Group Blog
"Promise"...คำสัญญา [Fic-JoongBo]
Ssangchu Couple REMIX - คู่รักผักกาดหอม REMIX
Extra Stories-คำสัญญา ภาค 2
บันทึกของผม [fic-JoonbBo]
Our fate I -เธอ เขา และ รักเรา
สายใยแห่งรัก Fic-Joongbo
อย่าลืมฉัน....อย่าลืม ...คำสัญญา
ภารกิจเพื่อโลกครั้งที่ 2
Fic - A Reminder of Living (ความทรงจำ...ที่ไม่ลืมเลือน)
ผมขอโทษ ผมรักคุณ
หนังสือ คู่รักผักกาดหอม รีมิกซ์ เล่ม 2
Jichangwook - อุคจ๋าอย่าโยเย
<<
กันยายน 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
20 กันยายน 2553
เธอ...เขา...และรักเรา 2 ตอนที่ 6
All Blogs
เธอ...เขา...และรักเรา 2 ตอนพิเศษ
เธอ...เขา...และรักเรา 2 ตอนที่ 10
เธอ...เขา...และรักเรา 2 ตอนที่ 9
เธอ...เขา...และรักเรา 2 ตอนที่ 8
เธอ...เขา...และรักเรา 2 ตอนที่ 7
เธอ...เขา...และรักเรา 2 ตอนที่ 6
เธอ...เขา...และรักเรา 2 ตอนที่ 5
เธอ...เขา...และรักเรา 2 ตอนที่ 4
เธอ...เขา...และรักเรา 2 ตอนที่ 2
เธอ...เขา...และรักเรา 2 ตอนที่ 3
เธอ...เขา...และรักเรา 2 ตอนที่ 1
เธอ...เขา...และรักเรา ตอนที่ 22
เธอ...เขา...และรักเรา ตอนที่ 21
เธอ...เขา...และรักเรา ตอนที่ 20
เธอ...เขา...และรักเรา ตอนที่ 19
เธอ...เขา...และรักเรา ตอนที่ 17 พาร์ท 2
เธอ...เขา...และรักเรา ตอนที่ 18
ตอนที่ 17 พาร์ท 1
ตอนที่ 16 พาร์ท 2
ตอนที่ 16 พาร์ท 1
ตอนที่ 15 พารท์ 2
ตอนที่ 15 พาร์ท 1
เธอ...เขา...และรักเรา ตอนที่ 14 พาร์ท 2
ตอนที่ 14 พารท์ 1
ตอนที่ 13 พาร์ท 2
ตอนที่ 13 พาร์ท 1
ตอนที่ 12 พาร์ท 2
ตอนที่ 12 พาร์ท 1
ตอนที่ 11 พาร์ท 2
ตอนที่ 11 พาร์ท 1
ตอนที่ 10 พาร์ท 2
ตอนที่ 10 พาร์ท 1
เธอ เขา และ รัก เรา ตอนที่ 9 พารท์ 2
บทนำ - เธอ เขา และ รักเรา
เธอ เขา และ รัก เรา ตอนที่ 5
เธอ เขา และ รัก เรา ตอนที่ 8
เธอ เขา และ รัก เรา ตอนที่ 7
เธอ เขา และ รัก เรา ตอนที่ 6
เธอ เขา และ รัก เรา ตอนที่ 4
เธอ เขา และ รัก เรา ตอนที่ 3
เธอ เขา และ รัก เรา ตอนที่ 2
เธอ เขา และ รัก เรา ตอนที่ 1
เธอ เขา และ รัก เรา - ตอนที่ 9 พาร์ท 1
เธอ...เขา...และรักเรา 2 ตอนที่ 6
แจจุงไปรับฮวางโบที่บ้านของเธอตามที่เขาและเธอได้ตกลงกันเอาไว้ก่อนหน้านี้ โดยที่ฮวางโบไม่ยอมเปิดเผยแผนการว่าทำไมพวกเขาถึงต้องนัดพบกันในวันนั้นเลย...
