ใดใดในโลกล้วนอนิจจัง โปรดอย่าตั้งอยู่ในความประมาท (งดรับ Tag ค่ะ)

<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
8 มีนาคม 2552
 

นกออกจากกรง ไก่ฟักไข่

กราบนำธรรมะของพ่อหลวงพระธุดงค์มาแบ่งปันกันอีกค่ะ

บุคคลเตรียมตัวอยากออกจากทุกข์อยู่แล้ว เห็นโทษของเจ้าของอยู่แล้ว คนเห็นโทษแล้ว เห็นโทษของกาย เห็นโทษของใจ เห็นโทษของความเป็นอยู่แล้ว พอเจอะนายช่างปุ๊บ เจอะพระพุทธเจ้าปุ๊บ นายช่างมาแล้ว พอเงินพอ ของพอ วัสดุพอ ก็สร้างปุ๊บเดียวเลย พระพุทธเจ้าเก็บมาดัด ว่าอันนั้นเป็นอย่างนั้น เป็น เสา เป็นพื้น อันนั้นเป็นฝา อันนั้นเป็นหลังคา เสร็จเลย เป็นหลังเลย ฟังธรรมะไป จิตที่ปรากฎการณ์จะหนีออกจากทุกข์แล้ว เทียบกับนกที่อยู่ในกรง ดันเจาะกรงอยู่ตลอด เบื่อกรงนะ จิตที่เบื่อหน่ายแล้ว จิตที่เห็นทุกข์แล้ว เบื่อหน่ายขันธ์แล้ว เบื่อหน่ายร่างกายแล้ว แต่มันไม่รู้ว่ามีทางออก มันไม่มีทางออก เหมือนกับนกที่อยู่ในกรง มันถูกขังอยู่ มันไม่มีทางออก พอพระพุทธเจ้าตรัสรู้ขึ้นมา เอาธรรมที่เราเบื่อหน่ายแล้วมาประกาศ ทำจิตให้รู้เห็นตรงนั้น แหวกทางออก พอเปิดช่องเข้าแล้ว นกก็ออกไปจากช่อง ก็หลุดพ้นขึ้นมา ไม่ได้พ้นจากตรงอื่น พ้นจากตรงที่เรามีเหลือ แต่ไม่มีคนไปเปิดให้ มันก็หลุดไปได้


ทุกเรื่องมันมีอยู่แล้วในเรา มีพร้อมหมด คนที่ไม่เบื่อหน่ายเสียที ต้องมาเข้าใจความเบื่อหน่าย ต้องมาเห็นโทษตน ทำความรู้สึก ให้เห็นในโทษนั้น ให้หลุดจากโทษ แหวกออกไปได้


เทียบกับคนที่ไม่มีบารมี ที่ไม่ได้สร้างสมมา ไข่ทั้งลูก ไข่ที่มีเชื้อทั้งลูก


จะเอาคำสอนพระพุทธเจ้า บัญญัติต่างๆ ท่านชี้มาในเราให้พิจารณากาย ให้รู้เห็นตามความเป็นจริงของกาย เท่ากับอบความร้อน เอาสติของเรามารู้ เท่าทันความเป็นจริง ไข่ที่มันออกมาจากแม่โดยมีเชื้อนั้น มันมีไข่ขาว ไข่แดง พร้อมโดยสมบูรณ์อยู่แล้วเมื่อออกมาแล้ว เราเกิดเป็นคน  คนมีกาย มีจิตอยู่แล้ว มีทั้งนอก ทั้งใน พร้อมหมดทุกอย่างไข่ขาว ไข่แดง มีเชื้อไว้อยู่แล้วจับเอาสิ่งที่เรามีอยู่ ที่พระพุทธเจ้าบัญญัติให้พิจารณากาย ให้เห็นความจริงปรากฏขึ้นในกายเรา  นี่แสดงว่าเราเอามาอบให้ร้อน เราเห็นตามความเป็นจริง เท่ากับมาอบ มาฟักให้ร้อน ฟักไปฟักไป ความร้อนก็มากขึ้นๆ ไข่ขาว ไข่แดง ตรงนั้น ก็ค่อย ก่อเป็นตัวไก่ขึ้นมา เป็นไปตามฐานะที่ถูกฟัก ถูกอบให้ร้อน


