|
ตอนที่ 15 พาร์ท 1
วันนี้ถือเป็นวันแรกที่ฮยอนจุงและฮวางโบย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่ของพวกเขาอย่างเป็นทางการ และในขณะที่ฮวางโบกำลังง่วนอยู่การจัดเก็บข้าวของของพวกเขาให้เข้าที่เข้าทางอยู่นั้น จู่ๆ เธอได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้นมา....
ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง
“พี่สาวค่ะ...ทางนี้ค่ะ” ยองบินกวักมือเรียกเธอด้วยท่าทีแจ่มใสเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
“อันยองจ๊ะ...ยองบิน...เธอเป็นยังไงบ้างจ๊ะสบายดีไหม?” ฮวางโบกล่าวทักทายเธออย่างเป็นกันเองเช่นกัน
“ก็ดีค่ะพี่สาว เพราะหลังจากที่เสร็จงานศพของพ่อฉันแล้ว ฉันก็ตัดสินใจที่เดินทางไปเที่ยวพักผ่อนในช่วงวันหยุดสั้นๆ ที่ผ่านมาเพื่อให้ตัวเองได้ผ่อนคลายและไม่ต้องคิดมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น และนี่ค่ะ...ของฝาก....ฉันตั้งใจซื้อมาฝากพี่โดยเฉพาะเลยนะค่ะ” ยองบินพูดด้วยใบหน้าที่ดูสดใสและยิ้มแย้ม พร้อมกับยื่นของฝากให้กับฮวางโบ
“โอ้โห...ขอบใจมากนะจ๊ะ และพี่ก็ดีใจที่เธอยังอุตส่าห์นึกถึงพี่และโทรชวนพี่ให้ออกมานั่งดื่มกาแฟด้วยกันแบบนี้อีก” ฮวางโบพูดอย่างอ่อนโยน ในขณะที่รับของฝากจากมือของยองบิน
“เอ่อ...พี่ค่ะ...ฉันได้ยินมาว่าพี่ย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่แล้วหรือค่ะ” ยองบินถามเธอ
“อืม...ใช่จ๊ะ เราสองคนเพิ่งย้ายเข้าไปอยู่บ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมนิดหน่อยได้ไม่นานนะจ๊ะ เอ่อ...ใช่...วันขึ้นบ้านใหม่ของพวกเรา เธอแวะมาเยี่ยมพวกเราซิจ๊ะ ฮยอนจุงต้องดีใจมากแน่ๆ ที่ได้พบเธอที่นั่น” ฮวางโบพูดกับยองบิน
“แต่...ฉันคิดว่ามันคงดูไม่ดีมั่งค่ะ เพราะหลังจากเหตุการณ์วันนั้นที่ฉันทำให้พี่สองคนเข้าใจผิดกัน ฉันก็หยุดติดต่อกับพี่ฮยอนจุงไปแล้ว และถ้าเกิดอยู่ดีๆ วันนั้นฉันโผล่หน้าไป ฉันว่าพี่เขาคงรู้สึกอึดอัดใจมากกว่าจะดีใจแน่ๆ” ยองบินพูดอย่างเกรงใจ
“เอ่อ...พี่เข้าใจจ๊ะ แต่เธอเป็นเพื่อนกับฮยอนจุงมานานมากเลยนะ เธอไม่เสียดายเวลาบ้างหรือ ถ้าเธอจะปล่อยให้มิตรภาพดีๆ ระหว่างพวกเธอต้องจบลงเพราะเรื่องนี้” ฮวางโบพูดขึ้นอย่างเห็นใจ
“ไม่ค่ะ....ฉันไม่เสียดายหรอก เพราะอย่างน้อยตอนนี้ฉันก็ได้รู้จักคนดีๆ อย่างพี่สาวไงค่ะ เอ่อ...พี่สาวค่ะ...คือว่าฉันกำลังจะไป.......” ยองบินพูดกับเธอ และกำลังพยายามจะบอกอะไรบางอย่างกับเธออยู่ แต่ยองบินก็ถูกเสียงโทรศัพท์ของฮวางโบดังขึ้นมาขัดจังหวะซะก่อน และคนที่โทรมาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน...เป็นฮยอนจุงนั่งเองที่โทรมาตามฮวางโบ
“เอ่อ...ขอโทษนะจ๊ะ...ยองบิน...พี่มีเรื่องด่วนที่จะต้องไปจัดการ แล้ววันหลังเราค่อยนัดเจอกันใหม่นะจ๊ะ” ฮวางโบพูดกับเธอ หลังจากที่วางสายจากฮยอนจุงแล้ว และรีบเดินออกจากร้านกาแฟนั้นทันที
หลังจากนั้นไม่นาน...รถตู้ของทางบริษัท DSP ก็มารับฮวางโบเพื่อไปสถานีตำรวจ
----------------------------------------------------
ที่สถานนีตำรวจ ฮยอนจุงพร้อมกับพี่ผู้จัดการของเขามาถึงที่นั่นเรียบร้อยแล้วและกำลังรอฮวางโบอยู่.
