1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31
จดหมายจากฆาตกร : imagine or just imagination?
โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง จดหมายจากฆาตกร ผู้เขียน: ฮิงาชิโนะ เคโงะ ผู้แปล: เสาวนีย์ นวรัตน์จำรูญ สำนักพิมพ์: JBOOK ในเครือ Bliss Publishing พิมพ์ครั้งแรก: มีนาคม 2549 หน้าปกของ จดหมายจากฆาตกร อาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดไปว่ามันคือนิยายสยองขวัญหรือแนวฆาตกรรมเลือดสาด แต่ถ้าสังเกตมุมปกด้านขวาล่างหรือสันปกเสียหน่อย คุณจะเห็นคำว่า DRAMA เขียนอยู่ตัวเล็กๆ จดหมายจากฆาตกร เป็นผลงานของ ฮิงาชิโนะ เคโงะ นักเขียนชาวญี่ปุ่นชื่อดัง หนังสือของเขามียอดขายถล่มทลาย และถูกสร้างเป็นภาพยนตร์แล้วเกือบทุกเรื่อง นับจนถึงตอนนี้ผมอ่านผลงานของเขามา 3 เล่ม แต่ละเล่มมีความแตกต่างกันไป ความลับใต้ทะเลสาบ เป็นแนวฆาตกรรม, รักในโลกพิศวง เป็นแนวไซไฟ ส่วน จดหมายจากฆาตกร ถ้าเปรียบเป็นหนัง ก็น่าจะเป็นหนังชีวิตหนักๆ เรื่องหนึ่ง (อีกเล่มที่ผมยังไม่ได้อ่านคือ ความลับ) คงเป็นความโชคดีในการเรียงลำดับการอ่านในข้างต้น ผมพบว่ายิ่งอ่านงานของเคโงะ ผมก็ยิ่งรู้สึกชอบผลงานของเขามากขึ้นเรื่อยๆ จดหมายจากฆาตกร เล่าถึง นาโอกิ เขามีพี่ชายเป็น ฆาตกร
แต่เปล่าเลย พี่ชายของเขาไม่ใช่คนจิตใจโหดเหี้ยมแต่อย่างใด ซึโยชิ แอบเข้าไปในบ้านของหญิงชราเพื่อขโมยเงินมาส่งเสียนาโอกิเรียนต่อในชั้นมหาวิทยาลัย แต่เขากลับพลั้งมือฆ่าเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ หรืออาจจะโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ซึโยชิถูกจำคุก 15 ปี ส่วนนาโอกิไม่ได้เรียนต่อ และชีวิตหลังจากนั้นของเขาก็เหมือนตกอยู่ในขุมนรก ทุกเดือน ซึโยชิ จะส่งจดหมายมาหาน้องชายของตน ครั้งใดที่นาโอกิเห็นจดหมายเหล่านั้น เขาก็มักจะรู้สึกแสยงใจไปทุกที เขาทั้งโกรธ เกลียด และแค้นพี่ชาย แต่ในขณะเดียวกันก็รู้อยู่เต็มอกว่าพี่ทำเพื่อเขา "ถึง นาโอกิ พี่ผิดเอง นายคงต้องขมขื่น โดนไล่ออกจากอพาร์ตเมนต์ คงลำบากแย่สินะ พี่มันบ้าเอง พี่สมควรตายไปเสียดีกว่า ต่อให้พูดอีกสักกี่ครั้งก็คงไม่สาสมกับความบ้าของพี่หรอก พี่มันโง่ " (ตัดตอนจากจดหมายฉบับแรกที่ ซึโยชิ เขียนถึง นาโอกิ, หน้า 25) แม้จะไม่ได้ก่อเหตุ แต่นาโอกิก็ต้องรับโทษจากการกระทำของพี่ชายด้วย สังคมมองเขาด้วยสายตารังเกียจ ไม่มีพื้นที่ใดที่จะต้อนรับเขาทำงานอย่างเต็มใจ นาโอกิต้องหนีไปไกล ไกลที่สุดเท่าที่เรื่องราวของพี่ชายผู้เป็นฆาตกรจะไม่ตามมาหลอกหลอนอีก นิยายเรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงเรื่องสมัยประถมของตัวเอง ตอนนั้นมีข่าวลือว่าพ่อของนักเรียนคนหนึ่งเป็นโรคเอดส์ นับจากนั้นใครต่อใครก็เริ่มตีตัวห่างจากเด็กคนนั้น ผมเองก็เคยทำอะไรไม่ดีกับเขาเช่นกัน ผมอยากจะขอโทษ แต่คำขอโทษของผมมันจะมีประโยชน์อะไร ผมสงสัยเหลือเกินว่าตอนนี้เขามีชีวิตอย่างไร เขาต้องหนีไปให้ไกลแบบนาโอกิหรือเปล่า จุดเด่นของนิยายเรื่องนี้อยู่ที่ความรู้สึกของตัวละครเด่นอย่างนาโอกิ ซึ่งเป็นตัวละครที่ผู้ชมติดตาม และเกิดความรู้สึกร่วมมากที่สุด ผู้เขียนสร้างอารมณ์ลักลั่นได้อย่างน่าสนใจ นาโอกิไม่ได้เกลียดพี่ชายหรือรักพี่ชายอย่างสัมบูรณ์ แต่ความรู้สึกเหล่านี้สลับปนเปกันไปตลอดชั่วชีวิตของเขา อีกสิ่งที่ จดหมายจากฆาตกร เน้นย้ำอยู่เสมอก็คือเรื่องของ การเลือกปฏิบัติ หนังสร้างข้อถกเถียงถึงประเด็นนี้ผ่านบทสนทนาของตัวละครอยู่เป็นระยะ ทั้งยังวิพากษ์ความเหลื่อมล้ำในทุกสถานะ คนจน/คนรวย, การศึกษาสูง/การศึกษาต่ำ ไปจนถึง คนประวัติขาวสะอาด/คนที่มีประวัติอาชญากรรม ซึ่งก็สอดคล้องกับที่หนังสือพูดถึงเพลง Imagine ของ John Lennon อยู่บ่อยครั้ง จนเรียกว่าเป็นเพลงธีมของนิยายเรื่องนี้เลยก็ได้ เพลงดังเพลงนี้ก็พูดเรื่องคล้ายๆกัน มันพูดถึงโลกที่ทุกคนว่างเปล่าเท่าเทียมกัน ไม่มีกำแพงเชื้อชาติ ไม่มีกำแพงศาสนา หลายคนน่าจะเคยดูมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ ภาพที่จอห์น เลนน่อน กับ โยโกะ โอโนะ สามารถเข้าไปในบ้านโดยไม่ต้องเปิดประตู ก็เปรียบเสมือนการไม่มีซึ่งกำแพง/แผงกั้นใดๆทั้งสิ้น ตอนจบของเพลง โอโนะยังเปิดม่านให้แดดส่องเข้ามาในบ้านจนสว่างไสว โทนสีขาวที่ถูกเน้นย้ำตลอดเพลง ทำให้บ้านหลังนั้นเปรียบเหมือนดินแดนอุดมคติแห่งใหม่ (หรือที่มีคำเรียกกันว่า Nutopia ซึ่งมาจาก Nu (New) + Utopia) โดยมี เลนน่อนกับโอโนะ เป็น อดัม และ อีฟ (ผมเปรียบแบบนี้เลนน่อนคงไม่ชอบใจนัก เพราะเขาเขียนเนื้อไว้ว่า And no religion too) เพลง Imagine ถูกใช้จนกระทั่งตอนจบของหนังสือ (ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะไม่เล่าเนื้อเรื่องแน่นอน) และชวนให้เศร้าเหลือเกินว่าความคิดคำนึงของตัวละครจะยังเป็นเพียง จินตนาการ ต่อไปเหมือนกับชื่อเพลงหรือไม่ เหมือนกับที่บทเพลงนี้ถูกเปิดประโคมนับพันครั้ง เมื่อเกิดเหตุการณ์ 9/11 ซึ่งยิ่งตอกย้ำว่าโลกทุกวันนี้ (และต่อจากนี้ไป) ยังห่างไกลกับดินแดน Nutopia ของเลนน่อนเหลือเกิน อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นตอนจบที่ทรงพลังมาก รู้ตัวอีกทีน้ำตาของผมก็ไหลออกมาเสียแล้ว ทั้งที่รู้ตัวว่ามันเป็นเรื่องแต่ง แต่มันก็ให้ความรู้สึกที่จริงเหลือเกิน มันคือพลังของตัวหนังสือที่สื่ออื่นๆ ไม่อาจทำได้เพราะมันก็คือสื่อที่ผู้เสพต้องใช้ จินตนาการ ป.ล. นิยายเรื่องนี้ถูกนำไปสร้างเป็นหนังแล้วในชื่อ Tegami แต่ผมดูตัวอย่างแล้วไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไร และเข้าใจว่าคงไม่มีเพลง Imagine อยู่ในหนัง เพราะค่าลิขสิทธิ์น่าจะแพงเอาการ ดูเวบของหนังได้ ที่นี่ John Lennon Imagine Imagine there's no Heaven It's easy if you try No hell below us Above us only sky Imagine all the people Living for today Imagine there's no countries It isn't hard to do Nothing to kill or die for And no religion too Imagine all the people Living life in peace You may say that I'm a dreamer But I'm not the only one I hope someday you'll join us And the world will be as one Imagine no possessions I wonder if you can No need for greed or hunger A brotherhood of man Imagine all the people Sharing all the world You may say that I'm a dreamer But I'm not the only one I hope someday you'll join us And the world will live as one
Create Date : 21 ตุลาคม 2550
Last Update : 21 ตุลาคม 2550 3:12:22 น.