สติ สมาธิ ปัญญา ของเรา มารู้เห็น ตามความเป็นจริง พอรู้เห็นตามความเป็นจริง ความร้อนเหล่านั้น ก็เริ่มร้อนขึ้นๆ มา เห็นทุกข์ เห็นโทษของกาย เห็นโทษของใจ ที่ใจเกิดความรู้สึก เป็นทุกข์ในใจเห็นมากเข้าๆ ก็ก่อแน่นขึ้น เป็นตัวเป็นตนขึ้นมา เป็นตัวไก่ขึ้นมา พอเป็นตัวไก่สมบูรณ์แล้ว อาศัยความร้อนนั้นมันก็อยู่ไม่ได้ เมื่ออยู่ไม่ได้ พอไก่สมบูรณ์แล้วอยู่ในไข่ มันก็เจาะเปลือกเจ้าของออกมา ทะลุออกจากไข่เหล่านั้น  มันก็หลุดพ้นแบบนั้น หลุดพ้นแบบเราอบด้วยความเป็นจริง เราอบเราให้ร้อน มาทำความรู้สึก สติ รู้สึกในกาย และรู้สึกในใจ อารมณ์ที่เราทุกข์อยู่ ทำความรู้สึกตรงนี้ตลอด กับอารมณ์ที่เราทุกข์อยู่ ทุกข์อยู่ในกาย ทุกข์อยู่ในใจ มาทำความรู้สึกอยู่ตรงนี้ อยู่ตลอด แสดงว่าเราอบร้อนมาก ถ้าเราอบร้อนมากเข้า มันอยู่ไม่ได้ มันก็จะหลุดจากไข่นั้นได้รู้มากย่อมเป็นตัวเป็นตนขึ้นมา  นานเข้าๆ ทั้งที่ไข่ขาว ไข่แดงเหลวๆ นี่แหละ การที่เราไม่รู้อะไร ไม่รู้อะไรมาก่อน แต่เรามีอยู่ในนั้น แต่เราไม่รู้ เหมือนกับ ไข่ขาว ไข่แดงเนี่ย เราไม่รู้ เมื่อเราอบร้อนเข้า มันจะก่อตัวขึ้นๆ นานเข้าๆ  สำคัญว่า เราทำความร้อนของเราให้พอ ทำสติของเราให้พอ ให้พอในกาย ให้พอ ในจิต คำว่าพอ ให้ทันกับความเป็นจริง ที่เกิดขึ้นกับเรา ทุกข์ที่เกิดขึ้นกับเรา ทุกข์ในกาย ก็ตาม ทุกข์ในจิตก็ตาม ทุกข์ในจิตคือทุกข์เรื่องอารมณ์  ทุกข์เรื่องได้รับรู้สิ่งต่างๆ เกิดความทุกข์ขึ้นมาในจิต


อันสติของเราเมื่อท่องพุทโธอยู่ ตัวที่ท่องพุทโธอยู่เป็นหลัก ตัวท่องพุทโธอยู่เทียบกับพระพุทธเจ้าเป็นผู้สอน ตัวนั้นเอาเป็นหลัก ตัวนั้นเท่ากับผู้รู้อยู่แล้วตัวนั้น อันนี้ ทำผู้รู้ สติที่ท่องพุทโธตัวนั้น ให้ไปรู้เรื่องต่างๆ ที่ปรากฏขึ้นแก่เรา เอาสติผู้รู้นี้ เพราะสติผู้รู้นี้เป็นสติเบื้องต้น สติข้างนอกที่มีอยู่ทุกคน ใครที่ไม่รู้สุข รู้ทุกข์ รู้หนาว รู้ร้อน มันไม่มีหรอก ถ้าคนยังเป็นอยู่ ถ้าคนตายแล้วมันไม่รู้เรื่อง ถ้าคนยังมีลมหายใจอยู่ มันรู้เจ็บ รู้เมื่อย รู้สุข รู้ทุกข์ รู้หิว รู้หนาว รู้ร้อน รู้สารพัด ที่เกิดขึ้นกับตน ในความทุกข์นั้น ไม่ว่าอะไรถูกต้องกับตนก็เป็นทุกข์ เรื่องอารมณ์ที่มาสัมผัสกับตนให้ตนรับรู้ การสัมผัสถูกต้อง ที่ตากระทบรูป หูกระทบเสียง จมูกกระทบกลิ่น ลิ้นกระทบรส กายถูกต้อง โผฏฐัพพะเหล่านั้น ย่อมรู้ด้วยใจทั้งหมด เมื่อรู้ด้วยใจทั้งหมด ทำความรู้ ทำสติที่ท่องพุทโธนี้ มารู้ความเป็นจริง เมื่อเราท่องพุทโธอยู่ ตัวท่องพุทโธอยู่เป็นหลัก ให้สติตั้งอยู่ ถ้าเราไม่ท่องพุทโธอยู่ ถ้าเราคิดเรื่องอะไร มันก็เพลินกับความคิดไปหมด เรื่องนู้นบ้าง เรื่องนี้บ้างสารพัด พออะไรมากระทบปั๊บ ความคิดตรงนี้ผิดบ้างไม่ผิดบ้าง เอาไปคิดใหม่ขึ้นมาบ้าง คิดตามที่ในกาลที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า เลยเป็นเรื่องไม่รู้เรื่องเลย มันเคล้ากันหมด ของเก่าของใหม่ มันสะสม ปนกัน ไม่รู้เรื่องข้างใน ไม่รู้เรื่องข้างนอก เลยเนี่ย ท่านว่า คนหลง หลงเพราะว่าเรามีอยู่ทั้งหมด แต่เราไม่ทำ ไม่เอาผู้รู้ของเรา ที่รู้ทุกข์ รู้สุข รู้ดี รู้ชั่วเนี่ย ไม่ยกฐานะตรงนี้ ทำให้มันรู้รอบตัว ทันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตน


ถ้าเอาผู้รู้ตรงนี้ ที่เรารู้ๆตรงนี้ มารู้ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับเรา เพราะสติ ผู้รู้ผู้พ้นทุกข์คือตัวนี้ ตัวที่มันมีอยู่ ตัวรู้หนาว รู้ร้อน รู้เย็น รู้หิว รู้หลับ รู้ตื่น ที่เกิดขึ้นกับเรา รู้สุข รู้ทุกข์ ตรงนี้แหละ ถ้าเรายกฐานะตรงนี้ ให้รู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับตน ไม่ว่าเรื่องของจิตใจ หรือเรื่องของร่างกาย ถ้าเราทำความรู้สึก มากเท่าไร ก็เหมือนกับไก่ฟักไข่ เราไม่ทำเรื่องอื่น ทำเรื่องนี้ที่เรามีอยู่ ไก่ฟักไข่ มันทำหน้าที่เดียวฟักไข่อยู่ในรัง ไม่ใช่ว่า ไปทำนู้นทำนี้บ้าง มันไม่มีหรอก ที่ไปเขี่ยไปหากิน ที่ไปหากินก็พออิ่มปากอิ่มท้อง รีบกินๆ ก็รีบมาทำหน้าที่ อย่าให้ไข่ทันเย็น ถ้าไก่ตัวไหนปล่อยให้ไข่เย็น ไปหากินเที่ยวเล่น เที่ยวเพลิดเที่ยวเพลินอยู่ จนว่าไม่มารังให้ ไข่ที่เจ้าฟักไว้ อุ่นๆอยู่แล้ว เมื่อเราไปนานเกินไป ไข่นี้ก็เย็น เย็นแล้วกลับมาฟักใหม่ กว่าไข่จะร้อนขึ้นมา อบไว้กว่าจะร้อนขึ้นมามันก็ยาก พออบๆไว้ เจ้าของหิวอีกก็ออกไปเที่ยวเล่นอีก ไปหากินอีก ไปก็เป็นนาน จนไข่ความร้อนนี้ดับ ความอุ่นดับ เมื่อความอุ่นดับกว่าจะมาฟักให้ร้อนอีก ตรงนี้มันช่วงขาดจังหวะ เลยกลายเป็นไข่เน่า ไข่นี้เป็นไข่เน่าได้

เรานี้ก็เหมือนกัน ไม่สามารถจะปฏิบัติรู้ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าได้ เพราะเราทำไม่ติดต่อ เราปฏิบัติบ้าง ไม่ปฏิบัติบ้าง มันไม่ติดต่อ ไม่ติดต่อ ก็เป็นไข่เน่า ไม่สามารถที่จะเป็นตัวไก่ได้ จึงว่าปฏิบัติไม่ติดต่อ ไม่อุ่นเจ้าของอยู่ตลอด หมดสิทธิ์ ไม่สามารถจะรู้ได้ เป็นตัวไก่ขึ้นมาไม่ได้


ถ้าทำความรู้สึกของตนต้องรู้ทั้งสี่อิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน ทุกเรื่อง รู้อยู่ ท่องพุทโธบ้าง ไม่ท่องพุทโธบ้างก็แล้วแต่ แต่ว่ารู้อยู่ รู้ตนอยู่ ถ้าท่องพุทโธอยู่ตลอด มันจะเห็นง่าย อะไรเกิดขึ้นกับตนมันเห็นง่าย เพราะมันไม่เผลอไปคิดเรื่องอื่นจนลืมไป เพราะมันทำหน้าที่นี้อยู่ จะไปคิดเรื่องอื่นไม่ได้ ธรรมะที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ไม่ใช่ธรรมคิด ธรรมนึก ธรรมจำ แต่เป็นธรรมจริงที่มีอยู่ในเรา ที่เรามีรู้เฉพาะหน้า อะไรเกิดขึ้นกับเรา ที่รู้เฉพาะหน้า เอาตำรามาตรัสยกไว้ ท่านบัญญัติว่าชื่ออย่างนั้น ทำอย่างนั้น เป็นอย่างนั้น แต่ความจริงอยู่ในเรา อันนั้นเป็นตำราเหมือนแบบแปลน แบบแปลนไม่ใช่อยู่ได้ที่อยู่ได้ มาทำจึงจะอยู่ได้ อันนี้ของเรามันมีอยู่แล้ว เราศึกษารู้แปลนก็ได้ ไม่รู้แปลนก็ตาม แต่ความจริงมันมีอยู่ เราเอาความจริงที่มีอยู่เนี่ยแน่นอน ที่เรามีเฉพาะหน้า เพราะเราคนไม่ได้ศึกษามาก แต่เราเอาหลักความจริงที่มีอยู่ในเราเนี่ย เฉพาะตัวเราที่เรามีอยู่ อะไรบ้างที่เรารู้อยู่ ตัวผู้รู้ที่เรารู้อยู่ รู้สุข รู้ทุกข์ รู้ดี รู้ชั่ว รู้สบาย ไม่สบาย เอาตัวนี้ ทำความรู้ของเรา ให้มันตลอดสายที่ว่าพุทโธ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน จะได้เบิกบานขึ้นมาได้ จากสิ่งเหล่านั้น


