มกราคม 2559

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
23
24
28
29
30
31
 
 
All Blog
ตอนที่ 2 > 11 วัน เที่ยวคันไซ ประเทศญี่ปุ่น : โถ...กรรมแผนเที่ยวอาราชิยาม่าของฉัน
ในเมื่อเรามาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นหน้าฝน เราก็ทำใจไว้แค่แรกแล้วค่ะ ว่ามันต้องมีฝนตก พายุเข้า และแล้ววันนี้ฝนก็ตกแต่เช้าเลย แงๆ อุตส่าห์จะไปอาราชิยาม่าเสียหน่อย วางแผนไว้แล้วเราก็จะไปค่ะ
 
 

การเดินทางไป Arashiyama จากสถานีเกียวโตให้นั่งรถไฟ JR สายSagano ไปลงที่สถานี Saga Arashiyama //  Togetsukyo Bridge เดินขึ้นเหนือจากสถานี Hankyu Arashiyama ประมาณ 8 นาที (600  เมตร) เดินลงใต้จาก Keifuku Arashiyama ประมาณ 2 นาที พอออกจากสถานีเราสองคนก็เดินกางร่มท่ามกลางสาย ฝนโปรยปรายมาเรื่องๆ จนมาถึงสะพานแห่งนี้

 
 

ป่าไผ่ซากะโนะ /Chikurin Access : ติดกับทิศเหนือของ Tenryu-ji, เป็นทางไปศาลเจ้า Nonomiya และ Okochi Sansou(ทางชัน) หากมาจาก Tenryu-ji ให้ออกทางประตูทิศเหนือได้เลย หากมาจากถนนกลาง Arashiyama มุ่งขึ้นเหนือ ให้มองหาร้านขายขนมและของฝากทางด้านซ้ายมือที่จะนำไปสู่ป่าไผ่ ฝนยังคงตกอยู่บางครั้งก็ปรอยๆ บางครั้งก็แรงเราเลยเดินเข้าไปในป่าไผ่ไม่สุดทางนะค่ะ

 
 
นั่งเล่นเดินเล่นอยู่ที่อาราชิยาม่า 2 ชั่วโมงกว่าๆ ฝนก็ยังไม่หยุดตก เราเลยตกลงกันว่ากลับไปเที่ยวในเมืองเกียวโตต่อดีกว่า แวะพักกินโดนัท อันละ 118 เยน (36 กว่าบาท) 
 
 

เดินไปขึ้นรถเมล์แถวหน้าสถานีเกียวโตเพื่อไปวัดทอง Kinkakuji ค่าเข้า 400 เยน เปิด 9.00-17.00 น. จากสถานีรถเมล์เกียวโต (Kyoto– eki-mae) ให้นั่งรถเมล์สาย 101หรือ205 ลงที่ป้าย KinkakujiMaeหรือ KinkakujiMichiแล้วเดินเข้ามาในถนนเล็กๆ ข้าม 4 แยก จะเจอทางเข้าวัด

 
 
ชีวิตชาวญี่ปุ่นบนรถเมล์
 
 
 
มาถึงแล้วก็ซื้อตั๋วก่อน ฝนก็ยังตกทั้งวัน
 
 
 
วัดทองในวันฝนตกก็ยังงดงาม เห็นแบบนี้ขนาดฝนตกกระหน่ำคนญี่ปุ่นยังกางร่มมาเที่ยวกันแน่นวัดนะค่ะ (มีความพยายามในการเที่ยวกันมาก ขอบอก เห็นอาจารย์พาเด็กมัธยมมาเดินทัศนศึกษาด้วย)
 
 
นี่คือร้านขายของกระจุกกระจิก และข้างบนเป็นร้านอาหารอยู่ตรงแถวๆ ทางเข้าวัดทองค่ะ
 
 
เดินมาอีกบล๊อกก็เจอร้านขายไอศรีม น่าทานมาก (เอิ่ม...กินไอติมตอนฝนตก หนาวก็หนาว เดินก็เมื่อย รองเท้าก็เปียก)
 
 
ไอติม 300 เยน พระเจ้า โปรดอย่าคิดเป็นเงินไทย แล้วคุณจะสนุกเมื่อเที่ยวญี่ปุ่น 555 (เหรอ ก่อนซื้ออะไรนี้ตีค่าเงินในหัวตลอดนะ)
 