ภายในรถของแจจุง
“แล้ววันนี้พวกเรามีแผนจะทำอะไรกันงั้นหรือฮะ?” แจจุงอดไม่ได้ที่จะถามเธอด้วยความสงสัย
“อืมมม...ก็ไปปาร์ตี้รับขวัญลูกสาวของโบรัมนะซิ” ฮวางโบตอบเขาด้วยท่าทีสดใสร่าเริง
“อ้อ..ผมเข้าใจแล้ว งั้นเดี๋ยวผมจะไปส่งคุณที่นั้น หลังจากนั้นคุณก็ค่อยโทรบอกให้ผมก็แล้วกันว่าผมจะต้องมารับคุณกลับบ้านตอนไหน” แจจุงพูดกับเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“อ้าว...ทำไมล่ะ? เธอไม่ใช่คนขับรถของฉันนะ...แล้วเธอก็ควรจะไปที่นั้นกับฉันด้วย” ฮวางโบตอบเขากลับไปทันที
“อะไรนะฮะ? คุณอยากให้ผมไปที่นั้นกับคุณงั้นหรือฮะ...แต่....” แจจุงพูดกับเธอด้วยท่าทางดีใจจนออกนอกหน้าขึ้นมาทัน
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า...ปาร์ตี้วันนี้มีแค่เพื่อนสนิทไม่กี่คนเท่านั้น...เพราะโบรัมเขาจะจัดงานปาร์ตี้แยกอีกงานนึงต่างหากสำหรับพวกญาติๆ ของเธอ และก็เพื่อนที่ไม่ค่อยสนิทนักนะ” โบรัมอธิบายกับแจจุงเพื่อให้เขาสบายใจ
“จริงหรือฮะ? แต่...ผมนึกว่าคุณยังไม่อยากให้เพื่อนของคุณรู้เรื่องของเราในตอนนี้ซะอีก?” แจจุงถามเธอด้วยอาการลังเลเพราะกลัวว่าเธอจะตอบว่าใช่ขึ้นมาจริงๆ
“ฮ่าฮ่า...ฉันไม่เห็นว่าเรื่องของเรามันมีอะไรที่จำเป็นจะต้องปิดบังพวกเขานี่ ในเมื่อตอนนี้ฉันมีใครบางคนที่พิเศษที่สุดอยู่แบบนี้” ฮวางโบตอบพร้อมกับส่งยิ้มบางๆ ให้กับเขา
แจจุงรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเธอพูดแบบนี้ เพราะมันแสดงว่าในที่สุดฮวางโบก็ยอมให้เขาผ่านขั้นแรกในการยอมรับความสัมพันธ์ของพวกเขาโดยกับแนะนำเขากับเพื่อนสนิทของเธอแล้ว
-----------------------------------------------------
ที่บ้านของโบรัม
“ฮวางโบ!!!~ ฉันดีใจจริงๆ นะที่เธอมาที่นี่ได้...โอ๊ะ!!~...ไม่...นั่นมัน...ฮีโร่...จาก.....” โบรัมถึงกับพูดติดอ่างด้วยความตกใจปนแปลกใจขึ้นมาทันที
“ทำไมล่ะ? นี่เธอแต่งงานจนมีลูกมีเต้าไปแล้วนะตอนนี้...แล้วเธอยังจะมาหลงใหลได้ปลื้มกับหนุ่มหล่อๆ แบบนี้อีกหรือ? แล้วอีกอย่างตอนนี้ฉันกับฮีโร่...เราสองคนก็กำลังคบหาดูใจกันมาได้เกือบปีแล้วด้วยนะ” ฮวางโบพูดกับโบรัมอย่างเปิดเผย
และแจจุง...เมื่ออยู่ในงานปาร์ตี้เขาก็ไม่ได้มีปัญหาในการพูดคุยกับเพื่อนสนิทของฮวางโบเลยซักนิด เพราะพวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นรุ่นพี่ในวงการบันเทิงของแจจุงอยู่แล้ว และแจจุงเองก็เคยพบและรู้จักกับพวกเขาทั้งหมดมาก่อนหน้านี้อยู่แล้วด้วยในตอนที่เขาทำงานนั่นเอง ส่วนฮวางโบก็แยกตัวออกมาคุยกันตามลำพังกับโบรัมที่ห้องนอนของลูกสาวของโบรัม....
