Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
27 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
ตอนที่ 13 พาร์ท 1

***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย

ปล. เนื้อหาที่แปลอาจถูกปรับแต่งเพื่อความเหมาะสมและใส่อารมณ์ความรู้สึกของตัว ละครนั้นๆ ลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความบันเทิง หากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยด้วยนะค่ะ****



ฮวางโบเดินร้องไห้ไปตามถนนอย่างไร้จุดหมาย...แต่สุดท้ายเธอก็คิดขึ้นได้และตัดสินใจโทรหาเพื่อนที่ดีสุดของเธอ....โบรัม

“ฮัลโหล...โบรามมมม” ฮวางโบพูดกับปลายสายด้วยเสียงที่สั่นเครือและดูอ่อนล้า

“ฮวางโบนั่นเธอรึเปล่า...เธออยู่ที่ไหนนะ? วันนี้ฉันเห็นข่าว...เธอไปที่งานแถลงข่าวนั่นด้วยหรือ” โบรัมถามเธอด้วยความเป็นห่วงและร้อนใจ

“โบรัม อย่าเพิ่งถามอะไรฉันตอนนี้เลยนะ และก็...ฉันขอไปพักบ้านเธอซักสองสามก่อนจะได้ไหม?” ฮวางโบพูดกับโบรัมอย่างเกรงใจ

“เอ่อ...ได้สิ...ได้อยู่แล้ว เธอมาเลยนะ เพราะฉันกำลังอยากเจอหน้าเธออยู่พอดี” โบรัมตอบรับเธอด้วยความเต็มใจ

ที่บ้านของโบรัม

“เข้ามาข้างในก่อนสิ” โบรัมพูดกับเธอหลังจากเปิดประตูออกมาตอนรับเธอแล้ว

“ฉันขอโทษนะที่มารบกวน...แต่ฉันกลับไปที่บ้านแม่ไม่ได้และก็ยังไม่อยากกลับไปที่บ้านของฮยอนจุงด้วย...” เธอพูดกับโบรัมด้วยท่าทีที่ดูเศร้าสร้อยอย่างเห็นได้ชัด

“ไม่เป็นไรหรอก...ฉันเข้าใจ เธออยากจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหนก็ได้นะ จนกว่าเธอจะสบายใจนะ” โบรัมพูดกับเธออย่างเห็นใจ

“ขอบใจเธอมากนะ...โบรัม” ฮวางโบกล่าวขอบคุณโบรัมด้วยความซาบซึ้ง

“แล้ว...เอ่อ...เธอคุยเรื่องนั้นกับฮยอนจุงแล้วหรือยัง?” สุดท้ายโบรัมก็อดไม่ได้ที่จะถามเธอ

“ฉันไม่คิดว่าเรามีเรื่องอะไรที่จะต้องคุยกันอีก” ฮวางโบพูดออกมาอย่างเย็นชาเมื่อคิดถึงเขา

“ก็ถามเขาให้แน่ใจไปเลยซิ! ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร!” โบรัมพูดต่อไปอย่างหงุดหงิด

“โบรัม...เธอน่าจะรู้ดีกว่าใครไม่ใช่หรือ....ว่าฉันอยู่ในฐานะอะไรและมีสิทธิ์ไปถามเขาแบบนั้นงั้นหรือ?” ฮวางโบพูดออกมาอย่างเจ็บปวด

“แน่นอน...เธอมีสิทธิ์...เธอมีสิทธิ์แบบนั้นอยู่แล้วตราบใดที่เธอกับเขายังขึ้นชื่อว่าเป็นสามีภรรยากันถูกต้องตามกฎหมาย และเธอก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ด้วยว่าเขาเป็นฝ่ายผิดที่แอบนอกใจเธอไปมีคนอื่นรึเปล่า!” โบรัมพูดเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับเธอ

“เขา...เขาพยายามจะอธิบายกับฉันแล้ว แต่ฉันกลับรู้สึกว่าคำพูดของเขาไม่มีคำไหนเลยซักคำที่สามารถแล่นผ่านเข้ามาในหัวฉันได้นะ เพราะตอนนั้นฉันรู้สึกหูอื้อตาลายจนยอมรับฟังอะไรจากเขาทั้งนั้น...” ฮวางโบพูดออกมาด้วยความเจ็บปวดเป็นครั้งที่สอง

