Webblog : Futbol Review ท่องไปในดินแดนมหัศจรรย์ที่เรียกว่า...ฟุตบอล
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
2 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
สวนกุหลาบฯสอนให้โกง!

1 ก.พ.53 สนามฟุตบอลการประปานครหลวง
สวนกุหลาบฯ 2-2 อัสสัมชัญศรีราชา


ฟุตบอลอะไรเอ่ยมีโค้ชมากที่สุด?

ไม่ต้องเสียเวลาคิดครับ...ฟุตบอลนักเรียนนั่นเอง

ที่ข้างสนาม ส่วนใหญ่โรงเรียนต่าง ๆ มีโค้ชมากกว่า 1 คนอยู่แล้ว...ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก

แต่ที่บอกว่าเยอะคือโค้ชบน “อัฒจันทร์” ต่างหาก โรงเรียนสวนกุหลาบฯก็เป็นโรงเรียนที่มีโค้ช “พิเศษ” แบบนี้เยอะไม่น้อย

“อาร์ทออกบอลเร็วสิ”

“ปืนวิ่งฉีกหน่อย”

“แบงค์ติดเบอร์ 20 เค้าไว้นะ”

คือเสียงที่ได้ยินจากกองเชียร์เลือดชมพู-ฟ้า

แต่คำสอนเด็ดที่สุดต้องยกให้เสียงแหลม ๆ ของ “โค้ชกล้า” คุณกล้า วงศ์มีมา ป๊ะป๋าของผู้รักษาประตูเรือนล้าน

“เล่นบอลน่ะมีตูด มีเอวหน่อย”

การสอนของกองเชียร์นี้ไม่ได้สอนแค่นักบอล บางครั้งเลยเถิดไปสอนผู้ตัดสินด้วย

“ตัวสุดท้ายฟาลว์แบบนี้ต้องใบแดงแล้ว”

“ล้ำหน้ายังไง’จารย์?”

“ประตูออกบอลช้าเกิน 6 วิ ไม่ฟาลว์หรอ 2-3 ครั้งแล้วนะ”

“ปรี๊ด!”

อย่างนี้เค้าเรียกว่าสอนจนได้ผลครับ เมื่อท้าวมาลีวราชในสนามตัดสินใจเป่าลมผ่านนกหวีดแจกลูกโทษ 2 จังหวะในเขตโทษให้กับสวนกุหลาบฯ กองเชียร์เจ้าบ้านน่ะเฮ ^O^ แต่กองเชียร์ส่วนน้อยผู้มาเยือนสิฮึ่ม -*-

“มีอย่างนี้ด้วยหรอ เป่าฟาลว์อะไรอ่ะ?” กองเชียร์ผู้หญิงงงงวย

“สวนฯเค้าต้องชนะ เพราะนัด 2 ไปเล่นบ้านเราจะโดนถล่ม” กองเชียร์ผู้ชายหล่นความเห็น

“โกล์ ไม่ต้องไปรับ ลูก เค้าอยากชนะก็ปล่อยให้เข้าไปเลย” เสียงจากฝ่ายหญิงคนเดิม

เสียงไม่พอใจนั้นจบลงด้วยประโยคที่ผมได้ยินแว่ว ๆ มาจากฝ่ายชายว่า

“มีลูกไม่ให้เรียนสวนกุหลาบฯนะ โรงเรียนนี้สอนให้โกง!”

เริ่มเรื่องมางง ๆ แบบนี้หลายคนอาจจะไม่ค่อยเข้าใจ เอาเป็นว่าผมกดปุ่ม I<< Rewind ย้อนกลับไปต้นเรื่องก่อนก็แล้วกัน

วี๊ด ๆ ๆ เอี๊ยด ๆ ๆ ฟี๊ด ๆ ๆ (เสียง Rewind เทป-ถ้าทำเสียงตอนอ่านไปด้วยจะได้อารมณ์มั่ก ๆ)

...