“นี่มัน...จริงหรือเนี่ย...ฉันคิดจริงๆ นะว่ายังไงซะเธอก็คงไม่มางานปาร์ตี้วันนี้แน่ๆ เพราะเธอไม่เคยไปงานปาร์ตี้รับขวัญลูกของเพื่อคนไหนเลยตั้งแต่ที่เธอ....” โบรัมถึงกับพูดไม่ออกขึ้นมาทันทีเมื่อคิดถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเพื่อนสนิทคนนี้ของตัวเอง
“ถ้าเธอเป็นคนอื่น ฉันคงไม่มาหรอก แต่นี่...เธอเป็นเพื่อนรักที่สุดของฉันนะ ฉันจะไม่มาที่นี่เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับเธอได้ยังไงกันล่ะ แล้วลูกสาวของเธอก็ดูคล้ายเธอมากเลยนะ ฉันมั่นใจเลยว่าอีกหน่อยหนูน้อยคนนี้ต้องเป็นคนสวยเหมือนแม่ของแกแน่ๆ” ฮวางโบพูดอย่างอ่อนโยน ขณะที่มองไปที่ลูกสาวของโบรัมอย่างรักใคร่
“แล้วก็เรื่องของแจจุงอีก...นี่เธอกำลับคบกับเขาอยู่จริงๆ หรือ? แล้วฮยอนจุงล่ะ? เธอสามารถตัดใจจากเขาได้แล้วงั้นหรือ?” โบรัมถามฮวางโบเหมือนรู้ใจเธอ
“โบรัม...ฉันพูดตรงๆ เลยนะ...ว่าฉันยังตัดใจของเขาไม่ได้หรอก และฉันก็ไม่รู้จริงๆ ว่ามันเป็นเพราะอะไร...เพราะฉันยังไม่สามารถให้อภัยเขาได้ หรือเพราะฉันยังเคยที่จะหยุดรักเขากันแน่ แต่ที่ฉันรู้ดีตอนนี้อย่างนึงก็คือ...ฉันจำเป็นต้องก้าวต่อไปข้างหน้า...” ฮวางโบพูดโบรัมตรงๆ ด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยอย่างบอกไม่ถูก
“เฮ้อออ!!~ จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่เข้าเธออยู่ดีว่าทำไมเธอถึงฝ่ายขอหย่ากับฮยอนจุง เพราะดูตัวเธอเองซิว่าตลอด 2 ปีมานี่เธอเป็นยังไง...เฮ้ออออ!!~~ เธอนี่มัน...โง่จริงๆ เลย” โบรัมได้แต่พูดและถอนใจออกมาอย่างปลงๆ
“ก็คงใช่...เพราะตอนที่ฉันยอมรับการแต่งงานปลอมๆ นั้น ฉันก็คิดว่ามันคงจะไม่เป็นไร เพราะมันจะมีแต่ฉันคนเดียวเท่านั้นที่จะต้องเจ็บปวด และฉันก็เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับมัน แต่...ฉันไม่เคยได้เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับการที่จะทำให้คนอื่นรอบๆ ตัวฉันกับฮยอนจุงต้องมาเจ็บปวดแบบนี้เลย” ฮวางโบยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“และเรื่องสะเทือนใจที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดมันก็เป็นเพราะยัยเด็กบ้าคนนั้นคนเดียว มันไม่ใช่ความผิดของเธอเลยนะ เฮ้อออ~~ แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ...เพราะเรื่องของฮีโร่มันน่าสนใจกว่า...ทำไมนะ..ทำไมเธอถึงได้เข้าไปพัวพันกับนักร้องซุปเปอร์สตาร์เข้าอีกแล้ว นี่เธอเองก็รู้ดีไม่ใช่ว่าแฟนคลับของเขานะมากว่าของ SS501 ซะอีกนะ?” โบรัมพูดกับเธอด้วยความเป็นห่วง
“ฉันรู้..ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรยอมรับให้เขาเข้าในชีวิตของฉัน แต่...เขามักทำให้ฉันมีความสุขเสมอเมื่ออยู่ใกล้เขานี่” ฮวางโบพูด
“ความสุขจริงๆ มันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเธอรักเขาจากใจจริงเท่านั้น....แล้วตอนนี้เธอคิดว่าเธอรักเขาจริงๆ อย่างนั้นหรือ?” โบรัมพูดกับเธออย่างรู้ใจ
ฮวางโบได้แต่นิ่งและไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้....
-----------------------------------------------------
หลังจากนั้น...ฮวางโบกับแจจุงก็ขอตัวกลับก่อน เพราะแจจุงต้องไปอัดเสียงของเขาต่อหลังจากนั้น...
