Laser Resurfacing
อีกหนึ่งตัวที่อยู่ในคลีนิคที่สามารถจัดการเรื่องสิว ริ้วรอย แผลเป็น หลุมสิวให้ดีขึ้นแต่จำเป็นต้องใช้ความชำนาญของแพทย์ในการทำหรือผู้ที่ได้รับการอบรมการใช้งานเครื่องมาโดยเฉพาะ ข้อมูลเพิ่มเติมก็สอบถามได้ตามคลีนิคที่มีบริการนี้
Laser Resurfacing
การทำเลเซอร์นี้เป็นวิธีการรักษา เพื่อลดริ้วรอยบนใบหน้า ผิวหน้าไม่เรียบ สีผิวไม่สม่ำเสมอ เช่นรอยด่างดำที่เกิดจากสิว
เทคนิคอยู่ที่ลำแสงเลเซอร์กระพริบที่เข้มข้น ส่งไปโดยตรงที่ผิวหนังบริเวณที่มีปัญหา เพื่อขจัดเซลล์ผิวชั้นที่ไม่ต้องการออกไปได้อย่างตรงจุด ชั้นต่อชั้น ผลที่ได้รับคือผิวหน้าจะสว่างขึ้น จุดด่างดำจางลง วิธีการนี้เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากและรู้จักกันในหลาย ๆ ชื่อ รวมทั้งชื่อ เลเซอร์เบรชั่น, เลเซอร์พีล หรือ เลเซอร์วาโพไรเซชั่น
ผู้ที่เหมาะจะเข้ารับการรักษาด้วยเลเซอร์
หากคุณเป็นผู้มีริ้วรอยบาง ๆ หรือรอยตีนกา รอยที่หน้าผาก รอบปาก หรือรอยแผลด่างดำจากการเป็นสิว หรือเป็นผู้หนึ่งที่ได้เข้ารับกรรมวิธีการยกกระชับหน้าแล้วไม่ได้ผล คุณที่เข้าในกลุ่มต่าง ๆ เหล่านี้สามารถเข้ารับการรักษาด้วยเลเซอร์ได้ หากคุณกำลังเป็นสิวอยู่ หรือเป็นคนที่มีผิวคล้ำมาก ไม่ควรเข้ารับการยิงเลเซอร์ และไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการลบรอยแตกลายด้วย
เลเซอร์ทำงานอย่างไร
เลเซอร์ที่นิยมใช้กันมีอยู่ 2 ประเภทคือ คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และ เออเบี่ยม แต่ละชนิดก็จะมีไอน้ำคลออยู่บนผิว กำจัดเซลล์ผิว และลดอัตราเสี่ยงของผู้เข้ารับการรักษา เนื่องจากมีการกำหนดความร้อนที่จะถูกผิวดูดซับเข้าไป
การใช้เลเซอร์ชนิด คาร์บอนไดออกไซด์
วิธีนี้ได้นำมาใช้เป็นเวลานานมาแล้วในการรักษาผิวที่แตกต่างกันไปแต่ละสภาพ รวมถึงรอยตีนกา, รอยแผล, ไฝหรือหูด, ปานที่มีมาแต่กำเนิด, มะเร็งผิวหนัง และอื่น ๆ
เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของการใช้เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ โดยใช้คลื่นแสงสั้นที่จะส่งลำแสงเข้าไปบริเวณพื้นที่ที่ต้องการอย่างแม่นยำ ใช้ความร้อนในระดับต่ำเข้าทำลายโครงสร้างผิวเพื่อลอกชั้นผิวออกบาง ๆ แล้วกระบวนการฟื้นฟูผิวจะเข้าสู่สภาพปกติในเวลาประมาณ 2 สัปดาห์
ผู้เข้ารับการรักษาควรพิจารณาเลือกศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีใบรับรองการเข้ารับการอบรมหลักสูตรการทำเลเซอร์
Erbium Laser
เป็นวิธีการขจัดริ้วรอยบาง ๆ และริ้วรอยไม่ลึกมากบนผิวบริเวณหลังมือ, หน้าอก และลำคอ ข้อดีของการใช้เลเซอร์วิธีนี้คือมีการ burn เนื้อเยื่อผิวน้อยมากถึงน้อยที่สุด และทำปฏิกิริยากับผิวน้อยด้วย เช่นการบวม, ช้ำ, แดง ดังนั้นจะใช้เวลาในการฟื้นฟูผิวน้อยกว่าการใช้คาร์บอนไดออกไซด์ อย่างมากที่สุดก็คือ 1 สัปดาห์ หากคุณเป็นผู้ที่มีผิวคล้ำ วิธีนี้อาจไม่ให้ผลดีเท่าที่ต้องการ เมื่อได้ประมวลผลทางการแพทย์แล้วแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้วินิจฉัยว่าเลเซอร์ชนิดไหนจะเหมาะสมกับคุณ โดยดูจากสภาพผิว และผลที่ต้องการจะได้รับ
ผลที่คาดหวังได้จากการทำเลเซอร์