“แต่ฮวางโบ....เธอรู้ตัวไหมว่าตอนนี้เธอดูเสียใจมากเลยนะ นี่เธอ...เอ่อ....” โบรัมพูดกับฮวางโบด้วยความเห็นใจ และเริ่มรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเพื่อนของเธอ

“โบรัม...นี่เธอจะพูดอะไรกับฉันกันแน่” ฮวางโบถามโบรัมด้วยความสงสัย หลังจากที่เห็นเธอเงียบไปและไม่ยอมพูดอะไรอีก

“นี่เธอกำลังตกหลุมรักเขาเข้าแล้วจริงๆ ใช่ไหม...เฮจุง?” โบรัมถามเธออย่างตรงไปตรงมา และไม่อยากเชื่อจริงๆ ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับเพื่อนของเธอได้

“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะโบรัม ฉันคิดว่าฉันไม่น่าจะรักเขานะ แต่บางครั้งฉันก็ลองถามตัวเองดูนะว่าทำไม...ไม่ว่าเขาจะทำอะไรมันก็มักจะมีผลกระทบกับจิตใจของฉันเสมอ แต่ฉันก็รู้ดี...ว่ายังไงฉันก็ไม่สามารถรักเขาได้ และนั่นมันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากที่สุดเลยล่ะ...โบรัม” ฮวางโบพูดระบายความรู้สึกอัดอั้นตันใจออกมาอย่างเจ็บปวด

“ฉันคิดไว้อยู่แล้วเชียว ว่ายังไงเรื่องนี้มันก็ต้องเกิดขึ้นเข้าซักวัน แล้วตอนนี้เธอจะทำยังไงต่อไปล่ะ เฮจุง?” โบรัมถามเธออย่างปลงๆ และรู้สึกเป็นห่วงฮวางโบมากขึ้นไปอีก

“ก็ไม่เห็นจะต้องทำอะไรนี่...ก็แค่พยายามใช้ชีวิตต่อไปตามปรกติก็เท่านั้น” ฮวางโบพูดเสียงเรียบๆ ราวกับว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ใบหน้าและแววตากลับเต็มไปด้วยความเศร้าและเจ็บปวด

“จริงๆ เลยนะเธอนี่ เธอรู้ตัวรึเปล่าว่าเธอกำลังเล่นอยู่กับไฟนะตอนนี้” โบรัมพูดออกมาด้วยความเป็นห่วง

“อย่างห่วงเลยโบรัม ฉันไม่เป็นไรหรอก” ฮวางโบพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มจางให้กับโบรัม

และคืนนั้นโบรัมก็อดไม่ได้ที่จะส่งข้อความไปบอกฮยอนจุง เพื่อให้เขารู้ว่า ตอนนี้ฮวางโบอยู่ที่บ้านของเธอและต้องการจะพักอยู่ที่นี่กับเธอซักสองสามวัน


และตลอด 2 วันที่ผ่านมา...ฮยอนจุงก็พยายามโทรหาฮวางโบตลอดเมื่อเขามีเวลาว่าง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ยอมรับสายของเขาก็ตามที แต่หลังจากนั้น...เขาก็จำเป็นต้องตัดใจเลิกโทรหาเธอ เมื่อดูจำนวนหมายเลขโทรออกที่เป็นเบอร์ของเธอมีมากกว่าครึ่งบนหน้าจอมือถือของเขา

<ผมจะรอจนกว่าเราจะได้พบกันในวันถ่ายทำโฆษณาของเรานะฮะ> ฮยอนจุงคิดในใจอย่างมีความหวัง

และแล้ววันที่เขารอคอยก็มาถึง...ซึ่งมันเป็นวันที่เขาต้องถ่ายทำโฆษณาน้ำหอมร่วมกับเธอ เขาตื่นเต้นและดีใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อคิดว่าเขากำลังจะได้พบเธอแล้ว จนถึงขนาดตื่นแต่เช้าและเดินทางมาถึงสถานที่ถ่ายทำก่อนเวลานัดหมายเอาไว้ซะอีก หลังจากเขารีบให้ช่างแต่งหน้าช่วยแต่งหน้าและทำผมให้กับเขา ก่อนที่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับถ่ายทำโฆษณา และออกมายืนรอเธออยู่ที่หน้าสตูดิโอด้วยความร้อนร้นและกระวนกระวายใจ