ภายในรถของแจจุง
“เมื่อก่อน...ตอนที่ฉันยังไม่รู้จักเธอดี ภาพลักษณ์ของเธอดูเหมือนจะไม่ได้เป็นคนรักเด็กเลยนะ แต่ตอนที่ฉันเห็นเธออุ้มลูกสาวของโบรัมเมื่อกี้นี้ มันทำให้ฉันแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลยนะ” ฮวางโบแกล้งพูดแหย่เขา
“ฮ่าฮ่า...เพราะฉะนั้นคุณคงต้องทำงานให้หนักและพยายามเข้าใจผมให้มากกว่านี้แล้วล่ะฮะ เพราะผมนะเป็นคนรักเด็กเอามากๆ และผมก็อยากจะมีลูกอย่างน้อยซัก 13 คน เพราะผมจะได้เล่นฟุตบอลกับพวกแกได้ยังไงล่ะฮะ” แจจุงพูดติดตลกกับเธออย่างมีความสุข
<โอ้...นี่มัน... ฟุตบอลงั้นหรือ....ไม่นะ...ฮยอนจุงเองก็เคยพูดว่าเขาอยากมีลูกเยอะๆ จะได้ตั้งทีมฟุตบอลได้ไม่ใช่หรือ? นี่พวกเขาสองคนช่างคล้ายกันจริงๆ เลย> ฮวางโบได้แต่หมกมุ่นกับความคิดนี้ของตัวเอง จนไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเรียกของแจจุง
“ฮเยจุง..ฮเยจุงฮะ...” แจจุงพยายามเรียกชื่อเธอซ้ำ หลังจากที่เห็นเธอนิ่งเงียบไป
“หา?...” ฮวางโบอุทานออกมาด้วยความตกใจ หลังจากที่สะดุ้งตื่นจากภวังค์ความคิดของตัวเอง
“เอ่อ....ผมขอโทษฮะ...ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดถึงเรื่องเด็กต่อหน้าคุณ” แจจุงพูดเสียงอ่อยๆ ด้วยความเสียใจ
“ไม่เป็นไรจ๊ะ...เพราะมันเป็นเรื่องจริงนี่...ที่ฉันไม่สามารถมีลูกเป็นของตัวเองได้อีกแล้ว” ฮวางโบพูดพร้อมกับแสร้งยิ้มบางๆ ให้กับเขา เพื่อให้เขาสบายใจ
แต่ก่อนที่แจจุงจะพูดอะไรต่อไปได้ จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของฮวางโบก็ดังขึ้นขัดจังหวะซะก่อน
“อ้าวว...ท่านประธาน...วันนี้มันวันอาทิตย์นี่ค่ะ แล้วคุณไม่ไปตีกอล์ฟหรือค่ะ?” ฮวางโบถามประธานลีอย่างเป็นกันเอง
“ฮวางโบ....” ประธานลีเรียกชื่อเธอก่อนที่จะพูดเรื่องสำคัญบางอย่างที่เขาต้องการจะพูดให้เธอฟัง
แจจุงสังเกตเห็นท่าทีของฮวางโบเริ่มเปลี่ยนไปทันที ในขณะที่เธอถือโทรศัพท์นั้นไว้โดยไม่พูดอะไรเลยซักคำ จนในที่สุดเธอก็คุยธุระเสร็จ
“ทำไมหรือฮะ? สีหน้าคุณดูไม่ดีเลยนะฮะ” แจจุงถามเธอด้วยความสงสัยและเป็นห่วง
“เอ่อ...แจจุงจ๊ะ...ฮยอนจุง...เขากำลังจะกลับมาเกาหลีพรุ่งนี้แล้วนะ และ...เอ่อ...ท่านประธาน...ก็อยากให้วง SS501 และวง DBSK ของเธอเข้าประชุมด้วยกันหลังจากที่...ฮยอนจุงกลับมาแล้วนะ ฉันคิดว่าผู้จัดการของเธอคงจะพูดเรื่องนี้กับเธออีกทีในไม่ช้านี้แหละ” ฮวางโบตอบเขาได้ไม่เต็มเสียงและกำลังรู้สึกกังวลอย่างบอกไม่ถูก
แจจุงเองก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออกเหมือนกันเมื่อได้ยินเรื่องนี้...เขารู้ดีว่ายังไงวันนี้ก็คงมาถึงเข้าซักวัน แต่...เมื่อตอนที่เขาได้รับรู้ว่าวันนี้...สุดท้ายก็มาถึงเข้าจริงๆ เขากลับลืมเรื่องทุกอย่างที่เขาคิดเอาไว้ในใจ...และเขาก็ไม่เคยกลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับฮยอนจุงเลยซักนิด แต่ที่เขากลัวมากที่สุดคือการที่เขาต้องเผชิญหน้ากับหัวใจของฮวางโบมากกว่า....
-----------------------------------------------------
2 วันต่อมา...ฮวางโบต้องก้าวย่างเข้าไปในออฟฟิศด้วยหัวใจอันหนักอึ้ง เพราะขณะที่เธอเดินเข้าไปในออฟฟิศของบริษัท DSP...เธอแทบจะรู้สึกได้ในทันทีว่าสายตาของพนักงานทุกคนในบริษัทกำลังจับจ้องมาที่เธอจนน่าอึดอัด และพวกเขาทั้งหมดก็กำลังตั้งวงซุบซิบนินทากันอยู่...
