกือบจะทำให้พวกเขาโดนลูกหลงจากน้ำมือของแฟนคลับของพวกเขาเองไปด้วย

แต่สุดท้ายพวกเขาก็พากันออกมาขึ้นรถบัสได้อย่างปลอดภัย หลังจากนั้น...ทันทีที่เขามีโอกาศฮยอนจุงก็รีบหยิบมือถือของเขาออกมาโทรหาฮวางโบทันทีด้วยความตื่นเต้น...แต่เธอกลับปิดมือถือและไดเวิร์ทเครื่องเป็นการฝากข้อความเสียงแทนซะนี่...และนั่นก็ทำให้รู้สึดผิดหวังขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกที่ไม่ได้พูดกับเธอ

“พี่ฮะ...พี่พอจะรู้ไหมวฮะว่าเมียของผมบินไปฮ่องกงไฟท์ไหนฮะ?” ฮยอนจุงถามผู้จัดการของเขาอย่างหงุดหงิด และเผลอหลุดปากเรียกเธอแบบนั้นออกมาโดยไม่รู้ตัว

“อ๋อ...เธอเหรอ...ฉันว่าตอนนี้เธอน่าจะถึงที่ฮ่องกงแล้วมากกว่านะ” ผู้จัดการของเขาตอบ และหลุดหัวเราะออกมา ก่อนที่จะกระเถิบเข้าไปใกล้ๆ เขาและกระซิบบางอย่างที่ข้างหูของเขา “ฉันว่ามันดูตลกๆ ยังไงไม่รู้นะ ตอนที่ฉันได้ยินนายเรียกคุณฮวางโบว่า ‘เมียของผม’ นะ ฮ่าๆๆๆ” หลังจากพูดจบ พี่ผู้จัดการของเขาก็หัวเราะออกมาอีกไม่ยอมหยุด

“เฮ้อ~ จริงๆ เลยนะพี่...ผมไม่เห็นว่ามันจะตลกตรงไหนเลย เพราะมันเป็นคำที่ใครๆ เขาก็ใช้เรียกภรรยาของตัวเองกันทั้งนั้น?” ฮยอนจุงพูดเสียงเข้มเพื่อพยายามจะกลบเกลื่อนความเขินอายของตัวเอง

และหลังจากนั้นเขาก็ลองพยายามโทรหาเธออีกครั้ง แต่เธอก็ยังไม่ยอมเปิดเครื่องและตั้งระบบเป็นการฝากข้อความเสียงเอาไว้อย่างเก่า เขาเลยทนรอต่อไม่ไหวจึงตัดสินใจฝากข้อความเสียงถึงเธอแทน.....

“เฮจุง...นี่ผมเองนะ...ฮยอนจุง....ผมมาถึงที่ญี่ปุ่นแล้วนะฮะ ถ้าคุณได้รับข้อความของผมแล้วช่วยโทรกลับหาผมด้วยนะฮะ แล้วก็ขอบคุณสำหรับน้ำหอมขวดนั้น ผมจะลองใช้มันคืนนี้เลยฮะ”

และทันทีที่พวกเขามาถึงที่ญี่ปุ่นตารางของพวกเขาทั้งหมดก็ได้ถูกที่กำหนดเอาไว้หมดแล้ว พวกเขาจึงต้องเดินทางตรงไปพบปะแฟนคลับของพวกเขาที่ญี่ปุ่นทันหลังจากที่ลงจากเครื่องแล้วนั่นเอง

แต่ทุกครั้งที่เขาพอมีโอกาส...เขาจะหยิบมือถือของเขาออกเช็คดูทุกครั้งเพื่อดูว่ามีสายของคนที่เขากำลังรอโทรมาบ้างรึเปล่า แต่ปรากฏว่าเธอก็ไม่เคยโทรกลับมาหาเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว

และเมื่อถึงคิวที่เขากับพวกน้องๆ ต้องเดินทางไปอัดรายการวิทยุตามตารางงานที่ถูกกำหนดไว้.....