อดุลย์ รุ่งเรืองติวเข้มลูกทีมก่อนลงสนาม

นักเตะชมพู-ฟ้าวอร์มอย่างแข็งขัน

"โค้ชก๊อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณกับ "โค้ชหวาด" สวาท ขอนแก้ว ผู้อยู่เบื้องหลังทีมงานโค้ช


“พี่พรุ่งนี้ว่างป่าว? ไปประชุมแทนผมหน่อย”

ระหว่างที่ผมกำลังลุ้นเดวิด เบ็คแฮมและผองเพื่อนอา.ชี.มิลานหาทางยิงประตูชัยเหนือลิวอร์โน รวมทั้งรอดูบิ๊กแม็ทช์ อาร์เซนอลปะทะแมนฯยูฯอยู่นั้น โค-โปรดิวเซอร์ของผมก็โทรมาไหว้วาน

อ้าว! ผม Rewind เยอะไปหรอ? ^^! งั้นกดปุ่ม I>> Fast ไปข้างหน้าเลยก็แล้วกันนะ

หลังจากประชุมเสร็จประมาณบ่ายโมง ผมก็ออกเดินทางไปสำนักงานใหญ่การประปานครหลวงเพื่อชมการแข่งขันฟุตบอลนักเรียนรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ประเภท ก แชมเปี้ยนส์ลีกของสำนักพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ รอบรองชนะเลิศระหว่างสวนกุหลาบฯ ในฐานะเจ้าบ้านกับอัสสัมชัญ ศรีราชา

ทีมแรกน่ะเข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่ม B ทีมหลังเป็นรองแชมป์กลุ่ม A แต่เพียบไปด้วยขุนพลดังที่มีส่วนในการคว้าแชมป์กีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งประเทศไทยที่จ.สุรินทร์มาหมาด ๆ เช่น อนุวัฒน์ นาคเกษม, อดิศร สัพโส 2 คนนี้เป็นนักเตะทีมเยาวชนไทยชุด U-19 ด้วย แล้วก็ยังมี “หนูรูน” นูรูล ศรียานเก็บที่ผมได้ยินมาว่าฝีเท้าจี๊ดจ๊าดมาก

ผมขึ้นรถเมล์สาย 64 เพื่อไปต่อสาย 66 ที่ศรีย่าน ในมือกำแบงค์ร้อยกะไว้เป็นค่าโดยสาร แต่กระเป๋ารถเมล์กลับมองเมินเดินผ่านผมไปซะงั้น

ด้วยความอยากงีบ (-.-)Zzz... (เพราะเมื่อคืนดูบอลดึกไปหน่อย) ผมก็เลยเก็บตังค์ลงกระเป๋ากางเกงเพราะกลัวหล่นระหว่างหลับน่ะ...ไม่ได้มีเจตนาเบี้ยวค่าโดยสารจริง ๆ




กัปตันแบงค์เดินนำลูกทีมไปรายงานตัวกับกรรมการ

ส่วนอัสสัมฯศรีฯนำโดยอนุวัฒน์ นาคเกษม (10) ดาวเตะ U-19 ทีมชาติไทย


ทีแรกนึกว่าจะได้เห็นผู้รักษาประตูสำรองของสวนกุหลาบฯทำหน้าที่ในวันนี้ซะแล้ว แต่ผิดคาด...อุกฤษณ์ วงศ์มีมากลับพร้อมสำหรับเกมวันนี้ ได้ยินเพื่อน ๆ แซวกันว่าเพิ่งลงเครื่องกลับมาจากเวียดนามมาหมาด ๆ แล้วก็บึ่งมาที่สนามแข่งเลย

แผงหลัง 4 คนมี “เจ้าแบงค์” ชิติพัทธ์ แทนกลาง กัปตันทีมคุมเกมรับเคียงคู่กับสิทธิศักดิ์ การุญญเวทย์ ส่วนด้านข้างมีศราวุฒิ ผายกลางรับผิดชอบด้านขวา ภาสกร กามนต์ดูแลด้านซ้าย

แดนกลางไม่มี “เจ้าเต้ย” วิชญ์พล ชนะชลเล่น “ตำแหน่งรอย คีน” เหมือนเคย ๆ แต่กลับใช้ธวัชชัย วงศ์ษายางทำหน้าที่แทน โดยมีเจริญพงศ์ ลองจำนงกับ “เจ้าปืน” วัชระ หวังชื่นกลางเดินเกมรุก ใช้ “เจ้าตั๊ด” ปรัชญา อ่อนสีทากับอาทิตย์ งอนภูเขียวกระชากริมเส้น ห้อยศูนย์หน้าตัวเก่ง “เจ้าอาร์ท” อรรถพล กันหนูไว้คอยจบสกอร์คนเดียว

