Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
29 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 

ตอนที่ 13 พาร์ท 2

***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย

ปล. เนื้อหาที่แปลอาจถูกปรับแต่งเพื่อความเหมาะสมและใส่อารมณ์ความรู้สึกของตัว ละครนั้นๆ ลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความบันเทิง หากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยด้วยนะค่ะ****


ภายในรถของยองแซง

“งั้น ตอนนี้น้องสะใภ้ก็ยกโทษฮยอนจุงมันได้แล้วใช่ไหมฮะ? เพราะผมรู้จักเขามา 6 ปี ผมมั่นใจฮะว่าเขาไม่ใช่คนเจ้าชู้แบบนั้นอย่างแน่นอน และสำหรับเรื่องยองบิน...มันก็ไม่มีทางเป็นได้อีกแล้วล่ะฮะ เพราะฉะนั้นน้องสะใภ้สบายใจได้” ยองแซงพูดกับเธออย่างสบายใจและเป็นกันเองมากขึ้น หลังจากที่เขาใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อช่วยให้เรื่องทุกอย่างมันคลี่คลาย และจบลงด้วยดีเรียบร้อยแล้ว

“ฮ่าๆๆ...เธอรู้จักเขาดีมากขนาดนั้นเลยหรือจ๊ะ?” ฮวางโบยิ้มขำและถามเขาอย่างเป็นกันเองมากขึ้นเช่นกัน

“ฮะ...เพราะ ผมคิดว่าผมใช้เวลาอยู่กับเขามากว่าถ้าเทียบกับพี่นะฮะ...ฮ่าๆๆ...” ยองแซงพูดติดตลกกับเธออย่างสบายใจ และเริ่มรู้สึกสนิทสนมกับเธอมากขึ้น

“ตอนนี้ฉันคิดว่าฮยอนจุงเขาถูกพูดเกี่ยวกับเรื่องของเธอนะ” ฮวางโบพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้เขา

“ทำไมฮะ...หมอนั่นมันพูดอะไรเกี่ยวกับผมหรือฮะ?” ยองแซงถามเธอด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“เขา บอกว่าเธอน่ะ แค่ชอบแกล้งทำตัวเย็นชาต่อหน้าคนอื่นไปอย่างนั้นเอง แต่ความจริงแล้วเธอน่ะเป็นคนที่คอยช่วยแก้ปัญหาให้กับคนอื่นๆ เสมอเลย” ฮวางโบพูดเขาอย่างอ่อนโยน

“ฮ่าๆๆ...น้องสะใภ้คนนี้น่าจะรู้จักนิสัย พวกเราทุกคนเป็นอย่างดีเลยนะเนี่ย แต่...พี่รู้อะไรไหมฮะว่าพวกเราทุกคนน่ะนับถือพี่กับฮยอนจุงมันมากเลยนะฮะ และผมก็คิดมาตลอดว่าเราน่าจะมีเวลาอยู่ได้ด้วยกันบ้าง...เหมือนกับที่พวก ครอบครัวใหญ่ๆ ครอบครัวอื่นๆ เขาทำกันนะฮะ ว่าแต่...ตอนนี้พี่ต้องไปทำธุระที่ไหนต่อรึเปล่าฮะ? เพราะอยากชวนพี่ไปเที่ยวเล่นที่บ้านพักของพวกเราด้วยกัน” ยองแซงพูดแหย่เธอเล่นในทีแรก ก่อนจะกลับเขามาพูดและถามเธออย่างจริงใจอีกครั้งในตอนท้าย

“แล้วเธอกับพวกน้องๆ ที่เหลือจะทำอะไรบ้างล่ะจ๊ะคืนนี้” เธอถามเขากลับเช่นกัน

“หา...เอ่อ ...ก็ไม่มีอะไรหรอกฮะ แต่เมื่อเช้านี้ก่อนที่ผมจะออกมาผมยังเห็นเจ้าพวกนั้นมันยังหลับกันอยู่เลย ผมก็เลยไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพวกเราแต่ละคนมีอะไรจะต้องทำกันรึเปล่า...” ยองแซงพูดกับเธอ

“อืมมม...เข้าใจแล้วจ๊ะ งั้นพี่จะกลับไปที่นั่นกับพร้อมกับเธอและไปเยี่ยมพวกเขาดูซะหน่อย เธอว่าดีไหมจ๊ะ แต่ว่า...ก่อนอื่นเธอช่วยพาพี่ไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตก่อนได้ไหมจ๊ะ เราจะได้ไปหาซื้อของมาทำอาหารเย็นกินกันคืนนี้” ฮวางโบพูดพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างสดใส

----------------------------------------------------

ที่บ้านพักของ SS501

“เฮ้อ~ เห็นไหมฮะ ปานนี้แล้วเจ้าพวกนั้นมันยังหลับกันอยู่เลย ผมน่าจะไปปลุกพวกเขาให้ตื่นดีกว่า” ยองแซงพูดอย่างปลง หลังจากที่ช่วยเธอขนของที่ใช้สำหรับทำอาหารเย็นเข้ามาในบ้านเรียบร้อย

“ไม่ ต้องหรอกจ๊ะ ปล่อยให้พวกเขานอนต่อเถอะ เดี๋ยวเอาไว้เราค่อยไปปลุกพวกเขาหลังจากที่ฉันเตรียมอาหารเย็นเสร็จแล้วดี กว่า” ฮวางโบรีบห้ามยองแซงไว้ เพราะเธอไม่อยากไปรบกวนเวลาพักผ่อนอันน้อยนิดของพวกเขา

