Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
20 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
เธอ...เขา...และรักเรา 2 ตอนที่ 6




แจจุงไปรับฮวางโบที่บ้านของเธอตามที่เขาและเธอได้ตกลงกันเอาไว้ก่อนหน้านี้ โดยที่ฮวางโบไม่ยอมเปิดเผยแผนการว่าทำไมพวกเขาถึงต้องนัดพบกันในวันนั้นเลย...

ภายในรถของแจจุง

“แล้ววันนี้พวกเรามีแผนจะทำอะไรกันงั้นหรือฮะ?” แจจุงอดไม่ได้ที่จะถามเธอด้วยความสงสัย

“อืมมม...ก็ไปปาร์ตี้รับขวัญลูกสาวของโบรัมนะซิ” ฮวางโบตอบเขาด้วยท่าทีสดใสร่าเริง

“อ้อ..ผมเข้าใจแล้ว งั้นเดี๋ยวผมจะไปส่งคุณที่นั้น หลังจากนั้นคุณก็ค่อยโทรบอกให้ผมก็แล้วกันว่าผมจะต้องมารับคุณกลับบ้านตอนไหน” แจจุงพูดกับเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“อ้าว...ทำไมล่ะ? เธอไม่ใช่คนขับรถของฉันนะ...แล้วเธอก็ควรจะไปที่นั้นกับฉันด้วย” ฮวางโบตอบเขากลับไปทันที

“อะไรนะฮะ? คุณอยากให้ผมไปที่นั้นกับคุณงั้นหรือฮะ...แต่....” แจจุงพูดกับเธอด้วยท่าทางดีใจจนออกนอกหน้าขึ้นมาทัน

“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า...ปาร์ตี้วันนี้มีแค่เพื่อนสนิทไม่กี่คนเท่านั้น...เพราะโบรัมเขาจะจัดงานปาร์ตี้แยกอีกงานนึงต่างหากสำหรับพวกญาติๆ ของเธอ และก็เพื่อนที่ไม่ค่อยสนิทนักนะ” โบรัมอธิบายกับแจจุงเพื่อให้เขาสบายใจ

“จริงหรือฮะ? แต่...ผมนึกว่าคุณยังไม่อยากให้เพื่อนของคุณรู้เรื่องของเราในตอนนี้ซะอีก?” แจจุงถามเธอด้วยอาการลังเลเพราะกลัวว่าเธอจะตอบว่าใช่ขึ้นมาจริงๆ

“ฮ่าฮ่า...ฉันไม่เห็นว่าเรื่องของเรามันมีอะไรที่จำเป็นจะต้องปิดบังพวกเขานี่ ในเมื่อตอนนี้ฉันมีใครบางคนที่พิเศษที่สุดอยู่แบบนี้” ฮวางโบตอบพร้อมกับส่งยิ้มบางๆ ให้กับเขา

แจจุงรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเธอพูดแบบนี้ เพราะมันแสดงว่าในที่สุดฮวางโบก็ยอมให้เขาผ่านขั้นแรกในการยอมรับความสัมพันธ์ของพวกเขาโดยกับแนะนำเขากับเพื่อนสนิทของเธอแล้ว

-----------------------------------------------------

ที่บ้านของโบรัม

“ฮวางโบ!!!~ ฉันดีใจจริงๆ นะที่เธอมาที่นี่ได้...โอ๊ะ!!~...ไม่...นั่นมัน...ฮีโร่...จาก.....” โบรัมถึงกับพูดติดอ่างด้วยความตกใจปนแปลกใจขึ้นมาทันที

“ทำไมล่ะ? นี่เธอแต่งงานจนมีลูกมีเต้าไปแล้วนะตอนนี้...แล้วเธอยังจะมาหลงใหลได้ปลื้มกับหนุ่มหล่อๆ แบบนี้อีกหรือ? แล้วอีกอย่างตอนนี้ฉันกับฮีโร่...เราสองคนก็กำลังคบหาดูใจกันมาได้เกือบปีแล้วด้วยนะ” ฮวางโบพูดกับโบรัมอย่างเปิดเผย

