http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
14 ตุลาคม 2548
 
All Blogs
 
ตะลุย “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 10” (ตุลาคม 2548)

โดย merveillesxx



ถ้าสมองผมไม่เลอะเลือนจนเกินไป ผมจำได้ว่าผมไปงานหนังสือครั้งแรกช่วง ม.3 ครับ (ประมาณปี 1999) และจากนั้นมาผมก็ต้องไปศูนย์สิริกิตติ์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ติดต่อกันมา 6 ปีเต็มไปแล้ว

6 ปีที่ผ่านไป มีหลายสิ่งครับที่เปลี่ยนแปลง อย่างแรกก็คือ “หนังสือที่ซื้อ” ช่วงปีแรกๆ ผมจะหนักไปทางการ์ตูนเสียมากกว่า ถัดมาก็จะเป็น “นิยาย” (โดยเฉพาะตระกูล JBOOK) พอมาเดี๋ยวนี้ก็เริ่มลองดีไปพวก “หนังสือปรัชญา” และพวก “นักเขียนท่านๆ” ทั้งหลาย และล่าสุดก็จะซื้อพวกหนังสือที่เกี่ยวกับ “ภาพยนตร์”

อย่างที่สองก็คือ เรื่องของ “คนที่ไปเดินด้วยในงาน” จำได้ว่าครั้งแรกสุดผมไปกับแม่ครับ (เพราะตอนนั้นยังไปศูนย์สิริกิตติ์เองไม่เป็น) แม่ไม่ได้ซื้อหนังสือสักเล่มเดียว สิ่งที่แม่ทำก็คือ “เดินตามลูก” แล้วก็ “นั่งคอยลูกเลือกหนังสือ” ผมเห็นใจแล้วนึกขอบคุณแม่อยู่ในใจเพราะเรื่องในวันนั้นมานาน แต่ก็เพิ่งได้ตอบแทนแม่เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมานี้เอง โดยผมซื้อหนังสือ “กูไม่แน่” (ของ ดร.สาธิต เจ้าของแนวคิด “ชีวจิต”) ไปฝากแม่ ซึ่งน่าจะเป็นหนังสือเล่มแรกในชีวิตที่ซื้อให้แม่

หลังจากครั้งแรกแล้ว ส่วนใหญ่ผมก็จะไปเดินคนเดียวครับ มีบ้างที่เดินกับเพื่อนหรือแฟน แต่ยังไงการเดินในงานหนังสือ “คนเดียว” ก็ยังเป็นสิ่งที่ผมสบายใจที่สุดและคิดว่าดีที่สุด ผมค่อนข้างซีเรียสกับเรื่องนี้พอสมควรนะ เพราะมันต้องเลวร้ายที่สุดสำหรับผมแน่ๆ ถ้าเดินไปแค่ 3 บูธแล้วคนๆนั้นก็เริ่มบ่นขึ้นมาว่า “โอ๊ย คนเยอะจัง” “โอ๊ย เหนื่อย” “โอ๊ย กลับเถอะ” ฯลฯ

แต่วันนี้ผมก็ไม่ได้ไปเดินคนเดียวหรอกนะครับ ผมไปกับเพื่อนคนนึง เธอชื่อว่า “หญิง” …ไอ้หญิงเป็นเพื่อนในมหาลัยไม่กี่คนที่ยังทนคบกับผมได้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มันเป็นคนที่เข้าใจว่า ถ้าผมไม่รับโทรศัพท์เป็นเรื่องปกติ, ไม่โทรกลับเป็นเรื่องธรรมดา, ปิดมือถือนี่ตลอดเวลา จนวันนั้นมันโทรมาแล้วผมรับภายใน 3 ตื๊ด มันยังตะโกนใส่เลยว่า “แกรีบรับทำไมวะ! ชั้นจะฟังเพลง!” (ตอนนี้ Calling Melody ของผมคือเพลง “ฤดูที่ฉันเหงา” ของ Flure มีโอกาสเพียงแค่ 0.1% เท่านั้น ที่คนจะโทรมาแล้วได้ยินเพลงนี้–ฮา)

ว่าไปแล้วก็เหมือนชะตาลิขิต เพราะผมกับหญิงเริ่มคุยกันมากๆ ก็เพราะ “หนังสือ” จำได้ว่าตอนปี 1 ผมเอาหนังสือ “สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน” ของวินทร์ เลียววาริณไปพรีเซนต์หน้าชั้น พอมันเห็นผมหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาบนโต๊ะ มันก็ชวนคุยเลยว่า “อ้าว อ่านเล่มนี้ด้วยเหรอ…” แล้วหลังจากนั้นบทสนทนามากมายก็ตามมา

นอกจากนั้นหญิงยังชอบดูหนังเหมือนผมอีกด้วย ตอนเทศกาล Bangkok International Film Festival เมื่อต้นปีผมไปดูหนังด้วยกันกับมันเป็นสิบกว่าเรื่อง เรียกได้ว่าเห็นหน้ากันจนจะอ้วก

เรื่องดีอีกอย่างหนึ่งระหว่างผมกับหญิงก็คือ เราสองคนไม่มีทางเกิดอาการแบบ “ไข่ย้อยกับดากานดา” ในเรื่อง “เพื่อนสนิท” แน่นอน ซึ่งผิดวิสัยของผมที่มักเปลี่ยนสถานะ “เพื่อนสนิท” ให้กลายเป็น “แฟน” เป็นประจำ และสุดท้ายก็จะกลายเป็น “แฟนเก่า” ในที่สุด (ฮา) สเป็กของเราสองคนห่างไกลสุดกู่ประหนึ่งพรรครีพับลิกันกับเดโมแครต ผมมีความฝันสูงสุดอยากได้แฟนเป็นสาวญี่ปุ่น (แน่นอนหญิงไม่ใช่ผู้หญิงสไตล์นี้) แต่หญิงชอบผู้ชายถึกๆดำๆล่ำๆแมนๆ ยิ่งดำยิ่งชอบ (โชคดีของผมที่เกิดมาผิวออกเหลือง)

ผมกับหญิงไปถึงศูนย์สิริกิตติ์ประมาณ 11.30 คนเยอะมากกว่าที่เราคิดไว้เสียอีก …วิธีเดินงานหนังสือของหญิงในวันนี้ทำให้ผมเกิดพุทธิปัญญาขึ้นมากทีเดียว วิธีการของมันก็คือ ไปหยิบแผนที่มาก่อน แล้วมานั่งวงบูธที่สำคัญๆ (เช่น Bliss, นายอินทร์, เนชั่น, มติชน ฯลฯ) แล้วก็ไปเดินตามที่บูธวงไว้ จากนั้นก็เอาหนังสือไปฝากที่จุดรับฝากของ แล้วค่อยเดินเก็บบูธที่เหลือตอนหลัง

ส่วนผมจะใช้วิธี “ลุยแหลก” แผนที่นี่ไม่เคยสน ผมจะเดินรอบเดียวแบบไล่ทุกบูธไปเลย A 1 2 3 แล้วก็ B 1 2 3 พอเคลียร์ไปโซนนึงแล้ว ก็ไปอีกโซน ซึ่งลองคิดๆดูแล้วผมว่าแต่ละวิธีมันก็มีข้อดีในตัวของมันเอง อย่างวิธีของหญิงก็จะดีที่ว่า จะเก็บหนังสือที่ “ฮ็อตๆ” (ที่ประมาณว่าอ่านแล้วเอาไปคุยกับชาวบ้านเค้ารู้เรื่อง) ได้หมดโดยไม่ขาดตกบกพร่อง แต่ก็อาจจะเงินหมดจนไม่เหลือไปซื้อหนังสือไม่ดังแต่เจ๋ง เพราะแค่บูธ JBOOK ก็ดูดเงินผมไป พันกว่าๆ แล้ว

ส่วนวิธีของผมบางทีก็จะได้พวกหนังสือ “เซอร์ไพรส์” ระหว่างทาง แต่บางทีเงินก็หมด ก่อนที่จะไปถึงบูธดังๆ จนอดหนังสือฮ็อตๆไป แล้วก็จะคุยกับชาวบ้านไม่รู้เรื่อง แล้วก็จะไม่ค่อยมีเพื่อนอย่างผมนี่แหละ (ฮา)