แต่หลังจาก นั้นซักพัก...ฮยอนจุงก็ตื่นขึ้นมาพอดีและเดินโซซัดโซเซไปที่ห้องครัวเพื่อหา น้ำดื่ม แต่เมื่อเขาไปถึงที่นั่น...เขากลับเห็นเหมือนกับว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งกำลัง ยืนทำอาหารอยู่ในครัวของพวกเขา <นี่ฉันตาฝาดอยู่ไปรึเปล่าเนี่ย หรือว่าฉันกำลังละเมออยู่กันแน่> ฮยอนจุงคิดกับตัวเองก่อนที่จะขยี้ตาของตัวเองแรงๆ อีกครั้งแล้วมองกลับเข้าไปในครัวใหม่เพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาเห็นว่ามันเป็น ความจริงหรือมันเป็นแค่ภาพลวงที่เกิดจากผลของการที่เขาเพิ่งตื่นนอนกันแน่

“เฮ จุง!?” เขาอุทานเรียกชื่อออกมาทันทีด้วยความดีใจ หลังจากที่แน่ใจว่าภาพที่เขาเห็นเป็นความจริง และผู้หญิงที่ยืนทำอาหารอยู่ในครัวก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นภรรยายของเขาเอง

“อ้าว...เธอตื่นแล้วหรือ?” ฮวางโบหันไปพูดกับเขา พร้อมส่งรอยยิ้มบางๆ ที่แสนจะอบอุ่นไปให้กับเขาด้วย

“เอ่อ...นี่คุณมาทำอะไรที่นี่ฮะ?” เขาถามเธออย่างลุกลี้ลุกล้น และยังไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะได้พบเธอที่นี่จริงๆ

“แล้ว เธอไม่เห็นหรือไงล่ะว่าฉันทำอะไรอยู่? ฉันก็มาทำอาหารให้พวกเธอกินนะสิ” ฮวางโบตอบเขาอย่างกวนๆ และกำลังมีความสุขที่ได้เห็นท่าทางลุกลี้ลุกล้นของเขาที่ดูเหมือนจะกำลัง ตกใจที่ได้เห็นเธอมายืนอยู่ที่นี่

“ฮ่าๆๆ...ฉันเป็นคนพาพี่เขามาเอง แหละ และตอนนี้ฉันก็คิดว่ามันถึงเวลาที่ฉันจะได้กลับไปนอนในห้องของตัวเองซะที อ้อ...แล้วนายก็อย่าลืมไปปลุกฉันด้วยล่ะ ถ้าพี่เขาทำอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อย” ยองแซงพูดแทรกขึ้นมา และก่อนที่เขาจะเดินจากไปเขาก็กระซิบบางอย่างที่ข้างหูของฮยอนจุง “นายต้องตอบแทนฉันด้วยล่ะ ที่ฉันช่วยให้นายได้คืนดีกับพี่เขาง่ายขึ้นแบบนี้ เข้าใจไหมฮยอนจุง” หลังจากนั้นยองแซงก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาและเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองโดยไม่ สนใจท่าทีฟึดฟัดของฮยอนจุงเลยซักนิด

ในขณะที่ฮยอนจุงได้แต่มองตาม หลังยองแซงไปอย่างหงุดหงิด ก่อนที่จะหันหน้ากลับมาหาเธออย่างกล้าวๆ กลัวๆ ว่า “เอ่อ...คุณมีอะไรให้ผมช่วยไหมฮะ?”

“ไม่เป็นไร...เธอออกไปรอ ข้างเถอะ” ฮวางโบแกล้งพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาใส่เขาอีกครั้ง ในขณะที่กำลังง่วนอยู่กลับการเตรียมอาหารอยู่ในครัว และเมื่อฮยอนจุงเห็นแบบนั้น เขาก็ถึงกลับหน้าถอดสีขึ้นมาทันที จนอดใจไม่ไหวต้องเอ่ยปากถามเธอออกไปว่า…

“เฮจุงฮะ...คือผม...เอ่อ... ผมอยากจะถามคุณว่าคุณจะยอมยกโทษให้ผมได้รึยังฮะ” ฮยอนจุงถามเธอเสียงเครียด และเริ่มรู้สึกกังวลกับคำตอบที่กำลังจะได้รับ

“ฮ่าๆๆ ฉันยกโทษให้เธอตั้งนานแล้วจ๊ะ...ตั้งแต่...ตอนที่เราถ่ายโฆษณาด้วยกันแล้วล่ะมั่ง” ฮวางโบหัวเราะออกมาก่อนจะตอบคำถามของเขา

“จริงๆ นะฮะ นี่คุณไม่ได้โกหกให้ผมดีใจเล่นอยู่ใช่ไหมฮะ? แต่...ผมสาบานจริงๆ นะฮะว่าผมไม่เคยทำอะไรที่เป็นการนอกใจคุณเลยซักครั้ง” เขาพูดออกมาอย่างดีใจ และกำลังมีความสุขที่สุดในโลกเมื่อรู้ว่าเธอให้อภัยเขาแล้ว

