"Genie" กรณีศึกษาของเด็กที่ถูกทอดทิ้ง
▲ Genie
ที่มาภาพ tumblr
เด็กคนนี้ถูกเรียกว่า Genie หรือชื่อจริงว่า Susan Wiley เธอใช้ทั้งชีวิตตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 13 ปี ถูกขังอยู่ภายในห้องมืดไม่เคยได้ออกไปไหน เธอไม่เข้าใจภาษามนุษย์ ไม่สามารถพูดได้ และไม่สามารถแสดงท่าทางแบบมนุษย์ปกติได้ เรื่องราวของ Genie เป็นกรณีศึกษาที่โด่งดังที่สุดในหมู่ของ Feral Child หรือ เด็กที่ถูกทอดทิ้ง
Feral Child เป็นคำที่ใช้เรียกเด็กที่เติบโตและอาศัยอยู่โดยไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์คนอื่น ทำให้เด็กเหล่านี้เติบโตขึ้นโดยไม่มีประสบการณ์การได้รับการดูแล ความเอาใจใส่ ความรัก ทำให้ไม่สามารถแสดงพฤติกรรมแบบมนุษย์ทั่วไปได้ กรณีของ Feral Child นี้เกิดขึ้นได้หลายแบบ มีทั้งที่โดนสัตว์ป่าลักพาตัวไปแล้วนำไปเลี้ยงดู (ฟังดูไม่น่าเป็นไปได้ แต่กรณีแบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นจริงหลายครั้ง) มีรายงานว่าเด็กบางคนหนีเข้าไปในป่าแล้วไปใช้ชีวิตอยู่เอง แต่ที่เกิดขึ้นมากที่สุดคือ เด็กที่เป็นเหยื่อของการถูกกระทำทารุณและทอดทิ้ง ส่วนมากโดยพ่อแม่ของตัวเอง
▲ ภาพวาด Feral Child
ที่มาภาพ occultopedia , Wikipedia
Genie เกิดเมื่อปี ค.ศ.1957 ที่รัฐแคลิฟอเนีย สหรัฐอเมริกา เธอถูกพ่อของตัวเองขังไว้ในห้องนอนเมื่อมีอายุได้เพียง 20 เดือน ในตอนกลางวันเธอจะถูกมัดไว้กับโถส้วมสำหรับเด็ก ส่วนในตอนกลางคืนเธอจะถูกมัดไว้ในถุงนอน และถูกนำไปไว้ในคอกเด็กที่ปิดด้วยตะแกรงเหล็ก พ่อของเธอจะเป็นคนคอยป้อนอาหาร และจะตีเธอด้วยไม้ ถ้าเธอส่งเสียงร้อง เขาไม่เคยพูดกับเธอเลยยกเว้นส่งเสียงตะคอกหรือขู่ในลำคอเหมือนเวลาที่ฝึกสุนัข แม่และพี่ชายของ Genie ไม่มีสิทธิ์มีเสียงใดๆ ในบ้านทั้งนั้น จึงไม่มีใครช่วยเหลือเธอได้เลย
▲ บ้านของ Genie
ที่มาภาพ mymultiplesclerosis
จนกระทั่งในวันที่ 4 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.1970 เมื่อ Genie อายุได้ 13 ปี แม่ของเธอหนีออกจากบ้านโดยพาเธอไปด้วย ทั้งสองไปที่หน่วยงานสังคมสงเคราะห์ เพื่อไปขอรับเงินช่วยเหลือ สำหรับแม่ของเธอที่กำลังจะตาบอด เจ้าหน้าที่ๆ หน่วยงาน เกิดผิดสังเกตกับพฤติกรรมแปลกๆ ของ Genie จึงติดต่อไปยังสํานักงานอําเภอประจำเมืองลอสแอนเจลิส ซึ่งก็ทำเรื่องเข้าจับกุมพ่อของเธอ แต่เขาชิงฆ่าตัวตายไปเสียก่อน
▲ Clark Wiley พ่อของ Genie
ที่มาภาพ mymultiplesclerosis
ทั้งๆ ที่อายุได้ 13 ปีแล้ว แต่ Genie กลับมีรูปร่างเล็กเหมือนเด็กอายุแค่ 7 - 8 ปีเท่านั้น อีกทั้งยังไม่สามารถสื่อสารกับใครได้ เรียกได้ว่าแทบจะเป็นใบ้เลยทีเดียว เธอสามารถพูดคำสั้นๆ ได้ประมาณ 20 คำ เช่น หยุด หรือ ไม่เอาแล้ว โดยที่เธอเองก็ไม่เข้าใจความหมาย Genie ไม่เคยถูกสอนให้เดิน เธอจึงเคลื่อนที่ด้วยท่าที่เรียกว่า ท่าเดินของกระต่าย (bunny walk) คือ ใช้มือวางไปข้างเหมือนกับเป็นขาหน้าของกระต่าย นอกจากนั้น เธอยังแสดงพฤติกรรมแบบสัตว์ เช่น ดมกลิ่น คลาน และถมน้ำลาย
