Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
26 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 

เธอ...เขา...และรักเรา ตอนที่ 21

ที่โรงพยาบาล

ฮยอนจุงได้แต่ยืนอยู่กับที่ไมไหวติง และสายตาของเขาก็กำลังจ้องมองเข้าไปในห้องผ่าตัดผ่านทางช่องกระจกที่ติดอยู่ที่ประตูด้านหน้านั้นโดยไม่ยอมละสายตาไปไหน....

“พี่ไม่ต้องห่วงหรอกฮะ พี่สะใภ้จะต้องไม่เป็นไร มานี่เถอะฮะ มานั่งพักตรงนี่ก่อน” จองมินเดินเข้าไปพูดปลอบใจฮยอนจุงที่กำลังเป็นกังวลเรื่องอาการของฮวางโบอยู่

แต่...ฮยอนจุงกลับไม่ยอมขยับเขยื้อนตัวไปไหนเลย จนจองมินได้แต่ถอนหายออกมาเสียงดังและเดินกลับออกมาจากเขา

และในตอนนั่นเอง....โบรัมก็ได้พาพ่อแม่ของทั้งฮยอนจุงและฮวางโบมาถึงที่โรงพยาบาล

และทันที...ที่ไฟในห้องผ่าตัดนั้นดับลง หมอเจ้าของไข้ของฮวางโบก็เดินออกมาจากห้องนั้น

“คุณหมอครับ...ภรรยาของผมเป็นยังไงบ้างครับ?” นี่คือสิ่งแรกที่เขาถามหมอทันทีที่ออกจากห้อง

“เธอปลอดภัยแล้วครับ...แต่...เราไม่สามารถช่วยชีวิตลูกที่อยู่ในท้องของเธอเอาไว้ได้” คุณหมอพูดกับเขาด้วยความเสียใจ

“อะไรนะฮะ...เมื่อกี้คุณหมอว่าอะไรนะฮะ...ลูกงั้นหรือฮะ?” ฮยอนจุงถามคุณหมอด้วยความตกใจ

“ใช่ครับ...ภรรยาของคุณเธอตั้งครรภ์ได้ 1 เดือนกว่าๆ แล้วครับ” คุณหมอตอบเขา

“อะไรนะค่ะ? ฮเยจุง...ลูกสาวของฉันท้องงั้นหรือค่ะ?” แม่ของฮวางโบอุทานออกมาด้วยความตกใจจนแทบจะล้มทั้งยืนเช่นกัน

“ทำไม...แกถึงไม่บอกแม่ว่าลูกสะใภ้ของเรากำลังท้องอยู่ฮ้าห์~? แล้วทำไม...แกถึงได้ปล่อยให้เมียของแกเจอเรื่องแบบนี้ได้ฮ้าห์!~...ฮยอนจุง? นี่โชคยังดีนะที่ฮเยจุงปลอดภัย เพราะถ้าไม่อย่างงั้นแม่ก็จะฆ่าแกด้วย! ฮยอนจุง...แกนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ!!!” แม่ของฮยอนจุงตะโกนใส่หน้าฮยอนจุงด้วยความโมโหและเสียใจ

ขณะที่...ฮยอนจุงเองก็กำลังสับสนกับคำพูดของหมอ <นี่เราสูญเสียลูกของเราไปแล้วงั้นหรือ...มันเกิดเรื่องบ้าแบบนี้ขึ้นได้ยังไง?> ฮยอนจุงได้แต่คิดโทษตัวเองอยู่ในใจ

“เอ่อ...ขอโทษนะค่ะ แต่นี่มันโรงพยาบาลนะค่ะ พวกคุณช่วยเบาเสียงกันลงหน่อยจะได้มั้ยค่ะ” พยาบาลคนหนึ่งพูดปรามพวกเขา หลังจากที่เห็นว่าพวกเขากำลังทำเสียงดังรบกวนคนไข้และคนอื่นๆ ที่อยู่ในโรงพยาบาล

“ฮยอนจุง...เขาไม่รู้เรื่องนี้หรอกค่ะ เพราะฮเยจุงต้องการปิดมันไว้เป็นความลับจากเขาก่อน ว่าแต่เมื่อไหร่พวกเราถึงจะเข้าไปเยี่ยมเธอได้ค่ะคุณหมอ?” โบรัมพูดแก้ตัวแทนฮยอนจุง และถามถึงอาการของฮวางโบด้วยความเป็นห่วง

