Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
22 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 

ตอนที่ 11 พาร์ท 1

***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย

ปล. เนื้อหาที่แปลอาจถูกปรับแต่งเพื่อความเหมาะสมและใส่อารมณ์ความรู้สึกของตัว ละครนั้นๆ ลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความบันเทิง หากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยด้วยนะค่ะ****



“เอ่อ...แล้ว...ที่น่าตกใจที่สุดคือ....คุณกำลังใส่ชุดอะไรฮะเนี่ย?!~” ฮยอนจุงถึงกับพูดตะกุกตะกักด้วยความเขินอาย พร้อมกับใบหน้าที่แดงจัดจนร้อนผ่าว และหัวใจของเขาก็กำลังเต้นแรงไม่เป็นจังหวะขณะที่มองสำรวจลงไปที่ชุดของเธอ

“อ๊าย!~~ ไม่นะ” ฮวางโบอุทานออกมาด้วยความตกใจทันที หลังจากที่เห็นสายตาของเขากำลังจับจ้องอยู่ที่ชุดของเธออย่างไม่วางตา จนทำให้เธอต้องก้มลงมองที่ชุดของตัวเอง แล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องแต่งตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที เพราะในตอนนั้นชุดเธอใส่ออกไปเปิดประตูให้เขา...มันดันเป็นชุดนอนซีทรูเนื้อผ้าบางเบาที่ทำจากผ้าไหมสีดำขลับและมีสายคล้องคอเส้นเล็กๆ คล้องคอเธอไว้เท่านั้น และส่วนความยาวของชุดก็ยังยาวอยู่แค่ระดับสะโพกของเธอ มันเลยเผยให้เห็นท่อนขาอันเรียวยาวทั้งสองข้างของเธออย่างช่วยไม่ได้

หลังจากที่เธอเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์เรียบร้อยแล้วเธอก็เดินออกมาหาฮยอนจุง...ที่ตอนนี้ได้เดินเข้ามาในห้องและนั่งรอเธออยู่ที่โซฟาเรียบร้อยแล้ว

“คุณใส่ชุดแบบนั้นออกไปเปิดประตูได้ยังไงกันฮะ? ถ้าเกิดตอนนั้นคนที่ยืนอยู่หน้าประตูมันไม่ใช่ผมแต่เป็นคนอื่นล่ะ...คุณจะทำยังไง?” เขาบ่นเธออย่างหัวเสียขึ้นมาทันที เมื่อเห็นเธอเดินออกจากห้องแต่งตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว

“ก็ฉันไม่คิดว่าจะมีคนอื่นมายืนเคาะประตูอยู่หน้าห้องของฉันนอกจากผู้ช่วยของฉันนะสิ อ้อ...แล้วก็อีกอย่าง....เธอขึ้นมาถึงบนนี้ได้ยังไง? นี่มันห้องวีไอพีนะ มันต้องใช้บัตรผ่านถึงจะขึ้นมาได้ไม่ใช่หรือ...” เธอพยายามแก้ตัวกับเขาด้วยท่าทางที่ยังมีความเขินอายอยู่

“ฮ่าๆๆ...คุณลืมไปแล้วหรือฮะว่าหัวหน้างานของผู้ช่วยของคุณนะ เขาเป็นพี่ผู้จัดการของผม แล้วยังงี้ผมจะหาทางขึ้นมาที่นี่ไม่ได้เชียวหรือฮะ” เขาพูดไปยิ้มไปขณะที่มองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเขินอายของเธออย่างมีความสุข

“เอ่อ...แล้วทำไมหน้าเธอมันถึงได้เหมือนกับคนที่อดหลับอดนอนมาหลายคืนอย่างงั้นล่ะ น้ำหอมขวดนั้นที่ฉันให้เธอไปมันใช่ไม่ได้ผลหรือ?” เธออดไม่ได้ที่จะถามเขาออกมาด้วยความเป็นห่วง หลังจากที่สังเกตเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาโทรมไปผิดหูผิดตาจากที่เคยเจอกันครั้งสุดท้ายที่บ้านในวันนั้น แล้วเธอก็เหลือบไปมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหัวเตียงของเธอจนรู้ว่าตอนนี้มันเป็นเวลากี่โมงแล้ว...