และในขณะที่เธอกำลังเปิดประตูห้องทำงานของเธอ...ประธานลีก็ตะโกนเรียกเธอซะก่อน...
“คุณฮวางโบ...คุณช่วยมาที่ห้องทำงานของผมหน่อยนะ” ประธานลีพูดกับเธอ
และเมื่อฮวางโบเดินเข้าไปในห้องทำงานของประธานลี เธอก็เห็นว่ามีใครคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้รับแขกในห้องทำงานประธานลีซึ่งมันเป็นการนั่งหันหลังให้กับเธอ แต่ถึงแม้ว่าเธอจะมองเห็นเพียงแค่ด้านหลังของคนๆ นั้น เธอก็รู้ได้ในทันทีว่าคนๆ นั้นเป็นใคร....(เพราะมันเป็นคนหลังของคนที่เธอคุ้นเคยมากที่สุดในชีวิตนั่นเอง)
“ดูซิว่าคนที่นั่งหันหลังให้เราอยู่ตอนนี้เขาเป็นใครกัน?” ประธานลีพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงแจ่มใส และกะว่าเธอจะต้องเซอร์ไพรส์แน่ๆ เมื่อเห็นคนๆ นั้น
“ยินดีต้อนรับการกลับมานะ...ฮยอนจุง” ฮวางโบพยายามบังคับตัวเองไม่ให้ตื่นเต้นขณะที่พูดกับเขา
“ฮเยจุง...ผมดีใจมากนะฮะที่จะได้กลับทำงานร่วมกับคุณอีกครั้ง” ฮยอนจุงพูดกับเธอด้วยความดีใจและกำลังมีความสุขสุดๆ
“และพวกหนุ่มๆ ที่เหลือก็น่าจะมาถึงกันแล้วมั่ง งั้นฉันว่าเราไปที่ห้องประชุมพร้อมกันเลยเถอะ” ประธานลีพูดกับพวกเขา
และนี่ก็ถือเป็นครั้งแรกที่ฮวางโบกับฮยอนจุงได้อยู่กันตามลำพังเพียง 2 คนในห้องประชุมแบบนี้หลังจากที่พวกเขาแยกทางกัน....
“เอ่อ...คือฉันไม่คิดว่าเธอจะกลับมาก่อนกำหนดแบบนี้เลยนะ” ฮวางโบพยายามหาเรื่องพูดกับเขาเพื่อทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัดที่กำลังเป็นอยู่
“ตอนแรกผมก็ตั้งใจว่าจะอยู่ที่นิวยอร์คจนถึงสิ้นเดือนนี้นะฮะ แต่พอดีว่าพี่ผู้จัดการเขาโทรมาหาผมและอยากให้ผมกลับมาพร้อมกับน้องๆ ก่อนนะฮะ เพราะดูเหมือนว่าท่านประธานลีของเราเขาจะมีแผนอะไรบางอย่างอยู่ในใจสำหรับพวกเราอีกแล้ว” ฮยอนจุงอธิบายเหตุผลกับเธอ
“หา? แผนงั้นหรือ...แผนอะไรอีกล่ะ? เขาไม่เห็นบอกอะไรกับฉันเลยนะ...เกี่ยวกับเรื่องนี้นะ” ฮวางโบถึงกับพูดออกมาด้วยความตกใจทันที เมื่อคิดถึงแผนการที่ท่านประธานลีจอมวางแผนกำลังจะทำอีกแล้ว
“ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันฮะว่ามันเป็นเรื่องอะไร” ฮยอนจุงตอบเธอไปตามตรง
และแล้วการสนทนาระหว่างฮวางโบกับฮยอนจุงก็ต้องถูกขัดจังหวะ เพราะเสียงที่ได้ยินจากนอกประตูห้องประชุม
“ฮยอนจุง ยินดีต้อนรับการกลับมานะ” แจจุงเอ่ยทักทายเขาด้วยความดีใจแต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูก
“โอ๊ะ!!~...พี่ฮีโร่ และนั่นก็...มิคกี้...” ฮยอนจุงเอ่ยทักพวกเขากลับไปอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ยินดีต้อนรับนายกลับมาเช่นกัน...แล้วนายเป็นไงบ้างล่ะ?” มิคกี้พูดทักทายเขาด้วยความดีใจเช่นกัน
“พวกนายสองคนมันเลวมาก~~ เพราะหนึ่งปีมานี่พวกนายสองคนไม่ยอมติดต่อฉันเลยนะ” ฮยอนจุงต่อว่าพวกเขาแบบไม่จริงจังนัก
แต่มิคกี้กลับมองไปที่แจจุงและฮวางโบก่อนจะที่ตอบคำถามฮยอนจุงไป....