“และเพลงที่พวกคุณได้ฟังจบไปแล้วนั้น... ก็เป็นเพลงจากวง SS501 และตอนนี้เราอยู่กับพวกเขาแล้ว เรามาสัมภาษณ์พวกเขากันดีกว่า....ว่าเมื่อไหร่แฟนคลับของพวกเขาในญี่ปุ่นจะได้ฟังเพลงในอัลบั้มใหม่ของพวกเขาซักที?” ดีเจเริ่มเปิดประเด็นถามพวกเขา

“คงไม่นานเกินรอหรอกครับ...เพราะตอนนี้เรากำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมงานขั้นสุดท้ายกันอยู่ แล้วพวกผมก็คิดว่าพวกคุณน่าจะได้ฟังเพลงในอัลบั้มใหม่ของพวกเราภายในปีนี้แน่นอนฮะ...ฮ่าๆๆๆ” จองมินพูดไปหัวเราะไปอย่างมีความสุข

“งั้นสรุปแฟนๆ ของพวกคุณคงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้กันอีกแล้วสินะครับ อ้อ...แล้วก็ผมรู้มาว่า คุณฮยอนจุง...แต่งงานมาได้ 2 เดือนแล้วใช่ไหมครับ...ชีวิตหลังแต่งงานของคุณเป็นยังไงบ้างครับ ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อย?” ดีเจยิงคำถามใส่ฮยอนจุงแบบไม่ให้ได้ตั้งตัวทันที

“ชีวิตหลังแต่งงานของผมหรือครับ? มันก็...ไม่ได้เลวร้ายอะไรนี่ครับ เพราะตอนนี้ผมไม่ต้องอยู่ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว และทุกๆ วันหลังจากที่ผมทำงานเสร็จ ผมก็รู้ว่ามีภรรยาของผมกำลังรอผมอยู่บ้าน เพราะฉะนั้นมันยิ่งทำให้ผมต้องตั้งใจทำงานให้มากขึ้นและดูแลตัวเองให้ดีเพื่อไม่ให้เธอเป็นห่วง...” ฮยอนจุงตอบคำถามของดีเจอย่างมีความสุข แล้วจู่ๆ ใบหน้าของเธอก็ลอยมาขึ้นอยู่ตรงหน้าเขา...มันยิ่งทำให้หัวใจของเขาพองโตมากขึ้นไปอีกและอดยิ้มกว้างออกมาไม่ได้

“ว้าว!~ ที่พี่เขาพูดอยู่ตอนนี้ก็แค่อยากจะอวดพวกเราให้พวกเราอิจฉาเขาเล่นๆ นะฮะ....ฮ่าๆๆๆ...” จองมินพูดไปหัวเราะไปและอดหมั่นไส้พี่ชายของตัวเองไม่ได้ เมื่อเห็นท่าทางที่กำลังเหม่อลอยเขา...และตอนนี้อาจจะลอยไปถึงฮ่องกงนู้นแล้วก็ได้...

หลังจากเสร็จงานต่างๆ ที่ต้องทำในวันนั้นแล้ว...คืนนั้นฮยอนจุงก็ยังพยายามติดต่อเธออีกครั้ง แต่เธอก็ยังไม่ยอมเปิดเครื่องหรือติดต่อเขากลับมาเลย....และนั่นยิ่งทำให้ฮยอนจุงถึงกับต้องเดินไปเดินมาอย่างกระสับกระส่ายอยู่ภายในห้องพักของโรงแรม

“ทำไมนายต้องทำตัวแบบนี้ด้วยนะ? นายหยุดเดินไปเดินมาซักทีได้ไหม ฉันเวียนหัวจะแย่อยู่แล้วนะ” ยองแซงบ่นเขาอย่างรำคาญใจ

“เฮ้อ!~ ช่างฉันเถอะน่า” ฮยอนจุงตะคอกยองแซงกับอย่างหัวเสีย

“ทำไมนายต้องอารมณ์เสียขนาดนั้นด้วย? นายก็แค่ลองพยายามโทรหาเธอดูใหม่อีกครั้งก็สิ้นเรื่อง” ยองแซงพูดออกมาอย่างเซ็งๆ และชักจะเริ่มหมดความอดทนกับฮยอนจุงแล้ว

“ฉัน....” ฮยอนจุงพยายามจะพูดตอบโต้ยองแซง แต่...ผู้จัดการของพวกเขามาเคาะประตูหน้าห้องขัดจังหวะพวกเขาเสียก่อน

“เอ่อ...ฉันแค่จะมาบอกนายว่าผู้ช่วยของคุณฮวางโบ...เธอโทรมาบอกฉันว่า...พวกเธอเดินทางถึงฮ่องกงเรียบร้อยแล้วอย่างปลอดภัย เพราะฉะนั้นนายเลิกเป็นห่วงเธอได้แล้วนะ” ผู้จัดการของเขาพูดขึ้นทันทีที่ฮยอนจุงเดินมาเปิดประตู