เพราะเรามาอบเราอยู่ตลอด ทำติดต่อ อย่าปล่อยให้เย็น ถ้าปล่อยเย็น ทำบ้าง ไม่ทำบ้าง ก็เหมือนไก่ฟักไข่ หมดสิทธิ์ที่จะเป็นตัวไก่ขึ้นมา ทั้งๆ ที่ยังมีเชื้ออยู่ แต่เป็นตัวไก่ไม่ได้ เพราะแม่ไก่ฟักไข่ ไม่เป็นยั่นไม่เป็นพืด ปล่อยให้ไข่เย็นก่อน แล้วมาฟักใหม่ พอฟักๆ พออุ่นๆ ก็ไปหาย ปล่อยให้เย็น แล้วมาฟักใหม่ นี่แสดงว่าไม่ได้ผล ภาวนาไม่ติดต่อตลอด คนที่ว่าไม่ได้ เพราะเหตุอย่างนั้น เพราะเหตุไม่ทำความรู้สืบต่อ ต้องทำความรู้สืบต่อ ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นกับตน ใครทำความรู้ตรงนี้ตลอดสายขึ้นกับตนย่อมเป็นตัวไก่ขึ้นมา เหมือนไก่ฟักไข่ ไม่ต้องรู้เรื่อง ไม่ต้องจำแบบแปลน ไม่ต้องจำแผนผังอะไร แต่ความจริงที่มีอยู่ในตน เพราะธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ไม่ใช่ ธรรมคิด ธรรมนึก ความจริงที่มีอยู่ในเรา ความแก่ ความชรานี้เป็นความคิด ความนึกที่ไหน ความหงุดหงิด ความฟุ้งซ่าน ความตึงเครียด ความไม่พอใจ ความทุกข์เหล่านั้น มันเป็นความคิดที่ไหน มันเป็นความจริงที่มีอยู่ในตน จิตที่ออกมาจากข้างใน ออกมารับอารมณ์ มันเป็นความคิดที่ไหน มันเป็นความจริงที่เกิดขึ้นมารับอารมณ์เท่านั้น พอตากระทบรูป หูกระทบเสียง เกิดความไม่พอใจเกิดขึ้น เกิดขึ้นมาในจิต เราไม่ได้คิดนี่


เมื่อเรารู้แล้วว่า ความไม่พอใจกระทบปั๊บ จิตจะขึ้นมารับอารมณ์ ตัวขึ้นมารับอารมณ์ เมื่อเรารู้แล้ว ถ้าเราท่องพุทโธอยู่ ถ้าเรามีสติศึกษาอยู่ ตัวที่เรารู้ๆเนี่ย อย่าปล่อยให้ไปตามอารมณ์ ความโกรธ ความเกลียด ความไม่พอใจ ตรงนั้น อย่าปล่อยให้ไปตามความโกรธ ความเกลียด ว่าคนนั้นทำให้เราโกรธ ทำให้เราเกลียด อย่าปล่อยออกไปหาคนนั้น ต้องปล่อยเข้าไปหาที่มา ปล่อยสติหาที่มา ที่เกิด ที่เกิดของความรู้สึกที่มีอยู่ในตน ทำอย่างนี้ รู้อย่างนี้ จะเข้าถึงก็ตาม ไม่เข้าถึงก็ตาม ดับได้ก็ตาม ดับไม่ได้ก็ตาม ให้ทำอย่างนี้อยู่ตลอด เมื่อมากเข้าๆ มันย่อมเข้าถึงได้ เมื่อเข้าถึงแสดงว่าจะเป็นขนไก่ เป็นตัวไก่ เป็นตีนไก่ขึ้นมา เป็นเครื่องในไก่สารพัดขึ้นมา มันจะเป็นตัวขึ้นมา จึงว่าคำพูดจะได้เป็นคำๆ ขึ้นมาได้ เพราะว่า เรากำหนดรู้ความเป็นจริง และอารมณ์นั้นจะดับ จะพ้นทุกข์ได้ ความไม่พอใจเหล่านั้น ถ้าเราเข้าถึง มันจะพ้นทุกข์


 SmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmileySmiley


อันนี้เรารู้อยู่ว่า เราไม่พอใจเขา ความโกรธเขาเกิดขึ้นกับตน ความไม่พอใจ เกิดขึ้นกับตน และตนบังคับความโกรธนั้นไม่ได้ ถ้าปล่อยความโกรธนั้นให้ยาว ปล่อยความโกรธนั้นออกมาเป็นตัวเป็นตน ตนไม่พอใจแล้ว เลยไปตอบโต้เขา อันนี้ขนทุกข์มาถมตนอีก ทั้งๆที่ตนทุกข์อยู่แล้วเมื่อกระทบอารมณ์ แล้วยังไปขนเพิ่มมาอีก ถ้าพอเกิดความรู้สึกแล้ว ความไม่พอใจเกิดขึ้นแล้วในตน สติตั้งอยู่ตรงนั้น ไม่ให้ส่งไปว่าคนนั้น ทำให้เราไม่พอใจ ไม่ไปว่าเขา หมายเอาความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับตน ทำความรู้สึกว่า ความรู้สึกนั้นอยู่ตรงไหน ศึกษาตรงนี้ ให้เข้าถึงตรงนี้ ถ้าเข้าถึงตรงนี้ย่อมเป็นเหมือนพระพุทธเจ้าได้ เป็นตัวไก่ขึ้นมาได้ จะออกจากไข่เหล่านั้นได้ นี่เขาเรียกว่าภาวนา


ถ้าทำอย่างนี้ไม่ใช่ตำราข้างนอก เป็นตำราใน เป็นสิ่งที่มีอยู่ในตน เราไม่ต้องรู้เรื่องข้างนอกว่าสมมุติว่าอะไร ท่านเรียกชื่อว่าอะไรเราไม่รู้จัก เพราะเราไม่ได้ศึกษา แต่เรามารู้เรื่องของเรา ว่าความไม่สบายใจเกิดขึ้นแล้วแก่เรา มาทำความรู้สึกตรงนั้นเป็นหลัก สมมติว่าอย่างไรไม่เกี่ยว แต่ขอให้เข้าถึงตรงนั้นได้ เอาตรงนั้นให้พูดเป็นคำๆเป็นคนๆขึ้นมา ความไม่พอใจตรงนั้น มันจะพูดได้ขึ้นมา มันจะปรากฏการณ์ขึ้น เอาตรงนั้นเป็นหลักเป็นเกณฑ์การกระทำของเรา ให้ได้เป็นตัวไก่ขึ้นมา ปรากฏการณ์ตรงนั้นทำมากขึ้น ที่ว่าพูดได้เป็นคำๆเป็นคนๆขึ้นมาเพราะว่าอะไร เพราะว่า เมื่อจากไข่เหลวๆ ไข่ขาว ไข่แดงเหลวๆเป็นตัวไก่ขึ้นได้ มันก็เป็นคำๆ เป็นคนๆขึ้นได้ 

แต่ว่าถ้าเราปล่อยไว้เฉยๆ ก็เป็นธรรมชาติที่ว่าเป็นไข่ขาว ไข่แดงเฉยๆเท่านั้น มันไม่มีประโยชน์อะไร เลยไม่ได้รู้เรื่องอะไร เนี่ยมันเป็นอย่างนี้ คนมันเป็นอย่างนี้ คำว่าคนมันเป็นอย่างนั้น ถ้าเรามาทำความรู้สึกในเรา เราศึกษาเราให้มาก ทำความรู้สึกในตนให้มาก อบตนให้ร้อนย่อมหลุดพ้นจากตรงนั้นได้ มันอยู่ไม่ได้หรอก ถ้าเห็นความเป็นจริงปรากฏการณ์ขึ้นมากับตนนั้น มันอยู่ไม่ได้ มันจะเกิดความรู้สึกขึ้นมา เรื่องการรู้แจ้งของพระพุทธเจ้าเป็นธรรมอย่างนั้น