“ฮึๆๆ เธอไม่ต้องสาบานหรอก เพราะถ้าหากตอนนี้เราสองคนเกิดอยากฝ่าฝืนสัญญาการแต่งงานนั่นขึ้นมาจริงๆ เธอจะมาเสียใจที่หลังเอานะ เพราะฉะนั้นฉันคิดว่าเธออย่าสาบานอะไรแบบนั้นเลยจะดีกว่านะ” ฮวางโบแกล้งพูดแหย่เขาเล่นอย่างสนุกปาก

“คุณพูดอะไรนะฮะ? นี่คุณเห็นผมเป็นผู้ชายแบบไหนกันเนี่ย คุณคิดว่าเป็นผู้ชายเจ้าชู้ที่ทำตัวกระล่อนไปเรื่อยถ้าไม่มีสัญญาการแต่งงาน มาผูดมัดเอาไว้งั้นหรือฮะ?” เขาถามเธออย่างหงุดหงิดและเริ่มน้อยใจที่เธอคิดกับเขาแบบนั้น

ฮวางโบ แกล้งพยักหน้ารับแทนการตอบคำถาม แต่สุดท้ายก็หลุดหัวเราะออกมาจนได้เมื่อท่าทางที่ดูกระวนกระวายและหงุดหงิด ของเขาเมื่อรู้คำตอบของเธอ และนั่น...ก็ทำให้เขารู้ว่าที่เธอพูดมาทั้งหมด มันเป็นแค่เรื่องที่เธอแกล้งแหย่เขาเล่นเท่านั้น เขาเลยหัวเราะออกมาพร้อมกับเธอด้วย ก่อนที่จะจ้องมองใบหน้าเธอสวยๆ ของเธอที่กำลังหัวเราะอยู่อย่างมีความสุข

และทันทีที่อาหารเย็นพร้อม ฮยอนจุงก็ทำหน้าที่ไปปลุกน้องๆ ของเขาให้ตื่น และเมื่อทุกคนตื่นกันหมดแล้วและเดินออกมาจากห้องตัวเอง ทุกคนก็ถึงกับตะลึงและดีใจจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อได้เห็นพี่สะใภ้ของพวกเขากลับ มาเป็นคนเดิมที่ยิ้มแย้มแจ่มใส่และหัวเราะได้ตลอดเวลา และแถมยังเตรียมอาหารเย็นแสนอร่อยไว้ให้กับพวกเขาอีกด้วย

หลังจาก นั้นเมื่อพวกเขาทุกคนทานมื้อค่ำด้วยกันเสร็จ...จองมินผู้พ่ายแพ้จากเกมส์ เป่ายิงฉุบ ก็เลยต้องถูกลงโทษด้วยการให้ไปล้างจานอยู่คนเดียว

“จริงๆ นะฮะ...พี่สะใภ้เนี่ยเหมือนนางฟ้านำโชคประจำตัวของผมเลย ผมไม่เคยชนะเกมส์เป่ายิงฉุบนี้ได้เลยซักครั้ง แต่นี่ถือเป็นครั้งที่สองแล้วนะฮะพี่ผมชนะเพราะมีพี่สะใภ้อยู่กับด้วย” เบบีพูดอ้อนเอาอกเอาใจเธอสารพัดเหมือนเด็กๆ

“นี่ถือเป็นครั้งที่สองหรือจ๊ะ?” ฮวางโบถามขึ้นอย่างงงๆ

“ก็ครั้งแรก...ก็ตอนที่คุณไปเยี่ยมผมที่ญี่ปุ่นตอนเราถ่ายรายการ WGM ด้วยกันไงฮะ คุณจำไม่ได้หรือ” ฮยอนจุงพูดกับเธอ

“อ๋อ~ ใช่แล้ว...ฉันจำได้แล้วล่ะ” ฮวางโบพูดขึ้นอย่างดีใจเมื่อนึกถึงเรื่องนั้นขึ้นมาได้

“เอ่อ...พี่ สะใภ้ฮะ นี่...อัลบั้มใหม่ของพวกเราฮะ มันเพิ่งจะออกวางขายเมื่อไม่นานนี้เอง และนี่...สำหรับพี่ฮะ” คยูจงพูดพร้อมกับซีดีอัลบั้มใหม่ของพวกเขาให้กับฮวางโบ

“ไอ้เด็กบ้า คนนี้...นี่นายคิดว่านายกำลังทำอะไรอยู่ฮ้าห์~ นายคิดได้ไงว่าพี่สะใภ้ของนายยังไม่มีอัลบั้มใหม่ของพวกเรานะ?” เขาตะคอกคยูจงอย่างหัวเสียเมื่อเห็นว่าคยูจงพยายามจะเอาหน้ากับเธอด้วยการ ให้อัลบั้มใหม่ของพวกเขา

“นี่...ทำไมเธอต้องไปตะคอกคยูเขาด้วยล่ะ” ฮวางโบรีบพูดห้ามเขาทันทีหลังจากที่เห็นว่าเขากำลังทำให้บรรยากาศเสีย

“คยู จ๊ะ ความจริงแล้วพี่มีอัลบั้มนี้ 2 แผ่นแล้วนะ แผ่นแรกพี่แอบซื้อเก็บเองตั้งแต่มันวางแผงแรกๆ เลยล่ะ ส่วนแผ่นที่สอง...ฮยอนจุงเขาก็เป็นคนให้พี่ แต่ไม่เป็นไรนะจ๊ะ เพราะพี่เต็มใจจะรับซีดีแผ่นที่สามนี้จากเธอด้วยเช่นกัน” ฮวางโบพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้กับคยูจง โดยไม่รู้ตัวเลยว่าการที่เธอทำแบบนั้น มันทำให้ฮยอนจุงรู้สึกหงุดหงิดและหึงจบแทบอยากจะคว้าซีดีแผ่นมาปาทิ้งให้มัน รู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่โชคดี...ที่จองมินพูดขัดจังหวะขึ้นมาซะก่อน