<เมื่อไหร่เธอจะมาซะทีนะ ปานนี้เธอน่าจะมาถึงได้แล้วนี่ จะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอรึเปล่าน้า> เขาคิดกับตัวเองขณะเดินไปเดินมาอยู่หน้าสตูดิโอนั่น และในที่สุดฮวางโบก็มาถึง แต่....เธอกลับแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นเขา และเดินผ่านหน้าเขาไปอย่างไม่ไยดี และนั่นเองที่ทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจจนทำอะไรไม่ถูก หลังจากที่เห็นเธอยังมีทำท่ามีนตึ้งใส่เขาอยู่ และเขายังรู้สึกอีกว่าพวกทีมงานบางคนก็รับรู้ได้ถึงสถานการณ์แปลกๆ ระหว่างเขากับเธอ จนถึงขนาดจับกลุ่มนินทาพวกเขากันเลยทีเดียว

“นี่ฮยอนจุง...คุณฮวางโบเขายังอารมณ์เสียเรื่องของนายอยู่อีกหรือ?” ผู้จัดการของเขาถามขึ้น หลังจากที่เห็นท่าทางของเธอที่แสดงออกกับฮยอนจุง

“ไม่ฮะ...ไม่...พวกเราคืนดีกันแล้วฮะ...เพียงแต่ว่าก่อนมาที่นี่พวกเรามีเรื่องทะเลากันนิดหน่อยเท่านั้นเองนะฮะ” ฮยอนจุงแก้ตัวน้ำขุ่นๆ กับผู้จัดการของเขา

“พวกคุณสองคนพร้อมกันรึยังครับ?” ช่างภาพเริ่มเรียกพวกเขามาเข้าฉาก

หลังจากนั้นฮยอนจุงและฮวางโบก็เดินเข้าไปหาช่างภาพ และเขาก็ได้อธิบายรายละเอียดในสิ่งที่เขาต้องการในการถ่ายทำ....

“ผมอยากให้ภาพมันออกมาดูเซ็กซี่นิดๆ นะครับ และสิ่งที่ผมอยากให้พวกคุณทำก็คือ...คุณฮวางโบครับ ผมอยากให้คุณช่วยหันหลังพิงกำแพง และยกมือขวาของคุณขึ้นวางเหนือศีรษะ และอย่ามองมาที่กล้องตรงๆ นะครับ แค่ชายมตาองมาที่กล้องให้ดูเซ็กซี่และทำให้เหมือนกับว่าคุณกำลังมีความสุขอยู่แค่นั้นก็พอ...ส่วนคุณฮยอนจุง ผมอยากให้คุณโอบเอวภรรยาของคุณไว้ให้แน่นที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ หลังจากนั้นก็โน้มศีรษะของคุณลงมาที่ซอกคอของเธอและจูบเธอเบาๆ อย่างทะนุถนอม แต่ในเวลาเดียวกัน คุณก็ต้องทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าคุณกำลังดื่มด่ำกับกลิ่นน้ำหอมที่อยู่บนตัวเธอด้วยนะครับ ที่ผมพูดมาทั้งหมดพวกคุณเข้าใจไหมครับ” ช่างภาพบอกรายละเอียดที่เขาต้องการให้ฮยอนจุงกับฮวางโบฟัง

“ค่ะ/ครับ...เข้าใจแล้วค่ะ/ครับ” ฮวางโบกับฮยอนจุงรับคำออกพร้อมกัน

“ดีครับ...งั้นเรามาเริ่มถ่ายทำกันเลยนะครับ” ช่างภาพพูดอย่างกระตือรือร้น

“นี่ฮยอนจุง...เธอไม่ต้องโอบเอวฉันแน่นขนาดนี้ก็ได้...ฉันหายใจไม่ออกนะ” ฮวางโบกระซิบบอกเขาด้วยท่าทางเขินอาย