และแจจุง...เมื่ออยู่ในงานปาร์ตี้เขาก็ไม่ได้มีปัญหาในการพูดคุยกับเพื่อนสนิทของฮวางโบเลยซักนิด เพราะพวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นรุ่นพี่ในวงการบันเทิงของแจจุงอยู่แล้ว และแจจุงเองก็เคยพบและรู้จักกับพวกเขาทั้งหมดมาก่อนหน้านี้อยู่แล้วด้วยในตอนที่เขาทำงานนั่นเอง ส่วนฮวางโบก็แยกตัวออกมาคุยกันตามลำพังกับโบรัมที่ห้องนอนของลูกสาวของโบรัม....

“นี่มัน...จริงหรือเนี่ย...ฉันคิดจริงๆ นะว่ายังไงซะเธอก็คงไม่มางานปาร์ตี้วันนี้แน่ๆ เพราะเธอไม่เคยไปงานปาร์ตี้รับขวัญลูกของเพื่อคนไหนเลยตั้งแต่ที่เธอ....” โบรัมถึงกับพูดไม่ออกขึ้นมาทันทีเมื่อคิดถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเพื่อนสนิทคนนี้ของตัวเอง

“ถ้าเธอเป็นคนอื่น ฉันคงไม่มาหรอก แต่นี่...เธอเป็นเพื่อนรักที่สุดของฉันนะ ฉันจะไม่มาที่นี่เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับเธอได้ยังไงกันล่ะ แล้วลูกสาวของเธอก็ดูคล้ายเธอมากเลยนะ ฉันมั่นใจเลยว่าอีกหน่อยหนูน้อยคนนี้ต้องเป็นคนสวยเหมือนแม่ของแกแน่ๆ” ฮวางโบพูดอย่างอ่อนโยน ขณะที่มองไปที่ลูกสาวของโบรัมอย่างรักใคร่

“แล้วก็เรื่องของแจจุงอีก...นี่เธอกำลับคบกับเขาอยู่จริงๆ หรือ? แล้วฮยอนจุงล่ะ? เธอสามารถตัดใจจากเขาได้แล้วงั้นหรือ?” โบรัมถามฮวางโบเหมือนรู้ใจเธอ

“โบรัม...ฉันพูดตรงๆ เลยนะ...ว่าฉันยังตัดใจของเขาไม่ได้หรอก และฉันก็ไม่รู้จริงๆ ว่ามันเป็นเพราะอะไร...เพราะฉันยังไม่สามารถให้อภัยเขาได้ หรือเพราะฉันยังเคยที่จะหยุดรักเขากันแน่ แต่ที่ฉันรู้ดีตอนนี้อย่างนึงก็คือ...ฉันจำเป็นต้องก้าวต่อไปข้างหน้า...” ฮวางโบพูดโบรัมตรงๆ ด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยอย่างบอกไม่ถูก

“เฮ้อออ!!~ จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่เข้าเธออยู่ดีว่าทำไมเธอถึงฝ่ายขอหย่ากับฮยอนจุง เพราะดูตัวเธอเองซิว่าตลอด 2 ปีมานี่เธอเป็นยังไง...เฮ้ออออ!!~~ เธอนี่มัน...โง่จริงๆ เลย” โบรัมได้แต่พูดและถอนใจออกมาอย่างปลงๆ

“ก็คงใช่...เพราะตอนที่ฉันยอมรับการแต่งงานปลอมๆ นั้น ฉันก็คิดว่ามันคงจะไม่เป็นไร เพราะมันจะมีแต่ฉันคนเดียวเท่านั้นที่จะต้องเจ็บปวด และฉันก็เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับมัน แต่...ฉันไม่เคยได้เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับการที่จะทำให้คนอื่นรอบๆ ตัวฉันกับฮยอนจุงต้องมาเจ็บปวดแบบนี้เลย” ฮวางโบยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

