ตอนที่ 10 : 17 วัน 6 เมือง ที่ยูนาน ประเทศจีน : เที่ยวเมืองคุนหมิงกันเถอะ
ขอคั่นเวลา เสริมข้อมูลนิดนึงคะ ตำหนักทองจินเตี๊ยน ตั้งอยู่บนภูเขา หมิงฟ่งซาน ด้านทิศตะวันออกจองตัวเมืองคุนหมิง สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ หมิง และได้รับการบูรณะโดยอ๋อง หวูซันกุ้ย ผู้ปกครองดินแดนแถบนี้ในสมัยราชวงศ์ชิง ตำหนักสร้างขึ้นด้วยทองเหลืองทั้งหลัง น้ำหนัก กว่า 250 ตัน เป็นสิ่งปลูกสร้างทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดของจีน มีกำแพงและป้อมล้อมรอบตำหนักเสมือนกำแพงที่ล้อมรอบเมือง มีกระบี่เจ็ดดาวน้ำหนัก 12 กิโลกรัม และดาบกายสิทธ์น้ำหนัก 20 กิโลกรัมถูกเก็บรักษาไว้ในศาลา เชื่อว่าทั้งสองเป็นอาวุธประจำกายของ อ๋อง หวูซันกุ้ย ขุนศึกผู้ขายชาติ
มาย้อนดูดาบกัน ใหญ่มาก แล้ว อ๋อง หวูซันกุ้ย จะตัวขนาดไหนกันเนี่ย

ภายในตำหนักทองจัดไว้เป็นที่สักการะบูชา กว่าจะถ่ายรูปนี่ได้ตองรอให้นักท่องเที่ยวสักการะเรียบร้อยก่อน

ประตูก็ทำจากทองเหลืองนะ แอบจับ แอบเคาะด้วยหนักมาก

ระบบล๊อคบ้านเขา


ไม่รู้ว่าท่านขุนศึกหน้าตาแบบนี้รึเปล่า อิอิ

ข้างตำหนักมีต้นแปะก๊วยด้วย เพิ่งเคยเห็น




หลังชมตำหนักเสร็จก็แวะเติมพลังร้านขายอาหารของนอกตำหนักละสะดวกดี ติดใจชามะนาวจากหยวนหยาง ขอซื้อขวดยักษ์ราคา 25 บาทเลยละกัน

นึกไรไม่ออกสั่งหมี่เสี้ยนไว้ก่อน

หมี่เสี้ยนวิญญาณหมู T T กินสองคำทิ้งละมีแต่เส้น

คุณแฟนสั่งตามโต๊ะข้างๆ จานนี่อร่อยสุดยอดเลย เลยไปให้คุณแฟนสั่งมั้งอีกจาน

มันออกมาหน้าตาแบบนี้คะ เง้อ.....อยากร้องไห้ ไม่ได้ดังใจเลย

วิญญาณหมูอีกละ

อิ่มแล้วเราก็นั่งรถกลับไปที่พัก ลองนั่งรถอีกสายปรากฏว่าไปลงที่ถนนอีกด้านของที่พักเลยแวะเดินชมเมืองหน่อย (จริงๆ หลง อิอิ) ในคุนหมิงมีแต่ที่พักประมาณนี้ ไม่เห็นมีบ้านเดียวเลย

เดินชมเมืองไป แวะร้านขนมไป ดีใจเดินมาเจอชานมไข่มุกด้วย

ลีลาพ่อคาขายแห้ว

เดินมาเจอร้านนี้คนเข้าคิวกันเยอะมาก

แอบเข้าไปยืนต่อคิวเนียนๆ กะเขาบ้าง โอ้ว.....วววว ไก่พะโล้ ไก่ต้ม ได้กินเนื้อสัตว์แบบเต็มคำแล้ว


มีข้าวเหนียวด้วย รอดตายแล้วเรา

ทำไมข้าวเหนี่ยวมันหน้าตาแบบนี้อะ เหมือนขนมเลย ลองซื้อไป 1 อัน แกะชิมดูยังมัน.....หวานมาก