“งั้น พวกเรามาโชว์ท่าเต้นใหม่ของพวกเราให้พี่สะใภ้ดูกันเถอะนะ?” จองมินพูดขึ้น เพื่อพยายามเบี่ยงเบนความสนใจ และให้ทุกคนลืมเรื่องบทลงโทษล้างจานของเขาซะ

“ไม่ดีหรอก...เพราะนายต้องไปล้างจานให้เสร็จก่อนไม่ใช่หรือไง?” เบบี้พูดขึ้นอย่างรู้ทันเช่นกัน

“นี่นาย...นายหุบปากไปเลยนะ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” จองมินพูดอย่างโกรธๆ เมื่อรู้ว่ามีคนรู้ทันแผนการณ์ของเขาซะแล้ว

“จอง มิน...เธอหมายถึงว่าพวกเธอทั้งหมดจะเต้นให้พี่ดูที่นี่งั้นหรือจ๊ะ? งั้นก็ตกลง เพราะพี่ชักจะอยากดูขึ้นมาแล้วสิ” ฮวางโบรีบพูดขัดขึ้นมาทันที หลังจากที่เห็นว่าถ้าขืนไปปล่อยไว้นานกว่านี้ทอมกับเจอรี่คู่นี้ต้องฆ่ากัน ตายแน่ๆ

เมื่อทุกคนได้ยินฮวางโบพูดอย่างนั้น พวกเขาทั้งหมดก็เลยจัดการย้ายโต๊ะรับแขกกลางห้องนั่งเล่นออกไปเพื่อให้ พื้นที่มันโล่งพอที่พวกเขาจะเต้นได้ หลังจากคยูจงก็เดินไปเปิดเพลงในอัลบั้มใหม่ของพวกเขาและจัดการแสดงมินิคอนเส ริต์ให้กับพี่ชายและพี่สะใภ้ของพวกเขาได้ดูเป็นการส่วนตัว

“โอ๊ะ...ไม่...นั่น...ท่านั้นมัน...” ฮวางโบพูดอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นท่าเต้นในเพลงใหม่ของพวกเขา

“ใช่ฮะ...มันเป็นท่าเต้นจากความคิดของคุณ ผมตัดสินใจจะใช้ท่าเต้นนั้นตามที่คุณแนะนำไงฮะ” ฮยอนจุงบอกกับเธออย่างภูมิใจ

“ฮ่าๆๆ แล้วทำไมไม่เห็นมีชื่อฉันเป็นคนออกแบบท่าเต้นรวมอยู่ในอัลบั้มใหม่ของพวกเธอ เลยล่ะ?” ฮวางโบพูดติดตลกอย่างมีความสุขกับบรรยากาศดีๆ ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตอนนี้

“งั้นผมจะส่งอัลบั้มนี้กลับไปให้คุณใหม่ ทีหลังแล้วกันนะฮะ เพราะผมจะเอากลับไปแก้และสั่งให้คนทำพิมพ์ชื่อคุณเพิ่มลงไปในนี้ซะก่อนดีไหม ฮะ” เขาพูดกับเธออย่างเอาอกเอาใจ ก่อนที่จะนั่งพูดคุยเล่นกันเรื่องอื่นๆ ต่อไป...

และแล้วเวลาแห่งความสุขก็ช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว และตอนนี้ก็ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว และถึงเวลาที่ฮวางโบต้องกลับบ้านแล้วด้วย

“พวก นายแล้วพบกันพรุ่งนี้ที่สถานีเลยนะ เพราะคืนนี้ฉันกลับบ้านพร้อมกับพี่สะใภ้ของพวกนาย” เขาพูดกับน้องๆ เขา ก่อนที่จะหันกลับไปมองหน้าของฮวางโบ และถามเธอว่า....

“เอ่อ..แล้วคุณอยากจะกลับบ้านพร้อมกับผมไหมฮะ?” ฮยอนจุงถามเธอ และกำลังรอลุ้นคำตอบของเธออย่างตื่นเต้น

“...................” ฮวางโบไม่ตอบ แต่กลับพยักหน้ารับอย่างอายๆ

----------------------------------------------------

ภายในรถของฮยนอจุง

“ฮยอนจุง...วันนี้ยองแซงเขาพาฉันไปพบกับยองบินมาล่ะ” ฮวางโบเอ่ยขึ้นมาระหว่างที่พวกเขากำลังขับรถกลับบ้านด้วยกัน

“คุณว่าอะไรนะฮะ?” ฮยอนจุงถามเธอด้วยตกใจ

“ยองบินเขาเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนั้นให้ฉันฟังหมดแล้ว” ฮวางโบยังพูดต่อไปโดยไม่สนใจท่าทีที่กำลังตกใจของเขา

“หรือ ฮะ...ยองบินเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของผมมาตั้งแต่สมัยอยู่ไฮสคูลแล้วล่ะ ฮะ....” สุดท้ายฮยอนจุงก็เริ่มเล่าเรื่องระหว่างเขากับยองบินให้ฮวางโบฟังอย่างจริง จัง

“หา...เธอว่าอะไรนะ?” ฮวางโบถามเขาด้วยความตกใจบ้าง หลังจากที่จู่ๆ เขาพูดโพล่งเรื่องนั้นขึ้นมาโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว

แต่ฮยอนจุงไม่สนใจคำถามของเธอและพูดต่อไปว่า...