“เต้ยท้องเสีย ไม่สบาย เลยส่งเจ้าเบิ้มลงไปก่อน แต่เรื่องของเกมนั้น ผมเน้นระบบอยู่แล้ว ไม่ได้เน้นบุคคล ใส่ใครลงตรงไหนก็ต้องเล่นได้ ทุกคนต้องรู้ระบบหมด” โค้ชดู๊ด อดุลย์ รุ่งเรืองให้การในคดีการหายตัวไปของมิดฟิลด์ตัวรับฝีเท้าจัด

ในขณะที่ทีมเยือนนั้นมาในระบบ 4-3-3 มีชนินทร์ แซ่เอียะเป็นผู้รักษาประตู แผงหลังไล่จากขวามาซ้ายมีสุริยา ประวาระณะ, จักรพงษ์ ลิมป์กฤตนุวัฒน์, พุทธินันท์ วรรณศรีและอดิศร สัพโส

แดนกลางมีชนาวิทย์ แสนสนิทกับวสันต์ ฮมแสนรับผิดชอบพื้นที่ ปล่อยให้วานิช ใจแสนเป็นตัวฟรีคอยสอด คอยทะลุขึ้นไปเติมแดนหน้าซึ่งใช้สามพระกาฬอย่างณัฐวุฒิ ศารินทร์ทางขวา “หนูรูน” อยู่ตรงกลางและอนุวัฒน์ กัปตันทีมตัวเก๋าเล่นทางซ้าย

“ไม่มีผลอะไร ก่อนมาเล่นนัดนี้ เราได้พักมา 2 วัน ถ้าจะมีปัญหาก็แค่เราออกมาเยือนเท่านั้น” โค้ชแดง ทรงยศ กลิ่นศรีสุขวิเคราะห์ผลกระทบของการที่ลูกทีม (บางส่วน) เพิ่งผ่านศึกหนักมา

กองเชียร์สวนกุหลาบวันนี้มากันหนาตามากกว่าทุกวัน มีเด็กนักเรียนมาร่วมเชียร์ด้วย หลังจากปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเหล่า OSK มาทุกแม็ทช์

ส่วนกองเชียร์ทีมเยือนนั้นมีนิดนึง มีครอบครัวเล็ก ๆ ครอบครัวนึงเหมือนมา “ปิคนิค” ที่สนามบอลด้วย




เดินลงสนามเพื่อทำศึกลุ้นเข้าชิงฯ

รั้งท้ายด้วยอรรถพลของฝั่งสวนฯและวานิชของฝั่งอัสสัมฯศรีฯ

กัปตันทีมทั้งสองฝั่งกำลังเสี่ยงทายเพื่อเลือกแดน

นักเตะทีมเยือนรวมกำลังใจกันก่อนลงสนาม


แค่ 7 นาทีแรกเท่านั้น เจ้าอาร์ทก็ได้ทักทายทีมเยือนก่อนเลย แต่คนแซ่เอียะปิดมุมได้ดีทำให้ศูนย์หน้าตัวเก่งลูกชมพู-ฟ้ายิงไม่ถนัด

ฉลามชล จูเนียร์มาได้ใบเหลือง 2 ใบซ้อน ๆ ใน 6 นาที โดยเฉพาะสุริยาน่ะ กองเชียร์สวนฯถึงกับกดดันกรรมการ คุณถนอม บริครุฑว่าน่าจะเป็นใบแดงเพราะเป็นจังหวะโปรเฟสชันแนลฟาวล์

บุกอยู่เพลิน ๆ กลับกลายเป็นทีมเยือนที่ขึ้นนำไปก่อน ตัวจี๊ดทางฝั่งขวาอย่างณัฐวุฒิกระชากลุยก่อนจะตบเข้ากลางให้อนุวัฒน์เข้าฮอร์สสบาย ๆ สิบอุกฤษณ์ก็หยุดไม่อยู่

ถัดมาไม่กี่นาทีเหมือนมีใครไปกดปุ่มรีเพลย์ ณัฐวุฒิลุยทางขวาแล้วตบให้อนุวัฒน์เผด็จศึกเหมือนเดิมเปี๊ยบ แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือลูกบอลไม่เข้ากรอบ

หลังเสียประตูเกมของสวนกุหลาบฯดูเนือย ๆ ลงไป จะบุกก็เหมือนไม่กล้า แต่จะรับก็ทำไม่ได้อีก การต่อบอลขาด ๆ เกิน ๆ จน “โค้ชพิเศษ” บนอัฒจันทร์ต้องส่งคำสอนกันระงม