“อ๋อ...เรากำลังจะพาเธอไปที่ห้องพักผู้ป่วยอยู่แล้วครับ ว่าแต่คุณฮยอนจุงคุณจะเข้าไปดูเธอก่อนไหมครับ....คุณคิมฮยอนจุง...คุณคิมฮยอนจุงครับ...” คุณหมอพยายามเรียกชื่อเขาหลังจากที่เห็นเขาไม่มีท่าทีจะตอบสนองใดๆ

“พี่ฮะ...คุณหมอกำลังเรียกพี่อยู่นะฮะ” เบบี้เดินเข้าไปพูดและสะกิดที่แขนของเขาเพื่อให้เขารู้สึกตัว

“หา....เอ่อ...ครับ?” ฮยอนจุงรีบพูดออกมาด้วยความตกใจหลังจากได้สติกลับคืนมาเรียบร้อยแล้ว

“แล้ว...เอ่อ...ผมมีเรื่องที่ต้องการบอกกับคุณเป็นการส่วนตัวด้วยครับ ไม่ทราบว่าคุณจะพอมีเวลามาที่ห้องตรวจของผมหน่อยจะได้มั้ยครับ?” คุณหมอพูดกับเขาได้ไม่เต็มปากเต็มคำ

----------------------------------------------------------------------

ในห้องตรวจของคุณหมอ

“ก่อนอื่นผมคงต้องขอแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ก่อนนะครับ” คุณหมอแสดงความเสียใจกับฮยอนจุงอย่างจริงใจ

“ไม่ครับ...ไม่เป็นไร...แต่ผมไม่เคยรู้เลยว่าเธอกำลังท้อง!! ผม...มัน...ผมมันโง่จริงๆ” ฮยอนจุงได้แต่พูดตัดพ้อตัวเองด้วยความเสียใจต่อหน้าคุณหมอ ก่อนที่จะเริ่มตีหัวตัวเองอย่างแรงให้สาสมกับความโง่และความไม่เอาไหนของเขาเป็นอันดับแรก

“ได้โปรด...อย่างทำแบบนี้เลยครับคุณฮยอนจุง และผมก็มีเรื่องบางอย่างที่จะต้องบอกให้คุณรู้ด้วย เพราะฉะนั้น...ได้โปรดตั้งสติของตัวเองเอาไว้ให้ดีๆ นะครับ หลังจากที่ได้ยินเรื่องที่ผมกำลังจะบอกคุณแล้ว” คุณหมอพยามพูดเข้าเรื่องในเรื่องที่เขาต้องการจะบอกกับฮยอนจุง

“แล้วมัน...เรื่องอะไรกันล่ะครับคุณหมอ?” เขารีบถามคุณหมอทันทีด้วยความสงสัยและเป็นกังวล หลังจากเห็นท่าทางของคุณหมอดูไม่ค่อยสบายใจที่จะพูดถึงมัน

“เอ่ออ...คือ...เรื่องที่ผมกำลังจะบอกคุณก็คือ...โอกาสที่ภรรยาของคุณจะตั้งครรภ์ใหม่ได้อีกครั้งมันมีแค่เพียง 1% เท่านั้น หรือบางทีมันอาจจะน้อยกว่านั้นก็ได้ครับ” คุณหมอพูดกับฮยอนจุงด้วยความลำบากใจ และรู้สึกเสียใจไปกับพวกเขาด้วย

“อะไรนะฮะ? เมื่อกี้คุณหมอพูดว่าอะไรนะฮะ?” ฮยอนจุงกำลังสับสนและแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเมื่อได้ยินอย่างนั้น

“เพราะภรรยาของคุณเคยทำแท้งมาแล้วครั้งนึง และจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในวันนี้มันก็ยิ่งทำให้สภาพร่างกายภายในของเธอบอบช้ำอย่างรุนแรงมากขึ้นไปอีก...มันก็เลยทำให้เธอ...” คุณหมอพยายามอธิบายให้ฮยอนจุงฟัง