“โอ๊ะ...นี่เธอเดินทางจากญี่ปุ่นมาถึงฮ่องกงด้วยเที่ยวบินไหนเนี่ย?” เธอถามเขาด้วยความตกใจหลังจากที่รู้เวลาจากนาฬิกาของเธอเรียบร้อยแล้ว

“เอ่อ...ก็หลังจากที่วางสายจากคุณ ผมก็ไปขึ้นเครื่องเพื่อมาที่นี่กลางดึกคืนนั้นเลยฮะ เอ่อ...แล้วคุณล่ะฮะ...ทำไมถึงยังนอนอยู่ที่นี่อีกนี่มันไม่เวลานอนแล้วนะฮะ? ผู้ช่วยของคุณบอกผมว่าคุณดูเหมือนจะไม่ค่อยสบาย...คุณเป็นอะไรมากรึเปล่าฮะ...มาฮะ...ขอผมดูหน่อย” ฮยอนจุงพูดกับเธอด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่จะเดินเข้าไปใกล้ๆ และวางฝ่ามือของตัวเองลงไปบนหน้าผากของเธอเพื่อดูว่าเธอมีไข้รึเปล่า แต่เธอกลับปัดมือของเขาออก และพูดว่า....

“ไม่...ฉันไม่เป็นอะไรหรอก...เพียงแต่ว่า....” เมื่อพูดมาถึงตรงนี้เธอกลับรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมากลั้นเอาไว้ทำให้เธอพูดไม่ออก

“เพียงแต่...อะไรหรือฮะ?” เขาถามเธอด้วยความสงสัย

“เอ่อ...ฉันได้รับ...มันอีกแล้ว...” เธอพูดออกมาอย่างยากลำบาก

“รับ...คุณได้รับอะไรหรือฮะ?” เขาถามเธอด้วยความสงสัยอีกครั้ง

“เอ่อ...ก็นี่ไง” เธอพูดพร้อมยื่นกระดาษโน้ตใบนั้นให้กลับเขา

“นี่มัน...นี่มันบ้าชัดๆ เราต้องแจ้งตำรวจแล้วนะฮะ” เขาพูดอย่างหงุดหงิดและโมโห หลังจากที่ได้อ่านโน้ตข้อความแล้ว หลังจากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาพี่ผู้จัดการของเขา และต้องการให้พี่ผู้จัดการของเขาแจ้งเรื่องนี้ให้กับตำรวจทราบทันที

“เดี๋ยวผมจะเอาโน้ตนี่กลับไปให้ตำรวจที่เกาหลีด้วย แล้วก็...ผมไม่สบายใจมากๆ เลยนะฮะ ผมอยากให้คุณกลับไปเกาหลีพร้อมกับผมพรุ่งนี้เลย และผมก็จะไม่มีทางทิ้งคุณไว้ที่นี่คนเดียวอีกแน่ๆ เพราะคนๆ นั้นอาจจะเป็นใครก็ได้และคอยสะกดรอยตามคุณไปในทุกๆ ที่ที่คุณอยู่ที่ฮ่องกง! เพราะฉะนั้นได้โปรดหยุดงานทุกอย่างที่นี่และกลับไปเกาหลีกับผมเถอะนะฮะ” เขาอ้อนวอนเธอด้วยความเป็นห่วง

