เสียงสุดท้าย
เสียงสุดท้าย 

      โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว(Leukemia,ลิวคีเมีย) ถือเป็นอริที่อยู่คู่กับมนุษย์เรามายาวนานครับ

แม้ว่าในปัจจุบัน จะมีการรักษาที่ก้าวหน้าขึ้นกว่าเดิมมาก โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวนี้ ก็ยังฆ่าชีวิตของผู้คน

มากมายในแต่ละปี โดยเฉพาะชีวิตที่มีแต่ความสดใสของเด็กๆ.....

       ลูคีเมียที่พบในเด็กส่วนใหญ่มักจะเป็นประเภท ALLครับ เป็นมะเร็งเม็ดเลือดแบบลิมโฟบลาสติก

อาการมักรุนแรงและอาจเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว หากได้รับการรักษาช้าไป

   .....ย้อนหลังกลับไปในปี คศ.1860 เด็กหญิงมาเรีย สเปเยอร์ วัย 5ขวบ เธอเป็นลูกสาวของช่างไม้

ในเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งในประเทศเยอรมัน มีนิสัยร่าเริง ขี้เล่น เป็นเด็กมีชีวิตชีวา เย็นวันหนึ่งพ่อของเธอ

ต้องพาไปพบแพทย์ที่คลินิก เนื่องจากมีอาการซึม และมีจ้ำเลือดออกที่ผิวหนังเองโดยไม่รู้สาเหตุ

แพทย์ให้ยารักษาตามอาการจากนั้นให้กลับมาพักต่อที่บ้าน ระหว่างแพทย์ยังไม่สามารถบอกได้ว่า

เธอเป็นอะไรกันแน่ เช้าวันต่อมาเธอเริ่มมีไข้ คอขยับไม่ได้ แพทย์คนนั้นรีบมาดูเธอที่บ้าน

และพูดกับเธอว่า"ไม่กลัวต้องกลัว ฉันจะช่วยเธอเอง" เป็นเสียงสุดท้ายที่เธอได้ยิน

    .....เด็กชายโม ป่วยเป็นโรคลิวคีเมียและอยู่ในช่วงที่กำลังได้รับการให้ยาเคมีบำบัด บ่ายวันหนึ่ง

หลังจากโม วิ่งเล่นอยู่ที่โรงเรียน ยายของโมก็ได้รับโทรศัพท์ให้รีบไปรับโมด่วน เนื่องจากมีอาการซึมลง

หน้าตาซีดจนแทบไม่มีสีเลือด ยายของโมไปถึงโรงพยาบาล ก็คิดว่าอาการของโรคลิวคีเมียของโม คง

กำเริบอีกแล้วแน่ๆ จึงรีบพาหลานไปโรงพยาบาลใกล้บ้านและส่งตัวมารักษาต่อ

เมื่อมาถึงเด็กชายโม เรียกแทบไม่รู้สึกตัว ระดับความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดงอยู่ในเกณฑ์ต่ำมาก

โมมีอาการซีดรุนแรง กำลังหมดสติ กุมารแพทย์คนหนึ่งถูกตามไปตรวจโมที่ห้องฉุกเฉิน เธอตัดสินใจ

ว่าต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เธอกระซิบข้างหูโมเบาๆว่า"สู้ๆนะ เดี๋ยวก็หายแล้วค่ะ"

คงเป็นเสียงสุดท้ายที่โมได้ยิน

                            

    .....คืนนั้นแพทย์ที่มารักษาเด็กหญิงมาเรีย พยายามอย่างไม่ลดละ ตามที่เขาได้สัญญากับมาเรียไว้

เขานำเลือดหนึ่งหยดของมาเรีย ไปส่องดูผ่านกล้องจุลทรรศน์ข้างเตียงของเธอ มีเพียงเทียนไขเล่มเล็กๆ

ที่ให้แสงสว่าง และเขาก็พบเซลล์เม็ดเลือดขาวเป็นล้านๆเซลล์ในเม็ดเลือดของมาเรีย เขาคือ

ผู้ค้นพบโรคลิวคีเมียเป็นเคสแรกในโลก บ่ายวันนั้นมาเรียอาเจียนเป็นเลือดสด อาการโคม่าและเสียชีวิต