ริ้วรอยรอบดวงตา รอบปาก หน้าผาก จะได้รับการทำเลเซอร์เป็นส่วน ๆ หรืออาจทำทั้งหน้าเลยก็เป็นได้ ผิวบริเวณที่ได้รับการทำเลเซอร์จะมีอาการชา หากทำเลเซอร์เป็นส่วน ๆ ก็จะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที ถ้าทำทั้งหน้าก็จะใช้เวลาประมาณ 1-1.5-2 ชั่วโมง
หลังการทำเลเซอร์
ผู้เข้ารับการทำเลเซอร์จะต้องทำความสะอาดผิวที่ได้ทำเลเซอร์วันละ 2-5 ครั้งด้วยน้ำเกลือ หรือน้ำส้มสายชูเจือจาง ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวบำรุงและไม่อุดตันผิวทาทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดสะเก็ดแผล ซึ่งแผลจะหายภายใน 10-21 วันโดยทั่วไป ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน เมื่อแผลเริ่มดีขึ้นแล้วควรใช้เมคอัพเพื่อปกปิดเนื้ออ่อนที่เกิดขึ้นใหม่ซึ่งเป็นสีชมพูหรือแดงอ่อน ๆ ใช้เมคอัพเบสสีเขียว จะช่วยปกปิดรอยแดง ๆ ได้ดี และควรใช้เมคอัพที่เป็น ออยล์ฟรีจะเป็นการดีกว่า โดยปกติแล้วรอยแดงจากการทำเลเซอร์จะค่อย ๆ หายไปภายใน 2-3 เดือน แต่อาจต้องใช้เวลาถึง 6 เดือนจึงจะหายสนิท และรอยแดงจะอยู่นานกว่าปกติในคนที่มีผมสีบลอนด์ และผมแดง ในผู้ที่มีผิวคล้ำจะมีความเสี่ยงจากการเกิดรอยดำได้มากกว่า ปัญหานี้จะแก้ได้โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสี หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวขาวก่อนการทำเลเซอร์ และใช้อย่างต่อเนื่องหลังการทำเลเซอร์
การดูแลรักษาผิวหลังการทำเลเซอร์
ปกติแล้วผลที่ได้จากการทำเลเซอร์ก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ส่วนใหญ่แล้วจะรู้สึกเหมือนรับความร้อนจากแสงอาทิตย์อ่อน ๆ อาจมีการบวมเล็กน้อยและผิวแดง และอาจมีอาการคันหรือเจ็บจี๊ด ๆ เล็กน้อยประมาณ 12-72 ชั่วโมงหลังจากทำเลเซอร์ เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 5-7 วันหลังการทำเลเซอร์ จะพบว่าผิวอาจแห้งและลอก ผิวใหม่ก็จะขึ้นมาแทนที่ผิวที่ลอกออกไป จึงจะเห็นได้ว่าผิวจะเป็นสีชมพู และจะค่อย ๆ จางลงทีละน้อยภายใน 1 ปีหลังการทำเลเซอร์ แพทย์จะไม่ทำการเลเซอร์ซ้ำที่เดิมหากว่าผิวยังไม่หายดี
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ครีมกันแดดทุกวันหลังทำเลเซอร์ เพื่อป้องกันผิวที่ขึ้นใหม่ไม่ให้ถูกแสงแดดทำลาย ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่สามารถป้องกันได้ทั้งรังสียูวีเอ และยูวีบี และควรเป็นครีมกันแดดที่ใช้สำหรับผิวหน้าโดยเฉพาะที่มีค่า SPF 15 เป็นอย่างต่ำ
และควรใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ทุกวันหลังการทำเลเซอร์ โดยอาจใช้เป็น Ratin-A หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Glycolic acid ติดต่อกันประมาณ 6 สัปดาห์หลังจากทำเลเซอร์ หรือตามแพทย์สั่ง
ถ้าเห็นว่าบทความนี้ประโยชน์และนำไปใช้ในเวบหรือ blog ส่วนตัวกรุณาทำลิงค์มาที่เราด้วยนะครับ
ที่มา //www.acnethai.com/index.php?option=com_content&view=article&id=121:laser-resurfacing&catid=52&Itemid=8
Create Date : 07 พฤษภาคม 2552 |
Last Update : 16 กรกฎาคม 2552 17:18:18 น. |
|
0 comments
|
Counter : 703 Pageviews. |
|
|
|
|
|