“น่าจะลงไปเล่นเอง” กองเชียร์แม่บ้านฝั่งทีมเยือนแซว

ด้วยเกมที่ดูอืด ๆ สุดท้ายโค้ชดู๊ดก็จำใจเข็น “เจ้าเต้ย” วิชญ์พลลงมาคุมแดนกลางแทน “เจ้าเบิ้ม” ธวัชชัยที่เอาเข้าจริงก็ดันท้องเสียตามเพื่อนไปซะอีก

“หนูรูน” นูรูล ศรียานเก็บที่ผมตั้งใจจับตามองเป็นพิเศษไม่ถึงกับจี๊ดจ๊าดมากตามคำบอกเล่า แต่ก็มีจังหวะยิงกลับหลังทีนึงในนาทีที่ 32 ซึ่งไม่ตรงกรอบ

โอกาสใกล้เคียงที่นักเตะจากสะพานพุทธน่าจะได้ประตูที่สุดเกิดขึ้นในนาทีที่ 38 เมื่ออาทิตย์เปิดจากฝั่งซ้ายให้ “เจ้าปืน” ทะยานขึ้นโขกคนเดียว แต่คนแซ่เอียะกลับปฏิเสธสกอร์ซะงั้น ปัดพ้นคานไปได้

จังหวะโต้กลับหนูรูนเริ่มโชว์พิษสง ลากขึ้นไปก่อนจะตบกลับให้อนุวัฒน์ยิงติดบล็อกแผงหลังชมพู-ฟ้าออกหลัง

เกมเนือย ๆ ในครึ่งแรกจบลงด้วยการนำของฉลามชล จูเนียร์ทีมเยือน 1-0




ธวัชชัยประกบติดคู่แข่ง

ภาสกรดวลลูกโหม่งกับณัฐวุฒิ

คนแซ่เอียะออกมาตัดบอล ในขณะที่เจ้าอาร์ททรุดลงไปกองซะแล้ว

เจ้าตั๊ดพยายามพลิกหนีแบ็กซ้ายดีกรี U-19 ทีมเยาวชนไทย

ลีลาการพักบอลแบบชิว ๆ ของแผงหลังฉลามชล จูเนียร์

อรรถพลดวลลูกโหม่งกับคู่แข่ง

คู่หู "แอสสิท+สกอร์" กอดคอดีใจหลังยิงขึ้นนำ

อนุวัฒน์กดเต็ม ๆ แต่ติดบล็อกแผงหลังชมพู-ฟ้า


พักครึ่ง โฆษกสนามซึ่งเป็น OSK เช่นกันประกาศว่ามีรถบัสปรับอากาศอย่างดีสำหรับการพากองเชียร์สวนกุหลาบฯไปลุ้นเกมเยือนที่สนามสิรินธรในวันศุกร์นี้ด้วย

“รับประกันความสนุกสนานครับ” โฆษกสนามหยอด ก่อนจะแซวกับพี่กบ OSK ที่มาเชียร์ทีมทุกนัดว่าน่าจะมีเบียร์และสาวเชียร์เบียร์ไปด้วย

“ขอสาวเชียร์เบียร์สัก 4 นางก็ดีนะกบนะ” โฆษกสนามว่า

“ผมให้ 5 เลย” OSK เคราดกว่า พลางชูมือให้เห็น 5 นิ้ว ก่อนจะกำและรูด ราวกับว่าลมข้าวเบาพัดผ่านประเทศไทยแล้ว (ลมชนิดนี้มักพัดผ่านประเทศไทยช่วงฤดูร้อน ตั้งแต่ประมาณเดือนมีนาคม)

“แม่นางทั้ง 5 นิ้วไง”

“เอาเป็นว่าใครที่สนใจมาลงชื่อด้วยครับ รถออกเวลา 11 โมงเช้าที่สมาคมศิษย์เก่าสวนกุหลาบฯครับ” โฆษกสนามปิดการสนทนา




กองเชียร์สวนกุหลาบฯมาเชียร์น้อง ๆ อย่างเหนียวแน่น


เปิดฉากครึ่งหลังมาแค่ 2 นาทีเจ้าอาร์ทก็โดนรวบล้มในเขตโทษ ก่อนเขาจะลุกขึ้นมาสังหารเอง ตีเสมอเรียกเสียงวี๊ด...บึ้มจากกองเชียร์ OSK ได้สำเร็จ