“ไม่นะครับคุณหมอ เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับเธอไม่ได้ เพราะเธอเป็นคนที่รักเด็กมากๆ เพราะฉะนั้น ได้โปรดเถอะครับ คุณหมอต้องช่วยหาทางออกให้กับเรานะครับ” ฮยอนจุงอ้อนวอนของคุณหมออย่างร้อนรน และรู้สึกสงสารฮวางโบขึ้นมาจับใจ

“ผมเสียใจจริงๆ ครับ แต่...ตอนนี้เราไม่สามารถทำอะไรกับเรื่องนี้ไปได้มากกว่านี้อีกแล้วจริงๆ และผมก็รู้ครับว่าคุณฮวางโบเธอเป็นคนที่มีจิตใจดีแค่ไหน เพราะฉะนั้น...ผมคิดว่า...พระเจ้าคงต้องให้ความเป็นธรรมกับเธออย่างแน่นอน...คุณอย่าเพิ่งกังวลให้มากเลยครับ เพราะบางทีมันอาจจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับพวกคุณก็ได้” คุณหมอทำได้แค่เพียงพยายามพูดปลอบใจฮยอนจุงเท่านั้น………….

----------------------------------------------------------------------

ยอนจุงเดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วยเพื่อมาพบกับพวกน้องๆ ของเขาและโบรัมก็กำลังรอเขาอยู่ที่ด้านนอก ในขณะที่แม่ของฮวางโบและพ่อแม่ของเขายังคงอยู่ในห้องเป็นเพื่อนเธอในขณะที่เธอยังไม่รู้สึกตัว...

“เฮย์...นายโอเคนะฮยอนจุง?” ยองแซงถามเขาด้วยความเป็นห่วง

“พี่ฮะ...พี่เป็นอะไรรึเปล่า? ทำไมหน้าพี่ถึงได้น่ากลัวจัง พี่อย่าทำให้พวกเราตกใจซิฮะ” คยูจงพูดกับเขา และกำลังรู้สึกใจไม่ดี เพราะรู้ว่ามันต้องมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นกับพี่ชายของเขาแน่ๆ

ฮยอนจุงพูดไม่ออกได้แต่เดินโซซัดโซเซเหมือนคนไม่แรงและปล่อยให้น้ำตาของตัวเองให้ไหลออกมา จนในที่สุดเขาก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นและปล่อยโฮออกมาอย่างน่าเวทนา

“ฮยอนจุง!!~ มันเกิดอะไรขึ้นฮ้าห์?~~” ยองแซงถามเข้าด้วยความตกใจ หลังจากเห็นสภาพของเขาแล้ว

แต่ฮยอนจุงก็เอาแต่ร้องไห้และร้องไห้ต่อไปไม่ยอมหยุด จนทำให้พวกน้องๆ สับสนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา..ที่พวกเขารู้จักลีดเดอ์ของพวกเขาคนนี้...เขาช่างเป็นผู้นำที่เหย่อหยิ่งและสุขุมเยือกเย็นเป็นที่สุด...แต่ในเวลานี้พวกเขากลับได้เห็นลีดเดอร์ของพวกเขาคนนี้กำลังนั่งร้องไห้อย่างหนักโดยไม่ทีท่าว่าจะหยุด และยังร้องไห้ออกโดยไม่แคร์สายตาใครอีกด้วย ยองแซงที่เห็นอย่างนั้นก็ได้แต่เดินเข้าไปและทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ฮยอนจุง....โดยที่เขาเองก็ไม่รู้จริงๆ ว่าเขาจะต้องทำยังไงเพื่อให้เพื่อนของเขาคนนี้รู้สึกดีขึ้น แต่สิ่งที่เขาสามารถทำได้ตอนนี้และดีที่สุดก็คือการโอบไหล่ฮยอนจุง...ที่เป็นทั้งลีดเดอร์และเพื่อนสนิทของเขาเอาไว้เพื่อเป็นการปลอบโยนฮยอนจุงนั่นเอง....