“ขอโทษนะ...ฮยอนจุง...แต่ฉันคงทำแบบนั้นไม่ได้ ฉันยังเหลือเวลาอีกตั้ง 2 อาทิตย์ที่จะต้องอยู่ที่นี่ตามสัญญา ถ้าหากฉันยกเลิกสัญญากลางขั้นในตอนนี้ ทางเราจะต้องชดเชยค่าเสียหายให้กับพวกเขาจำนวนไม่น้อยเลยนะ และอีกอย่างฉันก็คิดว่าฉันสามารถจัดการทุกอย่างและดูแลตัวเองได้ด้วย” ฮวางโบปฏิเสธเขา และพยายามอธิบายเหตุผลทุกอย่างให้เขาเข้าใจ

“ผมจะจ่ายให้เองก็ได้ฮะ...ไอ้ค่าชดเชยนั่นนะ ความปลอดภัยของคุณต่างหากที่สำคัญที่สุด แล้วอีกอย่างถ้าคุณสามารถจัดการกับมันได้จริง คุณจะมาอยู่ในห้องพักแบบนี้ทั้งวันทำไมล่ะฮะ” เขาขึ้นเสียงกับเธออย่างหัวเสีย และหงุดหงิดกับความดื้อรั้นของเธอที่ไม่ยอมฟังเขาเลย

ถึงตรงนี้ฮวางโบได้แต่มองหน้าฮยอนจุงนิ่งๆ พรางคิดในใจว่า <ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เขาเริ่มเอาใส่ใจฉันแบบนี้? เขาเคยพูดไว้ไม่ใช่หรือว่าเราสองคนไม่ได้มีข้อผูกมัดอะไรต่อกัน แต่ทำไมเขาถึงต้องคอยเป็นห่วงและบินมาหาฉันถึงที่นี่ด้วยล่ะ และตอนที่ฉันได้รับโน้ตข้อความนั่น เขาก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าฉันพอดิบพอดี เขามาปรากฏตัวตอนที่ฉันกำลังต้องการให้เขามาอยู่เคียงข้างแบบนี้ ฉันรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกที่เขาอยู่ที่นี่กับฉัน แต่ในเวลาเดียวกันฉันก็รู้สึกว่าไม่อยากให้เขามาที่นี่เลย เพราะการที่เขามาที่นี่และทำแบบนี้มันทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ และรู้สึกว่าจะหลงรักเขามากขึ้นเรื่อยๆ จนยากจะถอนตัว และเมื่อถึงเวลาครบกำหนด 2 ปีนั่นมันคงเป็นเรื่องยากสำหรับฉันที่จะห้ามตัวเองไม่ให้เจ็บปวดเมื่อต้องจากเขาไปได้…>


“ทำไมฮะ เฮจุง...คุณเป็นอะไรรึเปล่าฮะ? คุณฟังที่ผมพูดอยู่รึเปล่า?” เขาถามด้วยความสงสัย เมื่อเห็นว่าเธอได้แต่มองหน้าเขานิ่งไม่ยอมพูดอะไร

“เปล่า...ฉันไม่ได้เป็นอะไร และฉันก็กำลังฟังเธอพูดอยู่ แต่...ฉันว่าตอนนี้พวกเราหยุดพูดเรื่องนี้กันเถอะนะ เพราะฉันชักจะเริ่มหิวข้าวขึ้นมาแล้วสิ เธอเลี้ยงข้าวฉันซักมื้อได้ไหมจ๊ะ...ฮยอนจุง?” ฮวางโบเสียงหวานใส่เขาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเขาให้ออกจากเรื่องนี้

แล้วฮวางโบก็พาฮยอนจุงไปทานอาหารกลางวันกันที่ร้านอาหารที่มีชื่อว่า ‘SOHO’ ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาบนเกาะฮ่องกงนั่นเอง...มันก็เป็นร้านเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยบรรยากาศที่ดูอบอุ่นและเป็นกันเอง

“นี่ฮยอนจุง...ร้านนี้เขาว่ากันว่ามีดาราฮ่องกงหลายคนเลยนะที่มาทานอาหารกันที่นี่บ่อยๆ ตั้งแต่เขาเริ่มเปิดมานะ” ฮวางโบพูดขึ้นหลังจากนั่งลงที่โต๊ะอาหารภายในร้านเรียบร้อยแล้ว