วันนี้ผมเจอเพื่อนๆ หลายคนในงานหนังสือด้วย (ซึ่งแปลกมาก ปกติผมไม่เคยเจอเลย) คนแรกคือ หญิง (ซึ่งเป็นละคนกับหญิงที่ผมไปด้วย เผอิญสองคนนี้ชื่อซ้ำกัน) ตอนแรกนึกว่าหญิงมาเดินงานเฉยๆ แต่ดูไปดูมา เธอมาทำงานขายหนังสือประจำบูธนี่เอง เก่งจังเลยนะ ผมไม่สามารถทำงานประเภทนี้ได้เลยครับ ผมต้องตบลูกค้าเข้าสักคนภายใน 3 ชั่วโมงของการทำงานวันแรกแน่ๆ

คนที่สอง คือ ก้อง เพื่อนที่คณะที่รู้จักกันตั้งแต่รับน้องเพราะเต้นท่า “ชี้ดาวตก” ของ F4 ด้วยกัน ตอนเจอหน้ามันก็ถามว่า “เฮ้ย มาทำไรวะ” ก้อง “อ๋อ ก็มาดูหนังสือไง” ผม “แหงสิ ก็นี่มันงานหนังสือนี่หว่า” (นั่น...มิวายไปกวนตีนเค้าอีก)

คนสุดท้ายที่เจอคือ เดนท์ เดือนคณะสุดหล่อประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาลัยชื่อดังแถวสามย่าน ความสัมพันธ์ของเราสองในอดีตลึกซึ้งพอสมควร ถึงขั้นที่ว่าเดินจับมือกันกลางตลาดหัวหินมาแล้ว (ปล่าว…ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ตอนนั้นผมดันเสร่อทำแว่นตกทะเลจนตกอยู่ในสถานะผู้พิการทางสายตา ไอ้เดนท์มันก็เลยต้องคอยจูงๆลากๆ นำทางไม่ให้ถูกรถชนตาย)

ด้วยความที่ว่าเป็นเพื่อนร่วมคณะ (แต่คนละสถาบัน) ผมก็เลยถามมันว่า “เฮ้ย มีหนังสือเกี่ยวกับเสดสาดแนะนำบ้างมั้ยวะ” แต่เดนท์ตอบว่า “เฮ้ย มึงอย่าพูดเลย กูอยากซิ่วไปรัดสาดจะตายห่าอยู่แล้ว” …อ้าวเป็นงั้นไป! พูดก็พูดเถอะนะ จนถึงตอนนี้ผมยังไม่เจอเพื่อนที่เรียนคณะเดียวกับผม แล้วบอกว่าชอบแบบจริงๆจังๆ เลยเนี่ย เฮ้อ (แต่อย่าลืมว่าผมเพื่อนน้อย)

ระหว่างที่เดินในงาน ผมกับหญิงก็หยุดพักจัดข้าวของกันแป๊บนึง ระหว่างนั้นผมก็หยิบหนังสือ BLOG BLOG ของ อ.ปกป้อง จันวิทย์ ขึ้นมาอ่าน (เห็นชื่อหนังสือก็ต้องซื้อแล้ว เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวผมมากๆ) ต้องเล่านิดนึงก่อนว่า อ.ปกป้อง เป็นอาจารย์ที่คณะผมครับ วิชาที่อจ.สอนก็คือ Comparative Macroeconomics Theory ซึ่งผมตั้งใจไว้ตอนปี 2 ว่าพอขึ้นปี 3 แล้วจะลองลงวิชานี้ดู แต่อนิจจา…พอผมขึ้นปี 3 อจ.ก็ไปเรียนต่อเมืองนอกพอดี วิชานี้เลยก็เรียนปิดไปโดยปริยาย วัยรุ่นเซ็งเลยงานนี้

ส่วนหนังสือ BLOG BLOG เป็นรวมบทความที่ อจ.เขียนไว้ในบล็อก (ซึ่งผมแอบเข้าไปอ่านอยู่เรื่อยๆ) มีบทนึงที่ชื่อว่า Meet the Bloggers ชื่อน่าสนใจดี ก็เลยลองเปิดอ่านดู ปรากฏว่า อจ. มีเขียนถึงผมนิดนึงด้วย (เอ้า กรี๊ด) ดังนี้ครับ…

“blog ของคุณ grappa ยังเป็นประตูสู่โลกของหนังสือ หนัง และเพลง ที่น่าค้นหา เพราะเต็มไปด้วยสมาชิกในชุมชนที่น่าสนใจอีกจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือ blog ของ merveillesxx นักศึกษาเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ปริญญาตรี ที่วิจารณ์หนัง เพลง และหนังสือ ได้อย่างยอดเยี่ยม นานๆ ทีจะเห็นนักเรียนเศรษฐศาสตร์เขียนหนังสือได้ดีปานนี้ น่าทึ่งมาก”

วุ้ยยยย…อ่านแล้วเขินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

(แต่แอบงอนนิดหน่อยในหนังสือ ชื่อผมและ url ดันกลายเป็น merveillexxx เสียได้ โธ่..สองเอ็กซ์ก็พอแล้ว นี่เพิ่มให้กลายเป็น “ทริปเปิ้ลเอ็กซ์” เลย แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมชินกับเรื่องประมาณนี้แล้ว)

ผมนั่งอ่านไป เขินไป ยิ้มไป จนไอ้หญิงมันคงหมั่นไส้อยากจะเอาถุงหนังสือฟาดกบาล มันก็เลยพูดขึ้นมาว่า “แกก็เอาปากกาไฮไลท์ขีด ไว้เลยสิ!” (เข้าใจหรือยังว่าทำไมเราสองคนถึงทู่ซี้คบกันมาได้จนถึงทุกวันนี้)

ผมกับหญิงคิดเอาไว้ว่า ถ้าผมพัฒนาฝีมือให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปกว่านี้จนออกหนังสือทำนองนี้กับเค้าได้ ผมจะตั้งชื่อว่า “บล็อกบ้า” (ฮา)

**บล็อกของ อ.ปกป้อง อยู่ที่ //pinporamet.blogspot.com ลองเข้าไปดูกันนะครับ


งานหนังสือคราวนี้ผมตั้งงบไว้ที่ 3000 บาท ตามเคย (เป็นงบประจำของผมกับหญิง) เงินสามพันนี้ของผมกับหญิงหมดไปอย่างรวดเร็ว จนผมทนไม่ไหวต้องไปกดตังค์เพิ่มมาอีกพันนึง แล้วก็ใช้หมดไปในอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมา เบ็ดเสร็จก็ใช้ไปทั้งหมดประมาณ 4000 บาท ซื้อมา 26 เล่ม (กับ DVD 1 แผ่น)

เวลาผมบอกเพื่อนๆ ว่าใช้เงินในงานหนังสือไป 3-4 พัน ทุกคนจะทำหน้าตกใจมาก ซึ่งผมก็พอจะเข้าใจอยู่เหมือนกัน แต่วันนี้ผมนั่งคุยกับหญิง พวกเรารู้สึกว่าเงิน 3 พันกับงานหนังสือเป็นสิ่งที่ปกติธรรมดามาก ไม่ใช่ว่าบ้านเรารวยล้นฟ้า แต่เพราะมันคือสิ่งที่เราชอบ เป็นเงินที่เราต้องเสียเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง แต่เราก็ไม่เคยคิดเสียดายเลย

ผมยังคงความเชื่อเดิมของตัวเองว่างานอดิเรก “สำส่อนในการดูหนัง ฟังเพลง และเสพวรรณกรรม” ยังเป็นเรื่องที่ดีสำหรับชีวิตผมอยู่ครับ


ปล.1 แต่สิ่งที่ผมหนักใจก็คือ ตอนนี้ผมดองหนังสือไว้ร่วมๆ 80 เล่มแล้วสิเนี่ย (กองไว้เหมือนในโปสเตอร์ข้างบนเลย) ไม่รู้ชาตินี้จะอ่านหมดมั้ย

ปล.2 แนะนำเล็กน้อย: ร้านอาหารที่ Food Court ในงาน ร้านที่ไม่อร่อยเลย คือ ร้านข้าวหน้าหมูทอดญี่ปุ่น กับร้านข้าวผัดอเมริกัน (เพราะมันทำไว้แล้ว ก็เลยเย็นๆชืดๆ) ส่วนร้านที่อร่อยคือ ร้านราดหน้า แต่จืดไปหน่อย ต้องปรุงเพิ่มด้วยนะ

