YOU are not afraid. You think YOU are afraid. ~Shantimayi~
10.. เปลี่ยนแผน อยู่มันในอัมสเตอร์ดัมต่อนี่แหละ

แผนการเดินทางถูกกำหนดแล้ว จากที่จะบินกลับเจนีวาเพื่อไปเข้าคลาสกับ Compagnie 7273 และออดิชั่นกับคณะ Grande Theater de Geneve แล้วรีบแจ้นกลับขึ้นมาที่ลักเซมเบิร์ก เพื่อออดิชั่นอันต่อไป ก็เป็นอันว่าเปลี่ยน ด้วยคำแนะนำของรุ่นพี่อยู่ในคณะ Grande Theater ว่า อย่ามาเลย มีผู้หญิงมาออดิชั่นร่วมร้อย ... ประมาณว่า อย่าคิดสู้เขาให้เปลืองค่าตั๋วเครื่องบินเลย ยังไงเธอก็ไม่เข้าตากรรมการหรอก (ฮ่าๆ)


เราเลยเปลี่ยนแพลนด้วยการเริงร่ามันอยู่ในอัมสเตอร์ดัมนี่แหละ แล้วสัปดาห์หน้าค่อยคลำทางลงไปลักเซมเบิร์ก รุ่นพี่คนเดิมบอกว่ามีอะไรน่าสนใจว่าที่เจนีวาเยอะ เก็บเกี่ยวจากที่นี่ให้พอ แล้วค่อยลงไปหาเขาที่เจนีวาตอนที่ไม่มีอะไรจะทำแล้วดีกว่า


ที่นี่มีคลาส professional level ที่ Henny Jurien foundation ที่มีครูดีๆ เวียนกันมาสอน ตั้งแต่วันจันทร์ถึงเสาร์ ซื้อคลาสไว้แล้วสิบคลาส เราก็เข้าแหลกเลย วันละสองคลาสบ้าง สามคลาสบ้าง แล้วแต่กำลัง


ครูบัลเล่ต์คนหนึ่งชื่อ Shirley เธอสวยมาก เป็นคนที่เต้นแล้วสวยไปหมดทั้งตัว ไม่ใช่แค่เทคนิคสวย แต่พลังงานที่เธอแผ่ออกมามันยิ่งส่งให้เธอยิ่งสวย และส่งให้แต่ละคำที่เธอใช้มีพลังไปด้วย และนั่นทำให้เรารู้สึกว่าเราสวยไปด้วยเช่นกัน แค่คำพูดง่ายๆ อย่าง keep growing, find your balance. ด้วยวิธีการพูดของเธอ เรารู้สึกว่าเรา growing และสามาถหา balance (ยืนอยู่โดยไม่เด้งไปเด้งมา) ได้อย่างง่ายๆ


คลาสคอนเทมของสัปดาห์นี้ Dunja Jocic มาสอน เธอเคยเต้นกับคณะ Guy and Roni ไม่ต้องรู้หรอกว่าคือใคร อะไร ยังไง เราก็เพิ่งไปรู้จักเอาที่นั่นเหมือนกัน Dunja เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ผอมเกร็ง ผมยาวถึงสะโพก แรกเห็นเราแทบจะหมดศรัทธาในตัวเธอ ด้วยใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารัก (เฮ้ย! ไม่ได้อิจฉา) ดูแบบบางเป็นนางบัลเล่ต์ แต่พอเธอเต้นเท่านั้นแหละ เธอก็กลายเป็นแรงบันดาลใจมหาศาลของเราในทันทีที่พลังเกินผู้หญิงของเธอก็แผ่ออกมาปะทะเรา เราไม่ชอบและไม่เคยคิดจะอยากเป็นผู้หญิงนุ่มนิ่มที่ต้องระวังความสวยและความน่าทะนุถนอมของตัวเองตลอดเวลา เราอยากเป็นผู้หญิงแกร่งที่สามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวของเราเองมากกว่า และ Dunja ก็กลายมาเป็น role model ฝ่ายหญิงคนแรกในใจของเรา


