พฤษภาคม 2556

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
 
 
All Blog
เริ่มต้นวิ่งอย่างไรให้สนุกไม่เหนื่อยง่าย
หากคุณเริ่มต้นออกกำลังกายด้วยการวิ่ง และคุณเป็นคนที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อนเลย คุณจะพบว่าปัญหาที่ตามมาก็คือวิ่งได้ไม่นานก็เกิดอาการเหนื่อยหอบ บางทีถึงกับหน้ามืดมือสั่นคล้ายจะเป็นลมด้วยซ้ำ พอวันรุ่งขึ้นก็เกิดความเบื่อและไม่อยากวิ่งอีก

แต่ถ้าหากคุณยังไม่ท้อและวิ่งต่อไป คุณก็จะเริ่มเกิดความสงสัยว่าทำไมคนที่วิ่งแซงหน้าคุณไปนั้นถึงวิ่งได้เร็ว วิ่งโดยไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อยหรือหยุดพัก แถมวิ่งได้นานเป็นสิบๆรอบ คุณนั่งพักจนเหงื่อแห้งแล้วแต่เขายังวิ่งอยู่เลย

ตัวเราเองก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ประสบปัญหาเหล่านี้ในช่วงเริ่มวิ่งใหม่ๆค่ะ เราเคยวิ่งได้ช้ามากและวิ่งได้ไม่กี่นาทีก็จะรู้สึกเหนื่อยมากๆ อาจเป็นเพราะเราไม่เคยวิ่งมาก่อน ไม่ค่อยมีโอกาสได้ออกกำลังกาย แถมช่วงนั้นยังน้ำหนักเยอะอีกด้วย แต่เราก็ไม่ท้อนนะคะ เราวิ่งต่อไปเรื่อยๆเท่าที่เราจะวิ่งไหวจนปัจจุบันนี้เรารู้สึกสนุกกับการวิ่งมากๆเลยค่ะ เราจะวิ่งในช่วงเย็นถึงค่ำๆของทุกวันประมาณครึ่งชั่วโมงเป็นต้นไปไม่นับเดินเร็วกับบริหารร่างกายอื่นๆนะคะ วันนี้เราเลยอยากจะมาแนะนำเคล็ดลับการวิ่งของเราให้ฟังค่ะ



1. เลือกช่วงเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม

หากคุณเลือกที่จะวิ่งรอบสนามหรือรอบสระน้ำที่สวนสาธารณะ คุณก็ควรเลือกช่วงที่อากาศไม่ร้อนจนเกินไป อาจเป็นช่วงเช้าหรือช่วงเย็นตอนพระอาทิตย์ใกล้ตกดินไปแล้วก็ได้ สำหรับการวิ่งบนถนนนั้นเราไม่แนะนำค่ะ เนื่องจากถนนเป็นทางสำหรับรถวิ่ง อาจไม่ปลอดภัยและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ ควรวิ่งในสถานที่ที่จัดไว้สำหรับการออกกำลังกายจะดีกว่าค่ะ

2. ก่อนวิ่งต้องเตรียมตัวให้พร้อม

การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกไปวิ่งนั้นคุณต้องเตรียมตั้งแต่การแต่งกาย เลือกสวมรองเท้ากีฬาสำหรับวิ่งโดยเฉพาะเพื่อลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่ข้อเท้าหรือหัวเข่า อาจสวมเสื้อผ้าที่โปร่งสบายหรือใส่กางเกงขาสั้นเพื่อจะได้ไม่ต้องรู้สึกอึดอัดเหนียวตัวเวลาเหงื่อออก อย่าลืมถอดเครื่องประดับต่างๆอย่างเช่นสร้อย แหวน หรือนาฬิกาออกด้วยนะคะ การแต่งกายที่เหมาะสมนอกจากจะช่วยในเรื่องของความปลอดภัยแล้วยังก่อให้เกิดความรู้สึกอยากวิ่งอีกด้วยค่ะ



3. งดทาน

การทานอาหารหรือน้ำดื่มปริมาณมากๆนั้นถือเป็นอุปสรรคที่สำคัญต่อการวิ่งเป็นอย่างมากค่ะ เพราะเมื่อคุณเริ่มวิ่งคุณจะรู้สึกเจ็บที่ท้องหรือเกิดอาการจุกทำให้ไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ ดังนั้นทางที่ดีควรงดรับประทานอาหารก่อนออกวิ่งราวๆสองชั่วโมง ซึ่งในช่วงสองชั่วโมงก่อนไปวิ่งนี้ควรดื่มน้ำก่อนเพื่อป้องกันการขาดน้ำซึ่งอาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย เป็นตะคริว หรือเป็นลมได้ค่ะ

4. เริ่มวิ่ง อย่าวิ่งเร็ว

การวิ่งเร็วนั้นนอกจากจะทำให้คุณวิ่งได้ไม่นานแล้วยังอาจทำให้คุณเกิดการบาดเจ็บได้อีกด้วย การวิ่งช้าๆแต่วิ่งด้วยอัตราเร็วสม่ำเสมอนั้นจะทำให้คุณวิ่งได้นานขึ้นโดยไม่เหนื่อยจนเกินไป ซึ่งหากคุณวิ่งเป็นประจำได้สักระยะหนึ่งจะพบว่าตัวเองสามารถวิ่งได้เร็วขึ้น นานขึ้น โดยที่รู้สึกเหนื่อยน้อยลงกว่าช่วงแรกๆค่ะ 