“พวก เราเริ่มต้นจากการเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน เพราะความบังเอิญที่พวกเรามักจะเจอกันบ่อยๆ ตอนที่พวกเรานัดดื่มสังสรรค์กันนะฮะ และเพราะเพื่อนของเราคนหนึ่งในกลุ่มนั้น ก็เป็นเพื่อนคู่หูกับผมตอนที่ผมทำงานอยู่ร้านไก่ทอดด้วย มันก็เลยยิ่งทำให้เราสองคนสนิทกันมากขึ้นไปอีก และหลังจากนั้นประมาณปีหรือปีครึ่ง...ผมกับยองบินก็เริ่มคบหากันอย่างจริง จังในฐานะคู่รัก จนถึงตอนที่ผมเริ่มเดบิวท์ใหม่ๆ เราสองคนก็ยังคบหากันอยู่ แต่แล้ว...ทุกอย่างมันก็พังทลายจนหมด เมื่อวันหนึ่งผมพาเธอไปพบกับครอบครัวของผมที่บ้าน และมารู้ความจริงทีหลังว่าเราสองคนเป็นญาติห่างๆ กัน และนั่นแหละที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เราสองคนไม่สามารถคบกันต่อไปได้...” ฮยอนจุงบอกเล่าเรื่องราวความรักที่แสนจะเจ็บปวดของเขากับยองบินให้เธอฟัง อย่างหมดเปลือก

“งั้น...เรื่องที่ให้สัมภาษณ์และบอกกับคนอื่นๆ มาตลอดก็เป็นเรื่องจริงนะสิ?” ฮวางโบพูดออกมาหน้าจ๋อยๆ หลังจากที่รู้ความจริงว่าตัวเองเข้าใจผิดเข้ามาโดยตลอด

“แล้วตอนนี้ คุณยังจะคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อเอาไว้หลอกลวงแฟนคลับ ของผมอยู่อีกรึเปล่าล่ะฮะ?” เขาถามเธอกลับทันทีด้วยความสงสัยและยังไม่มั่นใจว่าถึงตอนนี้เธอจะยอมเชื่อ ที่เขาคำพูดของเขารึเปล่า...

“ไม่แล้วล่ะจ๊ะ...และตอนนี้ฉันก็รู้สึก เห็นใจเธอด้วยนะ เพราะฉันคิดว่ายองบินเธอเป็นเด็กดีและน่ารักมากๆ ด้วย แล้วตอนนี้เธอยังรักเขาอยู่รึเปล่าล่ะ?” ฮวางโบพูดกับเขาด้วยความสงสารและเห็นใจ ก่อนที่จะถามคำถามที่ไม่ควรถาม และอาจทำให้ตัวเองเจ็บปวดออกไปแบบนั้น....

“ไม่แล้วล่ะฮะ เพราะมาคิดๆ ดูแล้วผมว่าตอนนั้นผมยังเด็กเกินไปและยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าความรักที่แท้ จริงมันคืออะไรกันแน่ แต่หลังจากที่ผมโตขึ้นและเริ่มทำงานแล้ว ทุกครั้งเมื่อเวลาที่ผมกับเธอพบกันโดยบังเอิญอีกตอนที่เรานัดสังสรรค์กับ เพื่อนกลุ่มเดิมกลุ่มนั้น ผมกลับรู้สึกว่าผมไม่ลงเหลือความรู้สึกแบบนั้นกับเธออีกแล้ว....และตอนนี้ผม เริ่มรู้แล้วล่ะฮะว่าความรักที่แท้จริงมันคืออะไร และเธอก็ไม่ใช่รักแท้สำหรับผมด้วย” ฮยอนจุงพูดระบายความในใจกับเธอก่อนที่จะแอบมองเธอและพูดประโยคสุดท้ายนั้น ออกมา

“แล้ว...ฮยอนจุง...ทำไมอยู่ดีๆ เธอถึงมาบอกเรื่องนี้กับฉันล่ะ?” ฮวางโบถามเขาอย่างสงสัย และยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เข้าพยายามจะสื่อสารกับเธอ

“ก็เพราะ...เฮ้อ ออ~...ถ้าเราจำเป็นต้องอยู่ด้วยกันในฐานะสามีภรรยาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมก็คิดว่ามันถูกต้องแล้ว ที่จะให้คุณรับรู้เรื่องนี้เอาไว้...” ฮยอนจุงอธิบายกับเธออย่างเซ็งๆ เมื่อเห็นว่าเธอยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เขากำลังพยายามบอกกับเธอ

“งั้น...ก็ขอบคุณนะ” ฮวางโบพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มอย่างอ่อนโยนกลับไปให้เขา

“และ ตอนนี้ผมก็คิดว่ามันถึงเวลาที่ผมควรจะทำอะไรซักอย่างเพื่อชีวิตการแต่งงาน ของเราบ้างแล้วล่ะฮะ” เขาพูดกับเธออย่างมีเลศนัย เมื่อรู้ตัวว่าเขาได้ขับรถมาถึงที่หมายที่เขาต้องการพาเธอมาแล้ว