“เออ...ฉันขอโทษก็แล้วกัน...แต่เพราะทางบริษัทนั่นแหละที่ทำให้พวกเรายุ่งมากจนไม่มีเวลาขยับตัวไปไหนอ่ะ” มิคกี้พยายามพูดแก้ตัว และเริ่มวางสีหน้าได้ลำบากมากขึ้น
“ฮ่าฮ่า...ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วล่ะ” ฮยอนจุงตอบ แต่เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงความอึดอัดที่เกิดขึ้นหระว่างพวกเขาทั้ง 4 คน
และในไม่ช้า...พวกหนุ่มๆ ที่เหลือก็มาถึงที่ห้องประชุม และหลังจากการประชุมสิ้นสุดลง ประธานลีก็ชวนพวกเขาทั้งหมดไปทานข้าวเย็นด้วยกันเพื่อเป็นการต้อนรับฮยอนจุงนั่นเอง....
-----------------------------------------------------
ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่พวกเขาทั้งหมดไปทานข้าวด้วยกัน
“ฮ่าฮ่า...ฉันรู้สึกดีใจจริงๆ นะเนี่ยที่ตอนนี้ฉันมีวงนักร้องไอดอลที่โด่งดังที่สุดถึง 2 วงมาอยู่กับฉันที่นี่ แล้วก็คุณฮวางโบเกี่ยวกับเรื่องคอนเสิร์ตที่จะรวมเอาวงนักร้องไอดอลทั้ง 2 วงนี้มาอยู่บนเวทีเดียวกันนะ ผมอยากให้คุณช่วยทำเรื่องมาเสนอผมให้เร็วที่สุดเลยนะ ผมมั่นใจว่านี่จะเป็นการสร้างกระแสครั้งใหญ่ให้กับวงการดนตรีบ้านเราแน่ๆ” ประธานลีพูดอย่างมีความสุข
“ค่ะ..เข้าใจแล้วค่ะ เดี๋ยวฉันจะรีบกลับไปทำให้ทันทีเลยนะค่ะ แต่ว่าตอนนี้ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ฮวางโบพูดกับประธานลีก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
และในขณะที่พนักงานเสิร์ฟเข้ามาในห้อง VIP ของพวกเขาเพื่อมารับออเดอร์เครื่องดื่ม พวกเขาทั้งหมดก็จัดการสั่งเครื่องดื่มของตัวเอง จะเหลือก็แต่ฮวางโบที่ยังไม่ได้สั่งเพราะไม่ได้นั่งอยู่ที่โต๊ะในเวลานั้นนั่นเอง
“งั้นฉันว่าเราน่าจะสั่งน้ำโซดามาให้เธอดีมั้ยนะ” พี่ผู้จัดการพูดขึ้นเพื่อถามความเห็น
“ไม่นะ..เธอไม่ชอบน้ำโซดา...” ฮยอนจุงกับแจจุงพูดโพล่งออกมาแทบจะพร้อมกันจนทุกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะนั้นรวมถึงตัวฮยอนจุงกับแจจุงเองต่างก็ตกใจเหมือนกันที่จู่ๆ พวกเขาสองคนก็พูดมันออกมาพร้อมกันแบบนี้
“เอ่อออ...งั้นฉันว่าเราน่าจะรอให้เธอมาสั่งเองจะดีกว่านะ” พี่ผู้จัดการของเขาพูดขึ้นมาเพื่อทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัดนี้ทันที
และหลังจากที่พวกเขาทานดินเนอร์ด้วยกันเสร็จ ฮยอนจุงก็ชวนแจจุงออกไปหาที่ดื่มต่อด้วยกันทันที
-----------------------------------------------------
ที่คลับแห่งหนึ่ง
“เอ่ออ..แล้วตอนนี้พี่เป็นยังไงบ้างฮะ?” ฮยอนจุงเป็นฝ่ายเอ่ยถามแจจุงขึ้นมาก่อน
“ฉันหรือ...ก็ดีนะ..เพราะช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดมันได้ผ่านไปแล้ว และฉันก็ดีใจที่พวกเราไม่ต้องแยกวงกัน และก็ไม่ทำให้แฟนๆ ของพวกเราต้องรู้สึกผิดหวังด้วย” แจจุงตอบเขาด้วยท่าทีอึดอัด
