ใดใดในโลกล้วนอนิจจัง โปรดอย่าตั้งอยู่ในความประมาท (งดรับ Tag ค่ะ)

<<
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
29 พฤศจิกายน 2551
 

หนทางดับทุกข์- กรรมฐาน

ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ

ถอดเทปคำสอน พ่อหลวงพระธุดงค์ ท่านสอนว่า

ให้ฝึกหัวใจให้ท่องพุทโธให้ได้ จนเป็นปกติ ต่อเนื่องไม่ขาดวรรค ขาดตอน
แรกๆฝึกใจท่องพุทโธ ก็อาจจะยาก เหมือน ฝึกเด็ก ท่อง อ่าน ก ข ค
ฝึกไปเรื่อยๆ ในที่สุด เด็กก็จะอ่านออกเขียนได้ เอง
อาจจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าอ่านออกเขียนได้วันไหน เห็นปุ๊บตอนนี้ ก็อ่านออกปับ ท่านให้มีคำบริกรรม เพราะให้มีพร้อมทั้งรูปและนามให้คู่ กัน
รูปคือกาย นามคือ พุทโธ ซึ่ง พุทโธ จะเป็นรั้ว กั้น
เวลาเดิน ก็ ขวา พุท ซ้าย โธ
เวลานั่ง ก็ดูกองลม หายใจเข้า พุท หายใจ ออกโธ

ท่องไป ดูไป เห็นทุกข์นั้นเกิดขึ้น ทุกข์นั้นตั้งอยู่ ดูจนทุกข์นั้นดับไป

ถาม
ต้องท่องพุทโธตลอดเลยหรือคะ ไม่มี พุทโธ ไม่ได้หรือคะ ไม่ต้องทิ้งพุทโธเลยหรือคะ เพราะทราบมาว่า พุทโธเป็นคำบริกรรม เป็นความคิด?

ตอบ ดูเฉยๆไม่ได้ เหมือนอุ้มไก่ไม่ผูกตีน จับไก่ไม่ผูกขา ไก่มันเขี่ยเรา ก็หลุดมือมันก็วิ่งหนีได้ ไม่ท่องแล้วจะรู้จักขันธ์ ข้างในได้อย่างไร เรามี 3 ใจ 3 จิต 3 กาย เรียก 3 ภพ ถ้าเราทำภพเดียว แล้วตรงนั้นไม่ทำ แล้วจะรู้เรื่องข้างนอก ข้างในได้อย่างไร เหมือนเราท่องพุทโธอยู่ คือทำงานอยู่ ดูลมหายใจอยู่ ทำงานอยู่ตรงนี้ก็ไม่ขาด เราจะรู้ทันที เวลาจิตเราแว็ปไปนู่นไปนี่ก็จะได้รู้เรื่อง ได้รู้เรื่องข้างใน ถ้าเราจับไก่ผูกขาไว้แล้ว วิธีจับเหมือนคนวางลอบดักปลา ทำรั้วไว้เพื่อกัน อะไรมาก็เจอะรั้ว พุทโธเป็นรั้ว เป็นจิตนอก อะไรมาๆ ก็จะได้รู้สึก ไม่งั้นไม่มีฐาน ถือว่าเจ้าของสบายตลอด ก็จะไม่รู้จักภพ ไม่มีหลัก

ต้องมีทั้งรูป และนามให้คู่ กัน ทั้งนอก ทั้งใน เป็นรูป นามๆ หนึ่ง ต้องพร้อม
กายเป็นรูป พุทโธ เป็นนาม ขันธ์จึงสมบูรณ์ ต้องทำคู่

ต้องมีหลัก เหมือนคนเดินไม่มีรั้ว มันไม่ชนอะไร ไม่ปะ อะไรเลย ก็ไปเรื่อยเปื่อย หลงทาง ไม่รู้ถึงไหนๆ ถ้าดีก็ดีไปเลย ถ้าไม่ดี ก็ไม่รู้ว่าถึงไหนๆ เพราะไม่มีเครื่องกั้น ฝาบ้านก็ยังต้องมีเครื่องกั้น มีพื้น มีหลังคา ไม่ใช่บ้านโล่ง ทำประตูออก ประตูเข้า ไม่งั้นจะกันแดดกันฝนได้อย่างไร ถ้ามีแต่เสาอย่างเดียวมันไม่ครบองค์ประกอบ ทำองค์ประกอบให้ครบ ทำความรู้สึกให้ครบ เมื่อเรากั้นหมดแล้ว เหลือแต่ประตูแล้วนั่งเฝ้าประตูอยู่ สติอยู่ที่หัวใจ หัวใจทำงานพร้อมหมด อะไรเกิดขึ้นในใจเรา ข้างนอกที่เราท่องทั้งหมดเป็นรั้วทั้งหมด สติจับที่ปากประตู ดูอะไรเกิดขึ้นมาในจิต จับตรงนั้นอะไรไหลออกไหลเข้า มันจะง่ายขึ้น มันจะรู้เร็ว