“ฮยอน จุง...นี่เธอกำลังจะพาฉันไปที่ไหนกันแน่? นี่มันไม่ใช่ทางกลับบ้านของเรานะ” เธอพูดอย่างหวาดระแวงขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดและท่าทีแปลกๆ ของเขาและสังเกตเห็นทางข้างหน้าที่ดูไม่คุ้นตานั่นว่าไม่ใช่ทางกลับบ้านของ พวกเขาอย่างแน่นอน

และแล้วฮยอนจุงก็ขับรถไปจอดยังที่หมายที่เข้า ตั้งใจพาเธอมา และก่อนที่จะลงจากรถฮยอนจุงก็ขอให้ฮวางโบปิดตาของตัวเองซะก่อนในขณะที่เขาพา เธอไปที่นั่น

“โอเคฮะ...ตอนนี้คุณลืมตาได้แล้วล่ะฮะ” เขากระซิบบอกที่ข้างหูของเธออย่างแผ่วเบา

หลังจากนั้นฮวางโบก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น และพบว่าตอนนี้เธอกำลังยืนอยู่หน้าประตูห้องในอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่งที่เธอรู้สึกไม่คุ้นเคย

“ฮยอนจุง นี่เธอพาฉันมาที่บ้านของใครงั้นหรือ?” ฮวางโบหันไปถามเขาอย่างสงสัย

“ก็บ้านของคุณไงฮะ...นี่ฮะ...กุญแจ” เขาพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้กับเธอ ก่อนที่ยื่นกุญแจบ้านนั้นให้กับเธอ

“อะไรนะ...ฮยอนจุง? บ้าน...บ้านของฉันงั้นหรือ?” ฮวางโบถามเขาอย่างงงๆ ก่อนที่จะรับกุญแจบ้านนั้นมา

และ เมื่อฮวางโบเปิดประตูเข้าไปตามคำแนะนำของฮยอนจุง เธอก็พบว่าสิ่งที่กำลังรออยู่ข้างหน้าเธอคืออพาร์ทเมนท์ขนาดใหญ่ ที่ดูเหมือนว่ามันจะใหญ่กว่าอพาร์ทเมนท์ที่เธอกับฮยอนจุงออยู่ด้วยกันตอนนี้ ถึง 4 เท่าด้วยซ้ำ และเมื่อเธอมองสำรวจไปรอบๆ เธอก็พบอีกว่าภายในอพาร์ทเมนท์ที่เธอยืนอยู่นี้มันมีห้องนอนอยู่ถึง 4 ห้องนอน และก็....ทุกๆ อย่างภายในอพาร์ทเมนท์มันก็ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงามเรียบร้อยแล้วด้วย

“ฮยอนจุง นี่คือ....” ฮวางโบหันไปถามเขาด้วยความตกใจ แปลกใจ และสงสัยปนเปกันไปหมด

“ผม ซื้อบ้านหลังนี้หลังจากที่พวกเราแต่งงานกันได้ไม่นานนะฮะ แต่เพราะผมอยากหาโอกาสดีๆ และเหมาะสมกว่านี้ก่อนที่จะมอบมันให้กับคุณ” ฮยอนจุงพูดและหันไปมองใบหน้าที่เรียบเฉยของเธอก่อนที่จะพูดต่อ “เอ่อ...ผมรู้ฮะว่าวันนั้น...วันที่เป็นวันเกิดของคุณ...ผมทำให้เสียใจและ เจ็บปวดมากมายแค่ไหน แต่...ผมไม่ได้กำลังจะพูดหรอกนะฮะว่า ที่ผมทำแบบนี้...ที่ผมอยากยกบ้านหลังนี้ให้กับคุณ เพราะผมต้องการไถ่โทษที่ทำให้คุณเสียใจในวันนั้น เพราะผมรู้ดีว่ามันคงจะเอามาลบความเจ็บปวดทั้งหมดออกไปจากใจคุณไม่ได้” เขาพูดและพยายามหันไปมองสีหน้าของเธออีกครั้ง และพูดต่อ “แต่ว่า...นี่คือสิ่งที่ผมอยากให้คุณได้เป็นเจ้าของมันตลอดไปจริงๆ นะฮะ” เขาพูดเสียงอ่อยๆ เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้เธอกำลังรู้สึกยังไงกันแน่….

“ฮยอนจุงจ๊ะ...แต่นี้มันมากเกินไปสำหรับฉันนะ....” ฮวางโบพูดกับเขาด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความตื้นตันใจ

“มัน ไม่มากเกินไปหรอกฮะ...เพราะหลังจากที่ผมรู้ว่าคุณเอาเงินทั้งหมดที่ได้จาก การทำข้อตกลงระหว่างเราไปบริจาคให้กับกลุ่มองค์กรการกุศลจนหมด ผมก็เลยยิ่งตั้งใจอยากจะซื้อบ้างหลังนี้ในนามของคุณให้กับคุณเอง เพราะผมรู้ว่าอีกหน่อยหลังจากสัญญา 2 ปีนี้จบลง ผมก็จะไม่ได้อยู่ดูแลคุณอีกแล้ว ผมเลยคิดว่าอย่างน้อยที่สุดเมื่อถึงเวลานั้นคุณก็จะมีบ้านหลังนี้ไว้เป็น สมบัติของคุณเอง และถึงแม้ว่าผมจะรู้ว่าคุณสามารถซื้ออะไรที่ใหญ่กว่านี้ได้ด้วยตัวคุณเอง แต่ผมก็หวังจริงๆ นะฮะว่าคุณจะยอมรับของขวัญจากใจของผมชิ้นนี้เอาไว้ และก็...ขอบคุณนะฮะที่คุณยอมรับข้อเสนอมาแต่งงานกับผม...ขอบคุณนะฮะที่คุณ ยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อให้ผมกับน้องๆ ได้ก้าวต่อไปอีกขั้นหนึ่ง...และผมรู้สึกขอบคุณคุณจริงๆ นะฮะ” ฮยอนจุงพูดกับเธอด้วยความบริสุทธิ์ใจ และอยากให้เธอเปิดใจยอมรับเขาให้มากกว่านี้

