5 ม.ค.53 สนามฟุตบอลการประปานครหลวง
สวนกุหลาบฯ 2-2 กรุงเทพคริสเตียน

สำหรับผมแล้ว ผลงานของทีมโรงเรียนสวนกหลาบฯในศึกแห่งศักดิ์ศรี ฟุตบอลจตุรมิตร ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปลายปี 52 นั้นถือว่า “สอบตก”

เปิดสนามชนะเทพศิรินทร์แบบน่าแพ้ จากนั้นก็แพ้อัสสัมชัญแบบบอลคนละชั้น

นัดที่ดูดีหน่อยก็คือนัดสุดท้ายที่เสมอกรุงเทพคริสเตียน 3-3 แบบแอบมีช่วงเวลาที่ “เกือบ” ได้เข้าชิงกะเค้าสั้น ๆ ด้วย

นัดชิงที่ 3 ผมไม่ได้ดู แต่จากสกอร์ 0-0 ก็เลยขอรวบรัดตัดความว่าไม่ดีก็แล้วกัน

ใครจะเชื่อว่าทีมที่ผลงานกระท่อนกระแท่นแบบนี้ อีก 1 เดือนต่อมาจะกลายเป็นทีมจ่าฝูงของฟุตบอลนักเรียนรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ประเภท ก แชมเปี้ยนส์ลีกของสำนักพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ (ชื่อยาวชะมัด)

อ้อ! เดี๋ยวพวกอัสสัมฯธนฯ, อัสสัมฯศรีฯ รวมทั้งพาณิชยการาชดำเนินจะค้อนเอา ที่ว่านำจ่าฝูงนี่นำเฉพาะในกลุ่ม B นะครับ เพราะการแข่งขันรายการนี้เค้าแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม (^-^)

บุคคลที่มีบทบาททำให้เกิดการพลิกผลงานแบบคนละขั้วเช่นนี้ ไม่ว่าคุณจะเกลียดเขาหรือชอบเขา ทั้งในเรื่องการเมืองหรือฟุตบอล แต่ชั่วโมงนี้เหล่า OSK และเด็กสวนฯทุกคนคงต้องเปิดใจให้เค้าหน่อย...คุณเนวิน ชิดชอบ

“รายการนี้ เราตกชั้นไม่ได้นะ” ผู้จัดการทีมชาวบุรีรัมย์ตบโต๊ะ ปกาศิตกับทีมงาน

“นั่นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสต๊าฟโค้ช” พี่จุ่น สมปอง จังทองศิริ หนึ่งในผู้ช่วยผู้จัดการทีมชมพู-ฟ้าเล่า

สต๊าฟโค้ชที่ว่าคือวรวุธ ศรีมาฆะ, วัชรกร อันทะคำภูและ OSK อีกหลายคนที่มาแท็กทีมกันคุมชุดจตุรมิตรและที่ต้องเปลี่ยนแปลงก็ไม่ใช่เพราะพวกพี่ ๆ เหล่านี้ไม่เก่ง...แต่เป็นเพราะทีมต้องการสต๊าฟโค้ชที่สามารถมาคลุกคลีกับนักบอลได้แบบเต็มเวลา

ในเมื่ออดีตศูนย์หน้าร่างโย่งต้องช่วยตะวัน ศรีปานคุมทีมบีอีซี เทโรฯ วัชรกรก็มีชื่อเป็นสต๊าฟโค้ชทีมอะไรสักทีม การเปลี่ยนแปลงจึงเกิดขึ้น

“ก๊อก คุณช่วยมาดูทีมสวนกุหลาบฯหน่อย” คือปกาศิตของคุณเนวินอีกครั้ง

“แต่พี่ก๊อกเค้าอยู่ระดับนั้นแล้ว จึงไม่ลงมาทำเอง แต่ไปเอาทีมงานมาทำแทน” พี่จุ่นว่า

นั่นจึงเป็นที่มาของอดุลย์ รุ่งเรืองและอนุรักษ์ ศรีเกิดในตำแหน่งหัวหน้าโค้ชและผู้ช่วยโค้ชซึ่งมีบทบาทกำกับเกมอยู่ข้างสนาม

โฉมหน้านักเตะชมพู-ฟ้าที่กำลังทำผลงานดีในฟุตบอล 18 ปี ก. ของสพก. อยู่ในเวลานี้

อดุลย์แม้ไม่ใช่ OSK แต่คงไม่มีใครติดใจ แต่กับอดีตมิดฟิลด์ตัวรับทีมชาติไทยที่มีเลือดสีเขียว-เหลืองเต็มตัวนี่สิ...

