ปรีหลอด 6J1 ไม่มีโทนคอนโทรล VS ปรีหลอด 6J1 มีโทรลคอนโทรล รีวิว เล่นๆ

พอดีมองไปเห็น บัพเฟอร์หลอด 2 ตัว  น่าจะทำมาจากที่เดียวกัน เพราะรูปร่างหน้าตาคล้ายกันมาก ต่างกันที่ว่า ตัวหนึ่งไม่มีภาคโทรลคอนโทรลปรับ เบส ทรีเบิ้ล เท่านั้น  ใช้หลอดสูญญากาศ เบอรฺ์ 6๋J1 เหมือนกัน ดังรูป



ผมจะตั้งชื่อ เจ้าตัวทางซ้ายมือของท่านผู้ชม ว่า ตัวพี่ ก็แล้วกันนะครับ  เพราะซื้อมาก่อนเป็นปี ราคาตอนนั้น 1700 บาท แน่ะ  แต่ทุกวันนี้ (ต้นปี 2561)  ราคา ลงมาเหลือแถวๆ 1000 บาทเท่านั้น    แหม...ราคาตกเร็วจัง  และเรียกตัวทางขวามือ ที่มีปุ่มปรับทุ้มแหลมว่า  ตัวน้อง   เพราะซื้อมาทีหลัง  ต้นเดือน มกราคม 2561 นี่เอง ในราคา 1400 บาท

ในการดวลกันครั้งนี้ ใช้ลำโพง เพลง ชุดเดียวกัน ตลอด และเป็นการเทียบมวยที่ง่ายที่สุดในโลก เท่าที่เคยเอาเครื่องเสียงมาเทียบกัน เพราะพี่น้องคู่นี้ ใช้ไฟจากอะแดปเตอร์ 12 V  1A  เท่ากันเป๊ะ  เรียกว่าผมมีหน้าที่เพียงถอดสายไฟ และแจ๊คสัญญาณด้านหลัง  ใช้เวลาไม่กี่วินาที ก็เรีบบร้อย  เพราะเอามาวางคู่กันเลย ง่ายมาก

สรุปได้ว่าอย่างนี้ครับ

ตัวพี่ (ตัวที่ไม่มีโทนคอนโทรลปรับทุ้มแหลม)  ให้เสียงที่สบายหู ละมุนมากกว่า เหมาะในการฟังสบายๆ ไม่คิดมาก เพลงเบาๆเพราะๆ  ถ้าจะเทียบก็เหมือน สาวสวยตามธรรมชาติ   ไม่แต่งหน้าทาปาก นิสัยเรียบร้อยน่ารัก ไม่ค่อยมีจริตก้าน บริสุทธิ์แบบสาวบ้านนา  น่ารัก นุ่งผ้าถุงสวม สื้อยืด อยู่ตามห้วยลำลำธาร  ทำไร่ไถนา ท่ามกลางธรรมชาติ

เฮ้ยๆ ...ฮ่วย...! มากไปแล้วเด้อ นี่มันเครื่องเสียง  โธ่....ก็เปรียบเทียบกันไงครับ

ส่วนตัวน้อง ให้เสียงที่จัดจ้าน ชัดเจน เร้าใจ อยู่ไม่เป็นสุข ซนโน่นนี่ เอาใจเก่ง เร้าอารมณ์  ถ้าเปรียบไปก็เหมือนสาวสวย มาแต่งหน้าท่าแต่งตัวทาปาก ให้เซ็กซี่ เร้าใจมากขึ้นนั่นเอง เสียงแหลมปรับได้เยอะพอสมควร เหมาะกับคนชอบความสวยแบบบาดตาบาดใจ เสริมความฟรุ้งฟริ้ง   ส่วนเสียงเบส  อันนี้สามารถปรับได้มากเกินพอเสียอีก   ถ้าแอมป์ขับกำลังไม่พอ เสียงเบสจะผิดเพี้ยนมากจนฟังไม่ได้   ดังนั้นไม่ควรปรับมากจนสุด ยกเว้นเครื่องเสียงไม่ดี ต้องชดเชยเสียงต่ำมากๆ แต่ก็รู้สึกว่าไม่เพราะอยู่ดีถ้าเร่งเบสมากไป   แต่เสียงเบสนี้เราเลือกระดับที่เหมาะสมได้ครับ ไม่ต้องห่วง  ปรับที่คิดว่าเพราะที่สุดนั่นล่ะตามหูเรา