5. หากวิ่งแล้วเจ็บต้องหยุด

การบาดเจ็บนั้นอาจเกิดได้ทุกขณะที่คุณย่ำเท้าลงไปบนพื้น หากคุณรู้สึกเจ็บแปลบๆที่ข้อเท้าหรือหัวเข่าคุณก็ควรหยุดพัก เพราะการฝืนวิ่งต่อไปจะเพิ่มอาการบาดเจ็บให้มากขึ้นจนคุณอาจต้องหยุดวิ่งไปอีกยาวเลยก็ได้

6. หาเพลงโปรดมาฟัง

บางทีการที่เราวิ่งไปเฉยๆเราอาจจะรู้สึกเบื่อได้ ดังนั้นลองหาเพลงเพราะๆที่คุณชอบฟังมาเปิดฟังขณะที่คุณวิ่งไปด้วยน่าจะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้มากขึ้น นอกจากนี้การเลือกเพลงที่มีจังหวะไม่ช้าไม่เร็วเกินไปยังทำให้คุณสามารถวิ่งตามได้ในอัตราเร็วที่สม่ำเสมออีกด้วยค่ะ สำหรับบางคนที่ไม่ถนัดใส่หูฟังแบบธรรมดาคุณอาจเลือกหูฟังบลูทูธไร้สาย หรือหูฟังที่ใช้สำหรับการออกกำลังกายโดยเฉพาะซึ่งสามารถเกี่ยวกับใบหูโดยไม่หลุดเหมือนกับหูฟังทั่วไป



7. เพิ่มอุปกรณ์เสริม

ปัจจุบันนี้มีแอพลิเคชันในสมาร์ทโฟนที่สามารถติดตามและบันทึกผลการวิ่งของคุณได้อย่างละเอียด เช่นบันทึกสถานที่และเส้นทางในการวิ่งของคุณโดยใช้ระบบดาวเทียม GPS หรือแอพ pedometer ซึ่งช่วยนับจำนวนก้าวของคุณตลอดระยะเวลาที่คุณวิ่ง นอกจากนี้แอพเหล่านี้ยังสามารถคำนวณจำนวนแคลอรี่ที่คุณเผาผลาญไปได้อีกด้วย คุณยังสามารถเลือกซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มเช่นเครื่องวัดอัตราการเต้นหัวใจแบบพกพาเพื่อติดตามผลลัพธ์ที่ได้จากการวิ่ง ซึ่งหากคุณรู้จักใช้เทคโนโลยีเหล่านี้รับรองเลยค่ะว่าคุณจะต้องสนุกกับการวิ่งมากขึ้นอย่างแน่นอน



8. สร้างสถิติ บันทึกผลลัพธ์ที่ได้

ลองจับเวลาและบันทึกจำนวนรอบที่คุณวิ่งในแต่ละวันแล้วจดบันทึกเอาไว้ เมื่อคุณวิ่งไปได้สักระยะก็ลองนำข้อมูลใหม่มาเปรียบเทียบกับข้อมูลเก่าของคุณ คุณจะพบว่าตัวเองสามารถทำสถิติการวิ่งที่ดีขึ้นกว่าช่วงแรกๆมาก ซึ่งนั่นจะเป็นแรงบันดาลใจที่ดีที่ทำให้คุณอยากวิ่งต่อไปค่ะ สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่คุณจะพบว่าน้ำหนักคุณค่อยๆลดลงพร้อมกับสัดส่วนที่กระชับขึ้นอีกด้วย



9. ชวนเพื่อนมาวิ่งด้วยกัน

เมื่อคุณเริ่มสนุกไปกับการวิ่งแล้วก็ลองชวนเพื่อนสนิทหรือคนรู้ใจมาออกกำลังกายด้วยการวิ่งไปพร้อมๆกับคุณ แล้วอย่าลืมแนะนำเคล็ดลับในการวิ่งดีๆให้กับเขาด้วยนะคะ เขาจะได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเหมือนกับที่คุณมีค่ะ


บทความที่เกี่ยวข้อง




Create Date : 28 พฤษภาคม 2556
Last Update : 6 มิถุนายน 2556 13:27:56 น.
Counter : 19298 Pageviews.

2 comments
  
ผมจะบอกกำคุนว่าในการที่คุนวิ่งนั้นเมื่อมีเพลงที่คุนชอบคุนสามารถวิ่งได้นานาจิงๆถ้าคุนไม่เชื่อไปรองทำดูเพราะผมเป็นนักกีลาปิงปองหริอเทเบิ้ลเทนนิสเมื่อผมต้องไปเก็บตัวหรือฝึกซ้อมผมจะต้องออกไปวิ่งทุกตี5ถึง6โมงเช้ารอบองพระรอบละโลแปดซึ่งผมเคยวิ่งมาแล้ว2รอบติดต่อกันถ้าซ้อมเราต้องซ้อมกันเป็นกลุ่มใครจะทำอะไรหรือหยุดพักก็เรื่องของเขาแต่เราทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็พอแล้วเชื่อผมแล้วคุนจะมีความสุขในการวิ่งแล้วซักวันหนึ่งเพื่อนก็จะมาวิ่งกับคุนเอง
โดย: ton chaiwut IP: 206.53.152.1 วันที่: 30 กันยายน 2556 เวลา:9:31:16 น.
  
แล้วถ้าเป็นว่า กลับมาจาก รร.แล้วหิวอ่ะครับ?
โดย: อ้วนมาก IP: 49.230.141.56 วันที่: 5 มกราคม 2557 เวลา:18:23:17 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Gushbell
Location :
จันทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



New Comments