“นี่...เธอรู้ไหม...เธอ กำลังทำให้ฉันอยากจะร้องไห้ขึ้นมาจริงๆ แล้วนะ ฮยอนจุง...คนบ้า...” ฮวางโบพูดพร้อมกับยิ้มอย่างมีความสุขให้กับเขา

“งั้นก็ร้องออกมาเลยฮะ ผมสัญญาว่าผมจะไม่หัวเราะเยาะคุณหรอก” เขาพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุขให้กับเธอเช่นกัน

“เธอ นี่...เดี๋ยวนี้เธอรู้จักทำอะไรจริงจังแบบนี้เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ... ฮ่าๆๆ...ฉันไม่รู้จะพูดอะไรกับเธอดีแล้ว แต่ฮยอนจุง...เธอไม่คิดบ้างหรือว่าบ้านหลังนี้มันดูจะใหญ่เกินไปสำหรับนะ?” เธอพูด และรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกกับช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ที่เขาทำให้กับเธอ

“ทำไมคุณพูดแบบนั้นล่ะฮะ? ผมว่ามันไม่ใหญ่เกินไปหรอกเพราะผมตั้งใจจะให้คุณพาจินซึและก็ลูกๆ ของคุณอีก 2 ตัวมาอยู่ด้วยกันกับเราที่นี่นะฮะ” ฮยอนจุงอธิบายกับเธอ

“หา...เธอว่าอะไรนะจ๊ะ?” ฮวางโบถึงกับงงจนต้องถามเขาซ้ำอีกครั้ง

“ก็ ห้องมันมีอยู่ 4 ห้องใช่ไหมฮะ คุณกับผมก็อยู่กันคนละห้อง ส่วนอีกห้องก็ให้จินซึกับลูกๆ ตัวอื่นๆ ของคุณอยู่ด้วยกัน และส่วนอีกห้องที่เหลือผมก็กะจะใช้มันเป็นห้องทำงานของผม เพราะฉะนั้นมันก็น่าจะลงตัวแล้ว และอีกอย่างผมก็คิดคำนวณมันมาเป็นอย่างดีแล้ว ก่อนที่ผมจะซื้อบ้านหลังนี้นะ ว่ายังไงมันก็ไม่ใหญ่เกินสำหรับเราหรอกฮะ ฮ่าๆๆๆ” เขาอธิบายกับเธอพร้อมกับเสียงหัวเราะ

“ฮยอนจุง...เธอจะให้ฉันพาลูกๆ ของฉันมาอยู่ด้วยกันที่นี่ได้จริงๆ หรือ” ฮวางโบถามเขาอย่างเกรงใจ

“ได้ แน่นอนสิฮะ...ผมรู้ฮะว่าคุณคงคิดถึงพวกเขามากแน่ๆ เพราะก่อนหน้านี้คุณก็ต้องย้ายไปอยู่ที่บ้านของคุณแม่ และต่อมาก็ต้องย้ายมาอยู่ที่บ้านของผมอีก มันเลยทำให้คุณไม่มีทางเลือก จนต้องตัดสินใจเอาพวกเขาไปฝากไว้ที่บ้านพักสัตว์ชั่วคราวนั้น เรื่องนี้มันคงทำให้คุณทรมานใจเพราะต้องทนคิดถึงพวกเขามากใช่ไหมฮะ เพราะฉะนั้นทันทีที่พวกเราย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ ผมอยากให้คุณไปรับพวกเขากับมาอยู่ด้วยกัน เผื่อเอาไว้ตอนที่ผมไม่อยู่บ้านคุณจะได้มีพวกเขาอยู่เป็นเพื่อนแก้เหงาของ คุณยังไงล่ะฮะ” ฮยอนจุงพูดกับเธออย่างจริงใจ

“ฮยอนจุง...ฉันไม่รู้จะ พูดอะไรต่อไปดีแล้ว...เพราะฉันไม่เคยคิดไม่เคยฝันเลยว่าฉันจะได้รับสิ่งดีๆ แบบนี้จากเธอนะ” ฮวางโบพูดออกมาอย่างซาบซึ้งใจ

“เฮจุงฮะ...ผมอยากให้ เราลืมเรื่องต่างๆ ที่ทำให้เราสองคนไม่สบายใจนั้นทิ้งไปซะ แล้วก็มาพยายามเริ่มต้นใช้ชีวิตแต่งงานของเรากันใหม่ให้ดีกว่านี้เถอะนะฮะ ถือว่าผมขอร้องคุณได้ไหมฮะ?” เขาพูดขอร้องเธออย่างจริงใจ

“อืม...ได้ สิ...ฮยอนจุงนี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันรู้สึกว่าเธอได้พยายามทำอะไรเพื่อ การแต่งงานครั้งนี้ของเรานะ” ฮวางโบพูดพร้อมกับยิ้มบางๆ ออกมาให้เขาอย่างมีความสุข