“และเรื่องสะเทือนใจที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดมันก็เป็นเพราะยัยเด็กบ้าคนนั้นคนเดียว มันไม่ใช่ความผิดของเธอเลยนะ เฮ้อออ~~ แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ...เพราะเรื่องของฮีโร่มันน่าสนใจกว่า...ทำไมนะ..ทำไมเธอถึงได้เข้าไปพัวพันกับนักร้องซุปเปอร์สตาร์เข้าอีกแล้ว นี่เธอเองก็รู้ดีไม่ใช่ว่าแฟนคลับของเขานะมากว่าของ SS501 ซะอีกนะ?” โบรัมพูดกับเธอด้วยความเป็นห่วง

“ฉันรู้..ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรยอมรับให้เขาเข้าในชีวิตของฉัน แต่...เขามักทำให้ฉันมีความสุขเสมอเมื่ออยู่ใกล้เขานี่” ฮวางโบพูด

“ความสุขจริงๆ มันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเธอรักเขาจากใจจริงเท่านั้น....แล้วตอนนี้เธอคิดว่าเธอรักเขาจริงๆ อย่างนั้นหรือ?” โบรัมพูดกับเธออย่างรู้ใจ

ฮวางโบได้แต่นิ่งและไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้....

-----------------------------------------------------

หลังจากนั้น...ฮวางโบกับแจจุงก็ขอตัวกลับก่อน เพราะแจจุงต้องไปอัดเสียงของเขาต่อหลังจากนั้น...

ภายในรถของแจจุง

“เมื่อก่อน...ตอนที่ฉันยังไม่รู้จักเธอดี ภาพลักษณ์ของเธอดูเหมือนจะไม่ได้เป็นคนรักเด็กเลยนะ แต่ตอนที่ฉันเห็นเธออุ้มลูกสาวของโบรัมเมื่อกี้นี้ มันทำให้ฉันแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลยนะ” ฮวางโบแกล้งพูดแหย่เขา

“ฮ่าฮ่า...เพราะฉะนั้นคุณคงต้องทำงานให้หนักและพยายามเข้าใจผมให้มากกว่านี้แล้วล่ะฮะ เพราะผมนะเป็นคนรักเด็กเอามากๆ และผมก็อยากจะมีลูกอย่างน้อยซัก 13 คน เพราะผมจะได้เล่นฟุตบอลกับพวกแกได้ยังไงล่ะฮะ” แจจุงพูดติดตลกกับเธออย่างมีความสุข

<โอ้...นี่มัน... ฟุตบอลงั้นหรือ....ไม่นะ...ฮยอนจุงเองก็เคยพูดว่าเขาอยากมีลูกเยอะๆ จะได้ตั้งทีมฟุตบอลได้ไม่ใช่หรือ? นี่พวกเขาสองคนช่างคล้ายกันจริงๆ เลย> ฮวางโบได้แต่หมกมุ่นกับความคิดนี้ของตัวเอง จนไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเรียกของแจจุง

“ฮเยจุง..ฮเยจุงฮะ...” แจจุงพยายามเรียกชื่อเธอซ้ำ หลังจากที่เห็นเธอนิ่งเงียบไป

“หา?...” ฮวางโบอุทานออกมาด้วยความตกใจ หลังจากที่สะดุ้งตื่นจากภวังค์ความคิดของตัวเอง

“เอ่อ....ผมขอโทษฮะ...ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดถึงเรื่องเด็กต่อหน้าคุณ” แจจุงพูดเสียงอ่อยๆ ด้วยความเสียใจ

“ไม่เป็นไรจ๊ะ...เพราะมันเป็นเรื่องจริงนี่...ที่ฉันไม่สามารถมีลูกเป็นของตัวเองได้อีกแล้ว” ฮวางโบพูดพร้อมกับแสร้งยิ้มบางๆ ให้กับเขา เพื่อให้เขาสบายใจ

แต่ก่อนที่แจจุงจะพูดอะไรต่อไปได้ จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของฮวางโบก็ดังขึ้นขัดจังหวะซะก่อน

“อ้าวว...ท่านประธาน...วันนี้มันวันอาทิตย์นี่ค่ะ แล้วคุณไม่ไปตีกอล์ฟหรือค่ะ?” ฮวางโบถามประธานลีอย่างเป็นกันเอง