ถัดมาอีก 3 นาทีอรรถพลผู้ทำสกอร์ตีเสมอมีโอกาสเข้าฮอร์สแต่ก็ไม่ตรงกรอบ

พอสกอร์กลับมาเสมอ เกมของสวนกุหลาบฯเริ่มดูดีมีสกุลขึ้น พยายามต่อบอลโจมตีทีมเยือนเป็นระยะ ๆ

อัสสัมฯศรีฯเปลี่ยนตัวสำรองชนิดที่ไม่บอกกล่าวกันเลย (คาดว่าเปลี่ยนตอนพักครึ่ง) พอสังเกตดู ผมถึงเห็นว่า โค้ชใหญ่ศรีราชา เอฟ.ซี.ส่งกิตติศักดิ์ แท่นทองลงมาเล่นทางซ้าย แล้วขยับอนุวัฒน์เล่นหน้าต่ำ ถอยวสันต์ลงไปเล่นแบ็กขวาแทนสุริยาที่โดนเปลี่ยนตัวออกไป

เจ้าบ้านเริ่มปรับทัพบ้าง ส่งไกรสร ทรัพย์สินลงไปแทนอาทิตย์ ถัดมาอีก 2 นาที อรรถพลหลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่เงื้อง้าราคาแพงเกินไปจึงถูกจักรพงษ์ล้มตัวสกัดได้ทัน

นาทีที่ 76 ทีมเยือนต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนเมื่อพุทธินันท์มาได้ใบเหลืองที่ 2 จากการสกัดคู่แข่งที่กำลังจะหลุดไป

ทรงยศ กลิ่นศรีสุข อดีตกองบ.ก.หนังสือพิมพ์โลกกีฬาเมื่อสมัยสิบกว่าปีก่อนปรับเกมทันที ส่งณัฐกร ขุนเจริญลงไปแทนตัวสำรองอย่างกิตติศักดิ์เพื่อซ่อมแซมแผงหลังส่วนที่สึกหรอ

นาทีที่ 81 สวนฯได้ลุ้นเมื่อไกรสรเปิดบอลจากฝั่งซ้ายให้อรรถพลได้โหม่งเต็ม ๆ แต่ก็เฉียดเสาไป

อีก 3 นาทีต่อมากลายเป็นทีมเยือนที่เหลือ 10 คนเป็นฝ่ายขึ้นนำ 2-1 ณัฐวุฒิกระชากขึ้นไปทางขวาจากจังหวะโต้กลับก่อนจะตบให้ “ซูเปอร์สตาร์ประจำทีม” อย่างอนุวัฒน์จบสกอร์สำเร็จ

เกมครึ่งหลังนั้นดูคุณถนอม กรรมการที่ผ่านเกมไทยพรีเมียร์ลีกมาแล้วจะเป่าผิด ๆ ถูก ๆ หลายต่อหลายครั้ง ทำเอากองเชียร์เจ้าบ้านเริ่มส่งเสียงทั้งกดดัน ทั้งต่อว่า ทั้งแนะนำ ฯลฯ แล้วแต่สไตล์ของใครก็ของใคร

และสุดท้ายการตัดสินของเขาก็กลายเป็นประเด็นจนได้เมื่อ คุณถแหนม เอ๊ย! ถนอมตัดสินใจให้ลูกโทษ 2 จังหวะในเขตโทษแก่สวนกุหลาบฯ หลังจากที่คนแซ่เอียะออกบอลช้า ทั้ง ๆ ที่จะว่าไปแล้ว จังหวะก่อนหน้านั้นไม่กี่นาที ผู้รักษาประตูของฉลามชล จูเนียร์ดูจะออกบอลช้ากว่าจังหวะที่เขาเป่าซะอีก

“ประตูออกบอลช้าเกิน 6 วิ ไม่ฟาลว์หรอ 2-3 ครั้งแล้วนะ”

ไม่รู้ว่าเพราะได้ยินเสียงนี้ตะโกนบอกจากอัฒจันทร์หรือเปล่า? กรรมการที่ไปสนามไหนในไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว สนามนั้นจะมีวี่แววของขวดบินตลอดจึงตัดสินใจส่งเสียง

“ปรี๊ด!”

