|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
วิธีทำ น้ำโพเพทัส
บังเอิญได้รู้จักการดื่มและทานสูตรโพเพทัส จากเพื่อนแม่ซึ่งเห็นผลว่าคุณน้าดูหน้าตาผิวพรรณเต่งตึงผ่องใสขึ้น และบอกว่าช่วยให้หายป่วยจากอาการที่เป็นอยู่ คุณน้าได้สนใจจากเพื่อนและหมอที่ดื่มและทานเป็นประจำถึงแม้ตอนหลังจะเป็นแบบผสมผสานอาหารทั่วไปก็ยังทำให้ร่างกายหนุ่มสาวขึ้นมาก
สำหรับดิฉันคิดว่าคงไม่เป็นการยากถ้าได้ผลจริงหลายอย่างก็คุ้ม ดีกว่าทานพวกอาหารเสริมหรือยาที่ต่อมาจะมีผลข้างเคียง และสูตรโพเพทัสนี้ส่วนผสมก็เป็นอาหารหาซื้อเองได้ ส่วนวิธีการนั่งก็ชินกับการทำสมาธิอยู่แล้วเปลี่ยนขั้นตอนนั้นเอง เอาน่าลองสักตั้ง จากตอนแรกว่าจะลองหนึ่งเดือน ผลปรากฏว่าติดใจประสิทธิภาพเลยเพิ่มไปจนถึงห้าเดือนหลังออกพรรษาปานงดเหล้าเข้าพรรษา อิอิ และสูตรโพเพทัสดีในการใช้ในยามวิกฤตได้ดีด้วย อย่างน้ำท่วมอินเทรนช่วงนี้ช่วยในการลดการบริโภคอาหารเยอะได้ดี อาหารโพเพทัสทานแค่ 1-2 มื้อ ช่วยลดความร้อนในร่างกาย และรักษาโรค
วิธีการทำสูตรโพเพทัสจู๊ส (Popatas Juice) โดย หมอแกน
รูปส่วนผสม
รายละเอียด
//www.morgangaiyasit.com/forum/viewtopic.php?id=160
เวบหมอแกน
//www.morgangaiyasit.com/
//www.popatas.com/
โพเพทัสจู๊ส (Popatas Juice) สูตรผักและผลไม้รวมกัน 24 ชนิดไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นผักหรือผลไม้ชนิดอื่นได้เด็ดขาด ควรนำมาปั่นรวมกันให้ละเอียดที่สุด และควรดื่มให้ได้ตามปริมาตรที่กำหนดไว้และควรครบตามจำนวนในหนึ่งวัน สูตรโพเพทัสจู๊ส (Popatas Juice) นี้มีไว้เพื่อสร้างเซลล์ใหม่ให้กับร่างกายและอวัยวะทุกส่วนรวมทั้งระบบประสาทและเนื้อสมอง เพื่อทำให้ได้เกิดโครงสร้างใหม่ที่สมบูรณ์แบบและมีหน้าที่ใหม่ในระดับเซลล์ทุกๆส่วนของร่างกาย โดยที่เราเป็นผู้กำหนดในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเซลล์ใหม่นี้ จนทำให้เกิดหน้าที่ใหม่ของในระบบต่างๆ ตามที่ใจเราต้องการได้ทุกเมื่อและยังทำให้ได้เกิดขึ้นจริงได้ทุกเวลา ถาวรตลอดไป โพเพทัสจู๊ส (Popatas Juice) สามารถรักษาโรคได้ทุกโรครวมทั้งโรคที่เกี่ยวข้องกับทางด้านจิตใจ หรือแม้แต่โรคประจำตัวและโรคเรื้อรัง แถมซ้ำคุณจะมีรูปร่างที่กระชับและได้สัดส่วน หุ่นดี เมื่อดื่มแล้วจะไม่รู้สึกอ่อนเพลีย หรือรู้สึกหิวโดยเด็ดขาด ไม่รู้สึกเหนื่อย ผิวหนังก็จะเต่งตึงเหมือนเป็นหนุ่มเป็นสาวใหม่อีกครั้ง แถมผิวพรรณก็จะแลดูขาวเนียนใสยิ่งขึ้น ทุกคนที่ได้ดื่มโพเพทัสจู๊ส (Popatas Juice) เกิน 3 เดือนขึ้นไปแล้ว ก็จะรู้สึกได้ว่าตัวเองดูสวยหรือหล่อขึ้นอย่างแน่นอน