และสิ่งที่สนุกที่สุดที่เราได้จากคลาสนี้ก็คือ .. การได้ลองทำท่าพิสดารหลายๆ อย่างที่เราไม่เคยเห็น และเราเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่สามารถทำท่ายากๆ ของเธอได้เสียด้วยสิ ภูมิใจชะมัดเลย ตอนนั้นในใจนึกขอบคุณ Dance Centre โรงเรียนที่สอนให้เรารู้จักการเต้น และเริ่มจะเต้นเป็น Bangkok City Ballet ผู้ต่อยอดความรู้ให้เรา และ Arts Fission ที่สิงคโปร์ที่ให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ของการเป็นนักเต้นอาชีพในคอมพานี ไม่ว่าแต่ละที่จะมีส่วนที่เราชอบหรือไม่ชอบมากมายแค่ไหนก็ตาม แต่ตัวเราจะเป็นตัวเราอย่างที่เป็นตอนนี้ไม่ได้เลย ถ้าขาดองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งไป อีกครั้งที่ความคิดเชิงบวกเกิดขึ้นกับเรา นั่นคือ ความรู้สึกขอบคุณองค์ประกอบทุกองค์ประกอบในชีวิต เป็นสุข และพอใจแล้วกับสิ่งที่เราได้เราเป็นในวันนี้ แม้ความรู้สึกดีๆ แบบนี้จะผ่านมาและผ่านไป แต่การได้ “ฝึก” ให้ตัวเองเกิดความรู้สึกแบบนี้ให้ได้บ่อยๆ ครั้งเข้า ชีวิตเราก็ถือว่ามีพัฒนาการแล้วล่ะ


มีอยู่วันหนึ่งหลังจากเข้าคลาสเสร็จ เพื่อนร่วมคลาสสองคนก็ลุกขึ้นซ้อมท่าเต้นงานอะไรสักอย่าง แอบได้ยินเขาคุยกัน (เพราะเรานั่งฉีกขาอยู่ไม่ไกล) ว่า ท่าเต้นชุดนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปะเอเชีย เงยหน้าขึ้นมองก็เห็นท่าเขาเป็นแบบมือแข็งๆ (คล้ายๆ จะพยายามตั้งวง) เราก็นอนกลิ้งดูเขาเพลินเลย จนเขาซ้อมเสร็จ เห็นเรายังนั่งดูอยู่ เขาเลยเข้ามาชวนคุย .. ยูมาจากไหนเหรอ ทำไมก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็น .. เลยบอกเขาไปว่าเรามาออดิชั่น เพิ่งออดิชั่นของ Eico Greco | PC ไปเมื่อสัปดาห์ก่อนตอนนี้ยังรอผลอยู่ เลยมาเข้าคลาสพลางๆ คุณเธอตาโต บอกว่าไม่่ใช่ว่าใครๆ จะผ่านเข้าไปออดิชั่นกับเขาได้ง่ายๆ นะ แค่ได้ออดิชั่นก็ก็เจ๋งแล้ว


เมื่อรู้ว่าเรามาจากประเทศไทย เธอก็ตาโตอีกครั้ง ถามเราว่าเราเต้นไทยแดนซ์เป็นรึเปล่า เราเลยยกมือขึ้นจีบที่อกและม้วนข้อมือออกตั้งวง พยายามกรีดนิ้วให้งามๆ เท่าที่คนไทยคนหนึ่งที่ไม่เคยฝึกรำจริงๆ จังๆ คนหนึ่งจะทำได้ แล้วถามเธอว่าหมายถึงรำแบบนี้ใช่ไหม เธอก็ตาโตเป็นครั้งที่สาม (ฝรั่งไรวะ ขี้ตื่นจัง) ร้องว่าใช่ๆ แบบนั้นแหละ ยูทำได้ยังไง แล้วก็พยายามจะก๊อปปี้ให้เหมือน