ปล.3 หลังจากงานนี้ไปผมยังมีเวรกรรมต้องจ่ายเงินอีกก็คือ เทศกาลหนัง World Film และงาน FaT Festvial ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าเดือน ต.ค.-พ.ย. เป็นเดือนแห่งความยากจนของผมนั่นเอง วะ ฮะ ฮ่า…




-รายชื่อหนังสือ งานหนังสือ ตุลาคม 2548-

หมวดหนังสือญี่ปุ่น

01. แล้วฉันจะกลับมา (2003, Ichikawa Takuji) Bliss-JBOOK

หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่อะไรไกลอื่น มันคือนิยายของหนังญี่ปุ่นที่ฮิตที่สุดและฉายโรงนานที่สุดในปีนี้ของบ้านเรา Be With You (2004, Nobuhiro Doi, A-) นั่นเอง …น่าเสียดายที่หน้าปกดึงดูดน้อยไปหน่อย ถ้าหนังสือใช้โปสเตอร์ของหนังเป็นปกนี่รับรองบูมแน่ๆ (เข้าใจว่าอาจจะติดเรื่องลิขสิทธิ์อะไรประมาณนั้น)

นี่เป็นหนังสือเล่มแรกที่ผมซื้อในวันนี้ และตอนซื้อก็มีอะไรขำขำเหมือนกัน กล่าวคือโรคจิตลำดับที่ 38 ของผมคือ “ชอบกวนตีนคนเชียร์หนังสือ” (เน้น “เชียร์” ไม่ใช่ “ขาย”) โดยเฉพาะถ้าคนเชียร์ยิ่ง “สวย” เธอจะยิ่ง “ซวย” เพราะผมจะยิ่ง “กวน” มาก (แต่อย่าดูถูกไป วิธีใช้จีบผู้หญิงได้ดีในระดับหนึ่งทีเดียว – เน้นว่า “ในระดับหนึ่ง”)

ณ บูธ Bliss มุม JBOOK

คนเชียร์ - “พี่ค้าาาา พี่คะ บี วิธ ยู ออกใหม่ค่าาาาาา ซื้อมั้ยคะ”

mer - (ทำหน้ายิ้มรับแบบเฉยๆ แต่แอบเคืองเพราะถูกเรียกว่า “พี่”)

คนเชียร์ - “พี่คะ พี่ได้ดูหนังเรื่องนี้มั้ยคะ”

mer - “อ่า ก็ดูอ่ะครับ”

คนเชียร์ - “ต๊ายยยย ชอบใช่มั้ยคะ แบบนี้ต้องยิ่งซื้อค่ะ แหมๆๆๆ ดูกับใครคะ ต้องดูกับแฟนแน่ๆเลยยยยย”

mer - “อ่า..ใช่ครับ..แต่เลิกไปแล้ว”

(dead air 2 วินาที)

คนเชียร์ - “อุ๊ย ไม่เป็นไรค่ะ แต่พี่รู้ใช่มั้ยคะว่าพระเอกนางเอกเข้าเป็นแฟนกันเพราะหนังเรื่องนี้ น่ารักเนาะ”

mer - “นั่นแหละครับ ที่ทำให้ผมหงุดหงิด”

(dead air อีก 2 วินาที)

คนเชียร์ - “งั้นพี่จำ ยูจิ (ตัวลูกชายในหนัง) ได้ใช่มั้ยคะ น่ารักนะคะ ชอบยูจิ รักยูจิ ต้องซื้อนิยายเล่มนี้เลยนะคะ”

mer “ผมเกลียดเด็ก”

(dead air 5 วินาทีเต็มๆ)

แต่อย่างห่วงไปเลยครับ ในที่สุดผมก็ซื้อนิยายเล่มนี้มาครับ เพราะกลัวว่าเธอจะร้องไห้หรือไม่ก็กรี๊ดแตกสติขึ้นมากลางบูธเสียก่อน …อ่านกระบวนการกวนตีนของผมข้างบนแล้ว เดากันได้ใช่มั้ยครับว่า “คนเชียร์หนังสือผู้โชคร้าย” คนนี้ สวยขนาดไหน (ฮา)

*ตอนนี้ DVD เรื่อง Be With You ออกแล้ว แพ็คเกจสวยเหลือเชื่อ นักสะสมห้ามพลาดเด็ดขาด!*


02. นัดหมายในความมืด (2002, Otsu-ichi) Bliss-JBOOK



03. ZOO (2003, Otsu-ichi) เนชั่นบุ๊คส์

ช่วงนี้ตามเก็บงานของ โอตสึอิจิ อยู่ครับ เสียดายวันนี้บูธเนชันไม่มี GOTH มาขายเลย


04. dive (2000, Eto Mori) Bliss-JBOOK

งานของ โมริ เอโตะ ผู้เขียน “สวรรค์ให้รางวัลผม” หนังสือ ‘ฟีลกู๊ด’ ไม่กี่เล่มที่ผมชอบที่สุดในชีวิต (ชอบที่สุดคือตัวละคร “สาวไซด์ไลน์อายุ 12”)



05. คินดะอิจิยอดนักสืบตอนที่ 2 หมู่บ้านแปดหลุมศพ (1971, Yokomizo Seishi) Bliss-JBOOK


06. คินดะอิจิยอดนักสืบตอนที่ 3 บทเพลงปีศาจ (1972, Yokomizo Seishi) Bliss-JBOOK


07. มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ แมวสามสียอดนักสืบ ตอนที่ 7 นิทรรศการฆาตกรรม (1982, Akagawa Jiro) Bliss-JBOOK

มาลุ้นกันดีกว่าว่าเล่มนี้จะคืนฟอร์มมั้ย หลังจากความสนุกของซีรี่ย์ชุดนี้กราฟดิ่งลงมาตลอดในช่วงหลัง


08. บันได 13 ขั้น ปริศนาจากแดนประหาร (2001, Takano Kazuaki) Bliss-JBOOK

นิยายเรื่องนี้เคยสร้างเป็นหนังแล้วในชื่อ Thirteen Steps (2003, Masahiko Nagasawa) นำแสดงโดย Takeshi Sorimachi ส่วน ผกก.Masahiko Nagasawa หนังล่าสุดของเขาคือ Way of Blue Sky (2005, A) ที่เพิ่งเข้าที่ลิโด้ไป



09. อยากกู่ร้องบอกรักให้ก้องโลก (2001, Kyoichi Katayama) เนชั่นบุ๊คส์

หนังก็ดูแล้ว ละครก็ดูแล้ว ซาวด์แทร็กก็ซื้อหมดแล้วทั้งหนังใหญ่ ทั้งละคร แล้วจะพลาดฉบับนิยายไปได้อย่างไร



10. ไฟรักฤดูร้อน / Darkness in Summer (1983, Takeshi Kaiko) สนพ.บ้านหนังสือ

เห็นหนังสือปกสวยเล่มนี้มาตั้งแต่ตอนอยู่ปี 1 ที่ศูนย์หนังสือ มธ.รังสิต เพิ่งจะได้ฤกษ์ซื้อก็วันนี้แหละครับ




หมวดหนังสือสากล


11. สองดวงจันทร์ / Walk Two Moon (1994, Sharon Creech) มติชน

อันนี้ไอ้หญิงเพื่อนผมมัน recommend สุดชีวิต ไม่ซื้อก็เดี๋ยวจะเสียน้ำใจ แต่ถ้าไม่ดีแกซวยแน่…หึหึหึ


12. หอคอยทมิฬ / The Dark Tower (1983, Stephen King) Beast Publishing



13. แผ่นดินของเรา / Terre des Hommes (1938, Antonie de Saint-Exupery) สนพ.นาคร

งานของผู้เขียน “เจ้าชายน้อย”


14. นักพนัน / The Gambler (1866, Fyodor Dostoevsky) สนพ.บ้านหนังสือ

งานของฟีโอดอร์ ดอสโตเยฟสกี ผู้ได้สมญานาม “ภูผาแห่งวรรณกรรมรัสเซีย” ผมซื้อหนังสือของเขาเก็บไว้ 2-3 เล่ม แต่ยังไม่ได้อ่านเลยครับ