วิธีการดื่มโพเพทัสจู๊ส (Popatas Juice) ดื่มครั้งละ 1 แก้ว ทุกๆ 2 ชั่วโมง (รวมทั้งหมด 6 แก้วต่อวัน) สำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่มีโรค แต่ต้องการดูแลสุขภาพ หรือผู้ป่วยที่เพิ่งหายจากโรค ควรดื่มโพเพทัสจู๊ส (Popatas Juice) แบบอาทิตย์ละ 2 วันติดกันเท่านั้น ในปริมาตรทั้งหมด 1,700 cc ต่อวัน โดยต้องดื่มให้ครบ 6 แก้วต่อวัน ในทุกๆ 2 ชั่วโมงต่อหนึ่งแก้ว เริ่มนับแก้วแรกได้ตั้งแต่เริ่มตื่นนอน ทุกคนสามารถดื่มแบบนี้ไปเรื่อยๆ ตามต้องการ สำหรับผู้ป่วยหนัก ผู้ป่วยเรื้อรัง หรือ ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ควรดื่มโพเพทัสจู๊ส (Popatas Juice) แบบวันเว้นสองวัน คือ ดื่ม 1 วัน หยุด 2 วัน สลับกันไปเรื่อยๆ ในปริมาตร 1,200 cc ต่อวัน แบ่งเป็น 200 cc ต่อครั้ง ให้ได้ครบ 6 แก้วทั้งวัน เมื่ออาการดีขึ้น 50% ให้ดื่มแบบวันเว้นสามวัน (ดื่ม 1 วันหยุด 3 วัน) เพิ่มปริมาตรเป็น 1,500 cc ต่อวัน โดยจะต้องดื่มให้ครบ 6 แก้วต่อวันเช่นกัน จนกว่าอาการจะดีขึ้นเกิน 80% ถึงหายสนิทให้เปลี่ยนเป็นแบบอาทิตย์ละ 2 วันติดกันได้ และเมื่อหายจากโรคแล้วดื่มต่อเนื่องไปอีก 6 เดือน หรือสำหรับท่านที่ติดใจรสชาติความอร่อยของมันไปซะแล้ว ดื่มไปได้เรื่อยๆ ครับ หรือทางที่ดีที่สุดท่านควรนั่งกระตุ้นคลื่นเซลล์ให้ครบ 5 รอบทุกวัน ไม่สิ้นเปลือง!! ไม่ต้องดื่มก็ได้ครับ!!
**** หัวใจหลักของการรักษาในทฤษฎีโพเพทัส คือ การนั่งกระตุ้นคลื่นเซลล์ **** หากไม่สามารถปั่นน้ำผักผลไม้ Popatas Juice ได้ ให้ใช้วิธีการนั่งกระตุ้นเพียงอย่างเดียว โดยทำให้ถูกต้องและเคร่งครัด นั่งให้ครบ 5 รอบต่อวัน (ขั้นต่ำ) ****
ภาพขั้นตอนการฝึกนั่งกระตุ้นคลื่นเซลล์
//www.morgangaiyasit.com/forum/viewtopic.php?id=436