“ผมไม่เคยคิดเลยนะฮะว่าเราสองคนจะได้ทำงานภายใต้สังกัดเดียวกันแบบนี้” ฮยอนจุงพยายามหาเรื่องพูดกับต่อ
“ฮ่าฮ่า...ทำไมตอนนี้พวกเราถึงได้พูดกันแบบเป็นทางการแบบนี้นะ?” แจจุงพูดกับเขา หลังจากที่รู้สึกว่าพวกเขาพูดคุยกันด้วยความห่างเหินอย่างบอกไม่ถูก
“ฮ่าฮ่า...บางทีนั่นอาจเป็นเพราะเรารู้ว่ามันมีกำแพงอะไรบางอย่างกั้นกลางระหว่างพวกเราสองอยู่ก็ได้มั่งฮะ? พี่แจจุง....” ฮยอนจุงกำลังพยายามเริ่มถามคำถามกับเขา แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไรได้มากกว่านี้ แจจุงก็พูดขัดจังหวะเขาขึ้นซะก่อน
“ฮยอนจุง...ตอนนี้ฉันกับฮเยจุงกำลังคบกันอยู่” แจจุงตัดสินใจพูดความจริงกับเขาออกไปตรงๆ
“อะ..อะไรน่ะ?” ฮยอนจุงถามเขาซ้ำด้วยความตกใจสุดขีด
“ฉันต้องการพูดความจริงกับนายก่อนที่นายจะรู้จากคนอื่น” แจจุงอธิบายกับเขาด้วยความลำบากใจและรู้สึกลำบากใจจริงๆ ที่จะต้องพูดแบบนี้กับเขา
“งั้นแสดงว่าข่าวลือนั้นมันเป็นความจริงงั้นหรือ? นี่พี่ทำแบบนี้กับผมได้ยังไง?!!!” ฮยอนจุงเริ่มพูดกับแจจุงด้วยความโมโหและเสียความรู้สึกสุดๆ ก่อนที่จะเขาจะคว้าคอเสื้อของแจจุงเอาไว้ และเกือบจะเงื้อหมัดชกแจจุงอยู่แล้ว ตอนที่แจจุงตอบออกมาว่า...“ก็เรื่องของนายกับฮเยจุงมันเป็นอดีตไปแล้วนี่!!” แจจุงพูดโพล่งออกมาอย่างไม่ทันคิด
“นี่หยุดนะ...ฮยอนจุง...นี่เธอคิดจะทำอะไรของเธอนะ? เธอทั้งสองคนอยากลงข่าวหน้าหนึ่งพรุ่งนี้นักหรือไง?” ฮวางโบเข้ามาขัดจังหวะและห้ามพวกเขาได้ทันเวลาพอดี เพราะฮวางโบเองก็สามารถรู้สึกได้ถึงปัญหาที่กำลังเริ่มก่อตัวขึ้น เธอจึงตัดใจมาตามหาพวกเขาที่คลับแห่งนี้
“ฮยอนจุง...ปล่อยแจจุงเดี๋ยวนี้นะ” ฮวางโบพยายามออกคำสั่งกับฮยอนจุงด้วยความลำบากใจ
ฮยอนจุงจึงปล่อยคอเสื้อแจจุงทันที และหันไปมองหน้าพวกเขาสองคนอย่างผิดหวังและเจ็บปวด ก่อนที่จะคว้าแก้วเหล้าวิสกี้ของตัวเองขึ้นมาดื่มรวดเดียวจนหมดเพื่อดับความโมโห
“ฮยอนจุง....เพราะเธอเพิ่งจะกลับมาเกาหลี ฉันเลยไม่อยากให้เธอทำอะไรที่เป็นผลลบต่อสื่อมวลชน ส่วนแจจุง....ฉันว่าเราน่าจะกลับกันได้แล้ว” ฮวางโบแทบจะวางสีหน้าไม่ถูกเมื่อต้องพูดกับฮยอนจุงในสถานการณ์แบบนี้ ก่อนที่จะคว้าข้อมือแจจุงและพาเขาออกไปจากคลับนั้นพร้อมกับเธอเพื่อตัดปัญหา
และเมื่อทั้งสองคนออกจากที่นั้นไปแล้ว ฮยอนจุงก็นั่งดื่มเหล้าต่อที่คลับแห่งนั้นคนเดียว แต่ไม่นานหลังจากนั้นยองแซงก็ตามมาถึงที่คลับแห่งนั้นเช่นกัน
“ฮยอนจุง...หยุดดื่มได้แล้วนะ และเราก็ควรจะออกจากที่นี่กันได้แล้ว” ยองแซงพูดกับเขาด้วยเป็นห่วง
“อ้าววววว...แล้วทำไมนายถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?” ฮยอนจุงถามยองแซงด้วยอาการเมามาย
“ก็ก่อนหน้านี้พี่ฮวางโบเขาโทรหาฉันนะซิ เธออยากให้ฉันช่วยมาพานายออกจากที่นี่และก็พานายกลับไปส่งบ้านด้วย” ยองแซงตอบเขาอย่างใจเย็น