15. ผู้คนแห่งมหานครดับลิน / Dubliners (1914, James Joyce) สนพ.นาคร


16. ภาพชีวิตวัยเยาว์ของศิลปิน / A Portrait of the Artist as a Young Man (1916, James Joyce) สนพ.นาคร

เจมส์ จอยซ์ ผู้เลื่องชื่อในฐานะนักเขียนแนวกระแสสำนึก (stream of conciousness) และผู้แต่งเรื่อง Ulysses (เล่มนี้มีแปลไทยมั้ยครับ ใครทราบช่วยบอกด้วยครับ)




หมวดวินทร์ เลียววาริณ + หนังสือไทย

งานหนังสือทุกปีผมต้องได้หนังสือของคุณวินทร์ติดมือกลับบ้านไปครับ ปีนี้แปลกกว่าปีก่อนๆ เพราะไม่ได้ลายเซ็น (ปกติคุณวินทร์จะนั่งอยู่ที่บูธตลอด) …มีเรื่องตลกอันนึงที่จำได้แม่นยำก็คือ เด็กวัยรุ่นสองคนมายืนๆ ด้อมๆ หน้าบูธแล้วก็พูดกันว่า “ไหนวะ คนไหนวะ วินทร์” อีกคน “เออ ไม่เห็นมีเลย สงสัยไม่อยู่มั้ง” ทั้งที่คุณวินทร์ก็นั่งหัวโด่อยู่ในบูธนั่นแหละ!



17. จรูญจรัสรัศมีพราว พร่างพร้อย (2005, วินทร์ เลียววาริณ)

ภาคต่อที่ทิ้งช่วงห่าง 10 ปีเต็มจาก “เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า ดาดาว” (นิยายวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งในประวัติศาสตร์วรรณกรรมไทย) ดีใจจนแทบร้องไห้ที่คุณวินทร์กลับมาเขียนแนวนี้อีกครั้ง



18. รอยเท้าเล็กๆ ของเราเอง (2005, วินทร์ เลียววาริณ)

รวมบทความจากเวบไซต์ //www.winbookclub.com เขาเขียนไว้ว่าเป็น “หนังสือเสริมกำลังใจ”


19. กล่องไปรษณีย์สีแดง (2000, อภิชาต เพชรลีลา) สนพ.นกดวงจันทร์

นิยายต้นฉบับของหนังเรื่อง “เพื่อนสนิท” (2005, คมกฤษ ตรีวิมล, A+) นี่คือหนึ่งในหนังสือที่ขายดีที่สุดในงาน และคนที่ถือหนังสือเล่มนี้เดินไปเดินมาในงานมักจะสวย!


20. อะดม ๒ (2005, อุดม แต้พานิช) daypoets

ภาคต่อของ อะดม (a day เล่มที่ 35 - ถ้าจำไม่ผิด) หนังสือเล่มนี้ไม่เหมาะกับ 1.คนเกลียดมุกควาย และ 2. คนเกลียดอุดม! (เวบไซต์ “ผู้ดีจอมปลอม” แห่งหนึ่งมักกล่าวว่า “คนทั้งประเทศเกลียดอุดม” แต่ผมใช้เวลา 9 ชั่วโมงในการต่อแถวซื้อบัตร “เดี่ยวไมโครโฟน 6”) …เราเตือนคุณแล้วนะ




หมวดวิชาการ



21. คนไม่ใช่สัตว์เศรษฐกิจ (2004, ปกป้อง จันวิทย์) openbooks

“ความเรียงว่าด้วยเศรษฐศาสตร์นอกกระแสหลัก” (คำโปรยหน้าปก)



22. BLOG BLOG (2005, ปกป้อง จันวิทย์) openbooks

“เศรษฐกิจการเมืองอ่านสนุกจากมุมมองอดีตนักเรียนทุนฟุลไบร์ทไทยในอเมริกา ผู้สร้างชุมชนทางปัญญาผ่านเครือข่ายไซเบอร์สเปซ” (คำโปรยหน้าปก)


23. มายาคติ / Mythologies (1957, Roland Barthes) โครงการจัดพิมพ์คบไฟ

ดีใจมากๆ เลยครับที่ได้หนังสือเล่มนี้ ผมพยายามหามานานมากๆ จนเกือบจะต้องไป Xerox เอาจากห้องสมุดที่มหาลัยแล้ว …คุณไกรวุฒิ จุลพงศธรเคยเขียนถึงเล่มนี้ไว้ใน BIOSCOPE ฉบับที่ 31 ว่า “เล่มนี้ไม่เกี่ยวกับหนังโดยตรง แต่เกี่ยวกับสัญลักษณ์ที่ซ่อนในบริบทของสังคม เล่มนี้น่าสนใจมากครับ”




หมวดภาพยนตร์



24. โดน! 50 scenes selection (2002) Blackberry Publishing



25. หนังอันตราย (2003) Blackberry Publishing

บทความเชิงแนะนำและเป็นคำเตือนไปในตัวต่อหนัง “บัญชีดำ” ทั้งหลาย เช่น Battle Royale (2000, Kinji Fukasaku, A) Funny Games (1997, Michael Haneke, A+) Visitor Q (2001, Takashi Miike, A) และโดยเฉพาะ SALO (1975, Pier Paolo Pasolini, A+) ถ้าใจไม่แข็งพอ ห้ามดูเด็ดขาด เด็ดขาด และเด็ดขาด! (แต่ผมมีความเชื่อส่วนตัวว่าผมต้องหลงรักหนังเกือบทุกเรื่องในหนังสือเล่มนี้แน่นอน)



26. หนังพันลึก (2004, ประวิทย์ แต่งอักษร) Blackberry Publishing

ต้องสารภาพว่าผมไม่ค่อยได้อ่านบทวิจารณ์ของ อ.ประวิทย์ เท่าไร เพราะอจ.มักจะเขียนในนิตยสารที่ผมไม่ได้ซื้อ (แต่อาศัยยืนอ่านฟรี แหะแหะ) แต่ตอนที่ไปเรียนคอร์ส “อบรมภาพยนตร์วิจักษณ์” ของมูลนิธิหนังไทย ผมประทับในตัว อจ. มากๆเลยครับ เพราะอจ.สอนสนุกมากๆ และตอนที่ผมเข้าไปขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการวิจารณ์หนัง อจ.ก็ช่วยให้คำแนะนำอย่างเต็มที่ด้วย ซึ้งใจจริงๆ T__T

หนังสือเล่มเป็นรวมบทวิจารณ์หนังคลาสสิกทั้งหลาย (บางคนเรียก “หนังเทพ” หรือ “หนังปรมาจารย์”) เช่น The Battleship Potemkin, Citizen Kane, Rashomon, Psycho ฯลฯ เห็นชื่อหนังก็รู้แล้วว่าหนังสือเล่มนี้คง “ลึก” น่าดู


27. DVD สารคดีข้างบ้าน #1 (2005, BIOSCOPE)

ดีวีดีรวม 4 สารคดีของคนทำหนังที่มาทำสารคดีด้วย “ไอเดีย” และ “หัวใจ” อยากให้ทุกคนได้ดูหนังทั้งหมดนี้ครับ โดยเฉพาะ My First Boyfriend (2004, อิสระ มณีวัต, A++++++++++++)




อันนี้แถมครับ

-10 หนังสือในดวงใจตลอดกาลของ mer-
(ไม่ได้เรียงลำดับความชอบ / อัพเดทล่าสุด ส.ค. 2547)

01. วินทร์ เลียววาริณ: สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน (1999)
02. ชาติ กอบจิตติ: คำพิพากษา (1981)
03. ทินกร หุตางกูร: โลกของจอม (2002)
04. ปราบดา หยุ่น: ชิทแตก! (2002)
05. อองตวน เดอ แซงเตก-ซูเปรี: Le Petit Prince เจ้าชายน้อย (1943)
06. โมริ เอโตะ: Colorful เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม (1998)
07. อากูม่า ฮิเดโอะ: ปลาย่าง The Grilled Fish (1923)
08. ชุนจิ อิวาอิ: Lover Letter จดหมายรัก (1995)
09. ทิม เบอร์ตัน: The Melancholy Death of Oyster Boy เด็กชายหอยนางรม (1997)
10. โทมัส แฮร์ริส: Hannibal Lector Trilogy - Red Dragon, The Silence of the Lambs (1990), Hannibal (1999)
(แถม - ทุกเรื่องทุกเล่มของ วินทร์ เลียววาริณ)




ซื้อหนังสืออะไรกันมา / อยากเชียร์-อยากแนะนำหนังสือ / หนังสือในดวงใจของทุกท่านคือเล่มไหนบ้าง เชิญเล่าสู่กันฟังนะครับ




Create Date : 14 ตุลาคม 2548
Last Update : 14 ตุลาคม 2548 5:58:24 น. 36 comments
Counter : 9396 Pageviews.