สูตรน้ำผักผลไม้โพเพทัสจู๊ส (Popatas Juice) เรียงลำดับตามตัวอักษร และแยกส่วนผสมที่เป็นของสด และ ของแห้ง 1. Asparagus (หน่อไม้ฝรั่ง) 1 กำมือเล็ก หรือประมาณ 4 ก้าน 2. Beet Root (บีทรูท) 1 หัวเล็ก (จะสกัดเอาแต่น้ำ หรือใช้ทั้งกากก็ได้) 3. Bitter Melon (มะระ) 1 แว่นเล็ก 4. Broccoli (บร็อคโคลี่ )1 หัวเล็ก ใช้เฉพาะดอกเท่านั้น ไม่เอาก้าน 5. Brussels sprout (ดอกกระหล่ำดาว) 5 ลูก หรือ มะเขือม่วง ลูกยาวประมาณฝ่ามือ 1 ลูก (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งใน 3 อย่างนี้ แทนกันได้) 6. Capsicum (พริกหวานใหญ่) สีแดง 1 ลูก เอาทั้งไส้ของมันด้วย 7. Carrot (แครอท) 1/2 - 1 หัวปกติ สกัดแยกกากเอาแต่น้ำ *ห้ามใช้แบบกล่อง* 8. Celery (เซเลอรี่ : คื่นช่ายฝรั่ง) 1/2 - 1 ก้าน หรือ หั่น1 กำมือเล็ก 9. Cranberry (แครนเบอร์รี่) 1 กำมือ หรือ Strawberry (สตรอเบอร์รี่) 5 - 10 ลูกหรือ Raspberry (ราสเบอร์รี่) 1 กำมือ อย่างใดอย่างหนึ่ง ควรเลือกใช้แครนเบอร์รี่ เป็นอันดับแรกครับ 10. Garlic (กระเทียม) 2 - 4 กลีบใหญ่ 11. Ginger (ขิง) 2 - 4 แว่นเล็ก (ให้ใช้ขิงแก่) 12. Green Apple (แอ๊ปเปิ้ลเขียว) สกัดเอาแต่น้ำให้ได้ 3 แก้ว * ห้ามใช้แบบกล่อง 13. Mint (ใบสะระแหน่) 4 - 8 ใบ 14. Onion (หัวหอมใหญ่) 1/2 - 1 ลูก 15. Passion Fruit เสาวรส ควักเอาแต่น้ำ 2 ลูก หรือ น้ำเสาวรสเป็นถุง แบบแช่แข็งก็ใช้ได้นาน หรือ กีวี่ (Kiwi Fruit) 1 ลูก หรือ ส้มเกรปฟรุ๊ต (Grape Fruit) 1 ลูกใช้ได้ทั้งน้ำและเนื้อส้ม 16. Pineapple Core แกนสับปะรด 1 แกน (ห้ามใช้เนื้อ เอาแต่แกนเท่านั้น) 17. Red Tomato (มะเขือเทศแดงลูกใหญ่) 1 ลูก 18. Yoghurt (โยเกิร์ต)รสธรรมชาติ 1 ถ้วย 150 กรัม ยี่ห้อYolida (โยลิดา) ถ้าหาไม่ได้ใช้ยี่ห้อที่เป็น homemade ที่ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่สารกันบูดและต้องไม่เจือสีแต่งกลิ่น เช่น ยี่ห้อ Meiji เมจิ รสธรรมชาติ ไขมัน 0%, ยี่ห้อ Goumet (โกเม่ท์ )ในฟู้ดแลนด์, ยี่ห้อ Daily Home ใน TOPS (วิธีประหยัดสุดทำโยเกิร์ตเองเลยครับ หาวิธีทำในอินเตอร์เน็ทก็ได้) อันดับที่ 19 24 ส่วนของแห้ง (เลือกใช้ได้ทั้งแบบสด แบบผง หรือแบบแห้ง นะครับ) 19. Cinnamon Powder (อบเชยผง) 1-2 ช้อนชา 20. Flaxseed (เมล็ดแฟล็กซ์ซีด) 2 ช้อนโต๊ะหรือมากกว่าเพื่อความมันอร่อย 21. Oregano (ออริกาโน่) แบบผงละเอียด หรือหยาบก็ได้ 1-2 ช้อนชา 22. Parsley (พาร์สลี่) ใช้แบบใบสด หรือ แบบผง 1 ขยุ้มมือเล็ก (กรณีเป็นไข้ ตัวร้อน ปวดท้องเกร็ง ใส่พาร์สลี่เพิ่ม 2-3 เท่า) 23. Rosemary (โรสแมรี่) ใช้แบบใบสด หรือ แบบผง ใช้ 1 ช้อนชา 24. Walnut (วอลนัท) หรือ Hazel Nuts (เฮเซลนัท) 8 เม็ด หมายเหตุ ตัดน้ำส้มคั้นออก ให้ใช้เฉพาะน้ำแอ๊ปเปิ้ลเขียว น้ำแครอท และน้ำเสาวรส ที่เป็นน้ำในการปั่นเท่านั้น และล่าสุดยกเลิก แรดิช องุ่นดำในน้ำปั่นด้วย