31 comments
Counter : 2720 Pageviews.
โดย: grappa วันที่: 21 ตุลาคม 2550 เวลา:6:27:46 น.
โดย: strawberry machine gun IP: 202.41.167.246 วันที่: 21 ตุลาคม 2550 เวลา:10:17:32 น.
โดย: cottonbook วันที่: 21 ตุลาคม 2550 เวลา:10:54:24 น.
โดย: Tenjo_Utena IP: 125.25.164.168 วันที่: 21 ตุลาคม 2550 เวลา:11:30:10 น.
โดย: Evil=Live IP: 125.24.50.185 วันที่: 21 ตุลาคม 2550 เวลา:17:14:40 น.
โดย: TaMaChAN (narumol_tama ) วันที่: 21 ตุลาคม 2550 เวลา:17:44:29 น.
โดย: halation IP: 58.8.17.137 วันที่: 21 ตุลาคม 2550 เวลา:19:09:31 น.
โดย: halation IP: 58.8.17.137 วันที่: 21 ตุลาคม 2550 เวลา:19:13:22 น.
โดย: Blastnest IP: 58.64.93.152 วันที่: 21 ตุลาคม 2550 เวลา:19:35:26 น.
โดย: Angeltetsu วันที่: 21 ตุลาคม 2550 เวลา:22:29:32 น.
โดย: tiktokthailand IP: 58.8.168.103 วันที่: 21 ตุลาคม 2550 เวลา:22:41:35 น.
โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 21 ตุลาคม 2550 เวลา:23:08:15 น.
โดย: ฟ้าดิน วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:1:49:46 น.
โดย: PinGz (Kai-Au ) วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:8:06:33 น.
โดย: ยูน IP: 124.120.225.39 วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:10:03:09 น.
โดย: nanoguy วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:13:48:49 น.
โดย: Fon KP IP: 203.131.210.51 วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:14:35:11 น.
โดย: ต้มข่าไก่ใส่ใบมะกรูด IP: 203.113.41.36 วันที่: 23 ตุลาคม 2550 เวลา:0:48:28 น.
โดย: 1812 IP: 58.8.14.173 วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:10:13:15 น.
โดย: เพอร์รี่ IP: 58.9.146.106 วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:11:53:39 น.
โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:13:25:24 น.
โดย: piovere IP: 212.158.145.86 วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:20:54:45 น.
โดย: [N]iGht pRinc[E] IP: 58.64.105.58 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:53:18 น.
หนังที่ได้ดูช่วงนี้
01. Eternal Summer (2006, Leste Chen, A++++++)
This film may be my best film fo the year. It is not a perfect one and has many flaws. But it's like the film takes me high and higher, and at the end I don't anymore where I am.
02. Clerks 2 (2006, Kevin Smith, A)
03. Boyfriend (2007, สราวุธ อินทรพรหม, B)
04. Pleasure Factory (2007, เอกชัย เอครองธรรม, A-)
I love the plot about the virgin boy and the big-boob prostitue very much. Their relationship heavily touched my mind. Anyway, I feel Anada's role was so pointless.
หนังสือที่ซื้อมาจากงานหนังสือ
01. กิตติพล สรัคคานนท์: ที่อื่น (2007, Shine)
02. วาสนา วีระชาติพลี: ลุยเดี่ยวเที่ยวแบบวาสนา วีระชาติพลี (2001, สนพ.สามสี)
03. วิศุทธิ์ พรนิมิตร: ตั้มกับญี่ปุ่น (2006, ไต้ฝุ่น)
04. Banana Yoshimoto: ฮิโตะคะเกะ หญิงสาวผู้หวาดกลัวความสุข (2007, ไต้ฝุ่น)
05. Akagawa Jiro: มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ แมวสามสียอดนักสืบ ตอน กล่องแสนกล (1984, JBOOK)
06. Akagawa Jiro: มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ แมวสามสียอดนักสืบ ตอน ชมรมวิญญาณคนเถื่อน (1985, JBOOK)
07. Akagawa Jiro: มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ แมวสามสียอดนักสืบ ตอน เมอร์รี่ คริสต์มาส (1984, JBOOK)
08. Koji Suzuki: RAKUEN แดนสวรรค์ (1990, JBOOK)
09. Virginia Woolf: Mrs. Dolloway (1925, ชมนาด)
และ
10. Lisa Weekly (15.08.2007) หน้าปก แตงโม-ภัทรธิดา