แต่ฮยอนจุงกลับยิ้มและโอบเอวเธอแน่นขึ้นในขณะเดียวกันก็ดึงเธอเข้ามาหาเขาให้ใกล้มากขึ้นไปอีก....จนเธอสามารถได้ยินและรู้สึกได้ถึงเสียงลมหายใจอันร้อนผ่าวของเขาได้อย่างชัดเจน

“ก็ช่างภาพเขาอยากได้แบบนี้นี่ฮะ” ฮยอนจุงพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนที่จะหันไปแอบยิ้มกับตัวเองอย่างคนเจ้าเล่ห์

“คุณฮวางโบครับ....ผมยังไม่เห็นสีหน้าที่แสดงออกถึงความสุขของคุณเลยนะครับ...งั้นเรามาลองกันอีกครั้งนะครับ?” ช่างภาพพูดกับเธอ หลังจากที่เช็คดูภาพเรียบร้อยแล้ว

“เอ่อ...ขอโทษค่ะ ฉันจะพยายามให้มากกกว่านี้แล้วกันนะค่ะ” ฮวางโบพูดออกมาอย่างเกรงใจ และรู้สึกเขินจนทำอะไรไม่ถูกเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเขาแบบนี้

“นี่คุณรู้สึกอึดอัดมากขนาดนั้นเลยหรือฮะ? ถ้าคุณอึดอัดมากขนาดนั้นล่ะก็ เราขอร้องให้ช่างภาพเขาเปลี่ยนคอนเซ็ปใหม่ไปเลยดีไหมฮะ” ฮยอนจุงพูดประชดเธอด้วยความน้อยใจ หลังจากที่เห็นเธอว่าอึดอัดมากแค่ไหนเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเขาแบบนี้

“ไม่นะ...ไม่...ฉันจะลองพยายามดูอีกครั้งก็แล้วกัน” เธอรีบปฏิเสธเขาทันที เพราะเธอไม่อยากเป็นตัวก่อปัญหาสำหรับงานนี้

และในขณะที่เริ่มถ่ายกันใหม่อีกครั้ง...ฮยอนจุงก็โอบเอวของเธอและดึงเธอเข้ามาใกล้ๆ จนแนบสนิทกับเขาอีกครั้ง ก่อนที่จะโน้มศีรษะของตัวเองลงไปที่ซอกคอและกระซิบบอกอะไรบางอย่างข้างหูของเธอว่า....

“ผมขอโทษจริงๆ นะฮะ ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณหงุดหงิดหรืออารมณ์เสียในวันเกิดของคุณเลยจริงๆ เฮจุง...ได้โปรดยกโทษให้ผมเถอนะฮะ” ฮยอนจุงกระซิบบอกเธออย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะก้มลงจูบที่ซอกคอของเธออย่างห้ามใจตัวเองเอาไว้ไม่อยู่

และในเวลาเดียวกัน....ฮวางโบเองก็รู้สึกว่าหัวใจของเธอกำลังอ่อนยวบ...ไร้เรี่ยวแรง....และแทบจะละลายอยู่ในอ้อมกอดของเขาอยู่แล้ว หลังจากที่ได้ยินเขากระซิบคำพูดพวกนั้นอย่างแผ่วเบาที่ข้างหูของเธอ พร้อมกับบรรจงจูบที่ซอกคอของเธอโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัวแบบนี้....

“เยี่ยมมากเลยครับ คุณฮวางโบ” ช่างภาพพูดกับเธอ พร้อมกับปรบมือด้วยความดีใจหลังจากที่ภาพออกสมใจอย่างที่ตัวเองต้องการทุกอย่าง

“หา...อะไรนะค่?” ฮวางโบถามช่างภาพคนนั้นด้วยความตกใจ หลังจากที่ได้สติกลับคืนมาแล้ว

“มันต้องอย่างนี้สิครับ นี่แหละครับที่ผมอยากได้จากคุณ...คุณฮวางโบ และผมว่าตอนนี้เราน่าจะเปลี่ยนสถานที่ถ่ายทำไปอื่นกันได้แล้วนะครับ?” ช่างภาพพูดกับเธออย่างภูมิใจ

