Bloggang.com : marzo : Chiang Mai - Chiang Rai : ความสุขที่ไม่ได้อยู่แค่การเดินทาง เชียงใหม่

Chiang Mai - Chiang Rai : ความสุขที่ไม่ได้อยู่แค่การเดินทาง เชียงใหม่ - เชียงรายกับแม่และญาติพี่น้อง

นานมากแล้วที่เราไปได้เดินทางไปไหนกับแม่และครอบครัวคุณลุงอย่างนี้ ครั้งสุดท้ายจำได้ก่อนอายุสิบสาม หลังจากนั้นเราแยกไปเรียนต่อนอกประเทศไทย และญาติๆไปเรียนอีกทวีปหนึ่ง นานๆจะกับมาเจอกันที และก็ไม่ค่อยได้เจอกันครบๆอย่างนี้

( 28 / Dec. / 2009 ) ทริปนี้ฉุกละหุกมาก ก่อนเราจะเดินทางกลับเมืองไทยวันนึง แม่บอกว่าจะไปเที่ยวเหนือกัน เราคิดว่าเราคงไม่ไป ที่สำคัญคงจองไม่ทันแล้ว และแนวเที่ยวของญาติๆ(เหนื่อยแน่ๆ) พอถึงเวลาเจอหน้าญาติๆ ก็อดไม่ได้แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เหนื่อยตั้งแต่หาตั๋ว(ที่เต็มหมดแล้ว)

เราและคุณสามีเลยต้องเดินทางไปรอที่เชียงใหม่ก่อนวันนึง ที่เหลือจะมาถึงวันถัดไปตอนบ่าย เราเดินทางมาถึงเชียงใหม่ก็ค่ำแล้ว โชคดีของคนสมัยนี้ ที่สามารถจองห้องพักผ่านอินเตอร์เน็ต และที่พักที่เชียงใหม่ทั้งดีและถูกหาได้ทั่วไปจริงๆ

( 29 / Dec. / 2009 ) : ตื่นสาย ทานอาหารเช้าเสร็จไม่รู้จะทำไร ก็เดินเล่นในเมือง แวะร้านตาบัคก่อนเลย(กาแฟที่ห้องพักไม่ค่อยได้ใจ) ชอบร้านตาบัคนี้ อยู่ตรงกำแพงเมือง ประตูท่าแพ(ถ้าจำไม่ผิด) ร้านสวยคะ

ตอนแรกคิดจะไปเวียงกุมกาม แต่ด้วยเวลาไม่เอื่อ เลยได้แต่เดินเล่นแถวๆประตูเมืองเก่า วัดที่เชียงใหม่มีสวยๆเยอะมาก

วัดพันเตา ต.พระสิงห์ สวยงามในความรู้สึก เข้าไปสักการะ ทำบุญกับวัด ซื้อปฎิทินของปี 2011 ด้วย อยู่ในวัดจิตใจสงบดีจริง

บ่ายๆไปรอรับญาติๆที่สนามบิน คุณป้าเช้ารถตู้พร้อมคนขับในราคา 1,800 บาทไม่รวมค่าน้ำมัน พี่คนขับรถให้พวกเราดีมากเลยคะ สุภาพ นัดเจอกันที่สนามบิน เราไม่สนใจเท่าไหร่ว่าเค้าจะไปไหนกัน เรานั่งเม้ากับลูกพี่ลูกน้องตลอดทาง ไม่ได้เจอกันนานแล้วนิ หยุดก็ลง เรียกขึ้นรถก็เม้าต่อ ไปกับผู้ใหญ่ก็ดีไปอย่าง ไม่ต้องอะไรมาก ตามๆเค้าไป (ตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด หิหิ) หยุดจอดซื้อส้มครั้งแรก หลังจากนั้นรายการซื้อตลอด ล้อหมุนนานเท่าไหร่ ของหลังรถก็เพิ่มขึ้นเท่านั้น

พี่คนขับรถแนะนำให้แวะถ้ำเชียงดาว (อยู่ส่วนไหนของประเทศเราก็ไม่รู้ละนะ) ก่อนทางเข้าจะมีแผงขาของ และก็จะเอ๋...อายนี้อะไร ตอนแรกนึกว่าเจอสยอง เอาสัตว์ป่ามาขายซะอีก ทางเข้าถ้ำเชียงดาว เสียค่าบำรุงรักษา ไม่แน่ใจว่า 20 บาทหรือเปล่า

ด้านในถ้ำใหญ่และมึด คิดว่านะจะใช้บริการของไกด์นำทางนะคะ เพราะมีบางจุดมันอันตราย มีเหวลึกด้านในด้วย (ทำไมเค้าไม่ทำที่กันไว้ก็ไม่รู้ ตกไปนึ่แย่แน่ๆ) ผู้สูงอายุและเด็กเล็กไม่ควรเข้าคะ เพราะมีรายการมุดๆๆ พื้นก็ไม่เรียบและลื่นเป็นบางช่วง ต้องระวัง