“ฮวางโบ....” ประธานลีเรียกชื่อเธอก่อนที่จะพูดเรื่องสำคัญบางอย่างที่เขาต้องการจะพูดให้เธอฟัง

แจจุงสังเกตเห็นท่าทีของฮวางโบเริ่มเปลี่ยนไปทันที ในขณะที่เธอถือโทรศัพท์นั้นไว้โดยไม่พูดอะไรเลยซักคำ จนในที่สุดเธอก็คุยธุระเสร็จ

“ทำไมหรือฮะ? สีหน้าคุณดูไม่ดีเลยนะฮะ” แจจุงถามเธอด้วยความสงสัยและเป็นห่วง

“เอ่อ...แจจุงจ๊ะ...ฮยอนจุง...เขากำลังจะกลับมาเกาหลีพรุ่งนี้แล้วนะ และ...เอ่อ...ท่านประธาน...ก็อยากให้วง SS501 และวง DBSK ของเธอเข้าประชุมด้วยกันหลังจากที่...ฮยอนจุงกลับมาแล้วนะ ฉันคิดว่าผู้จัดการของเธอคงจะพูดเรื่องนี้กับเธออีกทีในไม่ช้านี้แหละ” ฮวางโบตอบเขาได้ไม่เต็มเสียงและกำลังรู้สึกกังวลอย่างบอกไม่ถูก

แจจุงเองก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออกเหมือนกันเมื่อได้ยินเรื่องนี้...เขารู้ดีว่ายังไงวันนี้ก็คงมาถึงเข้าซักวัน แต่...เมื่อตอนที่เขาได้รับรู้ว่าวันนี้...สุดท้ายก็มาถึงเข้าจริงๆ เขากลับลืมเรื่องทุกอย่างที่เขาคิดเอาไว้ในใจ...และเขาก็ไม่เคยกลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับฮยอนจุงเลยซักนิด แต่ที่เขากลัวมากที่สุดคือการที่เขาต้องเผชิญหน้ากับหัวใจของฮวางโบมากกว่า....

-----------------------------------------------------

2 วันต่อมา...ฮวางโบต้องก้าวย่างเข้าไปในออฟฟิศด้วยหัวใจอันหนักอึ้ง เพราะขณะที่เธอเดินเข้าไปในออฟฟิศของบริษัท DSP...เธอแทบจะรู้สึกได้ในทันทีว่าสายตาของพนักงานทุกคนในบริษัทกำลังจับจ้องมาที่เธอจนน่าอึดอัด และพวกเขาทั้งหมดก็กำลังตั้งวงซุบซิบนินทากันอยู่...

และในขณะที่เธอกำลังเปิดประตูห้องทำงานของเธอ...ประธานลีก็ตะโกนเรียกเธอซะก่อน...

“คุณฮวางโบ...คุณช่วยมาที่ห้องทำงานของผมหน่อยนะ” ประธานลีพูดกับเธอ

และเมื่อฮวางโบเดินเข้าไปในห้องทำงานของประธานลี เธอก็เห็นว่ามีใครคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้รับแขกในห้องทำงานประธานลีซึ่งมันเป็นการนั่งหันหลังให้กับเธอ แต่ถึงแม้ว่าเธอจะมองเห็นเพียงแค่ด้านหลังของคนๆ นั้น เธอก็รู้ได้ในทันทีว่าคนๆ นั้นเป็นใคร....(เพราะมันเป็นคนหลังของคนที่เธอคุ้นเคยมากที่สุดในชีวิตนั่นเอง)

“ดูซิว่าคนที่นั่งหันหลังให้เราอยู่ตอนนี้เขาเป็นใครกัน?” ประธานลีพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงแจ่มใส และกะว่าเธอจะต้องเซอร์ไพรส์แน่ๆ เมื่อเห็นคนๆ นั้น

“ยินดีต้อนรับการกลับมานะ...ฮยอนจุง” ฮวางโบพยายามบังคับตัวเองไม่ให้ตื่นเต้นขณะที่พูดกับเขา

