โกล์นักเรียน ผู้มีค่าตัว 3 ล้านบาท
17 ม.ค.53 สนามฟุตบอลโรงเรียนสารวิทยา สารวิทยา 1-2 สวนกุหลาบฯ
ข่าวการย้ายทีมที่ฮือฮาที่สุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาของไทยพรีเมียร์ลีกคือการเดินออกจากรั้วธันเดอร์โดมเพื่อไปสู่แดนอีสานใต้ของอุกฤษณ์ วงศ์มีมา
หากไม่ได้ติดตามฟุตบอลแบบจริง ๆ จัง หลาย ๆ คนอาจจะมี ง.งูหลายตัวอยู่เต็มหัว (o_o)
ใครฟะอุกฤษณ์
หากอยากรู้จัก...ผมขอเฉลยว่าเขาคือผู้รักษาประตูมือ 1 ทีมชาติไทยชุด U-19, เป็นผู้รักษาประตูมือ 2 ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ รวมทั้งเป็นผู้รักษาประตูดาวรุ่งที่เมืองทองฯ ยูไนเต็ดประคบประหงมเป็นอย่างดี...แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นฮือฮา
ประเด็นที่ฮือฮานั้นอยู่ที่ค่าตัวมากกว่า สยามกีฬาพาดหัวข่าวว่า
บุรีรัมย์ทุ่ม 3 ล้าน ซิวนายด่านดาวรุ่งกิเลน
และต่อมาก็มีคำสัมภาษณ์ขยายความของ เสี่ยเป้ รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทั่วไปของเมืองทองฯ ยูไนเต็ดว่า
รายละเอียดสัญญา 4 ปีนั้นอยู่ในวงเงิน 3 ล้านตามที่เป็นข่าวจริง แต่จะสูงถึงตัวเลขที่ว่าหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับผลงานและการลงสนามของตัวอุกฤษณ์เอง...
คำว่า วงเงิน ทำให้ผมคิดว่า 3 ล้านนั้นน่าจะรวมทั้งค่าตัว (ซึ่งจะอัพไปสูงมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนนัดที่ลงสนาม) บวกกับเงินเดือนตลอด 4 ปี
สมมติว่าเจ้ากฤษณ์ได้เดือนละ 5 หมื่น ค่าตัวก็จะเหลือแค่ 6 แสนเท่านั้น...ซึ่งก็สมเหตุสมผลดี
หรือถ้าได้ค่าเหนื่อยลดลงเหลือแค่ 4 หมื่น ค่าตัวก็จะเป็นล้านกว่า ๆ บางทีอาจจะแค่เกือบล้านแต่ถ้าได้ลงสนามเยอะก็จะทบไปเป็นล้าน พิจารณาจากมุมนี้...แพงไปนิด แต่ก็พอรับไหว
แต่ถ้า 3 ล้านนั้นเป็นค่าตัวอย่างเดียว...แพงเวอร์!
ก่อนเกมที่สวนกุหลาบฯจะชี้ชะตาการเข้ารอบฟุตบอลนักเรียนรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ประเภท ก แชมเปี้ยนส์ลีกของสำนักพัฒนาการกีฬาและนันทนาการกับโรงเรียนสารวิทยานัดตกค้างที่สนามฟุตบอลโรงเรียนของฝ่ายหลังนั้น ผมเลยสืบเสาะถามผู้คนที่เกี่ยวข้องซะหน่อย
เรื่องบางอย่างมันก็เปิดเผยหมดไม่ได้หรอก พี่จุ่น สมปอง จังทองศิริ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมชมพู-ฟ้าบอกปริศนาธรรมกับผมแค่นั้น
ส่วนคุณกล้า วงศ์มีมา ป๊ะป๋าของผู้รักษาประตูดาวรุ่งซึ่งน่าจะใกล้ชิดกว่าและน่าจะรู้ข้อมูลละเอียดกว่ากลับบอกผมเพียงแค่ว่า
ผมก็รู้เท่าที่ข่าวออกนะ ผมมองว่าของอย่างนี้มันอยู่ที่คนขายเขาไม่อยากขาย แต่คนซื้อเขาอยากซื้อน่ะ... ก่อนจะเสริมต่ออีกนิดนึงว่า ขนาดสุเชาว์ค่าตัวยังแค่ล้านเดียว...