    .....เช้าวันต่อมาหลังกุมารแพทย์ที่ดูแลโม ได้ให้เลือดและเกร็ดเลือดปริมาณมาก รวมถึงสารน้ำและ

ยาปฏิชีวนะ  โมอาการดีขึ้น เริ่มรู้สึกตัวมากขึ้นและดิ้นไปมา ช่วงบ่ายเธอจึงตัดสินใจเอาท่อช่วยหายใจออก 

โมกลับมาพูดคุยได้เช่นเดิม คำแรกที่โมพูดกับเธอ คือ " สู้ๆนะ เดี๋ยวก็หายแล้ว"

โมพูดแบบนี้ซ้ำๆอีกหลายครั้ง เธอประหลาดใจและดีใจอย่างมาก

                          เด็กชายโม ในยุคปัจจุบัน โชคดีกว่าเด็กหญิงมาเรียในอดีตมาก

                                    เสียงสุดท้ายพาเด็กชายโมกลับมาได้สำเร็จ

    ในเวลาวิกฤตของชีวิต เรามักต้องการบางสิ่งที่นำทาง และเป็นความหวังให้เราเสมอ ข้อความปลอบใจ

และคำให้กำลังใจแม้ว่าอาจจะไม่ได้ผลในทุกครั้ง แต่มันก็ยังเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามหาศาล เท่าที่เราจะ

ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้

       เราอาจจะบอกไม่ได้ว่าหรอกครับว่า เสียงสุดท้าย ที่เราพูดออกไปนั้น เค้าจะรับรู้ได้หรือไม่

แต่อย่างน้อยเสียงนั้นก็คงดังก้องอยู่ในใจเราเอง และเป็นแรงผลักดันและกำลังใจให้เราทำความดี

ต่อไปเรื่อยๆนะครับ

    ขอบคุณเรื่องเล่าต่อจากกุมารแพทย์คนสนิท และข้อมูลจากหนังสือThe emperor of all maladies

    แด่...เด็กหญิงมาเรีย สเปเยอร์

      




Create Date : 20 กรกฎาคม 2556
Last Update : 20 กรกฎาคม 2556 23:19:59 น.
Counter : 1976 Pageviews.

21 comments
  
โหวตบล็อกงานเขียนให้นะครับคุณหมอ

บล็อกนี้ทำให้ผมนึกถึงพนักงานของผมคนนึง
เธออายุ 19 ปีเองครับในตอนนั้น

วันนึงเธอมาลางานกับผม
บอกว่าที่น้่องเป็นจ้ำๆเหมือนรอยช้ำ

วันนั้นเธอเข้าไปตรวจรักษาโรคที่โรงพยาบาล
แล้วนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ
เพราะอีกไม่กี่วันเธอก็เสียชีวิตด้วยโรคลูคีเมียนี่ล่ะครับ

เธอแทบไม่มีเวลามากพอที่จะร่ำลาหรือคิดทำะไรได้เลยครับ
มันรวดเร็วจริงๆ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 กรกฎาคม 2556 เวลา:22:55:59 น.
  
สวัสดีค่ะคุณหมอ
แวะมาเยี่ยม
บางครั้งเสียงสุดท้ายก็เป็นกำลังใจได้ดีนะคะ
โดย: pantawan วันที่: 20 กรกฎาคม 2556 เวลา:23:20:27 น.
  
สวัสดียามเช้าครับ

ด้วยความยินดีนะครับคุณหมอ
ผมเองก็ไม่ค่อยได้เขียนพู่กันเดียวในช่วงนี้ครับ
พอคุณหมอถามถึง ก็เลยเกิดความรู้สึกว่าอยากวาด

วาดเสร็จเลยตั้งใจจะส่งให้คุณหมอเลยล่ะครับ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 กรกฎาคม 2556 เวลา:6:22:35 น.
  
สวัสดีครับคุณหมอ

เสียงสุดท้ายให้กำลังใจ
อาจสมหวังหรือผิดหวังก็ได้...
ขอบคุณเรื่องเล่าต่อด้วยครับ
โดย: moresaw วันที่: 21 กรกฎาคม 2556 เวลา:7:04:13 น.
  