“เอ่อ...พี่ฮะ แล้วพี่คุยกับเธอ...เอ่อ...กับเมียผมบ้างรึเปล่าฮะ?” ฮยอนจุงอดไม่ได้ที่จะถามถึงเธอด้วยความเป็นห่วง

“ไม่นะ...ฉันไม่ได้คุยกับเธอหรอก แต่ตามที่ผู้ช่วยของเธอบอก...เห็นว่าเธอจะออกไปพบเพื่อนข้างนอกนะ” ผู้จัดการของเขาตอบ

<เอ้อ..ดีนี่...ดีจริงๆ เธอมีเวลาออกไปพบเพื่อนข้างนอก แต่กลับไม่มีเวลาโทรหาฉันที่เป็นสามีของเธอเลยซักครั้ง บ้าที่สุด..คุณมันบ้าที่สุด...ฮวางโบเฮจุง> เขาคิดขึ้นมาอย่างหงุดหงิดและน้อยใจเมื่อรู้เหตุผลที่แท้จริงที่เธอไม่ได้ติดต่อเขากลับ

และเพราะฮยอนจุงเองก็เป็นคนมีทิฐิมากเหมือนกัน เขาเลยตัดสินใจที่จะไม่โทรหาฮวางโบอีก แต่ 3 วันผ่านไป...เธอก็ยังไม่ยอมโทรกลับหาเขาอยู่ดี เขาจึงทำได้แค่เพียงหาข่าวคราวของเธอผ่านทางผู้จัดการของเขาเท่านั้น

ในขณะที่ทางฝั่งฮ่องกง...ฮวางโบก็เข้ารับการฝึกอบรมเรื่องการแต่งหน้าเป็นวันที่ 2 แล้ว และเธอก็ได้รับข้อความเสียงที่เขาส่งถึงเธอแล้วด้วย แต่เธอก็ตัดสินใจที่จะไม่โทรกลับหาเขา เพราะเธอคิดว่ามันไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องโทรกลับหาเขา <ถ้าฉันโทรกลับไป...มันก็หนีไม่พ้นที่จะต้องมีเรื่องให้เรากลับมาทะเลาะกันอีกอยู่ดี เพราะฉะนั้นฉันไม่โทรกลับไปหาเขาดีกว่า เพราะถ้าเราทะเลาะกันอีก..ก็คงมีแต่ฉันคนเดียวที่เป็นฝ่ายเจ็บปวดกับเรื่องพวกนี้> เธอคิดกลับตัวเองขณะที่มองหน้าจอมือถือที่มีข้อความของฮยอนจุอยู่ข้างในอย่างเศร้าๆ

และนอกจากการฝึกอบรมการแต่งหน้าแล้ว บริษัทเครื่องสำอางค์นี้ยังได้จัดกิจกรรมโปรโมทให้กับฮวางโบมากมาย และมันก็ยิ่งทำให้เธอเป็นที่รู้จักมากขึ้นในฐานะแบรนท์แอมบัสซิเดอร์คนใหม่ของเครื่องสำอางยี่ห้อนี้ แต่ความจริง...ก็ไม่จำเป็นต้องจัดกิจกรรมโปรโมทตัวเธอมากมายขนาดนี้ก็ได้...เพราะเธอเองจริงๆ ก็เป็นที่รู้จักของแฟนๆ ในระดับนึงอยู่แล้ว โดยเฉพาะ...หลังจากที่เธอเข้าร่วมรายการ WGM แฟนคลับของเธอก็ยิ่งมีเพิ่มมากขึ้นจนขยายไปในระดับเอเชีย และยิ่งตอนนี้ที่เธอแต่งงานกับฮยอนจุงแฟนคลับของเธอก็ยิ่งมีเพิ่มมากขึ้นเข้าไปอีก...แต่อย่างไรก็ตาม...ถึงแม้ว่าแฟนคลับของเธอจะรู้จักเธอมากขึ้นเพราะคิมฮยอนจุง แต่พวกเขาต่างก็ตกหลุกรักเธอ...ที่นิสัยและตัวตนที่แท้จริงของเธอมากกว่าที่จะรักเธอเพราะเธอเป็นภรรยาของนักร้องไอดอลชื่อดังอย่างฮยอนจุงซะอีก