ในขณะที่อดุลย์ รุ่งเรือง เฮดโค้ชสวนกุหลาบฯซึ่งฤดูกาลหน้าจะเป็น 1 ในสต๊าฟโค้ชของบุรีรัมย์-กฟภ.ด้วยนั้นยอมรับว่าค่าตัวเป็นจริงดังข่าว ก่อนจะเอ่ยถึงศิษย์รักว่า
กฤษณ์เป็นผู้รักษาประตูที่อนาคตไกล มีความทะเยอทะยาน มุ่งมั่น ด้วยรูปร่างและความตั้งใจแล้ว ผมมองว่าเด็กคนนี้มีดีเอามาก ๆ
อุกฤษณ์ซ้อมเดี่ยวก่อนเริ่มเกม
นักเตะสวนกุหลาบฯซ้อมสปีดเท้า
นักเตะสารวิทยาวอร์มด้วยความมุ่งมั่น วันนี้พวกเขาต้องการแค่ชัยชนะเท่านั้น
อุกฤษณ์ วงศ์มีมาทำให้ผมคิดถึงผู้รักษาประตูของสวนกุหลาบฯอีกคนนึง แต่ต้องนั่งไทม์แมชชีนย้อนหลังไปไกลหน่อยนะ...เอาสักปี 2533 เป็นไง
เขาคนนั้นคืออาทิตย์ ธนูศร
ปีนั้น อาตี้ เป็นผู้รักษาประตูของทีมชุดโค้กคัพ (15 ปี) แม้จะไม่สามารถพาทีมป้องกันแชมป์รอบคัดเลือกเขตการศึกษากรุงเทพมหานครเอาไว้ได้ โดยตกแค่รอบ 8 ทีมสุดท้ายจากการดวลจุดโทษแพ้โรงเรียนวัดรางบัว (นี่นะ) หลังเสมอกัน 0-0 T_T
ปิดเทอมหน้าร้อนปีนั้น ผู้รักษาประตูวัยรุ่นชาวสระบุรีก้าวกระโดดไปไกลด้วยการรับบทมือ 1 ของโรงเรียนสวนกุหลาบฯชุดลุยฟุตบอลรายการใหญ่ (ในสมัยนั้น) อย่างแกรนด์สปอร์ตคัพ
อาตี้ในวัยยังไม่เต็ม 16 ปีพาทีมชมพู-ฟ้าหลุดเข้าไปพบคู่รักคู่แค้นเทพศิรินทร์ในรอบรองฯ ก่อนจะเอาชนะไปได้ โดยต้องสังเวยด้วยใบแดงของปราการหลังผิวสีตัวแกร่งอย่างดนัย วิสุทธิแพทย์ด้วย
ในรอบชิงฯซึ่งสวนกุหลาบฯต้องดวลกับ กาลาคติกอสแห่งฟุตบอลนักเรียนยุคนั้น กรุงเทพคริสเตียน อ.สุรินทร์ เข็มเงิน โค้ชใหญ่จึงต้องขยับกัปตันทีมรุ่น 16 ปีในปีการศึกษาที่เพิ่งผ่านไปอย่างชาตินันท์ นาคสมบูรณ์จากแบ็กขวาเข้ามาจับคู่กับสุภาพ ดาวเจริญ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟมันสมอง แต่เล่นแอ๊คโคตร ๆ แถมยังติดขี้เกียจนิด ๆ แทน
ทีมชมพู-ฟ้าดวลจุดโทษชนะชงโคสีม่วงคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ (^-^)V แต่เรื่องราวไม่จบแค่นั้น
เพราะหลังจบเกม คาร์ลอส โรแบร์โต คาร์วัลโญซึ่งเพิ่งพาทีมชาติไทยชุดใหญ่ได้อันดับ 4 เอเชียนเกมส์ที่ปักกิ่งเมื่อ 6 เดือนก่อนตัดสินใจแบบเซอร์ไพร้ส์ ๆ เรียกอาทิตย์ ธนูศรและสุภาพ ดาวเจริญมาร่วมซ้อมกับทีมปรี-โอลิมปิกด้วย! (ปีนั้นเป็นปีแรกที่ฟุตบอลโอลิมปิกจำกัดอายุเหลือแค่ 23 ปี)
แต่เพราะเกมการเมืองบางอย่าง -*- สุดท้ายโค้ชคาร์ลอสถูกเด้งไปคุมทีมชาติชุดใหญ่เพียงอย่างเดียว และ 2 นักเตะดาวรุ่งรั้วชมพู-ฟ้าก็ต้องยุติการฝึกซ้อมกับทีม 23 ปีเพียงเท่านั้น
ถ้าความทรงจำของผมไม่เลอะเลือน อาทิตย์ติดทีมนักเรียนไทยหลังจากนั้นไม่กี่ปี...ซึ่งเป็นการติดทีมชาติไทยครั้งเดียวของผู้รักษาประตูจอมหนึบ ในขณะที่ผลงานระดับสโมสรก็ไม่โดดเด่นนัก ทั้ง ๆ ที่ผมมองว่าเขาคือผู้รักษาประตูอนาคตไกลคนนึง
หากเทียบกับอุกฤษณ์ล่ะ?