“ฮยอนจุงจ๊ะ...ฮเยจุงเธอฟื้นแล้วนะ แล้ว...แล้วเธอก็กำลังถามถึงลูกในท้องของเธออยู่ แม่ไม่รู้....แม่ไม่รู้จริงๆ ว่าจะพูดยังไงกับเธอดี” แม่ของฮวางโบพูดออกมาอย่างสะเทือนใจ

“ฮยอนจุง...น้องสะใภ้เธอกำลังต้องการนายอยู่นะตอนนี้ เพราะฉะนั้นนายต้องเข้มแข็งเอาไว้ซิ ได้ยินมั้ย...ฮยอนจุง” ยองแซงพยายามเรียกสติเขาให้กับคืนมาอีกครั้ง และดูเหมือนว่ามันจะได้ผลดีซะด้วย เพราะฮยอนจุงรีบลุกขึ้นยืนทันทีในขณะที่พยายามใช้มือของตัวเองปาดคราบน้ำตาบนใบหน้าของตัวเองให้แห้งสนิท

“เอ่อ...คุณแม่ครับ...ไม่ต้องห่วงนะครับ...ผมจะเป็นคนบอกเรื่องนี้กับเธอเอง” ฮยอนจุงพูดกับแม่ของฮวางโบ ในขณะที่พยายามทำตัวเองให้เข้มแข็งขึ้นมาอีกครั้ง

หลังจากนั้น...ฮยอนจุงก็เดินเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย ในขณะที่ฮวางโบกำลังอยู่บนเตียงคนไข้ของเธอ ริมฝีปากของเธอช่างดูซีดเผือด และดวงตาของเธอก็กำลังมีน้ำตาออกมาคลอเบ้า...

“ฮยอนจุง!!~~ ลูกของเรา...ลูกของเรา เธอบอกฉันทีได้มั้ยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับลูกของเรา?” ฮวางโบถามเขาด้วยเสียงที่สั่นเครือ และกำลังจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว

“ฮเยจุง...ผม...ผมเสียใจฮะ....” ฮยอนจุงพูดอะไรไม่ได้มากไปกว่านั้น เพราะเขาเองก็กำลังรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาเหมือนกัน

“นี่เรา....เราเสียลูกของเราไปแล้วใช่มั้ยฮยอนจุง? ตอบฉันมาซิ...ตอบฉันมา...เราสูญเสียลูกของเราไปแล้วใช่มั้ย!!!~ ฮือๆๆ” ฮวางโบเริ่มควบคุมตัวเองไม่อยู่และเริ่มปล่อยโฮออกมาด้วยความเสียใจ ในขณะที่กำลังพยายามจะลุกขึ้นยืน

“ฮเยจุง...คุณอย่างเพิ่งลุกขึ้นซิฮะ!!!” เขาพยายามห้ามเธอด้วยความตกใจ

“ฮยอนจุง...ฉันต้องการลูกของเรา...เธออย่าให้พวกเขาเอาแกไปนะ ฮือๆๆ ทำไมเธอ...ทำไมเธอถึงปล่อยให้พวกเขาฆ่าลูกของเรา...ทำไม...ทำไมฮ้าห์!~...ฮยอนจุง!!!” ฮวางโบได้แต่หาข้ออ้างมาตำหนิเขาด้วยความเสียใจ ในขณะที่กำลังร้องไห้ไปด้วยอย่างน่าสงสาร

“ฮเยจุงฮะ...ผมเสียใจ...ผมเสียใจจริงๆ...ที่ไม่อาจปกป้องลูกของเราเอาไว้” ฮยอนจุงพูดออกมาด้วยความสะเทือนใจและเสียใจกับเรื่องนี้ไม่น้อยไปกว่าเธอ

ฮยอนจุงรู้ดีว่าเธอต้องเจ็บปวดมากแค่ไหน และเขาเองก็รู้สึกไม่ต่างไปจากเธอ...ไม่มีคำปลอบโยนใดๆ ที่สามารถกลั่นกรองออกมาเป็นคำพูดเพื่อแทนความรู้สึกของเขาได้เลย และมีสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ดีที่สุดตอนนี้ก็คือการกอดเธอไว้ให้แน่นที่สุดเท่าที่เขาสามารถทำได้เพื่อเป็นการปลอบโยนเธอ แต่เขารู้ว่ามันไม่ได้ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่พวกเขาทั้งสองกำลังเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ได้เลย....

หลังจากนั้น...คุณหมอก็เข้ามาฉีดยาให้กับฮวางโบเพื่อให้เธอใจเย็นและสงบลง และเธอก็ล้มตัวลงหลับสนิทในทันที ฮยอนจุงเดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วยอีกครั้ง และเห็นว่าน้องๆ ของเขายังคงรอเขาอยู่ข้างนอกห้องนั้นเพื่อเป็นกำลังใจเขาอยู่...