“ฮเยจุง...ผมดีใจมากนะฮะที่จะได้กลับทำงานร่วมกับคุณอีกครั้ง” ฮยอนจุงพูดกับเธอด้วยความดีใจและกำลังมีความสุขสุดๆ

“และพวกหนุ่มๆ ที่เหลือก็น่าจะมาถึงกันแล้วมั่ง งั้นฉันว่าเราไปที่ห้องประชุมพร้อมกันเลยเถอะ” ประธานลีพูดกับพวกเขา

และนี่ก็ถือเป็นครั้งแรกที่ฮวางโบกับฮยอนจุงได้อยู่กันตามลำพังเพียง 2 คนในห้องประชุมแบบนี้หลังจากที่พวกเขาแยกทางกัน....

“เอ่อ...คือฉันไม่คิดว่าเธอจะกลับมาก่อนกำหนดแบบนี้เลยนะ” ฮวางโบพยายามหาเรื่องพูดกับเขาเพื่อทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัดที่กำลังเป็นอยู่

“ตอนแรกผมก็ตั้งใจว่าจะอยู่ที่นิวยอร์คจนถึงสิ้นเดือนนี้นะฮะ แต่พอดีว่าพี่ผู้จัดการเขาโทรมาหาผมและอยากให้ผมกลับมาพร้อมกับน้องๆ ก่อนนะฮะ เพราะดูเหมือนว่าท่านประธานลีของเราเขาจะมีแผนอะไรบางอย่างอยู่ในใจสำหรับพวกเราอีกแล้ว” ฮยอนจุงอธิบายเหตุผลกับเธอ

“หา? แผนงั้นหรือ...แผนอะไรอีกล่ะ? เขาไม่เห็นบอกอะไรกับฉันเลยนะ...เกี่ยวกับเรื่องนี้นะ” ฮวางโบถึงกับพูดออกมาด้วยความตกใจทันที เมื่อคิดถึงแผนการที่ท่านประธานลีจอมวางแผนกำลังจะทำอีกแล้ว

“ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันฮะว่ามันเป็นเรื่องอะไร” ฮยอนจุงตอบเธอไปตามตรง

และแล้วการสนทนาระหว่างฮวางโบกับฮยอนจุงก็ต้องถูกขัดจังหวะ เพราะเสียงที่ได้ยินจากนอกประตูห้องประชุม

“ฮยอนจุง ยินดีต้อนรับการกลับมานะ” แจจุงเอ่ยทักทายเขาด้วยความดีใจแต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูก

“โอ๊ะ!!~...พี่ฮีโร่ และนั่นก็...มิคกี้...” ฮยอนจุงเอ่ยทักพวกเขากลับไปอย่างไม่ทันตั้งตัว

“ยินดีต้อนรับนายกลับมาเช่นกัน...แล้วนายเป็นไงบ้างล่ะ?” มิคกี้พูดทักทายเขาด้วยความดีใจเช่นกัน

“พวกนายสองคนมันเลวมาก~~ เพราะหนึ่งปีมานี่พวกนายสองคนไม่ยอมติดต่อฉันเลยนะ” ฮยอนจุงต่อว่าพวกเขาแบบไม่จริงจังนัก

แต่มิคกี้กลับมองไปที่แจจุงและฮวางโบก่อนจะที่ตอบคำถามฮยอนจุงไป....

“เออ...ฉันขอโทษก็แล้วกัน...แต่เพราะทางบริษัทนั่นแหละที่ทำให้พวกเรายุ่งมากจนไม่มีเวลาขยับตัวไปไหนอ่ะ” มิคกี้พยายามพูดแก้ตัว และเริ่มวางสีหน้าได้ลำบากมากขึ้น

“ฮ่าฮ่า...ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วล่ะ” ฮยอนจุงตอบ แต่เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงความอึดอัดที่เกิดขึ้นหระว่างพวกเขาทั้ง 4 คน

และในไม่ช้า...พวกหนุ่มๆ ที่เหลือก็มาถึงที่ห้องประชุม และหลังจากการประชุมสิ้นสุดลง ประธานลีก็ชวนพวกเขาทั้งหมดไปทานข้าวเย็นด้วยกันเพื่อเป็นการต้อนรับฮยอนจุงนั่นเอง....