อันนี้เราตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันไม่เคยรู้เรื่องใจของเรา ว่าที่ตั้งของอารมณ์อยู่ตรงไหน ไม่เคยรู้ ความทุกข์ในเวทนาที่เกิดขึ้นจากกาย ก็ไม่เข้าใจ มัวแต่หลบความทุกข์นั้นอยู่เรื่อย ไม่ว่าทุกข์ทางกาย ทุกข์ทางใจ ไม่ตั้งใจศึกษา ไม่ตั้งใจค้นคว้า มีแต่เรื่อง หาอยู่ หากิน หาเพลิด หาเพลินอยู่ตลอด มีแต่เรื่องนั้นเรื่องนี้ ถ้าไม่เข้าใจสิ่งเป็นจริงในตน หมดสิทธิ์ อ่านในตำรารู้แจ้งขนาดไหน ไม่มีประโยชน์ เป็นตำราเท่านั้น จำได้มากขนาดไหน ก็เป็นตำราเท่านั้น ไม่สามารถที่จะอยู่ได้ แปลนต่างๆ ก็เหมือนแบบแปลน แผนผังต่างๆ ไม่สามารถที่จะอยู่ได้ ทำความพ้นทุกข์ไม่ได้ เหมือนกับรายการอาหารต่างๆ เหมือนกัน มันไม่อิ่มหรอก มันจะอิ่มก็ตอนที่เราทาน


ตำราที่จริงมันมีอยู่ในเรา ก็ความทุกข์นะ ไม่ต้องมีตำรา ความโกรธ ความเกลียด ไม่ต้องการตำรา เราก็รู้กันทุกคน ความทุกข์ในกายก็ไม่ต้องการตำรา เราก็รู้ทุกคน เนี่ยมันเป็นตำราอยู่ในตัวอยู่แล้ว ความแก่ ความชรา ความทุกข์ ความเจ็บ ความเมื่อย ความล้า ความหนาว ความร้อน ความหิวต่างๆ ไม่ต้องการตำรา ตรงนั้น ตำรามันมีอยู่ในตนอยู่แล้ว เอาตำรานี้เป็นหลัก เอาตำรานี้เป็นเกณฑ์ ถ้าจำแต่ตำราท่องแต่ตำรา แต่ไม่รู้เรื่องเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร พูดได้เก่งขนาดไหน ก็ไม่มีประโยชน์ มีประโยชน์ตรงที่ว่าเข้าถึงความเป็นจริง ที่ตนมี อยู่ในตน นั่นแหละ พระพุทธเจ้า ชี้ลงมาตรงนั้น ทำตรงนั้น รู้ตรงนั้น เห็นตรงนั้น พ้นจากตรงนั้น ก็ได้การเท่านั้น นี่หลักของความเป็นจริง ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ เราเป็นตำราของเราเอง เพราะพระพุทธเจ้า สอนแล้ว ชี้ลงแล้ว ให้พึ่งตนเอง ทำตนเป็นที่พึ่งของตน ให้เข้าถึงตน รู้จักตนเอง เข้าใจตนเอง ก็อุดมสมบูรณ์ขึ้นมา





อันนี้ เราก็ต้องพยายามสร้างสมความร้อน อุณหภูมิให้พอเหมาะ ดังไก่ฟักไข่ จะได้มีตัวไก่ออกมาให้ชื่นใจกันนะคะ




 

Create Date : 08 มีนาคม 2552
30 comments
Last Update : 8 มีนาคม 2552 22:04:49 น.
Counter : 1595 Pageviews.

 
 
 
 

แหล่มค่ะ.....ชอบ
ขอบคุณที่นำมาฝากนะคะ
 
 

โดย: อุ้มสี วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:14:39:16 น.  

 
 
 
สาธุค่ะ

ขอแป๊ะ นิ้วโป้ไว้ก่อนนะค่ะ..วันนี้เพลียมากพรุ่งนี้จะตามมาอ่านค่ะ

คืนนี้ฝันดีนะค่ะ
 
 

โดย: LooKPat วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:21:06:25 น.  

 
 
 
สวัสดียามค่ำครับพี่




 
 

โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 8 มีนาคม 2552 เวลา:21:54:34 น.  

 
 
 
ต้องบ่มให้เกิดปัญญา ขอบคุณมากคะที่ถอดความมาให้อ่าน โมทนาบุญด้วยนะคะ
 
 

โดย: Ly IP: 67.55.5.203 วันที่: 9 มีนาคม 2552 เวลา:1:43:54 น.  

 
 
 
แวะมาทักทาย มาอ่านข้อความเตือนสติดีดีมากมาย ที่บ้านนี้ค่ะ
 
 

โดย: ดอกไม้หน้าฝน วันที่: 9 มีนาคม 2552 เวลา:21:32:52 น.  

 
 
 
สวัสดีค่ะ ขอบคุณน่ะค่ะที่แวะมาเยี่ยมบล๊อก iceicy น่ะค่ะ
อนุโมทนากับบทความธรรมะดีๆที่ คุณกิ่งไม้ไทยได้นำเสนอน่ะค่ะ
อ่านแล้วทำให้รู้ว่าต้องตั้งสติให้ดี ...
อย่าให้อารมณ์มาเหนืออยู่สติ.. เด็ดขาด
มิฉะนั้น...ความทุกข์จะเข้ามาเยือน

ความสุขพื้นฐานในการดำเนินชีวิต
 
 

โดย: iceicy (lcelcy ) วันที่: 9 มีนาคม 2552 เวลา:21:45:14 น.  