“ฮยอนจุง...เอ่อ...ฉันรู้นะว่าตอนนี้นายกำลังมีปัญหาอย่างหนัก แต่เราก็มีกองทัพนักข่าวกลุ่มใหญ่กำลังรอพวกเราอยู่ข้างนอกโรงพยาบาลเหมือนกัน เพราะฉะนั้นฉันว่านายคงต้องออกไปพูดอะไรกับพวกเขาซะหน่อยแล้วล่ะ” พี่ผู้จัดการของเขาบอกอย่างเกรงใจและรู้สึกเห็นใจน้องชายคนนี้เป็นที่สุด

เมื่อฮยอนจุงและพวกน้องๆ เดินออกไปที่ด้านนอกประตูทางเข้า-ออกของโรงพยาบาล พวกนักข่าวทั้งหมดก็กรูกันเข้ามาและเริ่งยิงคำถามและกดชัตเตอร์ถ่ายรูปพวกเขาไม่หยุด

“คุณฮยอนจุงครับ...ตอนนี้อาการคุณฮวางโบเป็นยังไงบ้างครับ?” นักข่าวคนนึงถามเขา

“ขอบคุณพวกคุณทุกคนนะครับที่เป็นห่วงกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนี้ภรรยาของผมอาการยังคงที่อยู่ครับ”

“แล้วเป็นเรื่องจริงรึเปล่าค่ะที่คุณฮวางโบเธอกำลังตั้งครรภ์อยู่ แต่ต้องมาสูญเสียลูกในท้องไปเพราะเหตุการณ์ในวันนี้น่ะค่ะ?” นักข่าวอีกคนถามเขา

“เอ่อ...ใช่ครับ...เธอกำลังตั้งท้องลูกของเรา และ...พวกเราก็ได้สูญเสียลูกของเราไปแล้วด้วย....” ฮยอนจุงตอบคำถามนักข่าวคนนั้นด้วยความขมขื่น

“แล้วนี่คุณจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุในเรื่องนี้ยังไงบ้างครับ? เพราะมีข่าวลือว่าเด็กผู้หญิงที่ก่อเหตุคนนี้เคยเป็นแฟนเก่าของคุณไม่ใช่หรือครับ?” นักข่าวอีกคนยิงคำถามใส่เขาอย่างตรงประเด็น

“เอ่อ...ขอโทษนะครับ แต่ทางบริษัทของเราคงต้องขอจบการแถลงข่าวไว้เพียงเท่านี้ และวันนี้...คิมฮยอนจุงเองก็เหนื่อยมากๆ แล้วด้วย เพราะฉะนั้นเราน่าจะจบทุกอย่างไว้ที่นี่ได้แล้วนะครับ และถ้าเป็นไปได้...ได้โปรด....ช่วยแยกย้ายกันกลับออกไปจากหน้าโรงพยาบาลด้วยนะครับ เพราะที่นี่มีผู้ป่วยมากมายที่ต้องการการพักผ่อน...ถือว่าผมขอร้องนะครับ” พี่ผู้จัดการของเขาออกมาช่วยพูดแก้ไขสถานการณ์

และคืนนั้น....ฮยอนจุงก็คอยอยู่เฝ้าไข้ฮวางโบตลอดทั้งคืน โดยที่มือของเขายังคงกุมมือของฮวางโบไว้แน่นตลอดเวลาก่อนที่เขาจะฟุบหลับไป

เช้าวันต่อมา...ฮยอนจุงก็ถูกทางตำรวจเรียกไปสอบปากคำ ผู้จัดการของพวกเขารวมถึงยองแซงเองก็ตามไปที่สถานีตำรวจเป็นเพื่อนเขาด้วย

และหลังจากนั้นที่ให้ปากคำเรียบร้อยแล้ว ฮยอนจุงก็ขอร้องทางตำรวจเพื่อไปพบยองบิน....