ดูชื่อร้านกันชัดๆ หลังจากซื้อกลับไปกินมากมายเสียตายเงินมาก เนื่องจากมันไม่อร่อยแค่พอทานได้ รสชาติมันจืดสนิทเลย คิดถึงไก้ย่างห้าดาว ไก่ต้มน้ำปลาบ้านเราจัง ไก่ย่างรถเข็นยังอร่อยกว่าเลย เอาสิ

ถัดมาอีก 2-3 ร้านจะเป็นร้านขนมปัง ขอแวะเข้าไปสำรวจหน่อย



อันนี้น่ากินอะ น้ำลายไหล แต่กลัวไม่อร่อย

ได้ทาร์ตไข่มาอีกแหละคุณแฟนชอบ


เดินมาเจอร้านป้ายเขียว เห็นของหลาหลายเลยแวะเข้าไปดู

ได้ไอ้นี่มาหนึ่งชิ้น ขนมอะไรก็ไม่รู้ซื้อมาชิมเล่น กินสองคำทิ้งละ จึ๋ย!!

เหมือนสาลี่บ้านเราเลย ไม่ซื้อแล้วเปลืองเงิน

ข้ามถนนมาเจอเต้าหู้น่าทานมาก แต่กลิ่นเหม็นรุนแรงไปสามบ้าน แหวะ

ถึงจะเหม็นแต่มันมีกลิ่นหอมของเต้าหู้อยู่นะ เลยนึกขึ้นได้ว่านี่อาจจะเป็นเต้าหู้เหม็นที่เขานิยมกินกัน เป็นที่ขึ้นชื่อมาก โดยเฉพาะที่เมืองเจี๊ยนสุ่ย

ขอลองละกันคราวหน้าจะได้ไม่ต้องแวะไปชิมที่เมืองเจี๊ยนสุ่ย รสชาติออกเค็มนิด เผ็ดหน่อย กำลังดีเลย ใช้ได้ (แต่กรุณาอย่าดมนาน)

ลูกเชอรรี่จีนรสออกเปรี้ยว หวาน


แถว The Hump มีถนนคนเดินด้วยนะ เห็นฮิตขานกาแฟกันหลายร้านอยู่

เห็ดแห้งก็มี

แป้งทอด

ของที่ระลึกก็เยอะ มีทุกอย่างว่างั้น


เห็นแผนที่ประเทศจีน ที่ The Hump แปะไว้เลยขอเก็บเป็นที่ระลึกหน่อย โห.....นี่เราเที่ยวแค่มณฑลเดียวนะ ยังเหลืออีกหลายเลย ชีวิิตนี้จะเก็บหมดไหมเนี่ย

เอาละมาเตรียมตัวเดินทางไปสนามบินกันก่อนดีกว่าพรุ่งนี่จะเดินทางกลับแผ่นดินเกิดแล้ว คิดถึงจังประเทศไทย

The Hump มีตัวช่วยคะ แปะวิธีเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ไว้รอบฝาผนังเลย

ตอนเช้าเราเดินทางตามโพยข้างฝาของ The Hump (โดยสอบถามเจ้าหน้าที่โรงแรมเพื่อความชัวร์อีกรอบ) และก็ได้ขึ้น shutter Bus ไปสนามบินอย่างปลอดภัย

รวมค่าใช้จ่ายที่แลกเงินไป 50,000 บาท เกินมา 1,135 บาท (ค่า expend คือ ค่าที่พักที่ใช้บัตรเครดิตจ่ายคะ)
ราคานี้ไม่รวม
1. ค่าตั๋วเครื่องบิน 2 คน ประมาณ 7,500 บาท 2. ค่าวีซ่า คนละ 1,100 บาท และค่าเดินทางไปทำวีซ่าประมาณ 160 บาท 3. ค่าโหลดน้ำหนักกระเป๋า 4. ค่าประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ 17 วัน คนละ 700 กว่าๆ 2 คน ประมาณ 1,400 บาท
---------------- จบแล้วคะ ขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมนะคะ ขอบคุณที่ติดตามกันคะ รูปไม่ค่อยสวยนะ เพราะไม่มีเวลาตั้งกล้องถ่ายเลย แบกเป้เที่ยวก็งี้ละ สมบุกสมบัน -------------
Create Date : 15 กันยายน 2557 |
|
0 comments |
Last Update : 23 กันยายน 2557 11:33:39 น. |
Counter : 2163 Pageviews. |
|
 |
|