และคืนนี้เองก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นความ สัมพันธ์ใหม่ของพวกเขาที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในใจของพวกเขาตอนนี้ก็เริ่มมีความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันมากขึ้นเหมือนกับว่ามันมีสายใยรักเส้นบางๆ กำลังถักทอและเกาะเกี่ยวหัวใจของพวกเขาเอาไว้ด้วยกัน และนับวันต่อไปจากนี้มันก็จะยิ่งทักถอและเกาะเกี่ยวพวกเขาเอาไว้ด้วยกันแน่น ขึ้นจนไม่สามารถแยกหัวใจของพวกเขาสองคนออกจากกันได้อีกต่อไป

ส่วน ทางด้านฮยอนจุงเอง...ตอนนี้เขาก็ได้เปิดใจของเขาให้กับฮวางโบไปเป็นที่เรียบ ร้อยแล้ว และก็กำลังใช้พยายามอย่างหนักที่จะแสดงให้เธอเห็นว่าเขารู้สึกซาบซึ้งใจและ ขอบคุณเธอมากแค่ไหน ไม่ใช่สิ...เพราะเขาอยากแสดงให้เธอรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไงกับเธอมากกว่า

และ ส่วนฮวางโบ...ทั้งๆ ที่แต่ก่อนเธอเคยคิดเสมอว่าผู้ชายอย่างฮยอนจุงก็เป็นแค่ผู้ชายที่เอาแต่ใจ และเห็นแก่ตัว และเป็นก็แค่นักร้องไอดอลที่ชอบวางมาดให้ดูดีต่อหน้าสาวๆ เท่านั้น แต่...เธอไม่เคยรู้เลยว่าผู้ชายอย่างฮยอนจุงที่เธอคิดถึงเขาในแง่ร้ายมาโดย ตลอด จะมีความคิดและรู้จักวางแผนการณ์ในอนาคตไว้ให้กับเธอทั้งๆ ที่อีกหน่อยพวกเขาสองก็จะต้องแยกจากกันอยู่แล้ว....แต่เธอก็ยังรู้สึกขอบคุณ และซาบซึ้งในน้ำใจของเขามาก และนี่เอง...ก็ยิ่งทำให้เธอตกหลุมรักเขามากขึ้น และมันก็เริ่มจะมากขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้แทบจะถอนตัวไม่ขึ้นอยู่แล้ว

----------------------------------------------------

โปรดติดตามตอนต่อไป (ตอนที่ 14 พาร์ท 1)

ตัวอย่างบางช่วงบางตอน
“เฮจุง...มีอะไรรึเปล่า?”
“เปล่า...ไม่มีอะไรหรอก...เอ่อ...โบรัม...เธอรู้สึกเหมือนมีคนเดินตามเราอยู่บ้างไหม?”
“นั่นสิเนอะ...บางทีอาจจะเป็นอย่างที่เธอพูดก็ได้”
“นี่...โบรัม ทำไมเราทำแบบนั้นด้วยล่ะ? ทำไมเราต้องหลบหน้าเขาทั้งๆ ที่เราไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย มาเถอะน่า เราแวะไปหาพวกเขากัน”
“เธอรู้เรื่องที่เขาแต่งงานแล้วมาตลอดเลยใช่ไหม...เฮจุง?”
“เธอแน่ใจนะว่าเธอไม่เป็นไรจริงๆ”
“เอ่อ...นี่ผมเองนะฮะ”
“โธ่ เอ๊ย...ทำไมคุณถึงต้องแกล้งผมแบบนั้นฮะ คุณรู้ไหมฮะว่าผมใจหายหมดเลย? แล้วตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนฮะ ผมจะได้ไปรับคุณถูกเพราะตอนนี้ผมทำงานของผมเสร็จแล้ว”
“อ้อ...เพราะอย่างนี้นี่เอง...ตอนนี้ฉันรู้แล้วล่ะว่าอะไรที่ทำให้เธอให้ไม่รู้สึกเสียใจเรื่องบอมซันอีกไปแล้ว”
“หลบไปครับ...หลบไป”




 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2553
2 comments
Last Update : 29 กรกฎาคม 2553 20:23:37 น.
Counter : 592 Pageviews.

 

เข้ามาเช้าดีก็ได้อ่านตอนใหม่เลย ขอบคุณนะคะ ที่มาอัฟให้อ่านเรื่อยๆๆ ตอนนี้บรรยากาศเริ่มดีขึ้นเรี่อยๆแล้วใช่ไหมคะ
จุงทำเซอร์ไพส์ให้โบ ดีจังเลย มี 4 ห้องคิดว่าจุงจะเก็บไว้เป็นห้องลูกๆของพวกซะอีก ^^

 

โดย: luck IP: 58.136.48.197 30 กรกฎาคม 2553 8:16:42 น.  

 

ขอบคุณคุณแป๋วมากเลยนะ ตอนนี้มีน้องๆด้วย น่ารักดี มีเปิดใจให้กันด้วย ช่วงเวลาดีๆอย่างนี้อย่าหมดเร็วน้า คัมซาฮัมนิดา คุณแป๋วและยายนาจาไฟท์ติ้งงงง

 

โดย: มินมิน IP: 125.25.30.211 30 กรกฎาคม 2553 22:34:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.