Genie กลายเป็นที่สนใจอย่างมากในหมู่ของนักจิตวิทยา นักภาษาศาสตร์ และนักวิทยาศาสตร์ในสาขาอื่นๆ เพราะด้วยความที่เธอเติบโตมาในสภาพที่ถูกทอดทิ้งตั้งแต่ยังเด็ก การแสดงออกของเธอจึงเป็นพฤติกรรมที่แท้จริงของมนุษย์ ก่อนที่จะมีการพัฒนาทักษะด้านการพูด ภาษา และทักษะในการใช้ชีวิตอื่นๆ ซึ่งนักวิทยาศาตร์ก็หวังว่า การศึกษาและติดตามผลพัฒนาการของเธอ หลังจากการรักษาและบำบัดจะทำให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนรู้ของมนุษย์มากขึ้น
หลังจากนั้น Genie ก็ถูกย้ายไปอยู่ตามสถานที่ต่างๆ เริ่มจากที่โรงพยาบาล จากนั้นก็ไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์อีกหลายครอบครัว ในขณะเดียวกันก็มีการบันทึกผลความก้าวหน้าของเธอไปด้วย ช่วงหลายปีนั้น เธอเรียนรู้การตอบคำถามแบบง่ายๆ เธอสามารถแต่งตัวเองได้ ความพยายามที่จะให้เธอสามารถสื่อสารกับคนอื่นได้ให้ผลค่อนข้างดี เพราะเธอยอมมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใหญ่ที่เธอคุ้นเคยด้วย อีกทั้งยังชอบเล่นของเล่นพลาสติกสีสันสดใส รวมถึงมีการพบว่า Genie ชอบเพลงคลาสสิค ที่เล่นโดยเปียโนมากเป็นพิเศษ (เนื่องมาจากสมัยที่เธอถูกขัง เพื่อนข้างบ้านเธอชอบเล่นเปียโนเป็นประจำ) และที่น่าสนใจคือ เธอสามารถสื่อสารโดยใช้ท่าทางได้อย่างดีเยี่ยม
แต่หลังจากนั้น ความสนใจในตัว Genie ก็ค่อยๆ หมดลง ในปี ค.ศ.1975 โครงการวิจัยที่คอยศึกษาเธอไม่ได้รับเงินสนับสนุนอีกต่อไป เธอจึงถูกส่งกลับไปอยู่กับแม่ของเธอ ผู้ไม่สามารถดูแลลูกของตัวเองไหว Genie จึงถูกย้ายไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์อีกหลายแห่ง และบางบ้านเธอก็ถูกทำร้ายทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทำให้อาการที่เคยดีขึ้นแล้วกลับไปแย่ลงกว่าเดิม
▲ภาพของ Genie (คนทางขวา) ถ่ายไว้กับแม่ของเธอ Irene Wiley เมื่อปี ค.ศ.1989
ที่มาภาพ carlygoogles
จนถึงทุกวันนี้ กรณีของ Genie ก็ยังถูกยกมาใช้เป็นกรณีศึกษา มีหลายคนสงสัยและสนใจว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรและอยู่ที่ไหน (ปัจจุบันนี้เธออายุ 55 ปี แล้ว) แต่น้อยคนนักที่รู้ข้อมูลนี้ แม้แต่นักวิจัยทั้งหลายที่ทำงานร่วมกับเธอมาหลายปี ก็ยังไม่ทราบข่าวคราวของเธอ ล่าสุดที่มีข่าวของเธอคือ ปี ค.ศ.2008 มีคนพบว่าเธออาศัยอยู่ที่สถาบันสำหรับผู้ปัญหาการพัฒนาด้านจิตใจบกพร่องที่แคลิฟอเนีย ผู้ที่ได้พบเธอรายงานไว้ว่า สภาพความเป็นอยู่ของเธออาจจะไม่ได้ดีมากนัก แต่เธอก็มีความสุขดี ดูเหมือนว่าสุดท้ายแล้วเ ด็กสาวผู้น่าสงสารคนนี้ จะได้พบกับชีวิตที่สงบสุขในที่สุด
credit : //www.everyday-readers.com/blog/articles/genie-feral-child/
Create Date : 31 กรกฎาคม 2556 |
Last Update : 22 กรกฎาคม 2558 13:43:42 น. |
|
1 comments
|
Counter : 3531 Pageviews. |
|
|