รูปร่าง...เจ้ากฤษณ์ได้เปรียบเยอะ
ฝีมือ...ผมยังให้คนรุ่น ๆ ผมอย่างอาตี้เหลื่อมกว่านิด ๆ
โอกาส...ไม่ต้องพูดถึง การที่ทีมโรงเรียนสวนกุหลาบฯได้ชื่อว่าเป็นทีมเยาวชนของบุรีรัมย์-กฟภ.แบบนี้ ผมเชื่อว่าถ้าขอได้ อาทิตย์คงอยากจะเกิดช้ากว่านี้สัก 15 ปี!
2 โค้ชและ 2 ผู้ช่วยผู้จัดการทีมให้โอวาทกับขุนพลชมพู-ฟ้าก่อนแข่ง
วันนี้วันหยุดจึงมีกองเชียร์สวนกุหลาบฯมาเชียร์มากกว่าแม็ทช์อื่น ๆ
ผมว่าทั้งคู่ฝีมือพอ ๆ กัน มันอยู่ที่ว่าใครมีความมุ่งมั่นกว่า ใครมีความเป็นมืออาชีพมากกว่ากัน ซึ่งกับกฤษณ์เขามีโอกาสตรงนี้แล้ว โค้ชดู๊ดให้ทัศนะ
ความเห็นของอดุลย์ รุ่งเรืองจะผิดหรือถูกไม่รู้...แต่ที่แน่ ๆ ความพ่ายแพ้ต่อโรงเรียนกีฬาขอนแก่น 2-4 เมื่อวันศุกร์แบบจัดตัวไม่ซีเรียส แถมท้ายเกมยังให้นักเตะล้างใบเหลืองให้หมด (จนสุดท้ายกลายเป็น 2 แดง) คือการตัดสินใจที่ผิดแบบเต็ม ๆ ของเขาซะแล้ว - -"
สืบเนื่องมาจากการพิจารณาโทษโรงเรียนอัสสัมชัญจากกรณีวอล์คเอาท์นั้น สุดท้ายทีมอินทรีแดงถูกปรับตกชั้นโดยอัตโนมัติ ส่วนผลการแข่งขันที่ผ่านมาของทีมนี้ให้ถือเป็นโมฆะทั้งหมด!