กองเชียร์เจ้าบ้านน่ะเฮ ^O^ แต่กองเชียร์ส่วนน้อยผู้มาเยือนสิฮึ่ม -*-

“มีอย่างนี้ด้วยหรอ เป่าฟาลว์อะไรอ่ะ?” กองเชียร์ผู้หญิงงงงวย

“สวนฯเค้าต้องชนะ เพราะนัด 2 ไปเล่นบ้านเราจะโดนถล่ม” กองเชียร์ผู้ชายหล่นความเห็น

“โกล์ ไม่ต้องไปรับ ลูก เค้าอยากชนะก็ปล่อยให้เข้าไปเลย” เสียงจากฝ่ายหญิงคนเดิม

ผมสบตากับกองเชียร์สาวคนนั้น พยายามจะพูดอะไรกับเธอบางอย่าง...ไม่ใช่ขอเบอร์โทร.แน่ ๆ เพราะสิ่งที่อยากบอกเธอนั้นมี 2 อย่าง

1. กรรมการคนนี้ห่วยจริง ๆ นั่นแหละ

2. เกมฟุตบอลมีกฎอยู่ข้อนึงว่าผู้รักษาประตูเก็บบอลไว้ในมือได้ไม่เกิน 6 วินาทีจริง ๆ (แต่ไม่รู้ว่าเขายกเลิกกฎนี้หรือยังนะเพราะหลัง ๆ ไม่ค่อยได้เห็นแล้ว)

ผู้รักษาประตูที่เคยเสียค่าโง่แนว ๆ นี้ ผมจำวอลเตอร์ เซงกา ผู้รักษาประตูทีมชาติอิตาลี...สุดเซ็กซี่ของสาว ๆ ในสมัยก่อนได้แม่นที่สุด (แต่สมัยนี้ที่เซงกากลายเป็นโค้ชไปซะแล้ว เขาเป็นคนที่ทำให้ผมเข้าใจคำว่า “ปล่อยวาง” และ “สังขาร” ได้ชัดเจนที่สุด)

นัดเปิดสนามยูโร’88 ขณะที่อิตาลีนำเจ้าภาพ เยอรมันตะวันตก 1-0 จู่ ๆ ผู้ตัดสินก็เป่าให้ทีมอินทรีเหล็กได้ลูกโทษ 2 จังหวะในเขตโทษทีมอัซซูรี

จำข้อหาได้ไม่แม่น แต่รู้สึกจะเป็นก้าวเท้าเกิน 3 ก้าวในจังหวะออกบอล (มั้ง-ถ้าจำไม่ผิด) และเช่นกัน ไม่แน่ใจว่ากติกานี้เค้ายกเลิกไปหรือยัง?

ผลน่ะหรอ?

อันเดรียส์ เบรห์เม กดลูกที่เพื่อนเขี่ยมาให้ตีเสมอให้ทีมได้สำเร็จ

แล้วที่การประปาล่ะ?

เจ้าอาร์ทก็กดลูกที่เพื่อนเขี่ยมาให้ผ่านมือคนแซ่เอียะเข้าไปได้เหมือนกัน

และนั่นแหละคือที่มาของ

“มีลูกไม่ให้เรียนสวนกุหลาบฯนะ โรงเรียนนี้สอนให้โกง!”

จากปากกองเชียร์ทีมเยือนคนหนึ่ง...

จบเกมจึงเสมอกันไป 2-2 รอลุ้นต่อนัดหน้าที่สนามสิรินธร โดยไม่มีกฎประตูทีมเยือนเข้ามาข้องเกี่ยวแต่อย่างใด




อรรถพลตีเสมอได้สำเร็จ

กองเชียร์เฮฮาสุด ๆ หลังอึดอัดมานาน

แผงหลังสวนฯสกัดกันเต็มที่

เจ้าอาร์ททำไรน่ะ เพื่อพ้องและศัตรูถึงหงายเงิบตั้ง 3 คนเรียงกัน

ช็อตนี้วิชญพลชิงเหลี่ยมชนะ


“จุดเปลี่ยนคือการเป่า 2 ลูกนั้นของกรรมการซึ่งมันเป็น 2 ประตู เป่าได้อย่างไร? เด็ก ๆ น่ะเต็มที่แล้ว แต่ผู้ตัดสินทำหน้าที่ไม่เป็นกลางเลย” ทรงยศให้ความเห็น