“จริงหรือฮะ? แต่บรรยากาศที่ร้านนี้เขาดีจริงๆ นะฮะ ผมชอบ แล้วคุณอยากจะทานอะไรล่ะฮะ? เดี๋ยววันนี้ผมเจ้ามือเลี้ยงคุณเอง” ฮยอนจุงพูดกับเธออย่างมีความสุข

“ว้าวววว~….จริงหรือเนี่ย ถ้าฉันบอกว่าฉันอยากทานอาหารและดื่มไวน์ที่แพงที่สุดในร้านนี้ล่ะ เธอจะเลี้ยงฉันไหวมั้ย...” ฮวางโบพูดเล่นกับเขาอย่างมีความสุขเช่นกัน

“จริงหรือฮะเนี่ย นี่มันยังกลางวันแสกๆ อยู่เลยนะฮะ คุณอยากดื่มไวน์มากขนาดนั้นเลยหรือฮะ? นี่ผมชักจะสงสัยขึ้นมาจริงๆ แล้วนะฮะว่าคุณเป็นโรคแอลกอฮอล์ลิซึ่มอยู่รึเปล่า....” เขาพูดแหย่เธอเล่นอย่างสนุกสนาน

“ช่ายยย....ช่ายยย...นี่...เธอ...เห็นมือของฉันมั้ยล่ะ ตอนนี้มันกำลังสั่นไม่หยุดเลยนะ นี่..แล้วก็วันนี้ฉันก็ไม่ได้พูดเล่นนะ ฮ่าๆๆ” ฮวางโบพูดเออออไปเขาอย่างสนุกสนานเช่นกัน

“ฮ่าๆๆ....งั้นก็ได้ฮะ...อะไรที่คุณอยากกินแล้วทำให้คุณมีความสุขคุณก็สั่งมาเถอะฮะ” เขาพูดตามใจเธอ และกำลังมีความสุขกับช่วงเวลาดีๆ ที่พวกเขาได้อยู่ด้วยกันแบบนี้

และหลังจากที่พวกเขาทานข้าวกันเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ไปเดินเล่นต่อที่ถนนแถบ Mongkok ซึ่งถนนสายหนึ่งของฮ่องกงที่มีผู้คนมาเดินเที่ยวกันอย่างพลุ่กพล่าน และพวกเขาคงไม่มีทางมีโอกาสได้เดินเล่นกันแบบนี้แน่ๆ ถ้าพวกเขาอยู่ที่เกาหลี

“นี่ถ้าเราสองคนเดินเล่นกันตามถนนแบบนี้ในเกาหลี ผมว่าคงมีตำรวจถูกเรียกตัวมาที่นั่นเพื่อให้ช่วยปิดกั้นถนนนั้นไว้ไม่ให้เกิดความวุ่นวายแน่ๆ เลยฮะ” ฮยอนจุงพูดกับเธอ

“อ๋อ...ก็แน่นอนอยู่แล้ว เราถึงทำแบบนั้นที่เกาหลีไม่ได้ไง แล้วอีกอย่างมันเป็นเพราะเธอนั่นแหละ....คิมฮยอนจุง....ที่ดันเป็นลีดเดอร์ของวง SS501 ที่โด่งดัง แต่...ฮยอนจุง...ทำไมตอนนี้ฉันถึงได้รู้สึกเหมือนกับว่ามีคนกำลังจ้องมองเราอยู่ล่ะ? พวกเขาต้องจำพวกเราได้แน่เลย?” ฮวางโบถามเขาในขณะที่มองไปรอบๆ ด้วยความหวาดระแวง

“พวกเขาจำพวกเราไม่ได้หรอกฮะ แต่...ผมว่าที่พวกเขามองพวกเราอยู่แบบนี้...เพราะความน่ารักของคุณเป็นเหตุต่างหากล่ะฮะ” ฮยอนจุงพูดกับเธอและเผลอชมเธอออกมาซึ่งๆ หน้า