หลังจากนั้นราวๆ เที่ยงคืนการถ่ายทำทุกอย่างก็ได้เสร็จสิ้นลง ฮยอนจุงขอร้องให้พี่ผู้จัดการของเขาเดินทางกลับไปก่อน ส่วนเขาจะรอฮวางโบอยู่ที่นี่และจะกลับพร้อมเธอ

“โชคดีนะ..ฮยอนจุง พยายามหาทางคืนดีกับเธอให้ได้เร็วๆ ล่ะ ฉันจะเอาใจช่วยนะ” ผู้จัดการของเขาพูดให้กำลังใจฮยอนจุง

และหลังจากนั้นไม่นานฮวางโบที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและล้างเครื่องสำอางค์เสร็จเรียบร้อย ก็เตรียมตัวจะกลับบ้านโดยเดินออกมาจากห้องแต่งตัว และเมื่อเธอเดินออกมา เธอก็พบว่าฮยอนจุงกำลังยืนรอเธออยู่ที่หน้าห้องนั้น และไม่ได้กลับพร้อมกับพี่ผู้จัดการของเขาอย่างที่เธอเข้าใจ

“ทำไมเธอยังอยู่ที่นี่อีกล่ะ?” ฮวางโบแกล้งถามเขาด้วยท่าทีเย็นชา

“เอ่อ...ผมขอไปส่งคุณกลับบ้านได้ไหมฮะ” ฮยอนจุงพูดกับเธอด้วยเสียงอ่อนโยนและดูออดอ้อนมากที่สุด

----------------------------------------------------

ภายในรถของฮยอนจุง

“คืนนี้คุณก็ยังจะกลับไปนอนที่บ้านของพี่โบรัมใช่ไหมฮะ?” ฮยอนจุงถามเธอเสียงเข้ม หลังจากที่พวกเขาสองคนนั่งเงียบอยู่ในรถมาได้ซักพักนึงแล้ว

“นี่เธอ...เธอรู้ได้ยังไงว่าฉัน...เอ่อ...อยู่ที่บ้านของโบรัม” ฮวางโบถามเขากลับอย่างตกใจ

“เอาเป็นว่าผมหาทางรู้ของผมได้ก็แล้วกัน แล้วก็...ผมคิดว่ามันถึงเวลาที่เราจำเป็นต้องพูดกันจริงๆ จังๆ ซะทีนะฮะ เพราะคุณจะแยกกันอยู่กับผมแบบนี้ตลอดไปไม่ได้หรอกนะฮะ เพราะถ้านักข่าวหรือคนอื่นรู้เรื่องเข้ามันคงไม่ดีกับพวกเราทั้งสองฝ่ายแน่ๆ” เขาพูดกับเธออย่างจริงจังโดยไม่ได้หันไปมองเธอ และพยายามมุ่งความสนใจไปที่การขับรถ

“แล้วเธอจะพูดเรื่องอะไรล่ะ...อ้อ...หรือเธอจะพูดว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ระหว่างเธอกับยองบินอย่างงั้นซิ เรื่องที่เธอจะพูดคือเรื่องใช่ไหมล่ะ...ฮยอนจุง?” เธอเผลอหลุดปากพูดจากระทบกระทั่งเขาโดยไม่รู้ตัวอีกแล้ว

“แล้วถ้าผมพูดแบบนั้นคุณจะเชื่อผมไหมฮะ?” ฮยอนจุงถามเธอด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ

“ฉันไม่รู้...ฮยอนจุง...ฉันไม่รู้จริงๆ...ฉันไม่รู้ว่าฉันควรจะเชื่อใจเธอดีรึเปล่า...เพราะมัน...” ฮวางโบตอบเขาอย่างสับสน และกำลังลังเลว่าควรจะเชื่อใจเขาดีรึเปล่าในเวลาเดียวกัน

“ไม่เป็นไรฮะ...ไม่เป็นไร...ผมเข้าใจ และผมจะไม่บังคับให้คุณเชื่อใจผมหรอกนะฮะ เพราะฉะนั้นคุณสบายใจได้” ฮยอนจุงพูดกับเธอด้วยความน้อยใจ และเข้ารู้ว่าตอนนี้ถึงเขาจะพูดหรืออธิบายอะไรกับเธอไป...เธอก็ยังไม่พร้อมที่จะยอมรับฟังเขาอยู่ดี เพราะฉะนั้นเขาจะรอจนกว่าจะถึงวันที่พร้อมและเปิดใจยอมรับฟังคำอธิบายจากเขาอย่างเต็มใจ และเขาก็หวังว่าวันนั้นคงมาถึงในไม่ช้า...