นั่นไง เอาแล้วอีกหนึ่งดอก .. ตอนนั้นตัดสินใจหนักแน่นเลย ความคิดแล่นวาบเข้ามาอย่างเร็ว แล้วคิดต่อเนื่องไปจนถึงตอนขึ้นรถเมล์กลับบ้าน เอ้ย! โรงแรม ว่าถ้าเรามัวแต่ไปวิ่งตามวัฒนธรรมบ้านอื่น มัวแต่มุ่งหวังจะทำให้ได้ในสิ่งที่เขาทำได้ เราก็คงจะต้องตามหลังเขาอย่างนี้เรื่อยไป อย่างดีที่สุดคือทำได้เท่าเขา จะหวังให้เก่งกว่าเขาในสิ่งที่เขามีเขาเป็นคงไม่มีทาง ถึงเวลาจะต้องหันกลับมามองสิ่งที่เรามีเราเป็นบ้างแล้ว


กลับบ้านคราวนี้ จะอย่างไรก็ตาม “ต้องเรียนรำไทย” ให้ได้


รายงานตัวต่อเจ้าคุณพ่อในวันนั้น เลยเผยแผนการลับสุดยอด (ตรงไหน) นี้ให้ฟังอย่างตื่นเต้น


“ป๊า.. มายุโรปคราวนี้รู้เลยล่ะ ต้องกลับไปเรียนรำไทย”

รู้เลยว่าป๊างง เพราะป๊าส่งกระแสความงงงวยมาทางข้อความ

“อะไรของเธอ จะเลือกทางไหนก็เอาสักทาง ก่อนไปยังจะเต้นยิกๆ อยู่เลย ตอนนี้บอกจะเรียนรำไทย ป๊าตามเธอไม่ทันจริงๆ ทำอะไรให้มันจริงจังสักอย่างสักทีได้ไหม”

เราเองคิดในใจตอนนั้น .. เดี๋ยวลูกสาวดื้อๆ คนนี้จะทำให้ดูเองว่าแต่ละเรื่องมันจะมาเกี่ยวกันได้อย่างไร ถ้าเป็นไม่กี่ปีก่อนคงตีโพยตีพายว่าป๊าไม่เข้าใจ ป๊าไม่รัก ป๊าดูถูก บลาๆๆ เลยส่งข้อความกลับไปบอกป๊าแค่ว่า


“เอาน่า ป๊าคอยดู”


คืนนั้นเราเขียนลงไปสมุดบันทึกเล่มกะทัดรัดของเราเพื่อเตือนสติตัวเองในวันหนึ่งข้างหน้าที่เราอาจจะเกิดท้อแท้ขึ้นมาว่า


“I know what I want and don’t want.

For the things I want, I may not get it.

For the things I don’t want, I won't take it.

So, eventually, I will get the things in between.

That’s the mysterious present given to my life.”


ตอนนี้ก็รอฟังผลการออดิชั่นเท่านั้น แล้วเราก็จะรู้ว่า คราวนี้ ชีวิตจะให้ของขวัญชิ้นนี้กับเรารึเปล่า




พักยกมาดูรูปที่ไปเที่ยวแก้ฟุ้งซ่านมาเมื่อวันอาทิตย์ก่อนก็แล้วกัน



วิวแบบนี้ ให้ดูนานเท่าไหร่ก็ไม่มีเบื่อ



แวะแมคโดนัลด์กินโดนัท กะกาแฟ เพราะข้างนอกหิมะตก



จากในแมคมองลงมาเป็นตลาดดอกไม้ ดอกทิวลิปขายเต็มเลย



Bio Markt ภาษาดัตช์พอจะเดาได้ตลอด



ทิวลิปมั้ยจ๊ะสาวน้อย



ไอ้ลูกนี้หน้าตาคุ้นเคยมาก ขายแพงเชียว


แวะร้านขายชีส


วาฟเฟิลเบลเยี่ยมรึเปล่า กินจนติดเลย อร่อย :)