<เมื่อกี้เขาพูดว่าฉันน่ารักอย่างงั้นหรือ...ฮ่าๆๆ...นี่เป็นครั้งแรกเลยน่ะที่ฉันได้ยินมันจากปากเขาน่ะ ก็ก่อนหน้านี้เขาเคยปฏิเสธว่าเขาไม่เคยเห็นความน่ารักของฉันเลยนี่น่า ตอนที่เราถ่ายรายการ WGM ด้วยกันนะ> เธอคิดตัวเองอย่างมีความสุข หลังจากที่ได้ยินคำชมจากปากของเขา เลยเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว และเมื่อฮยอนจุงเห็นเธอยิ้มออกมาแบบนั้น เขาเลยนึกอยากจะแกล้งเธอขึ้นมา....

“ผมแค่ล้อคุณเล่นนะฮะ แล้วก็...เรามาพนันกันได้เลย...ผมว่าพวกเขาต้องจำพวกเราได้แน่นอน เพราะผมเห็นพวกเขากำลังหัวเราะกันคิกคักด้วยท่าทางตื่นเต้นอยู่ตอนนี้ เร็วๆ เข้าเถอะฮะ เราต้องหนีจากที่นี่กันแล้ว” ฮยอนจุงพูดแหย่เธออย่างมีความสุข และดูเหมือนว่านี้จะเป็นความสุขอย่างหนึ่งของเขาไปแล้ว กับการที่ได้แกล้งแหย่ให้เธอโกรธแบบนี้น่ะ เพราะเขารู้สึกตอนที่เธอโกรธมันดูน่ารักดีไม่ใช่เล่นเลยนะ...

“นี่เธอ....ดีนี่...ทำไมเธอถึงชอบล้อเล่นกับฉันแบบนี้อยู่เรื่อยเลยนะ แล้วก็...ทำไมเธอถึงไม่ดึงฮูทที่อยู่หลังเสื้อกันหนาวของเธอขึ้นมาสวมหัวซะล่ะ เธอนี่...ช่างเป็นตัวดึงดูดความสนใจของคนอื่นซะจริงๆ เลยนะ มานี่ฉันช่วย” เธอพูดกับเขาอย่างหงุดหงิด ก่อนที่จะช่วยเขาดึงฮูทด้านหลังเสื้อขึ้นและจัดมันให้เข้าที่เข้าทางกับหัวของเขา

จากนั้นพวกเขาก็พากันหลบออกมาจากความวุ่นวายของถนนสายนั้นได้สำเร็จ และฮวางโบก็ตั้งใจจะเรียกแท็กซี่เพื่อกลับโรงแรมที่พักของพวกเขาทันที เพราะมันคงจะต้องเป็นเรื่องวุ่นวายแน่ๆ ถ้าหากมีใครสังเกตเห็นพวกเค้าในตอนนี้ เพราะพวกเขาไม่มีทั้งผู้จัดการหรือแม้กระทั่งผู้ช่วยส่วนตัวคอยอยู่ข้างตัวเพื่อจัดการกับปัญหาพวกนี้ให้กับพวกเขา...แต่...

“ผมว่าเราไปนั่งรถไฟใต้ดินกลับกันดีกว่าฮะ” ฮยอนจุงพูดขัดจังหวะขึ้นมาทันที เมื่อเห็นเธอกำลังเรียกแท็กซี่

“หา!~ เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ?” ฮวางโบถามเขาซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“ก็ทำไมล่ะฮะ? ผมว่าเราน่าจะลองดูนะ ไหนๆ พวกเราก็อยู่ที่นี่กันแล้ว เราจะไม่มีทางได้ทำแบบนี้แน่ๆ ถ้าเรากลับเกาหลีไปแล้วนะฮะ เร็วเข้าฮะ ไปกันเถอะ” เขาพูดกับเธอเสร็จก็เดินนำเธอไปที่สถานีรถไฟใต้ดินที่อยู่ใกล้บริเวรนั้น