-----------------------------------------------------

ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่พวกเขาทั้งหมดไปทานข้าวด้วยกัน

“ฮ่าฮ่า...ฉันรู้สึกดีใจจริงๆ นะเนี่ยที่ตอนนี้ฉันมีวงนักร้องไอดอลที่โด่งดังที่สุดถึง 2 วงมาอยู่กับฉันที่นี่ แล้วก็คุณฮวางโบเกี่ยวกับเรื่องคอนเสิร์ตที่จะรวมเอาวงนักร้องไอดอลทั้ง 2 วงนี้มาอยู่บนเวทีเดียวกันนะ ผมอยากให้คุณช่วยทำเรื่องมาเสนอผมให้เร็วที่สุดเลยนะ ผมมั่นใจว่านี่จะเป็นการสร้างกระแสครั้งใหญ่ให้กับวงการดนตรีบ้านเราแน่ๆ” ประธานลีพูดอย่างมีความสุข

“ค่ะ..เข้าใจแล้วค่ะ เดี๋ยวฉันจะรีบกลับไปทำให้ทันทีเลยนะค่ะ แต่ว่าตอนนี้ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ฮวางโบพูดกับประธานลีก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

และในขณะที่พนักงานเสิร์ฟเข้ามาในห้อง VIP ของพวกเขาเพื่อมารับออเดอร์เครื่องดื่ม พวกเขาทั้งหมดก็จัดการสั่งเครื่องดื่มของตัวเอง จะเหลือก็แต่ฮวางโบที่ยังไม่ได้สั่งเพราะไม่ได้นั่งอยู่ที่โต๊ะในเวลานั้นนั่นเอง

“งั้นฉันว่าเราน่าจะสั่งน้ำโซดามาให้เธอดีมั้ยนะ” พี่ผู้จัดการพูดขึ้นเพื่อถามความเห็น

“ไม่นะ..เธอไม่ชอบน้ำโซดา...” ฮยอนจุงกับแจจุงพูดโพล่งออกมาแทบจะพร้อมกันจนทุกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะนั้นรวมถึงตัวฮยอนจุงกับแจจุงเองต่างก็ตกใจเหมือนกันที่จู่ๆ พวกเขาสองคนก็พูดมันออกมาพร้อมกันแบบนี้

“เอ่อออ...งั้นฉันว่าเราน่าจะรอให้เธอมาสั่งเองจะดีกว่านะ” พี่ผู้จัดการของเขาพูดขึ้นมาเพื่อทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัดนี้ทันที

และหลังจากที่พวกเขาทานดินเนอร์ด้วยกันเสร็จ ฮยอนจุงก็ชวนแจจุงออกไปหาที่ดื่มต่อด้วยกันทันที

-----------------------------------------------------

ที่คลับแห่งหนึ่ง

“เอ่ออ..แล้วตอนนี้พี่เป็นยังไงบ้างฮะ?” ฮยอนจุงเป็นฝ่ายเอ่ยถามแจจุงขึ้นมาก่อน

“ฉันหรือ...ก็ดีนะ..เพราะช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดมันได้ผ่านไปแล้ว และฉันก็ดีใจที่พวกเราไม่ต้องแยกวงกัน และก็ไม่ทำให้แฟนๆ ของพวกเราต้องรู้สึกผิดหวังด้วย” แจจุงตอบเขาด้วยท่าทีอึดอัด

“ผมไม่เคยคิดเลยนะฮะว่าเราสองคนจะได้ทำงานภายใต้สังกัดเดียวกันแบบนี้” ฮยอนจุงพยายามหาเรื่องพูดกับต่อ

“ฮ่าฮ่า...ทำไมตอนนี้พวกเราถึงได้พูดกันแบบเป็นทางการแบบนี้นะ?” แจจุงพูดกับเขา หลังจากที่รู้สึกว่าพวกเขาพูดคุยกันด้วยความห่างเหินอย่างบอกไม่ถูก