ส่วนทางด้านฮยอนจุง...คืนนี้ก็เป็นคืนสุดท้ายที่พวกเขาจะต้องอยู่ที่ญี่ปุ่น หลังจากที่พวกเขาได้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ได้วางแผนไว้เสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว และก็ได้จัดกระเป๋าเดินทางของตัวเองเรียร้อยแล้วด้วย พวกเขาทั้งหมดก็พากันมานั่งคุยเล่นที่ห้องของฮยอนจุง

“นี่...พวกนายทุกคนมาทำอะไรกันที่นี่เนี่ย? ทำไมพวกนายต้องมาวุ่นวายที่ห้องของฉันกันด้วยนะ...พวกนายน่าจะเป็นอยู่ที่ห้องของพวกนายเองสิ?” ฮยอนจุงตะคอกเสียงดังใส่น้องๆ ของเขาอย่างหงุดหงิด

“ก็เพราะพวกเราเก็บของในห้องเรียบร้อยหมดแล้วนะสิฮะ พวกเราเลยไม่อยากทำให้มันรกอีก...พวกเราเลยรวมตัวกันมานั่งเล่นที่ห้องพี่แทนนี่ไงฮะ...ฮ่าๆๆๆ” จองมินพูดหน้าตาเฉยและไม่สนใจความโกรธที่กำลังครุกรุ่นของฮยอนจุงด้วย

“พี่ดูนี่ซิฮะ...พี่สะใภ้...ไปออกรายการทอล์กโชว์ทางทีวีของฮ่องกงด้วยนะฮะ” คยูจงพูดอย่างตื่นเต้นเมื่อรายการที่เธอไปออกผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์

เพราะความที่คยูจงและเบบี้เป็นคนชอบเล่นอินเทอร์เน็ต พวกเขาจึงมักอัพเดทข่าวสารต่างๆในวงการบันเทิงผ่านนี้อยู่บ่อยๆ และมันก็เป็นผลพลอยได้ที่ทำให้พวกเขาได้รับรู้ข่าวคราวต่างๆ ของฮวางโบที่ฮ่องกงด้วย

และเมื่อฮยอนจุงได้ดูรายการทอล์กโชว์ที่ฮวางโบไปออก....เขาก็ได้เห็นว่าเธอดูมีความสุขและสนุกมากแค่ไหนที่ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคู่ของเธอที่เข้าร่วมรายการด้วยกัน และคู่ของเธอก็ไม่ใช่ใครที่ไหน...เพราะเขาเป็นคนที่ใครๆ ต่างก็รู้จักเป็นอย่างดีในฐานะช่างแต่งหน้าที่ชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของฮ่องกง และดูเหมือนเขาจะสามารถทำให้เธอหัวเราะออกมาได้ตลอดเวลาอีกด้วย....

“เฮ้อ~!....จริงๆ เลยยยยน้า~....ทั้งที่พวกเขาก็คุยกันคนละภาษา แต่ทำไมเธอถึงได้ดูมีความสุขขนาดนี้นะ?” ฮยอนจุงพูดมาอย่างหงุดหงิดและกำลังหัวเสียเมื่อเห็นท่าทางของเธอว่ามีความสุขแค่ไหนที่ได้พูดคุยกับชายอื่นที่ไม่ใช่เขาแบบนี้ <ทำไมเธอถึงได้ดูมีความสุขนักนะเมื่ออยู่ในความสนใจของผู้ชายอื่นแบบนี้นะ? ทีกับฉันไม่เห็นเธอจะเคยเป็นแบบนี้บ้างเลย โอ้ย!~ ให้ตายซิ ฉันอยากจะไอ้หมอนั่นให้ตายซะจริงๆ> เขาคิดกับตัวเอง ในขณะที่ความโกรธกำลังแล่นเข้ามาในอยู่หัวของเขาเต็มไปหมด

“ฮ่าๆๆ...ฉันรู้สึกว่าจะมีคนขี้หึงอยู่แถวนี้นะ...” ยองแซงพูดขึ้น เมื่อเห็นท่าทางของฮยอนจุงที่กำลังโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง

“หึงหรือฮะ...หึงเรื่องอะไรกันฮะ? โอ๊ะ!~ อย่าบอกนะฮะว่าพี่หมายถึงเรื่องของพี่สะใภ้กับช่างแต่งหน้าคนนั้น? ฮ่าๆๆๆ...อย่าห่วงเลยฮะ ถึงพี่สะใภ้จะสวยแค่ไหน แต่เขาไม่มีวันตกหลุกรักเธอได้หรอกฮะ เพราะเท่าที่ผมรู้มา...ช่างแต่งหน้าคนนี้เขาเป็นเกย์นะฮะ....ฮ่าฮ่าๆๆ” จองมินพูดกับเขา แล้วก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกเพราะความหึงไม่เข้าท่าของฮยอนจุงนั่นเอง