“ฮยอนจุง...ฉันจะไปกับนายด้วย” ยองแซงพูดพร้อมกับแตะไหล่ของเขาเบาๆ เพื่อเป็นกำลังใจ

----------------------------------------------------------------------

ที่ห้องขัง

“ยองบิน...ทำไมเธอถึงทำอะไรโง่ๆ แบบนี้?” ยองแซงตัดพ้อยองบินอย่างเสียความรู้สึก

“ฮึๆๆ...ทำไมงั้นหรือ? ก็เพราะว่า...ถ้าฉันไม่ได้พี่ฮยอนจุง คนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์ได้พี่ฮยอนจุงไปเหมือนกันไงล่ะ!!” ยองบินพูดพร้อมแสยะยิ้มออกมาอย่างเลือดเย็นกลับไปให้พวกเขา

“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะเป็นคนโหดร้ายแบบนี้!!!” ฮยอนจุงพูดอย่างผิดหวัง

“โหดร้ายงั้นหรือ? แล้วพี่รู้มั้ยว่าฉันต้องทนทุกข์ทรมานมากแค่ไหนเมื่อตอนที่เราเลิกกันนะ? แต่พี่...กลับปรับตัวได้ทันทีหลังจากที่เราเลิก พี่ลืมเรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวกับฉันได้ทันทีเพราะวง SS501 ของพี่กำลังก้าวไปสู่ความมีชื่อเสียง แล้วฉันล่ะ? ฉันต้องคอยเพิ่งยาหลับตลอดเพื่อให้ได้นอนหลับและลืมพี่ เริ่มจาก 1 เม็ดในทุกๆ วัน เป็น 2 เม็ด และมันก็มากกว่า 4 เม็ดในที่สุด และในไม่ช้าฉันรู้ตัวเองว่าฉันไม่สามารถนอนหลับลงได้ถ้าไม่เพิ่งมัน ฉันต้องต่อสู้ดิ้นรนกับทั้งเรื่องการเรียน ปัญหาเรื่องปากท้องของครอบครัว และก็ยังเรื่องของพี่อีก จนในที่สุด....ฉันก็ต้องลาออกจากโรงเรียน และฉันก็ยังต้องสะเทือนใจอยู่ลึกๆ เพราะความทรมานเพื่อเอาพี่ออกไปจากใจของฉันให้ได้ แต่...พี่กับปรากฏตัวผ่านทางทีวี หนังสือพิมพ์ และนิตยสารต่างๆ ให้ฉันเห็นจนฉันแทบจะเป็นบ้าเพราะใบหน้าของพี่คอยตามหลอกหลอนฉันอยู่ทุกวัน!! จนในที่สุดพ่อกับแม่ของฉันก็ตัดสินใจส่งฉันไปที่โรงพยาบาลบ้านั่น เพราะพวกท่านไม่สามารถคอยดูแลฉันได้ตลอด 24 ชั่วโมง และแม้แต่ตอนที่ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลฉันก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะฆ่าตัวตาย แต่...โชคยังดีที่ฉันรอดมาได้...ฮึๆๆ...พระเจ้าท่านคงต้องการให้ฉันมีชีวิตรอดเพื่อมาฆ่านังผู้หญิงสารเลวคนนั้นแน่ๆ!!” ยองบินพูดระบายความอัดอั้นตันใจออกมาราวกับคนเสียสติ

“ยองบิน...เธอ...เธอไม่ใช่ยองบินคนเก่าที่พวกเราเคยรู้จักอีกต่อไปแล้ว” ยองแซงพูดอย่างผิดหวังและเสียใจสุดๆ

“ฮ่าๆๆ...ใช่...ยองบินคนนั้นที่พวกพี่รู้จักมันได้ตายไปแล้ว...ตายไปตั้งแต่ตอนที่พ่อของฉันบอกความจริงกับฉัน เรื่องที่ฉันกับพี่ฮยอนจุงเป็นญาติกัน...มันเป็นเรื่องโกหกยังไงล่ะ พ่อบอกเรื่องทั้งหมดกับฉันหลังจากที่ท่านรู้ตัวว่าตัวเองเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ท่านไม่อยากจากไปทั้งๆ ที่ยังเสียใจกับเรื่องนั้นอยู่ ทำไม...ทำไมพ่อต้องบอกความจริงกับฉันด้วย!! พ่อทิ้งฉันไว้...ให้กับอยู่กับความเสียใจไปตลอดชีวิต และตอนนั้นเอง...ที่ฉันต้องการให้พ่อของฉันตาย..ตายไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เลย เพราะ...ฉันเกลียดเขา...เกลียดเขาที่สุด!!! และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันกลับไปป่วยอีกครั้ง...จนต้องกลับเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลบ้านั่นอีก และเมื่อตอนที่ฉันได้ยินข่าวเรื่องการแต่งงานของพี่...ฉันก็บอกกับตัวเองในทันทีว่าฉันต้องหาทางออกจากโรงพยาบาลนี้ให้ได้...” ยองบินพูดสาธยายเรื่องทั้งหมดให้ยองแซงและฮยอนจุงฟังอย่างไม่สะทกสะท้าน