 

-- ขอแสดงความเสียใจกับท่านที่ยังไม่ได้ดูหนังเรื่อง Stratosphere (A) นะครับ เพราะตอนนี้หนังออกจากลิโด้ไปแล้ว (เพิ่งเข้าได้อาทิตย์เดียวเอง) ...ขอไว้อาลัย

-- สัปดาห์นี้หนังเรื่อง 3-Iron (2004, คิมคีด็อค, A++++++) เข้าแล้วที่ Lido และ House ย้ำอีกทีว่า ห้ามพลาด ห้ามพลาด และห้ามพลาด นะจ๊ะ ...น้อง mer ขอบอก


โดย: merveillesxx วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:4:06:30 น.  

 
ไม่มีหนังสือ ของ "ระหว่างบรรทัด " เลยแฮะ


โดย: grappa วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:6:03:05 น.  

 
เมื่อวานมีหนังสือ ของ ไต้ฝุ่น ออกใหม่สดๆ ร้อนๆ มาจากโรงพิมพ์หนึ่งเล่ม ชื่อ ไต้ฝุ่นคาเฟ่ ในเล่ม มีซีดี เดี่ยวเปียโนของ วิศุทธิ์ พรนิมิตร ด้วยจ้า

หนังสือเล่มนี้ หาซื้อได้ที่บู้ท
k 14 แพลนนารี่ฮอลล์
และ บู้ท Openbooks โซนเวทีเอเทรียม




โดย: grappa วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:6:40:49 น.  

 
เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย

ทำไมผมไม่เห็นเลยง่ะ.... อ๊ากกกกกกกกกก

บูธ Open นี่ผมหาอยู่ตั้งนาน ไหงปีนี้ไปแอบๆอยู่ตรงนั้น (จำได้ว่าแต่ก่อนไฮโซอยู่โซน plaza เลยนิน่า)

อ่า...แล้วหนังสือของ ระหว่างบรรทัด นี่อยู่บูธไหนอ่ะคับ ใช่บูธที่มีหนังสือใต้ดินหรือเปล่า เหมือนกับว่าเข้าไปดูอยู่แป๊บนึง เพราะตอนนั้นตังค์หมดแหล่ว

วันนี้ฝนตกแต่เช้าเลย นึกถึงหนังสือของคุณปราบดา หยุ่น (ฝนตกตลอดเวลา...ใช่ชื่อนี้รึป่าวหว่า) ที่ไม่ได้ซื้อมา เพราะถ้าซื้อจะไม่มีเงินกลับบ้าน


โดย: merveillesxx วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:6:57:18 น.  

 
ท่านผู้อ่านอย่าเข้าใจผิดว่าผมเปลี่ยนพฤติกรรมมาตื่นแต่เช้าแล้ว ความจริงคือยังไม่ได้นอนเลยเนี่ย -___-


โดย: merveillesxx วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:6:58:50 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ที่พูดถึง "ฝนตกตลอดเวลา" นี่อ่านหรือยังคะ? หรืออ่านแล้วแต่ยังไม่ได้ซื้อ?

เสียดายเนาะที่ไม่ได้ซื้อ เป็นหนังสือของปราบดาที่เราว่า "ดี" และควรซื้อเก็บไว้อีกเล่มหนึ่งเลยล่ะค่ะ ไว้งานตอนเมษายนก็ได้ค่ะ

บู๊ทของคุณ grappa ก็ตามที่คุณ grappa อธิบายไว้แหละค่ะ อยู่ K14 ใกล้ๆ กับบู๊ทแจ่มใสน่ะค่ะ (ที่เด็กสาวๆ เยอะๆ ง่ะ)



งานหนังสือฯ เป็นงานที่เราเสียตังค์เยอะเหมือนกัน ยิ่งปีนี้ยิ่งเผลอใช้เกินงบไปด้วย (งบตั้งไว้พอๆ กับคุณแหละค่ะ)

สำหรับหนังก็เลยต้องคงห่างหายกันไปอีกระยะใหญ่ๆ (ยกเว้นจะหาใครหลงมาเลี้ยงได้)


หนังสือของทิม - - เด็กชายหอยนางรม เป็นหนังสือสวยค่ะ แต่เนื้อหาโหดมาก(สำหรับเรา) จึงเข้าใจแล้วว่าทำไมคุณถึงบอกว่าหนังหลายๆ เรื่องในหนังสือ "หนังอันตราย" คุณน่าจะชอบ

เราเองตอนสมัยไปงานหนังสือแรกๆ จะใช้วิธีการเดินเหมือนคุณค่ะ

แต่ปีนี้เริ่มเดินแบบ "หญิง" เพื่อนคุณแล้วล่ะ เพราะไม่งั้นไม่ไหวจริงๆ


จะรออ่านงานต่อไปนะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:8:59:40 น.  

 
หนังสือน่าอ่านทั้งนั้นเลย

แวะมาหวัดดียามเช้าค่ะ



โดย: Batgirl 2001 วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:9:39:18 น.  

 
สรุปแล้วพี่ก็คงไม่ได้ไปงานนี้อย่าง absolutely แล้ว

เห็นแล้วก็อยากอ่าน แต่คนไม่มีเงินอย่างเรา รอห้องสมุดต่อไปดีกว่า

ขอพูดถึง มายาคติ ของ โรลอง บาร์ตส์ หน่อยเถอะ (โดนมันทำเจ็บแสบไว้มาก) อย่างที่พี่เต้ว่าไว้ มันเป็นเรื่องของสัญญะที่ซ่อนไว้อยู่ในสังคม

แถมมันยังซ้อนอยู่ลึกเสียด้วยสิ เพราะมันเป็นวาทกรรมชั้นที่ยากจะถอนขึ้นมา เพราะเราทุกคนคุ้นเคยชินกับมัน

ตัวอย่างของมายาคติ เช่น ความเป็นลูกผู้ชาย พรหมจารีย์ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้อยู่ระหว่างความจริงและความไม่จริง มันก่ำกึ่ง ความคิดแบบนี้มันฝังอยู่ในรากของวัฒนธรรมของเราแต่ละคนไปหมดแล้ว

สำหรับเรื่องความบันเทิง พี่ไม่แน่ใจว่าบาร์ตเขียนไว้ใน mythologies หรือเปล่า เผื่อ mer อยากเอาไปปรับใช้ พี่ก็เล่าให้ฟังนิด ๆ ละกัน

เรื่องของความบันเทิง กลายเป็นความคิดที่ฝังอยู่ในระดับมายาคติเนื่องจากว่า โดยมายาคติเรื่องนี้คือ ความบันเทิงต้องมาพร้อมกับสุนทรียศาสตร์เสมอ (มันถูกมันผิดยังไง เราแยกยาก เพราะมันฝังอยู่ความคิดพื้นฐานของเราแล้ว) เรื่องของสุนทรียศาสตร์ก็เลยกลายเป็นประเด็นที่เราถกเถียงกันว่าอันนั้นดี อันนั้นไม่ดี

กลายเป็นประเด็นที่เถียงกันบนแก่นคนละอันของแต่ละคน

เอาประมาณนี้ พูดเรื่องยากจัง ลองอ่านดูก่อน สนุกดี วิเคราะห์มวยปล้ำได้เป็นฉาก ๆ เลย บาร์ตส์สามารถมาก


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:10:37:09 น.  

 
กิ๊กจะบอกว่า กิ๊กทำพาร์ทไทม์อยู่บูธแจ่มใสแล้ว
เหนื่อยโคตรรรรรรรรร !!
คนเยอะหลายแสน


โดย: +KikKle+ วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:11:13:18 น.  