“ฮยอนจุง...พวกตำรวจเขาจับคนร้ายได้แล้วจริงๆ หรือจ๊ะ?” ฮวางโบถามฮยอนจุงอย่างร้อนใจทันที หลังจากที่เจอหน้าเขาแล้ว
ฮยอนจุงได้แต่พยักหน้ารับและพาฮวางโบไปยังห้องประชุมของสถานีตำรวจ
“หลังจากที่เราสืบสวนเรื่องนี้มาเป็นเวลานาน ล่าสุด...เราก็พบว่าคนที่ส่งพัสดุไปให้คุณตอนที่คุณอยู่ที่ฮ่องกง เป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่ง และเด็กหนุ่มคนนี้ก็ยังเป็นคนเดียวกับคนที่ส่งโน้ตข้อความฉบับแรกไปข่มขู่คุณด้วย แล้วก็...เรื่องยางรถยนต์ของคุณ รวมไปถึงอุบัติเหตุที่ซุปเปอร์มาเก็ตเมื่อเร็วๆ นี้นั่นด้วย เขาก็สารภาพว่า เขาเองนั่นแหละที่เป็นคนทำทั้งหมด” เจ้าหน้าที่ตำรวจอธิบายผลการสอบสวนให้ฮวางโบกับฮยอนจุงฟัง
“โอ๊ะ...นั่นมันไม่ใช่อุบัติเหตุจริงๆด้วย แต่...เขาคนนั้น...คนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดเขาเป็นใครกันค่ะ?” ฮวางโบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความสงสัย
“เขาชื่อ แชอึนมิน อายุ 22 ปีครับ ตามประวัติที่เราได้รับมาเขาคนนี้เป็นแฟนพันธุ์แท้ที่คอยให้การสนับสนุนคุณฮวางโบมาโดยตลอด และเขาก็คิดเสมอว่าคุณฮวางโบจะต้องเป็นเจ้าสาวและภรรยาในอุดมคิตของเขาเท่านั้น เพราะฉะนั้น...ตอนที่คุณฮวางโบประกาศจะแต่งงานกับคุณฮยอนจุง เขาก็เลย...เริ่มคิดวางแผนเรื่องทั้งหมดนี่ขึ้นมา” เจ้าหน้าที่ตำรวจอธิบายเพิ่มเติม
“นี่มันเรื่องจริงหรือครับ...นี่เขาต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ” ฮยอนจุงพูดอย่างหัวเสียเมื่อรู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น
“ใช่ครับ...เขาเป็นอย่างที่คุณพูดจริงๆ เพราะเขาเคยเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลจิตเวชเนื่องจากมีปัญหาเรื่องอาการซึมเซาเมื่อครึ่งปีก่อนนะครับ” เจ้าหน้าที่ตำรวจอธิบาย
“หา...อะไรนะค่ะ? นี่มันเป็นเรื่องน่าเศร้าใจมากจริงๆ แล้ว...เอ่อ...คุณตำรวจจะดำเนินคดีกับเขายังไงค่ะ?” ฮวางโบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“ก็ดูจากประวัติการเข้ารับการรักษาของเขาแล้ว ผมคิดว่าเขาอาจจะถูกส่งกลับไปที่โรงพยาบาลจิตเวชนั่นอีกครั้ง เพื่อเข้ารับการรักษาตัวต่อไป แต่ก่อนอื่น...เราขอถามพวกคุณสองคนเป็นพิเศษอีกครั้งนะครับว่า...ตอนนี้พวกคุณสองคนตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้กันยังไง....พวกคุณสองคนยังต้องการให้เขาชดใช้ความผิดอยู่อีกไหม ถ้าใช่...ทางเราจะจัดการดำเนินคดีเอาผิดกับเขาตามกฎหมายให้เองครับ” เจ้าหน้าที่ตำรวจอธิบาย