“ถ้าจะทำบอลแบบมืออาชีพ ต้องอย่าไปยึดติด ทีมชาติอังกฤษโค้ชยังไม่เป็นคนอังกฤษเลย” พี่จุ่นให้ความเห็น “พี่ว่าดีซะอีก อย่างเอ็งเป็นรุ่นน้องพี่ใช่ไหม ถ้าทำอะไรผิด พี่คงไม่กล้าว่าอะไรมาก แต่ถ้าเป็นคนนอก พี่ก็พร้อมจะตำหนิ”

สำหรับผมแล้ว ไม่ติดใจอนุรักษ์หรอกครับ ด้วยประสบการณ์ที่ผ่าน ๆ มา ผมว่าเขาน่าจะเหมาะกับบทบาทที่ได้รับ...แต่ถ้ามองในมุมของเจ้าตัวบ้างล่ะ?

ครั้งนึงผมเคยเตะบอลเล่น ๆ กับเพื่อน ๆ รุ่นพี่ รุ่นน้องที่คณะ ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะเตะ เลยไม่ได้เตรียมเสื้อมา พอยืมเสื้อรุ่นน้องก็ดันเป็นเสื้อลิเวอร์พูลซะอีก ด้วยการอาศัยอำนาจบาตรใหญ่จึงขอแลกเสื้ออย่างอื่นมาใส่แทนได้

สำหรับคนที่เชียร์แมนฯยูฯมาเกิน 2 ทศวรรษอย่างผมจะให้ทำใจใส่เสื้อหงส์แดง...คงทำไม่ได้หรอกครับ

แล้วถ้าผมเป็นอนุรักษ์ล่ะ? ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าศักดิ์ศรีของทั้ง 2 โรงเรียนมันค้ำคอขนาดนั้นไหม? แต่ผมก็ไม่ได้คิดมากนะ แค่รู้สึกตลก ๆ ที่อดีตนักเตะเทพศิรินทร์ต้องมาใส่เสื้อที่สกรีนคำว่า “สวนกุหลาบฯ” หราอยู่อย่างนั้น

แต่แอคชันของเจ้าจุ่นที่ม้านั่งสำรองนั้นไม่ตลกเลย ดูซีเรียส จริงจังเอาด้วยซ้ำ

“รู้จักเล่นสิ บอลนำแล้ว”

“10 นาทีสุดท้าย รู้จักเล่นนะ”

คือเสียงตะโกนของอนุรักษ์ช่วงครึ่งแรกที่ทีมยังนำอยู่ และ

“เล่นใหม่ ๆ อย่าท้อ อย่าหงอย” คือการกระตุ้นเมื่อทีมถูกตีเสมอช่วงท้ายเกม

“ไม่ได้เปรียบเทียบนะ แต่ทีมงานชุดนี้ พี่มองว่ามืออาชีพมาก” ผู้ช่วยผู้จัดการทีมชมพู-ฟ้าคอมเมนท์ “จุดเล็ก ๆ ที่เห็นได้คือจะสั่งอะไร ทุกคนดูซัพพอร์ทกัน ไม่ใช่ไปคนละทาง”

คำนี้ทำให้ผมคิดถึงเสียงบ่นกระปอดกระแปดของกิตติภูมิ ปาภูงา (อดีต) นักเตะจุฬา ยูไนเต็ดหลังแพ้บีอีซี เทโรฯคาบ้านเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

“โค้ชแก้เกมแล้วทำให้นักเตะงงนิดนึง คนแรกบอกให้ผมเข้าไปเล่นหน้าต่ำ อีกคนไม่รู้ว่าผมต้องเล่นหน้าต่ำแล้ว คิดว่าผมยังเล่นด้านข้างเหมือนเดิมเลยแก้เกมไปอีกแบบนึง ก็ไม่รู้ว่ายังไงเลยงง จากนั้นก็ถูกเปลี่ยนออกมานี่แหละ”