 
เห็น Blog Blog แล้วอยากอ่านจังเลยค่ะ
แต่ว่า ก็หมดไปหลายตังค์แล้วเหมือนกัน
วันเสาร์จะแวะไปฟังเสวนา และว่า..จะแอบฉกของ อาจารย์ปกป้อง จันวิทย์ มาด้วยดีกว่า :)
ขอบคุณที่แนะนำค่ะ


โดย: Tiktok IP: 58.11.98.38 วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:12:02:21 น.  

 
คุณ merveillesxx เขียนบรรยากาศตะลุยงานหนังสือได้สนุกดีจังครับ รู้สึกเพลินไปด้วยเลยครับ ไปเดินมารอบนึงแล้วครับ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาครับ แต่ยังดูไม่หมด เพราะต้องกลับไปทำงานเอกชนครับ สัปดาห์นี้จะไปเดินอีกรอบนึงก่อนงานจะปิดครับ คิดว่าคงไปวันอาทิตย์บ่ายๆครับ

ได้เข้ามาอ่านเลยรู้ว่าคุณ merveillesxx เป็นคอหนังสือนิยายแปลของญี่ปุ่นนะครับ และเพิ่งรู้ว่ามี Be With You พิมพ์ออกมาเป็นหนังสือแล้ว จะไปตามหาซื้อเช่นกันครับ Love Letter (จดหมายรัก) เคยเห็นแล้วแต่ว่ายังไม่ได้ซื้อครับ คุณ it ซียู บอกว่าดูจากในหนังแล้ว หนังดูเรื่อยๆและเนือยๆมากๆทีเดียว เลยไม่กล้าซื้อมาดูและไม่กล้าซื้อมาอ่านครับ

ส่วนอยากกู่ร้องบอกรักให้ก้องโลก เห็นว่าตอนนี้ออกมาเป็นฉบับตีพิมพ์ครั้งที่ 5 แล้วครับ ดูจะขายดีเอามากๆครับ ผมซื้อตอนที่เป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 ครับ รีบไปหาซื้อมา หลังจากนั้นก็เลยออกฉบับพิมพ์ใหม่ๆออกมาเต็มเลยครับ

ส่วน Be With You - DVD กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะซื้อดีหรือไม่ครับ ชอบตอนดูหนังเหมือนกัน แต่รู้สึกว่า ทำ DVD แพ็คเกจพิเศษ แต่ราคาแพงจังครับ แต่ถ้า Crying Out Love - DVD ออกมาเมื่อไหร่ อันนี้ซื้อแน่นอนครับ

สุดสัปดาห์นี้ ตั้งใจว่าจะไปดู 3-Iron และ Doraemon ครับ
เอ จะมีใครอยากดู Doraemon เหมือนผมมั้ยครับเนี่ย


โดย: Tempting Heart วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:14:36:50 น.  

 
ได้อ่าน"กาซิโกกิ" หรือยังหนังสือออกมานานพอสมควรแล้วล่ะ แต่อ่านเมื่อไหร่ก็รู้สึกดีเมื่อนั้น อยากให้เพื่อนเพื่อนไปหาอ่านนะ


โดย: olive (tampuu ) วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:15:10:31 น.  

 
นักพนัน / The Gambler (1866, Fyodor Dostoevsky)

รู้สึกเคยดูซักช่องใน ubc....

แต่มันเอาเรื่องที่เขียนไว้ในคำนำมาสร้างหนัง
(แทนที่จะเอาเรื่องนี้ไปสร้าง กลับเอาตอนที่กำลังแต่งไปสร้าง)

ชื่อหนังว่าอะไรจำไม่ได้เหมือนกัน แต่เล่มนี้ซื้อมาเพราะชื่อเรื่อง แล้วก็นามสกุลคนแต่งมันเพราะดี คุ้นๆ ด้วย

แต่อ่านไปนิดเดียวไม่กี่หน้าในวันที่ซื้อมา แล้วก็ดองเอาไว้นานเลย


โดย: Calaglin วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:16:36:10 น.  

 
น่าเสียดาย น่าจะได้มาอ่านบล็อกนี้ก่อนไปอ่ะ .....
อยากไปอีกจัง


โดย: หนูชล วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:17:29:25 น.  

 
03.
<< GOTH ผมไปซื้อมาเมื่อวันจันทร์นะครับ เห็นคนขายบอกว่าล็อตที่นำมาขายเป็นล็อตสุดท้ายแล้วนะครับ
27.
<< อันนี้ไปซื้อมาจากงานหนังสือหรือว่าสั่งจองเอาครับ เพราะผมลืมสั่งเอาไว้ถ้ามีขายที่บู้ทอัลติเนทีฟไรท์ติ้งก็คงดี

หนังสือปีนี้ซื้อมาเยอะเช่นเคยครับ แต่ยังไม่หมดลิสท์ที่อยากซื้อเลย ส่วน แล้วฉันจะกลับมา นี่เสียดายมาก ๆ ที่ไม่ได้ซื้อเพราะลืมแวะบู้ทบลิสเมื่อวันจันทรตอนเย็น ! (ได้ยินมาว่าหนังสืออกวันนั้นวันแรกนะครับ)

พรุ่งนี้คงจะได้ไปอีกรอบต้องไม่ลืมซื้อ ไต้ฝุ่นคาเฟ่ ซะแล้ว... (หนังสือเนื้อหาเป็นยังไงยังไม่รู้เลย สนใจของแถมมากกว่า... อ้าว)


โดย: Nighty (Meroko ) วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:20:02:11 น.  

 
แวะมาอีกรอบครับ

คุณ Tempting Heart หา Love Letter มาดูมาอ่านเสียดี ๆ เถอะนะครับ (ขู่บังคับ... ฮา) เพราะถ้าชอบหนังญี่ปุ่นหนังสือญี่ปุ่นก็คงชอบแน่ ๆ ทั้งภาพยนตร์และหนังสือของเรื่อง Love Letter นี่ น่ารักกก และ ประทับใจมาก ๆ ครับ ไม่ว่าแบบไหนเล่นทำเอาหัวใจผมเกือบละลายด้วยความอบอุ่นเลย

(อาจจะสปอย :: ไม่ว่าตอนจบของแบบหนังสือหรือภาพยนตร์ก็ทำให้หัวใจผมแทบละลายด้วยความอบอุ่นเลยครับ)


โดย: Nighty (Meroko ) วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:20:10:30 น.  

 
แนะนำสองดวงจันทร์สุดจิตสุดใจจริงๆ
ชอบมากกกกกกกกกกกก

(แอบซื้อลด50% มา หนังสือหลุดเป็นแผ่นๆเลย
งือๆ )


โดย: quin toki วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:20:32:56 น.  

 
ไปตะลุยมาสามรอบแล้วค่ะ(สำหรับงวดนี้นะ) หมดเงินไปหลาย แต่ก็ยอม ดีกว่าเอาตังค์ไปกินเหล้าเมายาแยอะ


โดย: มีน แอนด์ มาร์ช วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:21:39:45 น.  

 
Sia Dai, can't go. But sometimes I prefer buying in a little book-shop, he he pretending to be a good guy, helping the owner of small one more than big one in book festival.


โดย: sw IP: 202.76.140.244 วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:21:57:17 น.  

 
ขอบคุณ คุณ Nighty ที่แนะนำเกี่ยวกับหนังสือและหนังให้นะครับ จะได้ไปลองหาซื้อมาดูมาอ่านครับ ได้เข้าไปอ่านบล็อกของคุณ Nighty แล้วครับ บล็อกน่าสนใจมากๆครับ โดยเฉพาะที่เขียนเกี่ยวกับหนังนะครับ


โดย: Tempting Heart วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:22:27:20 น.  

 
ไม่ได้ ทำหนังสือใต้ดิน จ้า
ทำหนังสือ บนดิน มาตลอด
ที่บู้ทมีหนังสือของไต้ฝุ่น (เกือบ ) ทุกเล่ม
ของระหว่างบรรทัด (เกือบ ) ทุกเล่ม
มีหนังสือ เตรียมไว้ให้ด้วย
มีเวลา อีก 2 วันนะ เสาร์-อาทิตย์นี้

แสดงว่าไม่ได้หลังไมค์ พี่ใช่ไหม นี่ ต่อ


โดย: grappa IP: 61.91.110.226 วันที่: 14 ตุลาคม 2548 เวลา:22:50:30 น.  