แต่อย่าเพ่งบังคับจิต ไม่บีบจิต แต่พุทโธก็ไม่ขาด
เราท่องพุทโธอยู่ไม่ขาด พอจิตคิดเรื่องเรื่องนั้นเรื่องนี้ ก็รู้หมด เมื่อรู้ว่าจิตคิด จึงจะเกิดปัญญา ท่องพุทโธไป ลมหายใจเข้าออก จิตคิดเรื่องอะไร
ปรุงแต่งแค่ไหน แต่พุทโธ ก็ไม่ขาดเป็นองค์มรรค ถ้าเป็นสองถูก ถ้าเป็นหนึ่งผิด ถ้าเอาพุทโธอย่างเดียว จิตคิดอะไรไม่รู้ผิด เป็นองค์ฌาน ไม่รู้จิตนอก จิตในจิต เป็นอย่างไรไม่เป็นวิปัสสนา

ถ้าพุทโธอยู่ จิตคิดอะไร ปรุงอะไร แต่พุทโธก็ไม่ขาด จึงเป็นองค์มรรค
พุทโธไม่ขาดเป็นขันธ์นอก จิตที่ปรุงแต่งต่างๆ ความคิดต่างๆ จะได้รู้ได้เข้าใจ จะได้รู้จิตนอก จิตใน จิตในจิต ขันธ์นอก ขันธ์ใน เดินตามขั้นตอนไป เรื่อยๆ จึงจะพ้นทุกข์

เราทันความคิดมั้ย? ต้องทันความคิด คือ รู้ ก่อนจะไป ลงมือกระทำ มีสัมปัชชัญญะ มันเกิดจาก ตา หู จมูก ลิ้น พอใจ ไม่พอใจ มันปรุงขึ้นมา ต้องสังเกตว่ามันขึ้นมาจากฐานไหน คิดดี คิดไม่ดี ก็ให้จบ จิตจะหดตัวมาเรื่อยๆ อย่าให้พลาดจากความคิดที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นวิปัสสนา
ถ้าหลงความคิด ดับไม่ได้ก่อน จึงทำให้เกิดเรื่อง พระพุทธเจ้ารู้จักทั้งดี และชั่ว ว่าทำให้ทุกข์ทั้งสิ้น
ละดี ละชั่ว ทำจิตให้ผ่องแผ้ว ถ้าเราสังเกตก็จะรู้เรื่อง
ทำให้มากจะได้รู้ว่ากองทุกข์เป็นอย่างไร ทำมากจะเชื่อมเข้าไปเรื่อย จะได้เข้าใจได้ความรู้
อย่าบีบจิต อย่าบังคับจิต เหมือนเราจะไปหาผู้ร้าย กำหนดพุทโธค้นหาผู้ร้าย ขอพุทโธอย่าให้ขาด มันจะซึมลงไป
เรากับผู้ร้าย คนละคนกัน เราจะค้นหาผู้ร้าย ค้นหาจิตเรา ถ้าเราเจอะผู้ร้าย (จิตแวปนู้นแวปนี้)
ถ้าเราไม่สนใจ จะจับผู้ร้ายได้อย่างไร ต้องทำตัวนี้ให้แจ่ม เอาตัวนี้เป็นเครื่องล่อ ดึงตัวนั้นเข้ามา
มันจะชัดขึ้นๆ เราต้องทำความรู้จักตรงนั้น เข้าถึงตรงนั้นจนแจ่มแจ้งก่อน จนเข้าถึง หัวใจพูดออกมาเป็นคำๆได้ เป็นคนๆ เป็นกายซ้อนกาย จิตซ้อนจิต พูดเป็นคำๆคนๆ ละเอียดไปเรื่อยๆ
ทำภพน้อย ภพใหญ่ให้ดับซะก่อน