“ไม่ค่ะ..ไม่...เราไม่คิดจะเอาผิดอะไรกับเขาอีกแล้ว” ฮวางโบตอบเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นทันที โดยไม่ลังเลใจเลยแม้แต่นิดเดียว
“อะไรนะฮะ...เฮจุง” ฮยอนจุงหันไปถามเธอทันทีด้วยความแปลกใจ หลังจากที่ได้ยินเธอพูดแบบนั้น
“ฮยอนจุง...ฉันไม่ต้องการเอาผิดกับเขาอีกแล้วจริงๆ นะ และอีกอย่าง...ฉันก็ไม่รับบาดเจ็บอะไรมากมายซักหน่อยจากสิ่งที่เขาทำน่ะ เพราะฉะนั้นเราอย่าเอาผิดกับเขาอีกเลยนะ” ฮวางโบพูดกับฮยอนจุงอย่างคนขี้ใจอ่อน
“ไม่ต้องห่วงนะครับ คุณฮวางโบ เราจะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายกับเขาอย่างดีที่สุด เพราะฉะนั้นคุณสบายใจได้” เจ้าหน้าทีตำรวจพูดกับเธอ
----------------------------------------------------
หลังจากนั้น....ภายในรถตู้ของทางบริษัท DSP
“เฮ้อออ~ หลังจากเรื่องทั้งหมด สุดท้ายเราก็รู้ว่ามันไม่ใช่ฝีมือจากกลุ่มแอนตี้แฟนของ SS501” ผู้จัดการของเขาพูดอย่างโล่งอก
“แต่ผมว่า...แฟนคลับของคุณคนนี้เขาบ้าดีเดือดจริงๆ นะฮะ ถ้าเขาไม่พอใจที่คุณแต่งงานกับผมมากขนาดนั้น เขาก็น่าจะมาลงที่ผม แทนที่จะเป็นคุณซิถึงจะถูก” เขาพูดออกมาอย่างแปลกใจ
“ดีแล้วล่ะที่มันไม่เป็นอย่างนั้น แล้วอีกอย่าง...นายก็ไม่สามารถใช้ใจของนายมาคิดแทนหรือตัดสินความคิดของอื่นได้หรอก ว่าเขาควรทำหรือไม่ควรอะไร” พี่ผู้จัดการของเขาพูดด้วยเหตุผล
“แต่มันน่าเศร้าจริงๆ นะฮะ เพราะเขาอายุยังน้อยอยู่เลย ทำไมเขาถึงคิดอะไรสั้นๆ แบบนี้นะ เฮจุง...เฮจุงฮะ...คุณโอเครีเปล่า?” ฮยอนจุงพูดขึ้น ก่อนที่จะหันไปเรียกชื่อเธอหลังจากที่เห็นเธอกำลังนั่งเม่อลอยคิดอะไรอยู่คนเดียวอยู่เป็นนานสองนาน
“หา..เอ่อ..ฉันโอเคจ๊ะ...เธอไม่ต้องห่วงฉันหรอกนะ” ฮวางโบสะดุ้งตื่นจากภวังค์แล้วหันไปตอบเขาอย่างตะกุกตะกัก
“แต่อย่างน้อยตอนนี้เราก็สบายใจได้แล้วว่าคุณจะไม่ถูกใครจ้องเล็งงานหรือทำร้ายเอาอีก” ฮยอนจุงพูดออกมาอย่างโล่งอก เมื่อคิดว่าตอนนี้เธอจะไม่ถูกใครทำร้ายอีกแล้ว
<เพราะการแต่งงานของฉันกับฮยอนจุงทำให้คนบริสุทธิ์ต้องมาเจ็บปวดเพราะเราอย่างงั้นหรือ> ฮวางโบคิดกับตัวเองอย่างเจ็บปวด และจู่ๆ เธอก็รู้สึกเกลียดตัวขึ้นมา...ที่เผลอตัวไปรับข้อเสนอการแต่งงานครั้งนี้...เพียงเพราะเธอต้องการแก้แค้นบอมซัม...ผู้ชายที่ทรยศและนอกใจเธอคนนั้น