ชีส ชีส ชีส ชิม ชิม ชิม



สวย เห็นแล้วอยากเป็นแม่ศรีเรือนเลย



ชอบป้ายเขา


ถึงโบสถ์ก็เลี้ยวเข้าโบสถ์



สวยจับใจเลย



เข้ามาแล้วรู้สึกดีสุดๆ



เคยมีคนถามว่าเรานับถือศาสนาไหน



เราบอกทุกศาสนานั่นแหละ แต่ละศาสนาก็อธิบายถึงสิ่งเดียวกันนั่นแหละ



แค่พูดจากคนละมุม แค่มุมที่ตัวเองเห็นเท่านั้น



จะโบสถ์ วัด มัสยิด หรืออะไรก็ตาม แค่เข้ามาแล้วได้รับความรู้สึกดีๆ กลับไป



เข้ามารับความอิ่มอุ่นใจ และพร้อมที่จะเปิดรับพลังงานดีๆ เข้ามาในชีวิต



เราว่านั่นล่ะ คือสิ่งสำคัญที่สุดของสถานที่ทางศาสนา



จะแบ่งเป็นศาสนานู้นนั้นนี่ทำไมล่ะ



นักบวชล้วนเน้นย้ำถึงความรักและเอื้ออาทร



มันก็เหมือนกันหมดทุกศาสนาไม่ใช่เหรอ



เราเชื่อในพลังมากกว่าเชื่อในพระคำภีร์



เราเชื่อในความรู้สึกดีๆ ที่มนุษย์มีต่อกันมากกว่าคำสอนอันแห้งแล้ง



เราเชื่อในความรักมากกว่ากฎข้อปฏิบัติที่ไม่อธิบายเหตุผล



เราเชื่อในความเมตตาเอื้ออาทรของเหล่านักบุญมากกว่าศาสนาที่ท่านมุ่งเผยแผ่



อาจจะเพราะเราโตขึ้นมาท่ามกลางอิทธิพลจากหลายศาสนา



และเราก็รู้สึกดีกับทุกศาสนาเสียด้วยสิ



แม้จะไม่ทุกศาสนาก็ตาม



หนึ่งในสองนั่งร้องไห้ขณะสวดภาวนา ใครจะไปรู้ว่าเธอกำลังรำพึงอะไร



ใจยึดเหนี่ยวบางสิ่งบางอย่าง


เป็นเพราะใจยังศรัทธาว่ายังมีทางออก


มันก็เป็นเรื่องดีนะ


:)






Create Date : 19 เมษายน 2556
Last Update : 20 เมษายน 2556 13:40:28 น. 4 comments
Counter : 1218 Pageviews.

 
สวัสดียามเช้าครับ


น้องเสี้ยวเป็นคนช่างคิด
ช่างเขียน
และเก็บรายละเอียดของความรู้สึกได้ดีมากๆครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 เมษายน 2556 เวลา:6:59:28 น.  

 
>

ชอบค่ะ
อุ้มแวะมากด Like ให้เป็นคนที่ 5
เข้าบล็อกนี้ทีไร
ได้อ่านการใช้ชีวิตต่างแดนที่คุ้มค่ามากๆ ค่ะ
ชอบอ่านบันทึกเรื่องราวในต่างแดน
ชอบค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 20 เมษายน 2556 เวลา:7:45:21 น.  

 
แวะมาเยี่ยมในวันหยุด...สวัสดีครับ

ขอขอบคุณสำหรับพรวันเกิด และขอให้พรนั้นคืนกลับสู่คุณด้วยเช่นกันและเพิ่มคูณอีกเป็นร้อยเท่าพันทวีด้วยครับ



โดย: **mp5** วันที่: 21 เมษายน 2556 เวลา:14:34:56 น.  

 
รูปในโบสถ์สวยจังเลยค่ะ


โดย: แฟนlinKinPark วันที่: 22 เมษายน 2556 เวลา:22:11:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

gluhp
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




Here...
I'm on the rooftop

Between...
pavement and stars.

Here's...
hardly no day
nor hardly no night

There're things...
half in shadow
and half way in light

It's where...
I gather my thoughts
and grow my dreams

which...
are scattered
all around

In my words,
my songs,
my dance.

คน นั่งจ้องชีวิต
Group Blog
 
<<
เมษายน 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
19 เมษายน 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add gluhp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.