จิตคลายความคิดจิตจึงพ้นทุกข์
จะดูลมหายใจหรือท่องพุทโธ ตรงนี้ก็ไม่ขาด แต่จิตเราก็แทรกหน้าแทรกหลังพุทโธ ดับตรงนี้ ดับสังขารนั้นเป็นหลัก เอาสติที่รู้ๆ ข้างนอก รู้เกลียด รู้โกรธ ต้องรู้ให้มาก จึงจะรู้ข้างในได้ เข้าถึงที่สุดของอารมณ์นั้น ไม่ต้องคิด ไม่ต้องนึก ไม่ต้องจำ เพียงแต่ไปรู้ รู้ใจเราเป็นอย่างไร
รู้กายเรา รู้อารมณ์ สุข ทุกข์ ชั่ว ดี ที่เกิดขึ้นในตน ถ้ารู้แล้วเท่าทัน ตากระทบรูป หูกระทบเสียง เกิดความรู้สึกอย่างไร พอใจ ไม่พอใจ มันตั้งอยู่ที่ไหน ในกายเรา ต้องรู้ให้เท่าทันตรงนี้ การตามอารมณ์เป็นการตามตัณหา
ดูไม่ทัน จึงถึงโรงพัก ถึงศาลเพราะรู้ไม่ทัน ถ้ามีสติชัดให้หาฐานที่เกิดแห่งความรู้สึก รู้เห็นตามคามเป็นจริง ไม่ต้องนึก ไม่ต้องจำ
ความทุกข์เป็นอย่างไร ตั้งอยู่อย่างไร และดับไปอย่างไร
ตั้งสติ เดินสติ รู้ตามความเป็นจริง ที่เกิดขึ้นในตนนั้น อารมณ์ความไม่พอใจ ตามดู ตามรู้จนดับคาผู้รู้ ถ้าเข้าไม่ถึงทุกข์ ก็ดับทุกข์ไม่ได้ ไม่รู้ที่เกิดของมันแล้วจะดับทุกข์นั้นได้อย่างไร
ยกตัวอย่างเช่น โดนศรปักใจ เกิดอารมณ์รัก คับแค้นใจ ถ้าไม่ถอดศรนั้นออกจากใจ ก็ไม่หมดทุกข์
จะไปมัวตามหา ผู้ที่ส่งศรมาปักใจเรา มันก็ไม่หายเจ็บ ถ้าต้องการพ้นทุกข์ ก็ต้องผ่าตรงนั้น รักษาแผลตรงนั้นก่อน ให้เป็นปกติก่อน อย่าเพิ่งไปทำเรื่องข้างนอก มันไม่จบ เกิดความรู้สึกต้องไหน ต้องทำความรู้สึกตรงนั้น ให้ดับเป็นขั้นๆ เป็นตอนๆ
เหตุเกิดที่ไหน ให้ดับที่นั้น

อย่าส่งจิตออกนอก ส่งจิตออกนอกเป็นสมุหทัย คือเหตุแห่งทุกข์
ให้ส่งเข้าในเป็นทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ เป็นองค์มรรค คือจะได้เข้าถึงเห็นความจริง ไม่งั้นมันอยู่ไกลเป็นสังโยชน์เพราะเข้าไม่ถึงอารมณ์ ถึงใจของตัวเอง

ฝึกสังเกตทวารทั้งเก้า(ตา หู จมูก ลิ้น กาย ทวารหนัก ทวารเบา) อะไร ไหล เข้า ไหล ออก จากกายให้รู้หมด ออกเป็นน้ำ ก็เป็นน้ำเหม็น เป็นก้อนก็ก้อนเหม็น เป็นธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม รู้หมด

ต้องฝึกฝน ทำไป อัตตาหิ อัตโนนาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน

ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมค่ะ


ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมค่ะ


Create Date : 29 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 6 พฤษภาคม 2552 20:12:29 น. 3 comments
Counter : 1395 Pageviews.  
 
 
 
 
โมทนาบุญด้วยจ๊ะ พยายามฝึกพุทโธ ให้มีสติอยู่ตลอดเช่นกันจ๊ะ
 
 

โดย: Ly (Ray of Sunshine ) วันที่: 29 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:57:04 น.  

 
 
 
โมทนาบุญด้วยคะ กำลังฝึกพุทโธ อยู่ค่ะ
 
 

โดย: JUM IP: 202.176.134.187 วันที่: 23 สิงหาคม 2552 เวลา:11:05:56 น.  

 
 
 
สนใจอยากปฏิบัติธรรมค่ะ
 
 

โดย: wacha1602 วันที่: 25 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:47:41 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

กิ่งไม้ไทย
 
Location :
Alberta Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่เที่ยง


* สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด หรือลอกเลียน หรือนำส่วนใดๆ ของข้อความ ,หรือ ภาพ จากบล๊อคนี้ ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่ และเพื่ออ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด * Copyright @ All Rights Reserved
* * * * บุญใดๆจากการเผยแผ่ธรรม เป็นธรรมทานนี้ ขอน้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา บิดา มารดา ครูบาอาจารย์ผู้มีพระคุณ พระอุปชาอาจารย์ ทั้งหมด ทุกภพทุกชาติ และพ่อหลวงพระธุดงค์ผู้ชี้ทางแห่งการพ้นทุกข์ ขอผลานิสงส์นี้ จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้อยู่ดีกินดี มีความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป และได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ ด้วยเทอญฯ
Creative Commons License
http://kingmaithai.bloggang.com/ โดย กิ่งไม้ไทย นี้ ใช้ สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ใช่งานดัดแปลง 2.5 แคนาดา.
[Add กิ่งไม้ไทย's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com