นั่นหมายความว่าสวนกุหลาบฯต้องถูกตัด 3 แต้ม ส่วนสารวิทยาไม่โดน (เพราะแพ้อัสสัมชัญจึงไม่เสียหายอะไร) ทีมชมพู-ฟ้าจากที่มี 17 แต้มจึงเหลือแค่ 14 ส่วนทีมเขียว-ขาวนั้นจาก 9 แต้มก็เป็น 9 แต้มเท่าเดิม
ที่สำคัญคือโปรแกรมนัดสุดท้ายที่สวนกุหลาบฯจะพบกับอัสสัมชัญนั้นก็ต้องยกเลิก นัดนี้จึงเป็นนัดสุดท้ายของทีมฟุตบอลจากสะพานพุทธ ในขณะที่สารวิทยายังเหลือโปรแกรมนัดหน้าอีกหนึ่งนัด
ดังนั้นนัดนี้ ถ้าสวนกุหลาบฯแพ้ จากที่มองว่าเข้ารอบรองฯแน่ ๆ ก็กลายเป็นตกรอบได้เหมือนกัน - -"
ผมเพิ่งรู้ด้วยซ้ำไปกับเรื่องของอัสสัมชัญ กลายเป็นว่าเราโดนตัดแต้มที่ได้ในเลกแรก เลยเสียเปรียบเพราะสาระนั้นแพ้อัสสัมฯมา ไม่ต้องเสียอะไร โค้ชดู๊ดสารภาพ เกมกับขอนแก่น ต้องยอมรับว่าพลาดเอง คำนวณผิดไป ไม่ได้คิดถึงกรณีนี้
นัดนี้สวนกุหลาบฯติดโทษแบนถึง 4 ตัว (แหงแหละ ล้างใบเหลืองซะเกลี้ยงแบบนั้น) จึงต้องสลับนักเตะสำรองลงหลายคน โดยวันนี้มาในระบบ 4-5-1 เน้นเกมแดนกลางเป็นพิเศษ
ใช้ผู้รักษาประตูค่าตัว 3 ล้านบาทอย่างอุกฤษณ์ วงศ์มีมาเฝ้าเสา โดยวันนี้รับบทกัปตันทีมแทนเจ้าแบงค์ ชิติพัทธ์ แทนกลางซึ่งโดนแบนด้วย
แผงหลังไล่จากขวาไปซ้ายมีภานุพงศ์ ชุ่มนาเสียว, สิทธิศักดิ์ การุญญเวทย์, ธนชิต แก้วแกมทองและไกรสร ทรัพย์สิน
แดนกลางใช้วิชญ์พล ชนะชลตัดเกม มีเจริญพงศ์ ลองจำนงเคลื่อนเกมคู่กับวัชระ หวังชื่นกลาง ส่วนด้านข้างมีปรัชญา อ่อนสีทาเลื้อยทางด้านขวาและภูเบศ แซมกระโทกกระชากด้านซ้าย ห้อยอรรถพล กันหนู ศูนย์หน้าตัวเก่งยืนค้ำข้างหน้าเพียงคนเดียว
ส่วนเจ้าบ้านนั้นมีอิสรภาพ บุญทินเป็นผู้รักษาประตู แผงหลัง 4 คนไล่จากขวามาซ้ายมีธนาดล ดำพลงาม, ปิยะชนก ดาฤทธิ์, อาทิตย์ ดาวสว่างและธีระวัฒน์ เรืองนาราบ
แดนกลางมี 3 คน คริสต์มาส ศรีแก้วใสเป็นตัวตัดเกม สรรเสริญ นันทะเสน กัปตันทีมและณัฐวุฒิ แก่นท้าวเป็นตัวทำเกม
แดนหน้า 3 คนใช้ศักดิ์นรินทร์ ปิ่นใจกุลเป็นตัวเป้า ขนาบข้างด้วยวุฒิศักดิ์ สินธุแสงทางขวาและรัฐศักดิ์ แดนรักษ์ทางซ้าย
ก่อนลงสนามผู้หลักผู้ใหญ่ของสวนกุหลาบฯปลุกปลอบใจกันสุดฤทธิ์
ขอให้เล่นด้วยความอดทน อย่าได้ใบเหลือง ใบแดงมา อาร์ท (อรรถพล) ตอนนี้เคลียร์แล้วนะ ไม่มีอะไรติดตัว อย่าสะสมมาอีกก็แล้วกัน กฤษณ์ (อุกฤษณ์) ประสบการณ์มากสุด คอยตะโกนสั่งเพื่อน ๆ ด้วย คุณจักรินทร์ ชนันสิริกุล ผู้ช่วยผู้จัดการทีมเน้น