แล้วพวกเขาก็พากันไปขึ้นรถไฟใต้ดินเพื่อกลับไปยังโรงแรมที่พักของพวกเขา และระหว่างทางที่พวกเขาอยู่ในรถไฟใต้ดินพวกเขาก็ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวการทำงานและเรื่องส่วนตัวของพวกเขาในระหว่างที่พวกเขาไม่ได้เจอกันมา 1 อาทิตย์ให้อีกฝ่ายหนึ่งฟังอย่างมีความสุข....

“แฟนคลับของผมที่ญี่ปุ่น...เขาส่งของขวัญฝากผมมาให้คุณเยอะแยะเต็มไปหมดเลยนะฮะ ระหว่างที่พวกผมจัดงานแฟนมีทติ้งที่นั้นน่ะ” ฮยอนจุงเล่าถึงแฟนคลับที่นั้นให้เธอฟังอย่างภาคภูมิใจ

“โอ๊ะ...จริงหรือจ๊ะ? พวกเขาน่ารักมายเลยนะ” ฮวางโบพูดอย่างปลาบปลื้มที่แฟนคลับของเขาไม่ได้รังเกียจเธออย่างที่เธอคิด แต่กลับกัน...พวกเขากับมีน้ำใจส่งของขวัญมากมายเพื่อแสดงความยินดีกับเธอผ่านมาทางเขาแบบนี้....

“แต่ว่า...ของขวัญบางชิ้นที่มันเป็นพวกช็อคโกแลต หรือของกิน เจ้าเบบี้...ไอ้เด็กบ้าคนนั้นมันกินเรียบไปหมดแล้วล่ะฮะ” เขาพูดอย่างเซ็งๆ เมื่อนึกถึงพฤติกรรมที่แก้ไม่หายของน้องชายของตัวเอง

“ฮ่าๆๆ...จริงๆ หรือ งั้นก็ปล่อยให้เขากินไปเถอะ เพราะฉันเองก็กำลังควบคุมน้ำหนักอยู่ คงของพวกนี้ไม่ได้หรอกจ๊ะ” ฮวางโบพูดไปหัวเราะไปเมื่อถึงน้องสามีคนโปรดของตัวเอง

แล้วตอนนั้นเอง...จู่ๆ ฮวางโบก็ไปสะดุดตากับเด็กผู้หญิง 2 คนที่นั่งคุยกันกระซิบกระซาบและกำลังหัวเรากันคิกคักอยู่ไม่ห่างจากเธอมากนัก และถึงแม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจว่าพวกเธอสองคนกำลังพูดอะไรกัน แต่เธอก็ได้ยินเด็กผู้หญิงสองคนนั้นพูดถึงชื่อออกมารางๆ เพราะเธอสามารถจดจำเสียงเรียกชื่อของเธอในภาษีจีนกว้างตุ้งได้เป็นอย่างดี เพราะตั้งแต่เธอมาฝึกอบรมการแต่งหน้าที่นี่...เธอก็มักได้ยินเจ้าของงานและพวกทีมงานเรียกชื่อเธอแบบนี้บ่อยๆ...

“ฮยอนจุง...ฉันคิดว่ามีคนกำลังพูดถึงพวกเราอยู่นะ” ฮวางโบสะกิดฮยอนจุงและกระซิบบอกเขา

“งั้นเดี๋ยวพวกเราลงที่สถานนีข้างหน้านี้ก็แล้วกันนะฮะ” ฮยอนจุงพูดกับเธอ ขณะที่สังเกตเห็นแววตาที่แฝงไปด้วยความกังวลของเธอ

แต่ฮวางโบก็กลับยิ่งกังวลมากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นว่าเด็กผู้หญิง 2 คนนั้นกำลังเดินเข้ามาหาเธอและฮยอนจุงอย่างช้าๆ