“ฮ่าฮ่า...บางทีนั่นอาจเป็นเพราะเรารู้ว่ามันมีกำแพงอะไรบางอย่างกั้นกลางระหว่างพวกเราสองอยู่ก็ได้มั่งฮะ? พี่แจจุง....” ฮยอนจุงกำลังพยายามเริ่มถามคำถามกับเขา แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไรได้มากกว่านี้ แจจุงก็พูดขัดจังหวะเขาขึ้นซะก่อน

“ฮยอนจุง...ตอนนี้ฉันกับฮเยจุงกำลังคบกันอยู่” แจจุงตัดสินใจพูดความจริงกับเขาออกไปตรงๆ

“อะ..อะไรน่ะ?” ฮยอนจุงถามเขาซ้ำด้วยความตกใจสุดขีด

“ฉันต้องการพูดความจริงกับนายก่อนที่นายจะรู้จากคนอื่น” แจจุงอธิบายกับเขาด้วยความลำบากใจและรู้สึกลำบากใจจริงๆ ที่จะต้องพูดแบบนี้กับเขา

“งั้นแสดงว่าข่าวลือนั้นมันเป็นความจริงงั้นหรือ? นี่พี่ทำแบบนี้กับผมได้ยังไง?!!!” ฮยอนจุงเริ่มพูดกับแจจุงด้วยความโมโหและเสียความรู้สึกสุดๆ ก่อนที่จะเขาจะคว้าคอเสื้อของแจจุงเอาไว้ และเกือบจะเงื้อหมัดชกแจจุงอยู่แล้ว ตอนที่แจจุงตอบออกมาว่า...“ก็เรื่องของนายกับฮเยจุงมันเป็นอดีตไปแล้วนี่!!” แจจุงพูดโพล่งออกมาอย่างไม่ทันคิด

“นี่หยุดนะ...ฮยอนจุง...นี่เธอคิดจะทำอะไรของเธอนะ? เธอทั้งสองคนอยากลงข่าวหน้าหนึ่งพรุ่งนี้นักหรือไง?” ฮวางโบเข้ามาขัดจังหวะและห้ามพวกเขาได้ทันเวลาพอดี เพราะฮวางโบเองก็สามารถรู้สึกได้ถึงปัญหาที่กำลังเริ่มก่อตัวขึ้น เธอจึงตัดใจมาตามหาพวกเขาที่คลับแห่งนี้

“ฮยอนจุง...ปล่อยแจจุงเดี๋ยวนี้นะ” ฮวางโบพยายามออกคำสั่งกับฮยอนจุงด้วยความลำบากใจ

ฮยอนจุงจึงปล่อยคอเสื้อแจจุงทันที และหันไปมองหน้าพวกเขาสองคนอย่างผิดหวังและเจ็บปวด ก่อนที่จะคว้าแก้วเหล้าวิสกี้ของตัวเองขึ้นมาดื่มรวดเดียวจนหมดเพื่อดับความโมโห

“ฮยอนจุง....เพราะเธอเพิ่งจะกลับมาเกาหลี ฉันเลยไม่อยากให้เธอทำอะไรที่เป็นผลลบต่อสื่อมวลชน ส่วนแจจุง....ฉันว่าเราน่าจะกลับกันได้แล้ว” ฮวางโบแทบจะวางสีหน้าไม่ถูกเมื่อต้องพูดกับฮยอนจุงในสถานการณ์แบบนี้ ก่อนที่จะคว้าข้อมือแจจุงและพาเขาออกไปจากคลับนั้นพร้อมกับเธอเพื่อตัดปัญหา

และเมื่อทั้งสองคนออกจากที่นั้นไปแล้ว ฮยอนจุงก็นั่งดื่มเหล้าต่อที่คลับแห่งนั้นคนเดียว แต่ไม่นานหลังจากนั้นยองแซงก็ตามมาถึงที่คลับแห่งนั้นเช่นกัน