 
ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่ลงชื่อและ URL ผิด เป็นความผิดของผมเอง

วันไหนว่างๆ ขึ้นมาคุยกันได้นะครับ อยากเจอตัวเหมือนกัน

ไม่นึกว่าจะยังมีคนสนใจ 418 คงต้องรออีกนานกว่าจะเปิดใหม่


โดย: ปิ่น ปรเมศวร์ IP: 61.91.172.70 วันที่: 15 ตุลาคม 2548 เวลา:0:29:55 น.  

 
ซื้อหนังสือมาเยอะจังเลยค่ะ...เยอะมากๆ อ้อ...ถ้าจะไปงานอีกที บูธโอเพ่นอยู่ W 05 บริเวณเวทีเอเทรียมเดิม

ช่วงนี้หนังสือของเจบุ๊คออกเยอะมาก แต่ยังไม่ได้แวะไปเลย เพราะไปทีไร คนก็มายืนออเต็มไปหมด เราชอบอ่านแนวโรแมนติกของเจบุ๊คมากๆ อ่านเกือบครบทุกเล่ม ส่วนพวกเรื่องสืบสวนไม่ค่อยถนัด แต่ล่าสุดก็อ่านซายากะไปทั้ง 2 เล่ม

พรุ่งนี้กับวันอาทิตย์ เราคงได้มีโอกาสไปอีกที อ่านบล็อกนี้แล้ว กะอยากไปช้อปแบบสุดๆ บ้าง 5 5 5 (แต่คงไม่เยอะเท่าคุณเจ้าของบล็อกนี้) ไม่งั้นกระเป๋าสตางค์ไม่สบายแน่ๆ


โดย: foneko IP: 61.91.87.137 วันที่: 15 ตุลาคม 2548 เวลา:1:40:29 น.  

 
ตอบ คุณสาวไกด์ใจซื่อ

"ฝนตกตลอดเวลา" ยังไม่ได้ซื้อและก็ยังไม่ได้อ่านด้วยครับ
ผมพยายามจะเก็บงานของคุณปราบดาให้ครบสักที แต่ไม่รู้ว่าเพราะผมอ่านช้าหรือคุณคุ่นออกงานเร็วกันแน่ ถึงไม่ครบสักที

หนังสือที่ "อ่านแล้วยังไม่ได้ซื้อ" ไม่ค่อยมีหรอกครับ ส่วนใหญ่มันจะเป็น "ซื้อแล้วแต่ยังไม่ได้อ่าน" มากกว่าอ่ะ -__-'

>สำหรับหนังก็เลยต้องคงห่างหายกันไปอีกระยะใหญ่ๆ (ยกเว้นจะหาใครหลงมาเลี้ยงได้)
ผมอาจจะพอเลี้ยงไว้นะครับ เพราะตอนนี้ก็ไม่ได้มีภาระต้องเลี้ยงอะไรใครเท่าไร แต่คุณสาวไกด์จะทนดูหนังที่ผมชอบดูได้มั้ยล่ะเนี่ย

หนังสือ "เด็กชายหอยนางรม" นี่ผมเคยเอาไปพรีเซนต์หน้าห้องด้วยครับ ปรากฏว่าเงียบทั้งห้อง...

-------------------------------------------------------

ตอบ พี่ I will see U in the next life.

พูดถึงห้องสมุดแล้วรู้สึกว่าตัวเองใช้บริการห้องสมุดไม่คุ้มอย่างแรงเลยครับ เชื่อมั้ยว่าตอนอยู่ที่ มธ.รังสิต 2 ปี ผมเคยยืมหนังสืออกมาอ่านแค่ครั้งเดียวเองครับ (ซึ่งก็คือ อาทิตย์แรกของเทอมหนึ่ง) หลังจากนั้นก็ไม่เคยยืมอะไรอีกเลย แล้วทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้จ่ายค่าปรับเลยครับ

แต่ผมก็ไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดบ่อยเหมือนกัน ชอบหนีไปอ่านเงียบๆ ที่ชั้น 3 แต่ปรากฏว่า ชั้น 3 เนี่ยนะ มีคนอยู่สองประเภท
1. คนมาแอบหลับ
2. แฟนแอบมาจู๋จี๋กัน
ไอ้ประเภทที่สองนี่เกลียดมาก บางทีอ่านหนังสือเศร้าๆ มองไปทางคู่มัน หมดกัน...จากอารมณ์เศร้า กลายเป็นอารมณ์อยากเอาแทน (อุ๊ย แรงไปรึป่าว)

ขอบคุณพี่มากเลยที่ให้ความรู้เพิ่มเติม ไว้อ่านจบแล้วจะขอปรึกษาบางเรื่องละกัน

-------------------------------------------------

ตอบ น้อง +KikKle+

พี่ชื่นชมคนที่ไปทำงานในงานหนังสือมากๆเลยครับ พี่คิดว่ามันเป้นงานที่หนักมาก และเสี่ยงต่อการสติแตกได้ง่ายมาก

ส่วนหนังสือของ แจ่มใส พี่ไม่ค่อยได้อ่านอ่ะ แหะๆ

-----------------------------------------------------------------

ตอบ คุณ Tempting Heart

ผมก็เริ่มอ่านพวก JBOOK มาตั้งแต่ตอนกระแสเรื่อง "เดอะ ริง" ดังมากๆ ตอนนั้นแหละครับ รู้สึกชีวิตนี้จะผูกพันกับอะไรที่มันเป็นเจแปนๆ หรือเกิน เพลงก็ชอบ J-ROCK/J-POP หนังญี่ปุ่นก็ชอบ หนังโป๊นี่ญี่ปุ่นก็เด็ดสุด ขาดแต่มีแฟนเป็นคนญี่ปุ่นเนี่ยแหละ ไม่งั้นก็ครบวงจรแล้ว (อ้อ ขาดไปญี่ปุ่นด้วย อยากไปมากมาย)

โห ไม่ดู / ไม่อ่าน Love Letter นี่รุนแรงราวข้อหาฆาตกรรมครับ ทั้งหนังและหนังสือติด TOP10 ในดวงใจผมเลยครับ

ดีใจที่คุณ Tempting Heart อยากดู 3-Iron ครับ ผมเชียร์สุดๆ ส่วน Doraemon ผมก็อยากดูครับ เห็นเค้าว่าเป็นตอนที่ดีที่สุดในรอบหลายปี แต่สงสัยจะไม่มีเวลาดูแน่ๆเลย เทศกาล world film มันมาแล้วง่ะ


โดย: merveillesxx วันที่: 15 ตุลาคม 2548 เวลา:4:52:17 น.  

 
ตอบ น้อง Nighty

DVD สารคดีข้างบ้าน พี่ซื้อจากในงานเลยครับ ไม่ได้สั่งอะไรไว้เลย
ถ้าน้องไปหาที่บูธอัลเทอร์เนทีฟไรติ้ง นี่ไม่ได้แน่ๆ เพราะบูธมันชื่อ Alternative Writer ง่ะ อิๆ (แซวเล่น)
บูธอยู่โซน C1 เบอร์ N03 นะ

---------------------------------------------------------

ตอบ พี่ grappa

โธ่ เวรกรรมมากเลยพี่ ผมเพิ่งเช็คหลังไมค์เมื่อตีสามครึ่งเองง่ะ
เดี๋ยวจะงอนซะก่อน จริงๆตอนอยู่ในงานผมหาทั้งบูธของ ระหว่างบรรทัด และไต้ฝุ่นเลยนะ
แต่แบบดูในแผนที่มันไม่มีทั้งคู่เลยง่ะ -___-'

---------------------------------------------------------

ตอบ อ.ปิ่น ปรเมศวร์

เรื่องชื่อผิดไม่เป็นไรครับ ชื่อหายยังเคยมาแล้วเลยครับ เรื่อแค่นี้เบๆ จ้า

---------------------------------------------------------

ตอบ คุณ foneko

บูธของ open นี่ผมหาเจอแล้วครับ แต่รู้สึกตกใจนิดหน่อย จำได้ว่าแต่ก่อนบูธมันใหญ่กว่านี้เยอะเลยนินา

เห็นด้วยครับบูธของ JBOOK นี่สุดๆ เสียพลังงานเยอะมากๆ จริงๆเดินเป็นบูธแรกนี่ก็ดีนะครับ แบบว่ายังมีพลังอยู่

แต่อะไรก็ไม่เท่าบูธร้านนายอินทร์ตอนที่คุณสรยุทธมาแจกลายเซ็นครับ ผมเจอมาแล้ว แต่ก็ดันได้ลายเซ็นกับเค้าด้วย เก่งจริงๆนะเรา อิอิ


โดย: merveillesxx วันที่: 15 ตุลาคม 2548 เวลา:5:04:26 น.  

 
list ซ้ำกันเยอะเหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะของ JBOOK แต่ของเราไม่ค่อยหลากหลายเท่าไหร่ เพราะมีแต่นิยายสืบสวนเกือบทั้งหมดเลย

งานของคุณวินทร์เพิ่งเคยอ่านเล่มเดียวเองค่ะ คือวันแรกของวันที่เหลือ น้องรหัสให้เป็นของขวัญแล้วชอบมากทีเดียว ครั้งนี้ก็เลยไปซื้อปีกแดงมาอีกเล่ม ได้ลายเซ็นด้วยค่ะ

ไปมา 2 ครั้งค่ะ รวมกันได้มา 39 เล่ม หมดไป 6,000 กว่าบาท เขียนเรื่องงานหนังสือไว้ที่ blog เหมือนกันค่ะ


โดย: azzurrini วันที่: 15 ตุลาคม 2548 เวลา:13:09:30 น.  