 
ตู้กดไอศรีมแบบนี้พบได้ตามสถานีเกียวโต และตามที่อื่นๆ น่ากินทุกรสเลย
 
 
ตู้กดน้ำที่ผ่านที่ไร ต้องขอไปส่องว่ามีน้ำอะไรแปลกๆ บ้าง
 
 
เสร็จจากวัดทองเรากับคุณแฟนตกลงไปเดินเล่นแถวกิออนอีก เพราะไม่รู้จะไปไหน จากในรูปจะเป็น Map ของคุณ Sky box นะค่ะ (ขอบคุณสำหรับแผนที่กิน ที่เที่ยวของคุณ Sky box มากๆ ที่ทำให้ที่เที่ยวต่างๆ ในเกียวโตสำหรับเราเป็นเรื่องง่ายเหมือนปอกกล้วย ไม่มีหลงเลย) เอาละ!! จากแผนที่ของ คุณ Sky box เราไปหาที่กินกันเถอะ ได้ข่าวว่าแถวกิออนมีอาหารอร่อยๆ เยอะเลย
 
 

จากหมายเลขที่ 2 ซอยนี้ตรงหัวมุมจะมีร้านขาย Okonomiyaki ชื่อดังอยู่คือ ร้าน Issen Yoshoku 

 
 
หน้าตาร้านแบบนี้ มีตุ๊กตาแบบนี้ตั้งอยู่แสดงว่าใช่ละ ร้าน  Issen Yoshoku 

 
 
เป็นร้านเก่าแก่ที่ดังและตั้งมา 100 กว่าปีแล้วนะ
 
 
 
โอโคโนมิยากิ (Okonomiyaki) ที่นี้ทำกันสดๆ มีซื้อกลับบ้านด้วยนะ เรามาลองชิมกันเถอะ ไหนๆ ก็ผ่านมาแล้ว แถมหาที่หลบฝนไปในตัว
 
 
 
 
 
มีตุ๊กตาเกือบทึกโต๊ะเลย รู้สึกหลอน
 
 
ร้านนี้พนักงานสื่อสารภาษาอังกฤษได้นะค่ะ เราสั่งแบบธรรมดา ดั้งเดิมมาทานค่ะ (เพราะเดี๋ยวต้องไปทานข้าวหน้าปลาไหลร้านที่เล็งไว้อีก 555) 
 
 
 
ไส้เยอะมากค่ะ หอมด้วย
 
 
จานนี้ 680 เยน (200 กว่าบาท) แอบมองบางโต๊ะก็ทานคู่กับเบียร์นะ แต่เราทานกับน้ำเปล่าที่เขาตั้งบริการฟรีบนโต๊ะ
 
 
เขาให้ไส้เยอะมากค่ะ กินกันไม่หมดเลย รสชาติเข้มข้น ถึงใจ เปรี้ยว เค็ม หวานนิดๆ ไม่ต้องปรุงไรเพิ่ม
 
 
ทานเสร็จเราก็เดินเข้าซอยมาเพื่อมาย่อย และเห็นว่าร้านข้าวยังไม่เปิดเราก็เดินเล่นในร้านสะดวกซื้อแทน เดินไปเจอมาร์กพอกหน้ายี่ห้อไรไม่รู้ ซองสีเหลืองรูปการ์ตูน ที่ชาวเนทบอกว่าใช้ดีมาก (แต่เราก็ไม่ได้ซื้อ เพราะคิดว่าที่อื่นก็มี ปรากฏว่าพอไปเข้าร้านสะดวกซื้อร้านอื่นๆที่ไม่ใช้แถวกิออน มัน...ไม่มีเลยค่ะ อยากร้องไห้ รู้งี้คว้าแต่แรกแล้ว)
 
 
อันนี้ ฮาดะ ลาโบะชุดพกพาน่าใช้มาก หาง่ายอยู่นะ แต่พอเห็นราคาที่ประเทศไทยเอามาขายนี้อยากจะบินกลับไปสอยมาสัก 10 แพ็ค
 