 
 
 
แวะมาอ่าน มาทักทายค่ะ

วันนี้อากาสร้อนไหมค่ะ

อย่าลืมดูแลสุขภาพนะค่ะ
 
 

โดย: LooKPat วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:20:13:53 น.  

 
 
 


ความยาว ของ 1 วินาที

แวะมาเยี่ยมช้าหน่อยไม่ว่ากันนะคะคุณกิ่ง
แต่แม้จะมาช้าก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะมา
ป้าจะเยี่ยมเพื่อนบล็อกทุกคนแน่นอน แต่ออกเยี่ยมตามลำดับคอมเม้นท์
บังเอิญป้ามีเวลาเข้าบล็อกเฉพาะช่วงกลางคืน และพิมพ์ช้ามากค่ะ ขออภัยคุณกิ่งอีกครั้งค่ะ
………………………

ธรรมสาระวันนี้ได้ใจจริงๆค่ะ ตรงๆ ง่ายๆ และชัดเจน
ขอบคุณที่นำธรรมะดีๆมาฝากค่ะ
…………………………

หากพอจะมีเวลา เชิญพบบล็อกใหม่ …. ที่บ้านร่มไม้เย็น….พรุ่งนี้ค่ะ

คมคำ : เวลาแต่ละหนึ่งวินาทีนั้น เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว.


 
 

โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:0:04:05 น.  

 
 
 
ก็สวดมนต์อุทิศบางในบางวันค่ะ..เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเจอแล้วแหละค่ะ

อากาศร้อนนะค่ะ..อย่าลืมดูแลสุขภาพค่ะ
 
 

โดย: LooKPat วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:20:17:59 น.  

 
 
 
ขอบคุณนะคะที่นำธรรมะดีดีมาให้ได้อ่าน
ก็พยามจะนำไปปฏิบัติให้ได้ค่ะ
ช่วงนี้อากาศร้อนมากเลยต้องระวังรักษาสุขภาพนะคะ
มีความสุขค่ะ
 
 

โดย: busabap วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:21:02:27 น.  

 
 
 
ขอบคุณสำหรับธรรมะดี ๆ ที่นำมาฝากครับ

ขออนุญาต add blog ด้วยครับ
 
 

โดย: ลุงแว่น วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:6:32:32 น.  

 
 
 
ขอบคุณทุกๆคน ที่แวะเข้ามาเยี่ยมเยียนกันนะคะ

ลุงแว่น--ด้วยความยินดีคะ

Have a nice day ka ทุกๆท่าน
 
 

โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:8:06:16 น.  

 
 
 


แวะมาเยี่ยม พร้อมกับวันที่ฟ้าสดใสค่ะ

คมคำ : เดินด้วยขา…ดีกว่ามองหาคนพยุง


 
 

โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:20:47:07 น.  

 
 
 
สวัสดีครับ
อยากทราบว่า "กิ่งไม้ไทย" หมายความว่าอย่างไร
ครับ
 
 

โดย: อัสติสะ วันที่: 13 มีนาคม 2552 เวลา:8:37:06 น.  

 
 
 
ตอบคุณอัสติสะนะคะ
แปลตรงตัวเลยคะ ก็กิ่งไม้ จาก ประเทศไทย คะ
ไม่ว่าจะไปอยู่ตรงไหน ก็มีเชื้อสายไทยคะ

แต่เป็นกิ่งไม้อะเนอะ ปลูกไม่งอกแล้วล่ะ
 
 

โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 13 มีนาคม 2552 เวลา:9:14:09 น.  

 
 
 
สวัสดียามเช้าครับ



 
 

โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:7:57:34 น.  

 
 
 

morning do u want coffe or not/ glitter /comment hi5 / code hi5
 
 

โดย: funkylady วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:8:08:12 น.  

 
 
 
สภาวะของการถูกล้อมด้วยหิมะยามนี้
เป็นยังไงบ้างค่ะ ... อยากแบ่งอากาศร้อนๆ
อุ่นๆ ยามนี้ไปทางโน้นจังคะ จะได้แบบว่า
ไม่หนาวมากค่ะ
 
 

โดย: JewNid วันที่: 19 มีนาคม 2552 เวลา:0:00:41 น.  

 
 
 

สวัสดีเจ้าค่ะวารีมาเยี่ยม
สบายดีนะเจ้าคะคืนนี้ฝันดีนะ
 
 

โดย: yoja วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:22:29:57 น.  

 
 
 
วันนี้มาเยี่ยมครับ
 
 

โดย: อัสติสะ วันที่: 30 มีนาคม 2552 เวลา:19:29:21 น.  