กองเชียร์สวนกุหลาบฯเข้ามาเชียร์พอสมควร คุณพ่อของอุกฤษณ์ ผู้รักษาประตูดาวรุ่งทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ก็มาเชียร์ด้วย (เสื้อขาว ใกล้กล้องที่สุด)

ผลงาน 5 นัดในครึ่งฤดูกาลแรกของสวนกุหลาบฯนั้น ชนะมา 4 เสมอ 1 ส่วนชงโคสีม่วง นอกจากแพ้ทีมชมพู-ฟ้ามาในนัดเปิดสนามแล้ว ก็ไม่แพ้ใครอีก คะแนนจึงตามมาติด ๆ เป็นที่ 2

นัดนี้สวนกุหลาบฯเป็นเจ้าบ้านโดยใช้สนามฟุตบอลของการประปานครหลวง ย่านประชาชื่นเป็นสนามเหย้า สต๊าฟโค้ชจากบุรีรัมย์-กฟภ. เอ้ย! จากสะพานพุทธจัด 11 ตัวแรกโดยมีอุกฤษณ์ วงศ์มีมา ผู้รักษาประตูมือสองทีมชาติไทยชุดซีเกมส์เฝ้าเสา

มีชิติพัทธ์ แทนกลาง ปราการหลังตัวแกร่งสวมปลอกแขนกัปตันทีมบัญชาเกมรับคู่กับสิทธิศักดิ์ การุญญเวทย์ ขนาบข้างด้วยศราวุฒิ ผายกลางทางฝั่งขวาและภาสกร กามนต์ทางด้านซ้าย

มิดฟิลด์มีวิชญ์พล ชนะชลคุมกลางคู่กับเจริญพงศ์ ลองจำนง ใช้วัชระ หวังชื่นกลางลุยด้านขวา อาทิตย์ งอนภูเขียวกระชากด้านซ้าย

มีเจ้าอาร์ท อรรถพล กันหนู ชูโรงในแดนหน้าพร้อมกับคู่หูอย่างธีระพงษ์ ไชยหงษา

ฝั่งทีมเยือนนั้นคุมทีมโดยอดีตปราการหลังของทีมช่วงปี 2534 อย่างจักราช โทนหงษา มีรักพงษ์ แก้วแท้ อดีตดาวเตะร่างยักษ์เป็นผู้ช่วย ทั้งคู่จัดไพโรจน์ เอี่ยมมากเป็นผู้รักษาประตูอยู่ข้างหลังฐาณรงค์ ทุเรียน, กีรติกร นิลมาศ, ประเสริฐศักดิ์ คงประเสริฐและเทพรักษ์ กิจบรรจง

แดนกลางไล่จากขวามาซ้ายมีวุฒิพงศ์ แป้นชุม, ธีระพงษ์ ตีหามแห, ธงไท สมณาและเกียรติศักดิ์ ศรีคำ

คู่หน้าใช้อดิศักดิ์ ไกรษร กัปตันทีมกับอรรถกร ทองนำเที่ยง

นักเตะทั้งสองทีมเดินเรียงแถวพร้อมลงทำศึก

อีกไม่กี่นาที คู่รักคู่แค้นจากจตุรมิตรก็จะระเบิดศึกแล้ว

ขุนพลชมพู-ฟ้ารวบรวมกำลังใจก่อนทำศึก

ฝั่งชงโคสีม่วงก็รวมใจ

เกมช่วง 10 นาทีแรกกลายเป็นมหกรรมลูกตั้งเตะ ทั้ง 2 ทีมซัดกันนัวเนียถึง 3 ประตูจากลูกนิ่งทั้งสิ้น

จุดเริ่มต้นนั้นเกิดในนาทีที่ 7 เมื่อนักเตะชมพู-ฟ้าได้ลูกฟรีคิกเยื้องมาทางด้านซ้าย

“โกล์กับเซ็นเตอร์ให้เสียงกันหน่อยนะ จำได้ไหมที่โดนไปตอนจตุรมิตรและเลกแรกน่ะ” OSK ท่านนึงตะโกนแซวนักเตะทีมเยือน