ขอให้ช่วยกันเล่นหน่อยนะ คือโอวาทของพี่จุ่น ผู้ช่วยผู้จัดการทีมอีกคน
นักเตะทั้ง 2 ทีมเดินลงสู่สังเวียนแข้ง
โฉมหน้า 11 นักเตะตัวจริงทั้ง 2 ทีม
อุกฤษณ์และสรรเสริญ กัปตันทีมทั้ง 2 ฝั่งจับมือทักทายกันก่อนเกม
ลูกชมพู-ฟ้าที่ต้องการแค่เสมอก็เข้ารอบเป็นฝ่ายบุกมากกว่าช่วงต้นเกม แต่แค่ 5 นาทีเท่านั้นกลับเป็นเจ้าบ้านที่ขึ้นนำได้สำเร็จเมื่อศักดิ์นรินทร์โหม่งลูกคอร์เนอร์เข้าไป
5 นาทีแรกยังจูนกันไม่ติดเพราะวันนี้เรามีตัวสำรองเยอะ จังหวะนี้ยอมรับว่าเสียสมาธิไปนิดเดียวเอง ผู้รักษาประตูดาวรุ่งสารภาพ
พอได้ประตูนำไปก่อน สารวิทยาจึงเล่นกันอย่างมั่นใจ มีโอกาสนำห่างอีก 2-3 ครั้งแต่ไม่เหลือบ่ากว่าแรงของอุกฤษณ์
ดูไลน์ ๆ, อย่าปล่อยบอลตก ฯลฯ คือเสียงตะโกนกระตุ้นเพื่อน ๆ ตลอดเวลาของคนค่าตัวแพง
นาทีที่ 17 สวนกุหลาบฯได้ลูกจุดโทษแบบส้มหล่นเมื่อบอลกระเด้งกระดอนแล้วไปโดนมือกัปตันทีมเจ้าบ้านในเขตโทษ อรรถพลรับหน้าที่สังหารเข้าประตูไปอย่างเฉียบขาด
แต่อีก 3 นาทีต่อมา ฮีโรผู้ตีเสมอไปเข้าบอลแรงใส่คู่แข่งจนเกือบมีเรื่อง อดุลย์ต้องออกมาตะโกนต่อว่า
อาร์ท เมื่อวานบอกแล้วไงว่าเกมวันนี้ทุกอย่างอยู่ที่เอ็งคนเดียว
นาทีที่ 23 อุกฤษณ์ได้โชว์ซูเปอร์เซฟจากลูกฟรีคิกของสารวิทยา
หลังจากตีเสมอได้ เกมของทีมเยือนเริ่มดีขึ้น ต่อบอลเข้ากดดันผู้เล่นเจ้าบ้านได้หลายต่อหลายครั้ง แต่ต้องรอจนถึงนาทีสุดท้ายถึงได้ประตูขึ้นนำเมื่อเจ้าอาร์ทเปิดบอลจากกราบขวาเข้าไป จังหวะสุดท้ายกลายเป็นเจริญพงศ์ที่วิ่งเข้ามาซัดเข้าประตูไป BOOM SUAN และเพลงสีงามอร่ามหรูดังกระหึ่มขึ้นอีกครั้ง
วินาทีเริ่มเกมการแข่งขัน
ศักดิ์นรินทร์โหม่งพังประตูให้เจ้าบ้านขึ้นนำ
อีกครั้งที่อุกฤษณ์ต้องโชว์ซูเปอร์เซฟ
อาทิตย์เปิดฟรีคิกให้สารวิทยา
เจ้าตั๊ด ปรัชญาแย่งโหม่งกับนักเตะเจ้าบ้าน
สรรเสริญกุมหัวหลังทำพลาดเสียจุดโทษ
อิสรภาพพุ่งคว้าลูกยิงจุดโทษของอรรถพล (ไม่อยู่ในรูป) ไม่ทัน
ระดับนักเตะค่าตัว 3 ล้านบาท แค่นี้สบาย ๆ
นักเตะชมพู-ฟ้าดีใจหลังแซงขึ้นนำสำเร็จ
ช่วงพักครึ่งนั้น ทางสวนกุหลาบฯมีสวาท ขอนแก้วมาช่วยแก้เกมให้ด้วย ส่วนโค้ชดู๊ดนั้นเน้นเจ้าเต้ย วิชญ์พลเป็นพิเศษทั้งการตัดเกมในแดนกลาง รวมถึงการแจกจ่ายบอล
ทุกอย่างอยู่ที่พวกเอ็งแล้ว โค้ชสวาทกระตุ้นลูกทีมก่อนลงสนาม
สวาท ขอนแก้วมาช่วยแก้เกมให้สวนกุหลาบฯในช่วงพักครึ่ง