วิธีการทำปั่นโพเพทัสจู๊ส (Popatas Juice) นำผักผลไม้ล้างให้สะอาด (ยกเว้นเมล็ดแฟล็กซ์ซีดและถั่ว) และหั่นเป็นชิ้นเล็ก นำส่วนผสมทุกอย่างมาปั่นรวมกันแบบไม่แยกกาก วิธีการปั่น ให้ใช้น้ำแอ๊ปเปิ้ลเขียว น้ำแครอท(ห้ามเกิน 1 หัว) ซึ่งสกัดเอาแต่น้ำ (ไม่เอากาก) มาเป็น base ในการปั่นผักผลไม้ทุกอย่างที่เตรียมไว้ บีทรูทจะแยกกากก็ได้ไม่แยกก็ได้ ส่วนน้ำเสาวรสใช้ทั้งเมล็ดได้เพียงแค่ปั่นให้ละเอียดขึ้น *ห้ามใช้น้ำเปล่าในการปั่น
เวลาปั่นให้ทะยอยใส่เครื่องปั่นหลายๆครั้ง ปั่นให้เข้ากันจนละเอียดเทใส่ภาชนะแล้วคนให้เข้ากัน แล้วปั่นอีกรอบเพื่อให้ดื่มง่าย ส่วนผสมพวกของแห้งต่างๆ หรือแบบผง ให้นำลงปั่นตอนท้ายๆได้ หากข้นเกินไปสามารถเพิ่มน้ำแอ๊ปเปิ้ลเขียวได้ และสามารถปรับรสชาติให้อร่อยด้วยการเพิ่มแครนเบอร์รี่ เพิ่มสตรอเบอร์รี่หรือน้ำเสาวรส หรือเพิ่มน้ำแอ็ปเปิ้ล อีกเล็กน้อยครับ เพื่อให้มีรสชาติที่เราชอบมากยิ่งขึ้นปรับลดเครื่องเทศได้เล็กน้อย แต่ผักที่ควรหาใส่ให้ได้ทุกครั้ง คือ 4 ชนิดนี้ บร็อคโคลี่ หน่อไม้ฝรั่ง พริกหวานใหญ่สีแดง (ถ้าหาไม่ได้จริงๆ ให้ใช้สีเขียวได้) และกระหล่ำดาว หรือผักที่แทนกันได้ กรณีเป็นผู้ป่วยหนัก ที่ไม่สามารถดื่มได้ด้วยตนเองให้นำผักและผลไม้ทุกชนิดมาแยกกากเอาแต่น้ำ ใส่ทางสายยางให้ดื่มตามปริมาตร 1,200 - 2,000 ซีซี (ค่อยๆ ให้ทีละน้อย 100-200 ซีซี ทุก 2 ชั่วโมง) เด็กเล็กตั้งแต่เกิดถึงไม่เกิน 1 ขวบ ดื่มได้ตั้งแต่วันละ 600 ซีซี 1 - 3 ขวบ ปริมาตร 1,000 - 1,200 ซีซี สำหรับเด็ก 3 ขวบขึ้นไป ให้ดื่มได้ 1200 ซีซี ครับ ค่อยๆ แบ่งดื่มนะครับ ควรจะดื่มให้หมดวันต่อวัน หรือ ภายในสองวัน ในวันที่ดื่มน้ำผักผลไม้โพเพทัสจู๊ส ห้ามทานอาหารใดๆ ทั้งสิ้น ยกเว้นดื่มน้ำเปล่าได้ และสามารถทานถั่วได้ แต่จริงๆ แล้วไม่จำเป็นครับ เพราะเปลือง ยกเว้นหิวจริงๆ ทุกๆ 4 ชั่วโมง ทานได้ครั้งละ 5 เม็ด รวมแล้วไม่เกิน 20 เม็ด ในหนึ่งวัน เราสามารถดื่มน้ำโพเพทัส จู๊ส แบบพิเศษที่เรียกว่า 6-3 6-3 แปลว่าดื่ม 6 แก้ววันนี้ วันต่อไปดื่ม 3 แก้ว โดยเก็บไว้ในตู้เย็นหรือกระติกน้ำแข็ง ให้ดื่ม 3 แก้ว ในวันถัดไป ตามนี้คือ ดื่มเวลาเช้ากลางวันและก่อนนอนเท่านั้น ดื่มสลับกันไปเรื่อยๆ ตามความต้องการจนกว่าจะหายจากอาการและโรค ในวันที่ดื่ม 3 แก้วนั้นให้ทาน อาหารหลากหลายตามทฤษฎีโพเพทัสซึ่งจะอธิบายต่อไปครับแต่การดื่ม 6-3 6-3 นี้ จริงๆ แล้วก็ไม่จำเป็นเพราะเปลือง ให้ยึดหลักการดื่มเป็นรองจากการนั่งกระตุ้นฯ นะครับ เพราะทฤษฎีนี้มุ่งเน้นความเท่าเทียมกัน ไม่เป็นภาระเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะฉะนั้นการนั่งกระตุ้นฯ เราใช้เพียงอากาศที่ไม่ต้องซื้อหาไม่ต้องออกจากบ้าน
ทำไมต้องดื่มโพเพทัสจู๊ส (Popatas Juice) ทุกๆ 2 ชั่วโมง การดื่มโพเพทัสจู๊ส (Popatas Juice) ทุกๆ 2 ชั่วโมงนี้ เพื่อให้ใช้พลังงานสารอาหารที่ได้จากการปั่นโพเพทัสจู๊ส มาใช้แทนการใช้พลังงานจากเซลล์พลังงานสำรองในร่างกาย เราจะได้ไม่แก่ไม่เหี่ยว จะได้รู้สึกสดชื่นตลอดเวลา ไม่ต้องกังวลว่าจะหิว เพราะถ้าทานตามสูตรจะไม่หิวเลย เพราะสูตรนี้มีกากใยสูง พร้อมทั้งมีธาตุ Sulfur สูงอีกด้วย จนทำให้มีพลังงานเกิดขึ้นในร่างกายมากมาย เพียงพอในการดำเนินชีวิตประจำวัน และรักษาอาการของโรคต่างๆ ได้อีกด้วย หากดื่มโพเพทัสจู๊สไม่ตรงทุกๆ 2 ชั่วโมงก็ไม่เป็นไรครับแค่ให้เวลาใกล้เคียง 2 ชั่วโมงที่สุด เพราะมันเกี่ยวกับการใช้พลังงานในเซลล์ และเรื่องของการใช้ฮอร์โมนในร่างกายและขอให้จำไว้เสมอว่าเพื่อผลในการรักษา ผักผลไม้ที่จะทานได้ในวันที่ไม่ได้ดื่ม Popatas Juice แนะนำว่าให้เป็นผักผลไม้ที่ระบุไว้ใน สูตรโพเพทัส 24 - 35 อย่างที่แนะนำเท่านั้นครับ และห้ามทานโดดๆ คือทานแบบเดียวอย่างเดียวเป็นประจำ แม้ว่าจะเป็นผักผลไม้ที่อยู่ในสูตรก็ตามแต่ให้นำมันมาปรุงเป็นอาหารแบบหลากหลายจะดีกว่าครับ
การหาซื้อ ผักผลไม้ เครื่องเทศ ใช้ได้ทั้งแบบสด แช่แข็ง หรือผงแห้ง เราสามารถเพิ่มปริมาณ เฉพาะน้ำแอ๊ปเปิ้ลเขียวให้มากขึ้น มากกว่า 3 แก้วได้เพื่อที่น้ำปั่นจะได้ไม่ข้นเกินไปและทำให้ดื่มง่ายขึ้น หรือเพื่อเพิ่มความอร่อยบางท่านอยากจะใส่ส่วนผสมที่ผมระบุไว้ว่า และ / หรือ ใส่เพิ่มได้เล็กน้อยตามความชอบของแต่ละท่านครับ (จำพวกผลไม้, ถั่ว, เมล็ดแฟล็กซ์ซีด, โยเกิร์ต ใส่เพิ่มขึ้น จะอร่อยยิ่งขึ้นครับ) สำหรับผู้ป่วยที่มีน้ำหนักน้อยไม่ได้มาตรฐาน หรือผู้ป่วยที่เป็น โรคไทรอยด์ (Thyroid) ทุกประเภท ควรเพิ่ม Quinoa (คิโน คือ ธัญพืชชนิดหนึ่ง) และ Oatmeal อย่างละ 3 