และเมื่อฮยอนจุงขับรถมาส่งเธอถึงหน้าบ้านของโบรัม ในใจของเขาก็แทบอยากจะทำทุกวิถีทางเพื่อฉุดรั้งเธอไว้ไม่ให้ลงจากรถของเขา แต่เขาก็รู้ว่าในความเป็นจริงแล้ว......เขาไม่มีทางเลือกและไม่มีสิทธิ์ที่จะแบบนั้นด้วย เขาจึงทำได้แค่มองตามหลังเธอไป จนเธอเดินลับหายไปจากสายของเขา ก่อนที่จะขับรถออกไปจากที่นั่น

----------------------------------------------------

วันต่อมา....จู่ๆ ฮวางโบก็ได้รับโทรศัพท์จากยองแซง คนที่เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยจะมีโอกาสได้ยินเสียงทางโทรศัพท์แบบนี้....

“เอ่อ...สวัสดีฮะ...น้อง...สะใภ้” ยองแซงทักทายเธออย่างตะกุกตะกักด้วยความเขินอาย

“หา...นั่นใครพูดนะ?” ฮวางโบถามปลายสายด้วยความสงสัยและแปลกใจ

“เอ่อ...ผมเองฮะ...ยองแซง” เขาพูดกับเธออย่างตะกุกตะกักมากขึ้นไปอีก

“โอ้ว์!~ ฉันเซอร์ไพรส์จังที่ได้ยินเสียงเธอแบบนี้” ฮวางโบพูดไปยิ้มไปเมื่อรู้ว่าปลายสายที่โทรหาเธอเป็นใคร และยิ่งขำมากขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินเขาเรียกเธอว่า ‘น้องสะใภ้’ ด้วยน้ำเสียงที่ดูตะกุกตะกักด้วยความเขินอาย

“เอ่อ..มีใครบางคนเขาอยากพบพี่นะฮะ เขาก็เลยมาขอให้ผมช่วย แล้วตอนนี้พี่อยู่ที่ไหนฮะ ผมจะได้ไปรับพี่ไปหาเขาด้วยกัน” ยองแซงพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงสุภาพ

และหลังจากนั้นยองแซงก็พาฮวางโบมาที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ บ้านของโบรัม

“เอ่อ...น้อง..สะใภ้...เอ่อออ~ เดี๋ยวผมจะรอพี่อยู่ที่นี่แล้วกันนะฮะ ส่วน คนที่เขาอยากจะเจอพี่ เขาก็กำลังรอพี่อยู่ข้างในร้านกาแฟนั้นแล้วล่ะฮะ” ยองแซงพูดกับเธออย่างอายๆ อีกครั้ง

“อ้อ...เข้าใจแล้วจ๊ะ ขอบใจเธอมากนะ” ฮวางโบพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน และก็อดไม่ได้ที่จะนึกขำท่าทางของเขาที่พยายามจะเรียกเธอว่า ‘น้องสะใภ้’ ให้ชินปากซะจริงๆ แต่ดูเหมือนว่าทุกครั้งที่เขาพยายามเรียกเธอแบบนั้นผลมันกลับออกดูเก้ๆ กังๆ ทุกครั้งไปสิน่า...