 
 
 
มาเยี่ยมเยียนครับพี่
 
 

โดย: นางาเสะ ไลท์ วันที่: 30 มีนาคม 2552 เวลา:22:59:50 น.  

 
 
 
สวัสดียามเช้าครับพี่











 
 

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 เมษายน 2552 เวลา:8:11:39 น.  

 
 
 
มาเยี่ยมตอนใกล้นอนเลยถือโอกาสส่งเข้านอนเจ้าค่ะฝันดีนะเจ้าค่ะ
สาธุเจ้าค่ะ
 
 

โดย: yoja วันที่: 3 เมษายน 2552 เวลา:22:02:05 น.  

 
 
 

หากแม้ว่าวารีนั้นได้พูดหรือล่วงเกินท่านใดหรือพูดออกไปล่วงเกินท่านวารีขอขมาโหสิกรรมด้วยนะเจ้าคะ

กัลยาณมิตรโปรดเมตตาธรรมอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้า ก็ขออโหสิกรรมให้กับทุกท่านกัลยาณมิตรที่

ได้มีการกระทบกระทั่งกัน หากข้าพเจ้าล่วงเกินทุกท่านด้วยเหตุอันใดก็ตามทั้งระลึกได้ก็ดีและระลึกไม่ได้ก็ดี

เจตนาและ ไม่เจตนาก็ตาม ด้วย ... กรรมใดที่ได้กระทำ ด้วย กายก็ดี วาจาก็ดี ใจก็ดี ...ขอให้ทุกๆท่านอโหสิกรรมแก่

ข้าพเจ้าด้วย

สวัสดีเจ้าค่ะ-..คุณ....ขอนุญาติรบกวนสักนิดนะเจ้าค่ะกระทู้ต่อเนื้องเจ้าค่ะ
ช่วยฝากโหวตให้เด็กๆหน่อยนะเจ้าคะโหวตให้นิดเพื่ออนาคตของเด็กเจ้าค่ะ

ช่วยเด็กๆสักนิดเจ้าค่ะช่วยโหวตนิดนะเจ้าคะ
ตามลิ้งค์ไปเลยเจ้าค่ะ
//www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y7699381/Y7699381.html

 
 

โดย: yoja วันที่: 4 เมษายน 2552 เวลา:13:16:39 น.  

 
 
 

มีความสุขมากๆนะเจ้าคะวันนี้
 
 

โดย: yoja วันที่: 7 เมษายน 2552 เวลา:13:19:55 น.  

 
 
 
emoยินดีในบุญอย่างยิ่งเจ้าค่ะ
 
 

โดย: yoja วันที่: 9 เมษายน 2552 เวลา:15:40:02 น.  

 
 
 
ขอบคุณมากครับที่นำบุญมาฝาก
ไปปฏิบัติธรรมอย่างไรมาบ้างครับ
 
 

โดย: นางาเสะ ไลท์ วันที่: 9 เมษายน 2552 เวลา:17:17:37 น.  

 
 
 
สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ

แวะมาทักทาย...ก่อนไปปฏิบัติธรรมที่วัดค่ะ

 
 

โดย: i am_giddy วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:8:53:19 น.  

 
 
 
ปล. หลังกลับจากปฏิบัติธรรม
จะเข้ามาอ่านนะคะ
ธรรมะสวัสดีค่า
 
 

โดย: i am_giddy วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:8:54:28 น.  

 
 
 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สุขสันต์วันสงกรานต์
ขอให้สุขภาพดี และมีความสุขมากๆค่ะ


ไม่ได้ออกไปเล่นน้ำ….ขอเล่นที่นี่แล้วกันเน๊อะ

คมคำ : ตัวเลขอายุที่เพิ่มขึ้น บอกถึงเวลาที่เหลือน้อยลง


 
 

โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:22:43:07 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

กิ่งไม้ไทย
 
Location :
Alberta Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่เที่ยง


* สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด หรือลอกเลียน หรือนำส่วนใดๆ ของข้อความ ,หรือ ภาพ จากบล๊อคนี้ ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่ และเพื่ออ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด * Copyright @ All Rights Reserved
* * * * บุญใดๆจากการเผยแผ่ธรรม เป็นธรรมทานนี้ ขอน้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา บิดา มารดา ครูบาอาจารย์ผู้มีพระคุณ พระอุปชาอาจารย์ ทั้งหมด ทุกภพทุกชาติ และพ่อหลวงพระธุดงค์ผู้ชี้ทางแห่งการพ้นทุกข์ ขอผลานิสงส์นี้ จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้อยู่ดีกินดี มีความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป และได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ ด้วยเทอญฯ
Creative Commons License
http://kingmaithai.bloggang.com/ โดย กิ่งไม้ไทย นี้ ใช้ สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ใช่งานดัดแปลง 2.5 แคนาดา.
[Add กิ่งไม้ไทย's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com