สวัสดีค่ะคุณหมอ ตามมาอ่านเสียงสุดท้ายที่น่าสงสารมากๆ โรคนี้น่ากลัวมากนะคะ คนไข้ไม่ทันได้เตรียมตัวเลย ที่วิทยาลัย มีนักศึกษาระดับปวส.คนหนึ่ง เธอจะมีผิวที่ดูซีดเซียวกว่าเพื่อนมาก และคล้ำๆ แต่เธอเป็นเด็กเรียน ตอนนี้เธอสำเร็จการศึกษา ระดับปวส.แล้ว แต่เธอก็ยังไปสอบเข้าเรียนต่อคณะบัญชีที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง กิ่งเคยถามเธอเสมอว่าถ้าเวลาป่วยเธอจะมีอาการอย่างไร เธอบอกว่าเธอจะเพลียมากและหายใจไม่ออกต้องรีบไปโรงพยาบาลแพทย์ก็จะเติมเลือดให้ทันที
กรณีนี้กิ่งอยากรู้ว่าเป็นเคสเดียวกับโรคลูคิเมีย ที่คุณหมอเขียนหรือเปล่าคะ ลูกศิษย์คนนี้ขยันเรียนมากค่ะแต่ธอมีอุปสรรคตรงที่เป็นโรคเลือด กิ่งไม่ทราบว่าเมื่อเธอเรียนจบแล้วเธอจะมีชีวิตคู่เหมือนคนอื่นทั่วไปได้หรือเปล่าคะขอความกรุณารบกวนคุณหมอตอบข้อข้องใจให้ทราบสักนิดนะคะ แหะ แหะ กิ่งอยากรู้เพื่อคอยให้กำลังใจเธอค่ะ ขอบคุณคุณหมอล่วงหน้ามาณ ที่นี้ด้วยค่ะ

สำหรับงานเขียนคุฯหมอมีประโบชน์และมีความรู้มากค่ะ เสียงสุดท้ายที่น่าใจหายจริงๆกิ่งโหวตและไลท์ให้เลยค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
หมอหว่อง Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ขอให้คุณหมอพักผ่อนวันหยุดอย่างมีความสุขค่ะ

โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 21 กรกฎาคม 2556 เวลา:13:28:11 น.
  
ขอโทษมีคำผิดค่ะ แหะ แหะ ขอแก้เป็น "สำหรับงานเขียนของคุณหมอมีประโยชน์มากค่ะ"

โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 21 กรกฎาคม 2556 เวลา:13:30:31 น.
  
สวัสดีช่วงบ่ายวันหยุดค่าคุณหมอหว่อง

ตามมาอ่านเสียงสุดท้ายด้วยคนนะค่า

ชอบประโยคเหล่านี้จังเลยค่า.....

"ในเวลาวิกฤตของชีวิต เรามักต้องการบางสิ่งที่นำทาง
และเป็นความหวังให้เราเสมอ ข้อความปลอบใจ
และคำให้กำลังใจแม้ว่าอาจจะไม่ได้ผลในทุกครั้ง
แต่มันก็ยังเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามหาศาล เท่าที่เราจะ
ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้"

กำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญมากจริงๆนะคะ
ยิ่งโดยเฉพาะคนป่วย
กำลังใจดีดีจากคนรอบข้าง คนใกล้ชิด
จะช่วยให้จิตใจของผู้ป่วยเข้มแข็งขึ้นได้ดีทีเดียวเน๊อะ


ขอบคุณที่แวะเข้าไปทักทายกันนะค่า


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ลงสะพาน...เลี้ยวขวา Music Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Art Blog ดู Blog
หมอหว่อง Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: พริ้วไหวไปตามลม วันที่: 21 กรกฎาคม 2556 เวลา:13:53:04 น.
  
กำลังใจตอนเจ็บป่วย มันมีคุณค่ามหาศาลจริงๆค่ะหมอ
อ่านแล้วน้ำตาซึมๆ
โดย: schnuggy วันที่: 21 กรกฎาคม 2556 เวลา:14:04:09 น.
  