“ฮยอนจุง...หยุดดื่มได้แล้วนะ และเราก็ควรจะออกจากที่นี่กันได้แล้ว” ยองแซงพูดกับเขาด้วยเป็นห่วง

“อ้าววววว...แล้วทำไมนายถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?” ฮยอนจุงถามยองแซงด้วยอาการเมามาย

“ก็ก่อนหน้านี้พี่ฮวางโบเขาโทรหาฉันนะซิ เธออยากให้ฉันช่วยมาพานายออกจากที่นี่และก็พานายกลับไปส่งบ้านด้วย” ยองแซงตอบเขาอย่างใจเย็น

“ฮ่าฮ่า...แล้วทำไมเธอต้องมาเป็นกังวลเรื่องฉันด้วยล่ะ!!~~ ในเมื่อ...ในเมื่อเธอตอนนี้เธอก็คบกับคนอื่นไปแล้วไม่ใช่หรือ?” ฮยอนจุงพูดออกมาด้วยเสียงสั่นเครื่อและกำลังรู้สึกเจ็บปวดราวมกับหัวใจของมันกำลังแตกสลายไม่มีชิ้นดี

“นั่นก็แสดงเห็นว่าเธอยังแคร์นายอยู่ไงล่ะ” ยองแซงพยายามพูดปลอบใจเขา

“ถ้าอย่างนั้นทำไม...ทำไมเมื่อ 2 ปีก่อนเธอถึงได้ตัดสินใจไปจากฉันล่ะ? แล้วก็ยังพี่แจจุงอีก เขาเป็นเพื่อนรักของฉันนะ เพราะฉะนั้นนายช่วยบอกฉันหน่อยซิว่าต่อไปฉันควรจะทำยังไงดี?!!” ฮยอนจุงพลั่งพรูคำพูดออกด้วยความเสียใจและเจ็บปวดจน

“ฮยอนจุง...ที่สำคัญที่สุด...มันอยู่ที่ว่านายยังรักพี่เขาอยู่มั้ยต่างหากล่ะ?” ยองแซงพูดกับเขาตรงๆ

“ใช่...ฉันยังรักเธออยู่ แต่เธอตัดสินใจเลือกคนอื่นไปแล้ว และผู้ชายคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาเป็นเพื่อนรักของฉันเอง แล้วฉันจะทำอะไรได้ล่ะตอนนี้...นอกจาก...นอกจากจะอวยพรให้พวกเขามีความสุขเท่านั้น...” ฮยอนจุงพูดด้วยเสียงสั่นเครือและเริ่มมีน้ำตาออกมาคลอเบ้าอย่างช่วยไม่ได้

“งั้นแสดงว่านายจะเลิกพยายามเอาพี่เขากลับคืนมาแล้วงั้นซิ? แล้วถ้าหากพี่เขายังรักนายอยู่ล่ะนายจะทำยังไง?” ยองแซงถามเขากลับไปเพื่อเตือนสติให้เขาลุกขึ้นสู้เพื่อแย่งผู้หญิงที่เขารักกลับคืนมา

“ยองแซง...ฉันสูญเสียโอกาสนั้นไปแล้วล่ะ ฉันสูญเสียโอกาสนั้นไปตั้งแต่ตอนที่เธอขอหย่ากับฉันแล้ว เรื่องของฉันกับเธอมันจบไปแล้ว มันจบไปแล้วจริงๆ...” ฮยอนจุงพูดออกด้วยความเสียใจพร้อมกับเริ่มร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด

-----------------------------------------------------

โปรดติดตามตอนต่อไป (เธอ...เขา...และรักเรา 2 ตอนที่ 7)



Create Date : 20 กันยายน 2553
Last Update : 21 กันยายน 2553 19:06:09 น. 1 comments
Counter : 560 Pageviews.

 
เศร้ามากมายค่ะพี่แป๋ว

กว่าจะตามอ่านได้ คนอ่านก็เศร้ามากเหมือนกัน เลยต้องตามมาอ่านในบล็อคแทน

น่าสงสารกันทุกคนเลย


โดย: pair (PaB_KaP ) วันที่: 22 กันยายน 2553 เวลา:9:53:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.