“งั้น...ตอนที่เธอไปพบกับฉันหลังจากเสร็จงานแสดงของพวกเรา เธอก็เพิ่งถูกปล่อยตัวออกมาจากโรงพยาบาลน่ะซิ? แล้วยังเรื่องที่เธอบอกกับฉันว่าเธอไปอยู่ลอนดอนเพราะได้ทุนจากโครงการแลกเปลี่ยนมาครึ่งปีก่อน...มันก็เป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเลยใช่มั้ยยองบิน?” ยองแซงถามเธออย่างเจ็บปวดและกำลังรู้สึกว่าตัวเองโง่มากที่ปล่อยให้ยองบินหลอกเอาได้

“ช่ายยยย...นั่นเป็นก้าวแรกของแผนการณ์ทั้งหมดที่ฉันวางเอาไว้” ยองบินตอบกลับอย่างไม่สะทกสะท้านอีกครั้ง

“แล้วเรื่องอึนมินล่ะ? ทำไมเขาถึงเต็มใจยอมรับผิดแทนเธอล่ะ?” ฮยอนจุงถามเธอด้วยความสงสัย

“เพราะเขารักฉันไงค่ะ...เราพบกันตอนที่เราอยู่ที่โรงพยาบาลด้วยกัน...เขาเองก็ไปที่นั่นเพื่อบำบัดอาการซึมเซาจากอาการอกหักเหมือนกับฉันเหมือนกัน เขาบอกกับฉันว่าเขายินดีจะทำทุกอย่างเพื่อฉัน เพราะฉะนั้น...ฉันก็เลย....” ยองบินพูด

“แล้วเรื่องทั้งหมดนี้มันเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ฮ้าห์!!~? ฉันไม่เคยรู้เลยจริงๆ ว่าฉันกำลังเก็บคนร้ายไว้ใกล้ตัวฉันมากขนาดนี้ ฉันนี่มันโง่บัดซับจริงๆ” ฮยอนจุงได้แต่ต่อว่าตัวเองอย่างเจ็บใจ

หลังจากกลับออกมา...ฮยอนจุงก็ได้รับโทรศัพท์จากแม่ของฮวางโบ

“ฮยอนจุง...นี่เธออยู่ที่ไหนน่ะ...เร็วๆ เข้า เธอรีบกลับมาที่โรงพยาบาลด่วนเลยนะ” แม่ของฮวางโบพูดด้วยความร้อนรน

“โอ๊ะ!!~ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับฮเยจุงงั้นหรือครับคุณแม่?” ฮยอนจุงถามกลับไปด้วยความร้อนรนเช่นกัน

“ก็ใช่นะสิ...ฮเยจุง...เขากำลังจะเป็นโรคประสาทอยู่แล้วตอนนี้!!!” แม่ของฮวางโบตอบกลับเขาไปอย่างกระวนกระวายและร้อนใจ

และเมื่อฮยอนจุงมาถึงที่โรงพยาบาล...ฮวางโบก็หลับไปเรียบร้อยแล้ว

“คุณแม่ครับ...มันเกิดอะไรขึ้นหรือครับ?” ฮยอนจุงถามแม่ของเธอด้วยความเป็นห่วง

“ก็ลูกสาวที่น่าสงสารของฉัน...เธอรู้แล้วนะซิ...ว่า....เธอไม่สามารถมีลูกได้อีกแล้ว...” แม่ฮวางโบพูดไปร้องไห้ไปอย่างเจ็บปวดเพราะสงสารลูกสาวของตัวเองขึ้นมาจับใจ

“อะไรน่ะฮะ? แล้วใคร...ใครเป็นคนบอกเธอฮะ?” ฮยอนจุงถามด้วยความตกใจและเป็นห่วงเธอขึ้นมาทันที