แล้วหลังจากนั้นฮวางโบก็เดินเข้าไปร้านกาแฟ พรางคิดกับตัวเองในใจว่า <ใครกันนะที่อยากจะพบฉันมากขนาดนั้น ถึงขนาดต้องวานยองแซงให้ช่วยนัดฉันออกมาน่ะ> แต่ไม่นานนักทุกอย่างที่เธอข้องใจก็ได้กระจ่างขึ้น เมื่อเธอเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังโบกไม้โบกมือเรียกเธออยู่

“เอ่อ....คุณคือ?” ฮวางโบเอ่ยถามเด็กผู้หญิงคนนั้นทันทีหลังจากที่เธอเดินไปหาที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว

“เอ่อ...ฉันยองบินไงค่ะ เราเคยพบกันครั้งนึงแล้วตอนที่ฉันไปหาพี่ฮยอนจุงที่ห้องซ้อมเต้นของเขาไงค่ะ” ยองบินพูดพร้อมกับส่งยิ้มสดใสให้กับเธอ

“อ๋อ...ฉันจำได้แล้ว และต้องฉันขอโทษด้วยนะจ๊ะที่ฉันจำเธอไม่ได้ตั้งแต่แรก” ฮวางโบพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มอย่างอ่อนโยนกลับไปให้เธอเช่นกัน

“ไม่เป็นไรค่ะ แต่...ฉันเองต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษคุณ....ฉันอยากขอโทษคุณมานานแล้วจริงๆ นะค่ะ แต่เพราะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกับครอบครัวของฉัน...ฉันก็เลย...รอจนกระทั่งมาถึงวันนี้” ยองบินพูดกับด้วยน้ำเสียงที่ดูจะเสียใจจริงๆ

“และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เธออยากพบฉันใช่ไหมจ๊ะ” ฮวางโบพูดกับเธออย่างอ่อนโยน

“คุณฮวางโบค่ะ...ฉันเสียใจจริงๆ นะค่ะที่เป็นต้นเหตุทำให้คุณกับพี่ฮยอนจุงเข้าใจผิดกัน” ยองบินพูดอย่างกระวนกระวาย และหลังจากนั้นก็เริ่มเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้ฮวางโบฟัง....

“แล้วตอนนี้...คุณพ่อของเธอดีขึ้นรึยังจ๊ะ?” ฮวางโบถามเธอด้วยความเป็นห่วง

“ท่าน...เอ่อ...ท่านเสียไป 4 วันแล้วค่ะ” ยอนบินพูดกับฮวางโบด้วยเสียงที่สั่นเครือ และพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลออก เมื่อคิดถึงเรื่องพ่อของตัวเอง

“เอ่อ...ฉันเสียใจด้วยนะจ๊ะ...ยองบิน” ฮวางโบพูดแสดงความเสียใจกับเธออย่างจริงใจ

“ไม่เป็นไรค่ะ เพราะครอบครัวของเราเตรียมใจเอาไว้อยู่แล้วว่ายังไงคุณพ่อท่านก็ต้องจากพวกเราไปอยู่ดี แต่ขอให้เชื่อฉันเถอะนะค่ะ ว่าเรื่องของฉันกับพี่ฮยอนจุงมันกลายเป็นอดีตไปแล้ว และตอนนี้พวกเราสองคนก็เป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น ไม่มีอะไรมากกว่านั้นจริงๆ ค่ะ” ยองบินพูดกับเธออย่างเปิดใจ

“เฮ้อ...ฉันไม่เข้าใจเธอเลยจริงๆ ว่าทำไมเธอต้องมาอธิบายเรื่องพวกนี้แทนเขาด้วย” ฮวางโบพูดกับเธออย่างสงสัย


“เพราะฉันรู้นะสิค่ะ ว่าพี่ฮยอนจุงเขาจะมีความสุขมากที่สุดถ้าได้อยู่กับคุณ ฉันเลยไม่อยากเป็นคนทำลายความสุขนั้นของพี่เขา เพราะความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นจากฉันเป็นต้นเหตุนะค่ะ และอีกอย่างมันเป็นเพราะ....เอ่อ...ฉันขอเรียกคุณว่า ‘พี่สาว’ ได้ไหมค่ะ?...” ยองบินถามเธอ ก่อนที่ฮวางโบจะส่งรอยยิ้มบางๆ อย่างอ่อนโยนกลับไปเป็นคำตอบ และหลังจากนั้นยองบินก็เริ่มพูดต่อไปว่า “และอีกอย่างมันเป็นเพราะพี่สาวเป็นคนดีจริงๆ....เหมาะสมและคู่ควรกับพี่ฮยอนจุงเขาทุกอย่าง และถ้าหากมันจำเป็นจริงๆ ฉันจะไม่ไปพบพี่ฮยอนจุงอีก ถ้าหากมันจะทำให้พี่สาวสบายใจแล้วล่ะก็” ยองบินเปิดเผยความรู้สึกของตัวเองให้ฮวางโบฟังอย่างจริงใจ