 
ดีใจที่เจอคนคอเดียวกัน และเป็นลูกแม่โดมเหมือนกันด้วยล่ะ แต่เราอยู่คณะวิดยาอ่ะจ่ะ อิอิอิ


โดย: โอตโจะ (โอตโจะ ) วันที่: 15 ตุลาคม 2548 เวลา:22:24:21 น.  

 
อ่านแล้วเสียดายจังค่ะ....เพราะว่าไปทีก็ใช้ตั้งงบไว้พอๆกะพี่mer เลยเกรงใจพ่อ กะจะไปแค่ปีละครั้ง.....รุงี้ไปดีกว่า !! (>.<) คล้ายๆกันหลายเรื่องเลยค่ะ หนังสือที่ชอบก็คล้ายกัน มีดองไว้เยอะเหมือนกัน แต่บางเรื่องที่พูดถึงก็ไม่รุจักค่ะ แล้วบางเรื่องก็ยังอ่านไม่เข้าใจเท่าไหร่ - -"

*Love Letterเวอชั่นหนังสือดีมั้ยคะ?
**นอกจากโมริ เอโตะ กับ โอตสึอิจิ แล้ว มิยาเบะ มิยูกิ ก็สนุกค่ะ (อาจเคยอ่านแล้วนะคะ) มีชอบหลายคนเลยค่ะ..
***ชอบโอตสึอิจิเหมือนกันค่ะ แต่แอบเจ็บใจที่หน้าปกล็อตหลังสวยกว่าล็อตแรกที่ซื้อมา


โดย: princenobu IP: 58.10.53.123 วันที่: 16 ตุลาคม 2548 เวลา:23:52:44 น.  

 
ตอบ คุณ azzurrini

ปีกแดง ของคุณวินทร์ ผมก็ซื้อมานานแล้วครับ แต่ยังไม่ได้อ่านเลยครับ (ขึ้นความหนาแล้วท้อจายยยยย)

เล่มของคุณวินทร์ที่ชอบมากๆ ก็คือ สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน, ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน และเดือนช่วงดวงเด่นฟ้าดาดาว

-----------------------------------

ตอบ คุณโอตโจะ

สวัสดีจ้า ลูกแม่โดม ด้วยกัน

------------------------------------

ตอบ คุณ princenobu

Love Letter ฉบับนิยายดีมากครับ

ส่วนปกของโอตสึอิจิ ถ้า "โทรศัพท์สลับมิติ" ผมชอบล็อตแรกล่ะครับ ล็อตหลังมันหวานๆ หยั่งกะนิยายเกาหลี


โดย: merveillesxx วันที่: 17 ตุลาคม 2548 เวลา:4:23:27 น.  

 
สองดวงจันทร์นี่แนะนำเหมือนกันค่ะ เป็นหนังสืออบอุ่นอ่อนโยน ส่วน ฝนตกตลอดเวลา ก็แนะนำมากๆเหมือนกันค่ะ รู้สึกว่าการเขียนของพี่คุ่นอบอุ่นขึ้นมาก ทำเราน้ำตาไหลเลย (พูดถึงเรื่องพี่คุ่น พี่เค้าเคยมาพูดคุยกับนักศึกษาที่ธรรมศาสตร์ รังสิต ตอนเราอยู่ปี1 เราได้มีโอกาสถามพี่คุ่นด้วย หลังจากนั้น เพื่อนเราถามเราว่า ทำไมเวลาแกถามพี่คุ่นแกต้องทำเสียงเหมือนนักข่าวด้วยวะ.... ก็งงกันไป)

รายชื่อหนังสือคุณmerคล้ายกะของเราเลยค่ะ แถมเป็นแฟนjbookเหมือนกันด้วย

แมวสามสีเล่มนี้ดีขึ้นกว่าเล่มที่แล้วนะคะในความคิดเรา ไม่รู้ว่าเพราะมันแบ่งเป็นตอนสั้นๆรึป่าว ก่อนหน้านี้เคยชอบมากจนเพื่อนที่เรียนเอกญี่ปุ่นบอกว่าจะไปขอลายเซนต์อาจารย์สมเกียรติมาให้ (อาจารย์สอนอยู่เอกญี่ปุ่น คณะศิลปศาสตร์ค่ะ)

คนขายซุ้มblissน่ารักจริงๆค่ะ >_< แถมเสียงหวานดีซะด้วย แต่เผอิญไม่ค่อยกล้าเชียร์หนังสือกับเราเท่าไหร่ เพราะเรากะน้องไปก็หยิบๆๆๆจนเค้ามองตาปริบๆ พูดกับเราแค่ว่า อีกนิดเดียวก็ได้organizerแล้ว จะซื้อให้ครบ1700เลยมั้ยคะ - -"

ช่วงนี้คุณmerอัพบลอกบ่อยจริงๆซะด้วย จะเข้ามาอ่านบ่อยๆค่ะ


โดย: melancholia IP: 203.188.52.248 วันที่: 20 ตุลาคม 2548 เวลา:20:41:30 น.  

 
ชอบหนังสือเรื่องอยากกู่ร้องบอกรักให้ก้องโลกมากที่สุดในโลกเยย.............


โดย: badgirl IP: 203.107.189.66 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2548 เวลา:12:38:49 น.  

 
อยากได้ ทิม เบอร์ตัน: The Melancholy Death of Oyster Boy เด็กชายหอยนางรม (1997)อ่ะคับ

หาซื้อที่ไหนอ่ะ


โดย: Ava7 IP: 203.188.35.101 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2548 เวลา:1:29:30 น.  

 
เด็กชายหอยนางรม ผมเห็นเหลือที่

1. ร้านนายอินทร์ ท่าพระจันทร์ (2 เล่ม)

2. ร้านดอกหญ้า สยามสแควร์ (5 เล่ม)



โดย: merveillesxx วันที่: 8 มกราคม 2549 เวลา:0:00:56 น.  

 
บอกเล่าเรื่อง กนกพงศ์ สงสมพันธุ์ค่ะที่นี่--
//my.opera.com/sunmul
เพื่อนบ้านเค้าทำไว้ค่ะ ไปเจอเลยแวะมาบอกข่าว


โดย: aomja IP: 61.91.226.177 วันที่: 16 มีนาคม 2549 เวลา:0:30:25 น.  

 
ประชาสัมพันธ์

เชิญเพื่อนนักเขียน ที่ต้องการประชาสัมพันธ์หนังสือหรือผลงานด้านงานเขียนสำนักพิมพ์ประพันธ์เชิญเข้ามาโพสต์ประชาสัมพันธ์หนังสือของตัวเองได้ครับที่คอลัมน์แนะนำหนังสือครับ//www.praphansarn.com/new/default.asp
(ช่วยบอกต่อด้วยนะคับ)


โดย: หนอนน้อย IP: 58.9.142.95 วันที่: 21 สิงหาคม 2550 เวลา:13:54:38 น.  

 
ดีใจจังที่เจอคนชอบอ่านหนังสือเหมือนๆกัน ^^


โดย: หยาดฝน IP: 119.42.94.151 วันที่: 25 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:37:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.