แหม...ฟังแล้วบอกยากครับ ว่าชอบตัวไหนมากกว่าเพราะมันสวยคนละแบบ
ถ้าเพลงหนักๆมัน คึกคัก เร้าอารมณ์  ก็ต้องตัวน้อง  ถ้าฟังสบายๆเพลินๆ ก็ต้องตัวพี่  แต่ก็ไม่ได้ต่างกัมากนะครับ เอาเป็นว่ารู้สึกได้ชัดเจนพอสมควรก็แล้วกัน จะเอาตัวน้องที่จัดจ้านเร้าใจ มาฟังเพลงสบายๆก็ได้เหมือนกัน ไม่เสียหาย หรือจะเอาตัวพี่มาฟังร็อตหนักๆ ก็ได้อยู่ดี

ทีนี้ อาจมีบางท่านคิดาว่ ไม่.....ฉันจะซื้อเพียงตัวเดียว... ฉันจะซื้อตัวน้อง  ถึงค่าตัวแพงกว่าตั้ง 400-500 ร้อย  แต่ปรับแต่งเสียงได้ มันส์กว่า  วันไหนอยากฟังแบบตัวพี่ คือ นุ่มๆ สบายๆ ชวนฝัน  ฉันก็เพียงแต่ปรับ เบส ทรีเบิ้ล ให้อยู่ตำแหน่งแฟลต หรือตรงกลาง เท่านี้ก็จะได้เสียงแบบตัวพี่แล้ว เพราะไม่มีการเพิ่มหรือลดทุ้มแหลม   ยังไงมันก็ใช้หลอด  6J1 เหมือนกัน เสียงก็ต้องเหมือนกัน  ฮ่าๆๆๆๆๆ  (ว่าแล้วท่านก็หัวเราะอย่างพอใจ)^^

เสียใจครับ  (ความฝันเล็ก ๆ ของท่านดับลงทันที)^^    เพราะตัวน้อง ถึงท่านจะปรับทุ้มแหลม ให้อยู่ตำแหน่งแฟลต ตรงกลาง   แต่เสียงที่ได้ก็ไม่เหมือนตัวพี่นะครับ  เพราะวงจรปรับทุ้มแหลม ที่ใส่เข้าไป มีผลต่อบุคลิกภาพของเสียงโดยรวมทั้งหมด  ยังไงก็ไม่เหมือนเดิมครับ  ถึงตัวน้องจะไม่แต่งหน้าทาปาก  แต่ร่องรอยยังคงอยู่  อิอิ

ดังนั้น ท่านไม่มีทาง ซิ้อหนึ่งได้สอง  ถ้าต้องการความเป็นพี่และน้องอย่างสมบูรณ์ มาร่วมชายคา  ท่านต้องยอมจ่ายค่าสินสอด ค่าตัวทั้งพี่และน้องครับ

ดังนั้น  สรุปได้เลยว่า ไม่มีทางเหมือนกัน  และบอกไม่ได้ว่า ตัวไหนดีกว่ากัน เพราะดีคนละแบบ เอามาเทียบกันไม่ได้  ขึ้นกับความชอบของเรา

อย่างนั้น คงต้องซื้อ ทั้งสองตัว  อิอิ  รักพี่เสียดายน้อง มีสองคนเลยดีกว่า  ไว้สลับกันฟังตามอารมณ์  เพราะแค่ถอดแจ็คถอดสายไฟไม่นาน ก็เรียบร้อย  แต่คิดว่า เลือกตามแนวเพลงที่ท่านฟังเป็นส่วนใหญ่น่าจะดีกว่า  ไม่เปลืองตังค์  ถ้าท่านฟังเพลินๆ ทำงานไป หรือฟังกล่อมนอน  นุ่มๆเพลินๆ ตัวพี่น่าจะเหมาะกว่า   แต่ถ้าท่านเป็นคนอยู่ไม่สุข ชอบปรับโน่นเปลี่ยนนี่  ตัวน้องน่าจะเหมาะกว่า   แต่ส่วนตัวผมคิดว่าตัวไหนก็ได้ เพราะไม่ได้ต่างกันมากมาย  แต่รู้สึกได้  ฮา ทุกวันนี้ผมก็สลับกันฟัง ทั้งพี่ทั้งน้อง แล้วแต่อารมณ์ ก็มีความสุขดีครับเด้อ

Create Date : 26 มกราคม 2561		6 comments
Last Update : 26 มกราคม 2561 15:24:25 น.
Counter : 8715 Pageviews.
Share Tweet