“วันนี้โอเคนะ เด็ก ๆ เล่นด้วยหัวจิตหัวใจ แล้วก็กลับมาสู่เกมของตนเองได้อีกครั้งนึง เราเสียประตูวันนี้ง่ายไปนิดนึง ซึ่งผมจะกลับไปปรับปรุงเกมรับ ในขณะที่โอกาสในการทำประตู...เราก็ใช้เปลืองไปนิดนึง สำหรับผมนั้นมีแท็กติกจะไปเล่นเกมในบ้านของเค้าอยู่แล้วแหละ” โค้ชดู๊ดเผยความรู้สึก

เกมนัดหน้าต้องออกไปเป็นทีมเยือนในสนามที่เรียกว่าอัสสัมชัญ ศรีราชาเป็น “เจ้าบ้านจริง ๆ” (ต่างจากที่นี่) คงเป็นเกมที่กดดันสุด ๆ สำหรับเด็ก ๆ ชมพู-ฟ้าแน่นอน แต่โค้ชใหญ่ผิวเข้มไม่เห็นแบบนั้น

“ไม่กดดันนะ ผมซ้อมเด็กมารู้ว่าหัวจิตหัวใจของเด็กชุดนี้ใช้ได้เลย ไม่มีกลัว ผมบอกเด็กเสมอว่ามาถึงรอบนี้เราไม่ต้องกลัวใครแล้ว อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิดเพราะนี่คือเกมฟุตบอล สีสันมันอยู่ตรงนี้”

ระหว่างที่ผมพูดคุยกับอดุลย์ รุ่งเรือง คุณเนวิน ชิดชอบ ผู้จัดการทีมชมพู-ฟ้าก็กำลังจัดการเรื่องการเรียนให้เด็ก ๆ ชุดนี้อยู่ โดยมีพี่จุ่น สมปอง จังทองศิริ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมคอยรับคำสั่ง

“พวกม.6 จบแล้วไปต่อมหาวิทยาลัยที่ราชภัฎบุรีรัมย์ให้หมดเลย แล้วก็เล่นให้บุรีรัมย์ในดิวิชัน 2” ผู้จัดการทีมสวนกุหลาบฯว่า “ทุกคนไม่ต้องห่วง ได้เรียนตามสเต็ปของเด็ก ๆ ทั่วไปแน่นอน”

หลังจากนั้นก็มีการรวมทีม นายหัวชาวบุรีรัมย์ดุแกมหยอกกับเด็ก ๆ ว่า

“ไปศรีราชา เราต้องชนะนะ วันนี้เล่นกันเหมือนเมื่อคืนมีลมข้าวเบาพัดผ่านห้องนอนของทุกคนยังงั้นแหละ (ความจริงคุณเนวินพูดตรงตัวเลยครับ แต่ผมขอเซ็นเซอร์นิดนึง) ดูปวกเปียกไปหมด” แล้วก็เปลี่ยนเรื่องพูด

“ดีนะที่วันนี้เล่นกับอัสสัมฯศรีฯ ทีมนี้น่ะโคตรสปิริตเลย โดนเตะก็ไม่มีเกเร ถ้าเล่นกับโรงเรียนอื่น วันนี้มีมวยไปแล้ว ขอให้เล่นในเกมหน่อย” สายตาปราดมาถึงเจ้าอาร์ท คุณเนวินก็เลยเปลี่ยนเรื่องพูดอีก “ไอ้อาร์ท ดีวันนี้ไม่โดนใบเหลือง...เออ! เอางี้ดีกว่า ต่อไปถ้าเอ็งโดนเหลือง ข้าตัดเงินเดือน 1 พันบาททุกครั้งดีมั้ย?”

แทนที่จะสลด แต่ศูนย์หน้าตัวเก่งกลับย้อนว่า “แล้วถ้าผมไม่ได้ พี่ให้เงินผมเพิ่มป่าว?”