ด้านนอกทางเข้าถ้ำมีสระน้ำใส(กริ๊ก) ปลาตัวใหญ่มากเยอะ แวะไหว้พระทำบุญ

ล้อหมุน พี่คนขับถามว่าจะแวะไหม เอ๊า..ซาวร์เสียง แวะคร๊าบ ฐานปฎิบัติการบ้านนอแล

พม่าอยู่ใกล้แค่นี้ ตอนมีการสู้รบเค้าอยู่กันได้ยังไง เห็นแล้ว..รู้สึกขอบคุณผู้ปกป้องแผ่นดินไทยจริงๆ

อยากให้อ่าน " สมเด็จพระนเรศวรมหาราช แด่ลูก หลาน เหลนไทย " อ่านถึงประโยคสุดท้ายน้ำตาไหลเลย รักบรรพบุรุษไทย จะยกยกพวกท่านตลอดไป

" กรุงศรีเคยคลุกคลี ด้วยสีเลือด แผ่นดินเคยลุกเดือด เลือดโลนไหล แต่ไทยต้องคงนาน ความเป็นไทย ถ้าไม่มีใครวิญญาณกู จะสู้เอง "

ด้านนอกค่ายจะมีชาวเขามาตั้งแผงขายของ คอนเซปเดิมๆ ทุกร้านขายเหมือนกันหมด เราสอยกระเป๋าเล็ก ไล่สี สวยเชียว ซื้อมาตั้ง 2 ใบ

คืนนี้แวะค้างคืนที่ Ang Khang natural resort / รีสอร์ทธรรมชาติอ่างขาง - ดอยอ่างขาง (คลิกดู) เค้าว่าเป็นที่พักที่ดีที่สุดแถวนี้ เราว่าเค้าสร้างได้กลมกลืนกับธรรมชาติดีคะ เราชอบที่นี่ เช็คอินเสร็จคุณลุงชวนไปเดินดูในเมือง ดูเค้าขายอะไรมั่ง

เราซื้อข้าวเหนียวดำงาดำปิ้ง (รูปบน) ทุกคนสงสัยว่าอะไร ถามว่าอร่อยไหม เรารีบบอกว่าอร่อย (จริงๆยังไม่เคยกินเหมือนกัน แต่เห็นเพื่อนๆห้องBPลองแล้วบอกอร่อย) เราซื้อมาลองชิ้นนึงก่อน แบ่งๆทุกคนหม่ำ สุดท้ายก็ไปซื้อกันเพิ่ม แวะซื้อนน้ำขิงร้อนๆด้วย อร่อยดี แต่พอหมดคุณสามีพลิกด้านใต้ดูเห็นราเกาะเลยทำหน้าสยองๆ

คุณลุงบอกว่ามาถึงที่น่าจะลองอาหารชาวบ้านๆ เลยเลือกนั่งร้านอาหารร้านนึง รอนานมากๆๆๆๆ จนทุกคนรอไม่ไหว เลยลงความเห็นกลับไปกินที่โรงแรมแล้วกัน และทุกคนก็ต้องเซอร์ไพรส์ (Surprise) มากๆ ที่ร้านอาหารของโรงแรมอร่อยเลิศ เราละปลื่มเห็นหอมผัดมากมาย สุดๆ

( 30 / Dec. / 2009 )

เมื่อคืนนอนที่ รีสอร์ทธรรมชาติอ่างขาง (Ang Khang natural resort ) ห้องดี กลมกลืนธรรมชาติ อากาศหนาวเย็น ตื่นขึ้นมาต้องคว้าแจ็กเก็ตมาใส่ ไปนั่งผิงไปที่ล็อบบี้โรงแรม รอสมาชิกทริปนี้มาแล้วไปหม่ำอาหารเช้ากัน

หลังจากไปทานอาหารเช้าพวกเราเดินทางไปข้างๆก่อน สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ซึ่งอยู่ถัดออกไปจากที่พักนี่เอง

ไม่ได้ตื่นตาอะไรมากมาย แต่เห็นก็ดีใจที่เมืองไทยปลูกได้ ถ่ายรูปญาติๆ นานๆจะมากับครบๆ สุขใจ

เที่ยวช่วงวันหยุดพร้อมกันทั้งประเทศอย่างนี้ คนเยอะจริงๆ คิดว่าถ้าไม่มีคนเยอะจนล้นขนาดนี้ที่นี่คงสวยและน่าจดจำมากกว่านี้

จุดหมายคือสามเหลียมทองคำ พี่คนขับถามว่าจะแวะหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาวไหม คุณสามียังไม่เคยมาเลยแวะซะหน่อย ตรงทีจอดรถ..เค้าเก็บค่าเข้าคนละ 150 บาท คนต่างชาติ(เท่าไหร่จำไม่ได้ แต่แพงทีเดียว)