ช้อนโต๊ะ และให้รับประทานในวันที่ไม่ได้ทำโพเพทัสจู๊ส (Popatas Juice) ในชั่วโมงที่ 5 เท่านั้น นับจากเวลาที่ตื่นนอน สำหรับผู้ป่วยที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลหรือเพิ่งฟื้นไข้ ให้ใส่ ข้าวโอ๊ต 3 ช้อนโต๊ะ Quinoa 3 ช้อนโต๊ะ Wheatgerm 2 ช้อนโต๊ะ Buckwheat 2 ช้อนโต๊ะ Flaxseed 2 ช้อนโต๊ะ ต้มเข้าด้วยกันไว้ทานในวันที่ไมได้ดื่มโพเพทัสจู๊ส (Popatas Juice) ควรแบ่งออกเป็น 3 มื้อ คือ เช้า กลางวัน เย็น แต่ให้ทานประมาณ 1 เดือนแรกเท่านั้น หลังจากนั้นให้ทานเหลือ 2 มื้อ ทานได้ชั่วโมงที่ 5 และชั่วโมงที่ 12 นับจากตื่นนอน (ดังเช่นผู้ปฏิบัติตนในทฤษฎีโพเพทัสทุกคน ทานแค่ 2 มื้อต่อวัน) สำหรับคนที่ต้องการเพิ่มคอลลาเจนให้ผิว, เพิ่มฮอร์โมน ให้ใส่ ข้าวบัควีท (Buckwheat) 2 ช้อนโต๊ะ หรือ ใส่ ลูกอะโวคาโด้ 1 ลูก ปั่นเพิ่มลงไปในสูตรโพเพทัสจู๊ส (Popatas Juice) แต่ห้ามใช้ข้าวบัควีท กับผู้ป่วยที่เป็นซีสต์ มะเร็ง หรือ เนื้องอก **** ธัญพืชใส่เพิ่มก็ได้ ไม่ใส่ก็ได้ ขอให้ยึดหลักว่า ของให้ครบ แค่ผักผลไม้ 24 ชนิดตามสูตร ก็เพียงพอรักษาทุกโรคอยู่แล้วครับ ****
สำหรับวันที่ไม่ได้ดื่มน้ำโพเพทัสมีวิธีทานอาหารดังนี้
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=imaginer&month=04-11-2011&group=6&gblog=368
หายทุกโรคด้วยปาฏิหาริย์โพเพทัส
//www.morgangaiyasit.com/forum/viewforum.php?f=2
ระยะเวลาในการรักษา ผู้ป่วยโรคต่างๆ อาการของโรคที่เป็นอยู่ก็จะดีขึ้นๆ 20-70% ทีละโรค เพราะบางคนเป็นหลายโรคในคนๆ เดียว ดังนั้นควรทำควบคู่กันไปทั้งการดื่มน้ำโพเพทัสจู๊สและการนั่งกระตุ้นคลื่นเซลล์จะหายเร็ว อย่าลืมว่าน้ำโพเพทัสจู๊สสามารถนำมันมาใช้ทารักษาโรคได้ด้วยเช่นกัน เช่นอาการปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ เอาน้ำมาทาที่หัว ทาทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมงแล้วล้างออก หรือไม่ล้างออกก็ได้ หรือ แมลงสัตว์กัดต่อย ฟกช้ำดำเขียว แผลถลอก ติดเชื้อ ผื่นแดงหรือคัน
ปกติเราจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงอาการของโรคที่ดีขึ้น ตั้งแต่ทำโพเพทัสจู๊ส ครั้งที่ 4 ขึ้นไป บางโรคเพียงวันแรกก็เห็นผลแล้วครับ แต่บางอาการหรือบางโรคเรื้อรัง อาจต้องใช้เวลาแล้วแต่บุคคลว่า การทำโพเพทัสจู๊สและการนั่งกระตุ้นคลื่นเซลล์อย่างเคร่งครัดเพียงใดครับ ในช่วงแรกของการรักษาอาการของโรคจะปรากฎให้เห็นบ้าง แล้วแต่โรคของแต่ละคน เช่นปวดหัวก็เพราะเดิมเป็นโรคปวดหัวไมเกรนมาหลายสิบปี บางคนมีลมขึ้น ท้องอืด เพราะเดิมเป็นโรคเกี่ยวกับลำไส้ บางคนอาจปวดบริเวณที่เคยเป็นโรคต่างๆ แต่ส่วนใหญ่ไม่มีอาการใดๆ เกิดขึ้นเลย เพราะนั่งกระตุ้นครบ 5 รอบมันช่วยได้อย่างมหัศจรรย์ และทุกวันที่ดื่มหรือไม่ดื่มตื่นมาก็ต้องนั่งกระตุ้นฯ รอบที่ 1 ทันที (นั่งบนเตียง เหยียดปลายเท้า หลังพิงหัวเตียงได้เลย) นั่งให้ครบวันละ 5 รอบห่างทุกๆ 3 ชั่วโมง หากไม่มีเวลาสามารถนั่งเมื่อไหร่ก็ได้ไม่ต้องรอระยะห่าง 3 ชั่วโมงนะครับ ทฤษฎีนี้ไม่ได้พูดถึงคุณค่าของสารอาหารหรือคุณสมบัติของพืชผักแต่ละชนิดว่า มันมีสารอะไรรักษาโรคอะไร แต่การรักษาทฤษฎีนี้มันเป็นการรักษาเชิงลึกลงไปในระดับเซลล์ ได้จากการปั่นฯ รวมกันเท่านั้นและจะได้มาซึ่งพลังงานและคลื่นพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าให้ระดับเซลล์ ดังนั้นอย่าไปมองเรื่องสรรพคุณ หรือ ประโยชน์ของผักแต่ละชนิด
การทำน้ำปั่นโพเพทัสของดิฉัน
วิธีเก็บของล้นตู้เย็น กลายเป็นตู้เย็นสำรองแบบไม่ใช้ไฟฟ้า เพราะจะซื้อมาตุนในครั้งเดียวใช้ทำได้หนึ่งเดือน คือการหากะละมังรองใส้น้ำและกล่องพลาสติคเก็บผักผลไม้ให้ความเย็นของน้ำล้อมรอบภาชนะเก็บผลไม้จะได้ช่วยชะลอความเหี่ยว
ส่วนผสมทั้งหลายแหล่
หน่อไม้ฝรั่ง
ลูกแรดิชปัจจุบันไม่ให้ใช้แล้ว
เครื่องเทศผง ถั่ว และแฟลกชีส
เตรียมหั่นผักบางส่วนเก็บใส่กล่องไว้ใส่ตู้เย็นหนึ่งคืน เพราะขี้เกียจตื่นเช้ามาทำกว่าจะหั่นเตรียมเสร็จปาไปเป็นชั่วโมง เช้ามาจะได้สะดวกปั่นดื่มเลย
ปั่นแอปเปิล บีทรูท แครอทตะแกรงกรองแยกเอาน้ำก่อน (เพราะไม่มีเครื่องแยกกากเหมือนเขา)
แล้วค่อยแบ่งปั่นพวกผักผลไม้อื่น ๆ เยอะพอควรปั่นครั้งเดียวกลัวเครื่องพังจ้า
ขั้นตอนปั่นตอนสุดท้ายใส่ส่วนผสมพวกเครื่องเทศ ถั่ว แฟลกชีส
เสร็จแล้วจะได้ปริมาณเป็นเหยือกใส่ตู้เย็นไว้ดื่มครั้งละแก้วทุกสองชั่วโมงได้พอปริมาณในหนึ่งวัน แต่ถ้าเยอะเกินเหลือดิัฉันจะเอาใส่ช่องฟรีสไว้ดื่มต่อวันต่อมาด้วยหรือไม่ก็เอาไว้ทา
Create Date : 02 พฤศจิกายน 2554 |
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2554 21:06:43 น. |
|
0 comments
|
Counter : 38216 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|