“ฮ่าฮ่า...แล้วทำไมเธอต้องมาเป็นกังวลเรื่องฉันด้วยล่ะ!!~~ ในเมื่อ...ในเมื่อเธอตอนนี้เธอก็คบกับคนอื่นไปแล้วไม่ใช่หรือ?” ฮยอนจุงพูดออกมาด้วยเสียงสั่นเครื่อและกำลังรู้สึกเจ็บปวดราวมกับหัวใจของมันกำลังแตกสลายไม่มีชิ้นดี
“นั่นก็แสดงเห็นว่าเธอยังแคร์นายอยู่ไงล่ะ” ยองแซงพยายามพูดปลอบใจเขา
“ถ้าอย่างนั้นทำไม...ทำไมเมื่อ 2 ปีก่อนเธอถึงได้ตัดสินใจไปจากฉันล่ะ? แล้วก็ยังพี่แจจุงอีก เขาเป็นเพื่อนรักของฉันนะ เพราะฉะนั้นนายช่วยบอกฉันหน่อยซิว่าต่อไปฉันควรจะทำยังไงดี?!!” ฮยอนจุงพลั่งพรูคำพูดออกด้วยความเสียใจและเจ็บปวดจน
“ฮยอนจุง...ที่สำคัญที่สุด...มันอยู่ที่ว่านายยังรักพี่เขาอยู่มั้ยต่างหากล่ะ?” ยองแซงพูดกับเขาตรงๆ
“ใช่...ฉันยังรักเธออยู่ แต่เธอตัดสินใจเลือกคนอื่นไปแล้ว และผู้ชายคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาเป็นเพื่อนรักของฉันเอง แล้วฉันจะทำอะไรได้ล่ะตอนนี้...นอกจาก...นอกจากจะอวยพรให้พวกเขามีความสุขเท่านั้น...” ฮยอนจุงพูดด้วยเสียงสั่นเครือและเริ่มมีน้ำตาออกมาคลอเบ้าอย่างช่วยไม่ได้
“งั้นแสดงว่านายจะเลิกพยายามเอาพี่เขากลับคืนมาแล้วงั้นซิ? แล้วถ้าหากพี่เขายังรักนายอยู่ล่ะนายจะทำยังไง?” ยองแซงถามเขากลับไปเพื่อเตือนสติให้เขาลุกขึ้นสู้เพื่อแย่งผู้หญิงที่เขารักกลับคืนมา
“ยองแซง...ฉันสูญเสียโอกาสนั้นไปแล้วล่ะ ฉันสูญเสียโอกาสนั้นไปตั้งแต่ตอนที่เธอขอหย่ากับฉันแล้ว เรื่องของฉันกับเธอมันจบไปแล้ว มันจบไปแล้วจริงๆ...” ฮยอนจุงพูดออกด้วยความเสียใจพร้อมกับเริ่มร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด
-----------------------------------------------------
โปรดติดตามตอนต่อไป (เธอ...เขา...และรักเรา 2 ตอนที่ 7)
Create Date : 20 กันยายน 2553
Last Update : 21 กันยายน 2553 19:06:09 น.
1 comments
Counter : 560 Pageviews.
Share
Tweet
เศร้ามากมายค่ะพี่แป๋ว
กว่าจะตามอ่านได้ คนอ่านก็เศร้ามากเหมือนกัน เลยต้องตามมาอ่านในบล็อคแทน
น่าสงสารกันทุกคนเลย
โดย: pair (
PaB_KaP
) วันที่: 22 กันยายน 2553 เวลา:9:53:13 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [
?
]
"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"
:: Online User
Friends' blogs
naja-joongbo
bying
Bubu_G
violeta
linly
1985pumpui
orange-girl
we-are-twins
Webmaster - BlogGang
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
ssangchu couple - ss501 Thailand
ssangchu501Thailand tweeter
Ssangchuss501-youtube
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
กว่าจะตามอ่านได้ คนอ่านก็เศร้ามากเหมือนกัน เลยต้องตามมาอ่านในบล็อคแทน
น่าสงสารกันทุกคนเลย