“ฉันว่าเราอย่าพูดถึงเรื่องนี้กันอีกเลยนะ เพราะพรุ่งนี้เราต้องเดินทางไปญี่ปุ่นกันอีกแล้ว เพราะฉะนั้นเราน่าจะปล่อยให้สมองเราได้ผ่อนคลายจากเรื่องนี้ลงบ้าง และก็...คุณฮวางโบครับ...มันจะดีมากเลยนะครับถ้าคราวนี้คุณเดินทางไปญี่ปุ่นกับพวกเราด้วย เพราะว่าแฟนๆ ที่ญี่ปุ่นก็ต่างเรียกร้องอยากจะให้คุณไปปรากฏตัวพร้อมกับพวกเขาด้วย” ผู้จัดการของเขาพูดกับเธอ
----------------------------------------------------
บนเครื่องบินก่อนจะถึงญี่ปุ่น
“ฮยอนจุง...มันคงเป็นเรื่องยากนะที่ฉันจะจัดห้องแยกให้นายกับคุณฮวางโบได้ เพราะว่าเจ้าพวกนั้นมันก็อยู่ที่นี่กับพวกเราด้วย และถ้าขืนฉันแยกห้องให้นายกับคุณฮวางโบ...เจ้าพวกนั้นมันต้องสงสัยเรื่องของนายกับเธอแน่ๆ เพราะฉะนั้น...นายคงต้องพักห้องเดียวกันกับเธอแล้วล่ะ” พี่ผู้จัดการของเขากระซิบบอกเขาอย่างระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาได้ยินเรื่องนี้
“ได้สิฮะ...ผมไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว” ฮยอนจุงพูดกับพี่ผู้จัดการของเขาแบบหน้าตายๆ พรางคิดในใจกับตัวเองขึ้นมาว่า <แล้วพี่..ทำไมต้องมาเจ้ากี้เจ้าการแยกห้องให้ผมกับเธอด้วยล่ะ ผมไม่ได้ขอร้องให้พี่ทำแบบนั้นซะหน่อย เพราะใจจริงผมก็กะจะใช้โอกาสนี้...ทำเนียนๆ อยู่ร่วมห้องกับเธออยู่แล้ว...ต้องขอบคุณเจ้าพวกนั้นจริงๆ ที่อยู่ที่นี่กับพวกเราด้วย ฮ่าๆๆ ขอบคุณจริงๆ นะน้องๆ ที่น่ารักของฉัน>
“หา...นายว่าอะไรนะ? เมื่อกี้นี้ฉันฟังไม่ผิดใช่ไหม...นี่หรือว่า...นายกับเธอจะ....” พี่ผู้จัดการของเขาเริ่มคิดอะไรเลยเถิด หลังจากได้ยินเขาพูด
“นี่...พี่กำลังคิดอะไรอยู่ฮะ? เรามาที่นี่เพื่อมาทำงานนะ...แล้วเราจะปล่อยให้เรื่องนั้นเกิดขึ้นได้ยังไงกันล่ะ เฮ้อ...พี่เนี่ยชอบคิดอะไรเลยเถิดอยู่เรื่อยเลย” ฮยอนจุงแกล้งบ่นพี่ผู้จัดการของเขา หลังจากที่รู้ตัวว่ากำลังจะโดนจับได้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
----------------------------------------------------
ภายในห้องพักของโรงแรม
“นี่เธอว่าอะไรนะ? เธอบอกว่าเราสองคนต้องพักห้องเดียวกันงั้นหรือ?” ฮวางโบขึ้นเสียงสูงถามเขาด้วยความตกใจ
“ก็แล้วทำไมล่ะฮะ...ทำไมเราอยู่ด้วยห้องเดียวกันไม่ได้? นี่คุณเป็นห่วงเรื่องอะไรอยู่งั้นกันแน่ฮะ? แล้วอีกอย่างที่เราสองคนต้องทำแบบนี้เพราะไม่อยากให้เจ้าพวกนั้นมันสงสัยเรื่องของเราไม่ใช่หรือฮะ” ฮยอนจุงพูดกับเธอด้วยท่าทีหงุดหงิด หลังจากที่เห็นว่าเธอดูจะไม่ค่อยเต็มใจที่จะอยู่ร่วมห้องกับเขานัก
“ก็ใช่...แต่ว่า...” ฮวางโบได้แต่พูดออกมาอย่างติดๆ ขัดๆ ด้วยความเขินอาย