สวัสดีค่ะคุณหมอเสียงสุดท้ายที่กระซิบข้างหูอ่านแล้วสะท้านหัวใจมากๆเลยในช่วงเวลาวิกฤตที่กำลังใจกำลังฉุดกระชากกันอย่างรุนแรงในเสียงเบาๆที่คนไข้อาจจะไม่ได้ยินแต่ก็เป็นเสียงปลอบประโลมใจที่ส่งผ่านความรู้สึกให้มีกำลังใจเข้มแข็งอย่างดีทีเดียว..อ่านแล้วสะท้อนในใจจริงๆเลย..อ่านแล้วรู้สึกลึกซึ้งอ่ะ ..แพมกดส่งพลังให้คุณหมอนะค่ะ ..
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
พริ้วไหวไปตามลม About Weblog ดู Blog
หมอหว่อง Literature Blog ดู Blog

ปล..ตอน3ยังไม่ได้เขียนเลยคะคุณหมอ^^เฮะ
เด่วพรุ่งนี้เพื่อนๆเขียนตะพาบกันแพมก็ว่าจะเขียนยุค่ะ

สุขสันต์วันหยุดยาวๆ มีความสุขมากๆนะค่ะ
โดย: mastana วันที่: 21 กรกฎาคม 2556 เวลา:20:59:51 น.
  
แหะๆๆๆ


ลืมไปครับคุณหมอ
วันพรุง่นี้ไปรษณีย์น่าจะปิดครับ
ยังไงจะส่งรูปไปให้แน่นอนครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 กรกฎาคม 2556 เวลา:21:06:27 น.
  
ด้วยความยินดีเลยค่า
ขอบคุณนะค่า ที่รับแอดไว้เป็นเพื่อนพูดคุยทักทายกัน

คืนนี้หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์นะคะ
โดย: พริ้วไหวไปตามลม วันที่: 21 กรกฎาคม 2556 เวลา:21:20:04 น.
  
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นโรคที่น่ากลัวจริงๆค่ะ
ยิ่งเกิดกับเด็กด้วย ยิ่งน่าสงสาร
งัยก็ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วยมะเร็งทุกคน
ที่นับวันจะเป็นกันเยอะมากนะคะ

สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่แวะไปฟังเพลงนะคะ

โดย: mambymam วันที่: 21 กรกฎาคม 2556 เวลา:21:48:30 น.
  
สวัสดียามดึกค่ะคุณหมอ ป่านนี้คงหลับไปแล้ว ขอบคุณมากนะคะที่ตอบข้อข้องใจให้ค่ะ กิ่งไม่ค่อยได้พบลูกศิษย์คนนี้แล้วค่ะเพราะเธอไปเรียนต่อแล้ว แต่พออ่านเรื่องของคุณหมอทำให้นึกถึงเธอค่ะ ก็อยากรู้เกี่ยวกับโรคที่เธอเป็นอยู่ว่าอันตรายแค่ไหน อ่านดูคำตอบแล้วสงสารเธอจังทำไมเธอถึงโชคร้ายแบบนี้นะ กิ่งขอส่งกำลังใจไปถึงผู้ป่วยโรคนี้รวมทั้งคนไข้ของคุณหมอด้วยนะคะ ขอให้มีปาฏิหารย์ให้เขาหายจากโรคนี้ทุกคนด้วยนะคะ

วันนี้ทำขนมและอาหารเตรียมไปวัดพรุ่งนี้ค่ะนั่งปั่นกับแม่สองคนทั้งวัน อิอิ เอาขนมมาฝากคุณหมอด้วยค่ะ เก็บไว้ทานพรุ่งนี้นะคะ ขนมเทียนแก้วเก็บได้หลายวันค่ะ

ขอให้คุณหมอหลับฝันดีนะคะ พรุ่งนี้ว่างๆเชิญคุณหมอไปอ่าน นาฬิกาทราย นะคะ




โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 21 กรกฎาคม 2556 เวลา:22:23:27 น.
  


สวัสดีค่ะคุณหมอ

เสียงสุดท้ายที่อาจจะช่วยให้ดีขึ้น
อ่านเรื่องราวแล้วก็เศร้าสำหรับเด็กที่ไม่สามารถรักษาหาย
แต่ถ้าอยู่แบบทรมานก็เป็นทุกขทั้งคนเจ็บและญาติพี่น้องด้วย
ที่กลาวกันไว้ "ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ" นี่ใช่เลยค่ะ
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 22 กรกฎาคม 2556 เวลา:2:34:22 น.
  