“แม่คิดว่าเธอคงบังเอิญได้ยินพวกพยาบาลพูดคุยกันตอนอยู่ข้างเตียงเธอนะ เธอเลยเกิดอาการคลุ้มคลั่งหลังจากที่ได้ยินเรื่องนั้น คุณหมอเลยจัดการให้ยาระงับประสาทกับเธอ และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงได้หลับอยู่ตอนนี้ไงล่ะ” แม่ของฮวางโบเล่าทุกอย่างให้ฮยอนจุงฟัง

“โอ้ว์...ไม่นะ...พระเจ้า...ทำไมท่านถึงต้องให้เธอมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วยนะ? ผมซิ..ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพราะฉะนั้นได้โปรด...ถ้าท่านต้องการเอาผิดกับใครซักคน...ได้โปรด...เอาทุกอย่างมาลงที่ผมเถอะนะ...และปล่อยเธอไปเถอะ...ถือผมอ้อนวอนท่านแล้ว...” ฮยอนจุงทำได้เพียงขอร้องและวิงวอนต่อพระผู้เจ้าด้วยความเจ็บปวดและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด....

----------------------------------------------------------------------

โปรดติดตามตอนต่อไป (ตอนที่ 22)

ตัวอย่างบางช่วงบางตอน
“นี่พวกนาย...เมื่อคืน...ฮยอนจุงมันไม่ได้กลับบ้านเลยใช่มั้ย
“ออกไปนะ...ออกไป!!! ฉันไม่อยากเห็นเธอ...ได้ยินมั้ยฮยอนจุง”
“ฮเยจุงฮะ...ได้โปรดใจเย็นๆ ก่อนได้มั้ยฮะ คุณกำลังไม่สบายอยู่นะ”
“เข้าไปแล้ว...ฮเยจุง...เข้าไปแล้ว....ชู่วววว์....ใจเย็นๆ ก่อนนะ”
“ฮเยจุง!!~ นั่นคุณกลับมาแล้วหรือฮะ?”
“ใช่จ๊ะ...ฉันเพิ่งกลับมาถึงเมื่อวานนี้เอง แล้วเอ่อ...ตอนนี้ฉันโทรมารบกวนเธอรึเปล่าจ๊ะ?”
“ไม่ฮะ...ไม่รบกวนเลย...ฮเยจุง...แล้วตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนฮะ? เพราะผมอยากไปเห็นหน้าคุณใจจะขาดแล้วฮะ”
“ฉันเองก็อยากจะเจอเธอเหมือนกัน และตอนนี้ฉันก็อยู่ที่อพาร์ทเมนท์ของพวกเราแล้วด้วย”




 

Create Date : 26 สิงหาคม 2553
4 comments
Last Update : 26 สิงหาคม 2553 20:21:19 น.
Counter : 464 Pageviews.

 

เจ็บปวดที่สุดเลยค่า คุณแป๋ววว

เคยอ่านต้นฉบับที่เป็นอังกฤษมาว่าเจ็บปวดแร้ว

แต่พอมาอ่านฉบับที่คุณแป๋วแปล ยิ่งลึกซึ้งเข้าไปใหญ่ OMG

นึกว่าตัวเองกะลังอกหัก

เป็นกำลังใจให้ในการแปลนะคะ

ไฟท์ติ้งค่า

เจอกันวันมีตโบนะคะ

 

โดย: JOONG LUV BO IP: 124.120.163.148 26 สิงหาคม 2553 21:08:53 น.  

 

จะเศร้าอีกนานมั้ยคะ...
อ่านตัวอย่างตอนต่อไปเศร้าได้อีก..T_T
เป็นกำลังใจน้องแป๋วนะคะ

 

โดย: prongpawin IP: 183.89.48.48 27 สิงหาคม 2553 0:12:32 น.  

 

โถ.... หลานป้า

เศร้ามากกกกกกก ไร้คำบรรยาย..

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: ตอง IP: 180.183.176.147 27 สิงหาคม 2553 18:09:20 น.  

 

จะสงสารใครที่สุดดีเนี่ย...อะไรจะเศร้าได้ขนาดนี้ กำลังจะแฮปปี้อยู่แล้วเชียว แหม.....

 

โดย: fanjoongbo IP: 124.121.119.93 29 สิงหาคม 2553 0:43:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.