“แต่อะไรอีกล่ะฮะ...นี่คุณลืมไปแล้วหรือไง...ว่าเราสองคน...มีอะไรกันไปถึงไหนๆ แล้วนะ...อ้าาาาาาาห์~....จริงซิ...แต่เรายังนอนแยกห้องกันอยู่เลยนี่น่า...เฮ้อออ!~...ไม่เป็นฮะ ถ้าคุณไม่สบายใจที่จะอยู่รวมห้องกับผม เดี๋ยวผมหาขออ้างอะไรซักอย่างไปขอนอนกับยองแซงมันก็ได้ มันคงไม่สงสัยเรื่องของเราหรอกเนอะ...จริงไหมฮะ” ฮยอนจุงแกล้งตีหน้าเศร้าพูดกับเธอ ก่อนทำท่าจะเดินออกจากห้องไป
“ไม่นะ...ไม่...เธออย่าไปกวนเขาเลย ก็ได้ๆ เราอยู่ด้วยกันที่นี่ก็ได้ ก็มันแค่ 2 คืนเองนิใช่ไหมล่ะ” ฮวางโบพูดอย่างๆ อาย พร้อมกับคว้าแขนของเขาเอาไว้ไม่ให้เขาเดินออกจากห้องไป
“จริงๆ นะฮะ” ฮยอนจุงพูดด้วยน้ำเสียงสดใสขึ้นมาทันที และกำลังตื่นเต้นดีใจจนเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่
“อืมมม...จริงสิ” ฮวางโบก้มหน้าลงก่อนจะตอบเขาด้วยท่าทางเขินอาย
เช้าวันต่อมา...ฮยอนจุงกับฮวางโบก็ตื่นสายด้วยกันทั้งคู่จนเกือบจะลงไปทานข้าวพร้อมกับน้องๆ ของเขาไม่ทัน
“อรุณสวัสดิ์ฮะ...แล้วเมื่อคืนพี่ไปทำอะไรมาฮะ...ถึงได้ดูอ่อนเพลียซะขนาดนี้? ฮ่าๆๆ” จองมินพูดแหย่ฮยอนจุงทันทีที่เจอหน้า
“ไม่มี...แล้วก็ถ้าปากของนายมันว่างนัก ก็กินแครอทของนายต่อไปซะสิ อย่ามาถามอะไรเซ้าซี้อีกไม่งั้นนายเจอดีแน่” ฮยอนจุงพูดกับจองมินอย่างรำคาญใจ
หลังจากพวกเขาทานอาหารเช้าร่วมกันอย่างรวดเร็วจนเสร็ว พวกเขาทั้งหมดก็ออกเดินทางไปที่งานมีทติ้งเพื่อพบปะแฟนๆ ของพวกเขา และในงานนั้นก็มีแฟนคลับที่มาให้กำลังใจฮวางโบอยู่มากมายเช่นกัน และก็มีป้ายข้อความที่แฟนๆ เขียนมาให้กำลังใจเธอโดยเฉพาะอยู่ไม่น้อยอีกด้วย บางป้ายก็มีข้อความเขียนว่า ‘เรารักมิสซิสคิม’ หรือบางป้ายก็จะมีข้อความเขียนว่า ‘พวกเราจะรักฮวางโบตลอดไป’ และข้อความเหล่านี้จะยิ่งถูกสังเกตได้ง่ายขึ้นเมื่อเหล่าบรรดาแฟนคลับต่างพร้อมใจชูมันขึ้นสูงเหนือศีรษะของพวกเขานั่นเอง และสิ่งนี้มันก็น่าทึ่งมากซะจน ฮวางโบคิดว่าถ้าหากตอนนี้มีใครมาเห็นเหมือนอย่างที่เธอเห็นตอนนี้ล่ะก็ พวกเขาคงอาจจะเข้าใจผิดได้ง่ายๆ ว่านี้คืองานแฟนมีทติ้งของฮวางโบ มากกว่าเป็นงานแฟนมีทติ้งของ SS501 ซะอีก
----------------------------------------------------
หลังจากกลับถึงห้องพักภายในโรงแรม
“ว้าววว~ จริงๆ ด้วย ฮยอนจุง...มาดูนี่สิ...มันประกาศลงบนเว็บไซด์อย่างเป็นทางการแล้วนะ ขอแสดงความยินดีด้วยจ๊ะ นี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะที่เธอจะได้รางวัลใหญ่แบบนี้” ฮวางโบพูดอย่างตื่นเต้น หลังจากเห็นอะไรบางอย่างบนเว็บไซด์