ยังไม่ทันขาดคำ วิชญ์พลก็เปิดเข้าไป แผงหลังทีมเยือนเคลียร์กันไม่ขาด บอลหลุดมาถึงธีระพงษ์ที่จัดการแปยัดเสาแรก สวนฯนำ 1-0 แล้ว

นาทีถัดมา เจ้าบ้านได้ฟรีคิกอีกครั้ง คราวนี้ได้บริเวณกลางสนาม

“ระวังนะ เดี๋ยวโดนอีก” เสียงแซวจากคนเดิมดังขึ้น แล้วก็ช่างเหมือนเดจาวูจริง ๆ คราวนี้เป็นเจริญพงศ์ที่เปิดเข้าไปในเขตโทษให้สิทธิศักดิ์โหม่งเข้าไป 2-0 ซะแล้ว

แต่เกมกลับไม่ง่ายอย่างที่เด็กสวนฯคิด นาทีที่ 10 อดิศักดิ์ของคริสเตียนก็โหม่งลูกฟรีคิกเข้าไปตุงตาข่ายชนิดอุกฤษณ์ทำอะไรไม่ถูกเลย บีซีซีไล่มาแล้ว

เกมค่อนข้างสูสีแต่บางครั้งไม่ปะติดปะต่อมากนักเพราะช่วงเช้ามีฝนตกลงมา ทำให้สนามมีน้ำขังเป็นจุด ๆ อย่างไรก็ตามทีมเยือนดูมีโอกาสยิงมากกว่านิด ๆ เพียงแต่ไม่ถึงกับเป็นจังหวะเสียวอะไรมากมาย

อดิศักดิ์ศูนย์หน้ากัปตันทีมของชงโคสีม่วงเล่นได้ดีทีเดียว รูปร่างดี เทคนิคเยี่ยม ลุยหนีแผงหลังเด็กสวนฯได้สวย ๆ รวมทั้งยังบังบอลและแปะให้เพื่อนเล่นต่อได้ด้วย แต่จนแล้วจนรอด 35 นาทีที่เหลือก็ไม่มีประตูอีก

อรรถพล ศูนย์หน้าตัวเก่งของสวนกุหลาบฯเข้าบล็อกธีระพงษ์

กีรติกรพยายามหยุดยั้งการโจมตีทางอากาศของนักเตะเจ้าบ้าน

เด็กสวนฯเฮฮาหลังยิงขึ้นนำ

นักเตะบีซีซีพยายามบอมบ์เพื่อตีเสมอ

อดิศักดิ์ ศูนย์หน้าตัวเก่งม่วง-ทองโชว์ทักษะเหนือชั้น

ครึ่งหลังนักเตะเจ้าบ้านดูจะเน้นผลการแข่งขันแล้ว แพ็กหลังแน่น ๆ อาศัยเจ้าอาร์ท อรรถพลคอยเก็บบอลในแดนหน้า ซึ่งก็ทำได้ดีบ้าง ไปไม่เป็นบ้างตามแต่จังหวะ ในขณะที่ทีมเยือนลุยแหลกเพื่อตีเสมอให้ได้

จักราชเริ่มแก้เกมด้วยการส่งพลไชย หงษ์ทองลงมาเลื้อยแทนวุฒิพงศ์ทำให้เกมดูปรู๊ดปร๊าดขึ้น

จังหวะสวยงามที่สุดของสวนกุหลาบมาจากนักเตะหมายเลข 8 วิชญ์พลที่วันนี้โชว์สเต็ปสวย ๆ ให้เห็นหลายครั้ง คราวนี้หลอกแผงหลังคริสเตียนซะหลงทาง ก่อนจะหลุดเข้าไปยิงมุมแคบที่เสาแรกแต่เข้าหน้าต่าง

เกมเหมือนไม่มีอะไรแต่ก็ได้ผู้ตัดสินเป็นผงชูรสชั้นดี เป่าผิดเป่าถูกจนนักเตะเริ่มมีอารมณ์ใส่กัน