นักเตะสวนกุหลาบฯรวมพลังเพื่อสู้ต่อใน 45 นาทีสุดท้าย
แค่ 5 นาทีเท่านั้นวุฒิศักดิ์ของเจ้าบ้านหลุดเดี่ยวเข้าไปยิง แต่อุกฤษณ์โชว์สัญชาตญาณชั้นเยี่ยมผวารับไว้ได้อย่างสวยงาม แม้สุดท้ายลูกนี้จะล้ำหน้าไปก่อนแล้วก็ตาม
ครึ่งหลังเกมเริ่มมีการกระทบกระทั่งกันมากขึ้น จนผู้ตัดสินต้องแจกใบเหลืองติด ๆ กันถึง 3 ใบ
หลังจากดูสวนกุหลาบฯเล่นมา 3 นัด ผมยอมรับว่าโดยภาพรวมแล้วเทคนิคของผู้เล่นชมพู-ฟ้านั้นเป็นรองคู่แข่งมาตลอดเลย ไล่ตั้งแต่กรุงเทพคริสเตียน, วัดสุทธิวรารามจนมาถึงสารวิทยาในวันนี้ แต่พวกเขาชดเชยจุดด้อยนั้นด้วยระบบการเล่น โดยเฉพาะวันนี้ที่แต่ละคนดูมุ่งมั่นและทุ่มเทเป็นพิเศษ เป็นนัดที่ผมประทับใจฟอร์มการเล่นของรุ่นน้องมากที่สุดใน 3 นัดที่ได้ดูมา
ช่วงทดเวลาเจ็บที่ทดมา 5 นาที นักเตะสารวิทยาคนนึงลากบอลมาตั้งแต่กลางสนามก่อนจะลองยิงไกลดู อุกฤษณ์ซึ่งเช็คเสาอย่างดีแล้วจึงแค่ผวาไปปิดมุมเท่านั้น ไม่ได้ปัดป้องอะไร ซึ่งดูจากมุมข้างสนามแล้วคล้าย ๆ ลูกบอลเข้าประตูเหมือนกันทำเอาคุณจักรินทร์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมถึงกับแซว
ถ้าลูกนี้ไอ้กฤษณ์พลาดนะ สงสัยโดนยกเลิกสัญญา
สิ้นเสียงนกหวีดของผู้ตัดสินเป็นอันว่าสวนกุหลาบฯชนะไป 2-1 เข้ารอบรองฯในฐานะที่ 1 ของสายได้สำเร็จ ส่วนกรุงเทพคริสเตียนก็ได้อานิสงส์เป็นที่ 2 ในสายไปด้วย โดยไม่ต้องรอดูผลการแข่งขันในนัดสุดท้าย
สารวิทยาบอมบ์เข้าใส่ผู้มาเยือน
อุกฤษณ์ "งานเข้า" ในครึ่งหลัง
อรรถพลพยายามโยกหลอกณัฐวุฒิ
อุกฤษณ์คว้าบอลได้ก่อนถึงหัวคู่แข่ง
นักเตะเขียว-ขาวเศร้าหลังพ่ายแพ้และตกรอบแน่นอนแล้ว
นักเตะสวนกุหลาบฯบูมให้กับกองเชียร์ที่มาให้กำลังใจ
โอเค เกมนี้เราแค่เสมอก็เข้ารอบ ซึ่งเด็กก็สวมหัวใจเข้าสู้จริง ๆ ทุ่มเท ทุกคนเล่นเพื่อศักดิ์ศรี เล่นเพื่อทีม มีความมุ่งมั่นที่จะเล่นเพื่อชนะในเกมวันนี้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเราเป็นรอง ต้องขอบคุณกองเชียร์ที่มาให้กำลังใจด้วย อดุลย์ให้ความเห็น
เยี่ยมครับสำหรับผลการแข่งขันแบบนี้ ดีใจที่เข้ารอบได้แล้ว ทุกคนมุ่งมั่นเต็มที่เพื่อทีม วันนี้เราทำสำเร็จแล้ว อุกฤษณ์ให้ความเห็น โดยก่อนหน้าที่ผมจะไปสัมภาษณ์เขานั้น เพื่อน ๆ แซวกันอย่างสนุกสนาน
สัมภาษณ์คนนี้สิพี่ ค่าตัวตั้ง 3 ล้าน ผมแค่บาทเดียวเค้ายังไม่ซื้อเลย 555