“โอ้ว์!~ ไม่นะ...พวกเธอกำลังเดินใกล้เข้ามาแล้ว เราจะทำยังไงกันดีฮยอนจุง” ฮวางโบพูดอย่างลุกลี้ลุกลนด้วยความหวาดระแวง

“อย่าห่วงเลยฮะ เดี๋ยวเราจะวิ่งออกจากที่นี่ทันทีหลังจากที่รถไฟมันจอดที่สถานีข้างหน้า....มานี่ฮะ” ฮยอนจุงพูดปลอบเธอเพื่อให้เธอหายกังวล หลังจากนั้นก็จับมือเธอและคว้าตัวเธอมายืนอยู่ใกล้ๆ เขา และเมื่อรถไฟจอด...เขาก็จูงมือเธอและพาเธอวิ่งออกจากรถไฟคันนั้นทันที ทิ้งให้เด็กผู้หญิง 2 คนนั้นมองตามพวกเขาตาละห้อยด้วยความผิดหวังและเสียดาย...

--------------------------------------------------------

โปรดติดตามตอนต่อไป (ตอนที่ 11 พาร์ท 2)

ตัวอย่างบางช่วงบางตอน
“มีอะไรอีกล่ะ? นี่เธอไม่ได้จองห้องพักในโรงแรมนี้เอาไว้หรือไง?”
“ก็มันแค่คืนเดียวเองนี่ฮะ และอีกอย่างพี่ผู้จัดการเขาก็เป็นห่วงว่าอาจจะมีคนสงสัยถ้าเรานอนแยกห้องกัน เขาก็เลยไม่ได้โทรจองห้องพักไว้ให้กับผม”
“แต่...เอ่อ...ชุดนอนของฉัน...กับ...เธอที่อยู่ที่นี่...เฮ้อ~~...ฉันใส่ชุดนอนของฉันไม่ได้ถ้าเธออยู่ที่นี่นะสิ”
<อ๊ายยยยย...นายนี่มันเลวจริงๆ นายคิดแบบนั้นกับเธอได้ยังไง เธอไม่ใช่เมียของนายจริงๆ ซะหน่อย นายต้องเตือนตัวเองเอาไว้สิว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นแค่การแสดง...ตื่น...ตื่นได้แล้ว ออกจากความคิดชั่วร้ายนี้ได้แล้ว>
“เอ่อ...คุณอย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะฮะ ผมไม่ได้เป็นห่วงคุณซะหน่อย ผมแค่ไม่อยากรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต ถ้าหากว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ...เพราะผมเป็นต้นเหตุ...”
“วันเกิดของเธอหรือฮะ? โอ๊ย...ให้ตายซิ ผมลืมเรื่องนี้ไปเลย”




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2553
2 comments
Last Update : 22 กรกฎาคม 2553 20:51:11 น.
Counter : 571 Pageviews.

 

ขอบคุณคุณแป๋วมากๆเลยจ้า ฟิคตอนนี้น่ารักดีนะ มีไปออกเดทกันด้วย เป็นกำลังใจให้นะคะทีมงานคนรักจุงโบ ขอบคุณยายด้วยน้า...สู้ๆ

 

โดย: มินมิน IP: 125.25.228.65 22 กรกฎาคม 2553 22:07:15 น.  

 

สวัสดีค่ะ มีมาให้อัฟเดทเรื่อยๆ เลยนะคะ
ขอบคุณมากคะ ตอนนี้น่ารักจริงๆคะ
ลุ้นอยากอ่านตอนต่อไปเลย เป็นกำลังให้เสมอ แม้คนจะเม้นท์น้อย แต่ลักษณ์เชื่อว่าคนอ่านต้องมีอยู่เยอะแน่นอนนะคะ...สู้ๆ ด้วยคนคะ

 

โดย: luck IP: 58.136.48.52 23 กรกฎาคม 2553 7:45:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.