“ถ้าไม่ได้หรอ...ข้ายังจะคิดเลยว่าเลิกสัญญาเอ็งดีไหม?” คนเป็นรุ่นพี่ก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกัน

ผมยืนดูบรรยากาศแห่งพี่น้องเลือดชมพู-ฟ้าซึ่งตอนนี้ไม่ได้มีแค่นักเตะ, สต๊าฟโค้ช, เจ้าหน้าที่ทีม, ผู้จัดการทีมเท่านั้น แต่ยังมี OSK อีกหลายคนแห่กันมารุมล้อมเต็มไปหมด ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคือส่งแรงใจให้รุ่นน้องไปสู่ฝั่งฝันในรายการนี้ให้ได้ พอได้เวลาผมก็เดินกลับออกมาเงียบ ๆ




คุณเนวิน ชิดชอบ ผู้จัดการทีมสวนกุหลาบฯมาให้กำลังใจลูกทีมถึงขอบสนาม

สวนกุหลาบฯจะได้ชิงหรือไม่ ต้องลุ้นกันที่สนามสิรินธร


ผมนั่งรถเมล์ครีม-แดงสาย 24 กลับ พอกระเป๋ารถเมล์เดินมา ผมรีบยื่นเศษเงิน 7 บาทให้อย่างรวดเร็ว...ก็บอกแล้วไม่ได้คิดโกงค่ารถเมล์หรอกน่ะ

รถแล่นผ่านม.ธุรกิจบัณฑิตย์ สาว ๆ นักศึกษากระโปรงสั้นหน้าตาแจ่ม ๆ เดินขึ้นรถมาหลายคน ผมส่ายสายตาดู จากนั้นก็กลับมาอยู่กับตัวเอง...คิดถึงคำพูดนั้น

“มีลูกไม่ให้เรียนสวนกุหลาบฯนะ โรงเรียนนี้สอนให้โกง!”

เวลา 6 ปีในรั้วชมพู-ฟ้า นอกจากความรู้ที่โรงเรียนประสิทธิ์ประสาทให้แล้ว สิ่งที่โรงเรียนแห่งนี้สอน...ผมว่ามันตอบโจทย์ด้วยบรรยากาศข้างสนามหลังแข่งเสร็จไปแล้วแหละ

“กุหลาบเปลี่ยนกระถาง ไม่เคยจางสี” ลูกสวนกุหลาบฯทุกคนล้วนมีสายใยผูกพันกันอย่างเหนียวแน่น มิเปลี่ยนแปลงเสมอ

แม้ผมไม่ได้ลงชื่อ แต่ศุกร์นี้ผมจะไปขึ้นรถที่สมาคมศิษย์เก่าสวนกุหลาบฯแน่นอน อาจจะไม่ค่อยรู้จักใคร...แต่มันจำเป็นด้วยหรอ? ผมว่าในรถวันนั้น “เลือดชมพู-ฟ้า” ในตัวจะทำหน้าที่พูดคุยให้กับผมเอง...เพราะสายใยนี้คือสิ่งที่โรงเรียนสอนมา

ส่วนเรื่องโกงน่ะหรอ?

มันเป็นความสามารถเฉพาะตัวของคนบางคนมากกว่า (แต่ไม่ได้ส่งเสริมนะครับ)

อย่างผม...แม้จะไม่ได้โกงค่ารถเมล์ตอนขากลับ...แต่ก็ยังอุตส่าห์แอบโกงด้วยการ...

ชำเลืองมองขาขาว ๆ ที่นั่งไขว่ห้างของนักศึกษาสาวธุรกิจบัณฑิตย์คนนั้นอยู่เนือง ๆ แฮ่ม! (*^_^*)




Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2553 4:50:51 น. 4 comments
Counter : 3977 Pageviews.

 
บรรยายมายาวมากๆ ครับ แต่ผมชอบบันทัดสุดท้าย อิอิ ^^



โดย: ผมชอบกินข้าวมันไก่ วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:1:48:09 น.  

 
ผอ.สำนักพัฒนากีฬา ถูกกดขี่ ยกเลิกการให้รางวัลดีกว่า ทุกทีมแข่งพบกันหมด ไม่มีถ้วย ไม่มีเงิน แข่งเพื่อน้ำใจดีมั้ย ไม่มีแชมป์


โดย: คนกลาง IP: 113.53.62.0 วันที่: 4 มีนาคม 2553 เวลา:10:44:44 น.  

 
-*-


โดย: No name IP: 125.24.180.132 วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:10:57:29 น.  

 
สรุปเลยนะคับ!! สรุปว่า สวนเปนเเช๊มป์ 18ปี ก ใช่ไหมครับ ???


โดย: เด็กชาย งง IP: 125.24.180.132 วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:11:00:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

baevi
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add baevi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.