หลังจากฮวางโบกับยองบินก็เดินออกมาจากร้านกาแฟด้วยกัน ก็เห็นยองแซงกำลังรอพวกเขาอยู่ที่ด้านนอกร้านกาแฟนั่น

“ตอนนี้ดูเหมือนว่าอะไรๆ มันจะดีขึ้นแล้วใช่ไหมฮะ งั้นให้ฉันไปส่งเธอดีกว่านะยองบิน?” ยองแซงพูดกับสองสาวอย่างร่าเริง และดีใจที่ปัญหาทุกอย่างคลี่คลายลงไปได้ด้วยดี

“ไม่ค่ะ...ไม่ต้องหรอก...เพราะเดี๋ยวฉันต้องไปทำธุระที่อื่นต่อนะค่ะ ฉันกลับเองได้จริงๆ ค่ะ พี่ไม่ต้องห่วงหรอก” ยองบินพูดกับยองแซง

“วันนี้ฉันดีใจจริงๆ นะจ๊ะที่ได้พบเธอและได้พูดคุยกันอย่างเปิดอกแบบนี้” ฮวางโบพูดพร้อมกับส่งยิ้มบางๆ ให้กับยองบิน

“ไม่เป็นไรหรอก เพราะสิ่งที่ฉันทำมันก็แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น และฉันก็หวังว่าพี่สาวจะยกโทษและให้อภัยพี่ฮยอนจุงเขานะค่ะ” ยองบินพูดพร้อมส่งรอยยิ้มกว้างที่แสนสดใสกลับไปให้กับเธอเช่นกัน

ฮวางโบยิ้มก่อนที่จะพูดกลับไปว่า “แล้ววันหลังเราค่อยนัดมาดื่มกาแฟด้วยกันอีกนะจ๊ะ” ฮวางโบพูดกับยองบินอย่างอ่อนโยนและเป็นมิตร หลังจากที่เรื่องทุกอย่างที่ค้างคาอยู่ในใจเธอได้ถูกยองบินคลี่คลายให้เรียบร้อยแล้ว

----------------------------------------------------

โปรดติดตามตอนต่อไป (ตอนที่ 13 พาร์ท 2)

ตัวอย่างบางช่วงบางตอน
“เฮจุง!?”
“เอ่อ...นี่คุณมาทำอะไรที่นี่ฮะ?”
“แล้วเธอไม่เห็นหรือไงล่ะว่าฉันทำอะไรอยู่?”
“ฮยอนจุง...นี่แธฮกำลังจะพาฉันไปที่ไหนกันแน่? นี่มันไม่ใช่ทางกลับบ้านของเรานะ”
“โอเคฮะ...ตอนนี้คุณลืมตาได้แล้วล่ะฮะ”
“นี่...เธอรู้ไหม...เธอกำลังทำให้ฉันอยากจะร้องไห้ขึ้นมาจริงๆ แล้วนะ ฮยอนจุง...คนบ้านี่”




Create Date : 27 กรกฎาคม 2553
Last Update : 27 กรกฎาคม 2553 19:54:48 น. 2 comments
Counter : 705 Pageviews.

 
ดราม่าจริงๆ โศกเศร้าเคล้าน้ำตากันเลย คุณน้องยองบินก็นางเอกมาเชียว จะเป็นยังไงตอไปน้า....ขอบคุณคุณแป๋วและยายนาจาน้า ด้วยความซาบซึ้งงงง สู้ๆๆๆๆ


โดย: มินมิน IP: 180.180.99.193 วันที่: 27 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:24:27 น.  

 
สถานะการณ์เริ่มคลี่คลายแล้วนะคะ มาลุ้นกันต่อไป ท่าทางจะให้ลุ้นทุกตอนเลยนะคะ คุณแป๋ว^^


โดย: luck IP: 115.87.91.233 วันที่: 27 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:42:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.