“ขอบคุณนะฮะ แต่...ผมต้องขอบคุณคุณมากกว่า เพราะสิ่งที่ผมได้อยู่ตอนนี้มันเป็นเพราะคุณนั่นแหละฮะ เพราะฉะนั้นผมขอมอบรางวัลนี้ให้กับคุณนะ และผมก็อยากให้คุณไปร่วมงานรับรางวัลในคืนนั้นกับผมด้วย คุณจะไปกับผมได้ไหมฮะ?” เขาถามเธออย่างมีความหวัง
“จริงๆ นะ...เธออยากให้ฉันไปเธอด้วยจริงๆ หรือ? แล้วก็...สำหรับรางวัลนะ...ฉันไม่อยากได้ของเธอหรอกนะ เพราะถ้าหากฉันจะได้รับมันจริงๆ ฉันอยากได้มันเพราะความสามารถของฉันเองมากกว่า แต่...ยังไงก็ขอบคุณนะจ๊ะ” ฮวางโบพูดตอบเขายิ้มๆ
“ซักวันคุณจะต้องได้รับรางวัลแบบนี้อย่างแน่นอน เพราะแฟนๆ ที่รักคุณต่างก็รู้จักตัวตนของคุณดีว่าคุณนะเป็นคนดีและเก่งมากแค่ไหน ส่วนแฟนๆ ที่เพิ่งจะรู้จักคุณเขาก็จะได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของคุณในไม่ช้า และพวกเขาจะต้องตกหลุมรักและรักคุณตลอดไปเช่นกัน เพราะฉะนั้น สู้ๆ ไฟท์ติ้งๆ” เขาพูดพร้อมกับสิ่งยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับเธอ
“จ๊ะ...สู้ๆ ไฟท์ติ้งๆ” ฮวางโบตอบเขาและยิ้มกลับไปให้เขาอย่างมีความสุขเช่นกัน
หลังจากนั้นอีก 2 วัน พวกเขาทั้งหมดก็บินกลับเกาหลีตามกำหนดการ และเมื่อถึงสนามบินนานาชาติเกาหลีแล้ว ฮยอนจุงกับฮวางโบก็ขอตัวแยกกลับไปที่บ้านของพวกเขาทันที
----------------------------------------------------
โปรดติดตามตอนต่อไป (ตอนที่ 15 พาร์ท 1)
ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “โอ๊ะ...นั่นอะไรน่ะ?” “นี่เธอ...ยังเก็บมันเอาไว้อีกหรือ?” “ฮยอนจุง...ทำไม...ทำไมเธอถึงทำแบบนี้? เธอก็รู้ไม่ใช่หรือว่าการแต่งงานของพวกเราสองคนมันก็แค่....” “ผมรู้ฮะ...ผมรู้...ผมรู้ว่าซักวันหนึ่งการแต่งงานของพวกเรามันก็ต้องสิ้นสุดลง แต่ตราบใด...ที่ผมและคุณยังใช้ชีวิตแต่งงานอยู่ด้วยกัน นี่คือ...สิ่งที่ผมมุ่งมั่นและตั้งใจจะทำให้กับคุณฮะ” “พี่ค่ะ...พี่จำเรื่องที่พี่เคยพูดกับฉันก่อนหน้านี้ได้ไหมค่ะ....” “พี่ฮยอนจุงค่ะ...มันเป็นความจริงค่ะ...และถ้าหากตอนนี้พี่ขอร้องไม่ให้ฉันไป...ฉันจะยกเลิกการเดินทางไปลอนดอนทันทีเลยค่ะ...พี่ค่ะ...” “โอ๊ะ!!!~ พี่สาว”
Create Date : 05 สิงหาคม 2553 |
|
2 comments |
Last Update : 5 สิงหาคม 2553 18:58:19 น. |
Counter : 577 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: มินมิน IP: 125.25.238.74 5 สิงหาคม 2553 22:15:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: panwat 5 สิงหาคม 2553 23:00:09 น. |
|
|
|
| |
|
"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"
|
|
|
|
|
|
|
|