เป็นระเบียบมากๆ ได้รับการจัดการดี เหมือนทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวมากกว่าชีวิตจริง ตอนแรกว่าจะไม่ถ่ายรูป กลัวเค้าจะคิดว่าเราไปหาว่าเค้าเป็นตัวประหลาด แต่เห็นเค้ายิ้มแย้ม เชิญชวน ก็โอเคคะ คอนเซ็ปเดิมๆของเมืองไทย ทุกร้านขายเหมือนกันหมด เราได้ผ้าพันคอมา 2 ผืน ให้น้องสาวผืนนึง ผืนละ100 ตุ๊กตาไม้แกะสลักหยาบๆตัวละ 100 เช่นกัน นอกนั้นก็หมวกและเป้ยาม

คืนนี้พักที่ Anantara Resort & Spa Golden Triangle ห้องพักดีมาก บริการดี ประทับใจคะ (คลิกดู) จากนั้นพวกเราออกมาด้านนอก เดินดูตลาด

เจองานวัด ทุกคนเหมือนกลับไปเป็นเด็กชั่วขณะ เล่นยิงปืนกันได้ตุ๊กตามาก็ไม่รู้จะเอาไปทำไร เลยให้เด็กแถวนั้น เด็กๆก็ดีใจ คนให้ก็ดีใจ

ยามเย็นที่สามเหลี่ยมทองคำ

เสียดายที่ถ่ายตอนหมดแสงแล้ว เลยได้มาแค่นี้แหละ

( 31 / Dec. / 2009 )

แวะที่ตลาดแม่สอด ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยสำหรับเรา เดินทางต่อไปถ้ำปลา
ซาวร์เสียง ลงไม่ลง เอ้า...ลง ลงก็ลง พี่คนขับบอกให้ระวังกระเป๋า กล้อง แว่นกันแดดจากน้องลิง ตามนั้นเลย น้องลิงส่วนมาก เซี้ยว แก่น ซ่า และไม่กลัวคนด้วย มีแต่2 แม่ลูกนี่แหละ ดูจะเป็นแม่ศรีเรือนที่สุด ไม่มีอะไรในกอไผ่ ถ้าที่มีน้ำไหลมาเป็นแอ่ง แล้วก็ลิงจำนวนมหาศาล เหมือนมาดูลิงมากกว่ามาดูปลา

ไปต่อพระตำหนักดอยตุง มนุษย์ล้นไปหมด ญาติๆเราเดินเข้าไปแป๊บเดียวแล้วรีบออกมาเลย แบบว่าไม่ไหวคนเยอะมาก เราก็ถ่ายรูปอยู่นั้นจนคนรอๆไม่ไหวต้องให้คนมาตาม แฮะๆ

กลับถึงบ้านเชียงใหม่ซะที เหนื่อยๆ วันรุ่งขึ้นไปกราบหลวงพ่อ(จำชื่อไม่ได้) ตามคุณลุงคุณป้าไป ท่านจะออกธุดงค์ หรือไม่ได้จำวัด แต่โชคมากที่วันนี้ท่านจำวัด พวกเลยได้ทำบุญ รับน้ำมนต์กันในวันปีใหม่ร่วมกับญาติๆด้วยซะเลย สุขใจหลาย

ค้างอีกคืนที่เชียงใหม่ รุ่งเช้าไปเดินที่ถนนนิมานซอย1 ญาติเค้าตั้งใจไปร้านนี้โดยเฉพาะ เปิดร้านไม่ตรงเวลาเท่าไหร่ เค้าปิดตอนเที่ยง เขียนป้ายว่าเปิดบ่ายสองครึ่ง ญาติๆเรารอมาอีกหลายสิบนาทีกว่าจะเปิด เจ้าของอาจติดธุระสำคัญ เจ้าของเค้าใจดีคะ กำแพงสวยๆ น้องแมวน่ารัก (ตอนแรกนึกว่าแมวจริงซะอีก -*- ) เราไม่ได้ซื้ออะไร ของออกแนวอาร์ตๆ ราคาสูงนิดนึง ญาติเราสอยจุ๊กเปิดปิดทองเหลืองรูปดอกไม้มาอันนึง ราคาประมาณ 1,500 บาท

ก่อนไปสนามบิน พวกเราไปกินบุฟเฟ่ที่โรงแรมเดอะเจดีย์ (The Chedi Chiang Mai) ร้านอาหารน่านั่งริมแม่น้ำ (คลิกดู)

ความสุขจริงๆของทริปนี้ไม่ได้อยู่กับสถานที่ๆไปเลย แต่เป็นความสุขที่ได้อยู่รวมกับญาติพี่น้องพร้อมๆกันอีกครั้ง ความสุขที่ไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทางอย่างเดียว

TOP

Create Date : 14 ธันวาคม 2552

Last Update : 16 พฤศจิกายน 2553 6:21:29 น.

1 comments

Counter : 2301 Pageviews.

สวัสดีค่ะ คุณ Marzo ^^
มาแอ่วเหนือด้วยคน อากาศดีดอกไม้สวยมากๆค่ะ

โดย: Panino

วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:12:53:23 น.