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ข้างสนามก็เหมือนจะเดือด ๆ เหมือนกัน เมื่อนักเตะเจ้าบ้านบาดเจ็บและนอนอยู่อีกฝั่งนึง แล้วมีนักเตะทีมเยือนเข้ามาเจ๊าะแจ๊ะด้วย

“ไปบอกคนนั้นหน่อยว่ามายุ่งอะไรด้วยล่ะ” โค้ชดู๊ด อดุลย์ตะโกนบอกนักเตะ ทำเอาจักราชถึงกับบ่น

“อ้าว พี่ดู๊ด ไหงงี้ล่ะ”

เกมน่าจะจบลงด้วยชัยชนะของสวนกุหลาบฯอยู่แล้ว แต่ 3 นาทีสุดท้ายแผงหลังเจ้าบ้านก็พลาดปล่อยให้พลไชยหลุดเข้าไปดวลเดี่ยว ๆ กับอุกฤษณ์ แม้เขาจะยิงชนคาน แต่อรรถกรก็ตามเข้าซ้ำเก็บ 1 แต้มกลับบ้านได้สำเร็จ

หลังสิ้นเสียงนกหวีดสุดท้ายของผู้ตัดสินแล้วมีเหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้นนิดหน่อยเมื่อนักเตะหมายเลข 11 ของทั้งสองทีมกระทบกระทั่งกัน จนลามไปถึงเพื่อน ๆ ที่ทั้งช่วยแยก ทั้งช่วยเสริม ก่อนที่ผู้ตัดสินจะห้ามทัพได้ พร้อมกับแจกใบเหลืองให้คนจุดชนวนทั้งคู่

พลไชยลงมาช่วยแก้เกมให้ทีมเยือน

ครึ่งหลังอุกฤษณ์ต้องทำงานอย่างหนัก

ลูกนี้ผวารับลูกฟรีคิกของฝั่งคริสเตียน

ในที่สุดนักเตะม่วง-ทองก็ตีเสมอสำเร็จ

ท้ายเกม เจ้าบ้านก็พยายามบุกเพื่อยิงประตูชัย

สภาพสนามแบบนี้ทำเอานักเตะทั้ง 2 ทีมล้มลุกคลุกคลาน

อดิศักดิ์ของทีมเยือนพาธวัชชัย นักเตะสำรองเจ้าบ้านลุยน้ำ

“แม้ว่าจะไม่ชนะ แต่ก็ต้องถือว่าไม่เสียหาย เนื่องจากเรายังนำอยู่พอสมควร แต่ทุกนัดที่เหลือก็ยังต้องเน้น" อดุลย์ รุ่งเรืองให้ความเห็น

ส่วนอดีตปราการหลังทีมชาติไทยของคริสเตียนบอกว่า “ยอมรับว่ากดดันเนื่องจากเป็นเกมเยือน และเกมนี้ทั้งสองทีมสู้กันในเกมจริง ๆ ส่วนอีกสองนัดที่เหลือก็คงต้องทำให้ดีที่สุด"

การได้มายลฟอร์มนักเตะสวนกุหลาบฯกับตาในวันนี้ แม้จะยังไม่ถึงกับเพอร์เฟคท์ แต่ก็น่าพอใจมากกว่าฟอร์มตอนจตุรมิตรเยอะ ถึงกระนั้นผมก็ไม่ได้คาดหวังว่าน้อง ๆ จะต้องไปถึงแชมป์หรอกครับ ขอได้ลุ้นมัน ๆ แบบนี้ สู้ให้เต็มที่แบบนี้ไปทุกนัดก็พอ อย่าลืมนะว่าเป้าหมายก่อนเปิดทัวร์นาเมนท์ของนักเตะชมพู-ฟ้านั้นไม่ได้สูงส่งอะไรเลย

“พี่เน (หมายถึงคุณเนวิน) บอกว่าจะพาเด็ก ๆ ไปฮ่องกงถ้าไม่ตกชั้น นี่ก็มาไกลเกินคาดหมายแล้ว” พี่จุ่น ผู้ช่วยผู้จัดการทีมชมพู-ฟ้าปิดท้ายการสนทนาด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข

Create Date : 06 มกราคม 2553
Last Update : 6 มกราคม 2553 15:20:34 น.		4 comments
Counter : 1518 Pageviews.
Share Tweet