 
ร้าน KANESHO (ร้านข้าวหน้าปลาไหลย่านกิอง Gion แถว Kyoto Gion Post Office) ร้านเปิดช่วงเที่ยงเวลา11:30-14:00 และช่วงเย็นเวลา 17:30-22:00 ปิดวันอาทิตย์ ถ้าร้านเปิดจะมีป้ายผ้ามาแขวนไว้
การเดินทางข้ามถนนหน้าศาลเจ้าซายะกะ เดินต่อถึงทางแยกก็เลี้ยวขวาไปเลยทางเข้าแบบนี้อยู่ตรงข้างไปรษณีย์ หรือเริ่มต้นจาก สถานี Gion Shijo จะใกล้สุด รูปสถานี Gion Shijo ด้านหน้าสถานีจะมีป้ายรถเมล์
ท่านใดมารถเมล์ก็ลงได้ตรงนี้เลย ร้านมีแค่14 ที่นั่ง ร้านนี้สื่อสารภาษาอังกฤษได้น้อยมาก ร้านอยู่ซอยเดียวกันกับ ร้านที่เรากินโอโคโนมิยากิค่ะ แต่เดินเข้ามาอีกประมาณ 500 เมตร ร้านอยู่ในซอกที่ลูกศรที่เขียวชี้
ละจ้า (ควรมารอก่อนเวลาเปิดจะดีมาก เพราะคนเยอะมากนะร้านนี้ )

 
 
 
เราเลยเวลาร้านเปิดมา 5 นาที คนเกือบเต็มร้านแล้ว รับได้อีก 3 ที่นั้ง (โคตรโชคดี)
 
 
มีทำกันอยู่ 2 คน คือตอนเข้าไปนี้ยังอิ่มขนมโอโคโนมิยากิชิ้นเมื่อกี้กันไม่หาย
 
 
 
เขาพิถีพิถันในการทำอาหารมากค่ะ ค่อยๆ ล้าง เตรียมอุปกรณ์ เตรียมวัตถุดิบในการทำอาหาร ก่อนจะมาถามเราว่าจะสั่งอะไร ถามพร้อมกันทุกโต๊ะ แล้วพี่เขาค่อยไปเตรียมอาหาร
 
 
ดูเมนูลุงแกสิ ใครจะอ่านออก โปรแกรมแปลภาษาใน Iphone ยังช่วยไรไม่ได้ 
 
 
ดีนะที่เราหาข้อมูลกันมาก่อน ไม่งั้นก็ไม่รู้จะสั่งอะไร 
 
 
 
เราสั่งหมายเลข 5 ค่ะ ข้าวหน้าปลาไหลแบบพิเศษ หน้าตาแบบนี้ ทำเสร็จใหม่ๆ กลิ่นหอมฟุ้ง น่าทานมาก 
 
 
สมกับที่นั่งรอลุงแกทำในเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง T  T (รอจนหิวละคิดดู รอตั้งแต่ร้านเปิด 17.30 น. กว่าจะได้กินเกือบ 2 ทุ่ม คร๊อก !!) ราคาชุดละ 2,000 เยน อร่อยสมราคาค่ะ (เราว่าอร่อยกว่าร้านป้าแถวอินาริ ศาลหมา
จี๊กจอกอีก คือเรากับคุณแฟนติดใจร้านนี้เลย 
 
 


 
ก่อนกลับที่พักก็หาซื้อแผ่นแปะแก้ปวดขาก่อนนะ เดินมาขาจะหลุด ปวดมาก
 
 
แอบดูราคาคอลลาเจน
 
 
 
ตอนที่ 3  > 11 วัน เที่ยวคันไซ ประเทศญี่ปุ่น : พาเที่ยวเกียวโตต่อที่ศาลเจ้าเฮฮัน // กินอุด้ง ทีวีแชมป์เปี้ยนชื่อดัง // ตะลุยวัดน้ำใส



Create Date : 21 มกราคม 2559
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2566 11:36:41 น.
Counter : 2594 Pageviews.

1 comments
  
อ่านและดู.... ผมว่าน่าตื่นเต้นครับ 555 ขนาดตั๋วยังไม่มี ภาษา
อังกฤษ .. มันยากมากที่จะเข้าใจ

เห็นราคาแล้ว คงคิดหนัก(ผม) ทำเอาเงินเราเล็กมาก ๆ เลย

แต่ก็น่าไปเที่ยวครับ
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 22 มกราคม 2559 เวลา:15:59:45 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]



จับกล้องท่องเที่ยวไปกับการเดินทางของฉัน ด้วยการถ่ายภาพที่ใช้อารมณ์ และหัวใจ มากกว่าเทคนิคและกฏเกณฑ์ /Step by step with my journey.

Page : Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
https://www.facebook.com/EmmyJourney

Blog : https://emilia0412.bloggang.com

** ขอสงวนสิทธิ์ ***
ข้อมูลทั้งหมด อันรวมถึงข้อความและรูปภาพที่ปรากฏอยู่บน https://emilia0412.bloggang.com ห้ามมิให้ผู้ใดเผยแพร่ ลอกเลียน ทำซ้ำ หรือแก้ไข ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับการยินยอมจากเจ้าของบล๊อก