สวัสดียามเช้าครับคุณหมอ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 กรกฎาคม 2556 เวลา:6:21:36 น.
  
ธรรมะสวัสดีครับคุณหมอ
กำลังใจ ทั้งผู้ที่ให้ และผู้ที่ได้รับต่างเป็นสิ่งที่ดีนะครับ
โดย: ลุงกล้วย วันที่: 22 กรกฎาคม 2556 เวลา:7:49:49 น.
  
เรื่องราวดีมากเลยค่ะ สารภาพว่าอ่านรอบแรกแอบมึน ต้องวกขึ้นไปอ่านอีกรอบถึงได้ถึงบางอ้อว่าเป็นเรื่องของเด็กสองคนต่างยุคสมัยกันนี่เอง ^_^

ขอบคุณที่แวะมาคอมเม้นท์ที่บล็อกและกำลังใจนะคะคุณหมอ
โดย: MsRoseQuartz วันที่: 22 กรกฎาคม 2556 เวลา:8:06:12 น.
  
ขอบคุณครับ

เจ้าโรคนี้แถวบ้านผมไครเป็นต้องตายแน่นอนเพราะไม่ยอมให้รักษา
ค่ารักษาโรคนี้เมื่อก่อนแพงมากมีล้านหมดล้านเมื่อหมดเงินแล้วก็ตาย

คนแถวบ้านผมจึงบอกพ่อแม่เขาว่าไม่ต้องรักษาหรอกเสียงเงินเสียทองเปล่าๆ
โดย: เวย์คุง วันที่: 23 กรกฎาคม 2556 เวลา:6:02:26 น.
  
ทั้งหมดเป็นบทสวดของหมิงหมิงก่อนนอนครับคุณหมอ
ผมให้สวดมาตั้งแต่เด็กเลยครับ
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 กรกฎาคม 2556 เวลา:10:55:31 น.
  
สวัสดีวันหยุดค่ะคุณหมอ วันนี้คงได้พักอีก 1 วันนะคะ ขอบคุณมากนะคะที่ไปให้กำลังใจงานเขียนค่ะ

นาฬิกาทรายแล้วแต่มุมมองของแต่ละคนที่จะมองนะคะ โครงการตะพาบที่กำหนดให้เขียนตามโจทย์ก็ท้าทายดีเหมือนกันค่ะตอนแรกคิดไม่ออกหรอกค่ะมึนไปเหมือนกัน พอดีฟังเพลงแล้วก็เริ่มมีความคิดเอามาเขียนเข้ากับบทกลอนค่ะ กิ่งยังมือใหม่หัดขับอยู่มากๆค่ะ ขอบคุณที่ชมค่ะ

อยากชวนคุณหมอมาร่วมงานเขียนโครงการตะพาบด้วยกันจัง หากคุณหมอสนใจเริ่มเขียนตะพาบโครงการหน้าได้เลยนะคะ

ขอให้คุณหมอมีความสุขวันหยุดนะคะ



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 23 กรกฎาคม 2556 เวลา:15:03:00 น.
  
สวัสดียามดึกค่าคุณหมอ
ขอบคุณที่แวะเข้าไปเยี่ยมชมน้ำตกไก่นะค่า
พริ้วไหวยกมาฝากที่นึงด้วยเลยค่า




ปล...ไม่เผ็ดนะคะ พริ้วไหวทานเผ็ดไม่ไหวเช่นกันค่า

ปล2...คำว่า "แซ่บ" ภาษาอีสานคือ "อร่อยมากๆๆ" มิใช่เผ็ดนะค่า
หากภาษาเหนือก็ "ลำแต้ๆๆเจ้า"
โดย: พริ้วไหวไปตามลม วันที่: 23 กรกฎาคม 2556 เวลา:20:15:35 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมอหว่อง
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]



กรกฏาคม 2556

 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
14
15
16
18
19
21
22
24
25
26
27
29
30
31
 
 
20 กรกฏาคม 2556