“ใคร...ใครว่าฉันหึง? ฉันไม่ได้หึงซักหน่อย...พวกนายนะหยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว และก็ออกไปจากห้องของฉันซะที ฉันจะนอนแล้ว” ฮยอนจุงพูดติดๆ ขัดๆ ขึ้นมาทันทีเมื่อถูกพวกน้องๆ ของเขาจับได้ว่าเขากำลังหึงเธอ...เขาเลยพยายามเปลี่ยนเรื่องและไล่พวกน้องๆ ของเขาออกไปจากห้อง

----------------------------------------------------------------

โปรดติดตามตอนต่อไป (ตอนที่ 10 พาร์ท 2)

ตัวอย่างบางช่วงบางตอน
“นี่เป็นพัสดุที่ส่งมาถึงคุณเมื่อกลางวันนี้ค่ะ”
“มันคืออะไรหรือค่ะ? หรือว่ามันจะเป็นเอกสารอะไรซักอย่างที่ทางบริษัทส่งมาให้เรารึเปล่า?”
“เอ่อ...ฮัลโหล....นี่ผมเองนะฮะ...ฮยอนจุง”
“อืม...แล้วไง เธอมีอะไรกับฉันงั้นหรือ?”
“เอ่อ...แล้วมีโอกาส....ที่คุณจะได้กลับเกาหลีก่อนกำหนดบ้างไหมฮะ?”
“อ้อ...ฉันเข้าใจแล้วล่ะ...แต่ฉันคิดว่าฉันอาจจะต้องอยู่ที่นี่ต่อไปอีกซักพักนะ”
“เอ่อ...แล้วก็...ผมเห็นคุณไปออกรายการทอล์กโชว์กับช่างแต่งหน้าคนนั้นด้วยนะฮะ”
“ใช่...เธอพูดถูก..นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ฉันรู้สึกเสียดาย...แต่อีกเหตุผลหนึ่งที่ฉันรู้สึกเสียดายมากที่สุดคือ...”



Create Date : 20 กรกฎาคม 2553
Last Update : 20 กรกฎาคม 2553 20:58:07 น. 3 comments
Counter : 807 Pageviews.

 
คอมเม้นท์ของท่าน คือกำลังจัยของพวกเรา


โดย: ยาย(นาจา) (นักรักจัยโยเย ) วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:29:54 น.  

 
ขอบคุณคุณแป๋วก่อนเลยจ้า ขอบคุณยายนาจาด้วย....แฟนคลับไอดอลนี่น่ากลัวจริงๆนะนี่+แอนตี้แฟนด้วย เรื่องราวเริ่มเข้มข้นน่าติดตามมากขึ้น fighting...


โดย: มินมิน IP: 180.180.99.210 วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:39:01 น.  

 
ลักษณ์ ขอเข้ามาขอบคุณรวดเดียวเลยแล้วกันนะคะ สำหรับฟิคเรื่องใหม่ อ่านทีเดียว 10 ตอนเลย ขอบคุณ คุณแป๋ว ยาย(นาจา) มากค่ะ ที่แปลเรื่องนี้มาให้อ่าน พอจะรู้เรื่องคราวๆอยุ่บ้าง ตอนเป็นภาษาอังกฤษ เคยมีคนแนะนะให้อ่าน เรื่อง our fate I ไปอ่านที่พันธ์ทิพย์ เขาก็แนะนำให้อ่านอีกเรื่องอยู่ คือ I fell You เห็นบอกสนุกมากติดเรท หน่อย แต่เพราะมันเป็นภาษาอังกฤษ เลยไม่ค่อยเข้าใจมากนัก ไม่เก่งภาษานะ
เป็นกำลังใจให้เรื่องนี้อีกเรื่องนะคะ ตัวละครดูต่างจากเรื่องที่แปลมาให้อ่านในหลายเรื่อง ทั้ง 2 คนดูท่าจะเป็นคนมีทิฐิกันทั้งคู่ แต่ก็ทำให้เนื้อหาเข้มข้นดีค่ะ ลุ้นไปกับตัวละคร ว่าจะเป็นยังไงต่อไป เดาไม่ได้เลย......สู้ สู้ นะค่ะ


โดย: luck IP: 58.136.48.52 วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:31:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.