เจ้ากฤษณ์ยอมรับว่าใจจริงแล้วไม่อยากจากลาทีมแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกไป แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเขาจึงต้องจำใจ
ความจริงผมอยากอยู่เมืองทองฯต่อนะเพราะมีความสัมพันธ์ที่ดีในทีมนั้น แต่ได้ลงน้อย มันจึงต้องย้ายออกไป แล้วผมก็ต้องการหาความท้าทายใหม่ ๆ ด้วย ก่อนจะเผยความรู้สึกต่ออีกว่า กดดันมากขึ้นนะเพราะเราต้องแสดงความเป็นมืออาชีพให้มากขึ้น ให้สมกับที่เขาซื้อเราไปด้วย
เงิน 3 ล้านบาทอาจจะเป็นแค่เกมการเมือง, เกมการปั่นค่าตัว, เกมการประชาสัมพันธ์ ฯลฯ ของผู้ใหญ่บางคนหรือเปล่าก็ไม่รู้? แต่สำหรับเด็กหนุ่มชาวพิจิตรที่เริ่มเล่นบอลมาตั้งแต่ชั้นป.1 ในตำแหน่งผู้รักษาประตูรวมทั้งเพื่อน ๆ ในโรงเรียนเดียวกันแล้ว เงิน 3 ล้านบาทนี้เป็นประเด็นที่ใช้แซวกันอย่างสนุกสนานเท่านั้นเอง
พอฤดูกาลแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีกเปิดขึ้นจริง ๆ ความสนุกสนานนั้นคงจะหายไป กลายเป็นความกดดันก้อนเบ่อเริ่มที่ถาโถมเข้ามาทับบ่าทั้งสองข้างของอุกฤษณ์ วงศ์มีมาแทน ซึ่งดูจากสีหน้าของเด็กหนุ่มวัย 18 ปีผู้ยึดสินทวีชัย หทัยรัตนกุล, กวิน ธรรมสัจจานันท์, ปีเตอร์ ชไมเคิล, ปีเตอร์ เชคและอิเกร์ กาสิยาสเป็นขวัญใจแล้ว ผมเชื่อเขาจะผ่านมันไปได้
ผมต้องประสบความสำเร็จกับฟุตบอลและมีชื่อเสียงให้ได้ ผมฝันนะ ฝันว่าจะไปถึงจุดสูงสุดให้ได้ อุกฤษณ์ทิ้งท้ายไว้อย่างนั้น
นั่นเป็นเรื่องของอนาคต แต่เรื่องใกล้ตัวที่เจ้ากฤษณ์คาดหวังมากที่สุดในตอนนี้น่าจะเป็น...
การคว้าแชมป์ 18 ปี ก รายการนี้ให้สวนกุหลาบฯให้ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2535 มากกว่า
Create Date : 18 มกราคม 2553 |
|
8 comments |
Last Update : 18 มกราคม 2553 5:12:42 น. |
Counter : 2986 Pageviews. |
|
|
|
สวนกุหลาบต้องได้แชมป์ 18 ปี ก แน่นอนครับ เพราะ ชุดนี้มีจุดเด่นที่ประตู ไม่ต่างจากชุดแชมป์ปี 35 ที่มีประตูชื่อพี่อาทิตย์ ธนูศร
ผมว่าการซื้ออุกฤษณ์จะมองว่าแพงก็แพง แต่น่าจะเป็นผลทางจิตวิทยาด้วยนะครับ
ปีหน้านักบอลเด็กฝีเท้าดีๆจากภาคอีสานจะมารวมตัวกันที่สวนกุหลาบแน่นอนครับ
เด็กจากอีสาน ถ้าได้เล่นกับทีมอีสาน ยังไงก็น่าจะเข้าทาง พี่เนก็ทำให้ดูแล้วด้วยว่า ถ้าเล่นดี เล่นได้ กับสวนกุหลาบ มีอนาคตไทยลีกรออยู่